Share

ติงเอ้อร์โก่วผู้อับโชค
ติงเอ้อร์โก่วผู้อับโชค
ผู้แต่ง: เหยียนต้านีเอ๋อร์

บทที่ 1

เวลาห้าทุ่ม

ผมกำลังวิ่งอยู่ที่สวนสาธารณะด้านล่างแถวบ้านพี่ชายผม

จู่ ๆ ผมก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากในพุ่มไม้

“เฉินเว่ยตง สรุปว่าคุณไหวไหมเนี่ย? คุณบอกว่าอยู่ที่บ้านไม่มีอารมณ์ ฉันเลยมาที่นี่กับคุณ แล้วทำไมคุณยังเป็นแบบนี้อยู่อีก?”

จากที่ฟัง นี่คือเสียงของเกาซินหย่าพี่สะใภ้ผมไม่ใช่เหรอ?

พี่ชายผมกับพี่สะใภ้ออกไปกินข้าวกันข้างนอกไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้มาโผล่อยู่ที่สวนสาธารณะ แถมยังเป็นในพุ่มไม้อีกด้วย?

ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยมีแฟน แต่ก็เคยดูวิดีโอการเรียนการสอนมาไม่น้อย ก็เข้าใจในทันทีว่าสองผัวเมียกำลังมองหาความตื่นเต้นอยู่

คิดไม่ถึงว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้ของผมจะเล่นกันเด็ดถึงขนาดนี้! คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาที่สวนสาธารณะ...นี่มันจะตื่นเต้นเกินไปแล้วมั้ง

ผมอดไม่ได้ที่อยากจะเดินเข้าไปแอบฟัง

พี่สะใภ้ผมสวยมาก รูปร่างก็โคตรดี การได้ฟังเสียงครางของพี่สะใภ้ เป็นเรื่องที่ผมใฝ่ฝัน

ผมค่อย ๆ ย่องเดินมาถึงข้างพุ่มไม้ จากนั้นก็ค่อย ๆ แอบชะโงกหัวออกไป

เห็นพี่สะใภ้นั่งคร่อมอยู่บนตัวพี่ชายของผม ถึงแม้ว่าจะหันหลังให้ผม แต่เค้าโครงแผ่นหลังที่โดดเด่นนั้นสวยงามมากเหลือเกิน

ผมรู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาทันที รู้สึกร้อนผ่าวที่บริเวณท้องน้อยขึ้นมา

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้คนสวย แต่พี่ชายของผมกลับล้มไม่เป็นท่า “เสียวหย่า ผม...เหมือนจะยังไม่ไหว”

พี่สะใภ้ตะคอกใส่พี่ชายผมอย่างโมโหทันที “คุณหมดหนทางเยียวยาแล้ว เพิ่งจะอายุสามสิบห้าก็เป็นแบบนี้แล้ว ฉันมีคุณไว้แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”

“ต่อให้นกเขาคุณไม่ขัน อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรออกมาให้ฉันบ้างสิ ผลปรากฏว่าก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม คุณเป็นแบบนี้จะทำให้ฉันมีลูกได้ยังไง?”

“ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อยู่ ฉันจะไปหาคนอื่นแล้ว!”

“คุณไม่อยากเป็นพ่อคน แต่ฉันยังอยากเป็นแม่คนอยู่นะ”

พี่สะใภ้ดึงกางเกงขึ้นอย่างโมโหแล้วเดินไปทางด้านนอก

ผมตกใจมาก รีบหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไป

กลับมาถึงห้องได้ไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียงว่าพี่สะใภ้กลับมาแล้ว

พี่สะใภ้ปิดประตูห้องเสียงดัง ‘โครม’ ผมตกใจจนหัวใจเต้นตึกตัก

ผมแอบลูบหน้าอก คิดในใจว่าน่ากลัวเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าชีวิตรักของพี่ชายผมกับพี่สะใภ้จะเข้ากันไม่ได้ขนาดนี้

ต่างก็พูดกันว่าผู้หญิงอายุสามสิบดุเหมือนกับเสือ พี่สะใภ้แค่มองก็รู้ว่าคือผู้หญิงที่ไม่รู้จักอิ่ม พวกผอมบางอย่างพี่ชายผม จะทำให้เธอรู้สึกอิ่มได้ยังไง?

ถ้าเป็นผมก็ยังพอไหว

ถุย ๆ ๆ!

ผมคิดอะไรเนี่ย เกาซินหย่าเป็นพี่สะใภ้ผมนะ ผมจะสนใจเธอได้ยังไง?

ถึงแม้ว่าผมกับเฉินเว่ยตงจะไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ กัน แต่ว่าสนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องแท้ ๆ ซะอีก

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเฉินเว่ยตง ผมก็คงไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย

ดังนั้น ผมจะสนใจในตัวของเกาซินหย่าไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ในตอนที่ผมกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินเสียงครางดังลอยมากจากห้องข้าง ๆ อยู่สักพัก

ผมรีบเอาหูแนบกับกำแพงเพื่อแอบฟัง

เป็นเสียงครางไม่มีผิด!

