แชร์

ผู้เขียน: Kaowsethong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-02 12:56:03

เช้าวันเสาร์ พสุตื่นมาด้วยความสดชื่นหลังจากที่เพื่อนสาวคนสนิทของเขานัดเจอที่ร้านอาหารเวลาเย็น ช่วงเช้าเขามีนัดตีกอล์ฟกับลูกค้าคนสำคัญเดินลงมาจากบันไดก็เจอบิดามารดากำลังนั่งดูโทรทัศน์พูดคุยกัน

“มาพอดีเลยลูก วันนี้พ่อกับแม่จะไปทำบุญที่นครสวรรค์นะ กลับพรุ่งนี้ตอนเช้า”  วรรณภาเอ่ยบอกกับลูกชายคนเล็กหลังจากที่บอกภมรไปแล้วเมื่อชายหนุ่มจะออกไปข้างนอก

ร่างสูงเดินมานั่งข้างบิดา

“ไปกันสองคนหรือครับ”  เขาถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้

“แม่หอมก็ไป ป้าลดาก็ไป ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อกับแม่หรอก” เขาพยักหน้ารับรู้คุยกับท่านทั้งสองสักพักก่อนจะขอตัวออกไปข้างนอก

วรรณนภามองตามลูกชายแล้วหันไปคุยกับคุณดิลก วิจิตรประภาผู้เป็นสามีทันที

“คุณคะ คุณว่าลูกสะใภ้คนเล็กของเราจะเป็นหนูลินดาหรือเปล่า”  สามีกำลังดูข่าวอยู่หันมามองภรรยา

“ไม่รู้สิคุณ เห็นเจ้าเล็กก็ไปๆมาๆกับหนูลินดาตั้งนานไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย”  เขาพูดตามที่คิด

“ฉันก็ว่าอย่างนั้น เสียดายหนูนิทฉันน่ะช๊อบชอบหนูนิทแต่ลูกชายคนเล็กไม่เอาด้วย หนูนิทน่ะเก่งงานบ้านงานเรือนหน้าตารึก็สะสวยนิสัยก็อ่อนหวานเรียบร้อย น่ารักมากๆเลยเสียดาย”  คุณวรรณนภาเอ่ยชมหลานสาวที่เห็นมาแต่เด็ก

“คุณก็ไปบอกลูกชายของคุณสิ”

“ไม่เอาหรอก มีแต่ตาเล็กจะยิ่งหนีสิไม่ว่าถ้ารู้ว่าแม่อยากจับคู่ให้ ปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิตแล้วกัน”

คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาว่าจะลิขิตความรักของลูกชายคนเล็กของตระกูลวิจิตรประภาจะให้เป็นอย่างไรหวังว่าคงไม่ใจร้ายกับลูกชายของบ้านนี้จนเกินไปแล้วกัน

“นิทเดี๋ยวแม่จะไปทำบุญที่นครสวรรค์กับน้าวรรณนะลูก อยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหม”  คุณยลลดาเอ่ยบอกลูกอีกครั้งหลังจากที่บอกไปแล้วเมื่อวาน

นิทราพยักหน้ารับรู้ระหว่างช่วยแม่เก็บกระเป๋า

“นิทรู้แล้วค่ะ แม่บอกนิทเป็นร้อยรอบแล้วมั้งเนี่ย” ลูกสาวพูดเย้าแหย่ผู้เป็นมารดา

“แม่ก็ย้ำอีกรอบไง ตกลงนอนคนเดียวได้นะ”

“สบายมากค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงนิทหรอก” ว่าพลางรูดซิปปิดกระเป๋าให้เรียบร้อย

ร่างบางเดินมาส่งแม่ถึงบ้านของน้าวรรณที่นั่งดูทีวีรออยู่ข้างใน

“ฝากดูแลแม่ด้วยนะคะน้าวรรณ” ไหว้ทั้งคุณดิลกและคุณวรรณนภาแล้วก็เอ่ยฝากแม่ของตนเอง

“จ้ะ น้าจะดูแลแม่เราอย่างดีเลย”

นิทราไม่ลืมกำชับให้แม่ดูแลตัวเองจนผู้ใหญ่อดหัวเราะกับสาวน้อยที่ห่วงแม่เกินเหตุไม่ได้ นิทรามองดูรถตู้คันหรูแล่นไปจนลับตาแล้วชะเง้อมองเข้าไปภายในบ้านที่เธอไม่ได้มาเป็นเวลานาน มองไปยังโรงรถก็ไม่เจอรถของพสุจึงเดาได้ว่าเขาไม่อยู่บ้านร่างเล็กแอบเสียดายตัดใจเดินกลับบ้านเพื่อไปทำงานของตนเองต่อ

พสุเดินเข้ามาภายในร้านอาหารที่เขากับลินดาชอบมารับประทานประจำเพราะใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เรียนแถมอาหารยังอร่อยอีกด้วย เป็นร้านโปรดของหญิงสาวเลยละ ไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างบางมาหรือยังเพราะเขามาก่อนเวลานัดสิบนาทีแต่กลับแปลกที่โต๊ะประจำมีลินดานั่งอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองสบตากันก่อนเขาจะคลี่ยิ้มออกมาเมื่ออีกคนโบกมือทักทาย ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันหลังจากที่เธอบอกไม่ให้เขาไปรับไป ส่งแล้ว

“มาเร็วจังเลย อุตส่าห์มาก่อนเวลายังไม่ทันลิน”

ร่างบางยิ้มกว้างแม้ดวงตาจะดูไม่สดใสก็ตามและพสุก็พอจะ   ดูออก

“กินอะไรมายัง สั่งอาหารก่อนไหม”

พสุพยักหน้ารับเพราะช่วงบ่ายเขากินไปนิดเดียวจริงๆ เนื่องจากเรื่องที่คุยทำให้ต้องโฟกัสไปที่งานของบริษัทก่อน

สั่งอาหารมาได้สามอย่างก็คุยกันระหว่างรอ ส่วนมากพสุจะเป็นฝ่ายนั่งฟังลินดาพูดเสียมากกว่าเมื่ออาหารมาทั้งสองก็เริ่มลงมือรับประทานแต่คนตัวเล็กกลับกินไปได้นิดเดียวก่อนจะวางช้อนส้อมแล้วดื่มน้ำ

“อิ่มแล้วเหรอ ทำไมอิ่มเร็ว”  เขาถามในขณะที่ยังรับประทานอยู่เพราะหิวมากจริงๆ

“ก็กินเยอะไม่ได้ เดี๋ยวอ้วนพอดี”

“อ้วนบ้างก็ดีนะ ลินผอมจนจะปลิวไปตามลมได้อยู่แล้วเนี่ย”  เขาเย้าเธอก่อนจะเริ่มรับประทานต่อจนอาหารเกลี้ยงทุกอย่าง พสุดื่มน้ำตาม

