"อ้าวพี่หมอนี่ค่ะข้าวกล้องผัดอกไก่กับก๋วยเตี๋ยวหมี่ข้าวกล้องอย่างละสองกล่องค่ะ"
นิชาเห็นหมออลันเดินออกมาจากคลินิคเธอก็รีบยื่นอาหารที่เขาสั่งไว้ทันที
หมออลันหมอหนุ่มวัยสามสิบหกสูงขาวหน้าตี๋เป็นอีกคนที่เป็นลูกค้าประจำเธอเช่นกันเพราะเปิดคลินิคติดกับที่เธออยู่มาก่อนหน้านี้แล้วแถมยังเป็นเจ้าของทาวน์เฮ้าส์ที่เธอเช่าอีกด้วย
"ขอบคุณครับวันนี้ขายของหมดเร็วจังเลยนะครับ"
อลันเห็นแผงกล่องก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเหลือน้อยแล้วไม่คิดว่าวันนี้จะหมดไวนี่ยังไม่แปดโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ
"วันนี้นิทำของน้อยน่ะค่ะเพราะเมื่อคืนมีออเดอร์อาหารคลีนเยอะ"
วันนี้นิชามีเวลาเตรียมวัตถุดิบลุยสวนน้อยเพราะออเดอร์อาหารคลีนเมื่อคืนค่อนข้างเยอะ
"ขยันแบบนี้นี่เอาเงินไปเก็บไว้ไหนหมดครับเนี่ยพักบ้างนะครับระวังจะป่วยเอานะ"
อลันเอ่ยหยอกนิชาเฉกเช่นทุกวันเพราะเขานั้นแอบมีใจให้หญิงสาวน่าตาน่ารักน่าชังคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นไม่อย่างนั้นคงไม่เสนอให้เช่าทาวน์เฮ้าส์ของเขาในราคาถูกๆหรอกแต่สาวเจ้าดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าเขาคิดกับเธอเช่นไร
"ป่วยก็จะกลัวอะไรล่ะคะคลินิคอยู่ติดกันขนาดนี้"
นิชาอมยิ้มอ่อนพรางกวาดตามองไปทางคลินิค
"นั่นสินะ...ถ้าแม่ค้าคนขยันป่วยมาทั้งทีพี่จะเลี้ยงไข้นานๆเลย"
"ได้ด้วยเหรอคะ"
"ล้อเล่นครับงั้นพี่ขอตัวก่อนนะ"
"ค่ะ"
อลันเดินกลับเข้าคลินิคไปด้วยรอยยิ้มทุกวันเพราะเขาจะเจอหน้านิชาทุกเช้ารอยยิ้มของนิชาเปรียบเหมือนกำลังใจในการทำงานของเขาอย่างดีเลยทีเดียว
เย็นของวัน
"ครบหรือยังนะ"
นิชาขับรถมอเตอร์ไซต์มือสองของเธอมาหาซื้อวัตถุดิบในตลาดเมื่อซื้อของได้พอสมควรแล้วจึงมานั่งเชคอยู่ตรงเก้าอี้สาธารณะที่ตลาดว่าของที่เลือกซื้อมานั้นครบหรือไม่เพราะจะได้ไม่ต้องมาอีกรอบ
"ช่วยด้วยค่า.. ช่วยหนูด้วย"
"ว้าย.."
"พี่คะช่วยหนูด้วย"
นิชาใจแทบตกไปอยู่ตาตุ่มเมื่อจู่ๆก็มีเด็กสาวใส่ชุดนักเรีบนม.ปลายวิ่งมาหลบที่หลังเธอแถมยังมีชายฉกรรจ์ที่ดูไม่น่าไว้ใจสองคนวิ่งตามมาด้วย
"พวกนายเป็นใครทำร้ายผู้หญิงทำไม"
นิชาเห็นว่าเด็กสาวน่าจะถูกไล่ทำร้ายเธอจึงออกตัวปกป้องเด็กสาวคนนั้นทันทีเพราะไม่ชอบการทำร้ายคนไม่มีทางสู้เป็นที่สุด
"ก็แม่มันติดเงินหมื่นนึงไม่ยอมจ่ายก็ต้องทวงสิวะ"
ชายร่างสูงชุดดำตรงหน้านิชาตะคอกใส่ทั้งสองสาวจนสะดุ้งเฮือก
"แม่หนูเสียแล้วจะเอาเงินที่ไหนให้พวกพี่ล่ะจ้ะ"
เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่เธอถูกตามอยู่แบบนี้ก็เพราะว่าไม่มีเงินใช้หนี้นั่นเอง
"ไม่มีแกก็มากับฉันไปทำงานใช้หนี้ที่คลับ"
"ไม่ไปหนูไม่อยากขายตัว..พี่สาวช่วยหนูด้วย..ฮื่อๆๆๆ.."
