เช้าวันต่อมา
"ฮึก..ฮือๆๆๆ...ทำไมๆๆ..ฮือๆๆๆ"
นิชานั่งกอดเข่าร้องให้อยู่ในห้องพักน้อยๆของเธอหญิงสาวสะอื้นให้ตัวโยนกับความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อคืนที่ผ่านมาสายตาพร่ามัวเพราะเต็มไปด้วยน้ำตานั่งมองเช็คธนาคารที่กำใส่มือมาอย่างทรมานใจ
นิชาหนีออกมาจากโรงแรมในช่วงรุ่งสางเธอหยิบเชิ้ตของชายหนุ่มสวมออกมาอย่างเร่งรีบเช็คเงินสดที่เขาเขียนไว้ให้เธอชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ว่าจะเอามาดีหรือไม่แต่แล้วก็ต้องหยิบใส่กระเป๋ามาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจหากเธอเสียตัวแล้วก็ต้องได้อะไรกลับคืนมาบ้าง บทเรียนการไว้ใจคนผิดครั้งนี้มันจะทำให้เธอจำไปจนวันตายเลยทีเดียว
โรงแรมหรู
"อืม.."
เอริคตื่นมาด้วยอาการมึนหัวในช่วงสายพลันสายตามองข้างๆตัวก็ไม่เห็นหญิงสาวคนเมื่อคืนเสียแล้วเห็นเพียงแค่ชุดซาตินสีชมพูของเธอที่ขาดหลุดรุ่ยโดยฝีมือของเขากระจัดกระจายอยู่เท่านั้น
แถมบนเตียงนอนสีขาวนุ่มก็ยังมีแต่รอยหยดเลือดเต็มไปหมดชายหนุ่มกุมขมับพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาเพราะเขารู้สึกว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่มีสติเอาเสียเลยทั้งยังไม่ป้องกันและรุนแรงกับหญิงสาวที่บริสุทธิ์ไปอีกด้วย
เท่ากับว่าสิ่งที่เธอบอกกับเขาว่าเธอถูกหลอกมามันคือเรื่องจริงดีที่เมื่อคืนเขาเขียนเช็คให้เธอก่อนจะหลับไปเป็นเงินหนึ่งล้านบาทหวังว่านี่จะเป็นเงินที่ปลอบขวัญเธอได้ไม่มากก็น้อย
RrrrrrrRrrrrrr
"โทรมากวนฉันตอนนี้มีอะไรบรูค"
เอริครับสายคนสนิทอย่างสงสัยเพราะรู้ว่าที่อังกฤษตอนนี้น่าจะพึ่งจะยังไม่รุ่งสางและเป็นเวลานอนของคนที่โน่นอีกด้วย
"อะไรนะ...ฉันจะรีบบินกลับเดี๋ยวนี้"
เอริคหัวใจแทบตกไปอยู่ตาตุ่มเมื่อได้รับข่าวว่าพ่อกับแม่ของตนประสบอุบัติเหตุเขาใช้เวลาไม่นานก็อาบน้ำแต่งตัวเชคเอาท์และออกจากโรงแรมไปที่สนามบินทันทีแพลนที่จะไปเที่ยวที่ต่างๆเป็นอันยกเลิกไปหมด
2วันต่อมา
อังกฤษ
โรงพยาบาลxxx
"ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะจะเป็นก็เพราะพวกแกมาตีหน้าเศร้ายืนล้อมเตียงอยู่นี่แหละ"
ปีเตอร์มองลูกชายทั้งสี่คนที่นั่งรายล้อมรอบเตียงด้วยสีหน้ากังวลกันทุกคนรวมถึงคนเป็นภรรยาที่นั่งกุมมือเขาอยู่ตลอดก็มีสีหน้าไม่ต่างจากลูกๆเอาเสียเลย