“อิ่มมาก แน่นสุดๆ เลยตอนนี้”  ลินดายิ้มให้ก่อนจะชวนเขาไปเดินย่อยอาหารที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน ทั้งสองขับรถไปคนละคันแต่ถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน

พสุดูออกว่าเพื่อนมีท่าทีไม่สบายใจแล้วอยากจะถาม แต่ก็รอให้อีกฝ่ายพูดเองมากกว่า

พระอาทิตย์เริ่มตกดินทำให้ลินดาตัดสินใจที่จะบอกกับพสุ

“คือลินมีเรื่องจะบอก”  ในขณะที่เดินไปสักพักลินดาก็เอ่ยขึ้นพลางหยุดเดิน

“เราว่าละ ลินดูเหมือนมีอะไรกังวลใจแปลกๆ”

ความกังวลเกิดขึ้นเมื่อจะบอกอีกฝ่าย แน่นอนว่าพสุต้องเสียใจแต่ถ้าปล่อยไว้มันก็ยิ่งไม่เป็นการดีกับฝ่ายไหนเลย เธอจะต้องบอกเขา

“เรามีแฟนแล้ว”

คำพูดของร่างบางทำเอาพสุนิ่งงันไป หัวใจเหมือนหยุดเต้นไปชั่วครู่แล้วถามออกมาเสียงสั่น

“ว..ว่าไงนะ มีแฟนแล้ว ลินหลอกเราหรือเปล่า” ถามพลางยิ้ม แม้จะเป็นยิ้มที่ดูแห้งแล้งก็ตาม

ลินดานิ่งเธอส่ายหน้าน้อยๆ

“เราเพิ่งคบกับเขาได้ห้าวัน ขอโทษนะ”

“ใคร มันเป็นใคร”  เขาถามเน้นย้ำเมื่อรู้ได้ว่าสิ่งที่เธอบอกไม่ใช่เรื่องโกหกอีกต่อไป ตอนนี้ลินดาไม่โสดอีกต่อไปแล้วในหัวใจของเธอมีเจ้าของจับจองเป็นที่เรียบร้อยและนั่นไม่ใช่เขา ใจของเขามันเจ็บปวดเหลือเกินที่หญิงสาวซึ่งเฝ้ามองมานานมีแฟน ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่เขาอยู่ด้วยเธอไม่เคยมีท่าทีว่าจะมีแฟนเลย เธอโสดมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ที่บอกว่ามีแฟนแล้ว

“ลินขอโทษพสุลินขอโทษจริงๆ ลินคบกับพี่ภมร”

ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมาที่ตัวเขามันชาวาบไปหมดเมื่อรู้ว่าคนที่หักหลังเขาคือใคร

..คือพี่ชายแท้ๆ ของเขานั้นเอง!

“เมื่อไหร่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งๆ ที่เรารักลินมาตลอดแล้วทำไม” คำถามมากมายเกิดขึ้นเขาพูดแทบไม่รู้เรื่องตอนนี้สมองประมวลผลอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากคำว่าทรยศที่เขามอบให้คนเป็นพี่ชาย

“ลินแอบรักพี่ภมรมานานแล้ว ลินเลยไม่เคยมองใครเลยแม้กระทั่งพสุ”

เป็นคำตอบที่ทำลายเขาได้อย่างน่าเจ็บปวด เพียงเท่านี้เขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว คนที่ไม่ถูกเลือกคือเขาสินะ เธอรักพี่ชายเขามาตลอดแล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง ปล่อยให้เขาเป็นไอ้โง่ได้อย่างไรมาตั้งนานแสนนาน

พสุยิ้มเยาะตัวเอง

“ขอให้โชคดีแล้วกัน”  พูดได้เท่านั้นร่างสูงก็เดินกลับไปที่รถทันทีโดยไม่หันมามองคนที่พยายามเรียกตัวเองอีกเลย ใบหน้าที่มักมีรอยยิ้มประดับเรียบนิ่งจนน่ากลัว เขาปิดประตูรถเสียงดังแล้วขับออกไปด้วยความเร็วจุดหมายปลายทางก็คือผับดังร้านประจำของเขา

เมื่อมาถึงชายหนุ่มก็สั่งเหล้าเข้มๆ มาทันทีดื่มราวกับน้ำโดยไม่ได้มองเลยว่าตอนนี้ตนเป็นเป้าสายตาของใคร

“นั้นเจ้านายเธอใช่ไหมเม”  เลขาสาวสวยที่มานั่งดื่มกับเพื่อนหันไปมองก็ยกยิ้มขึ้นมาเมื่อพบกับเจ้านายตนเอง

“ใช่แล้ว คืนนี้ฉันคงไปกับพวกเธอไม่ได้แล้วละ ขอโทษด้วยนะ” เอ่ยลาเพื่อนก่อนจะลุกออกจากโต๊ะแต่โดนเพื่อนอีกคนจับแขนไว้ก่อน

“เดี๋ยวสิ ฉันมีของเล่นมาให้เธอด้วยนะ”  ถุงขนาดเล็กที่มีผงสีขาวอยู่ด้านในถูกยื่นให้เมขลาทันที

“ลองเอาไปใช้ดูนะ ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ใช้เสร็จเอามาเล่าให้ฟังด้วยนะ”  ทั้งกลุ่มยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย

เมขลารับของมาจากเพื่อนแล้วเก็บไว้อย่างดี ร่างบางเดินตรงไปยังพสุที่นั่งดื่มคนเดียวเงียบๆ หมดแล้วเติมใหม่จนร่างสูงโอนเอนไปมา

“คุณพสุไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่นะคะ”  เธอทักเขาแล้วนั่งลงข้างๆ ทันที“ดื่มเยอะระวังเมาแล้วกลับไม่ได้นะ”

เขาไม่ได้สนใจเธอยังคงเติมต่อไปเรื่อยๆ ให้ดับความว้าวุ่นในใจของตนเอง เมขลาเข้าไปกอดแขนเขาพลางเอนตัวซบจนพสุรำคาญสะบัดเธอออก

“จะไปไหนคะ”  เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเลยถาม

“เข้าห้องน้ำ”  ว่าจบก็เดินออกไปยิ่งเพิ่มโอกาสให้หญิงสาวเธอเทผงสีขาวที่ได้มาจากเพื่อนใส่แก้วให้เขาทันทีแล้วหันไปมองเพื่อนของตนเองที่ส่งยิ้มมาให้ คนให้เข้ากันก่อนจะวางไว้ที่เดิม