ชายสองคนพยายามลากตัวเด็กสาวให้ไปกับพวกเขาให้ได้เพราะหากไม่มีเงินจ่ายก็ต้องทำงานใช้หนี้
"หมื่นนึงใช่ไหม"
นิชาได้ยินดังนั้นก็พลันนึกถึงตัวเองเธอจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้เป็นเหยื่อของใครเด็ดจาดจึงตัดสินใจพูดสิ่งที่เธอต้องการออกมา
"อะไร"
ชายสองคนหยุดชะงักการกระทำแล้วหันมาหานิชาด้วยสีหน้าสงสัย
"น้องเค้าติดหนี้พวกนายหมื่นนึงใช่ไหม"
"เออ.."
"ถ้าใช้แล้วจะจบไหม"
"จบสิวะที่ตามเนี่ยก็อยากจะได้เงินคืนไง"
"ตามฉันมาเดี๋ยวฉันไปกดเงินให้"
"ข..ขอบคุณพี่สาวมากเลยนะจ๊ะ"
เด็กสาวไหว้นิชาจนแทบจะกราบที่เธอเหมือนนางฟ้ามาโปรดเธอในตอนนี้จริงๆ
"ทีหลังไม่มีคืนก็อย่ามายืมอีกล่ะ"
หลังจากที่นิชากดเงินมาให้คนพวกนั้นแล้วเด็กสาวก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
เงินหมื่นของนิชาตอนนี้ถึงแม้ว่ามันจะดูเยอะสำหรับเธอแต่เมื่อแลกกับชีวิตคนๆนึงที่จะไม่ถูกกระทำทารุณมันก็คุ้มมากๆที่เธอจะเสียมันไปเพราะเงินทองไม่ตายก็หาเอาใหม่ได้
"พวกนั้นทวงหนี้โหดแบบนี้เรายังไปยืมพวกนั้นอีกเหรอ"
"พวกหนูไม่มีทางเลือกหรอกจะพี่สาวตอนแรกที่แม่หนูยืมมาแค่สามพันเองแล้วแกก็ล้มป่วยพึ่งเสียเมื่อเดือนที่แล้วเลยไม่มีเงินส่งพวกมันจนดอกมันขึ้นมาเป็นหมื่นนี่แหละจะ"
"โถ่..คนพวกนี้ก็น่าเลือดจริงๆเลยทำไมต้องมีคนเลวๆอยู่มันทุกที่ไปด้วยนะ"
"เงินที่พี่สาวใช้หนี้มันไปหนูจะรีบหามาคืนให้นะจ๊ะ"
"จะเอาเงินที่ไหนมาคืนพี่เรายังเรียนอยู่ไม่ใช่หรือไงไม่ต้องหรอก"
"แล้วบ้านอยู่ไหนเดี๋ยวพี่ไปส่ง"
สองสาวนั่งคุยกันพักใหญ่นิชาเลยจะอาสาไปส่งเด็กสาวที่พึ่งรู้จักที่บ้านเพราะกลัวว่าจะถูกตามมาทำร้ายอีก
"พี่ชื่อนิชาเรียกพี่นิก็ได้เราล่ะชื่ออะไร"
"หนูชื่อปลาดาวจะเรียกหนูว่าดาวเฉยๆก็ได้เหมือนที่แม่เรียก"
"โอเค"
ในระหว่างที่นิชาขับรถมอเตอร์ไซต์โดยมีเด็กสาวช่วยถือของที่เธอซื้อมาทั้งสองก็พูดคุยทำความรู้จักกันก่อนจะถึงบ้านเพราะเมื่อครู่คุยกันเป็นพักแต่ดันไม่ได้เอ่ยถามชื่อกันเสียอย่างนั้น
"ถึงบ้านหนูแล้วจะขอบคุณพี่นิมากเลยนะจ๊ะ"
"บ้านดาวเหรอ...ตอนนี้อยู่กับใคร"
นิชามองไปยังบ้านเล็กๆที่เป็นเหมือนเพิงพักคนงานที่มีอยู่หลังเดียวโดดๆท่ามกลางป่าเปลี่ยวที่อยู่สุดซอยบ้านนี้ดูไม่ปลอดภัยกับการที่มีผู้หญิงอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
"หนูอยู่คนเดียวจะ"
"ตายแล้ว...ไม่อันตรายหรือไง"
ปาริดาส่ายหัว
"ไปอยู่กับพี่ไหม"
"อะไรนะจ๊ะ"
