Share

บทที่ 11  ผู้มาเยือน

last update Last Updated: 2024-12-06 19:11:43

บทที่ 11  ผู้มาเยือน

หานเสี่ยว์ได้ออกมานั่งอยู่ที่ห้องโถงเพราะตอนนี้ลู่เอ๋อร์ยังคงนอนอยู่บนเตียง นางได้มานั่งจิบชาเพื่อรอลู่เอ๋อร์ตื่นจะได้กินอาหารพร้อมกันแต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาทางนางอย่างเร่งรีบ

“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ” เลี่ยงเฟิงเหนื่อยหอบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาหานเสี่ยว์นางจึงรีบลุกขึ้นไปจับกายของเลี่ยงเฟิงอย่างสงสัย

“เหตุใดเจ้าถึงรีบร้อนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเช่นนี้ด้วย”

“ลู่เอ๋อร์ ลู่เอ๋อร์หายไปขอรับ สาวใช้ได้ออกตามหานางจนทั่วห้องก็ไม่พบ หรือว่าท่านแม่จะทำร้ายนาง ไม่! ไม่ใช่หรอกท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วนี่น่า หรือว่าท่านทรงเสแสร้งทำดีกับพวกเราทำให้พวกเราหลงเชื่อ และจัดการหรือขอรับ”หานเสี่ยว์ที่กำลังซึ้งที่พี่ชายเป็นห่วงน้องสาวได้มากขนาดนี้ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดที่เลี่ยงเฟิงเอ่ยคำหลังออกมาอย่างแผ่วเบา

“เจ้ายังคิดว่าข้าทำเช่นนั่นอยู่หรือ ไม่แน่ข้าคงจะจับน้องสาวของเจ้าโยนลงน้ำแล้วก็ได้ หรือไม่ข้าก็ให้ชายฉกรรจ์จับตัวลู่เอ๋อร์ไปขายเป็นทาสให้กับใต้เท้าไปอื่นดีล่ะ " ใบหน้าของเลี่ยงเฟิงซีดเซียวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงของหานเสี่ยว์ที่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“ท่าน ท่านใจร้าย” เลี่ยงเฟิงขยับกายเดินถอยหลังหนีหานเสี่ยว์เพื่อไปแจ้งท่านพ่อ แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงเล็กแหลมเอ่ยออกมา

“ท่านพี่ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ อีกอย่างท่านแม่ก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ท่านแม่เอ่ยด้วยซ้ำ แถมท่านแม่ยังโอบกอดข้าทำให้ข้านอนอย่างสบายอีกด้วย” ลู่เอ๋อร์เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมรอยยิ้มได้บอกกับเลี่ยงเฟิง

“เฮ้อ! ข้าก็คิดว่าท่านแม่ทำเช่นนั้นอย่างที่เอ่ยออกมาจริง ๆ เสียอีกหัวใจของข้าแทบแตกสลาย "

“ฮึ ฮึ เจ้านี่ตลกชะมัด ข้าบอกพวกเจ้าแล้วอย่างไรว่าข้ามิใช่มารดาที่โหดร้ายกับพวกเจ้าอีกต่อไป ในเมื่อเจ้าเห็นว่าน้องสาวของเจ้าปลอดภัยดีเช่นนี้คงไม่เคลือบแคลงใจกับข้าแล้วใช่หรือไม่” เด็กชายตัวน้อยยิ้มออกมาอย่างเขินอายก่อนจะพยักหน้าให้นาง

“ขอรับ ข้าขอโทษที่คิดเช่นนั้น "

“เอาเถอะ เอาเถอะเจ้ามาก็ดีแล้ว เจ้าคงยังไม่ได้กินอาหารเช้าสินะ เข่อซิงเจ้าเตรียมมาให้คุณชายน้อยเลี่ยงเฟิงอีกหนึ่งที่เถิด” หานเสี่ยว์ได้หันไปสั่งกับเข่อซิงพร้อมพาเด็ก ๆ ทั้งสองมานั่งที่เก้าอี้

“ได้เจ้าค่ะ”

“ว่าแต่ลู่เอ๋อร์มานอนที่ห้องของท่านแม่ได้อย่างไร "

“ท่านพี่ข้าฝันร้าย ฝันว่าท่านพ่อได้รับบาดเจ็บเจ้าค่ะข้ากลัวมากจนสะดุ้งตื่นแต่ไม่รู้ทำไมข้าถึงมาหาท่านแม่ "

“ก็เพราะว่าเจ้าต้องการข้าอย่างไรล่ะ หากวันใดเจ้าฝันร้ายอีกก็มานอนที่ห้องข้าได้เสมอ ข้าจะไม่ลงกลอนประตูเพื่อว่าเจ้าจะมาหาในยามวิกาลอีก "

“ทำไมลู่เอ๋อร์ถึงได้มานอนกับท่านได้เพียงผู้เดียว หากข้าฝันร้ายบ้างข้ามาหาท่านแม่ได้หรือไม่ขอรับ” เลี่ยงเฟิงก้มหน้าพูดเพราะเขาเองก็อยากรู้เช่นกันหากได้นอนได้รับอ้อมกอดทั้งคืนจะอบอุ่นเพียงใด

“ได้สิ ไม่ว่าเจ้าทั้งสองจะมานอนกับข้า ข้าไม่ได้ว่าอันใดดีด้วยซ้ำเพราะข้าเองก็จะไม่ได้เหงา หากมีพวกเจ้ามานอนเคียงข้าง”

หานเสี่ยว์มองดูเด็กๆ อย่างเอ็นดู การที่มีเด็กทั้งเสมือนนางมีเพื่อนในมิติ หากนางได้ย้อนกลับไปโลกของตนเองคงคิดถึงเด็ก ๆ แน่ ๆ

“มาแล้วเจ้าค่ะ” เข่อซิงพร้อมสาวใช้อีกสามนางได้ยกอาหารมาจัดวางบนโต๊ะจนเต็มไปหมด ทั้งสามคนก็ได้กินอาหารพร้อมรอยยิ้มด้วยกัน เมื่อกินอาหารเสร็จก็ได้พากันออกมาเดินรับแสงแดดยามเช้าที่ส่องกระทบผิวกายอย่างอบอุ่น