"พวกผมเป็นห่วงแด้ดนี่ครับ"
นิโคลัสลูกคนที่สามของบ้านโพร่งขึ้นแม้รู้ว่าคนเป็นพ่อจะไม่เจ็บอะไรมากหลังจากพ่อแม่ของเขาพากันขับรถชนต้นไม้ในขณะที่ไปคุยงานแต่เขาก็ยังเป็นห่วงคิดอยู่ในใจลึกๆว่ามีคนสนิทที่เป็นบอดี้การ์ดทำไมไม่ให้ขับไปให้ทีกับตัวเขาหรือแม้แต่พี่น้องทั้งสองยังจี้ตลอดเวลาว่าไปไหนให้คนสนิทไปด้วย
"ห่วงฉันก็ดูแลงานที่ฉันมอบหมายให้ดีแค่นี้ฉันก็สบายใจแล้ว"
ปีเตอร์กระดูกขาขวาร้าวเล็กน้อยใส่เฝือกไม่กี่เดือนก็หายส่วนเอเลนภรรยาของเขาก็แทบไม่เป็นอะไรเลยหากลูกๆห่วงเขาจริงก็ขอให้ดูแลงานที่มอบหมายไว้ให้ดีเป็นพอแค่นี้เขาก็หายวันหายคืนแล้ว
"เรื่องงานพวกผมดูแลกันดีอยู่แล้วล่ะครับ"
มาคัสลูกคนที่สองของบ้านกอดอกมองหน้าคนเป็นพ่อทั้งขมวดคิ้วเล็กๆที่ดูพ่อตนจะอวดเก่งเหลือเกินลูกๆเป็นห่วงก็ให้หันไปห่วงงานหน้าตาเฉย
"ต่อไปนี้แด้ดกับมัมพักได้แล้วนะครับผมจะจัดการดูแลทุกอย่างเอง"
เอริคตัดสิยใจเอ่ยปากออกมาจากที่คิดมาดีแล้วต่อไปนี้เขาจะทำตัวให้สมกับเป็นลูกคนโตเขาคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่พ่อกับแม่ของเขาจะได้พักเสียที
"ไหวหรือไง"
ปีเตอร์ยกยิ้มเล็กน้อยทั้งน้องชายทั้งสามของเขาและคนเป็นแม่มองมาที่เอริคอย่างตกใจเป็นสายตาเดียวกัน
"ไหวครับ"
เอริคพยักหน้าเขาไม่อยากได้ยินข่าวแบบนี้อีกไม่ชอบที่สุดเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ตัวเองต้องเจ็บ
"ให้เอสทำเถอะครับแด้ดนานๆทีจะรับปากดูแลงานให้"
มาคัสยิ้มกริ่มดีใจที่พี่ชายตนจะหันมารับหน้าที่นี้เสียทีหลังจากที่ดูแลกิจการเล็กๆกับคาสิโนมานานอีกไม่นานก็จะเห็นพี่ชายตนบริหารกิจการทุกอย่างเต็มตัวแล้ว
"ถ้าไหวก็ลองดูฉันก็อยากพักเต็มทนแล้ว"
ปีเตอร์เลิกคิ้วเล็กน้อยพูดแกมอนุญาตเขาเองก็อยากจะดูศักยภาพลูกชายคนโตของเขาเช่นกันว่าจะบริหารงานเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆได้หรือไม่
"ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องตะลอนๆจนมัมกับแด้ดเป็นห่วง"
เอเลนเห็นเอริครับปากทำงานให้แบบนี้ก็ดีเธอจะได้ไม่ต้องคอยห่วงกังวลเรื่องการเดินทางของลูกชายคนโตเธออีกต่อไป
3 เดือนต่อมา
ภูเก็ต