นิชาเห็นทีจะปล่อยให้ปาริดาอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้แล้วเด็กสาวอยู่ตัวคนเดียวในที่เปลี่ยวแบบนี้อันตรายมากเธอจึงตัดสินใจเสียนาทีนี้ว่ายังไงก็จะเอาปาริดาไปอยู่ด้วยเพราะเธอเคยสัมผัสมาแล้วว่าการอยู่ตัวคนเดียวมันว้าเหว่เช่นไรแถมปาริดาก็ยังอยู่แค่ม.ปลายยังไงก็ต้องมีผู้ปกครองและเธอก็จะเป็นผู้ปกครองให้ปาริดาเอง
"ขอบคุณพี่นิมากเลยนะจ๊ะที่ให้คนไม่มีที่พึ่งอย่างดาวมาอยู่ด้วยดาวจะช่วยเหลืองานพี่นิให้ดีทุกอย่างเลยจะ"
"พี่ไม่ได้หวังเอาดาวมาช่วยพี่แต่พี่รู้ว่าคนที่ไม่เหลือใครมันเป็นยังไง"
"แต่ยังไงดาวก็จะช่วยพี่นิอยู่ดีจะ"
"ถ้าอยากจะช่วยก็แล้วแต่เราเลย"
หลังจากที่คุยกันเรียบร้อยแล้วนิชาก็ช่วยปาริดาเก็บของที่มีเพียงน้อยนิดและย้ายมาอยู่ที่ทาวน์เฮ้าส์ของเธอทันที
อังกฤษ
บริษัทxxx
"อุ้บ..แหวะ..ๆๆ"
"คุณเอสไหวหรือเปล่าครับ...โนเอลตามหมอจอแดนมา"
"อืม"
สองสามวันมาแล้วมี่เอริคมีอาการคลื่นไส้อาเจียนทานอะไรไม่ได้เข้าไปก็ออกมาหมดจนวันนี้บรูคต้องให้โนเอลตามหมอจอแดนมาดูอาการเจ้านายตนเสียหน่อยเพราะป่วยจนแทบจะทำงานไม่ได้อยู่แล้ว
"โอย...เป็นบ้าอะไรเนี่ย"
เอริคนอนเป็นผักพาดอยู่ที่โซฟาหรูในห้องทำงานของเขามือหนาเสยผมอย่างหัวเสียรำคาญอาการของตนอย่างมากที่มันเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเขาเหลือเกิน
"คุณเอสพักผ่อนน้อยหรือเปล่าครับ"
บรูคถามคนเป็นนายด้วยท่าทีเป็นห่วง
"ช่วงนี้ฉันเข้านอนเร็วแทบทุกคืน"
เอริคกุมขมับส่ายหัว
"อาหารล่ะครับทานตรงเวลาหรือเปล่า"
"ก็ตรงเวลานะก็เอาเข้าไปมันก็ออกมาหมดพวกนายก็เห็นยังจะมาถามฉันอีก"
เอริคสบถมาอย่างหัวเสียเขากำลังมึนหัวอยู่แต่ถูกลูกน้องคอยแต่ซักถามไม่หยุดหย่อน
"เอ่อ...เย็นนี้มีประชุมให้เลื่อนไปก่อนไหมครับ"
"ไม่ต้องจะได้เสร็จๆไป"
"แน่ใจเหรอครับ"
บรูคไม่แน่ใจเลยว่าเจ้านายตนนั้นจะประชุมได้ในวันนี้ด้วยดูสภาพแล้วแม้แต่จะยืนก็ยังน่าจะไม่ไหว
"อืม"
เอริคต้องทำงานตามแผนที่วางไว้ไม่อย่างนั้นมันก็จะล่าช้าเป็นทอดๆไปจบการประชุมครั้งนี้เขาก็ต้องเดินทางไปตรวจงานตามบริษัทต่างๆของตระกูลที่ลงทุนไว้อีก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา"คลื่นไส้ อาเจียน