เลี่ยงเฟิงเป็นเด็กพูดจาเก่งได้เล่าเรื่องราวความตื่นเต้นให้แก่หานเสี่ยว์ฟัง นางพาเด็ก ๆ เดินมาจนถึงบ้านเรือนที่มีศาลานั้งพักผ่อนล้อมรอบด้วยดอมไม้หลากหลายชนิด ผีเสื้อบินดมดอมเกสรมากมาย

“ลู่เอ๋อร์ เลี่ยงเฟิงพวกเจ้าอยู่นี้นี่เองวันนี้ข้าได้นำส้มมาฝากพวกเจ้าด้วย " น้ำเสียงนุ่มนวลได้เอ่ยขึ้นทำให้ทั้งสามคนหันไปมองสตรีตัวเล็กงดงามน่าทะนุถนอมจนหานเสี่ยว์หลุดปากชมนางออกมา

“ว๊าว^ ^ นี่คนหรือว่านางฟ้ากัน ” เข่อซิงรีบเข้ามากระซิบข้างหูของหานเสี่ยว์เมื่อเห็นแววตาของนางมองสตรีที่มาเยือนไม่เหมือนเคย

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านจำไม่ได้หรือเจ้าคะว่าสตรีที่มาเยือนผู้นี้คือผู้ใด ทำไมท่านต้องมองดูนางด้วยสายตาเช่นนั้น นางจะเข้ามาแย่งคุณชายเหิงเยว์จากท่านนะเจ้าคะ” หานเสี่ยว์ได้ยินเสียงกระซิบก็ได้หุบยิ้มและชักสีหน้าให้นิ่งเฉย ไม่รู้ว่านางเป็นผู้ใดเพราะความทรงจำในร่างเก่านั้นไม่ได้มีแม้แต่นิดเดียว เมื่อเข่อซิงบอกเช่นนั้นนางจึงต้องแสร้งเป็นหานเสี่ยว์ให้สมบูรณ์แบบ

สตรีนางนี้คือ “ลู่ฟาง ” เป็นบุตรของท่านป้าของคุณชายเหิงเยว์แต่ทว่านางนั้นได้แอบรักเหิงเยว์เช่นกัน และนางเองก็ไม่ชอบหานเสี่ยว์ที่เข้ามาอยู่เรือนแห่งนี้เท่าไหร่นัก

“ขอบคุณท่านอาลู่ฟางมาก ๆ ข้ากับลู่เอ๋อร์จะกินให้อร่อย” เลี่ยงเฟิงรีบไปรับตะกร้าที่ใส่ส้มมาจากมือของลู่ฟาง

“ว่าแต่ท่านพี่เหิงเยว์ไม่อยู่หรือ เหตุใดถึงปล่อยให้พวกเจ้ามาอยู่กับนางได้ พวกเจ้ารีบกลับไปที่ห้องของพวกเจ้าเถิดข้าจะปกป้องพวกเจ้าเอง” หานเสี่ยว์เห็นสตรีที่เข้ามาผู้นี้ตั้งท่านำเด็กไปยืนอยู่ด้านหลังนางก็รู้ทันทีว่าสตรีผู้นี้คิดเช่นไรกับนาง

“ฮึ ฮึ นี่เจ้าคิดว่าข้าจะทำมิดีมิร้ายกับบุตรของข้าอย่างนั้นรึ”

“ข้าไม่ได้คิด แต่ท่านทำจริง ๆ ข้าได้ยินมาว่าท่านทำร้ายทั้งสอง อีกอย่างเด็กทั้งสองก็มิใช่บุตรของท่านเสียหน่อย เห็นว่าท่านพี่ใจดีด้วยก็คิดว่าตนเองทำหน้าที่มารดาแท้ ๆ ของเด็ก ๆ ได้อย่างนั้นหรือ” แววตาที่ดุร้ายน้ำเสียงที่แดกดันทำให้หานเสี่ยว์เองก็โมโหที่จู่ ๆ นางมาต่อว่าเช่นนี้

“ฮึ ฮึ ถึงแม้ว่าข้านั้นมิใช่มารดาแท้ ๆ ของเด็ก ๆ แต่ข้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็นฮูหยินของเหิงเยว์ ส่วนเจ้าเป็นเพียงคนนอกมิได้ข้องเกี่ยวอย่ามายุ่ง ลู่เอ๋อร์เลี่ยงเฟิงเจ้าทั้งสองอิ่มกันแล้วก็กลับไปอ่านตำราเถิด " หานเสี่ยว์เองก็ไม่อยากมีปัญหากับสตรีงดงามผู้นี้สักเท่าไหร่ เพราะไม่รู้เลยว่านางเป็นผู้ใด แค่เห็นใบหน้าที่งดงามแต่แววตาของนางช่างน่ากลัวเหลือเกิน ชีวิตของหานเสี่ยว์ตอนนี้ขออยู่อย่างสงบและรอถึงเวลากลับมิติของตนเองเท่านั้น ไม่อยากต้องมามีเรื่องให้วุ่นวายปวดสมอง นางจึงได้สั่งเด็ก ๆ กลับห้องพร้อมตนเองที่เดินหนีเช่นกัน

“นี่เด็ก ๆ นางรังแกพวกเจ้าใช่หรือไม่ นางทำอาหารที่ไม่อร่อยบังคับให้พวกเจ้ากินใช่มั้ย "

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะท่านอาลู่ฟาง ท่านแม่ของข้าไม่ได้รังแกหรือบังคับข้าแม้แต่น้อยแถมท่านแม่ยังทำอาหารแสนอร่อยให้ข้ากับท่านพี่เลี่ยงเฟิงได้กินด้วย ไม่เชื่อท่านอาไปถามท่านพ่อสิเจ้าคะท่านพ่อก็เคยกินฝีมือของท่านแม่เช่นกัน” ลู่ฟางได้ยินลู่เอ๋อร์กล่าวก็ได้หันสายตามองหานเสี่ยว์ยังไม่พอใจ

“หากเป็นเช่นนั้นเจ้าก็กลับห้องเถิด อย่างไรนาางก็เคยทำร้ายพวกเจ้าอย่าได้ไว้ใจนาง ไม่แน่นางอาจจะวางแผนทำร้ายพวกเจ้าอีกก็ได้ “ หานเสี่ยว์ส่ายหน้าไปมาพร้อมเดินจากไป ส่วนลู่ฟางนางยังคงคาใจกับการเปลี่ยนแปลงของหานเสี่ยว์นางจึงได้ไปหาเหิงเยว์ที่ห้องของเขา

