แชร์

บทที่๑๖ คนเห็นแก่ตัว

ผู้เขียน: ต้นไม้แห้ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-25 21:41:39

“นั่นสิครับคุณแม่ การที่พี่สะใภ้ทำแบบนี้ก็เหมือนกับว่าไม่เห็นหัวพ่อแม่สามีเลยนะครับ” อี้จางเหว่ยน้องชายต่างแม่ของตงหยางที่มีนิสัยเห็นแก่ตัว ปากพล่อย แต่กลับเป็นคนที่ขี้ขลาด

หนิงเหมยที่ได้ยินคำพูดของจางเหว่ยก็ได้แต่มองชายหนุ่มที่มีนิสัยลูกแหง่ติดแม่อย่างสมเพช ดูท่าแล้วชีวิตนี้ของชายหนุ่มไปไหนไม่รอด

“หึ! แล้วหล่อนจะมายืนเซ่ออยู่ทำไม รีบไปนำเงินพวกนั้นออกมากตัญญูต่อฉันกับตาแก่สิ

หรือหล่อนอยากจะโดนฉันสั่งสอนก่อน! เป็นลูกสะใภ้ตระกูลอี้ก็หัดกตัญญูต่อพ่อแม่สามีสะบ้าง ไม่ใช่ดีแต่นำของดีๆ พวกนี้มาประเคนให้คนข้างบ้านแบบนี้!”

“คุณแม่เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ ของพวกนั้นที่ฉันซื้อมาก็มาจากเงินที่ฉันล่าหมูป่ามาได้ ทว่าเงินที่เหลือกับของที่ซื้อมาฉันก็ซื้อของจำเป็นทั้งนั้นเพื่อจะนำมาไว้ทำอาหารให้สามี

ส่วนขนมของฝากพวกนี้ฉันก็ตั้งใจซื้อมาฝากป้าหม่าที่คอยช่วยเหลือฉันตลอด แต่กับคุณแม่ที่คอยเอาแต่บอกว่าตัวเองเป็นแม่สามีแล้วสั่งให้ฉันกตัญญู คุณแม่เคยคิดจะช่วยอะไรฉันกับสามีบ้างหรือคะ? หรือคุณแม่เลี้ยงฉันมา… ก็ไม่นิคะ!

ฉันไม่เห็นว่ามีความจำเป็นอะไรที่จะต้องกลับไปกตัญญูคุณแม่กับคนตระกูลอี้นะคะ เพราะพวกคุณไม่เคยแม้แต่จะดูดำดูดีฉันแล้วก็สามีของฉันเลยแม้แต่น้อย!”

หนิงเหมยรู้สึกหมดความอดทนกับคนเห็นแก่ตัวแบบนี้เต็มทน คิดจะเอาแต่ได้แต่ไม่คิดจะให้อะไรคนอื่นเลย ช่างเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและโลภมากอะไรขนาดนี้!?

“นี่หล่อนพูดอะไรห้ะ! ฉันเป็นคนเลี้ยงดูตงหยางมาตลอดแท้ๆ แต่เขากับไม่คิดจะกตัญญูต่อฉันบ้างเลยหรือยังไงกัน?!

ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้อะไรฉันจะไม่ยอมแน่!” นางโม่วโฉวกล่าวอย่างฉุนเฉียว เพราะคิดว่าการที่จะมาเอาของจากหนิงเหมยครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจากคนที่เคยหัวอ่อน ไม่กล้าที่จะสบตาหรือแม้แต่จะเอ่ยปากเถียงเธอด้วยซ้ำ ต่อให้จะโดนเธอด่าหรือตะคอกสักเท่าไหร่ก็ก้มหน้าตัวสั่นอย่างหวาดกลัว

แค่เธอสั่งนิดอะไรหน่อยหล่อนก็รีบวิ่งแจ้นไปหยิบไปทำตามคำสั่งแล้ว แต่นี่อะไรกัน?! หรือหล่อนจะโดนผีสิงจนเป็นบ้าไปแล้ว!

“สามีฉันก็ส่วนสามีฉันสิคะ แต่นี่เป็นของที่ฉันหามาได้ทั้งหมด ทำไมฉันต้องให้คุณด้วย? แล้วถ้าเป็นฉันฉันก็คงไม่กล้าที่จะพูดนะคะว่าเป็นคนเลี้ยงดู เพราะสามีฉันต้องดิ้นรนขึ้นเขาเพื่อหาของมาขาย ทำงานบ้านอย่างหนัก จนคุณแม่บังคับให้สามีฉันไปสมัครเป็นทหารเพราะคุณแม่อยากที่จะสบาย แล้วสามีฉันล่ะคะ?!

เขาต้องออกไปเป็นทหารตั้งแต่อายุ17! เงินทุกหยวนที่คุณแม่ได้มีใช้ได้สร้างบ้านใหม่หลังใหญ่โตทนแดดทนฝนก็ไม่ใช่เพราะสามีของฉันหรือคะ?

พอสามีฉันบาดเจ็บกลับมาคุณแม่ก็ยึดเงินชดเชยไปจนหมด ไหนจะพอเห็นว่าไม่มีวี่แววที่สามีฉันจะกลับมาเดินได้พวกคุณก็รีบขับไล่พวกฉันออกมาจากตระกูลไม่ใช่หรือคะ ลืมกันไปหมดแล้วหรือว่าพวกคุณทำอะไรกันเอาไว้บ้าง?! แล้วแบบนี้ยังจะมาถามหาความกตัญญูอะไรจากฉันกับสามีอีก!” หนิงเหมยระเบิดอารมณ์ที่ติดอยู่ภายใต้จิตใจเศษความรู้สึกที่หลงเหลือของหนิงเหมยคนเก่าทั้งน้ำตา ความรู้สึกเจ็บปวดหรืออัดอั้นตันใจกับสิ่งเธอที่เคยโดนกระทำมาอย่างอยุติธรรมมาตลอด

นางโม่วโฉวที่เจอหนิงเหมยตอกกลับอย่างระรัวก็ถึงกับนิ่งอึ้ง ทว่าตัวของเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะหาคำมาโต้ตอบหญิงสาวตรงหน้าอย่างไร

ทำได้แค่รู้สึกไม่พอใจแล้วชี้หน้าหนิงเหมยอย่างโกรธเคือง!