ทานอะไรก็ออกหมดทั้งที่พักผ่อนเพียงพอทานอาหารตรงเวลาไม่ได้เครียดอาการคุณเอสนี่มันเหมือนคนแพ้ท้องเลยนะครับ"จอแดนหมอหนุ่มประจำตระกูลวัยสามสิบห้านั่งขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังอาการที่เอริคเล่ามา"นายจะบ้ารึไงจอแดนฉันเป็นผู้ชาย"เอริคส่งสายตาฟาดไปที่หมอหนุ่มหนึ่งฉาดที่ดูเขาจะวินิจฉัยอาการแปลกพิกล"ก็นั่นน่ะสิครับเป็นผู้ชายแต่อาหารเหมือนผู้หญิงท้องถ้าคุณเอสมีภรรยาผมก็จะคิดว่าคุณเอสแพ้ท้องแทนภรรยานะครับเนี่ย"จอแดนพยักหน้าทั้งเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตามีเลศนัยตามนิสัยขี้เล่นของเขา"ตกลงฉันเป็นอะไรกันแน่"เอริคถามหมอหนุ่มด้วยอาการไม่สบอารมณ์และอยากจะรู้คำตอบเสียทีว่าเป็นอะไรต้องรักษานานเท่าไรถึงจะหาย"เอาเป็นว่าผมจะให้ยาแก้อาเจียนกับยาแก้แพ้เอาไว้ก่อนไม่ดีขึ้นยังไงจะดูอาการให้ใหม่อีกทีนะครับ...อ่อคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มีของเปรี้ยวติดไว้ก็ดีเหมือนกันนะครับจะได้สดชื่นขึ้น"จอแดนตรวจเชคอาการตามที่เล่ามาเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอริคเป็นอะไรกันแน่อาการเหมือนคนแพ้ท้องแต่เป็นผู้ชายทั้งภรรยาก็ไม่ได้มีอีกด้วยจะว่าเครียดหรือพักผ่อนน้อยทานอาหารไม่ตรงเวลาเจ้าตัวคนป่วยก็ว่าไม่
"ใช่ค่ะนิทำได้หลายอย่างเลย""พอดีบอสใหญ่กำลังจะมาตรวจงานที่นี่อีกสองวันน่ะพี่อยากให้น้องนิไปทำอาหารในงานเลี้ยงต้อนรับบอสสักสิบกว่าอย่างได้ไหมคะ""อีกสองวันเหรอคะงั้นก็ได้ค่ะ""อาหารที่พี่อยากได้ตามนี้จะค่าใช้จ่ายเท่าไรวางบิลที่พี่ได้เลยนะคะ""ค่ะขอบคุณนะคะพี่มนที่เลือกใช้บริการร้านนิ""รสมือน้องนิถูกปากพี่กับคนในบริษัทนี่คะแล้วพี่จะใช้บริการคนอื่นได้ยังไงล่ะจ้ะสายแล้วพี่ไปก่อนนะ""ค่ะพี่มน"หลังจาดนฤมลดิวงานเสร็จก็เดินกลับไปด้วยท่าทีสบายใจเพราะเสร็จสิ้นงานที่ต้องจัดการเสียที"ว้า..แบบนี้พี่ก็อดทานฝีมือนิวันนึงเลยล่ะสิ"อลันเอ่ยหยอกนิชาเล่นทั้งบุ้ยปากเล็กน้อย"พี่หมอจะทานอะไรคะเดี๋ยวนิทำไว้ให้ค่ะ""พี่ล้อเล่นพี่ไม่กวนนิหรอก""นิทำให้ได้ค่ะ""งั้นก็เอาเหมือนเดิมก็ได้""โอเคค่ะ"ท่าทางของอลันอยู่ในสายตาของปาริดาเธอเห็นว่าหมอหนุ่มชอบมาหยอกนิชาเหมือนคนที่กำลังจีบกันจึงมองด้วยท่าทีสงสัยพลางคิดอยู่ว่าพี่สาวเธอนั้นจะรู้ตัวหรือเปล่าอังกฤษ"ผมบอกแล้วไงครับมัมว่าไปคนเดียวได้"เอริคยืนกุมขมับเมื่อคนเป็นแม่ไม่ยอมให้ตนขึ้นเครื่องบินเจ็ทที่จอดอยู่ง่ายๆนอกเสียจากจะพาบรูคไปด้วย"ถ้าลูกไม่เอาบรูคไปด้ว
