Share

บทที่ 4

กางเกงในตัวนี้นุ่มและลื่น ด้านบนเหมือนว่ายังมีกลิ่นของพี่สะใภ้หลงเหลืออยู่

สัมผัสกางเกงในในมือ ผมอดคิดถึงภาพที่เมื่อเช้าแอบได้ยินขึ้นมาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้

นี่ทำให้ผมตื่นเต้นและมีความสุขมากกว่าเดิม

ผมไม่สามารถมีอะไรกับพี่สะใภ้ได้จริงๆ แล้วจะยังเอาสิ่งของของเธอมาเพื่อจินตนาการหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?

เมื่อคิดแบบนี้ ผมก็ปลดเข็มขัดออก แล้วนำกางเกงในตัวนั้นยัดเขาไป

ในขณะที่ผมกำลังจะใช้แม่นางทั้งห้าจัดการปัญหา จู่ๆ ด้านนอกประตูก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพักหนึ่ง

ตกใจจนผมขวัญกระเจิง จนเกือบน้ำแตก

ในบ้านมีผมกับพี่สะใภ้แค่สองคนเท่านั้น คนที่เคาะประตูนั้น ก็คงจะเป็นพี่สะใภ้อย่างแน่นอน

ผมรีบหยิบกางเกงในตัวนั้นออกมา แล้ววางไว้บนราวแขวนผ้าขนหนู

ถึงได้กล่าวอย่างร้อนตัว “พี่สะใภ้ มีอะไรครับ?”

“เอ้อร์โก่ว เธอกำลังทำเรื่องไม่ดีอยู่ในนั้นใช่ไหม?” พี่สะใภ้ถามแบบนี้อย่างคาดไม่ถึง

“หา? ผม ผมเปล่า” ผมร้อนตัวเป็นอย่างมาก

“แล้วทำไมเสียงของเธอถึงสั่นเครือแบบนั้น?”

คำถามเพียงประโยคเดียวของพี่สะใภ้ก็ทำให้ผมหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ผมรู้สึกว่าเหงื่อแตกพลั่กๆ

ถึงแม้ว่าพี่สะใภ้จะเป็นคนเปิดเผย แต่เธอเคยพูดกับผมอย่างชัดเจนว่า ห้ามคิดอะไรกับเธอ

ถ้าหากให้เธอรู้ว่าผมเพิ่งเอากางเกงในของเธอทำเรื่องแบบนั้น เธอจะต้องคิดว่าผมเป็นเด็กไม่เชื่อฟังแน่ ถ้าไล่ผมออกจากบ้านจะทำยังไงดี?

แต่ผมก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไง ทำได้แค่เพียงพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เปล่าจริงๆ ครับ ผมก็แค่ปวดท้อง เหงื่อออกมาก...”

“ทำไมถึงได้เหงื่อออกมากล่ะ? เป็นเพราะไม่สบายหรือเปล่า?” น้ำเสียงของพี่สะใภ้เป็นห่วงมาก

ผมพูดว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกทรมานมากครับ”

“เธอเปิดประตู ขอพี่ดูหน่อย”

“มัน มันไม่ดีมั้งครับ”

“มีอะไรดีหรือไม่ดี ในสายตาของพี่เธอก็เป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง เร็วเข้า รีบเปิดประตู”

ในใจผมยังคงรู้สึกค่อนข้างจิตตก ที่แท้ในสายตาของพี่สะใภ้ผมก็เป็นเพียงแค่เด็กเท่านั้นเหรอ มิน่าพี่สะใภ้ถึงได้ทำตัวเปิดเผยขนาดนั้นต่อหน้าผม

เธออาจจะไม่เคยคิดอยากจะทำเรื่องพรรคนั้นกับผมเลยด้วยซ้ำ

ผมเอื้อมตัวเปิดประตูห้องน้ำ หลังจากพี่สะใภ้เข้ามา ไม่ได้มองผมในทันที แต่มองไปยังด้านบนราวแขวนผ้าขนหนู

ในใจของผมแอบพูดว่าซวยแล้ว หรือว่าพี่สะใภ้เห็นอะไรเข้าแล้ว?

ผมร้อนตัวเป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้ามองตาของพี่สะใภ้เลยสักนิด

แต่พี่สะใภ้นะสิ เดินไปที่ตรงหน้าราวแขวนผ้าขนหนู ถามผมด้วยรอยยิ้ม “เธอแตะต้องกางเกงในของพี่ใช่ไหม?”

“ปะ เปล่า” ผมส่ายหน้ารัวๆ

“เปล่าจริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเธอหน้าแดงทำไม? เธอพูดมาตามตรง เมื่อครู่นี้เธอหยิบกางเกงในของพี่ไปทำเรื่องไม่ดีใช่ไหม? ผลสุดท้ายถูกฉันขัดจังหวะ ดังนั้นเธอเลยร้อนตัวหวาดกลัว ไม่กล้าให้พี่เข้ามา?”