“พี่สะใภ้พูดอะไรไว้หน้าคุณแม่หน่อยเถอะ! ยังไงคุณแม่ก็ถือว่าเป็นแม่ของพี่ใหญ่อยู่ดี”

ทันทีที่หนิงเหมยได้ยินคำพูดของจางเหว่ย ก็อดไม่ได้ที่จะเหยียดยิ้มออกมา

“นายนั่นแหละที่จะต้องหุบปาก ฉันพูดจาไม่ไว้หน้าแม่นายตอนไหน? ที่ฉันพูดก็เป็นเรื่องจริงทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง

อย่างเงินที่นายนำไปถลุงในบ่อนก็เงินสามีของฉันทั้งนั้น! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้”

หนิงเหมยพูดจบก็หันใบหน้าเปลี่ยนทิศทางไปทางหญิงสาววัยแรกแย้มหน้าตาจิ้มลิ้มน้องสาวคนเล็กต่างแม่ของตงหยางอีกหนึ่งคน ที่มีนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยสนใจอะไรใครถ้าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับตัวเองจริงๆ

ซึ่งหนิงเหมยก็ไม่ได้สนใจใบหน้าซีดเผือดที่โดนจับได้ว่าตัวเองแอบนำเงินไปเข้าบ่อนเลยแม้แต่น้อย!

“น้องสามพาแม่ของเธอกลับไปเถอะแล้วอย่าให้มาวุ่นวายที่บ้านของฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะต้องแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านแล้วเอาเรื่องจริงๆ!

พวกเราตัดขาดกันไปนานแล้ว อย่าคิดจะมาวุ่นวายกับครอบครัวของฉันอีก”

“ค่ะพี่สะใภ้ ฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่ปล่อยให้คุณแม่กับพี่ชายมาวุ่นวายที่นี่” หญิงสาวตอบกลับออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทั้งที่ลึกๆแล้วรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะมุดดินหนีกับนิสัยของคนเป็นแม่แล้วก็พี่ชาย

นางโม่วโฉวที่ได้ยินคำพูดของลูกสาวตัวเองก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ

“แกจะไปขอโทษหล่อนทำไม หล่อนกำลังต่อว่าฉันนะ ฉันที่เป็นแม่ของแกแกต้องช่วยฉันสิ! แกนี่มันไม่ได้เรื่องไม่สมกับเป็นลูกฉันเลยจริงๆ!”

“แต่แม่คะ…”

“แกไม่ต้องพูด หุบปากแล้วไสหัวกลับบ้านไป! พาพี่ชายของแกกลับไปด้วย!?” นางโม่วโฉวตะคอกใส่ลูกสาวอย่างฉุนเฉียว

ได้แต่คิดในใจว่ามีลูกสองคนไม่มีใครได้ดั่งใจตัวเองสักคน ไม่ได้เรื่องจริงๆ!

“ค่ะ!” อี้เจียอีพูดจบเธอก็รีบลากพี่ชายออกไปด้วยกันทันที

ส่วนหนิงเหมยที่อยู่ข้างๆ ป้าหม่าก็ทำเพียงยืนฟังบทสนทนาของทั้ง3คนเงียบๆ ก่อนที่จะเห็นเด็กสาวลากพี่ชายออกไป

“แล้วคุณแม่สามีไม่กลับไปด้วยหรือคะ จะอยู่อีกทำไม?” หนิงเหมยที่เห็นนางโม่วโฉวทำท่าทางหงุดหงิด ก็เลยแกล้งถามออกมาอย่างยียวน

“หึ! ฉันก็อยากจะรู้นักว่าแกจะแน่สักแค่ไหน!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๗ มนุษย์ป้า!

    หนิงเหมยที่ได้ยินคำพูดของนางโม่วโฉวก็จ้องมองอย่างสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามออกมา“ทำไมหรือคะ หรือคุณแม่คิดว่าฉันไม่กล้า?”“คนอย่างหล่อนน่ะหรือจะกล้าทำอะไรแบบนั้น ฉันเป็นแม่ของของตงหยางถ้าเกิดเขารู้ว่าหล่อนทำอะไรกับฉันไว้บ้างเขาคงจะไม่พอใจแน่” นางโม่วโฉวเอ่ยแกมขมขู่“ฮ่าๆ … คุณแม่อย่าคิดจะเอาสามีมาขู่ฉันเลยค่ะ เขาจะมาโกรธอะไรกับคนที่คอยดูแลเขาอย่างฉันได้”“นั่นมันก็…” นางโม่วโฉวรู้สึกว่ายิ่งเถียงกับหนิงเหมยมากเท่าไหร่ตนเองก็ยิ่งเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยที่จะต้องมารู้สึกแบบนี้แท้ๆ!นางหม่าที่เห็นว่านางโม่วโฉวได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ คิดคำเถียงไม่ออกจึงได้แต่เอ่ยขึ้นมาอย่างห้ามทัพหลังจากที่ฟังมานาน“นางโม่วหล่อนจะมาเอาอะไรกับนังหนูเหมยอีกเล่า! ทุกวันนี้ครอบครัวลูกชายคนโตของหล่อนก็ลำบากมาตลอดไม่ใช่หรือ ที่ทุกวันนี้เขาพิการก็ไม่ใช่เพราะหล่อนหรือยังไง?ทั้งๆ ที่หนิงเหมยเพิ่งจะหาทางอ้าปากรอดได้ แต่หล่อนก็คิดจะมาแย่งออกไปอีก หล่อนคิดจะให้พวกเขาตายจริงๆ เลยหรือยังไง ทำแบบนี้ไม่อำมหิตเกินไปหรือ?!”‘นั่นสิ หล่อนคิดจะให้ทั้งสองคนตายจริงๆ เลยหรือยังไงกัน?!’ ‘คนบ้านอี้ใจดำอำมหิตกันเกินไปแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๘ หยอดหน้านิ่ง