เมื่อมาถึงหน้าห้องของเหิงเยว์นางก็ได้มองดูเสื้อผ้าของตนเองให้จัดทรงอย่างงดงามก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน เหิงเยว์นั้นเขาเองก็กำลังครุ่นคิดเรื่องที่ฝ่าบาทนั้นได้มอบหมายให้เขาไปสืบหาและจัดการใต้เท้าที่ยักยอกไม่นำข้าวของของชาวบ้านมอบให้แก่วังกลวงแต่เขานั้นได้ยักยอกไว้ส่วนหนึ่ง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา เขาคิดว่าหานเสี่ยว์นางเดินมาจึงได้ต่อว่านาง

“เจ้าไม่เคยมาที่ห้องของข้าสักครา หรือเจ้าคิดได้แล้วว่าจะหย่ากับข้าถึงได้มาหาข้าถึงที่นี่” ลู่ฟางที่เดินเข้ามาได้ยินก็ดีใจตาลุกวาว

“ท่านพี่เหิงเยว์จะหย่ากับฮูหยินของท่านพี่หรือเจ้าคะ " เหิงเยว์ได้ยินเสียงที่มิใช่หานเสี่ยว์ก็รีบหันมามองผู้มาเยือน

“ลู่ฟางเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร มากับท่านป้าหรือ” เขากวาดตามองหาผู้ที่มากับลู่ฟางก็ไม่พบผู้ใด

“มิใช่เจ้าค่ะ ข้ามากับสาวใช้ท่านพ่อไปต่างแคว้นมาได้ส้มมาเยอะท่านแม่คิดถึงหลาน ๆ  จึงได้ใช้ให้ข้านำส้มมาให้แก่เด็ก ๆ แล้วเรื่องที่ท่านพี่เหิงเยว์เอ่ยมาเมื่อครู่เรื่องจริงหรือเจ้าคะ” นางรีบเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ เหิงเยว์พร้อมถามเรื่องที่นางอยากรู้ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวหรือนี่จะเป็นโอกาศที่ดีของนางแล้ว

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 12  ข้าจะเผยความชั่วของนางเอง

    บทที่ 12 ข้าจะเผยความชั่วของนางเองหานเสี่ยว์ลุกขึ้นยืนทอดสายตามองไปด้านนอกหน้าต่างตอบคำถามที่ลู่ฟางได้เอ่ยถาม“ใช่ ! ข้าเองไม่อยากจะให้นางต้องมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ อีกต่อไป ตลอดเวลาที่นางแต่งเข้ามาข้าเองก็ไม่ได้มีใจให้นางเลย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางรังแกเด็ก ๆ จนกระทั้งตอนที่นางตกน้ำจากการผลักของลู่เอ๋อร์ ข้าก็ได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านมาข้าเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเสียจริงปล่อยให้นางรักแกลูกของตนเองได้” เขาเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวดไม่รู้เรื่องที่ลูก ๆ ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานใจเช่นนี้“แล้วทำไมท่านพี่ถึงได้ไม่ลงโทษฮูหยินของท่านล่ะเจ้าคะเด็ก ๆ น่าสงสารเสียจริง”ลู่ฟางใบหน้าเศร้าสลดทำท่าทีสงสารเด็ก ๆ แสร้งว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่องทั้ง ๆ ที่นางเองก็รับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่นางไม่อยากจะบอกเหิงเยว์เพราะนางอยากให้เหิงเยว์ได้รับรู้ด้วยตนเอง และหย่าพร้อมไล่หานเสี่ยว์ออกจากเรือนนี้ไปส่ะ หลังจากนั้นนางจะเข้ามาแทนที่เอง“เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อของนางเป็นขุนนางที่มีอำนาจ แค่นางยอมหย่าให้ข้าก็ดีมากแล้ว ในตอนแรกนางบอกจะหย่าให้แท้ ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปไม่ยอมหย่าเสียอย่างนั้น ข้าเองจึงไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างช

    Last Updated : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 13  ออกตรวจตรา

    บทที่ 13 ออกตรวจตราเท้าคู่งามได้หยุดเดินพร้อมหันกลับมาถามบุรุษที่เดินตามหลังเอ่ยถามเสียงทุ่มต่ำ“ตอนนี้ก็ส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จสิ้นแล้วท่านเอ่ยเรื่องที่ท่านอยากพูดกับข้ามาเถิด " “ข้าอยากจะถามเจ้าเรื่องหย่า ตอนนี้ร่างกายของเจ้าก็หายดีแล้วเมื่อไหร่เจ้าจะไปแจ้งท่านพ่อของเจ้าเสียที”“ข้าก็คิดว่าเรื่องอันใด อย่างไรท่านเองก็ทนมาได้ตั้งห้าปี ช่วยทนต่ออีกสักนิดไม่ได้หรืออย่างไร ? หรือว่าท่านอยากจะใช้เวลาร่วมกับลู่ฟางในเร็ววัน เรื่องหย่าท่านไม่ต้องกังวลเมื่อถึงเวลาข้ายอมหย่าให้ท่านแน่แต่ยังไม่ใช่เวลานี้” คำพูดที่ออกจากปากของหานเสี่ยว์ทำให้เหิงเยว์ไม่พอใจเท่าไหร่นักที่นางพูดถึงลู่ฟาง“นี่เจ้าทำไมต้องเอ่ยถึงผู้อื่นด้วย แล้วทำไมต้องรอเวลาในเมื่อช้าหรือเร็วอย่างไรเจ้ากับข้าก็หย่ากันอยู่ดี "“ท่านไม่ต้องห่วงเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิข้าจะหย่าให้ท่านแน่นอน ส่วนเรื่องเหตุผลอะไรข้าไม่ขอเอ่ยหากหมดเรื่องจะคุยข้าต้องขอตัวก่อน” หานเสี่ยว์ไม่อยากจะสนทนาต่อจึงรีบเดินหนี เหิงเยว์ก็ยิ่งไม่เข้าใจนางจะหย่าเหตุใดต้องรอ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้รีบร้อนเขามีเรื่องที่ต้องจัดการเสียก่อน เป็นเรื่องที่ฝ่าบาทมอบหมายเขาต้องออกเ

    Last Updated : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 14 โดนลอบทำร้าย

