Share

บทที่ 5

หลังจากที่หลี่ลี่เจียวถอดกางเกงในของเธอออก ก็นำใส่ลงในกระเป๋าถือ จากนั้นก็มองออกนอกหน้าต่างราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ว่าสีหน้าของเธอแดงก่ำ ขาทั้งสองข้างหนีบเข้าหากันแน่น

ผมมองจากในกระจกมองหลังก็สามารถมองเห็นท่าทางทั้งหมดของเธอได้พอดี

ท่าทางที่กระดากอายนั้น ช่างน่าหลงใหลจริง ๆ

โดยเฉพาะระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอ ทำให้ผมเต็มไปด้วยจินตนาการ

พี่สะใภ้สุดยอดไปเลยจริง ๆ ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับหลี่ลี่เจียว คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถทำให้เธอแบบนั้นได้

“ครืด ๆ ” จู่ ๆโทรศัพท์มือถือก็สั่น

ผมกดเปิดไลน์ พบว่าเป็นข้อความที่พี่สะใภ้ส่งมาให้ผม

พี่สะใภ้ ‘เห็นหรือยัง?’

ผมทั้งเขินอายทั้งตื่นเต้น ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี จึงตอบกลับพี่สะใภ้ด้วยสติกเกอร์หน้ายิ้มอันหนึ่ง

ข้อความของพี่สะใภ้ส่งมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ‘หลี่ลี่เจียวเหมือนกับเธอ เขินอายอยู่เล็กน้อย แต่ฉันจะทำให้เธอค่อยๆ เปิดใจตัวเอง ตัวเธอเองก็ต้องรู้จักคว้าโอกาสล่ะ’

ผมตอบ ‘ครับ’

ในเวลาเดียวกันในใจก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พี่สะใภ้จะช่วยเหลือได้จริง ๆ

หลังจากที่ถึงห้างสรรพสินค้า พี่สะใภ้มักจะช่วยสร้างโอกาสให้ผมเสมอ ให้ผมได้เข้าไปใกล้หลี่ลี่เจียว แต่หลี่ลี่เจียวมักจะจงใจหลบเลี่ยงผม ทำให้ผมจนปัญญาเอามาก ๆ

ตอนระหว่างพักเบรก หลี่ลี่เจียวไปห้องน้ำ พี่สะใภ้จึงฉวยโอกาสถามผม “เธอเป็นอะไรเนี่ย? พี่สร้างโอกาสให้เธอแล้วนะ เธอฉวยโอกาสใกล้ชิดเธอก็จบเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง?”

“พี่สะใภ้ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากใกล้ชิด แต่พี่ลี่เจียวเองแต่จงใจหลบเลี่ยงผม ผมยังสงสัยอยู่เลยว่า เป็นเพราะเธอรู้ว่าผมมีเจตนาไม่ดีกับเธอใช่ไหม?” ผมพูดอย่างรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

“แบบที่เธอทำเรียกว่าเข้าใกล้? ดูท่าพี่คงจะสอนเธออย่างเสียเปล่าจริงๆ แล้วล่ะ เธอจำเอาไว้นะ การจัดการกับผู้หญิง ไม่ควรเป็นสุภาพบุรุษมากจนเกินไป”

“เธอไม่ให้เข้าใกล้ เธอก็เลยไม่เข้าใกล้? เธอไม่ให้ช่วยถือของ เธอก็เลยไม่พยายามช่วยเธอถือของ?”

“เธอเป็นผู้ชาย เธอต้องพยายามมากกว่านี้อีกนิด ทำให้เธอเห็นด้านความเป็นสุภาพบุรุษของเธอ จากนั้นยั่วยวนเธออย่างไม่ตั้งใจ ไฟราคะของเธอก็จะค่อยๆ ถูกเธอกระตุ้นออกมา

“ไม่อย่างนั้นละก็ นิสัยที่ชักช้าของเธอ ปีมะโว้คงถึงจะจัดการเธอได้อยู่หมัดนะซิ”

ข้อนี้ทำให้ผมไปไม่ค่อยเป็นเลยจริงๆ สมัยเรียน ผมก็เอาแต่เรียนหนังสือ ไม่เคยจีบผู้หญิง

ก็เลยยิ่งไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แบบนี้ยังไง

ผมพยักหน้าคล้ายจะเข้าใจแต่ก็ไม่ “ผมเข้าใจแล้วครับ พี่สะใภ้”

จู่ ๆ พี่สะใภ้ก็เดินเข้ามาใกล้ผม ช่วยผมจัดคอเสื้อ ผมได้กลิ่นหอมมาจากบนตัวของพี่สะใภ้ การจ้องมองใบหน้าของเธออย่างใกล้ชิด ทำให้หัวใจเต้นรัวอย่างอดไม่ได้

