หน้าหลัก / โรแมนติก / ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย / บทที่ 12  ข้าจะเผยความชั่วของนางเอง

แชร์

บทที่ 12  ข้าจะเผยความชั่วของนางเอง

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-07 13:20:45

บทที่ 12  ข้าจะเผยความชั่วของนางเอง

หานเสี่ยว์ลุกขึ้นยืนทอดสายตามองไปด้านนอกหน้าต่างตอบคำถามที่ลู่ฟางได้เอ่ยถาม

“ใช่ ! ข้าเองไม่อยากจะให้นางต้องมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ อีกต่อไป ตลอดเวลาที่นางแต่งเข้ามาข้าเองก็ไม่ได้มีใจให้นางเลย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางรังแกเด็ก ๆ จนกระทั้งตอนที่นางตกน้ำจากการผลักของลู่เอ๋อร์ ข้าก็ได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านมาข้าเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเสียจริงปล่อยให้นางรักแกลูกของตนเองได้” เขาเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวดไม่รู้เรื่องที่ลูก ๆ ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานใจเช่นนี้

“แล้วทำไมท่านพี่ถึงได้ไม่ลงโทษฮูหยินของท่านล่ะเจ้าคะเด็ก ๆ น่าสงสารเสียจริง”ลู่ฟางใบหน้าเศร้าสลดทำท่าทีสงสารเด็ก ๆ แสร้งว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่องทั้ง ๆ ที่นางเองก็รับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่นางไม่อยากจะบอกเหิงเยว์เพราะนางอยากให้เหิงเยว์ได้รับรู้ด้วยตนเอง และหย่าพร้อมไล่หานเสี่ยว์ออกจากเรือนนี้ไปส่ะ หลังจากนั้นนางจะเข้ามาแทนที่เอง

“เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อของนางเป็นขุนนางที่มีอำนาจ แค่นางยอมหย่าให้ข้าก็ดีมากแล้ว ในตอนแรกนางบอกจะหย่าให้แท้ ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปไม่ยอมหย่าเสียอย่างนั้น ข้าเองจึงไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างช่วงนี้ดูเหมือนว่าลู่เอ๋อร์กับเลี่ยงเฟิงเองก็อยากอยู่ใกล้ชิดนางมากกว่าแต่ก่อน” เขาได้บอกกล่าวกับลู่ฟาง นางเองครุ่นคิดได้แต่เคลือบแคลงใจ ในคำพูดของท่านพี่เหิงเยว์หากนางจะหย่าเหตุใดถึงทำดีกับเด็ก ๆ เช่นนั้น

“ท่านพี่อย่าหาว่าข้ายุ่งวุ่นวายกับเรื่องในเรือนของท่านเลยนะเจ้าคะ เมื่อครู่ข้าเข้ามาข้าเห็นเด็ก ๆ อยู่กับฮูหยินของท่านที่ศาลาด้านนอก นางน่าจะแสร้งทำดีจนเด็ก ๆ วางใจ ท่านพี่เหิงเยว์รู้ใช่มั้ยเจ้าคะว่าคนเราไม่น่าจะเปลี่ยนไปราวคนละคนเช่นนั้นได้ ข้าคิดว่านางน่าจะมีแผนอันใดแน่ ๆ ที่ข้าเอ่ยออกมาเพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ” ลู่ฟางทำทีเห็นใจและสงสารเด็ก ๆ

“ข้าไม่อยู่เฉยแน่หากนางคิดจะทำอันใดเด็ก ๆ ส่วนเจ้าวันนี้หมดธุระแล้วก็กลับเถิด ข้าเองก็มีเรื่องที่ต้องทำอีกมากมาย ฝากขอบน้ำใจท่านป้าด้วย”

“ได้เจ้าค่ะ วันหน้าข้าจะมาหาท่านพี่และหลานใหม่ ท่านพี่ดูแลตนเองด้วยนะเจ้าคะ” ลู่ฟางลุกขึ้นมาก้มโค้งลงก่อนจะเดินออกไปอย่างเสียดาย ที่เหิงเยว์ไม่เคยมองนางเป็นอื่นเลย แต่อย่างไรนางเองก็ไม่ย่อท้อ นางจะทำทุกทางให้เหิงเยว์จัดการไล่หานเสี่ยว์ออกจากเรือนของเขาไปส่ะ

“คิดว่าทำดีแล้วท่านพี่จะมองท่านเปลี่ยนไปงั้นหรือ ข้าจะเปิดโปงความชั่วช้าของท่านเอง ”ลู่ฟางเดินออกจากเรือนของเหิงเยว์พร้อมเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา นางจะหาทางให้หานเสี่ยว์ต้องออกไปจากที่นี่

ฝั่งด้านหานเสี่ยว์เมื่อกลับมาห้องก็ให้เข่อซิงเล่าเรื่องของลู่ฟางให้นางฟังทั้งหมด ก็ได้รู้ว่าลู่ฟางนั้นเป็นผู้ใดและนางจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะไม่อยากมีเรื่องราว แค่ได้สนทนากันในวันนี้ก็พอรู้นิสัยของนางว่าไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว

“เฮ้อ ! ข้าจะทำอย่างไรไม่ต้องพบเจอนางดีนะเทพสวรรค์บัลดาลให้ข้าทะลุมิติมาที่นี่ทำไมต้องให้ข้ามาพบเจอเรื่องเช่นนี้ด้วย ” หานเสี่ยว์พึมพำอยู่เพียงลำพังไม่นานนักเวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนค่ำอีกแล้ว

“ท่านแม่เจ้าคะ ข้ามาแล้ววันนี้ข้ามีของมามอบให้แก่ท่านด้วยเจ้าค่ะ ”เสียงเล็กแหลมที่วิ่งเข้ามาหาหานเสี่ยว์ได้ถือของซุกซ้อนอยู่ด้านหลังใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เจ้ามีอันใดให้ข้าหรือ ตื่นเต้นเสียจริงอยากรู้แล้วสิ” หายเสี่ยว์ที่นั่งอยู่เก้าอี้ในห้องของตัวเองก็ทำท่าทางตื่นเต้นอยากรู้ว่าเด็กน้อยนี้มีอันใดมาให้นาง