ไม่นานร่างสูงก็เดินมายังโต๊ะของตนเอง เขาดื่มรวดเดียวหมดจนเมขลาที่มองยิ้มพอใจ ดื่มไปไม่นานร่างสูงก็รู้สึกร้อนเนื้อร้อนตัวไปหมดความต้องการพุ่งทะยานจนต้องหันไปจูบสาวที่นั่งข้างกายโดยไม่คิดจะยับยั้งชั่งใจ ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มจนคนอื่นต่างสนใจ

เมขลาจึงผละออกจากเขาแล้วพาเดินออกไปจากผับ โดยมีสายตาหลายคู่ยังคงมองอยู่อย่างสนใจ

พสุพยายามจะจูบอีกฝ่ายแต่เธอก็บอกให้ใจเย็นรอถึงรถก่อน ดีที่เขาเป็นสมาชิกผับจ่ายเงินรายปีสามารถเช็กยอดทั้งปีจ่ายครั้งเดียวซึ่งเขาก็มาไม่ค่อยบ่อยนักที่มาส่วนมากก็เพราะคุยงานกับลูกค้าจึงมาสังสรรค์บ้างตามโอกาส

ผลัวะ

ในขณะที่สองร่างกำลังจูบกันตรงลานจอดรถร่างของพสุก็ถูกต่อยเข้าจนอีกฝ่ายเซล้มลงไป

“พี่เข้ม!” เมขลาเห็นหน้าคนที่เข้ามาทำร้ายเจ้านายตนเองก็ต้องตกใจ

“ยังจำผัวมึงได้อยู่เหรอ!” อีกฝ่ายตะโกนใส่หน้าผู้หญิงก่อนจะลากเธอให้ออกไปจากตรงนี้ เขาไม่ได้สนใจพสุอยู่แล้วจึงไม่คิดติดใจเพราะรู้สันดานเมียตัวเองดี

“พี่จะพาฉันไปไหน”

“มึงเงียบ!กูไม่ทำอะไรไอ้นั้นหรอก คนที่จะโดนคือมึง” ว่าจบก็ลากเธอออกไปด้วยแรงมหาศาลของบุรุษทำเอาเมขลาก้าวตามแทบไม่ทัน ไม่วายหันไปมองอีกคนที่นอนอยู่บนพื้นท่าทางทุรนทุราย

เสียดายโอกาสครั้งนี้เหลือเกิน กะว่าจะได้กินอยู่แล้วเชียวกลับพลาดไปเสียได้

พสุค่อยๆ ลุกขึ้นมาเขาหยิบกุญแจมาเปิดรถแม้สติยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์รู้เพียงว่าจะต้องกลับบ้านให้ได้ อาการปวดตรงกลางลำตัวตีขึ้นมาจนเขาต้องกุมมันเอาไว้ ร้อนเนื้อร้อนตัวไปหมดขับรถกลับมาได้แต่ก็เกินความเร็วที่กำหนดไว้ไม่มีด่านตรวจระหว่างทางกลับบ้านเลย

รถคันหรูจอดลงตรงหน้าบ้านวิจิตรประภาก่อนที่เขาจะฟุบลงไป พยายามกลั้นอารมณ์ระงับสติอารมณ์เต็มที่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“พสุเปิดให้เราหน่อย”

เป็นนิทราที่มารอเขาตั้งแต่หัวค่ำเพราะรู้ข่าวว่าลินดาคบหากับภมรเนื่องจากอีกฝ่ายเดินมาบอกเธอเอง สิ่งแรกที่คิดถึงคือตอนนี้พสุจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอนั่งรอเขาตั้งแต่เย็นจวบจนตอนนี้ที่เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว บ้านของเขาก็ปิดไฟไปค่อนหลัง

“พสุ”เมื่อลองเปิดประตูก็พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล็อกเธอจึงพยายามแบกร่างหนาออกมาดีที่เขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจึงพาเดินมาที่บ้านของเธอได้

ร่างสูงสติแทบไม่สมบูรณ์เขาร้อนไปทั้งตัวและยิ่งได้กลิ่นกายสาวความกระหายมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อนิทราปิดประตูบ้านเขาก็ไม่รอช้าคว้าร่างบางมาบดจูบทันทีโดยคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตาโตเพราะไม่เคยโดนจูบเลยสักครั้ง มือเล็กทุบเขาเบาๆเป็นการประท้วงแต่แรงแค่นั้นไม่สะเทือนคนตัวสูงเลยสักนิด

“พสุอย่า”

เป้าหมายของอีกคนเลื่อนไปที่ซอกคอหอมเขาสูดดมพร้อมกับฝากรอยไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากผ่าน แม้จะเมาแต่แรงก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิดสติของเขาตอนนี้รู้เพียงว่าอยากได้คนตรงหน้าเสียเหลือเกิน เธอช่างหอมเย้ายวนเขาเสียจริง มือหนาทำหน้าที่ถอดเสื้อยืดของอีกฝ่ายออกทันทีโดยที่ปากก็ยังคงดูดดึงริมฝีปากบางอยู่

ความเร็วของเขาทำเอาเธอที่กำลังมัวเมากับรสจูบแทบจะไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งตัวเหลือเพียงบราสีหวานและกระโปรงบางเท่านั้น

“อืม อื้อ” เสียงหวานครางแผ่วยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้เขา

พสุถอดเสื้อตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งเข้าหาเธอฝากรอยไว้ที่เนินอกทั้งสองข้าง ก่อนจะปลดตะขอ บราสีหวานออกเผยให้เห็นบัวตูมคู่งามที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนลอยเด่นตรงหน้า เขาเข้าครอบครองแล้วดูดกลืนยอดสีหวาน ราวกับกระหายน้ำใบหน้าหวานแอ่นอกรับแหงนหน้าขึ้นคราง เสียงหวานเพราะไม่เคยพานพบความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ชายหนุ่มรีบถอดประโปรงสีหวานของเธอออกพร้อมกับถอดชุดชั้นในชิ้นสุดท้าย

ร่างบางเหลือเพียงตัวเปล่าเปลือยแต่เพราะอารมณ์ฝ่ายต่ำทำให้เธอขาดการรับรู้ทุกอย่าง เขาเองก็รีบถอดชุดออกจากตัวเองเช่นกันเพราะขัดเคืองเหลือเกิน สองร่างโผเข้าหากันอย่างเร่งรีบเพราะอารมณ์ที่เตลิด

“ลิน ลิน”

ชื่อของผู้หญิงอีกคนทำให้นิทราได้สติ ตอนนี้ทั้งร่างไม่เหลือชุดอะไรอีกแล้วเธอจึงพยายามผลักเขาออกไป

“ปล่อยนะพสุ เราไม่ใช่ลินดา”  เอ่ยด้วยความน้อยใจแต่อีกฝ่ายก็ไม่ฟังด้วยแรงน้อยนิดของเธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้อยู่แล้ว