    บทที่ 14 โดนลอบทำร้ายภายในห้องที่น่าอึดอัดผู้คนต่างพากันใส่หน้ากากเข้าหากันแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มให้แก่กันแต่ทว่าจิตใจนั้นมิใช่อย่างที่ใบหน้าแสดงอยู่ เหิงเยว์เองก็ทำท่าจิบสุราเพียงเล็กน้อยก่อนจะแอบรินทิ้งเมื่อใต้เท้าเจียวหั่วละสายตา ไม่นานฮูหยินก็ยกไก่ตุ๋นมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมเครื่องเคียงมากมาย“ไก่ตุ๋นแสนอร่อยของข้ามาแล้วเจ้าค่ะ "“กลิ่นหอมมากเลยขอรับ วันนี้ข้าต้องเจริญอาหารแน่ ๆ เลย " เหิงเยว์วางจอกสุราลงจ้องมองเนื้อไก่ที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างชื่นชม“แค่ท่านเอ่ยชมและชอบอาหารของข้าข้าก็ดีใจมากเลยเจ้าค่ะ งั้นน่องไก่น่องนี้ข้าขอยกให้ท่าน” ฮูหยินหยิบไก่มอบให้เหิงเยว์เขาเองก็กินเพื่อไม่ให้นางสงสัย เมื่อเขากินอิ่มก็ขอตัวกลับ ใต้เท้าเจียวหั่วกับฮูหยินก็ได้เดินออกมาส่งเหิงเยว์ที่หน้าเรือน“หากวันใดท่านผ่านมาที่นี่อีกก็แวะมาได้เสมอนะขอรับข้าจะให้ฮูหยินทำไก่ตุ๋นให้ท่านได้กินอีก”“วันนี้ข้าอร่อยมาก ไหนจะสุราที่ท่านได้มาช่างมีรสชาติแตกต่างจากแคว้นของเรานัก”“โฮ๊ะ ๆ ใช่มั้ยขอรับแคว้นเรานั้นเทียบไม่ติดเลยหากท่านชอบ ข้าได้มารอบหน้าจะให้บ่าวไปส่งให้ถึงที่เรือนเลยขอรับ ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะขอรับ”เหิงเ

    Last Updated : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่  15 คอยดูแล

    บทที่ 15 คอยดูแลหานเสี่ยว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้เลือดของเหิงเยว์ก็ไหลไม่หยุดกลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มเสื้อผ้าของนางเพราะตอนนี้นางกำลังโอบกอดร่างกายของเขาอยู่ไม่นานบ่าวไพรก็ได้พากันแตกตื่นมาช่วยยกร่างที่ได้รับบาดเจ็บของเหิงเยว์เข้าไปที่ห้องของเขา หานเสี่ยว์ตั้งสติเดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง แม้ว่านางจะไม่ได้ถูกชะตาแต่อย่างไรชายผู้นี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของตนเองนางจึงได้เข้ามาในห้องของเขา ก่อนจะสั่งให้สาวใช้ไปนำถังนำสะอาดและผ้ามาให้นาง "นี่เจ้าไปนำน้ำสะอาดมาให้ข้าพร้อมผ้าผืนเล็กโดยเร็ว""เจ้าค่ะฮูหยิน" นางได้รับคำสั่งและรีบเดินออกไปหาสิ่งที่หานเสี่ยว์สั่ง สาวใช้เดินกลับมาพร้อมถังน้ำยื่นผ้ามอบให้แก่หานเสี่ยว์นางได้นำผ้าชุบน้ำสะอาดบิดให้ผ้าหมาดเช็ดร่างกายของเหิงเยว์ที่นอนไร้สติอยู่ "มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านหมอมาแล้ว" สาวใช้ที่อยู่หน้าห้องเห็นท่านหมอเดินมาพร้อมเข่อซิงก็ได้เอ่ยออกมาเสียงดัง "เกิดอันใดขึ้นกับท่านผู้ตรวจการหรือขอรับ""ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านหมอช่วยตรวจเขาที " หานเสี่ยว์ร้อนใจกลัวว่าชายที่นอนอยู่บนเตียงจะจากเด็ก ๆ ไป ท่านหมอได้สั่งให้บ่าวถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออกพร้อมพลิกตัวข

    Last Updated : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 16 ไร้น้ำใจ 

    บทที่ 16 ไร้น้ำใจ ข่างเรื่องที่เหิงเยว์โดนรอบทำร้ายก็ได้เลื่องลือไปจนทั่วจนถึงหูของลู่ฟางนางจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมเหิงเยว์อย่างเป็นห่วงด้วยใจที่ร้อนรน "ข้ามาพบท่านพี่เหิงเยว์ตอนนี้ท่านพี่ฟื้นหรือยัง? " เมื่อมาถึงเรือนของเหิงเยว์ลู่ฟางก็ได้เอ่ยถามบ่าวรับใช้ในเรือนอย่างร้อนใจ"คุณหนูลู่ฟาง ตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ยังคงไม่รู้สึกตัวขอรับ" "เช่นนั้นข้าจะไปหาท่านพี่เหิงเยว์ที่ห้องนอนเอง ท่านพี่คงได้รับบาดเจ็บมากเลยสินะ "ดวงตาเศร้าสร้อยเมื่อนึกภาพที่เหิงเยว์นอนป่วย"ข้ามิอาจจะเอ่ยได้เพราะฮูหยินสั่งห้ามมิให้บ่าวไพร่ในเรือนพูดเรื่องนี้ขอรับ ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" พูดจบบ่าวรับใช้ก็ได้เดินจากไปเมื่อลู่ฟางได้ยินเช่นนั้นก็เคลือบแคลงใจหรือการบาดเจ็บนี่จะเป็นฝีมือของหานเสี่ยว์"เหตุใดถึงสั่งห้ามไม่ให้บ่าวที่เรือนเอ่ยเรื่องนี้หรือว่าเรื่องที่ท่านพี่เหิงเยว์ได้รับบาดเจ็บเกี่ยวข้องกับนางกันนะ ช่างเป็นสตรีที่เหี้ยมโหดเสียจริง ข้าก็คิดว่านางจะรักท่านพี่มาก ๆ เสียอีก " นางพึมพำอยู่ผู้เดียวพร้อมย่างกรายไปหาเหิงเยว์ที่ห้องเมื่อนางเข้ามาเห็นก็พบเหิงเยว์นอนอยู่บนเตียงนอนยังไม่ฟื้นนางเข้าไปใกล้ ๆ มองดูใบหน้าที่ซีด

