ผมจะกล้าพูดความจริงได้อย่างไรกันล่ะ ถ้าบอกพี่ลี่เจียวว่าผมเป็นแบบนี้บ่อย ๆ เธอคงคิดว่าผมเป็นพวกหื่นกามแน่ ๆผมจึงตอบกลับเธอไปอย่างระวังคำพูด “ไม่ใช่ครับ ปกติผมไม่ได้เป็นแบบนี้”“งั้นเธอก็หมายความว่า พอเห็นพี่แล้วเป็นงั้นเหรอ?” หลี่ลี่เจียวถามด้วยใบหน้าแดงก่ำผมรีบอธิบาย “นั่นก็ไม่ใช่ครับ ผมเคารพพี่ลี่เจียวมาตลอด ไม่เคยคิดอะไรที่ไม่ดีต่อพี่เลย”“ที่เป็นแบบนี้ อาจเป็นเพราะพี่ลี่เจียวสวยมาก ๆ ““ผู้ชายเวลาเห็นผู้หญิงสวย ๆ ก็มักจะชอบอยู่แล้ว”เมื่อผมพูดคำพวกนี้ออกไป ใบหน้าของพี่ลี่เจียวก็แดงมากขึ้น แววตาสะท้อนความเขินอายออกมาผมกลัวว่าพี่ลี่เจียวจะโกรธ จึงอธิบายอีกว่า “พี่ลี่เจียว ผมชอบมองพี่ แต่ไม่มีความคิดที่จะลวนลามพี่เลยนะ”“สำหรับผมแล้ว พี่เป็นเหมือนนางฟ้า ผมไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ทั้งอ่อนโยนและสวยขนาดนี้แบบพี่มาก่อน”“พอแล้ว พอแล้ว นางฟงนางฟ้าอะไรกัน พี่สะใภ้ของเธอยังบอกว่าเธอเป็นคนซื่อ แต่พี่เห็นว่าเธอไม่เห็นจะซื่อเลย”หลี่ลี่เจียวพูดตัดบททันที เธอกลัวว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป เธอเองจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อเห็นว่าหลี่ลี่เจียวไม่ได้โกรธ ผมจึงพูดอย่างดีใจ “งั้นพี่ลี่เจียว ตอ
แต่ตอนนี้พี่สะใภ้ไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่ เธอสนใจพี่ลี่เจียว เพื่อนสนิทของเธอมากกว่าพี่สะใภ้กำลังสังเกตสีหน้าของพี่ลี่เจียวพี่ลี่เจียวหน้าแดงเหมือนลูกแอปเปิล และดูเขินอายมาก เธอไม่กล้าแม้จะสบตาผมยิ่งเธอเป็นแบบนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเธอก็มีความต้องการมากเพราะสำหรับผู้หญิงแบบพี่ลี่เจียวแล้ว ต่อให้พวกเธอจะต้องการมากแค่ไหน อยากได้มากแค่ไหน ก็จะเก็บเอาไว้ในใจ ไม่พูดมันออกมาหากต้องการที่จะรู้ความคิดในใจของเธอ จะต้องจับสังเกตจากสีหน้าของเธอและพี่สะใภ้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เธอแค่มองพี่ลี่เจียวแวบเดียว ก็รู้ความในใจของอีกฝ่ายแล้ว“ลี่เจียว งั้นเธอรีบพักผ่อนเถอะ ฉันกับเอ้อร์โก่วขอตัวกลับก่อน”“พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมไปให้เอ้อร์โก่วนวดต่อที่บ้านฉันด้วยนะ” พี่สะใภ้พูดจบ ก็หันมาส่งสายตาเป็นเชิงให้ผมกลับความจริงแล้วผมยังไม่อยากกลับ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องเดินตามพี่สะใภ้ออกมาเมื่อกลับถึงบ้าน พี่สะใภ้หัวเราะออกมาทันที “พี่เดาไม่ผิดเลยจริง ๆ ความต้องการของลี่เจียวถูกกระตุ้นแล้ว”ผมยังคงสงสัยว่าทำไมพี่ลี่เจียวถึงโกรธขึ้นมาอย่างกระทันหันแต่คิดยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีผมจึ
“ใช่ พี่เคยพูด วางใจได้ ครั้งนี้พี่สะใภ้รักษาคำพูดแน่นอน”พอได้ยินพี่สะใภ้พูดแบบนี้ ผมก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ของแบบนี้ ตัวเองทำกับคนอื่นทำ ความรู้สึกช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง มือขาวดั่งหยกของพี่สะใภ้ทั้งเนียนทั้งอ่อนโยน ผมอยากจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นเสียจริง ๆแต่พี่สะใภ้ก็พูดขึ้นว่า “แต่ตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอสักพักก่อน”ผมพยักหน้าซ้ำ ๆเพราะผมรู้ ว่าพี่สะใภ้กลัวว่าจู่ ๆ พี่ชายผมก็กลับมา ซึ่งจริง ๆ แล้วผมเองก็กลัวเหมือนกัน ผมจึงพูดกับพี่สะใภ้ว่า “งั้นผมต้องกลับห้องก่อน แล้วอีกสักพักผมจะมาหาพี่”“โอเค ไปเถอะ”หลังจากบอกลาพี่สะใภ้แล้ว ผมก็กลับห้องไปแล้วจึงรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก เหลือไว้เพียงแค่กางเกงในหนึ่งตัวเท่านั้น จากนั้นก็นอนลงบนเตียง ทั้งหัวใจยังคงเฝ้ารอคอยว่าอีกสักพักพี่สะใภ้จะเข้ามาช่วยผม นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่จะมีหญิงสาวเข้ามาช่วย ผมตื่นเต้นจนชักจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ ผมได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก พี่ชายของผมกลับมาแล้ว พี่สะใภ้ถามพี่ชายผมว่าจะกินข้าวไหม? พี่ชายผมจึงตอบกลับไปว่าเขาทานมาจากข้างนอกแล้วพี่
พี่ชายผมทำหน้าตาย พูดอย่างปากแข็งพี่สะใภ้คว้าใบหูของพี่ชายเอาไว้แน่น “ที่คุณเหนื่อยน่ะมันไม่ใช่เรื่องแค่วันสองวันนี้ แล้วทำไมเมื่อก่อนไม่เคยเห็นคุณเป็นแบบนี้มาก่อนเลย?”“ตอนที่เพิ่งแต่งงานแรก ๆ วัน ๆ หนึ่งคุณทำเจ็ดแปดรอบก็ไม่มีปัญหา ยุ่งอยู่จนถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองถึงค่อยกลับมา พอกลับมาแล้วเป็นไง ก็ยังไม่วายต้องกลับมาซ้ำอีกครั้งถึงจะนอนหลับได้”“แต่ดูคุณตอนนี้สิ ไม่ว่าจะวิธีไหนฉันก็ใช้ไปหมดแล้ว เจ้านั่นของคุณก็ยังคงอ่อนปวกเปียกอย่างกับเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างนั้น คุณยังไม่ยอมรับอีกเหรอว่าเป็นปัญหาของคุณ?”พี่สะใภ้เริ่มโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนสุดท้ายจึงร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ตอนนั้นที่เพิ่งแต่งงานแรก ๆ เธอพูดว่าอยากมีลูกชาย แต่พี่ชายผมกลับพูดว่าบริษัทกำลังพัฒนายังไม่มั่นคงพอ ช่วงนี้ยังมีไม่ได้พี่สะใภ้ได้ยินคำที่พี่ชายผมพูดออกมา หลังจากนั้นก็กินยาคุมกำเนิดมาตลอด ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ บริษัทของพี่ชายผมค่อย ๆ มั่นคงขึ้นแล้ว ทางพี่สะใภ้เองก็ไปเสนอเรื่องอยากมีลูกใหม่อีกครั้ง แต่ร่างกายของพี่ชายผมกลับไร้เรี่ยวแรงพี่สะใภ้จึงรู้สึกว่ามีเพียงแค่เธอที่พยายามอยู่ฝ่ายเดีย