พสุพาร่างบางไปที่โซฟาก่อนจะทับเธอไว้ทั้งตัว สองมือถูกเขาตรึงไว้บนศีรษะแล้วจูบเธอไปเรื่อยก่อนจะหยัดตัวขึ้นมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีอารมณ์คล้อยตามอีกครั้ง เขารู้ว่าเธอคือนิทราแต่อารมณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะหยุดมันได้แล้ว

ร่างสูงพยายามเอาแท่งบุรุษเพศเข้าไปในกลีบดอกไม้สีหวานก่อนที่เขาจะรับรู้ได้ว่าเธอยังบริสุทธิ์เมื่อเยื่อพรหมจรรย์ขาด แต่ตอนนี้เขาหยุดไม่ได้อีกแล้ว

“แล้วมันจะดี” เขาปลอบเธอก่อนจะค่อยๆ ดันเข้าไปจนสุดเมื่อเธอพร้อมจึงโยกตามแรงอารมณ์เสียงครางดังไปทั่วห้องรับแขกก่อนที่เขาจะปล่อยเข้าไปในตัวเธอจนหมด

พสุพักเหนื่อยเพียงครู่เดียวก่อนที่จะเริ่มเกมรักอีกครั้ง เขาอุ้มเธอไปบนห้องนอนของเธอวางร่างบางไว้บนเตียงก่อนจะเริ่มเกมรักกับเธออีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้งจนกระทั่งรุ่งสางทั้งคู่จึงได้หลับไปเพราะความเพลีย

“กรี๊ดดดดดดดดด!!”  เสียงกรีดร้องดังขึ้นทำให้สองร่างที่นอนอยู่บนเตียงงัวเงียลืมตาขึ้นมา เพราะเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงทำให้ทั้งคู่รู้สึกเพลียมากแต่เมื่อได้ยินเสียงดังขนาดนี้ถ้าให้หลับต่อก็คงนอนไม่ลง

“มีอะไรเกิดขึ้นพี่ลดา”

เสียงอันคุ้นเคยปลุกให้พสุลืมตาขึ้นมาทันที

“ว้ายตาเถร!”

ร่างสูงได้ยินเสียงแม่ตนเองเมื่อแน่ใจเขาก็ลุกขึ้นนั่งเห็นทั้งป้าลดาและแม่ของตนเองมองมาที่เขาด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะค่อยๆ หันไปมองด้านข้างก็ยิ่งตกใจ เมื่อพบเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของตนเองนั้นคือนิทรา

บ้าชิบ!ทำไมเมื่อคืนเขาไม่กลับบ้านเป็นเรื่องอีกจนได้

“ไปแต่งตัวทั้งสองคนแล้วลงไปคุยกันที่ข้างล่าง”  วรรณนภาเอ่ยขึ้นเสียงเย็นก่อนจะเดินออกไปพร้อมยลลดาที่ยังคงช็อกอยู่ ยิ่งเห็นร่องรอยตามตัวลูกสาวยิ่งเกิดความเสียใจไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพแบบนี้ด้วยซ้ำ

เมื่อคนทั้งสองปิดประตูห้องแล้วนิทราและพสุก็มองหน้ากันทันทีก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆ ลุกไปใส่เสื้อคลุม เธอพยายามข่มความเจ็บที่จุดซ่อนเร้นและบั้นเอวลงมา พยายามเข้มแข็งแต่ขากลับอ่อนจนล้มลงกับพื้นเมื่อใส่เสื้อคลุมเสร็จแล้ว

พสุยังคงนั่งนิ่ง ใช้เวลาคิด อยากจะไปช่วยเธอแต่ก็ไม่ทำเพราะตอนนี้เขาคิดว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับนิทรา แล้วทำไมนิทราไม่ปลุกเขาให้รีบตื่น ทำไมต้องให้ผู้ใหญ่มาเห็น เธอต้องการให้เขารับผิดชอบอย่างนั้นหรือ ความคิดทุกอย่างจู่โจมมาที่เขา

“นิท เมื่อคืนเราขอโทษ”  ในที่สุดก็เอ่ยปากบอกเมื่ออีกฝ่ายจะเดินเข้าห้องน้ำ

“เราไม่ได้ตั้งใจและเราไม่ได้สติ”  คำพูดของเขาราวกับมีดที่เฉือนหัวใจเธอ ร่างสูงคว้าผ้าเช็ดตัวแถวนั้นมาพันรอบเอวก่อนเดินไปหาเธอ“แต่เราไม่เข้าใจทำไมเธอไม่ห้ามเรา ทำไมเธอถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้น เธอต้องการอะไรกันแน่”  เพราะความขาดสติทำให้คำพูดของเขาไม่ได้กลั่นกรองโดยดี ยามโกรธเขาสามารถโทษได้ทุกอย่าง

คำพูดของพสุยิ่งทำให้นิทราทรงตัวแทบไม่อยู่ เขาโทษเธอว่าทั้งหมดคือความผิดของเธอที่ไม่ห้ามไม่พยายามยับยั้งเขาใช่หรือไม่

“เราพยายามแล้ว” เอ่ยออกมาได้เท่านั้นจริงๆ

พสุถอนลมหายใจออกมา เหตุการณ์นี้มันเกินการควบคุมของเขา

นิทราผละไปอาบน้ำเธอพยายามเดินให้เป็นปกติแม้จะเจ็บมากก็ตาม เขาปล่อยข้างในและยังไม่ได้ล้างออก

เธอต้องทำความสะอาดตัวเองอยู่นานกว่าจะออกมาและก็ต้องตกใจ เมื่อออกมาแล้วเขาขว้างภาพใส่เธอ

“ที่ทำแบบนี้เพราะเธอชอบเราเหรอ”  รูปภาพนับสิบแผ่นพร้อมกับสมุดไดอารี่ในมือเขาทำให้เธอเบิกตากว้าง

เขาค้นมันอย่างนั้นหรือ

“นี่มันแผนการของเธอใช่ไหมที่เห็นว่าเราเมาเลยพยายามเข้ามา เธอแอบชอบเราเลยหวังว่าครั้งนี้คงจะทำสำเร็จ ใช่!เธอทำสำเร็จแล้ว คงจะคิดมาอย่างดีว่าอยากให้แม่เรามาเจอ ใช่ไหม! ตอบสิ!” เขาเข้ามาเขย่าไหล่เธอเค้นคำตอบ

“เปล่า เราเปล่า” นิทราพยายามอธิบายแต่อีกฝ่ายไม่ฟังเลย

“ต่อจากนี้ จะไม่มีคำว่าเพื่อนอีกต่อไป”  ดวงตาคมมองเธอราวกับโกรธแค้นมานานก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสื้อผ้าของตนเองที่แม่ของเขาเอาขึ้นมาให้เพราะมันกองอยู่ที่ห้องรับแขกด้านล่าง