“ท่านแม่ต้องชอบมาก ๆ แน่ ๆ เจ้าค่ะ " ลู่เอ๋อร์ยื่นผ้าเช็ดหน้ามอบให้แก่หานเสี่ยว์นางรีบรับมาดูก็ต้องตื้นตันหัวใจ

“นี่เจ้าปักชื่อของข้าด้วยตนเองหรือ” หานเสี่ยว์ลูบตัวอักษรที่ปักเป็นชื่อนางก็อดที่จะดีใจไม่ได้แม้ตัวอักษรจะยังไม่สวยงามเพราะลู่เอ๋อร์ยังเด็กแค่นี้นางก็รู้สึกดีมาก ๆ

“เจ้าค่ะ ข้าถามจากท่านพี่ว่าชื่อของท่านแม่เขียนเช่นไรจึงตั้งใจปักผ้าเช็ดหน้ามาให้ท่านแม่ "

“งดงามมาก ๆ อย่างนี้ข้าต้องตอบแทนเสียแล้ว” หานเสี่ยว์ดึงตัวของลู่เอ๋อร์มากอดพร้อมหอมที่แก้มแดงระเรื่อของเด็กหญิงฟอดใหญ่

“คุณหนูเจ้าคะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วเจ้าค่ะ” เข่อซิงได้เข้ามาตามนายหญิงของตนเองไปทานอาหารที่ห้องโถงก็ได้พบภาพที่อบอุ่นหัวใจ อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน นางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นหัวใจ

“เราไปกินอาหารเย็นกันเถอะแล้วเลี่ยงเฟิงล่ะไม่มากับเจ้าด้วยหรือ” หานเสี่ยว์ลุกขึ้นจับมือของลู่เอ๋อร์ก่อนจะถามหาเด็กชายตัวน้อย

“ท่านพี่เลี่ยงเฟิงน่าจะไปรออยู่ที่ห้องโถงแล้วเจ้าค่ะ” หานเสี่ยว์พยักหน้ารับรู้พร้อมเดินไปที่ห้องโถง

เมื่อมาถึงก็พบว่าตอนนี้มิใช่แค่เลี่ยงเฟิงที่นั่งรอนางอยู่แต่มีเหิงเยว์ที่นั่งรอทั้งสองเช่นกัน

“พวกเจ้าจะให้ข้ารอถึงเมื่อไหร่เหตุใดถึงนานมาเหลือเกิน " มาถึงก็ต้องเจอกับคำถามที่น่าชวนปวดหัว นางไม่คิดอยากจะร่วมโต๊ะกับเขาด้วยซ้ำเหตุใดวันนี้เขาต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย

“แล้วทำไมท่านไม่กินก่อนล่ะ ปกติท่านไม่เคยมาร่วมโต๊ะด้วยซ้ำ"

“ท่านพ่อขอรับอย่างไรท่านแม่ก็มาแล้วอีกอย่างท่านพ่อเองก็พึ่งมาถึงเมื่อครู่อย่าต่อว่าท่านแม่เลย" เลี่ยงเฟิงกระตุกแขนเสื้อของท่านพ่อเพราะไม่อยากให้ทั้งสองต้องมาต่อว่ากันด้วยเรื่องเท่านี้ หานเสี่ยว์มองหน้าเหิงเยว์อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามเขาโดยมีลู่เอ๋อร์กับเลี่ยงเฟิงนั่งคั่นระหว่างกลาง

สาวใช้ก็ได้จัดเตรียมมาวางจนเต็มโต๊ะ หานเสี่ยว์ก็รีบกินอาหารให้เสร็จเร็ว ๆ เพราะไม่อยากอยู่ร่วมโต๊ะกับเหิงเยว์เท่าไหร่นัก

“เจ้าดูแลเรือนให้ดีข้าจะไม่อยู่ที่เรือนนี้สองวัน " จู่ ๆ เหิงเยว์ก็ได้พูดขึ้นทำให้ความเงียบบนโต๊ะอาหารได้ดังขึ้น

“ทำไมต้องบอกข้าด้วย ท่านจะไปไหนข้าไม่ได้อยากรู้เสียหน่อย”

“ที่ข้าต้องบอกเพราะหากข้าไม่อยู่ที่เรือนมีเรื่องอันใดเจ้าตัดสินใจเองได้เลย " หานเสี่ยว์พยักหน้าเพื่อรับรู้ ก่อนจะตั้งใจกินอาหารต่อ

“ท่านพ่อให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่ขอรับ” เลี่ยงเฟิงได้เอ่ยถามเพราะคิดว่าท่านพ่อของตนนั้นไปเที่ยวเล่นต่างแคว้น

“ข้าไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวแต่มีเรื่องที่ต้องไปจัดการ หากวันหน้าข้าว่างจะพาเจ้าทั้งสองไปเที่ยว” เลี่ยงเฟิงมีใบหน้าที่สลดเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจท่านพ่อของตนเอง

“เช่นนั้นท่านพ่ออย่าลืมซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากข้าด้วยนะเจ้าคะ” ลู่เอ๋อร์เองก็ได้พูดขึ้นมาเวลาที่นางเอ่ยเรื่องของกินแววตาของนางก็ส่องประกายแวววาว ทำให้หานเสี่ยว์ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ด้วยความเอ็นดูนาง

“ได้สิเดี๋ยวข้าจะซื้อมาฝากพวกเจ้าทั้งสอง”เขาลูบหัวของลู่เอ๋อร์พร้อมรับปากนาง

“ทั้งสองได้อย่างไรขอรับ ท่านพ่อต้องซื้อมาฝากท่านแม่ด้วยนะขอรับ” เลี่ยงเฟิงที่มีคติเปลี่ยนไปแล้วก็ได้เอ่ยให้ท่านพ่อซื้อของมาฝากท่านแม่ด้วย

“ก็ได้ พวกเจ้าอิ่มกันแล้วก็รีบพากันกลับห้องเถิดข้ามีเรื่องจะคุยกับหานเสี่ยว์สักครู่”

“ได้อย่างไรกันเจ้าคะ ท่านแม่สัญญาว่าจะไปส่งข้ากับท่านพี่เข้านอนทุกวัน “

“เช่นนั้นไปส่งพวกเจ้าทั้งสองแล้วค่อยคุยกัน ”