10 นาทีต่อมา"อาหารมาแล้วค่ะ""คุณมนวางไว้ตรงนั้นก็ได้ครับเดี๋ยวผมจัดการเองครับ"บรูครีบปรามให้นฤมลตั้งรถเข็นอาหารไว้ตรงหน้าประตูเพราะเดี๋ยวเขาจะจัดการยกมาเอง"อ๋อ..ได้ค่ะอยากได้อะไรเพิ่มเติมเรียกมนได้เลยนะคะ""ครับ""บรูคแกเอาอาหารมาใกล้ๆฉันอีกหน่อยสิ"เมื่อนฤมลออกไปแล้วเอริคก็มีสีหน้าแปลกใจตัวเองที่ ไม่รู้สึกเหม็นอาหารพวกนี้เลยสักนิดกลับรู้สึกหอมและอยากจะทานมันขึ้นมาทันที"คุณเอสจะไม่เหม็นเหรอครับ"บรูคมองไปยังเจ้านายตนด้วยสีหน้าแปลกใจ"บอกให้เอามาก็เอามาสิ""ครับ""...อืม...รสชาติดีนะ"เอริคม้วนสปาเก็ตตี้เข้าปากเขาก็พยักหน้าเบาๆรู้สึกชอบรสชาติแบบนี้มากเป็นพิเศษ"คุณเอสทานได้""อืม..ฉันก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมฉันรู้สึกหอมอาหารพวกนี้""หอม?""นายก็ทานสิยังไม่ได้ทานอะไรมาไม่ใช่หรือไง""ครับๆ"บรูคจำต้องทานอาหารไปดูอาการของเอริคไปด้วยดีที่เมื่อเจ้านายของเขาอิ่มแล้วไม่มีอาการคลื่นไส้ออกมาอีกจึงโล่งใจไปเปราะใหญ่ชั่วโมงต่อมา"บอสเรียกมนมาพบมีอะไรเหรอคะ"นฤมลเข้ามาในห้องเอริคหน้าตาตื่นเมื่อได้รับสายจากเอริคให้เข้ามาพบที่นี่"ผมอยากจ้างเชฟที่ร้านนี้มาเป็นคนทำอาหารส่วนตัวในระหว่างที่ผมพัก
"สวัสดีค่ะ..พี่มนนิขอตัวก่อนนะคะพอดีว่ามีธุระต้องรีบไปค่ะ"เมื่อได้สตินิชาจึงรีบทักทายอีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและรีบขอตัวออกจากตรงนี้ไปทันที"อ่อ..ค่ะ"เอริคมองตามหลังนิชาไม่ละสายตาดูท่าเธอคงไม่อยากเจอเขาอย่างที่เขาคิดในใจเป็นแน่ถึงได้มีท่าทีรีบร้อนออกไปแบบนั้นและยกยิ้มอ่อนให้กับความคิดภายในใจว่าไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้เธอต้องวิ่งโล่มาหาเขาเองแน่นอน"บอสจะให้ฉันลองคุยกับเธอดูอีกทีไหมคะ"นฤมลค่อยๆชะโงกหน้าถามบอสใหญ่ของเธอในขณะที่เขามองตามนิชาไม่วางสายตาจนน่าสงสัย ไม่ใช่แค่นฤมลที่สงสัยเท่านั้นบรูคเองก็เช่นกันเขาไม่เคยเห็นเอริคสนใจอะไรจนต้องมองตาไม่กระพริบแบบนี้มาก่อน"บอกเธอว่าถ้าเธอไม่มาเป็นเชฟส่วนตัวของผมที่นี่จะไม่มีคนสั่งอาหารของเธอ"เอริคล้วงกระเป๋าและมองไปที่หน้านฤมลเขม็งบ่งบอกให้เข้าใจว่าเขาไม่ได้พูดเล่น"อะไรนะคะ.. แต่.. ""ไม่มีแต่ครับถ้าเธอมีปัญหาให้มาคุยกับผมเองแล้วอาหารที่มาส่งวันนี้ผมขอรับไว้คนเดียวทั้งหมดของพวกคุณเดี๋ยวผมจะให้คนสั่งอาหารในภัตตาคารมาให้"นฤมลไม่ทันได้เอ่ยจบเอริคก็โพล่งขึ้นมาขัดเธอเสียก่อน"ค่ะๆ...แต่ช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบายเห็นว่าจะไปหาหมออีกสองสามวันฉันจะ