เมื่อร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำนิทราก็เก็บรูปที่ตนเองไปขโมยมาได้ช่วงมัธยมที่รูปของพสุได้ขึ้นบอร์ดกิจกรรม หลบคนแทบตายกว่าจะได้รูปมาและช่วงมหาลัยที่อีกฝ่ายเป็นถึงเดือนมหาลัยมีรูปเต็มบอร์ดเธอก็แอบขโมยมาอีก ไม่คิดว่าเขาจะมาเจอ ไม่คิดจะบอกอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

พสุออกมาด้วยชุดเรียบร้อยใบหน้าหล่อเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เธอยืนรอเขาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมแล้วก็ลงไปข้างล่างที่ตอนนี้มีคุณดิลกนั่งรวมด้วยอีกคน ผู้ใหญ่ทั้งสามมีสีหน้าเรียบนิ่งก่อนที่หนุ่มสาวสองคนจะนั่งลงบนโซฟา

“มันเกิดขึ้นได้ยังไง” คุณดิลกเริ่มขึ้นก่อนเมื่อมองเด็กทั้งสอง

“ผมผิดเองครับ ผมไปกินเหล้ามาแล้วไม่ได้สติเรื่องมันเลยเลยเถิด” เขาก้มหน้ายอมรับผิดพร้อมกับคลานเข่าไปกราบขอโทษคุณยลลดาแทบเท้าที่ทำร้ายลูกสาวของท่าน“ผมขอโทษที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด” นิทรานั่งกุมมือนิ่งมองการกระทำของเขาด้วยความปวดใจ เขาขาดสติ เขาเมา เขาไม่รักเธอนั่นคือความจริงที่เจ็บปวดที่สุดแล้ว

“แกจะทำยังไง ลองบอกฉันมาสิ”

“ผมขอโทษครับ แต่ถ้าจะให้ผมแต่งงานกับเธอ ผมทำไม่ได้จริงๆ ผมไม่ได้รักนิท”  เขาไม่อยากแม้แต่จะเอ่ยชื่อผู้หญิงร้อยมารยาคนนี้ออกมา ความเป็นเพื่อนของเขากับเธอจบลงตั้งแต่ที่เขารู้แล้วว่าเธอคิดแผนไม่ซื่อกับเขาแบบนี้

“แต่แกต้องแต่ง! ฉันพูดกับแม่ของหนูนิทแล้ว ฉันจะให้แกกับหนูนิทแต่งงานกัน”  คุณดิลกเอ่ยขึ้นเสียงดัง ลูกสาวของเพื่อนรัก โดนลูกชายเขาย่ำยีขนาดนี้ถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบเขาคงไม่มีหน้าไปพบเพื่อนยามจากโลกนี้ไป

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะคะ” เห็นว่าเขาไม่ต้องการที่จะแต่งงานกับเธอและสำหรับตัวเธอแล้วก็ไม่คิดจะแต่งงานกับพสุหากเขาไม่ได้รักเธอ

“ไม่ได้หรอก น้าไม่ยอมเด็ดขาดหนูต้องแต่งงานกับตาเล็ก เรื่องนี้ผู้ใหญ่จะคุยกันเอง เราสองคนแค่รู้ไว้ว่างานแต่งจะถูกจัดขึ้นในเดือนหน้า!”  คำพูดของวรรณนภาถือเป็นประกาศิตไม่มีใครกล้าขัดได้อีก

พสุนิ่งไปก่อนจะหันมามองนิทรา

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ” เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่แล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนี้ทันที

นิทราก็รีบลุกตามเขาออกไปเช่นกัน ผู้ใหญ่ทั้งสามมองหน้ากันก่อนที่ยลลดาจะกล่าว

“ทำแบบนี้มันจะดีหรือ เด็กไม่ได้รักชอบกัน”

“แต่หนูนิทเสียหายค่ะ ตาเล็กต้องรับผิดชอบไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่”  วรรณนภาเอ่ยขัด

แม้ยลลดาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่กล้าแย้งเพราะในใจก็อยากให้ลูกสมหวังกับคนที่ลูกรัก เธอรู้มาตลอดว่าลูกสาวเธอแอบรักใครอยู่และหวังลึกๆ ว่าจะสมหวัง คราวนี้ความหวังก็คงจะเป็นจริงแล้ว

“ก็คงต้องแล้วตามกัน” ทั้งสามคุยเรื่องงานแต่งงานของลูกตนเองทันที

วรรณนภาแอบดีใจที่จะได้หญิงสาวที่เอ็นดูมาเป็นลูกสาวอีกคน งานแต่งครั้งนี้ของลูกชายเธอจะต้องเลิศที่สุด!

“เดี๋ยวก่อนพสุ” ร่างบางวิ่งมาจับมือเขาแต่อีกฝ่ายสะบัดออกทันทีราวกับรังเกียจกันเหลือเกิน

“อย่ามาใกล้ฉัน เพราะเธอทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้” คำเรียกที่เปลี่ยนไปทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวแต่ก็ยังยิ้มสู้

“เราไม่ได้ทำ เธอต่างหากที่ทำ เธอไม่ฟังที่เราบอกเลย”

“แล้วทำไมเธอไม่ขัดขืน!แค่เอาอะไรทุบหัวฉันให้สลบไปมันยากเหรอ หรือเพราะเธอรอเวลานี้มานานแล้ว”  เขาถามกลับ

นิทราส่ายหน้าไปมา

“เราไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอเลยนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

“คำว่าเพื่อนมันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราไม่ใช่เพื่อนกันและฉันเกลียดเธอ!” เขาผลักเธอออกห่างแล้วเดินเข้าไปภายในบ้านทันทีปล่อยร่างบางให้ยืนน้ำตาไหลลงมาคนเดียว

หลังจากนี้มันคือความจริงสินะ ความจริงที่นอกจากเขาจะไม่รักแล้วยังเกลียดเธออีกด้วย เป็นแบบนี้แล้วชีวิตครอบครัวของเธอกับเขาจะเกิดอะไรขึ้น

“เล็กเกิดอะไรขึ้นคนในบ้านมักจะเรียกภมรว่าคุณใหญ่ซึ่งก็คือลูกคนโตของบ้านและเรียกพสุว่าคุณเล็กเพราะทำให้ทั้งสองเรียกกันด้วยชื่อนี้ตลอด

“ทำไมพี่ไม่บอกวะว่าคบกับลิน”  เจอหน้าคนเป็นพี่เขาก็ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อทันทีด้วยส่วนสูงที่ใกล้เคียงกันทำให้ทั้งสองสบตากันนิ่ง แววตาของคนเป็นพี่นิ่งแต่พสุกลับเดือดดาลหากเผาคนตรงหน้าได้เขาคงทำไปแล้ว

“พี่ขอโทษ พี่รักลินจริงๆ”

“พี่รักทั้งๆที่รู้ว่าผมก็รักลินอย่างนั้นเหรอ พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่ทำได้ยังไง!”  เขาบอกเล่าเรื่องลินดาให้ภมรฟังเสมอและเขาก็ต้องมาเจ็บเพราะคนที่เขาไว้ใจทั้งสองคนทรยศหักหลัง

ไม่สิคนที่เขาไว้ใจทั้งสามคนต่างหาก..