ผมสงสัยเป็นอย่างมากว่าพี่สะใภ้มีตาทิพย์ใช่ไหม ทำไมผมทำอะไรคิดอะไรเธอถึงรู้ไปเสียทุกอย่างเลย?

พี่สะใภ้จ้องมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่าผมงอตัวไม่กล้ายืดตัวตรง ความสงสัยในดวงตาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

“ยืนดี ๆ ” พี่สะใภ้มองผมแล้วพูดขึ้น

เมื่อเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้ ผมไม่กล้าขัดขืน

ตอนที่ผมยืดตัวตรง ความอับอายที่ด้านล่างของผมปรากฏชัดขึ้นมาทันที

ผมรู้ ผมถูกพี่สะใภ้เห็นเข้าแล้ว

ผมหลับตาลง ไม่กล้าเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้

จากนั้น ผมรู้สึกว่าพี่สะใภ้เดินมาตรงหน้าของผมช้าๆ แล้วย่อตัวลงไป

หัวใจของผมแทบจะกระเด็นออกมาจากหน้าอก

ประเด็นสำคัญคือไม่รู้ว่าพี่สะใภ้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?

อีกอย่างการย่อตัวลงของพี่สะใภ้ จะคลุมเครือเกินไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะทำให้ผมต้องคิดมาก

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น

เมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้จ้องมองตรงนั้นของผมอย่างหลงใหล ทอดถอนออกมาจากใจจริง “เธอว่าถ้าหากพี่ชายของเธอเก่งเหมือนเธอ แบบนั้นจะดีแค่ไหน?”

ในขณะที่พูด ในดวงตาก็มีแววตาของความโหยหาเป็นอย่างยิ่ง

ในเวลานี้หัวสมองของผมขาวโพลน ภายในใจก็กระวนกระวายเช่นกัน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

พี่สะใภ้มองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้น

ผมทำได้แค่เพียงใช้มือกุมเอาไว้

“เก็บสะสมความต้องการของเธอเอาไว้ แบบนี้ เธอถึงจะมีแรงไปจัดการกับหลี่ลี่เจียว”

ในขณะที่พี่สะใภ้พูด จู่ๆ ก็ขยับเข้าใกล้ผม “อันที่จริงพี่จงใจจะกระตุ้นเธอ พี่สะใภ้รู้ว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่เพื่อพี่ชายของเธอแล้ว พี่สะใภ้จำเป็นต้องทำแบบนี้”

“เธอขี้อายเกินไป พี่สะใภ้คงต้องหาหนทางเปิดใจเธอก่อน”

“เอามือออกไป พี่สะใภ้เป็นคนที่มีประสบการณ์ เคยเห็นมาหมดทุกอย่างแล้ว”

ผมคิดในใจว่าวิธีการเปิดใจของเธอจะพิเศษเกินไปแล้วล่ะมั้ง รู้สึกว่าจะเอาชีวิตผมได้ทุกนาทีเลย

“ออกมาเถอะ พี่จะโทรศัพท์หาหลี่ลี่เจียว พวกเราออกไปเที่ยวกัน พี่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของพวกเธอพัฒนาขึ้น”

“ดูว่าวันนี้ตอนกลางวันหลี่ลี่เจียวจะให้เธอไปที่บ้านของเธอไหม รีบจัดการธุระให้เรียบร้อย บริษัทของพี่ชายเธอก็จะได้ฟื้นตัวได้โดยเร็ว”

พี่สะใภ้พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป

ผมเดินตามออกไปจากห้องน้ำอย่างว่าง่าย ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ

อดกลั้นเอาไว้

ทุกครั้งที่ถูกพี่สะใภ้ยั่วเย้าขนาดนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ระบายออกมา ผมใกล้จะระเบิดแล้ว

แต่เพื่อพี่ชายของผมแล้ว ผมทำได้แค่เพียงอดทนไปก่อนเท่านั้น

พี่สะใภ้นั่งอยู่ที่โซฟา โทรศัพท์หาหลี่ลี่เจียว “...ไม่ออก? ทำไมล่ะ? ไม่ได้ ฉันอยากให้เธอไปเป็นเพื่อนฉัน ถ้าหากเธอไม่ไป ฉันจะให้น้องชายของฉันอุ้มเธอลงไป”

“หา? ฉันทำเกินไป? ฉันก็ชอบทำเกินไปแบบนี้ล่ะ เธอจะทำอะไรฉันได้?”