    Last Updated : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย    บทที่ 17  ข้าอยากมีน้อง

    บทที่ 17 ข้าอยากมีน้องหานเสี่ยว์เดินฟัดเหวี่ยงออกมาอย่างน่าโมโหพร้อมพึมพำต่อว่าเหิงเยว์ที่เขากล่าวว่าตน"ข้ามิน่าช่วยคนเช่นนี้เลย ข้าไม่ได้นอนก็เพราะต้องดูแลทั้งคืนแต่กลับมาถูกต่อว่า ฮึ! จากนี้ต่อให้ท่านหายใจโรยรินอยู่ต่อหน้าแทบจะกราบแทบเท้าข้าก็ไม่ช่วยท่านแน่นอน เฮอะ" เข่อซิงเองก็คันปากอยากพูดจึงได้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีไม่พอใจของหานเสี่ยว์"นั้นสิเจ้าคะ ทั้ง ๆ ที่คุณหนูเฝ้าอยู่ทั้งคืนแท้ ๆ แต่เหตุใดคนที่ได้หน้ากลับเป็นสตรีนางนั้นกันหรือว่าคุณชายเหิงเยว์ฟื้นขึ้นมาพบเจอนางเป็นคนแรกจึงคิดว่านางนั้นเป็นผู้ดูแล นิสัยไม่ดีเลยเจ้าค่ะ""ช่างประไร อย่างไรข้ามันก็แค่นางร้ายในสายตาของคุณชายเหิงเยว์อยู่ดี มีนางมาคอยเฝ้าดูแลก็ดีข้าจะได้มาต้องมานั่งคอยเป็นห่วง ข้าจะนอนพักอย่างสบายใจ ชิ " นางบ่นไม่ขาดปากเท้าก็ได้เดินมาหยุดที่ศาลารับลมกลางเรือน นางนั่งลงสงบสติอารมณ์ โดยมีเข่อซิงยืนเฝ้าอยู่ไม่ห่างกาย หานเสี่ยว์หายใจเข้าออกจนกระทั่งลมหายใจของนางกลับมาเป็นปกติ สายตาของนางเห็นว่ามีเกี้ยวของขุนนางที่ถูกข้ารับใช้แบกมาวางลงที่หน้าเรือน บ่าวรับใช้ของขุนนางผู้นี้ก็มีมากมายหากนางเดาไม่ผิดขุนนางผู้นี้ต้อง

    Last Updated : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 18 แผนของเด็กน้อยทั้งสอง

    บทที่ 18 แผนของเด็กน้อยทั้งสองเด็กทั้งสองเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของตนเองก็ได้มองหน้ากันอย่างมีเลศนัยก่อนจะมุดหัวชนกันเพื่อหารือวางแผน "ลู่เอ๋อร์ก่อนที่จะกินอาหารเย็นข้าจะไปแจ้งท่านอาว่าท่านพ่อทานอาหารพร้อมยาไปเสียแล้วเพื่อไม่ให้ท่านอาต้องไปดูแลท่านพ่อ ส่วนเจ้าไปตามท่านแม่ที่ห้องมาห้องของท่านพ่อให้ได้ แล้วจากนั้นเราต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ท่านพ่อกับท่านแม่นอนด้วยกัน" ผู้เป็นพี่ได้วางแผนบอกกับน้องสาว"โอ๊ะ ! อย่างนี้เราทั้งสองก็จะมีน้องเล็กเร็ว ๆ สินะเจ้าคะ ข้าตื่นเต้นจังเช่นนั้นข้าจะรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปทำตามแผนเจ้าคะ" ลู่เอ๋อร์ลี่ตาเล็กลงยิ้มมุมปากอย่างดีใจ "เช่นนั้นก็เอาตามนี้ " เลี่ยงเฟิงเองก็ได้เข้าห้องของตนเองเช่นกันไม่นานนักทั้งสองก็ออกมาจากห้องพร้อม ๆ กันก่อนจะมองหน้าให้กันและพยักหน้าทำตามแผนที่วางไว้ ฝั่งด้านลู่ฟางนางอาบน้ำที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเพื่อให้ร่างกายมีกลิ่นหอม จะได้ไปดูแลเหิงเยว์ในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิดนางมีแผนจะใช้ความใกล้ชิดทำให้เหิงเยว์หวั่นไหวโดยการสวมเสื้อด้านนอกอย่างละหลวมเพื่อเผยให้เห็นตู้โตวเมื่อนางก้มตัวลง นางแสยะยิ้มอยู่หน้ากระจกเมื่อนึกแผนการณ์หากม

    Last Updated : 2024-12-09
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย    บทที่ 19  แผนสำเร็จ

    บทที่ 19 แผนสำเร็จเลี่ยงเฟิงเดินย่ำเท้าไปที่ห้องของท่านพ่อโดยเร็วเมื่อเขาได้ไปแจ้งต่อท่านอาว่าไม่ต้องมาดูแลท่านพ่อของตนเอง เขาจึงรีบมาก่อนที่ลู่เอ๋อร์จะพาท่านแม่มาถึงก่อน แม้เขายังเป็นเพียงเด็กแต่ก็รู้ดีเรื่องที่ท่านอาลู่ฟางนั้นเสแสร้งเป็นผู้ดูแลท่านพ่อ แต่หาใช่เป็นเช่นนั้นไม่ ความยุติธรรมที่ท่านพ่อเคยสั่งสอนทำให้เลี่ยงเฟิงต้องแจ้งความจริงให้ท่านพ่อได้รู้ว่าผู้ใดที่ดูแลท่านพ่อที่แท้จริงเหิงเยว์แม้จะได้รับบาดเจ็บแต่เขาเองก็ต้องรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทได้รับรู้จึงได้เดินไปที่ห้องทำงานของตนเองหยิบพู่กันจุ่มหมึกดำมาเขียนสารส่งให้กับฝ่าบาท เมื่อเขาเขียนเสร็จแล้วก็ได้เดินออกมาด้านนอกเรียกหาคนสนิทของเขาให้นำสารนี้ไปมอบให้ฝ่าบาท "ตงหยาง เจ้าอยู่แถวนี้หรือไม่""ขอรับนายท่าน""เจ้าจงนำจดหมายนี้ไปมอบให้แก่ฝ่าบาททีและต้องให้ถึงมือของฝ่าบาทอย่าให้ผู้ใดได้เห็นเนื้อความในนี้เด็ดขาด" ตงหยางรับจดหมายมาซุกเข้าด้านในเสื้อของตนพร้อมรับคำสั่ง"ขอรับ""อย่าพึ่งไป ตลอดเวลาที่ข้าให้เจ้าจับตาดูหานเสี่ยว์นางเป็นเช่นไรบ้าง""ฮูหยินก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีแผนอันใดนะขอรับ แถมยังเอ็นดูคุณชายกับคุณหนูเป็นอย่างดี แม