“ถ้าพี่ไม่เป็นแฟนกับลินมันคงไม่เกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขึ้น เพราะพี่ มันเป็นความผิดของพี่คนเดียว”  ว่าแล้วเขาก็ผลักอีกฝ่ายออกไปแล้วเดินขึ้นบนห้องด้วยความฉุนเฉียว

ภมรที่กำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นบิดามารดาเดินมาก็ตรงเข้าไปหาท่านทั้งสองทันที

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณพ่อ”

คุณดิลกมองหน้าลูกชายคนโตแล้วบอกให้เข้าไปนั่งคุยกันที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งภมรก็ไม่เอ่ยขัดเขาเดินตามบิดาไปเงียบๆ แม้ในใจจะร้อนรนก็ตาม

“พ่อจะให้ตาเล็กแต่งงานกับหนูนิท”

คำถามเกิดขึ้นทันทีในใจของภมร ..ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น

“ผมไม่เข้าใจครับพ่อ ทำไมต้องให้เล็กแต่งงานกับนิท สองคนนั้นไม่ได้รักกัน”  เอ่ยถามออกไปจนทั้งพ่อและแม่ต้องถอนหายใจ

“ก็ไอ้น้องชายตัวดีของเราน่ะไปมีอะไรกับหนูนิท แม่ไม่อยากให้หนูนิทเสียหาย บอกป้าลดาไปว่าจะรับผิดชอบเองเลยให้ตาเล็กแต่งงานกับหนูนิท”

เขามึนไปหมดแล้วตอนนี้

..พสุไปมีอะไรกับนิทราอย่างนั้นหรือแล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรเพราะน้องชายเขาไม่มีท่าทีว่าจะรักชอบอีกฝ่ายได้เลย

“แม่ยังโมโหไม่หาย! ไปทำบัดสีแบบนั้นที่บ้านป้าเขาได้ยังไง หมดกันชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเพราะลูกชายคุณคนเดียวเลย”  ว่าจบก็หันไปบ่นสามีแล้วเดินออกไปปล่อยให้คุณดิลกมองตามแล้วถอนหายใจออกมา

..ไปทำบุญมาแท้ๆ แต่กลับต้องมาเจอเรื่องหนักใจ

“อีกเดือนหนึ่งจะมีงานแต่งของน้องแกเกิดขึ้น ก็ช่วยๆ พ่อหน่อยแล้วกันนะ” เขาตบบ่าลูกชายเดินตามภรรยาออกไป

ปล่อยให้ภมรได้แต่นั่งอึ้งเพราะเรื่องราวเกิดขึ้นเร็วเกินไป

“คุณใหญ่คะ คุณลินดามาขอพบค่ะ” แม่บ้านพูดจบภมรก็รีบลุกขึ้นไปหาแฟนสาวทันที

ลินดาเห็นชายหนุ่มที่รักก็รีบเดินมาหาทันทีพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด

“พี่ภมรคะเกิดอะไรขึ้น ลินได้ข่าวว่าพสุจะแต่งงานกับนิทหรือคะ”

..ข่าวไปไวเหลือเกิน

เขาพยักหน้าแล้วพาเธอไปยังสระน้ำหลังบ้าน สาวสวยเดินตามไปเพราะอยากจะรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมสระ

“พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดชัดเจนรู้แค่เพียงว่าเล็กไปมีอะไรกับนิทแล้วป้าลดาเห็น คุณแม่เลยแสดงความรับผิดชอบด้วยการให้เล็กแต่งงานกับนิท” ฟังแล้วลินดาก็แทบจะเป็นลม

..ทั้งสองมีอะไรกันอย่างนั้นหรือ! เป็นไปได้อย่างไรกัน

“จริงหรือคะพี่ภมร หรือว่ามันจะเป็นเพราะลินบอกพสุว่าเราเป็นแฟนกันเขาเลยประชดหรือเปล่า”

“พี่ไม่รู้ พี่เดาใจนายเล็กไม่ออกเลย”  เขาส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง เรื่องราวดูเหมือนจะซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะรู้

สองคนนั่งมองผืนน้ำจนกระทั่งโทรศัพท์ของลินดาดังขึ้นและเธอต้องไปทำธุระของบริษัทจึงขอตัวจากเขา

ภมรเดินไปส่งแฟนสาวแล้วเข้ามาภายในบ้านสวนทางกับพสุ ที่เดินออกมาพอดีเขาจะเอ่ยทัก แต่อีกฝ่ายก็เดินเลยไปราวกับเขาไม่มีตัวตน

..ทุกอย่างมันเกิดเร็วไปหมดแม้ว่าเขาจะทำใจไว้แล้วก็ตามแต่นี่มันเหนือความคาดหมายของเขาเกินไป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดาวใกล้เดือน   ๓

    เวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านไปนิทรายุ่งกับการเตรียมชุดแต่งงานของตนเองและเจ้าบ่าวโดยเธอเป็นคนออกแบบและตัดชุดเองคุณวรรณนภาเป็นธุระเรื่องการวัดตัวพสุก่อนจะเอามาให้เธอตัดชุด ร่างบางอมยิ้มน้อยๆ เมื่อมองชุดเจ้าบ่าวซึ่งกำลังจะเสร็จด้วยความปลื้มใจ เขากำลังจะได้ใส่ชุดที่เธอตัดให้ถือเป็นชุดผู้ชายชุดแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอตัด“พักก่อนไหมนิท” คุณยลลดาถือแก้วโอวัลตินมาวางไว้ข้างกายลูกสาวหลังจากเห็นหล่อนทำงานหนักมาหลายวันแล้วนิทราตัดชุดเจ้าสาวเสร็จเรียบร้อยทั้งชุดงานหมั้นและงานฉลองตอนเย็น ตอนนี้จึงเหลือชุดเจ้าบ่าวที่ต้องตัดทั้งสองชุด พอนางอาสาจะช่วยลูกสาวก็ปฏิเสธเพราะอยากทำให้เจ้าบ่าวด้วยตัวเอง“ไม่ค่ะแม่ ชุดหมั้นใกล้เสร็จแล้ว เสร็จค่อยพักก็ได้” แม้เป็นเวลากว่าเที่ยงคืนเธอก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ที่เดิม “แม่ไปนอนเถอะค่ะ นิทยังไหว”เห็นหน้าซีดเซียวของลูกสาวแล้วก็อดบ่นว่าที่ลูกเขยในใจไม่ได้ อีกฝ่ายไม่เคยแม้แต่จะย่างกรายเข้ามาที่บ้านของเธอเลย ใจจริงถ้าฝ่ายชายไม่เต็มใจเธอก็ไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานด้วยแต่เพราะน้องคนสนิทคะยั้นคะยอจะรับผิดชอบเธอก็เลยไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธทั้งยังกลัวลูกสาวอับอายอีกด้วย“จ้ะ แม่รักลูกนะ” คุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๔