โรงพยาบาล"อืม..""อย่าพึ่งลุกครับนอนก่อนครับ"หมอหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่พึ่งฟื้นขึ้นมาแล้วพยายามลุกขึ้นจากเตียง"ค่ะ..""อาการเพลียของคุณนิชาไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงครับเพียงแค่เป็นอาการของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในระยะแรกๆครับเดี๋ยวหมอจะให้ยาบำรุงไปให้นะครับ.."นิชาถึงกับนิ่งอึ้งตัวชาวาบไม่คิดว่าเรื่องที่หมอหนุ่มพูดจะเป็นความจริงเพราะนั่นมันก็หมายความว่าเธอท้องกับเอริคเพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกันและเธอก็มัวแต่เสียใจจนไม่ได้หาวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉิน"ยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ"หมอหนุ่มส่งยิ้มให้กับเอริคและนิชาที่นั่งนิ่งด้วยกันทั้งครู่และรีบออกไปสั่งยาให้เภสัชจัดยาให้"เธอท้อง...กับใคร?"เอริคมองนิชาด้วยความสงสัยเพราะเขาก็ตะหงิดอยู่ในใจว่าเด็กในท้องเธออาจจะเป็นลูกของเขาก็ได้"ท...ท้อง..กับสามีฉันน่ะสิ"นิชาตอบอย่างอึกๆอักๆทั้งยังไม่มองหน้าเอริคเพราะกลัวเหลือเกินว่าเขาจะรู้หากเขาไม่ต้องการเด็กจะทำยังไงและหากเขาต้องการก็เท่ากับเขาจะต้องพรากลูกไปจากเธอเรื่องนี้เธอจะให้เขารู้ไม่ได้"สามี"เอริคขมวดคิ้วเป็นปมไม่ยักรู้ว่าเธอมีสามีแล้วในขณะที่เธอพึ่งผ่านครั้งแรกจากเขาเพียงสามเดือน"น้องนิ"อลันพุ่
"ก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ""อ่อ..""น้องดาวบอกน้องนิด้วยนะคะเดี๋ยวเย็นๆพี่จะเข้าไปเยี่ยม""ได้ค่ะพี่มน""เธอมีสามีดูแลอยู่แล้วนี่คุณจะไปทำอะไร"เอริคยังไม่ยอมจบบทสนทนาง่ายๆเขายังหันมาร่วมแจมกับสองสาว"พี่นิไม่มีสามีนะคะ/น้องนิไม่มีสามีนะคะ""อะไรนะ..."จากคำตอบที่ตรงกันทั้งปาริดาและนฤมลทำเอาเอริคใจเต้นแรงอีกครั้ง"ใช่ค่ะบอสได้ยินไม่ผิดค่ะ""นิชาท้องได้กี่เดือน"เอริคโพล่งคำถามให้แน่ใจอีกครั้งว่าสิ่งที่เขาคิดวนในหัวมาสามวันเขาคิดไม่ผิด"เห็นพี่นิบอกว่าสองเดือนกว่าๆแล้วนะคะ""สองเดือนกว่าอย่างนั้นเหรอ...แล้วคนที่ชื่ออลันไม่ใช่สามีนิชาเหรอ""อ๋อ...เข้าใจผิดแล้วค่ะพี่หมอเป็นคนที่ให้พี่นิเช่าทาวน์เฮ้าส์แล้วก็เปิดคลินิคติดกันน่ะค่ะเลยสนิทกัน""อ่อ...เข้าใจแล้ว"เมื่อได้คำตอบที่พอใจเอริคก็หายจากอาการกระวนกระวายเหมือนสามวันที่ผ่านมาทันทีและค่อนข้างแน่ใจว่าเด็กในท้องนิชาคือลูกของเขาและเขาก็ต้องแก้เผ็ดเธอให้ได้ที่หลอกให้เขาวุ่นวายใจตั้งสองสามวัน"หมออลันยังโสดใช่ไหมน้องดาว"หลังจากที่เอริคเดินออกไปแล้วนฤมลก็หันมาสนใจเรื่องของอลันต่อ"น่าจะโสดนะคะพี่มนสนใจเหรอคะ"ปาริดาจ้องมองนฤมลด้วยสยตามีเลศนัย