    Last Updated : 2024-12-10

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บที่ 39  น้องของสองแฝด

    บที่ 39 น้องของสองแฝด1 ปีต่อมา หลังจากวันนั้นหานเสี่ยว์ก็ได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับเหิงเยว์ใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางนั้นได้ตั้งท้องให้กับเหิงเยว์จนตอนนี้ท้องเริ่มแก่มากแล้ว แถมฤดูนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย เหิงเยว์จึงเฝ้าประคบประหงมไม่ให้หานเสี่ยว์ไปใกล้แม่น้ำนั้นอีกเลย ในตอนแรกเขาแทบสั่งให้บ่าวนำดินมากลบบ่อน้ำนั้นไปส่ะเพราะกลัวว่าหานเสี่ยว์คิดจะกลับไปอีก แต่ถูกนางขอไว้ เพราะนี่คือความทรงจำที่ดีของนางหากไม่มีบ่อน้ำนี้ก็ไม่มีนางเช่นกัน เหิงเยว์ถึงยอมตามใจฮูหยินของเขา "คุณหนูเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะยืนนาน ๆ จะทำให้เหนื่อยเอาได้นะเจ้าคะท้องของคุณหนูก็โตมากกว่าสตรีที่อายุครรภ์เท่ากันด้วยซ้ำ หรือว่าคุณหนูจะตั้งท้องแฝดเจ้าคะ"เข่อซิงที่คอยประคองหานเสี่ยว์ได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ท้องของหานเสี่ยว์ "จริงหรือท่านแม่ เช่นนั้นก็ดีนะสิ" เลี่ยงเฟิงที่เดินมาจากห้องของตนเองก็ได้ยินที่เข่อซิงกล่าว "ท่านแม่จะมีน้องสองคนหรือเจ้าคะ งั้นก็เป็นเรื่องดีเสียจริงข้ากับท่านพี่จะได้ไม่ต้องแย่งกัน น้องจ๋าเจ้าจงออกมาเป็นหญิงหนึ่งบุรุษหนึ่งนะได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่" ลู่เอ๋อร์ใช้มือเล็กลู

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง

    บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง"หานเสี่ยว์เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นนี่ก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ข้าเฝ้ารอเจ้าอยู่ทุกวันเด็ก ๆ ทั้งสองก็อยากเข้ามาหาเจ้าแต่ข้าก็ต้องโกหกไปว่าเจ้าไม่สบาย เพราะข้าไม่อยากให้เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ต้องเสียใจที่รู้ว่าเจ้าจากไป เจ้าอยู่ที่ใดไม่สงสารใจข้าบางหรือ ข้าทำได้เพียงเฝ้ารอเจ้าอย่างท้อใจข้ามิอาจทำเช่นใดได้เลยกับมาหาข้าเถอะนะ หานเสี่ยว์ ไม่สิซู่ซ่าน หรือว่าจิวฉิง ไม่ว่าเจ้าจะชื่อนามอันใดข้าก็รักที่เจ้าเป็นเจ้ากลับมาหาข้าเถอะนะตอนนี้หัวใจของข้าแทบสลายแล้ว อย่าจากข้าไปเลย ข้ารักเจ้า เจ้าได้ยินมั้ยว่าข้ารักเจ้าเพียงใด" น้ำเสียงโศกเศร้าใบหน้าซูบผอมของเหิงเยว์ที่คร่ำครวญอยู่ข้างร่างหานเสี่ยว์พร้อมจับมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย "รักเพียงใดหรือเจ้าคะ" จิวฉิงที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ก็ส่งยิ้มพร้อมเอ่ยถามบุรุษที่พร่ำรักนางอยู่ต่อหน้า"ข้ารักเจ้ามาก ชีวิตของข้าก็ให้เจ้าได้ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินางยังไม่ฟื้นนี่น่าหรือว่าข้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว " เหิงเยว์ชะงักเมื่อจู่ ๆ เขาก็ตอบคำถามหานเสี่ยว์ จึงได้ใช้มือตบหน้าตนเองเบา ๆจนหานเสี่ยว์ต้องจับมือของเขาเอาไว้"อย่าตีตนเองเลยนี่มิใช่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป"นี่เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไปจริง ๆ หรือ แล้วข้าจะอยู่อย่างไรเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไร ไม่ข้าไม่เชื่อเจ้าต้องฟื้นสิ ท่านหมอหลอกลวงข้าเจ้าต้องฟื้น แล้วเช่นนี้ข้าจะทนได้อย่างเล่าในเมื่อตอนนี้ข้ารักเจ้าหมดทั้งหัวใจ " ความเคว้งคว้างในหัวใจของเหิงเยว์ได้ก่อตัวขึ้น เขาซบหน้าลงซบร่างกายของหานเสี่ยว์สะอึกไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในห้องก็มีเพียงเสียงร้องไห้ทุกข์ระทมของทุกคน เหิงเยว์ทำอะไรมิได้ทำได้เพียงร้องไห้แม้แต่เรี่ยวแรงที่เช็ดน้ำตาของตนเขายังทำไม่ได้เสมือนโลกทั้งใบได้แตกสลายไปแล้ว ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาได้เสียซู่ซ่านไปมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อให้เขาเรียกนางซ้ำ ๆ เท่าไร่ร่างบางที่นอนแน่นิ่งก็มิอาจตอบสนอง "ข้ามิอาจจะช่วยเหลือฮูหยินของท่านได้ ต้องขออภัยอีกครั้งร่างที่นอนไร้สติของฮูหยินไม่นานชีพจรอาจจะหยุดเต้น ถึงเวลานั้นท่านคงรู้นะขอรับ หมดหน้าที่ข้าแล้วข้าขอตัว" ท่านหมอโค้งคำนับพร้อมออกจากห้องไป ปล่อยให้เหิงเยว์จมอยู่กับความทรมานใจอยู่เช่นนั้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นท่านหมอ แต่เมื่อเงยหน้ามองกลับพบเห็