    “หนูนิทเป็นไงบ้างลูก” “ตัวร้อนครับ สงสัยโหมงานหนักไปหน่อย” พูดจบภาพเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำของเขาจนต้องสลัดมันทิ้งไป“ฝากดูแลด้วยนะแม่ ผมต้องไปทำงานแล้ว” ถ้าขืนอยู่ต่อมีหวังแม่ต้องซักไซ้เขาแน่นอนจึงต้องหาทางเอาตัวรอดก่อน“วันนี้ไม่ต้องไปก็ได้” คนเป็นพ่อบอกด้วยเป็นห่วงไม่อยากให้ลูกโหมงานหนักแต่พสุก็ปฏิเสธ“พอดีวันนี้งานด่วน ผมขอตัวก่อนนะครับ” หยิบของสำคัญได้ก็รีบออกจากบ้านทันทีโดยไม่ทันจะได้เปลี่ยนชุด..เขากำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไร วันก่อนเกลียดแต่เมื่อกี้กลับดูเป็นห่วงเธอ อาจจะเป็นเพราะเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของเขามานานความเป็นห่วงมันก็มีอยู่แล้ว แต่เรื่องที่เธอทำกับเขานั้นก็ไม่ลืมเช่นกันคิดได้สรุปก็เริ่มเบาใจ..เขาไม่ได้รักเธอ ไม่มีทางตกหลุมรักเธออย่างแน่นอนมารดาของนิทราเป็นคนเช็ดตัวให้ลูกสาว พอเที่ยงอีกฝ่ายสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็ดีใจ คุณวรรณนภารีบสั่งเด็กเอาข้าวต้มขึ้นมาให้ลูกสะใภ้ทันทีพร้อมยา“นิทเป็นลมหรือคะ” ตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกปวดหัว“ใช่จ้ะ” คุณแม่ทั้งสองช่วยกันประคองหญิงสาวให้นั่งพิงหัวเตียงเอาไว้ ใบหน้าหวานดูซีดเซียวจนคนเป็นแม่ต้องลูบศีรษะปลอบประโลมลูกสาวของตนเองนิทร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๕

    นิทราลงมาแต่เช้าเพื่อมาใส่บาตรเป็นเพื่อนแม่ของตนเอง นิทราเข้าไปเก็บของก่อนจะกลับมายังบ้านหลังใหญ่ เธอทำซุปแก้อาการแฮงไว้ให้พสุที่ตอนนี้ยังไม่ลงมา“เมื่อคืนตาเล็กกลับบ้านกี่โมง” หันไปถามสร้อยที่อยู่รออีกฝ่ายก็อึกอักไม่กล้าตอบพอดีกับนิทราเดินเข้ามาในห้องอาหารของบ้าน“พสุยังไม่ลงมาหรือคะ” ไม่เห็นเขาบนโต๊ะอาหารก็เอ่ยถามขึ้น“ยังเลยลูก ขึ้นไปดูหน่อยก็ดี”ด้วยความเป็นห่วงนิทราจึงลุกขึ้นไปดูอีกฝ่ายบนห้อง เข้ามาก็ได้ยินเสียงอ้วกทันที ก่อนร่างสูงจะเดินออกมาด้วยความงัวเงีย ใบหน้าหล่อดูซูบเล็กน้อย ตอนนี้เขาสวมชุดพร้อมไปทำงานเรียบร้อยแต่เพราะต้องลงพื้นที่ดูตรวจงานจึงไม่ได้ใส่สูทไปเพียงแค่ชุดทะมัดทะแมงเท่านั้น “ดื่มน้ำหน่อยไหม” รินน้ำข้างหัวเตียงให้ เขาก็ไม่ปฏิเสธรับมาดื่มอย่างเสียไม่ได้“ดีขึ้นรึยัง”พสุไม่ตอบเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น เมื่อคืนเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมาไปตอนไหนหรือกลับมายังไง ใครเป็นคนดูแลเขาเพราะตื่นมาก็อยู่ในชุดนอนแล้ว ปกติหากเมากลับมาแบบนี้แม่จะสวดเป็นชุดพอขึ้นมาเขาก็นอนด้วยชุดนั้นตื่นมาค่อยอาบน้ำ หากเมื่อคืนไม่ใช่ เขาจำอะไรไม่ได้คิดว่าคนที่ดูแลเขาคงเป็นหญิงร่างเล็กที่กำลังตรวจควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๖

    พสุนั่งทำงานได้สักพักก็ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ เป็นอย่างนี้ประมาณสี่รอบ หน้าเขาเริ่มซีดจนน่าเป็นห่วงดีที่เอกสารมีไม่มากเขาจึงคิดว่าจะกลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานเพราะหากทนอยู่ต่อก็คงไม่ไหว มันปวดจนไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งปวดหนักแล้วเหมือนจะอ้วกด้วยจนกระทั่งเลขาสาวนำอาหารเที่ยงมาให้ก็สังเกตอาการของเจ้านายได้ เธอรีบพาเขาไปโรงพยาบาลทันที ระหว่างทางพสุก็พยายามอดกลั้นไว้เหมือนจะปวดหนักตลอดเวลา เขาอ้วกออกมาระหว่างทางดีที่มีถุงพลาสติกไม่อย่างนั้นต้องได้อ้วกใส่รถแน่ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล ทำเรื่องรอสักพักก็ได้เข้าตรวจ หมอต้องนำผลเลือดของเขาไปตรวจเพราะอาจติดเชื้อระหว่างนี้ให้พสุนอนรอที่ห้องตรวจก่อน“ว่ายังไงตาใหญ่” คุณวรรณนภาที่กำลังนั่งดูละครอยู่กับแม่บ้านรับโทรศัพท์เห็นว่าเป็นลูกชายคนโต“เล็กอยู่โรงพยาบาลนะครับแม่ หมอบอกว่าอาหารเป็นพิษต้องนอนให้น้ำเกลือ” ได้ยินอย่างนั้นคนเป็นแม่ก็ตกใจเสียยกใหญ่“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแม่ไปหาน้อง โรงพยาบาลไหนลูก” ลูกชายบอกรายละเอียดก่อนจะวางสายไป คนเป็นแม่ก็แสนจะเป็นห่วงรีบเดินไปบ้านข้างๆ ที่ลูกสะใภ้อยู่เพราะต้องช่วยงานตัดเย็บของคุณยลลดาถึงแม้จะไม่รีบแต่ก็ต้องทำไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๗