คิดไม่ถึงเลยว่าพี่สะใภ้จะกำลัง...

ผมรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัว ยากที่จะทนได้

จึงแอบทำเรื่องไม่ดีเงียบ ๆ

จนสุดท้าย เสียงทั้งสองด้านของกำแพงก็ผสานเข้าด้วยกัน

ความเข้ากันได้ทางจิตวิญญาณแบบนี้ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเกิดจินตนาการขึ้นอีกครั้ง

คิดในใจว่าถ้าหากผมกับพี่สะใภ้คบหากันละก็ จะต้องเข้ากันได้ดีมากแน่ ๆ

แต่นี่คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสักนิด

ระหว่างผมกับพี่สะใภ้ ก็จะมีพี่ชายของผมขวางกั้นอยู่ตลอดไป

ผมไม่มีทางทำเรื่องละลายใจต่อพี่ชายของผมเป็นอันขาด

ผมเปลี่ยนกางเกงในที่ทำเลอะ แล้วนำไปวางเอาไว้ที่ด้านนอกห้องน้ำ คิดว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาแล้วค่อยซัก

จากนั้นผมก็นอนหลับไป

ผมนอนจนถึงเก้าโมงเช้าของอีกวัน ตอนที่ผมตื่นขึ้นมา พี่ชายของผมก็ไปทำงาน ในบ้านเหลือแค่ผมกับพี่สะใภ้เพียงสองคน

พี่สะใภ้กำลังทำอาหารเช้า

พี่สะใภ้สวมชุดนอนผ้าไหมแท้ตัวหนึ่ง รูปร่างที่อวบอัดนั้น เปิดเผยให้เห็นทั้งหมดต่อหน้าผม

โดยเฉพาะหน้าอกไซส์มโหฬารนั้น ทำให้ผมรู้สึกคอแห้งผากอีกครั้ง

“ตื่นแล้วเหรอเอ้อร์โก่ว รีบไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วมากินอาหารเช้าเถอะ” เมื่อพี่สะใภ้เห็นผม ก็เป็นฝ่ายทักทายก่อน

ผมเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน ยังไม่ค่อยสนิทกับพี่สะใภ้มาก รู้สึกว่ายังไม่ค่อยรู้สึกเป็นตัวเองเท่าไหร่

ดังนั้นจึงตอบแค่คำว่า ‘ครับ’ แบบเรียบ ๆ แล้วก็ไปห้องน้ำ

ในขณะที่กำลังอาบน้ำ จู่ ๆ ผมก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ กางเกงในที่ผมเปลี่ยนเมื่อคืนนี้มันวางไว้อยู่ตรงนี้

พี่สะใภ้ตื่นเช้ากว่าผม คงจะไม่ได้เห็นมันก่อนหรอกมั้ง?

ผมรีบหันไปมองทางชั้นวางของ ผลปรากฏว่าทันทีที่เห็นก็ตกใจทันที กางเกงในของผมหายไปแล้ว!

ตอนที่ผมกำลังตามหาไปทั่วทุกที่ จู่ ๆ เสียงของพี่สะใภ้ก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของผม “ไม่ต้องหาแล้ว พี่ซักให้เธอแล้ว”

ผมก็รู้สึกอายขึ้นมาทันที

กางเกงในตัวนั้นผมทำเปื้อนไปด้วยคราบสกปรก ตอนที่พี่สะใภ้ซักให้ผม ก็น่าจะเห็นไม่ใช่เหรอไง?

นี่มันน่าอับอายเกินไปแล้วมั้ง!

แต่พี่สะใภ้น่ะ มือทั้งสองข้างกอดอก จ้องมองผมพร้อมกับยิ้มตาหยี พูดเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอ้อร์โก่ว เมื่อคืนนี้เธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างใช่ไหม?”

ผมส่ายหน้ารัว ๆ ให้ตายยังไงผมก็ไม่มีทางยอมรับว่าได้ยินพี่สะใภ้ทำเรื่องอย่างว่านั่นคนเดียว

“ปะ เปล่าครับ ผมไม่ได้ยินอะไรเลย”

“จริงเหรอ? เธอไม่ได้ยินเสียงประหลาดบางอย่างที่ดังออกมาจากในห้องของฉันเหรอ?”

นี่คือพี่สะใภ้กำลังลองหยั่งเชิงผมอยู่

“เมื่อคืนนี้ผมหลับไปตอนสี่ทุ่มกว่า ผมไม่ได้ยินอะไรเลยจริง ๆครับ”

หลังจากพูดจบ ผมก็หนีไปทันที

แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการสอบสวนของพี่สะใภ้ ผมก็รู้สึกร้อนตัวไม่ไหว สายตาก็ยิ่งจดจ้องไปที่หน้าอกของพี่สะใภ้อย่างควบคุมไม่ได้

เหมือนกับเป็นมนต์สะกด

ผมนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหารก้มหน้ากินข้าวเงียบ ๆ อันที่จริงก็คือใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เป็นเพราะพี่สะใภ้ที่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับนั่งลงข้างผม

ผมคิดในใจว่านี่พี่สะใภ้กำลังทำอะไร? ก่อนหน้านี้ตอนกินข้าวพวกเราก็นั่งตรงกันข้ามเสมอ ทำไมจู่ ๆ ถึงมานั่งลงที่ข้างผมกันล่ะ?

ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จู่ ๆ พี่สะใภ้ก็ใช้นิ้วมือแตะที่แขนของผม

ผมรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งตัวทันที เหมือนกับโดนไฟช็อต

ในใจยิ่งรู้สึกมีอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิม ที่แท้ความรู้สึกของการโดนผู้หญิงสัมผัสเป็นแบบนี้นี่เอง

มหัศจรรย์เหลือเกิน

“เอ้อร์โก่ว เหมือนว่าจะเธอกลัวฉันมากใช่ไหม?”

“เปล่าครับ ผมแค่ยังไม่ค่อยสนิทกับพี่สะใภ้เท่าไหร่ ก็เลยระวังตัวนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ”

“ระหว่างคนกับคน ก็ล้วนมาจากไม่สนิทกันจนกระทั่งสนิทกันไม่ใช่หรือไง? ก็เป็นเพราะว่าไม่สนิทกัน ถึงต้องคุยกันให้มาก ๆ แบบนี้ ถึงจะสนิทกันได้เร็วมากยิ่งขึ้นยังไงล่ะ”

“เอ้อร์โก่ว เธอรู้ไหมว่าวิธีที่จะทำให้ผู้หญิงกับผู้ชายสนิทกันได้เร็วมากที่สุดคือวิธีไหน?”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเข้าใจผิดของผมหรือเปล่า ผมจึงคิดว่าเหมือนกับว่าพี่สะใภ้กำลังบอกใบ้อะไรบางอย่างกับผม?

ผมสับสนมาก จนไม่มีกะจิตกะใจจะกินข้าวแล้ว

ทั้งตื่นเต้นทั้งสับสน โดยเฉพาะเมื่ออยากรู้ว่าพี่สะใภ้หมายถึงอะไรกันแน่?

ดังนั้นผมเลยถามออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่สะใภ้ หมายถึงอะไรครับ?”

“การทำลูก!” พี่สะใภ้มองผมด้วยดวงตากลมโตที่สวยงาม พูดอย่างตรงไปตรงมา

ผมถูกทำให้สำลักทันที

คิดในใจว่าพี่สะใภ้พูดเรื่องแบบนี้กับผมทำไมกัน? เธอเป็นพี่สะใภ้ของผม ผมกับเธอทำแบบนั้นกันไม่ได้สักหน่อย

หรือว่าพี่สะใภ้กำลังสนใจในตัวผม?

พี่ชายผมไม่ไหว ดังนั้นเธอจึงฝากความหวังไว้ที่ผมเหรอ?

ไม่ได้ ๆ จะทำเรื่องที่น่าละอายใจต่อพี่ชายของผมไม่ได้

ผมรีบเขยิบเก้าอี้ไปด้านข้างทันที “พี่สะใภ้ อย่าล้อเล่นสิครับ แบบนี้ถ้าหากคนอื่นได้ยินเข้า จะเข้าใจผิดได้นะครับ”

“พรืด” พี่สะใภ้เห็นท่าทางของผม ก็หัวเราะออกมาทันที จากนั้นพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเธอบอกพี่มาตามตรง เมื่อคืนเธอได้ยินอะไรหรือไม่กันแน่? ถ้าหากเธอยังไม่พูดความจริงละก็ พี่ก็จะคุยกับเธอแบบลึกซึ้งสักหน่อย”

ผมตกใจจนฉี่แทบราด คิดในใจจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ดังนั้นเลยรีบพูดอย่างกลัว ๆ “พี่สะใภ้ เมื่อคืนผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจริง ๆ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ”

“เสียงครางของฉันใช่ไหม เพราะไหมล่ะ?” ผมคิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะถามแบบนี้

ผมหน้าแดงแปร๊ด หัวใจเต้นเร็วจนแทบจะกระเด็นออกมาจากหน้าอก ไม่รู้จริง ๆว่าควรจะตอบกลับไปยังไง?

ในเวลานี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประดูดังขึ้นมาสักพัก เหมือนกับว่าผมได้เห็นผู้ช่วยชีวิต รีบวิ่งไปเปิดประตูทันที

ตอนที่ผมเปิดประตู ผมก็เห็นผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งเพรียวบางคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู

เธอสวยมาก รูปร่างโค้งเว้าได้สัดส่วน อย่างกับดารา

หญิงสาวจ้องมองผม ดวงตากลมโตสีดำขลับคู่นั้นกะพริบปริบ ๆ พร้อมถามขึ้นว่า “คุณเป็นใคร?”

ผมเองก็ถามอย่างงุนงง “คุณเป็นใคร?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status