นับจากวันนั้นที่นิชาได้ถูกหลอกให้ขายตัวเธอก็รีบเงยหน้าปาดน้ำตาเก็บตราบาปนี้ไว้ในใจแล้วเดินทางมาเริ่มต้นใหม่ที่ภูเก็ตไม่รู้ว่าอะไรได้ดลใจให้เธอมาที่นี่หลังจากที่เธอขึ้นเงินเรียบร้อยแล้วเธอก็มุ่งตรงมาหาที่พักที่ภูเก็ตเพื่อที่จะหาทำเลขายของตามที่เธอหวังไว้ในใจเธอรู้ว่าเธอสามารถทำได้เพราะตอนนี้เธอมีทุนเป็นนเงินก้อนพอแล้ว
นิชาเช่าทาวน์เฮ้าส์ติดกับคลีนิคอายุรกรรมเธอเปิดขายอาหารคลีนเพื่อสุขภาพเพราะเห็นว่าแถวนี้มีออฟฟิศและคนวัยทำงานค่อนข้างเยอะและแถวนี้ก็ยังไม่ค่อยมีใครขายของแบบเธอด้วย
และนั่นเธอก็คิดถูกหญิงสาวเปิดร้านไม่ถึงเดือนของก็ขายหมดเร็วทุกวันจนไม่พอขายจนเปลี่ยนจากทำวางขายหน้าร้านมาให้ลูกค้าสั่งซื้อมาในเพจออเดอร์ไว้ในช่วงเย็นแทนเธอจะได้รู้จำนวนว่าลูกค้าต้องการอะไรและเธอจะได้จัดทำสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ถึงจะรับออเดอร์อาหารคลีนแต่เธอก็ยังขยันทำลุยสวนวางหน้าร้านทุกๆเช้าเพิ่มอีกด้วยเผื่อมีลูกค้าจรอยากจะทานเธอก็จะได้รายได้กับลูกค้าเพิ่มอีกด้วย
"น้องนิพี่เอาลุยสวนเพิ่มสองกล่องด้วยจะ"
นฤมลสาวโสดวัยสามสิบห้าทำงานอยู่ที่บริษัทอสังหาใกล้ๆแถวนี้เป็นลูกค้าประจำของร้านนิชามาตั้งแต่เปิดวันแรกจนมาถึงวันนี้ก็ร่วมสองเดือยกว่าแล้วออเดอร์ที่เธอสั่งก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้นทุกวันจนนิชาสงสัยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆจะทานได้เยอะขนาดนี้เชียวหรือ
"ได้ค่ะพี่มนทำไมวันนี้สั่งเยอะจังล่ะคะ"
"ก็เพื่อนพี่มาลองชิมอาหารคลีนฝีมือน้องนิก็ติดใจสั่งกันคนละกล่องสองกล่องพี่หิ้วได้เท่านี้พี่ก็รับมาได้เท่านี้แหละจะ"
ของนฤมลเองมีไม่กี่กล่องแต่ที่สั่งเยอะเพราะเพื่อนฝากสั่งและเธอก็ต้องหิ้วเข้าออฟฟิศทุกเช้า
"เอาแบบนี้ดีกว่าค่ะพี่มนเดี๋ยวครั้งต่อไปนิเอาไปส่งให้เองค่ะจะได้ไม่ต้องหิ้ว"
นิชาเสนอไอเดียออกหากออเดอร์เยอะเธอก็ขอไปส่งเองเพื่อเป็นอีกบริการที่น่าจะทำให้จำนวนออเดอร์เธอเพิ่มขึ้นก็ได้
"ดีเลย...มีคนอยากจะสั่งอาหารของนิเต็มเลยเดี๋ยวพี่จดเมนูส่งมาทางไลน์ให้ละกันนะ"
นฤมลได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกเพราะเธอจะได้ไม่ต้องมาหิ้วแบบนี้ทุกวันอีกแล้ว
"ได้เลยค่ะขอบคุณนะคะพี่มน"
"จ้า..ของอร่อยได้สุขภาพแถมราคาก็ถูกใครก็อยากจะซื้อทั้งนั้นแหละพี่ไปก่อนนะยังไงเดี๋ยวพี่จะรีบส่งเมนูให้นะจ๊ะน้องนิ"
"ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่มน"
"จ้า.."