"คุณเป็นอะไรกันแน่""ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ฉันไม่อยากนั่งเคี้ยวแต่ไอ้บ๊วยบ้าๆนี่กับผลไม้รสเปรี้ยวเต็มทนแล้วถ้านานกว่านี้ฉันทำงานไม่ได้แน่""ถ้าฉันทำอาหารให้คุณ...คุณจะไม่เซ้าซี้กวนใจฉันใช่ไหม"นิชาถอนหายใจเฮือกใหญ่"ถ้าเธอตกลงฉันก็จะพยายาม"เอริคจำต้องยอมถอยก่อนหากเธอได้มาอยู่ใกล้เขาเดี๋ยวเขาก็มีโอกาสพูดคุยกีบเธอเรื่องลูกเอง"ได้..แต่คุณต้องให้คนไปรับอาหารที่ร้านฉันเองนะ""ไม่..เธอต้องอยู่ที่นี่""ทำไมต้องอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ""ก็ฉันหิวไม่เป็นเวลาแล้วฉันก็ต้องการอาหารปรุงสุกสดใหม่ก่อนทานเธอจะให้ฉันทานอาหารแช่แข็งงั้นเหรอ...ไม่รู้เมื่อครู่ถือว่าเธอตกลงแล้ว""ฉันเปลี่ยนใจแล้วไม่รับปาก"นิชาพยายามแกะมือเอริคออกจากการกอบกุมหน้าท้องของเธอแต่ก็ยากเย็นเสียเหลือเกินเธอไม่น่าหลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาเลย"งั้นฉันก็จะคอยเซ้าซี้เธอไม่เลิก"ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางลอยหน้าลอยตาอย่างคนเอาแต่ใจ"คนอย่างคุณควรจะไปหาหมอรักษาอาการทางประสาทบ้างนะคะ"นิชาหันมาบุ้ยปากใส่คนที่ชอยเอาชนะคนโดยเฉพาะเอาชนะเธอ"ฉันเชคประจำประสาทฉันก็ปกติดีแถมฉลาดมากด้วย""ฉลาดแกมโกงล่ะสิไม่ว่า""ท้องอยู่อย่าฉุนเฉียวบ่อยนักนะเดี๋ยวลูกจะ
เพนท์เฮ้าส์"หมดธุระแล้วผมกลับก่อนนะครับ"บรูคช่วยนิชายกของมาไว้ที่ครัวเสร็จก็ขอตัวกลับทันที"คุณบรูคไม่ได้พักที่นี่เหรอคะ"นิชาแทบเอ่ยตามหลังชายหนุ่มไม่ทันเธอคิดว่าบรูคจะพักที่นี่เสียอีก"ที่นี่แหละครับแต่อยู่ชั้นล่างครับ""อ้าวเหรอคะ...ฉันก็คิดว่าคุณพักด้วยกันซะอีก""ขอตัวก่อนนะครับ"บรูคเห็นหน้านิชาเจื่อนลงก็อมยิ้มให้เธอเล็กน้อยและเดินจากไปปล่อยให้หญิงสาวกังวลใจอยู่คนเดียว"อยู่กับฉันสองคนแล้วกลัวเหรอ"เอริคยืนกอดอกพิงขอบประตูห้องครัวมองหน้าหญิงสาวที่เป็นกังวลทั้งส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอที่เห็นเธอมีท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์เมื่อรู้ว่าต้องพักที่นี่กับเขาสองคนนิชาถอนหายใจเบาๆกับคนที่ชอบกวนประสาทก่อนจะหันไปสนใจกับของที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัว"เธอจะทำอะไรให้ฉัน"เอริคเดินเข้ามาป้วนเปี้ยนใกล้ๆหญิงสาว"ต้มยำกุ้งแซลมอนทอดเกลือกับผักทอดค่ะ...คุณได้กลิ่นสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องต้มยำเผื่ออาการคลื่นไส้คุณจะได้ดีขึ้น""อืมก็ดีฉันก็อยากทานอาหารไทยอยู่พอดี..อุบ.."เอริคว่าจบก็ต้องยกมือมาปิดจมูกเมื่อได้กลิ่นคาวของเนื้อหมูเนื้อปลาสดที่นิชากำลังรื้อออกมา"คุณเอริค...แล้วจะมาใกล้ทำไมล่ะคะ""แหวะๆ..อึก