พี่สะใภ้ผิวพรรณดีมาก ถึงแม้ว่าจะอายุ30กว่าปีแล้วก็ตาม แต่ผิวพรรณดีเหมือนกับสาวน้อยวัยสิบแปดสิบเก้าปี

อีกทั้งหน้าอกของพี่สะใภ้ก็อวบอิ่มมโหฬารเป็นอย่างยิ่ง ตอนที่เธอเข้าใกล้ผม หางตาของผมก็เหลือบเห็นว่าหน้าอกของเธอเกือบจะชนเข้ากับตัวของผมแล้ว

นี่ทำให้ผมยิ่งรู้สึกปั่นป่วนใจมากยิ่งขึ้น ภายในหัวสมองมีภาพที่แอบได้ยินเมื่อเช้านี้ปรากฏขึ้นอย่างอดไม่ได้

“เอ้อร์โก่ว ตอนเช้าเธอเห็นอะไรใช่ไหม?”

จู่ ๆ พี่สะใภ้ก็ถามผมขึ้นมาแบบนี้

ผมตกใจจน ‘สะอึก’ ทันที รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“ปะ เปล่าครับ พี่สะใภ้ ทำไมจู่ ๆ พี่ถึงถามแบบนี้ละครับ?”

“เปล่าจริง ๆ เหรอ? ถ้าอย่างนั้นกางเกงในที่วางไว้ตรงห้องน้ำเมื่อตอนเช้า ทำเลอะไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ตัวของพี่สะใภ้ไม่ได้สูงมาก สูงแค่คางของผมเท่านั้น เธอเงยหน้ามองผม ริมฝีปากแดงที่สวยงามนั้น ระยะใกล้กับผมมาก ๆ

ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจของพี่สะใภ้ที่รดอยู่บริเวณต้นคอของผม มันทั้งจั๊กจี้ ทั้งชา

ในใจของผมสับสนไม่ไหว พูดอย่างติดอ่าง “มะ เมื่อคืนนี้ผมทำมันเลอะเอง พี่สะใภ้ ผมรู้ว่าผมทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วครับ”

พี่สะใภ้ขำ ‘พรืด’ ออกมาทันที คลายปกคอเสื้อของผม “พี่ไม่ได้ว่าเธอ พี่ก็แค่รู้สึกว่าปฏิกิริยาของเธอในวันนี้มันแปลก ๆ ไป ยังคิดว่าเมื่อเช้าเธอเห็นอะไรไปหรือเปล่าน่ะ?”

“ตอนเช้าผมหลับสนิทมาก นอนจนถึงเก้าโมงกว่าถึงตื่น พี่สะใภ้ก็รู้นี่ครับ” ผมพูดโกหก

พี่สะใภ้พยักหน้า “เป็นพี่ที่คิดมากไปเอง อันที่จริงพี่ก็เข้าใจได้นะ เธอเป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ ไม่เคยมีแม้กระทั่งแฟน จู่ๆ พี่ก็พูดเรื่องพวกนี้กับเธอ ก็น่าลำบากใจอยู่บ้างจริง ๆ ”

“บวกกับเมื่อเช้าที่พี่พูดเรื่องพวกนั้นกับเธออีก บางครั้งก็ยากที่จะเลี่ยงที่ทำให้เธอต้องจินตนาการ ดังนั้นพี่จะขอเตือนเธอตรงนี้อีกครั้ง พี่เป็นพี่สะใภ้ของเธอ แล้วตอนนี้ก็เป็นคุณครูของเธอด้วย เธอห้ามมีความคิดอย่างอื่นกับพี่เด็ดขาด”

“เข้าใจไหม?”

ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับพี่สะใภ้ แต่เมื่อได้ยินพี่สะใภ้พูดแบบนี้กับผม ในใจของผมก็ยังคงรู้สึกค่อนข้างหดหู่อยู่ดี

พี่สะใภ้หันหน้าไปมองทางห้องน้ำทีหนึ่ง พูดกับผมอีกว่า “อีกเดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวกลางวันกัน เธอหาเวลายั่วเย้าไฟราคะของหลี่ลี่เจียว ถือโอกาสตอนกลับไปช่วยถือของไปส่งเธอ แบบนี้ เธอก็ไปที่บ้านของเธอได้แล้ว”

ผมไม่ได้พูดอะไร

พี่สะใภ้เอียงคอมองผมแล้วพูดว่า “ทำไม ทำไม่เป็นเหรอไง? ถ้าทำไม่เป็นจริง ๆ ละก็ ไปหาหนังผู้ใหญ่ดูนะ”

“ผมเปล่า” ผมพูดด้วยเสียงที่เบามาก ๆ ในเวลาเดียวกันก็ก้มหน้าลงต่ำมาก ๆ

พี่สะใภ้ถูกคำพูดของผมทำให้ขำ “ไม่ใช่หรอกมั้ง ผู้ชายอย่างพวกเธอน่ะ ชอบดูหนังแบบนั้นกันทุกคนไม่ใช่หรือไง?”