นิชายิ้มร่าที่เห็นของที่เธอทำขายดีเพิ่มขึ้นทุกวันๆ
"อ้าวพี่หมอนี่ค่ะข้าวกล้องผัดอกไก่กับก๋วยเตี๋ยวหมี่ข้าวกล้องอย่างละสองกล่องค่ะ"นิชาเห็นหมออลันเดินออกมาจากคลินิคเธอก็รีบยื่นอาหารที่เขาสั่งไว้ทันทีหมออลันหมอหนุ่มวัยสามสิบหกสูงขาวหน้าตี๋เป็นอีกคนที่เป็นลูกค้าประจำเธอเช่นกันเพราะเปิดคลินิคติดกับที่เธออยู่มาก่อนหน้านี้แล้วแถมยังเป็นเจ้าของทาวน์เฮ้าส์ที่เธอเช่าอีกด้วย"ขอบคุณครับวันนี้ขายของหมดเร็วจังเลยนะครับ"อลันเห็นแผงกล่องก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเหลือน้อยแล้วไม่คิดว่าวันนี้จะหมดไวนี่ยังไม่แปดโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ"วันนี้นิทำของน้อยน่ะค่ะเพราะเมื่อคืนมีออเดอร์อาหารคลีนเยอะ"วันนี้นิชามีเวลาเตรียมวัตถุดิบลุยสวนน้อยเพราะออเดอร์อาหารคลีนเมื่อคืนค่อนข้างเยอะ"ขยันแบบนี้นี่เอาเงินไปเก็บไว้ไหนหมดครับเนี่ยพักบ้างนะครับระวังจะป่วยเอานะ"อลันเอ่ยหยอกนิชาเฉกเช่นทุกวันเพราะเขานั้นแอบมีใจให้หญิงสาวน่าตาน่ารักน่าชังคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นไม่อย่างนั้นคงไม่เสนอให้เช่าทาวน์เฮ้าส์ของเขาในราคาถูกๆหรอกแต่สาวเจ้าดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าเขาคิดกับเธอเช่นไร"ป่วยก็จะกลัวอะไรล่ะคะคลินิคอยู่ติดกันขนาดนี้"นิชาอมยิ้มอ่อนพรางกวาดตามองไปทางคลินิค"นั่นสินะ...ถ้าแม่ค้าคนขยันป่ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา"คลื่นไส้ อาเจียน ทานอะไรก็ออกหมดทั้งที่พักผ่อนเพียงพอทานอาหารตรงเวลาไม่ได้เครียดอาการคุณเอสนี่มันเหมือนคนแพ้ท้องเลยนะครับ"จอแดนหมอหนุ่มประจำตระกูลวัยสามสิบห้านั่งขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังอาการที่เอริคเล่ามา"นายจะบ้ารึไงจอแดนฉันเป็นผู้ชาย"เอริคส่งสายตาฟาดไปที่หมอหนุ่มหนึ่งฉาดที่ดูเขาจะวินิจฉัยอาการแปลกพิกล"ก็นั่นน่ะสิครับเป็นผู้ชายแต่อาหารเหมือนผู้หญิงท้องถ้าคุณเอสมีภรรยาผมก็จะคิดว่าคุณเอสแพ้ท้องแทนภรรยานะครับเนี่ย"จอแดนพยักหน้าทั้งเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตามีเลศนัยตามนิสัยขี้เล่นของเขา"ตกลงฉันเป็นอะไรกันแน่"เอริคถามหมอหนุ่มด้วยอาการไม่สบอารมณ์และอยากจะรู้คำตอบเสียทีว่าเป็นอะไรต้องรักษานานเท่าไรถึงจะหาย"เอาเป็นว่าผมจะให้ยาแก้อาเจียนกับยาแก้แพ้เอาไว้ก่อนไม่ดีขึ้นยังไงจะดูอาการให้ใหม่อีกทีนะครับ...อ่อคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มีของเปรี้ยวติดไว้ก็ดีเหมือนกันนะครับจะได้สดชื่นขึ้น"จอแดนตรวจเชคอาการตามที่เล่ามาเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเอริคเป็นอะไรกันแน่อาการเหมือนคนแพ้ท้องแต่เป็นผู้ชายทั้งภรรยาก็ไม่ได้มีอีกด้วยจะว่าเครียดหรือพักผ่อนน้อยทานอาหารไม่ตรงเวลาเจ้าตัวคนป่วยก็ว่าไม่