    ฮ่าๆๆ …“ป้าหม่าสุดยอดไปเลยค่ะ! เถียงสะแม่สามีฉันอึ้งไปเลย ฮิฮิ” หนิงเหมยเอ่ยชมแกมขบขัน“หึหึ! เธอก็ใช่ย่อย ฉันไม่ยักจะรู้ว่าเธอจะปากคอเราะร้ายขนาดนี้ อย่างนี้ฉันเชื่อว่าแค่เธอคนเดียวก็เอานางโม่วโฉวอยู่หมัด”“ป้าหม่าก็ชมเกินไปแล้วค่ะฮ่าๆ …”หนิงเหมยที่เห็นป้าหม่ากวาดตามองขึ้นบนท้องฟ้า“เอ่อ… นี่ก็เย็นแล้วป้าหม่ารีบเข้าบ้านเถอะค่ะ รบกวนป้าหม่ามานานแล้ว”“เพ้ย! รบกงรบกวนอะไรกัน เอาล่ะๆ ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าบ้านก่อนส่วนเธอก็กลับบ้านไปได้แล้ว ป่านนี้ตงหยางไม่รอเก้อแล้วหรือ?”“โอ๊ะ! จริงด้วยค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ!”พูดจบหนิงเหมยก็รีบหันหลังสับขาวิ่ง4x100กลับบ้านจนลืมว่าต้องรอให้ป้าหม่าเข้าบ้านไปก่อนนางหม่าที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างยิ้มๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าบ้านของตนเองเช่นกัน“สามีแฮ่กๆ … ฉ…ฉันมาแล้วค่ะ!” หนิงเหมยยืนหอบแฮ่กๆ เอ่ยบอกสามีอย่างขาดห้วงเพราะหายใจไม่ทัน“ภรรยาคุณมาแล้ว ทำไมไปนานจังเลยครับ? แล้วนี่คุณไปทำอะไรมาถึงได้หอบขนาดนี้ล่ะครับ”ตงหยางที่กำลังรอหนิงเหมยอยู่ เมื่อได้ยินเสียงหนิงเหมยก็รีบหันมามองทันที แต่เมื่อเห็นสภาพเหนื่อยหอบของคนเป็นภรรยาก็อดที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๙ สีหน้าคุณตอนนี้น่ารักมาก

    ตงหยางที่เห็นสีหน้าตื่นตะลึงของหนิงเหมยก็อดไม่ได้ที่หัวเราะออกมาด้วยความขบขันเอ็นดู“ฮ่าๆ … ภรรยารู้ไหมครับว่าสีหน้าของคุณตอนนี้น่ารักมากขนาดไหน?”“สามีก็พูดชมฉันเกินไปแล้ว แต่จะว่าไปฉันก็รู้ตัวมานานแล้วแหละค่ะว่าฉันน่ะสวย แล้วก็รวยมาก!” หนิงเหมยเอ่ยโอ้อวดตนเองก่อนที่จะค่อยๆ แสร้งเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง“เอ่อ…แต่ภรรยาครับ เรายังไม่รวยเลยกันเลยนะ แบบนี้จะเรียกว่าสวยแล้วก็รวยมากได้ยังไง?”เพล้ง!ไม่ใช่เสียงอะไร แต่เป็นเสียงเศษหน้าของเธอที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เอง! สามีหน้าเหม็นคนนี้ชักจะเริ่มพูดจาไม่เข้าหูเธอแล้วจริงๆ!?ตอนนี้ฉันแทบจะถือว่ารวยที่สุดในหมู่บ้านเลยนะตอนนี้น่ะ แต่คุณแค่ไม่รู้ต่างหากเล่า ชิ!หนิงเหมยที่โดนสามีหน้าเหม็นคนนี้เอ่ยขึ้นขัดความสุข เธอก็ถึงกับต้องสะบัดใบหน้าหันไปจ้องมองสามีอย่างไม่ใคร่จะพอใจ!ตงหยางที่โดนภรรยาจ้องมองอย่างไม่พอใจ ก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วได้แต่คิดในใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า จึงเอ่ยปากถามออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ“อ…เอ่อ ภรรยาค…ครับ ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ?”“ไม่ค่ะ! คุณไม่ได้พูดอะไรผิดเลย ผิดที่ฉันมันจนเอง!” พูดจบหนิงเหมยก็สะบัดหน้าหนีสามีอย่างแง่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๒๐ อยากรู้ว่าปากหวานไหมก็ต้องลองชิม

    “อ้อ…ฉันกำลังจะปรับหน้าดินน่ะค่ะ คิดว่าจะใช้ประโยชน์จากแปลงผักที่เหลืออยู่พวกนี้ลองปลูกผักเอาไว้กินเองสักหน่อย”“โอ้! อย่างนั้นหรือ ดีๆๆ! ต่อไปจะได้ไม่ต้องไปซื้อกินปลูกเองแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แต่การปรับหน้าดินที่เธอพูดมาฉันอยู่จนอายุป่านนี้แล้วก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”หนิงเหมยที่ได้ยินคำพูดของป้าหม่าก็ถึงกับตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนยุคนี้จะยังไม่รู้จักวิธีการปรับหน้าดิน ถึงว่าผักที่พวกชาวบ้านปลูกกันถึงไม่ค่อยจะโตเท่าที่ควร“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แค่บังเอิญไปเห็นในหนังสือตำราว่ามีวิธีการแบบนี้อยู่ด้วยว่าการปรับหน้าดินจะช่วยทำให้พืชผักเติบโตได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ก็เลยลองทำดูน่ะค่ะ” หนิงเหมยเอ่ยแถออกมาจนสีข้างแทบจะถลอก!“อย่างนั้นหรือ เอาไว้ฉันจะรอดูผักที่เธอปลูกถ้าหากว่าดีจริงๆ เธอก็อย่าลืมมาสอนฉันด้วยล่ะ”“ได้สิคะ ถ้าฉันทำสำเร็จฉันจะไปสอนป้าหม่าเป็นคนแรกเลยค่ะ” ที่หนิงเหมยเอ่ยเช่นนี้ก็เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยจะมั่นใจกับวิธีการปรับหน้าดินของเธอเช่นเดียวกัน ถึงเธอจะมีทฤษฎีอยู่เต็มหัวแต่ปฏิบัติเธอก็ยังไม่เคยลองเหมือนกัน!“ฮ่าๆ … ได้ๆ ฉันจะรอ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กวนเธอแล้วล่ะ ฉันกลับบ้านไปทำอาหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑ รับรู้ความจริง