เหิงเยว์ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารจะพาเด็ก ๆ ไปส่ง ทำให้หานเสี่ยว์อึดอัดยิ่งไปกันใหญ่

“มีเรื่องอันใดเอ่ยมาตอนนี้มิได้หรืออย่างไร เหตุใดต้องรอเด็ก ๆ ไปที่อื่นก่อนด้วยเล่า มันเสียเวลา” เมื่อนางไม่อยากอยู่เหิงเยว์เพียงลำพังก็ได้เอ่ยขึ้นมา

“เรื่องที่ข้าจะพูดคุยกับเจ้าเป็นเรื่องที่เด็ก ๆ ไม่ควรมารับรู้”

“ฮึ ฮึ แล้วแต่ท่านเถอะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ไปกันเถอะข้าจะไปส่งพวกเจ้าเข้านอน ” หานเสี่ยวเคล้นหัวเราะออกมาจากในลำคอก่อนจะพาเด็ก ๆ ไปส่งที่ห้องโดยมีเหิงเยว์พร้อมกับเข่อซิงเดินตามหลังมา เมื่อส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จแล้วหานเสี่ยว์ก็ไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามเรื่องที่เขาอยากจะพูดคุยกับนาง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 13  ออกตรวจตรา

    บทที่ 13 ออกตรวจตราเท้าคู่งามได้หยุดเดินพร้อมหันกลับมาถามบุรุษที่เดินตามหลังเอ่ยถามเสียงทุ่มต่ำ“ตอนนี้ก็ส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จสิ้นแล้วท่านเอ่ยเรื่องที่ท่านอยากพูดกับข้ามาเถิด " “ข้าอยากจะถามเจ้าเรื่องหย่า ตอนนี้ร่างกายของเจ้าก็หายดีแล้วเมื่อไหร่เจ้าจะไปแจ้งท่านพ่อของเจ้าเสียที”“ข้าก็คิดว่าเรื่องอันใด อย่างไรท่านเองก็ทนมาได้ตั้งห้าปี ช่วยทนต่ออีกสักนิดไม่ได้หรืออย่างไร ? หรือว่าท่านอยากจะใช้เวลาร่วมกับลู่ฟางในเร็ววัน เรื่องหย่าท่านไม่ต้องกังวลเมื่อถึงเวลาข้ายอมหย่าให้ท่านแน่แต่ยังไม่ใช่เวลานี้” คำพูดที่ออกจากปากของหานเสี่ยว์ทำให้เหิงเยว์ไม่พอใจเท่าไหร่นักที่นางพูดถึงลู่ฟาง“นี่เจ้าทำไมต้องเอ่ยถึงผู้อื่นด้วย แล้วทำไมต้องรอเวลาในเมื่อช้าหรือเร็วอย่างไรเจ้ากับข้าก็หย่ากันอยู่ดี "“ท่านไม่ต้องห่วงเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิข้าจะหย่าให้ท่านแน่นอน ส่วนเรื่องเหตุผลอะไรข้าไม่ขอเอ่ยหากหมดเรื่องจะคุยข้าต้องขอตัวก่อน” หานเสี่ยว์ไม่อยากจะสนทนาต่อจึงรีบเดินหนี เหิงเยว์ก็ยิ่งไม่เข้าใจนางจะหย่าเหตุใดต้องรอ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้รีบร้อนเขามีเรื่องที่ต้องจัดการเสียก่อน เป็นเรื่องที่ฝ่าบาทมอบหมายเขาต้องออกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 14 โดนลอบทำร้าย

    บทที่ 14 โดนลอบทำร้ายภายในห้องที่น่าอึดอัดผู้คนต่างพากันใส่หน้ากากเข้าหากันแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มให้แก่กันแต่ทว่าจิตใจนั้นมิใช่อย่างที่ใบหน้าแสดงอยู่ เหิงเยว์เองก็ทำท่าจิบสุราเพียงเล็กน้อยก่อนจะแอบรินทิ้งเมื่อใต้เท้าเจียวหั่วละสายตา ไม่นานฮูหยินก็ยกไก่ตุ๋นมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมเครื่องเคียงมากมาย“ไก่ตุ๋นแสนอร่อยของข้ามาแล้วเจ้าค่ะ "“กลิ่นหอมมากเลยขอรับ วันนี้ข้าต้องเจริญอาหารแน่ ๆ เลย " เหิงเยว์วางจอกสุราลงจ้องมองเนื้อไก่ที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างชื่นชม“แค่ท่านเอ่ยชมและชอบอาหารของข้าข้าก็ดีใจมากเลยเจ้าค่ะ งั้นน่องไก่น่องนี้ข้าขอยกให้ท่าน” ฮูหยินหยิบไก่มอบให้เหิงเยว์เขาเองก็กินเพื่อไม่ให้นางสงสัย เมื่อเขากินอิ่มก็ขอตัวกลับ ใต้เท้าเจียวหั่วกับฮูหยินก็ได้เดินออกมาส่งเหิงเยว์ที่หน้าเรือน“หากวันใดท่านผ่านมาที่นี่อีกก็แวะมาได้เสมอนะขอรับข้าจะให้ฮูหยินทำไก่ตุ๋นให้ท่านได้กินอีก”“วันนี้ข้าอร่อยมาก ไหนจะสุราที่ท่านได้มาช่างมีรสชาติแตกต่างจากแคว้นของเรานัก”“โฮ๊ะ ๆ ใช่มั้ยขอรับแคว้นเรานั้นเทียบไม่ติดเลยหากท่านชอบ ข้าได้มารอบหน้าจะให้บ่าวไปส่งให้ถึงที่เรือนเลยขอรับ ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะขอรับ”เหิงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่  15 คอยดูแล