"ใช่ค่ะนิทำได้หลายอย่างเลย""พอดีบอสใหญ่กำลังจะมาตรวจงานที่นี่อีกสองวันน่ะพี่อยากให้น้องนิไปทำอาหารในงานเลี้ยงต้อนรับบอสสักสิบกว่าอย่างได้ไหมคะ""อีกสองวันเหรอคะงั้นก็ได้ค่ะ""อาหารที่พี่อยากได้ตามนี้จะค่าใช้จ่ายเท่าไรวางบิลที่พี่ได้เลยนะคะ""ค่ะขอบคุณนะคะพี่มนที่เลือกใช้บริการร้านนิ""รสมือน้องนิถูกปากพี่กับคนในบริษัทนี่คะแล้วพี่จะใช้บริการคนอื่นได้ยังไงล่ะจ้ะสายแล้วพี่ไปก่อนนะ""ค่ะพี่มน"หลังจาดนฤมลดิวงานเสร็จก็เดินกลับไปด้วยท่าทีสบายใจเพราะเสร็จสิ้นงานที่ต้องจัดการเสียที"ว้า..แบบนี้พี่ก็อดทานฝีมือนิวันนึงเลยล่ะสิ"อลันเอ่ยหยอกนิชาเล่นทั้งบุ้ยปากเล็กน้อย"พี่หมอจะทานอะไรคะเดี๋ยวนิทำไว้ให้ค่ะ""พี่ล้อเล่นพี่ไม่กวนนิหรอก""นิทำให้ได้ค่ะ""งั้นก็เอาเหมือนเดิมก็ได้""โอเคค่ะ"ท่าทางของอลันอยู่ในสายตาของปาริดาเธอเห็นว่าหมอหนุ่มชอบมาหยอกนิชาเหมือนคนที่กำลังจีบกันจึงมองด้วยท่าทีสงสัยพลางคิดอยู่ว่าพี่สาวเธอนั้นจะรู้ตัวหรือเปล่าอังกฤษ"ผมบอกแล้วไงครับมัมว่าไปคนเดียวได้"เอริคยืนกุมขมับเมื่อคนเป็นแม่ไม่ยอมให้ตนขึ้นเครื่องบินเจ็ทที่จอดอยู่ง่ายๆนอกเสียจากจะพาบรูคไปด้วย"ถ้าลูกไม่เอาบรูคไปด้ว
10 นาทีต่อมา"อาหารมาแล้วค่ะ""คุณมนวางไว้ตรงนั้นก็ได้ครับเดี๋ยวผมจัดการเองครับ"บรูครีบปรามให้นฤมลตั้งรถเข็นอาหารไว้ตรงหน้าประตูเพราะเดี๋ยวเขาจะจัดการยกมาเอง"อ๋อ..ได้ค่ะอยากได้อะไรเพิ่มเติมเรียกมนได้เลยนะคะ""ครับ""บรูคแกเอาอาหารมาใกล้ๆฉันอีกหน่อยสิ"เมื่อนฤมลออกไปแล้วเอริคก็มีสีหน้าแปลกใจตัวเองที่ ไม่รู้สึกเหม็นอาหารพวกนี้เลยสักนิดกลับรู้สึกหอมและอยากจะทานมันขึ้นมาทันที"คุณเอสจะไม่เหม็นเหรอครับ"บรูคมองไปยังเจ้านายตนด้วยสีหน้าแปลกใจ"บอกให้เอามาก็เอามาสิ""ครับ""...อืม...รสชาติดีนะ"เอริคม้วนสปาเก็ตตี้เข้าปากเขาก็พยักหน้าเบาๆรู้สึกชอบรสชาติแบบนี้มากเป็นพิเศษ"คุณเอสทานได้""อืม..ฉันก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมฉันรู้สึกหอมอาหารพวกนี้""หอม?""นายก็ทานสิยังไม่ได้ทานอะไรมาไม่ใช่หรือไง""ครับๆ"บรูคจำต้องทานอาหารไปดูอาการของเอริคไปด้วยดีที่เมื่อเจ้านายของเขาอิ่มแล้วไม่มีอาการคลื่นไส้ออกมาอีกจึงโล่งใจไปเปราะใหญ่ชั่วโมงต่อมา"บอสเรียกมนมาพบมีอะไรเหรอคะ"นฤมลเข้ามาในห้องเอริคหน้าตาตื่นเมื่อได้รับสายจากเอริคให้เข้ามาพบที่นี่"ผมอยากจ้างเชฟที่ร้านนี้มาเป็นคนทำอาหารส่วนตัวในระหว่างที่ผมพัก