    ‘อวิ๋นฟาง’ วันนี้เธออายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่ทว่าหลังจากที่ได้จัดงานวันเกิดอย่างมีความสุขแล้ว เธอยังได้พบเจอกับความจริงอันน่าเจ็บปวดอีกด้วยว่าเพราะเหตุใดเธอจึงต้องเรียนรู้ฝึกฝนการต่อสู้แขนงต่างๆ การทำอาหารหรือการทำขนมหวาน ไหนจะเรียนรู้เกี่ยวกับทางด้านบริหารธุรกิจต่างๆ อีกด้วย นั่นก็เพราะว่าหากเมื่อใดที่เธออายุครบ 20 ปี เธอจะต้องไปอยู่ยังที่ที่ห่างไกลที่มีทั้งความลำบากยากแค้นอีกด้วย!เมื่ออวิ๋นฟางได้รับกำไลข้อมือมาจากแม่อวิ๋นแล้วเธอก็อดที่จะรู้สึกเศร้าสลดไม่ได้ ทว่านางก็ต้องรีบทำใจให้ไวแล้วก็เตรียมพร้อมทุกๆ อย่างเอาไว้เพื่อตัวของเธอในอนาคตเองและต่อให้เธอจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน ก็ต้องเก็บมันเอาไว้ภายในใจ เพราะเธอรู้ดีว่าพ่ออวิ๋นแม่อวิ๋นั้นก็คงจะเสียใจไม่น้อยไปกว่าเธอ!“อวิ๋นฟางลูก… ในเมื่อตอนนี้กำไลหยกก็ได้อยู่กับลูกแล้วลูกอย่าลืมหยดเลือดใส่กำไรหยกเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของของหนูด้วยนะลูก ตลอดเวลา10กว่าปีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ช่วยเตรียมของให้ลูกมาได้เท่านี้ ส่วนอีก2ปีที่เหลือนี้หากว่าลูกอยากได้อะไรก็ใส่เข้าไปเพิ่มนะจ๊ะ พ่อกับแม่ก็ไม่รู้ว่าลูกอยากจะเตรียมอะไรไปบ้างก็เลยเตรียมเพียงแค่ของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๒ ซื้อของเตรียมตัว

    เมื่อซูหนี่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆจากปากเพื่อนสนิทหมดแล้วก็ถึงกับต้องอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจออกมา‘นี่… นี่เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ เธอจะมีชีวิตอยู่ที่แห่งนี้อีก2ปีเหรออึก! ล…แล้วฉันล่ะ ฮือ! เธอจะทิ้งฉันเหรอฮึกๆฮื้อๆ’ทันทีที่อวิ๋นฟางได้ยินเสียงปลายสายส่งเสียงร้องไห้โฮออกมาเธอถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องเอ่ยปลอบเพื่อนสาวของเธอคนนี้อย่างไรดี!?‘ซ…ซูหนี่เธออย่าร้องไห้ไปเลยนะ ฉันก็ยังมีเวลาอยู่กับเธออีกตั้ง2ปีไม่ใช่เหรอ อย่าร้องไห้ไปเลยนะโอ๋ๆ ตอนนี้ฉันไปโอ๋เธอไม่ได้นะ …ถ้าเธอยังไม่หยุดร้องฉันคงจะต้องร้องตามเธอแน่ๆ ล่ะ ’แม้เธอจะรู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้จะต้องเจ็บปวดกับการที่ต้องมารู้เรื่องการจากลาแบบนี้ แต่อย่างไรในเมื่ออีก2ปีเธอก็ต้องจากไปอยู่ดีไม่สู้เธอตัดสินใจบอกตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ? แม้จะเสียใจแต่ก็ยังมีเวลาได้ทำใจและตั้งใจใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข!เพราะฉะนั้นเธอไม่เสียใจเลยสักนิด ที่ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนสนิทฟัง‘อื้อ! ไม่ร้องแล้วๆ อึก! วันพฤหัสฉันก็คงจะกลับเมืองไทยแล้วล่ะ ถ้าฉันกลับไปถึงฉันจะรีบไปหาเธอเป็นคนแรกเลย! ’ซูหนี่พูดผ่านปลายสายพร้อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๓ อวิ๋นฟางมาแล้วจ้า!