    บทที่ 15 คอยดูแลหานเสี่ยว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้เลือดของเหิงเยว์ก็ไหลไม่หยุดกลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มเสื้อผ้าของนางเพราะตอนนี้นางกำลังโอบกอดร่างกายของเขาอยู่ไม่นานบ่าวไพรก็ได้พากันแตกตื่นมาช่วยยกร่างที่ได้รับบาดเจ็บของเหิงเยว์เข้าไปที่ห้องของเขา หานเสี่ยว์ตั้งสติเดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง แม้ว่านางจะไม่ได้ถูกชะตาแต่อย่างไรชายผู้นี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของตนเองนางจึงได้เข้ามาในห้องของเขา ก่อนจะสั่งให้สาวใช้ไปนำถังนำสะอาดและผ้ามาให้นาง "นี่เจ้าไปนำน้ำสะอาดมาให้ข้าพร้อมผ้าผืนเล็กโดยเร็ว""เจ้าค่ะฮูหยิน" นางได้รับคำสั่งและรีบเดินออกไปหาสิ่งที่หานเสี่ยว์สั่ง สาวใช้เดินกลับมาพร้อมถังน้ำยื่นผ้ามอบให้แก่หานเสี่ยว์นางได้นำผ้าชุบน้ำสะอาดบิดให้ผ้าหมาดเช็ดร่างกายของเหิงเยว์ที่นอนไร้สติอยู่ "มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านหมอมาแล้ว" สาวใช้ที่อยู่หน้าห้องเห็นท่านหมอเดินมาพร้อมเข่อซิงก็ได้เอ่ยออกมาเสียงดัง "เกิดอันใดขึ้นกับท่านผู้ตรวจการหรือขอรับ""ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านหมอช่วยตรวจเขาที " หานเสี่ยว์ร้อนใจกลัวว่าชายที่นอนอยู่บนเตียงจะจากเด็ก ๆ ไป ท่านหมอได้สั่งให้บ่าวถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออกพร้อมพลิกตัวข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 16 ไร้น้ำใจ 

    บทที่ 16 ไร้น้ำใจ ข่างเรื่องที่เหิงเยว์โดนรอบทำร้ายก็ได้เลื่องลือไปจนทั่วจนถึงหูของลู่ฟางนางจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมเหิงเยว์อย่างเป็นห่วงด้วยใจที่ร้อนรน "ข้ามาพบท่านพี่เหิงเยว์ตอนนี้ท่านพี่ฟื้นหรือยัง? " เมื่อมาถึงเรือนของเหิงเยว์ลู่ฟางก็ได้เอ่ยถามบ่าวรับใช้ในเรือนอย่างร้อนใจ"คุณหนูลู่ฟาง ตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ยังคงไม่รู้สึกตัวขอรับ" "เช่นนั้นข้าจะไปหาท่านพี่เหิงเยว์ที่ห้องนอนเอง ท่านพี่คงได้รับบาดเจ็บมากเลยสินะ "ดวงตาเศร้าสร้อยเมื่อนึกภาพที่เหิงเยว์นอนป่วย"ข้ามิอาจจะเอ่ยได้เพราะฮูหยินสั่งห้ามมิให้บ่าวไพร่ในเรือนพูดเรื่องนี้ขอรับ ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" พูดจบบ่าวรับใช้ก็ได้เดินจากไปเมื่อลู่ฟางได้ยินเช่นนั้นก็เคลือบแคลงใจหรือการบาดเจ็บนี่จะเป็นฝีมือของหานเสี่ยว์"เหตุใดถึงสั่งห้ามไม่ให้บ่าวที่เรือนเอ่ยเรื่องนี้หรือว่าเรื่องที่ท่านพี่เหิงเยว์ได้รับบาดเจ็บเกี่ยวข้องกับนางกันนะ ช่างเป็นสตรีที่เหี้ยมโหดเสียจริง ข้าก็คิดว่านางจะรักท่านพี่มาก ๆ เสียอีก " นางพึมพำอยู่ผู้เดียวพร้อมย่างกรายไปหาเหิงเยว์ที่ห้องเมื่อนางเข้ามาเห็นก็พบเหิงเยว์นอนอยู่บนเตียงนอนยังไม่ฟื้นนางเข้าไปใกล้ ๆ มองดูใบหน้าที่ซีด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย    บทที่ 17  ข้าอยากมีน้อง

    บทที่ 17 ข้าอยากมีน้องหานเสี่ยว์เดินฟัดเหวี่ยงออกมาอย่างน่าโมโหพร้อมพึมพำต่อว่าเหิงเยว์ที่เขากล่าวว่าตน"ข้ามิน่าช่วยคนเช่นนี้เลย ข้าไม่ได้นอนก็เพราะต้องดูแลทั้งคืนแต่กลับมาถูกต่อว่า ฮึ! จากนี้ต่อให้ท่านหายใจโรยรินอยู่ต่อหน้าแทบจะกราบแทบเท้าข้าก็ไม่ช่วยท่านแน่นอน เฮอะ" เข่อซิงเองก็คันปากอยากพูดจึงได้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีไม่พอใจของหานเสี่ยว์"นั้นสิเจ้าคะ ทั้ง ๆ ที่คุณหนูเฝ้าอยู่ทั้งคืนแท้ ๆ แต่เหตุใดคนที่ได้หน้ากลับเป็นสตรีนางนั้นกันหรือว่าคุณชายเหิงเยว์ฟื้นขึ้นมาพบเจอนางเป็นคนแรกจึงคิดว่านางนั้นเป็นผู้ดูแล นิสัยไม่ดีเลยเจ้าค่ะ""ช่างประไร อย่างไรข้ามันก็แค่นางร้ายในสายตาของคุณชายเหิงเยว์อยู่ดี มีนางมาคอยเฝ้าดูแลก็ดีข้าจะได้มาต้องมานั่งคอยเป็นห่วง ข้าจะนอนพักอย่างสบายใจ ชิ " นางบ่นไม่ขาดปากเท้าก็ได้เดินมาหยุดที่ศาลารับลมกลางเรือน นางนั่งลงสงบสติอารมณ์ โดยมีเข่อซิงยืนเฝ้าอยู่ไม่ห่างกาย หานเสี่ยว์หายใจเข้าออกจนกระทั่งลมหายใจของนางกลับมาเป็นปกติ สายตาของนางเห็นว่ามีเกี้ยวของขุนนางที่ถูกข้ารับใช้แบกมาวางลงที่หน้าเรือน บ่าวรับใช้ของขุนนางผู้นี้ก็มีมากมายหากนางเดาไม่ผิดขุนนางผู้นี้ต้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 18 แผนของเด็กน้อยทั้งสอง