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาแบบนี้ อีกห้านาที ฉันจะรอเธออยู่ที่ประตู”

พี่สะใภ้วางสาย พูดกับผมพร้อมรอยยิ้ม “เรียบร้อยแล้ว เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อีกเดี๋ยวจะได้ขับรถ”

“จำไว้ มองทางข้างหลังบ่อยๆ จะมีเรื่องเซอร์ไพรส์รอเธออยู่”

ผมตอบ ‘ครับ’ แล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ในใจทั้งคาดหวังทั้งสงสัย ว่าเซอร์ไพรส์ที่พี่สะใภ้ว่าจะเป็นอะไรกันนะ?

ในไม่ช้า ผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผมกับพี่สะใภ้รออยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง หลี่ลี่เจียวก็เดินออกมา

หลี่ลี่เจียวเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสีแดง ช่วยขับให้ผิวของเธอขาวกระจ่างยิ่งขึ้น

อีกทั้งเดรสตัวนี้ยังเป็นคอวีอีกด้วย เผยให้เห็นหน้าอกที่ขาวดุจหิมะของหลี่ลี่เจียว

ผมจ้องอย่างตกตะลึงทันที

คิดไม่ถึงว่ารูปร่างของหลี่ลี่เจียวจะดีกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้เสียอีก

เหมือนกับว่าสายตาของหลี่ลี่เจียวจงใจหลบผม ไม่ยอมจ้องมองผมตรงๆ เลย

เธอโอบแขนของพี่สะใภ้แล้วเดินผ่านหน้าผมไปทันที

ในใจของผมรู้สึกกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกอึดอัดมากเช่นกัน

เมื่อครู่นี้ตอนที่ผมนวดให้เธอ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอรู้สึกค่อนข้างดีกันผม ทำไมตอนนี้ถึงได้เย็นชาขนาดนี้นะ? ไม่แม้แต่จะมองผมเลยสักแวบ

หรือว่าเมื่อครู่นี้ผมทำเกินไปงั้นเหรอ? ทำให้เธอไม่พอใจงั้นเหรอ?

พวกเราสามคนลงไปที่ชั้นล่าง

ตลอดทาง หลี่ลี่เจียวกับพี่สะใภ้ของผมพูดคุยหัวเราะกัน แต่ผมเหมือนเป็นธาตุอากาศ

เดิมทีผมก็กลัดกลุ้มมากอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ขึ้นรถ จู่ๆ ผมก็นึกถึงสิ่งที่พี่สะใภ้เคยพูดกับผม ให้ผมคอยสังเกตด้านหลัง จะมีเซอร์ไพรส์รอผมอยู่

ผมสงสัยมากว่าเป็นเซอร์ไพรส์แบบไหน?

ดังนั้นจึงเอาแต่มองกระจกหลัง

พี่สะใภ้กับหลี่ลี่เจียวคุยเล่นหัวเราะกัน ผมเองก็ยังไม่เห็นเซอร์ไพรส์อะไร

“พี่สะใภ้ พวกเราจะไปไหนกันครับ?” ผมใช้ข้ออ้างถามทางจงใจหันหน้ากลับไปมองทีหนึ่ง ยังไม่เห็นเซอร์ไพรส์อะไร

แต่ว่า สายตาของผมปะทะเข้ากับสายตาของหลี่ลี่เจียวโดยไม่ตั้งใจ หน้าของหลี่ลี่เจียวแดง ‘ฉ่า’ ขึ้นมาทันที จากนั้นก็เหลือบตาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

สายตาที่ตื่นตระหนก ไม่สบายใจรวมทั้งอึดอัดนั้นของเธอ ถูกผมจับได้แล้ว

ในใจของผม ‘สะอึก’ อย่างอดไม่ได้

ผมสงสัยว่าหลี่ลี่เจียวไม่ได้โมโห แต่ว่าสับสนและลังเล ไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควรทำตัวคลุมเครือกับผม ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจผมเลย

ในใจของผมค่อนข้างดีใจ

เป็นเพราะว่าแบบนี้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเธอสนใจในตัวผม

“ไปว่านต๋าสแควร์” พี่สะใภ้บอก

ผมตอบรับ จากนั้นใช้โทรศัพท์มือถือค้นหาเส้นทางเรียบร้อยแล้ว ก็สตาร์ตรถขับมุ่งหน้าไปยังว่านต๋าสแควร์

ผมมองกระจกหลังเป็นครั้งคราวตลอดทาง

เป็นเพราะอยากจะรู้ว่าเซอร์ไพรส์พี่สะใภ้พูดคืออะไร?

ตอนที่รถมาถึงช่วงถนนที่การจราจรแออัด ความเร็วของรถด้านหน้าช้ามาก ผมมองกระจกหลังอีกครั้ง

นี่เป็นภาพที่น่าทึ่งมาก ผมเห็นหลี่ลี่เจียวกำลังถอดกางเกงในของเธอออกมาพอดี

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status