    อวิ๋นฟางใช้เวลาชีวิตที่เหลืออยู่กับการฝึกฝนเรียนรู้ทุกๆอย่างอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ ส่วนเวลาที่เหลือจากการฝึกฝนเธอก็ไปเลือกซื้อของต่างๆ เพื่อเก็บใส่มิติไว้ยามฉุกเฉินเพราะอวิ๋นฟางถือคติว่า เหลือดีกว่าขาด! เธอยอมซื้อของไปแล้วไม่ได้ใช้ดีกว่าการที่ซื้อไปแล้วขาดดีกว่าซึ่งเธอทำแบบนี้ไปเรื่อยๆในทุกๆวัน จนกระทั่งมาถึงวันที่ไม่มีใครอยากให้มาถึง นั่นก็คือวันครบรอบอายุ20ปีของอวิ๋นฟางนั่นเอง…[20:30 น.] “สุขสันต์วันเกิดนะอวิ๋นฟางลูกรัก แม่ขอให้ลูกสาวของแม่มีแต่ความสุข มีแต่คนรักมีแต่คนเอ็นดูนะลูก ”อวิ๋นฟางที่เห็นท่าทางพยายามฝืนยิ้มทั้งที่ตาแดงเรื่อของผู้เป็นมารดาก็อดที่จะรู้สึกเศร้าขึ้นมาไม่ได้ แต่ก็ต้องฝืนยิ้มออกมาเพื่อให้ทุกคนสบายใจ!“ขอบคุณนะคะแม่อวิ๋น ขอบคุณที่รักและคอยดูแลหนูมาลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ทั้งๆที่หนูไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อกับแม่ด้วยซ้ำ อึก! หนูรักพ่ออวิ๋นกับแม่อวิ๋นที่สุดเลยค่ะ ฮือๆ …!” อวิ๋นฟางที่เอ่ยพูดออกมาอีกทั้งต้องพยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง ทว่าเธอก็ยังก็ไม่อาจกลั้นได้จนเผลอร้องไห้โฮออกมาจนคนที่มองอยู่ก็ยังต้องรู้สึกเศร้าเสียใจไปตามๆ กัน“พ่อกับแม่ก็รักลูกเหมือนกันนะจ้ะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๔ ความทรงจำของหนิงเหมย

    ซึ่งความทรงจำที่อวิ๋นฟางนั้นได้รับมาก็คือ เจ้าของร่างที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ก็คือ ‘หนิงเหมย’ หญิงสาวอายุ18ปี ที่เพิ่งจะแต่งเข้ามาในตระกูลอี้ได้ไม่ถึงปี แต่หลังจากที่แต่งงานได้ไม่นานสามีของเธอที่ชื่อว่า ‘ตงหยาง’ ซึ่งชายหนุ่มอายุ21ปี ที่แต่งงานกับหนิงเหมยได้ไม่ถึง3วันก็ต้องกลับไปเป็นทหารแต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง3เดือนด้วยซ้ำชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอก็ถูกหามกลับมาด้วยสภาพที่บาดเจ็บสาหัสกับเงินชดเชิดอีก200หยวน!ทว่าทันทีที่คนบ้านอี้รู้ว่าตงหยางสามีของหนิงเหมยได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่มีท่าทางที่จะกลับมาเดินได้ พวกเขาจึงได้ยึดเงินชดเชยที่ทางค่ายทหารได้ให้สามีเธอมาแล้วก็ขับไล่ทั้งสองคนออกจากผังตระกูลบ้านทันที!“หึ! ไอพวกเห็นแก่ตัวเอ้ย! ยังดีนะที่สามีของเจ้าของร่างคนเก่ายังพอมีหัวคิดบ้างที่เก็บเงินไว้กับตัวเองถึง300หยวน! ไม่อย่างนั้นละก็ฉันไม่อยากจะคิด… ”อวิ๋นฟางบ่นก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างปลดปลง“แต่ฉันเนี่ยทะลุมิติมาที่ยากจนข้นแค้นแบบนี้ยังไม่พอ พระเจ้ายังใจดีส่งสามีพิการมาให้ฉันอีกเหรอเนี่ย!?เอาวะ!!! เป็นไงเป็นกัน ต่อไปฉัน ‘อวิ๋นฟาง’ คนนี้จะเป็น ‘หนิงเหมย’ คนใหม่เอง!”❃ต่อไปจะเรียก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19

บทล่าสุด

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๒๐ อยากรู้ว่าปากหวานไหมก็ต้องลองชิม

    “อ้อ…ฉันกำลังจะปรับหน้าดินน่ะค่ะ คิดว่าจะใช้ประโยชน์จากแปลงผักที่เหลืออยู่พวกนี้ลองปลูกผักเอาไว้กินเองสักหน่อย”“โอ้! อย่างนั้นหรือ ดีๆๆ! ต่อไปจะได้ไม่ต้องไปซื้อกินปลูกเองแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แต่การปรับหน้าดินที่เธอพูดมาฉันอยู่จนอายุป่านนี้แล้วก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”หนิงเหมยที่ได้ยินคำพูดของป้าหม่าก็ถึงกับตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนยุคนี้จะยังไม่รู้จักวิธีการปรับหน้าดิน ถึงว่าผักที่พวกชาวบ้านปลูกกันถึงไม่ค่อยจะโตเท่าที่ควร“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แค่บังเอิญไปเห็นในหนังสือตำราว่ามีวิธีการแบบนี้อยู่ด้วยว่าการปรับหน้าดินจะช่วยทำให้พืชผักเติบโตได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ก็เลยลองทำดูน่ะค่ะ” หนิงเหมยเอ่ยแถออกมาจนสีข้างแทบจะถลอก!“อย่างนั้นหรือ เอาไว้ฉันจะรอดูผักที่เธอปลูกถ้าหากว่าดีจริงๆ เธอก็อย่าลืมมาสอนฉันด้วยล่ะ”“ได้สิคะ ถ้าฉันทำสำเร็จฉันจะไปสอนป้าหม่าเป็นคนแรกเลยค่ะ” ที่หนิงเหมยเอ่ยเช่นนี้ก็เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยจะมั่นใจกับวิธีการปรับหน้าดินของเธอเช่นเดียวกัน ถึงเธอจะมีทฤษฎีอยู่เต็มหัวแต่ปฏิบัติเธอก็ยังไม่เคยลองเหมือนกัน!“ฮ่าๆ … ได้ๆ ฉันจะรอ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กวนเธอแล้วล่ะ ฉันกลับบ้านไปทำอาหาร