    บทที่ 18 แผนของเด็กน้อยทั้งสองเด็กทั้งสองเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของตนเองก็ได้มองหน้ากันอย่างมีเลศนัยก่อนจะมุดหัวชนกันเพื่อหารือวางแผน "ลู่เอ๋อร์ก่อนที่จะกินอาหารเย็นข้าจะไปแจ้งท่านอาว่าท่านพ่อทานอาหารพร้อมยาไปเสียแล้วเพื่อไม่ให้ท่านอาต้องไปดูแลท่านพ่อ ส่วนเจ้าไปตามท่านแม่ที่ห้องมาห้องของท่านพ่อให้ได้ แล้วจากนั้นเราต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ท่านพ่อกับท่านแม่นอนด้วยกัน" ผู้เป็นพี่ได้วางแผนบอกกับน้องสาว"โอ๊ะ ! อย่างนี้เราทั้งสองก็จะมีน้องเล็กเร็ว ๆ สินะเจ้าคะ ข้าตื่นเต้นจังเช่นนั้นข้าจะรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปทำตามแผนเจ้าคะ" ลู่เอ๋อร์ลี่ตาเล็กลงยิ้มมุมปากอย่างดีใจ "เช่นนั้นก็เอาตามนี้ " เลี่ยงเฟิงเองก็ได้เข้าห้องของตนเองเช่นกันไม่นานนักทั้งสองก็ออกมาจากห้องพร้อม ๆ กันก่อนจะมองหน้าให้กันและพยักหน้าทำตามแผนที่วางไว้ ฝั่งด้านลู่ฟางนางอาบน้ำที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเพื่อให้ร่างกายมีกลิ่นหอม จะได้ไปดูแลเหิงเยว์ในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิดนางมีแผนจะใช้ความใกล้ชิดทำให้เหิงเยว์หวั่นไหวโดยการสวมเสื้อด้านนอกอย่างละหลวมเพื่อเผยให้เห็นตู้โตวเมื่อนางก้มตัวลง นางแสยะยิ้มอยู่หน้ากระจกเมื่อนึกแผนการณ์หากม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย    บทที่ 19  แผนสำเร็จ

    บทที่ 19 แผนสำเร็จเลี่ยงเฟิงเดินย่ำเท้าไปที่ห้องของท่านพ่อโดยเร็วเมื่อเขาได้ไปแจ้งต่อท่านอาว่าไม่ต้องมาดูแลท่านพ่อของตนเอง เขาจึงรีบมาก่อนที่ลู่เอ๋อร์จะพาท่านแม่มาถึงก่อน แม้เขายังเป็นเพียงเด็กแต่ก็รู้ดีเรื่องที่ท่านอาลู่ฟางนั้นเสแสร้งเป็นผู้ดูแลท่านพ่อ แต่หาใช่เป็นเช่นนั้นไม่ ความยุติธรรมที่ท่านพ่อเคยสั่งสอนทำให้เลี่ยงเฟิงต้องแจ้งความจริงให้ท่านพ่อได้รู้ว่าผู้ใดที่ดูแลท่านพ่อที่แท้จริงเหิงเยว์แม้จะได้รับบาดเจ็บแต่เขาเองก็ต้องรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทได้รับรู้จึงได้เดินไปที่ห้องทำงานของตนเองหยิบพู่กันจุ่มหมึกดำมาเขียนสารส่งให้กับฝ่าบาท เมื่อเขาเขียนเสร็จแล้วก็ได้เดินออกมาด้านนอกเรียกหาคนสนิทของเขาให้นำสารนี้ไปมอบให้ฝ่าบาท "ตงหยาง เจ้าอยู่แถวนี้หรือไม่""ขอรับนายท่าน""เจ้าจงนำจดหมายนี้ไปมอบให้แก่ฝ่าบาททีและต้องให้ถึงมือของฝ่าบาทอย่าให้ผู้ใดได้เห็นเนื้อความในนี้เด็ดขาด" ตงหยางรับจดหมายมาซุกเข้าด้านในเสื้อของตนพร้อมรับคำสั่ง"ขอรับ""อย่าพึ่งไป ตลอดเวลาที่ข้าให้เจ้าจับตาดูหานเสี่ยว์นางเป็นเช่นไรบ้าง""ฮูหยินก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีแผนอันใดนะขอรับ แถมยังเอ็นดูคุณชายกับคุณหนูเป็นอย่างดี แม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 20 ใกล้ชิด

    บทที่ 20 ใกล้ชิดเหิงเยว์กินอาหารไปพร้อมหัวใจที่เต้นแรงเมื่อหานเสี่ยว์ป้อนอาหารให้เขา ตัวของนางแทบจะนั่งติดกันกับเขา เหิงเยว์ได้กลิ่นถุงหอมที่โชยออกมาจากกายนางทำให้เขาจำกลิ่นได้ทันทีเป็นนางนั่นเองที่เฝ้าดูแลเขาทั้งคืนหัวใจของเขาเต้นตึกตักความรู้สึกที่เคยเคียดแค้นก็เริ่มจางหายกลับกลายเป็นใจสั่นไหวแทน"ท่านแม่ข้าอิ่มแล้วและวันนี้ท่านแม่มิต้องไปส่งข้ากับท่านพี่ที่ห้องนะเจ้าคะข้ากับท่านพี่กลับเองได้เจ้าค่ะ" ลู่เอ๋อร์ได้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหานเสี่ยว์กำลังป้อนอาหารท่านพ่อเสร็จสิ้น "ดี เช่นนั้นข้าเองก็จะกลับห้องเช่นกัน ท่านอิ่มแล้วใช่หรือไม่?" นางหันมาตอบลู่เอ๋อร์พลางหันไปถามชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ "ท่านแม่ ท่านต้องคอยเฝ้าท่านพ่อสิขอรับ หากท่านพ่อไข้ขึ้นตอนกลางคืนจะทำเช่นไร ลู่เอ๋อร์เรารีบไปกันเถอะท่านพ่อกับท่านแม่จะได้พักผ่อน พวกเจ้าเองก็รีบมาเก็บสำรับไปเก็บสะสิ" เลี่ยงเฟิงได้หันไปบอกสาวใช้ที่ยืนรออยู่หน้าห้อง "เดี๋ยวสิ ข้ารับใช้ก็มากมายทำไมต้องเป็นข้าด้วยเล่า ไม่เอาหรอกนะ"หานเสี่ยว์ลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องถูกเหิงเยว์ดึงมือเอาไว้ก่อน "อยู่กับข้าก่อนเถอะนะ " จากที่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับชายตรงหน้าแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บที่ 39  น้องของสองแฝด