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 36 ลาก่อน

    บทที่ 36 ลาก่อนฝั่งด้านหานเสี่ยว์นางกินอาหารเย็นเสร็จสิ้นก็ไล่ให้เข่อซิงกลับไปพักผ่อน วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่นางรอคอยมาตลอด จึงอ้างกับเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ว่านางมีอาการไม่ค่อยสบายจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย เด็กทั้งสองเห็นท่านแม่มีอาการแปลกไปจึงคิดว่าไม่สบายจริง ๆ และไม่อยากรบกวนให้ท่านแม่ได้พักผ่อน นางรอจนทุกคนเข้านอนเมื่อนางเปิดประตูดูสถานการณ์ด้านนอกเมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงได้เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่สระน้ำอยู่ด้านหลังเรือน ความเงียบสงัดทำให้หานเสี่ยว์เองก็รู็สึกเงียบเหงาเหลือเกิน นางเดินไปอย่างเชื่องช้า มองรอบ ๆ เห็นภาพความทรงจำที่ผ่านมาน้ำตาใส ๆ ก็เริ่มเอ่อนอง ความผูกพันธ์กับคนที่นี่ล้วนมีความหมายกับนางเหลือเกินมันเป็นความทรงจำที่มีค่ามาก ๆ ยิ่งก้าวเท้าเดินก็ยิ่งเจ็บถึงขั่วหัวใจ รอยยิ้มแววตาของเด็กทั้งสองที่คอยยิ้มให้ก็ยิ่งทำให้นางร้องไห้มากกว่าเดิม แต่ทุกอย่างนางต้องทิ้งไว้ที่นี่ "จากนี้ข้าคงไม่ได้พบเจอพวกเจ้าอีกแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีความสุขในทุก ๆ วัน ลาก่อนนะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ " เมื่อมาถึงสะพานหานเสี่ยว์ก็ได้ก้าวเท้าขึ้นไปยังสะพานเพื่อไปอยู่ตรงกลางแม่น้ำ ก่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 35  คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลา

    บทที่ 35 คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลารุ่งสางมาเยือนอีกคราหานเสี่ยว์ร้องไห้ทั้งคืนเมื่อนางตื่นเช้ามาเปลือกตาของนางก็มีอาการบวมแดง เข่อซิงได้เข้ามานำน้ำมาให้นางล้างหน้าล้างตาก็ต้องตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย"คุณหนูข้านำน้ำมาให้เจ้าค่ะ วันนี้ด้านนอกอากาศดีมากหากคุณหนูล้างหน้าเสร็จแล้วเราไปด้านนอกดีมั้ยเจ้าคะ" "ดีเช่นกัน" หานเสี่ยว์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาเข่อซิงเองก็ช่วยแปรงผมให้ ไม่นานทั้งสองก็ได้ออกมารับลมด้านนอกต้นไม้นานาชนิดเริ่มผลิใบเขียวขจี อากาศสดชื่นยิ่งนักหานเสี่ยว์ทอดสายตามองเหล่าผีเสื้อแมลงปอต่างพากันบินวนดมเกสรดอกไม้เพื่อดำรงชีวิต "คงถึงเวลาแล้วสินะ" นางเอ่ยออกมาเมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปแต่หัวใจของนางตอนนี้ช่างปวดร้าวเหลือเกิน ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางรอคอยเวลานี้มาตลอด นางคิดว่าวันที่นางไม่อยู่เด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรจะคิดถึงนางหรือไม่? หรือจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะคิดถึงนาง แต่หากนางไม่ไปก็เป็นห่วงคุณย่าที่รอคอยนางอยู่อีกโลก นางยังมีห่วงหากจะอยู่ที่นี่ต่อ หานเสี่ยว์ยังคงต้องรอวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงนางถึงจะกลับได้ นางถึงเอ่ยถามเข่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 34  เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ

    บทที่ 34 เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะเข่อซิงเมื่อรับรู้ว่าคุณชายเหิงเยว์ต้องการอยู่เพียงลำพังกับนายหญิงของตนนางก็ก้มหน้าเพื่อรับรู้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมนางเองก็อยากให้นายหญิงของตนมีความสุขเสียที เพราะอย่างไรตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ก็ได้แสดงท่าทีว่ารักนายหญิงของนางเข้าแล้วและพร้อมจะดูแลนางตลอดไป เพียงแต่นายหญิงของนางต่างหากที่เริ่มเปลี่ยนไป "อย่าพึ่งไปอยู่ชมจันทร์กับข้าเสียก่อน ""ไม่ข้าอยากจะพัก ข้าเหนื่อย" เหิงเยว์มองใบหน้าของหานเสี่ยว์ก่อนจะตัดสินใจอุ้มนางมาอยู่ในอ้อมแขน ทำให้นางตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวและกลับตกจากอ้อมแขนของเขา"หากข้าอุ้มเจ้าอยู่เช่นนี้เจ้าคงไม่เหนื่อยใช่หรือไม่ ?""อ๊าย ! นี่ท่านทำอะไรของท่านปล่อยข้าลงไปนะ ""ทำไมล่ะ เจ้าเอ่ยเองว่าเจ้าเหนื่อยข้าก็ช่วยให้เจ้าได้พักอยู่นี่อย่างไรล่ะ ""มะ....ไม่ต้องปล่อยข้าลง ข้ายืนเองดีกว่า""ฮึ ก็ได้ " เขาปล่อยนางให้ยืนเอาเอง ตอนนี้หัวใจของหานเสี่ยว์เต้นแรงเมื่อร่างกายสัมผัสกันแถมเมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มนางได้กอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกได้ยินเสียงหัวใจของเหิงเยว์ที่เต้นไม่เป็นจังหวะทั้ง ๆ ที่นางพยายามห

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 33  ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ