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๙ สีหน้าคุณตอนนี้น่ารักมาก

    ตงหยางที่เห็นสีหน้าตื่นตะลึงของหนิงเหมยก็อดไม่ได้ที่หัวเราะออกมาด้วยความขบขันเอ็นดู“ฮ่าๆ … ภรรยารู้ไหมครับว่าสีหน้าของคุณตอนนี้น่ารักมากขนาดไหน?”“สามีก็พูดชมฉันเกินไปแล้ว แต่จะว่าไปฉันก็รู้ตัวมานานแล้วแหละค่ะว่าฉันน่ะสวย แล้วก็รวยมาก!” หนิงเหมยเอ่ยโอ้อวดตนเองก่อนที่จะค่อยๆ แสร้งเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง“เอ่อ…แต่ภรรยาครับ เรายังไม่รวยเลยกันเลยนะ แบบนี้จะเรียกว่าสวยแล้วก็รวยมากได้ยังไง?”เพล้ง!ไม่ใช่เสียงอะไร แต่เป็นเสียงเศษหน้าของเธอที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เอง! สามีหน้าเหม็นคนนี้ชักจะเริ่มพูดจาไม่เข้าหูเธอแล้วจริงๆ!?ตอนนี้ฉันแทบจะถือว่ารวยที่สุดในหมู่บ้านเลยนะตอนนี้น่ะ แต่คุณแค่ไม่รู้ต่างหากเล่า ชิ!หนิงเหมยที่โดนสามีหน้าเหม็นคนนี้เอ่ยขึ้นขัดความสุข เธอก็ถึงกับต้องสะบัดใบหน้าหันไปจ้องมองสามีอย่างไม่ใคร่จะพอใจ!ตงหยางที่โดนภรรยาจ้องมองอย่างไม่พอใจ ก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วได้แต่คิดในใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า จึงเอ่ยปากถามออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ“อ…เอ่อ ภรรยาค…ครับ ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ?”“ไม่ค่ะ! คุณไม่ได้พูดอะไรผิดเลย ผิดที่ฉันมันจนเอง!” พูดจบหนิงเหมยก็สะบัดหน้าหนีสามีอย่างแง่

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๘ หยอดหน้านิ่ง

    ฮ่าๆๆ …“ป้าหม่าสุดยอดไปเลยค่ะ! เถียงสะแม่สามีฉันอึ้งไปเลย ฮิฮิ” หนิงเหมยเอ่ยชมแกมขบขัน“หึหึ! เธอก็ใช่ย่อย ฉันไม่ยักจะรู้ว่าเธอจะปากคอเราะร้ายขนาดนี้ อย่างนี้ฉันเชื่อว่าแค่เธอคนเดียวก็เอานางโม่วโฉวอยู่หมัด”“ป้าหม่าก็ชมเกินไปแล้วค่ะฮ่าๆ …”หนิงเหมยที่เห็นป้าหม่ากวาดตามองขึ้นบนท้องฟ้า“เอ่อ… นี่ก็เย็นแล้วป้าหม่ารีบเข้าบ้านเถอะค่ะ รบกวนป้าหม่ามานานแล้ว”“เพ้ย! รบกงรบกวนอะไรกัน เอาล่ะๆ ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าบ้านก่อนส่วนเธอก็กลับบ้านไปได้แล้ว ป่านนี้ตงหยางไม่รอเก้อแล้วหรือ?”“โอ๊ะ! จริงด้วยค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ!”พูดจบหนิงเหมยก็รีบหันหลังสับขาวิ่ง4x100กลับบ้านจนลืมว่าต้องรอให้ป้าหม่าเข้าบ้านไปก่อนนางหม่าที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างยิ้มๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าบ้านของตนเองเช่นกัน“สามีแฮ่กๆ … ฉ…ฉันมาแล้วค่ะ!” หนิงเหมยยืนหอบแฮ่กๆ เอ่ยบอกสามีอย่างขาดห้วงเพราะหายใจไม่ทัน“ภรรยาคุณมาแล้ว ทำไมไปนานจังเลยครับ? แล้วนี่คุณไปทำอะไรมาถึงได้หอบขนาดนี้ล่ะครับ”ตงหยางที่กำลังรอหนิงเหมยอยู่ เมื่อได้ยินเสียงหนิงเหมยก็รีบหันมามองทันที แต่เมื่อเห็นสภาพเหนื่อยหอบของคนเป็นภรรยาก็อดที

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๗ มนุษย์ป้า!

    หนิงเหมยที่ได้ยินคำพูดของนางโม่วโฉวก็จ้องมองอย่างสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามออกมา“ทำไมหรือคะ หรือคุณแม่คิดว่าฉันไม่กล้า?”“คนอย่างหล่อนน่ะหรือจะกล้าทำอะไรแบบนั้น ฉันเป็นแม่ของของตงหยางถ้าเกิดเขารู้ว่าหล่อนทำอะไรกับฉันไว้บ้างเขาคงจะไม่พอใจแน่” นางโม่วโฉวเอ่ยแกมขมขู่“ฮ่าๆ … คุณแม่อย่าคิดจะเอาสามีมาขู่ฉันเลยค่ะ เขาจะมาโกรธอะไรกับคนที่คอยดูแลเขาอย่างฉันได้”“นั่นมันก็…” นางโม่วโฉวรู้สึกว่ายิ่งเถียงกับหนิงเหมยมากเท่าไหร่ตนเองก็ยิ่งเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยที่จะต้องมารู้สึกแบบนี้แท้ๆ!นางหม่าที่เห็นว่านางโม่วโฉวได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ คิดคำเถียงไม่ออกจึงได้แต่เอ่ยขึ้นมาอย่างห้ามทัพหลังจากที่ฟังมานาน“นางโม่วหล่อนจะมาเอาอะไรกับนังหนูเหมยอีกเล่า! ทุกวันนี้ครอบครัวลูกชายคนโตของหล่อนก็ลำบากมาตลอดไม่ใช่หรือ ที่ทุกวันนี้เขาพิการก็ไม่ใช่เพราะหล่อนหรือยังไง?ทั้งๆ ที่หนิงเหมยเพิ่งจะหาทางอ้าปากรอดได้ แต่หล่อนก็คิดจะมาแย่งออกไปอีก หล่อนคิดจะให้พวกเขาตายจริงๆ เลยหรือยังไง ทำแบบนี้ไม่อำมหิตเกินไปหรือ?!”‘นั่นสิ หล่อนคิดจะให้ทั้งสองคนตายจริงๆ เลยหรือยังไงกัน?!’ ‘คนบ้านอี้ใจดำอำมหิตกันเกินไปแล้ว