    บที่ 39 น้องของสองแฝด1 ปีต่อมา หลังจากวันนั้นหานเสี่ยว์ก็ได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับเหิงเยว์ใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางนั้นได้ตั้งท้องให้กับเหิงเยว์จนตอนนี้ท้องเริ่มแก่มากแล้ว แถมฤดูนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย เหิงเยว์จึงเฝ้าประคบประหงมไม่ให้หานเสี่ยว์ไปใกล้แม่น้ำนั้นอีกเลย ในตอนแรกเขาแทบสั่งให้บ่าวนำดินมากลบบ่อน้ำนั้นไปส่ะเพราะกลัวว่าหานเสี่ยว์คิดจะกลับไปอีก แต่ถูกนางขอไว้ เพราะนี่คือความทรงจำที่ดีของนางหากไม่มีบ่อน้ำนี้ก็ไม่มีนางเช่นกัน เหิงเยว์ถึงยอมตามใจฮูหยินของเขา "คุณหนูเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะยืนนาน ๆ จะทำให้เหนื่อยเอาได้นะเจ้าคะท้องของคุณหนูก็โตมากกว่าสตรีที่อายุครรภ์เท่ากันด้วยซ้ำ หรือว่าคุณหนูจะตั้งท้องแฝดเจ้าคะ"เข่อซิงที่คอยประคองหานเสี่ยว์ได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ท้องของหานเสี่ยว์ "จริงหรือท่านแม่ เช่นนั้นก็ดีนะสิ" เลี่ยงเฟิงที่เดินมาจากห้องของตนเองก็ได้ยินที่เข่อซิงกล่าว "ท่านแม่จะมีน้องสองคนหรือเจ้าคะ งั้นก็เป็นเรื่องดีเสียจริงข้ากับท่านพี่จะได้ไม่ต้องแย่งกัน น้องจ๋าเจ้าจงออกมาเป็นหญิงหนึ่งบุรุษหนึ่งนะได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่" ลู่เอ๋อร์ใช้มือเล็กลู

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง

    บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง"หานเสี่ยว์เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นนี่ก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ข้าเฝ้ารอเจ้าอยู่ทุกวันเด็ก ๆ ทั้งสองก็อยากเข้ามาหาเจ้าแต่ข้าก็ต้องโกหกไปว่าเจ้าไม่สบาย เพราะข้าไม่อยากให้เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ต้องเสียใจที่รู้ว่าเจ้าจากไป เจ้าอยู่ที่ใดไม่สงสารใจข้าบางหรือ ข้าทำได้เพียงเฝ้ารอเจ้าอย่างท้อใจข้ามิอาจทำเช่นใดได้เลยกับมาหาข้าเถอะนะ หานเสี่ยว์ ไม่สิซู่ซ่าน หรือว่าจิวฉิง ไม่ว่าเจ้าจะชื่อนามอันใดข้าก็รักที่เจ้าเป็นเจ้ากลับมาหาข้าเถอะนะตอนนี้หัวใจของข้าแทบสลายแล้ว อย่าจากข้าไปเลย ข้ารักเจ้า เจ้าได้ยินมั้ยว่าข้ารักเจ้าเพียงใด" น้ำเสียงโศกเศร้าใบหน้าซูบผอมของเหิงเยว์ที่คร่ำครวญอยู่ข้างร่างหานเสี่ยว์พร้อมจับมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย "รักเพียงใดหรือเจ้าคะ" จิวฉิงที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ก็ส่งยิ้มพร้อมเอ่ยถามบุรุษที่พร่ำรักนางอยู่ต่อหน้า"ข้ารักเจ้ามาก ชีวิตของข้าก็ให้เจ้าได้ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินางยังไม่ฟื้นนี่น่าหรือว่าข้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว " เหิงเยว์ชะงักเมื่อจู่ ๆ เขาก็ตอบคำถามหานเสี่ยว์ จึงได้ใช้มือตบหน้าตนเองเบา ๆจนหานเสี่ยว์ต้องจับมือของเขาเอาไว้"อย่าตีตนเองเลยนี่มิใช่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป"นี่เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไปจริง ๆ หรือ แล้วข้าจะอยู่อย่างไรเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไร ไม่ข้าไม่เชื่อเจ้าต้องฟื้นสิ ท่านหมอหลอกลวงข้าเจ้าต้องฟื้น แล้วเช่นนี้ข้าจะทนได้อย่างเล่าในเมื่อตอนนี้ข้ารักเจ้าหมดทั้งหัวใจ " ความเคว้งคว้างในหัวใจของเหิงเยว์ได้ก่อตัวขึ้น เขาซบหน้าลงซบร่างกายของหานเสี่ยว์สะอึกไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในห้องก็มีเพียงเสียงร้องไห้ทุกข์ระทมของทุกคน เหิงเยว์ทำอะไรมิได้ทำได้เพียงร้องไห้แม้แต่เรี่ยวแรงที่เช็ดน้ำตาของตนเขายังทำไม่ได้เสมือนโลกทั้งใบได้แตกสลายไปแล้ว ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาได้เสียซู่ซ่านไปมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อให้เขาเรียกนางซ้ำ ๆ เท่าไร่ร่างบางที่นอนแน่นิ่งก็มิอาจตอบสนอง "ข้ามิอาจจะช่วยเหลือฮูหยินของท่านได้ ต้องขออภัยอีกครั้งร่างที่นอนไร้สติของฮูหยินไม่นานชีพจรอาจจะหยุดเต้น ถึงเวลานั้นท่านคงรู้นะขอรับ หมดหน้าที่ข้าแล้วข้าขอตัว" ท่านหมอโค้งคำนับพร้อมออกจากห้องไป ปล่อยให้เหิงเยว์จมอยู่กับความทรมานใจอยู่เช่นนั้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นท่านหมอ แต่เมื่อเงยหน้ามองกลับพบเห็