“งั้นเธอหมายถึงอะไร” สายตาของพี่สะใภ้มองมาที่ผม เธอจงใจที่จะถามผมแบบนี้ใจของผมรู้สึกกังวลอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เสียมารยาทพูดออกไปตรงๆ ทำได้เพียงแค่พูดว่า “พี่รู้ว่าผมทรมานมากแค่ไหน แล้วพี่เองก็รู้ด้วยซ้ำว่าผมอยากให้พี่ทำอะไร”“แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ได้เกิดจากพี่ มันเกิดขึ้นจากตัวเธอเอง แล้วทำไมเธอถึงว่าพี่โกหกล่ะ?”พี่สะใภ้ย้อนถามกลับมาที่ผม “พี่จะโกหกเธอได้ยังไง? พี่ได้พูดเหรอว่าใช้มือช่วยเธอทำแบบนั้นน่ะ?”พี่สะใภ้พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาไม่กี่คำ กลับทำให้ผมรู้สึกเคอะเขินอย่างมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตอนที่เธอพูดไม่กี่คำเหล่านี้ออกมา มีเจตนาอะไรบางอย่างแฝงอยู่ เธอต้องการช่วยผมทำเรื่องพรรค์นั้น ผมนิ่งเงียบอย่างกับใบ้กิน แม้แต่ประโยคเดียวก็เปล่งออกมาไม่ได้ อารมณ์ของผมหดหู่อย่างมากแม้ว่าคำพูดของพี่สะใภ้จะเป็นความจริงทั้งหมดก็ตาม แต่ผมก็ยังอยากรู้สึกว่าโดนพี่สะใภ้โกหกอยู่ “เอ้อร์โก่ว เธอเงยหน้าขึ้น แล้วมองมาที่ตาพี่สิ” จู่ ๆ พี่สะใภ้ก็พูดขึ้นมากับผมผมเงยหน้าขึ้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก แล้วมองเข้าไปนัยน์ตาพี่สะใภ้ พี่สะใภ้เองก็มองตาผมอยู่ แล้วพูดอย่างจริงจังมาก ๆ ว่า "เวล
ผมพูดว่าสามีของหลี่ลี่เจียวเป็นแค่คนไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง แต่ถ้าเทียบกับผมแล้วเจ้าหวังเจี้ยนกั๋วก็นั้นก็ไม่ใช่คนแบบนั้นอีกต่อไป ผมรีบคว้ามือของพี่สะใภ้เอาไว้ พี่สะใภ้ยิ้มออกมาเล็กน้อย ราวกับเดาได้ว่าทำไมผมถึงทำเช่นนี้ “คิดดีแล้วเหรอ?”ในใจของผมลังเลทั้งยังย้อนแย้งอย่างมาก ด้านหนึ่งคือพี่ชายที่เป็นเหมือนพี่น้องแท้ๆ ที่ผมรักส่วนอีกด้านคือผู้หญิงที่ผมปรารถนา คิดใคร่ครวญไปมา สุดท้ายผมก็เลือกอย่างแรก ผมไม่อาจจะให้ความสุขเพียงชั่วครู่ มาทำให้เกิดเรื่องที่รู้สึกผิดต่อเฉินเว่ยตง งั้นผมแม่งคงเป็นได้แค่เดนมนุษย์สินะผมพยักหน้าอย่างหนักแน่น "คิดดีแล้วครับ พี่สะใภ้ พี่ควรออกไปดีกว่า"“พี่รู้ว่าเธอต้องทำแบบนี้ เอ้อร์โก่ว เธอช่างเป็นคนดีคนหนึ่งจริง ๆ”“ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่ชายของเธอมักจะพูดอยู่เสมอว่ามีน้องชายที่ดีมาก ๆ อย่างเธออยู่คนหนึ่ง”ผมมองพี่สะใภ้อย่างละอายแก่ใจ “พี่สะใภ้ ขอโทษครับ พี่กับพี่ผมดีกับผมขนาดนี้ ผมยังมีความคิดจะทำมิดีมิร้ายกับพี่อีก ผมมันไม่ใช่คนจริงๆ ”“นี่มันไม่ใช่ความผิดของเธอทั้งหมด เป็นความผิดของพี่สะใภ้ด้วยเหมือนกัน ที่พูดกับเธอต่อหน้าประจำว่าให้เปิดใจอ
ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่เสียงหอบนั่นเป็นเสียงครวญครางจากความเจ็บปวด “พี่ลี่เจียว เป็นอะไรไป” ด้วยจิตใต้สำนึกผมจึงพุ่งตัวเข้าไป เห็นเพียงแค่หลี่ลี่เจียวนอนคว่ำอยู่บนเตียง มือหนึ่งสอดเข้าไปด้านล่าง ทั่วทั้งเรือนร่างมีเหงื่อเย็นซึมออกมามากผมจึงรีบคว้าข้อมือของเธอมาจับชีพจร ปรากฏว่าชีพจรของเธอเต้นรัวเร็วไม่ปกติ ม้ามและระบบย่อยอาหารค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งยังมีอาการอาเจียนร่วมด้วยอาจจะเป็นเพราะโรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบเฉียบพลันค่อนข้างรุนแรง จนอาจจะเกิดอาการขาดน้ำได้ ผมช่วยให้หลี่ลี่เจียวขึ้นมานอนราบดี ๆ หลังจากนั้นก็เริ่มนวดจุดฝังเข็มให้เธอ ซึ่งแยกได้เป็น จุดเทียนซู จุดจู๋ซานหลี่ จุดเหลียงชิว และจุดเน่ยกวานจุดฝังเข็มเหล่านี้ จะสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้หลังจากที่ผมนวดไปแล้ว อาการเจ็บปวดของหลี่ลี่เจียวก็ค่อย ๆ บรรเทาลงในที่สุด เธอมองมาที่ผมอย่างอ่อนแรง "เอ้อร์โก่ว ขอบคุณ... ขอบคุณเธอมากนะ"ผมช่วยเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ แล้วถามด้วยความห่วงใย "พี่ลี่เจียว เมื่อเย็นนี้พี่กินอะไรเข้าไป? "“ตอนเย็นพี่ดื่มนมเย็นไปนิดหน่อย แล้วก็กินผลไม้อีกนิดหน่อย ผ่านไปได้ไม่นาน ก็รู้สึกปวดท้อ
เวลาห้าทุ่มผมกำลังวิ่งอยู่ที่สวนสาธารณะด้านล่างแถวบ้านพี่ชายผมจู่ ๆ ผมก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากในพุ่มไม้“เฉินเว่ยตง สรุปว่าคุณไหวไหมเนี่ย? คุณบอกว่าอยู่ที่บ้านไม่มีอารมณ์ ฉันเลยมาที่นี่กับคุณ แล้วทำไมคุณยังเป็นแบบนี้อยู่อีก?”จากที่ฟัง นี่คือเสียงของเกาซินหย่าพี่สะใภ้ผมไม่ใช่เหรอ?พี่ชายผมกับพี่สะใภ้ออกไปกินข้าวกันข้างนอกไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้มาโผล่อยู่ที่สวนสาธารณะ แถมยังเป็นในพุ่มไม้อีกด้วย?ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยมีแฟน แต่ก็เคยดูวิดีโอการเรียนการสอนมาไม่น้อย ก็เข้าใจในทันทีว่าสองผัวเมียกำลังมองหาความตื่นเต้นอยู่คิดไม่ถึงว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้ของผมจะเล่นกันเด็ดถึงขนาดนี้! คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาที่สวนสาธารณะ...นี่มันจะตื่นเต้นเกินไปแล้วมั้งผมอดไม่ได้ที่อยากจะเดินเข้าไปแอบฟังพี่สะใภ้ผมสวยมาก รูปร่างก็โคตรดี การได้ฟังเสียงครางของพี่สะใภ้ เป็นเรื่องที่ผมใฝ่ฝันผมค่อย ๆ ย่องเดินมาถึงข้างพุ่มไม้ จากนั้นก็ค่อย ๆ แอบชะโงกหัวออกไปเห็นพี่สะใภ้นั่งคร่อมอยู่บนตัวพี่ชายของผม ถึงแม้ว่าจะหันหลังให้ผม แต่เค้าโครงแผ่นหลังที่โดดเด่นนั้นสวยงามมากเหลือเกินผมรู้สึกคอแ