"สวัสดีค่ะ..พี่มนนิขอตัวก่อนนะคะพอดีว่ามีธุระต้องรีบไปค่ะ"เมื่อได้สตินิชาจึงรีบทักทายอีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและรีบขอตัวออกจากตรงนี้ไปทันที"อ่อ..ค่ะ"เอริคมองตามหลังนิชาไม่ละสายตาดูท่าเธอคงไม่อยากเจอเขาอย่างที่เขาคิดในใจเป็นแน่ถึงได้มีท่าทีรีบร้อนออกไปแบบนั้นและยกยิ้มอ่อนให้กับความคิดภายในใจว่าไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้เธอต้องวิ่งโล่มาหาเขาเองแน่นอน"บอสจะให้ฉันลองคุยกับเธอดูอีกทีไหมคะ"นฤมลค่อยๆชะโงกหน้าถามบอสใหญ่ของเธอในขณะที่เขามองตามนิชาไม่วางสายตาจนน่าสงสัย ไม่ใช่แค่นฤมลที่สงสัยเท่านั้นบรูคเองก็เช่นกันเขาไม่เคยเห็นเอริคสนใจอะไรจนต้องมองตาไม่กระพริบแบบนี้มาก่อน"บอกเธอว่าถ้าเธอไม่มาเป็นเชฟส่วนตัวของผมที่นี่จะไม่มีคนสั่งอาหารของเธอ"เอริคล้วงกระเป๋าและมองไปที่หน้านฤมลเขม็งบ่งบอกให้เข้าใจว่าเขาไม่ได้พูดเล่น"อะไรนะคะ.. แต่.. ""ไม่มีแต่ครับถ้าเธอมีปัญหาให้มาคุยกับผมเองแล้วอาหารที่มาส่งวันนี้ผมขอรับไว้คนเดียวทั้งหมดของพวกคุณเดี๋ยวผมจะให้คนสั่งอาหารในภัตตาคารมาให้"นฤมลไม่ทันได้เอ่ยจบเอริคก็โพล่งขึ้นมาขัดเธอเสียก่อน"ค่ะๆ...แต่ช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบายเห็นว่าจะไปหาหมออีกสองสามวันฉันจะ
โรงพยาบาล"อืม..""อย่าพึ่งลุกครับนอนก่อนครับ"หมอหนุ่มต้องปรามหญิงสาวที่พึ่งฟื้นขึ้นมาแล้วพยายามลุกขึ้นจากเตียง"ค่ะ..""อาการเพลียของคุณนิชาไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงครับเพียงแค่เป็นอาการของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในระยะแรกๆครับเดี๋ยวหมอจะให้ยาบำรุงไปให้นะครับ.."นิชาถึงกับนิ่งอึ้งตัวชาวาบไม่คิดว่าเรื่องที่หมอหนุ่มพูดจะเป็นความจริงเพราะนั่นมันก็หมายความว่าเธอท้องกับเอริคเพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกันและเธอก็มัวแต่เสียใจจนไม่ได้หาวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉิน"ยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ"หมอหนุ่มส่งยิ้มให้กับเอริคและนิชาที่นั่งนิ่งด้วยกันทั้งครู่และรีบออกไปสั่งยาให้เภสัชจัดยาให้"เธอท้อง...กับใคร?"เอริคมองนิชาด้วยความสงสัยเพราะเขาก็ตะหงิดอยู่ในใจว่าเด็กในท้องเธออาจจะเป็นลูกของเขาก็ได้"ท...ท้อง..กับสามีฉันน่ะสิ"นิชาตอบอย่างอึกๆอักๆทั้งยังไม่มองหน้าเอริคเพราะกลัวเหลือเกินว่าเขาจะรู้หากเขาไม่ต้องการเด็กจะทำยังไงและหากเขาต้องการก็เท่ากับเขาจะต้องพรากลูกไปจากเธอเรื่องนี้เธอจะให้เขารู้ไม่ได้"สามี"เอริคขมวดคิ้วเป็นปมไม่ยักรู้ว่าเธอมีสามีแล้วในขณะที่เธอพึ่งผ่านครั้งแรกจากเขาเพียงสามเดือน"น้องนิ"อลันพุ่