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 36 ลาก่อน

    บทที่ 36 ลาก่อนฝั่งด้านหานเสี่ยว์นางกินอาหารเย็นเสร็จสิ้นก็ไล่ให้เข่อซิงกลับไปพักผ่อน วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่นางรอคอยมาตลอด จึงอ้างกับเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ว่านางมีอาการไม่ค่อยสบายจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย เด็กทั้งสองเห็นท่านแม่มีอาการแปลกไปจึงคิดว่าไม่สบายจริง ๆ และไม่อยากรบกวนให้ท่านแม่ได้พักผ่อน นางรอจนทุกคนเข้านอนเมื่อนางเปิดประตูดูสถานการณ์ด้านนอกเมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงได้เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่สระน้ำอยู่ด้านหลังเรือน ความเงียบสงัดทำให้หานเสี่ยว์เองก็รู็สึกเงียบเหงาเหลือเกิน นางเดินไปอย่างเชื่องช้า มองรอบ ๆ เห็นภาพความทรงจำที่ผ่านมาน้ำตาใส ๆ ก็เริ่มเอ่อนอง ความผูกพันธ์กับคนที่นี่ล้วนมีความหมายกับนางเหลือเกินมันเป็นความทรงจำที่มีค่ามาก ๆ ยิ่งก้าวเท้าเดินก็ยิ่งเจ็บถึงขั่วหัวใจ รอยยิ้มแววตาของเด็กทั้งสองที่คอยยิ้มให้ก็ยิ่งทำให้นางร้องไห้มากกว่าเดิม แต่ทุกอย่างนางต้องทิ้งไว้ที่นี่ "จากนี้ข้าคงไม่ได้พบเจอพวกเจ้าอีกแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีความสุขในทุก ๆ วัน ลาก่อนนะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ " เมื่อมาถึงสะพานหานเสี่ยว์ก็ได้ก้าวเท้าขึ้นไปยังสะพานเพื่อไปอยู่ตรงกลางแม่น้ำ ก่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 35  คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลา

    บทที่ 35 คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลารุ่งสางมาเยือนอีกคราหานเสี่ยว์ร้องไห้ทั้งคืนเมื่อนางตื่นเช้ามาเปลือกตาของนางก็มีอาการบวมแดง เข่อซิงได้เข้ามานำน้ำมาให้นางล้างหน้าล้างตาก็ต้องตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย"คุณหนูข้านำน้ำมาให้เจ้าค่ะ วันนี้ด้านนอกอากาศดีมากหากคุณหนูล้างหน้าเสร็จแล้วเราไปด้านนอกดีมั้ยเจ้าคะ" "ดีเช่นกัน" หานเสี่ยว์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาเข่อซิงเองก็ช่วยแปรงผมให้ ไม่นานทั้งสองก็ได้ออกมารับลมด้านนอกต้นไม้นานาชนิดเริ่มผลิใบเขียวขจี อากาศสดชื่นยิ่งนักหานเสี่ยว์ทอดสายตามองเหล่าผีเสื้อแมลงปอต่างพากันบินวนดมเกสรดอกไม้เพื่อดำรงชีวิต "คงถึงเวลาแล้วสินะ" นางเอ่ยออกมาเมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปแต่หัวใจของนางตอนนี้ช่างปวดร้าวเหลือเกิน ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางรอคอยเวลานี้มาตลอด นางคิดว่าวันที่นางไม่อยู่เด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรจะคิดถึงนางหรือไม่? หรือจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะคิดถึงนาง แต่หากนางไม่ไปก็เป็นห่วงคุณย่าที่รอคอยนางอยู่อีกโลก นางยังมีห่วงหากจะอยู่ที่นี่ต่อ หานเสี่ยว์ยังคงต้องรอวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงนางถึงจะกลับได้ นางถึงเอ่ยถามเข่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 34  เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ

    บทที่ 34 เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะเข่อซิงเมื่อรับรู้ว่าคุณชายเหิงเยว์ต้องการอยู่เพียงลำพังกับนายหญิงของตนนางก็ก้มหน้าเพื่อรับรู้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมนางเองก็อยากให้นายหญิงของตนมีความสุขเสียที เพราะอย่างไรตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ก็ได้แสดงท่าทีว่ารักนายหญิงของนางเข้าแล้วและพร้อมจะดูแลนางตลอดไป เพียงแต่นายหญิงของนางต่างหากที่เริ่มเปลี่ยนไป "อย่าพึ่งไปอยู่ชมจันทร์กับข้าเสียก่อน ""ไม่ข้าอยากจะพัก ข้าเหนื่อย" เหิงเยว์มองใบหน้าของหานเสี่ยว์ก่อนจะตัดสินใจอุ้มนางมาอยู่ในอ้อมแขน ทำให้นางตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวและกลับตกจากอ้อมแขนของเขา"หากข้าอุ้มเจ้าอยู่เช่นนี้เจ้าคงไม่เหนื่อยใช่หรือไม่ ?""อ๊าย ! นี่ท่านทำอะไรของท่านปล่อยข้าลงไปนะ ""ทำไมล่ะ เจ้าเอ่ยเองว่าเจ้าเหนื่อยข้าก็ช่วยให้เจ้าได้พักอยู่นี่อย่างไรล่ะ ""มะ....ไม่ต้องปล่อยข้าลง ข้ายืนเองดีกว่า""ฮึ ก็ได้ " เขาปล่อยนางให้ยืนเอาเอง ตอนนี้หัวใจของหานเสี่ยว์เต้นแรงเมื่อร่างกายสัมผัสกันแถมเมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มนางได้กอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกได้ยินเสียงหัวใจของเหิงเยว์ที่เต้นไม่เป็นจังหวะทั้ง ๆ ที่นางพยายามห

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 33  ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ

    บทที่ 33 ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะหานเสี่ยว์ย้อนคิดในยามที่ตนตกอยู่ในอันตรายมันช่างโหดร้ายมากแค่ไหน ทุกหนทางช่างน่ากลัวจนไม่คิดว่าตนเองจะรอดกลับมายิ่งมารู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของลู่ฟางนางยิ่งโกรธไปมากกว่าเดิม จนไม่สามารถอภัยให้ได้หากเทียบกับสิ่งที่นางทำ"แม้ว่าข้าจะโกรธนางมากเท่าไหร่แต่ข้าก็มิอาจจะสั่งให้ตัดหัวนางได้ ข้าอยากให้นางอยู่ใช้ชีวิตและเรียนรู้ว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้มิได้มาแต่โดยง่ายการใช้ชีวิตก็เช่นกัน ข้าอยากให้โบยนางสัก 50 ครั้งและเนรเทศไม่ให้นางมาเหยียบที่แคว้นพร้อมปลดครอบครัวของนางยึดทรัพย์สินให้จนหมดให้นางไปใช้ชีวิตเยี่ยงสาวรับใช้เจ้าค่ะท่านพ่อ เท่านี้คงเพียงพอ" "เช่นนั้นก็เอาเช่นเจ้ากล่าวมา แล้วเจ้าเล่าเห็นดีกับบทลงโทษนี้หรือไม่ ? " ใต้เท้าห่าวอู่ได้หันไปถามเหิงเยว์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล"ขอรับ ไม่ว่าหานเสี่ยว์จะเอ่ยลงโทษนางเช่นใดข้าก็เห็นด้วย เพราะตอนนี้ข้ากับลู่ฟางตัดขาดสายเลือดกันแล้วขอรับ" หานเสี่ยวเหลือบไปมองใบหน้าของเหิงเยว์ก็มิได้เห็นใบหน้าแห่งความกังวลจึงคิดว่าเขาคงคิดอย่างที่เอ่ยมาจริง ๆ เมื่อพูดคุยกับท่านพ่อเสร็จก็ได้เดินทางกลับภายในห้องจึงมีเพียงเหิงเยว์กับหานเสี่ย

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 32 ตัดขาด

    บทที่ 32 ตัดขาดลู่ฟางไม่ได้สังเกตใบหน้าของเหิงเยว์เพราะหลงดีใจที่ได้ใกล้ชิดเขา เมื่อมาถึงเรือนของนางเหิงเยว์ก็ได้กระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะผายมือให้นางจับเพื่อกระโดดลงมา "ขอบคุณท่านพี่เหิงเยว์ที่มาส่งข้าที่เรือนเข้ามาด้านในก่อนเจ้าค่ะข้าจะให้สาวใช้เตรียมน้ำชาชั้นดีมาให้ท่านพี่ได้ดื่ม " นางเชิญเขาเข้าเรือนเมื่อนางก้าวเท้าเข้ามาก็ต้องพบกับทหารของวังหลวงจำนวนมากที่ตอนนี้ได้อ้อมล้อมเรือนของนางไว้หมดแล้ว และนี่ก็เป็นแผนของเหิงเยว์เขาได้ให้คนใช้ของเขาไปแจ้งเรื่องนี้กับใต้เท้าห่าวอู่หลังจากที่ช่วยเหลือหานเสี่ยว์ได้แล้ว ใต้เท้าห่าวอู่โมโหมากที่บุตรสาวคนเดียวของเขาต้องมาถูกกระทำเช่นนี้ "นี่มันเรื่องอันใดกันเจ้าคะ เหตุใดทหารถึงมาอยู่ที่เรือนของข้าเต็มไปหมด""เจ้าหยุดเสแสร้งเถอะ ที่หานเสี่ยว์ได้รับบาดเจ็บก็เพราะเจ้ามันเป็นแผนของเจ้า เรื่องราวครั้งนี้ข้ามิอาจปล่อยผ่านไปได้ เจ้าทำเช่นนี้ทำไม" เหิงเยว์ไม่ทนที่จะมองดูนางเสแสร้งต่อไปจึงได้เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา"ข้ามิได้ทำอันใดนะเจ้าคะ ข้าไม่รู้เรื่องที่ท่านพี่เหิงเยว์เอ่ยมาสักนิด"ลู่ฟางยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแต่แล้วนางก็ถูกดึงจากด้านหลังให้หันไป

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 31 ไม่มีทางให้อภัย

    บทที่ 31 ไม่มีทางให้อภัยเหิงเยว์ได้ควบม้าจนมาใกล้ถึงหุบเขาก็ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของหานเสี่ยว์เขาจึงได้ควบม้าไปหาเสียงนั่นทันที และเมื่อเขาเห็นนางกำลังถูกชายชั้นต่ำนันกำลังลวนลามยิ่งทำให้เขาเกรี้ยดโกรธเป็นอย่างมากที่กล้าใช้มือสกปรกแตะต้องฮูหยินของเขา เขาได้เข้าไปจัดการกับชายทั้งสองที่ยืนคอยอยู่อีกฝั่ง โดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตอบโต้แม้แต่น้อยไม่ช้าคนของเหิงเยว์ก็ได้ตามมาจนถึง เหิงเยว์มองเห็นหานเสี่ยว์ที่นั่งตัวสั่นร้องไห้ใช้มือกอดอกตนเองเพื่อปิดบังเรือนร่างตนเองเอาไว้ยิ่งทำให้เขาโมโหมากกว่าเดิมจนอยากจะฆ่าชายชั่วนั้นให้แหลกเป็นชิ้น ๆ แต่เขาเองก็อยากจะรู้ว่านี่คือการปล้นหรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังกันแน่ "เจ้าช่างกล้ามายุ่งกับฮูหยินของข้า การตายเท่านั้นที่คู่ควรกับเจ้า" ชายผู้นั้นเห็นว่าคนของเหิงเยว์นั้นมามากเหลือเกินหากเขาสู้ก็คงไม่มีทางรอดและคนของเขาก็ถูกเหิงเยว์จัดการจนหมดแล้ว ก็เกิดอาการกลัวตายทันที "นายท่านข้ากลัวแล้ว อย่าฆ่าข้าเลยนะขอรับ""เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือแล้วนางเล่าสตรีที่ไร้ทางสู้เพียงผู้เดียวแต่เจ้าตามไล่ล่านางถึงสามสี่คน ช่างกล้าเอ่ยออกมาว่ากลัวงั้นหรือ" เขาตวาดใส่เสียงแข

DMCA.com Protection Status