    บทที่ 33 ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะหานเสี่ยว์ย้อนคิดในยามที่ตนตกอยู่ในอันตรายมันช่างโหดร้ายมากแค่ไหน ทุกหนทางช่างน่ากลัวจนไม่คิดว่าตนเองจะรอดกลับมายิ่งมารู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของลู่ฟางนางยิ่งโกรธไปมากกว่าเดิม จนไม่สามารถอภัยให้ได้หากเทียบกับสิ่งที่นางทำ"แม้ว่าข้าจะโกรธนางมากเท่าไหร่แต่ข้าก็มิอาจจะสั่งให้ตัดหัวนางได้ ข้าอยากให้นางอยู่ใช้ชีวิตและเรียนรู้ว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้มิได้มาแต่โดยง่ายการใช้ชีวิตก็เช่นกัน ข้าอยากให้โบยนางสัก 50 ครั้งและเนรเทศไม่ให้นางมาเหยียบที่แคว้นพร้อมปลดครอบครัวของนางยึดทรัพย์สินให้จนหมดให้นางไปใช้ชีวิตเยี่ยงสาวรับใช้เจ้าค่ะท่านพ่อ เท่านี้คงเพียงพอ" "เช่นนั้นก็เอาเช่นเจ้ากล่าวมา แล้วเจ้าเล่าเห็นดีกับบทลงโทษนี้หรือไม่ ? " ใต้เท้าห่าวอู่ได้หันไปถามเหิงเยว์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล"ขอรับ ไม่ว่าหานเสี่ยว์จะเอ่ยลงโทษนางเช่นใดข้าก็เห็นด้วย เพราะตอนนี้ข้ากับลู่ฟางตัดขาดสายเลือดกันแล้วขอรับ" หานเสี่ยวเหลือบไปมองใบหน้าของเหิงเยว์ก็มิได้เห็นใบหน้าแห่งความกังวลจึงคิดว่าเขาคงคิดอย่างที่เอ่ยมาจริง ๆ เมื่อพูดคุยกับท่านพ่อเสร็จก็ได้เดินทางกลับภายในห้องจึงมีเพียงเหิงเยว์กับหานเสี่ย

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 32 ตัดขาด

    บทที่ 32 ตัดขาดลู่ฟางไม่ได้สังเกตใบหน้าของเหิงเยว์เพราะหลงดีใจที่ได้ใกล้ชิดเขา เมื่อมาถึงเรือนของนางเหิงเยว์ก็ได้กระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะผายมือให้นางจับเพื่อกระโดดลงมา "ขอบคุณท่านพี่เหิงเยว์ที่มาส่งข้าที่เรือนเข้ามาด้านในก่อนเจ้าค่ะข้าจะให้สาวใช้เตรียมน้ำชาชั้นดีมาให้ท่านพี่ได้ดื่ม " นางเชิญเขาเข้าเรือนเมื่อนางก้าวเท้าเข้ามาก็ต้องพบกับทหารของวังหลวงจำนวนมากที่ตอนนี้ได้อ้อมล้อมเรือนของนางไว้หมดแล้ว และนี่ก็เป็นแผนของเหิงเยว์เขาได้ให้คนใช้ของเขาไปแจ้งเรื่องนี้กับใต้เท้าห่าวอู่หลังจากที่ช่วยเหลือหานเสี่ยว์ได้แล้ว ใต้เท้าห่าวอู่โมโหมากที่บุตรสาวคนเดียวของเขาต้องมาถูกกระทำเช่นนี้ "นี่มันเรื่องอันใดกันเจ้าคะ เหตุใดทหารถึงมาอยู่ที่เรือนของข้าเต็มไปหมด""เจ้าหยุดเสแสร้งเถอะ ที่หานเสี่ยว์ได้รับบาดเจ็บก็เพราะเจ้ามันเป็นแผนของเจ้า เรื่องราวครั้งนี้ข้ามิอาจปล่อยผ่านไปได้ เจ้าทำเช่นนี้ทำไม" เหิงเยว์ไม่ทนที่จะมองดูนางเสแสร้งต่อไปจึงได้เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา"ข้ามิได้ทำอันใดนะเจ้าคะ ข้าไม่รู้เรื่องที่ท่านพี่เหิงเยว์เอ่ยมาสักนิด"ลู่ฟางยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแต่แล้วนางก็ถูกดึงจากด้านหลังให้หันไป

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 31 ไม่มีทางให้อภัย

    บทที่ 31 ไม่มีทางให้อภัยเหิงเยว์ได้ควบม้าจนมาใกล้ถึงหุบเขาก็ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของหานเสี่ยว์เขาจึงได้ควบม้าไปหาเสียงนั่นทันที และเมื่อเขาเห็นนางกำลังถูกชายชั้นต่ำนันกำลังลวนลามยิ่งทำให้เขาเกรี้ยดโกรธเป็นอย่างมากที่กล้าใช้มือสกปรกแตะต้องฮูหยินของเขา เขาได้เข้าไปจัดการกับชายทั้งสองที่ยืนคอยอยู่อีกฝั่ง โดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตอบโต้แม้แต่น้อยไม่ช้าคนของเหิงเยว์ก็ได้ตามมาจนถึง เหิงเยว์มองเห็นหานเสี่ยว์ที่นั่งตัวสั่นร้องไห้ใช้มือกอดอกตนเองเพื่อปิดบังเรือนร่างตนเองเอาไว้ยิ่งทำให้เขาโมโหมากกว่าเดิมจนอยากจะฆ่าชายชั่วนั้นให้แหลกเป็นชิ้น ๆ แต่เขาเองก็อยากจะรู้ว่านี่คือการปล้นหรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังกันแน่ "เจ้าช่างกล้ามายุ่งกับฮูหยินของข้า การตายเท่านั้นที่คู่ควรกับเจ้า" ชายผู้นั้นเห็นว่าคนของเหิงเยว์นั้นมามากเหลือเกินหากเขาสู้ก็คงไม่มีทางรอดและคนของเขาก็ถูกเหิงเยว์จัดการจนหมดแล้ว ก็เกิดอาการกลัวตายทันที "นายท่านข้ากลัวแล้ว อย่าฆ่าข้าเลยนะขอรับ""เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือแล้วนางเล่าสตรีที่ไร้ทางสู้เพียงผู้เดียวแต่เจ้าตามไล่ล่านางถึงสามสี่คน ช่างกล้าเอ่ยออกมาว่ากลัวงั้นหรือ" เขาตวาดใส่เสียงแข

DMCA.com Protection Status