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๖ คนเห็นแก่ตัว

    “นั่นสิครับคุณแม่ การที่พี่สะใภ้ทำแบบนี้ก็เหมือนกับว่าไม่เห็นหัวพ่อแม่สามีเลยนะครับ” อี้จางเหว่ยน้องชายต่างแม่ของตงหยางที่มีนิสัยเห็นแก่ตัว ปากพล่อย แต่กลับเป็นคนที่ขี้ขลาดหนิงเหมยที่ได้ยินคำพูดของจางเหว่ยก็ได้แต่มองชายหนุ่มที่มีนิสัยลูกแหง่ติดแม่อย่างสมเพช ดูท่าแล้วชีวิตนี้ของชายหนุ่มไปไหนไม่รอด“หึ! แล้วหล่อนจะมายืนเซ่ออยู่ทำไม รีบไปนำเงินพวกนั้นออกมากตัญญูต่อฉันกับตาแก่สิหรือหล่อนอยากจะโดนฉันสั่งสอนก่อน! เป็นลูกสะใภ้ตระกูลอี้ก็หัดกตัญญูต่อพ่อแม่สามีสะบ้าง ไม่ใช่ดีแต่นำของดีๆ พวกนี้มาประเคนให้คนข้างบ้านแบบนี้!”“คุณแม่เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ ของพวกนั้นที่ฉันซื้อมาก็มาจากเงินที่ฉันล่าหมูป่ามาได้ ทว่าเงินที่เหลือกับของที่ซื้อมาฉันก็ซื้อของจำเป็นทั้งนั้นเพื่อจะนำมาไว้ทำอาหารให้สามีส่วนขนมของฝากพวกนี้ฉันก็ตั้งใจซื้อมาฝากป้าหม่าที่คอยช่วยเหลือฉันตลอด แต่กับคุณแม่ที่คอยเอาแต่บอกว่าตัวเองเป็นแม่สามีแล้วสั่งให้ฉันกตัญญู คุณแม่เคยคิดจะช่วยอะไรฉันกับสามีบ้างหรือคะ? หรือคุณแม่เลี้ยงฉันมา… ก็ไม่นิคะ!ฉันไม่เห็นว่ามีความจำเป็นอะไรที่จะต้องกลับไปกตัญญูคุณแม่กับคนตระกูลอี้นะคะ เพราะพวกคุณไม่

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๕ วันหนึ่งร้อยเหตุการณ์

    เมื่อเข็นรถลากกลับมาถึงบ้านเธอก็รีบนำของทุกอย่างเก็บเข้าบ้าน ก่อนที่เก็บรถลากไว้ข้างบ้านโดยที่ตนเองก็ไม่ได้รู้เลยว่านางซุนกับพรรคพวกพากันกระจายข่าวไปทั่วหมู่บ้านว่าเธอใช้เงินมือเติบซื้อของกลับบ้านมากมาย!จนตอนนี้คนบ้านอี้พากันเต้นระส่ำอย่างไม่ใคร่จะพอใจกับการที่หนิงเหมยใช้เงินมือเติบแถมยังไม่คิดจะมอบอะไรให้พวกเขาเลยทั้งๆ ที่ซื้อของกลับมาตั้งมากมาย‘เงินพวกนั้น ของมากมายพวกนั้นควรเป็นของพวกเขาบ้านอี้ไม่ใช่หรือ ในเมื่อหล่อนแต่งเข้าตระกูลอี้มาแล้วทุกอย่างก็ควรจะเป็นของฉันโม่วโฉวคนนี้!’ นางโม่วโฉวที่มีความโลภมากยิ่งคิดเรื่องที่ได้ยินมามากเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่พอใจหนิงเหมยที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับเรื่องภายนอกบ้านตอนนี้ ก็มัวแต่ยืนล้างมืออย่างรีบร้อนก่อนที่จะนำซาลาเปา5-6ลูกออกมาจากมิติแล้วจัดวางใส่ถาด แล้วนำไปให้สามีในห้อง เพราะถ้าเธอทำอาหารเองก็คงจะเลยเวลากินข้าวกินยาของสามีอย่างแน่นอน“กลับมาแล้วค่ะสามี ขอโทษนะคะฉันกลับมาช้าเลยทำอาหารให้คุณไม่ทัน คุณกินซาลาเปารองท้องไปก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะรีบออกไปทำอาหารมาให้คุณนะคะ” หนิงเหมยกล่าวระรัวอย่างรู้สึกผิด เพราะมัวแต่เสียเวลากับคนพวกนั้นแท้ๆ

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๔ ใช้เงินมือเติบ?!