"ก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ""อ่อ..""น้องดาวบอกน้องนิด้วยนะคะเดี๋ยวเย็นๆพี่จะเข้าไปเยี่ยม""ได้ค่ะพี่มน""เธอมีสามีดูแลอยู่แล้วนี่คุณจะไปทำอะไร"เอริคยังไม่ยอมจบบทสนทนาง่ายๆเขายังหันมาร่วมแจมกับสองสาว"พี่นิไม่มีสามีนะคะ/น้องนิไม่มีสามีนะคะ""อะไรนะ..."จากคำตอบที่ตรงกันทั้งปาริดาและนฤมลทำเอาเอริคใจเต้นแรงอีกครั้ง"ใช่ค่ะบอสได้ยินไม่ผิดค่ะ""นิชาท้องได้กี่เดือน"เอริคโพล่งคำถามให้แน่ใจอีกครั้งว่าสิ่งที่เขาคิดวนในหัวมาสามวันเขาคิดไม่ผิด"เห็นพี่นิบอกว่าสองเดือนกว่าๆแล้วนะคะ""สองเดือนกว่าอย่างนั้นเหรอ...แล้วคนที่ชื่ออลันไม่ใช่สามีนิชาเหรอ""อ๋อ...เข้าใจผิดแล้วค่ะพี่หมอเป็นคนที่ให้พี่นิเช่าทาวน์เฮ้าส์แล้วก็เปิดคลินิคติดกันน่ะค่ะเลยสนิทกัน""อ่อ...เข้าใจแล้ว"เมื่อได้คำตอบที่พอใจเอริคก็หายจากอาการกระวนกระวายเหมือนสามวันที่ผ่านมาทันทีและค่อนข้างแน่ใจว่าเด็กในท้องนิชาคือลูกของเขาและเขาก็ต้องแก้เผ็ดเธอให้ได้ที่หลอกให้เขาวุ่นวายใจตั้งสองสามวัน"หมออลันยังโสดใช่ไหมน้องดาว"หลังจากที่เอริคเดินออกไปแล้วนฤมลก็หันมาสนใจเรื่องของอลันต่อ"น่าจะโสดนะคะพี่มนสนใจเหรอคะ"ปาริดาจ้องมองนฤมลด้วยสยตามีเลศนัย
"คุณเป็นอะไรกันแน่""ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ฉันไม่อยากนั่งเคี้ยวแต่ไอ้บ๊วยบ้าๆนี่กับผลไม้รสเปรี้ยวเต็มทนแล้วถ้านานกว่านี้ฉันทำงานไม่ได้แน่""ถ้าฉันทำอาหารให้คุณ...คุณจะไม่เซ้าซี้กวนใจฉันใช่ไหม"นิชาถอนหายใจเฮือกใหญ่"ถ้าเธอตกลงฉันก็จะพยายาม"เอริคจำต้องยอมถอยก่อนหากเธอได้มาอยู่ใกล้เขาเดี๋ยวเขาก็มีโอกาสพูดคุยกีบเธอเรื่องลูกเอง"ได้..แต่คุณต้องให้คนไปรับอาหารที่ร้านฉันเองนะ""ไม่..เธอต้องอยู่ที่นี่""ทำไมต้องอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ""ก็ฉันหิวไม่เป็นเวลาแล้วฉันก็ต้องการอาหารปรุงสุกสดใหม่ก่อนทานเธอจะให้ฉันทานอาหารแช่แข็งงั้นเหรอ...ไม่รู้เมื่อครู่ถือว่าเธอตกลงแล้ว""ฉันเปลี่ยนใจแล้วไม่รับปาก"นิชาพยายามแกะมือเอริคออกจากการกอบกุมหน้าท้องของเธอแต่ก็ยากเย็นเสียเหลือเกินเธอไม่น่าหลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาเลย"งั้นฉันก็จะคอยเซ้าซี้เธอไม่เลิก"ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางลอยหน้าลอยตาอย่างคนเอาแต่ใจ"คนอย่างคุณควรจะไปหาหมอรักษาอาการทางประสาทบ้างนะคะ"นิชาหันมาบุ้ยปากใส่คนที่ชอยเอาชนะคนโดยเฉพาะเอาชนะเธอ"ฉันเชคประจำประสาทฉันก็ปกติดีแถมฉลาดมากด้วย""ฉลาดแกมโกงล่ะสิไม่ว่า""ท้องอยู่อย่าฉุนเฉียวบ่อยนักนะเดี๋ยวลูกจะ