“พี่สะใภ้ ผมเปล่าจริง ๆ ผมยังไม่รู้เลยว่าควรจะไปหามาจากไหน”

“โอ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเธอก็เป็นเด็กดีจริง ๆ” พี่สะใภ้ยิ้มจนหุบปากไม่ลง ในเวลาเดียวกัน สายตาที่จ้องมองผมก็แปลกไป

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กำลังเลื่อนหาอะไรบางอย่าง ในเวลานี้เอง หลี่ลี่เจียวก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

พี่สะใภ้รีบเก็บโทรศัพท์มือถือลงไป พร้อมทั้งส่งสายตาให้ผม

“พี่ลี่เจียว ผมช่วยพี่ถือของนะ” เมื่อผมเห็นสายตาของพี่สะใภ้ ก็รีบเดินเข้าไปพูดกับหลี่ลี่เจียว

“ไม่ต้อง ฉันถือเองก็ได้”

“ผมเป็นลูกผู้ชาย จะให้ผู้หญิงแบบพี่ถือของได้ยังไงละครับ? เอามาให้ผมเถอะ”

มีประสบการณ์ที่พี่สะใภ้ถ่ายทอดให้ผม ครั้งนี้ ผมไม่สนใจว่าหลี่ลี่เจียวจะมีท่าทียังไง ก็แย่งสิ่งของมาจากในมือของเธอทันที

หลี่ลี่เจียวพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ผม “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนเธอแล้ว”

ในใจของผมรู้สึกดีใจ

สมกับที่มีพี่สะใภ้เป็นคุณครู ใช้ประสบการณ์ที่เธอถ่ายทอดมาให้ผม มันใช้ได้ผลมากจริง ๆ

ผมถือทั้งถุงเล็กถุงใหญ่คนเดียว นำพวกมันไปเก็บไว้ในรถ พี่สะใภ้กับหลี่ลี่เจียวไปหาที่กินข้าวแล้ว

หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว จู่ ๆโทรศัพท์มือถือของผมก็สั่นสองครั้ง

ทันทีที่ควักออกมาดู พี่สะใภ้ส่งวิดีโอแบบนั้นมาให้ผมอย่างคาดไม่ถึง

ผมรู้สึกมีความรู้สึกว่ากำลังทำผิด รีบหันมองไปบริเวณรอบ ๆ

โชคดีที่ ในเวลานี้โรงจอดรถไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่

พี่สะใภ้ส่งข้อความอีกผมอีกหนึ่งข้อความติด ๆ ‘ลองเรียนรู้จากวิดีโอสักหน่อยเถอะ ไม่ต้องรีบขึ้นมา รอให้อาหารใกล้มาเสิร์ฟ ฉันจะบอกนาย’

ผมรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก เป็นเพราะผมไม่เคยดูวิดีโอแบบนี้มาก่อนจริง ๆ

ผมเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง หลังจากที่มองไปรอบ ๆ มั่นใจว่าไม่มีคนแล้ว ผมก็ใช้มือที่สั่นระริก กดเปิดวิดีโอด้วยความตื่นเต้น

ภาพในวิดีโอเร่าร้อนมาก ผมดูไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็รู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหว

บวกกับไฟราคะที่ถูกพี่สะใภ้ปลุกปั่นเมื่อเช้าตอนนี้ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

ผมปลดเข็มขัดอย่างอดไม่ได้ เตรียมที่จะปลดปล่อยสักหน่อยแล้วค่อยขึ้นไป

ในตอนที่ผมกำลังจะปลดปล่อยอย่างลืมตัว ผมก็บังเอิญเห็นเงาคนคนหนึ่งที่ด้านนอกหน้าต่างรถ

และตอนที่ผมเห็นเงาคนนั้นชัดเจน ผมก็รู้สึกชาไปทั้งตัว

เนื่องจากเงาคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหลี่ลี่เจียวเพื่อนสนิทของพี่สะใภ้

และตอนที่ผมพบว่าเป็นหลี่ลี่เจียว หลี่ลี่เจียวก็จ้องมองผมเขม็งด้วยดวงตาสวยคู่นั้นอยู่แบบนั้น จ้องมองตรงมาที่ผม

แต่ตอนที่พวกเราสองคนสบตากัน หลี่ลี่เจียวก็เหมือนกับกระต่ายที่ตื่นตูม หันหลังขวับแล้ววิ่งหนีไปทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status