    หนิงเหมยที่ออกจากตัวเมืองนครคุนหนิงแล้วเธอก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าสหกรณ์หมู่บ้านเพื่อซื้อขนมกลับไปฝากป้าหม่า เพื่อเป็นของฝากแทนคำขอบคุณสำหรับไข่ไก่หรือเรื่องที่ผ่านๆ มาแล้ว ไหนจะช่วยเธอเรื่องวันนี้อีกเมื่อเข้าสหกรณ์หมู่บ้านแล้วหนิงเหมยก็ยืนเลือกขนมอยู่สักพักใหญ่เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาขนมอะไรดี? ก่อนที่จะได้ขนมหนวดมังกรมาซึ่งขนมที่หนิงเหมยเลือกนั้นก็เป็นขนมที่ค่อนข้างจะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยทว่านอกจากซื้อฝากป้าหม่าแล้ว หนิงเหมยก็ไม่ลืมที่จะซื้อขนมกลับไปฝากสามีของเธอด้วย เพราะเธอเองก็คิดว่าจะขุนสามีให้อ้วนขึ้นอีกสักหน่อยสามีเธอจะได้เป็นชายหนุ่มเจ้าเนื้อนุ่มนิ่ม!“ขนมหนวดมังกรกล่องละ3หยวน 3กล่อง เป็นราคา7หยวน50เหมา กับคูปอง2ใบ “‘เมื่อได้ยินคำจำนวนเงินที่ต้องจ่ายค่าขนมเพียงแค่3กล่องออกใจเธอก็รู้สึกเจ็บปวดเสียแล้ว! นี่มันเงินจำนวนไม่ใช่น้อยเลยนะ!ดีนะที่เธอเตรียมพวกของปัจจัย4มาครบ ไม่น่าอยากลองซื้อขนมในสหกรณ์กินเลย! แต่ก็นะมีเงินก็ต้องใช้สิ เฮ้อ… นี่สินะที่เขาเรียกว่าขนมสูตรโบราณฉันถึงกับต้องทะลุมิติมาซื้อเลยทีเดียว ‘หนิงเหมยนำเงินกับคูปองออกมา2ใบยื่นให้แก่พนักงาน ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจา

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๓ ไม่รวยวันนี้จะรวยวันไหน

    “ขอบคุณค่ะคุณป้า”หนิงเหมยกล่าวขอบคุณจบก็หันหลังออกจากแผงขายซาลาเปา แล้วเดินไปตามทิศทางที่ป้าขายซาลาเปาบอกไม่นานเธอก็เจอร้านสมุนไพร!ซึ่งมีร้านสมุนไพรถึง2ร้านที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน หนิงเหมยก็ไม่รอช้าหันทิศทางไปยังร้านสมุนไพรที่มีความใหญ่โตโอ่อ่าแต่ทว่าในขณะที่หนิงเหมยกำลังจะเดินเข้าไปในตัวร้านสมุนไพร ก็มีเสียงพนักงานเดินออกมาชี้หน้าพร้อมกับด่าทอเธออย่างร้ายกาจเสียก่อนนี้มันอะไรกันเนี่ย?!“นี่หล่อนถ้าจะมาขอทานก็ไปขอที่อื่น ที่นี่ร้านสมุนไพรนะ!” พนักงานหญิงที่พอกหน้าขาวทาปากแดงฉานยืนชี้หน้าด่าทอหนิงเหมย ก่อนที่จะมองเธอด้วยสายตาดูถูกแต่เธอก็ค่อยๆ หายใจเข้าหายใจออกช้าๆ พยายามที่จะใจเย็น“ฉันไม่ได้มาขอทาน ฉันมาขายสมุนไพร”“น้ำหน้าอย่างหล่อนนี่น่ะหรอจะมีปัญญาหาสมุนไพรอะไรมาขาย ถ้าเป็นแค่สมุนไพรธรรมดาๆ ร้านสมุนไพรแห่งนี้ไม่ต้องการหล่อนก็เก็บกลับบ้านไปเถอะ หรือไม่ก็นู้นไปขายร้านของตาแก่นู้นไป!”แต่ยังไม่ทันที่หนิงเหมยจะได้เอ่ยตอบโต้อะไรออกมา ก็มีเสียงของผู้ชายดังขึ้นมาขัดอารมณ์โมโหของหนิงเหมยเสียก่อน ไม่นานก็มีผู้ชายร่างท้วมๆ เดินออกมา“มีอะไรกัน เสียงดังรบกวนลูกค้าในร้านฉันหมดแล้ว สรุปนี่ม

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๑๒ หลงทางแล้ว

    ทันทีที่เข็นรถลากผ่านประตูเมืองเข้ามาหนิงเหมยก็กวาดสายตามองภาพเบื้องหน้าที่มีผู้คนเดินกันอย่างพลุกพล่าน ไหนจะบ้านอาคารที่มีรัศมีของความขลังยุค70นี่อีก! ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตื่นตาตื่นใจเพราะทั้งความทรงจำเก่าๆ ของหนิงเหมยเจ้าของร่างคนเก่านั้นก็มีความทรงจำกับในตัวเมืองนครคุนหนิงนี้น้อยมาก‘ไม่คิดไม่ฝันว่าฉันจะได้ทะลุมิติย้อนมายุค70! นี่มันทำให้ฉันอดจะทึ่งไม่ได้จริงๆ รอให้ฉันมีเงินเยอะๆ ก่อนเถอะฉันจะพาสามีออกจากหมู่บ้านเป่าซานแล้วไปท่องโลกเสียเลย หึๆ!ขืนยังทนอยู่หมู่บ้านนี้ต่อไปฉันคงจะเป็นบ้าตายแน่ๆ อีกอย่างก็คงจะหาความสงบสุขจากหมู่บ้านเป่าซานไม่ได้แน่นอน ไม่สู้เธอพาสามีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองอื่นไม่ดีกว่าหรือ?’หนิงเหมยสะบัดหัวไล่ความคิดมากมายก่อนที่เธอจะรีบเข็นรถลากไปยังร้านอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมซึ่งภาพอาคารร้านอาหารเบื้องหน้าเธอนี้เป็นอาคารที่มีลักษณะทรงจีนอย่างแท้จริงเลยล่ะ ไหนจะมีเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งร้านที่ออกจะโบราณคร่ำครึมากเลยทีเดียวแต่ก็ถือว่าเป็นร้านอาหารที่ใหญ่แล้วก็ดูสะอาดมากเลยทีเดียว เมื่อหนิงเหมยตัดสินใจเดินเข้าเหลาอาหารก็มีหนักงานเดินออกมาต้อนรับทันที“ห้องธรร

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status