    เสียงโทรศัพท์ของนิทราดังขึ้นเจ้าของโทรศัพท์ผวาลุกขึ้นไปก่อนถอนหายใจออกมาเมื่อพบว่าไม่ใช่คนที่ตนเองเฝ้ารอแต่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย“สวัสดีหวาน โทรมาเสียดึกเชียว” เป็นเวลากว่าสี่ทุ่มที่เพื่อนโทรมา สร้างความแปลกใจเพราะปกติเพื่อนจะไม่ค่อยโทรหาเธอในเวลานี้เป็นที่รู้กันว่านิทราจะไม่ค่อยรับโทรศัพท์ช่วงเวลาดึก‘ค่อยโล่งอกนึกว่าจะไม่รับเสียแล้ว’ปลายสายว่าอย่างโล่งใจ“ปกติไม่ค่อยโทรมาเวลานี้ มีอะไรหรือเปล่า”“คือว่า ก็ไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจนะนิท แต่มันอดไม่ได้ต้องโทรมาบอก พอดีฉันเห็นสามีเธอมานั่งกินเหล้าในผับกับผู้หญิงน่ะ” สิ้นคำบอกเล่าตัวเธอก็ชาทันที มือบางสั่น ขาอ่อนแรงจนต้องนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรับแขก“จะ จริงหรือ” ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ“จริงแน่นอน ฉันจำพสุได้แม่น” ตอนนี้ไม่รู้มีสีหน้าอย่างไรเพราะสร้อยรีบเข้ามาหาเธอมองอย่างเป็นห่วง นิทราแทบจะไม่รับรู้ประโยคต่อจากนั้นของเพื่อนก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไป มือบางทิ้งลงข้างลำตัว ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธอ เมื่อวันก่อนก็ไปวันนี้ก็ไปทั้งที่เพิ่งหาย เธอหรือก็เฝ้ารอเขาที่บ้านแต่อีกฝ่ายกลับไปอยู่กับหญิงอื่น“พี่นิทเป็นอะไรคะ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๘

    “สวัสดีครับคุณพสุ” เมื่อเข้ามาภายในโรงแรมก็มีผู้จัดการมาต้อนรับอย่างดี โรงแรมนี้เป็นโรงแรมในเครือดิวัลยาที่เขาเคยดูแลเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวก็เข้ามาพักกันเยอะด้วยชื่อเสียงของโรงแรมและการบริการที่ดีเยี่ยม“สวัสดีครับ” เขากล่าวทักทายอีกฝ่ายเล็กน้อย แล้วเดินไปหยิบคีย์การ์ดขึ้นห้องนิทราเดินตามไปแต่ระหว่างทางก็มองการตกแต่งของโรงแรมที่เน้นบรรยากาศ โดยรอบเป็นผนังกระจกใสที่เห็นวิวข้างนอกประดับด้วยไม้มงคล ไม่เน้นหรูแต่เน้นถึงเอกลักษณ์ในพื้นที่ โคมไฟด้านบนก็เป็นรูปปลาชนิดต่างๆ หรือโซฟาตรงล็อบบี้ก็เป็นรูปทรงปะการังที่ดูธรรมชาติ“เดินช้าจริง” หันมาเห็นภรรยามัวโอ้เอ้เดินดูการตกแต่งไม่ตามมาจึงเดินกลับมาจูงมือเธอให้เดินตามนิทราแอบมองมือหนาที่กอบกุมมือเธอเอาไว้ ความรู้สึกอบอุ่นโอบล้อมรอบตัวจนเผลอยิ้มออกมาด้วยความสุขพอดีกับที่ร่างสูงหันมามอง“ยิ้มอะไร เมายาหรือ”..ดูคำพูดเขา ไม่เคยมีความรู้สึกโรแมนติกเลยหรืออย่างไร ลืมไปว่าเธอคือนิทราไม่ใช่ลินดาคนตัวเล็กดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมหากแต่ฝ่ายชายไม่ยอม พสุยังคงจับมือเธอไว้แน่นในขณะที่รอลิฟต์“ปล่อยสิ” ทนไม่ไหวจึงเอ่ยเสียงเข้ม“ปล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๙

    เช้าวันจันทร์ไม่ได้สดใสสำหรับพสุเลยแม้แต่น้อย เขาไม่อยากนอนตื่นเช้ามานั่งหลังขดหลังแข็งอ่านเอกสารเป็นวันๆ หากให้ลงพื้นที่ดูไซต์งานก่อนสร้างยังจะมีความสุขมากกว่าแต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะเขาโยนงานให้พี่ชายไปแล้วหลายงานวันนี้จึงต้องจัดการงานที่เหลือของตนเองเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกางเกงสแล็กสีเข้ม เน็กไทและเสื้อสูทแขวนไว้อย่างเรียบร้อยที่ห้องแต่งตัว เป็นอย่างนี้มาสักพักแล้วที่นิทราจะเตรียมชุดให้เขาทั้งเช้าและเย็นหากช่วงแรกเขาก็ไม่ใส่บ้างแต่เพราะช่วงหลังตื่นสายแล้วต้องรีบเขาเลยจำใจใส่ชุดที่เธอเลือกไว้ให้จนชิน“อ้าว กำลังขึ้นมาตามพอดี สายแล้วนะ” ใบหน้าหวานโผล่มาส่งยิ้มให้จนเขาอดเอ็นดูไม่ได้ ไม่ค่อยได้เห็นมุมนี้ของเธอเท่าไหร่“ก็กำลังจะลงไปแล้ว ทำไมวันนี้ไม่ปลุกฉัน”นิทราเดินมาหาสามีก่อนช่วยใส่เน็กไทให้“ปลุกแล้วพสุก็เอาแต่ตอบในลำคอ จะขี้เซาอะไรขนาดนั้น” แอบยู่หน้าใส่จนเขาอดใจไม่ไหวเอามือมาบีบจมูกเธอโยกเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว“ขี้บ่นจริง”นิทราแก้มแดงด้วยความเขินกับการกระทำและแววตาที่เขาส่งมา เธอผละออกแล้วหยิบเสื้อสูทมาถือไว้ให้เขา“ลงไปกินข้าวกันเถอะ” มือหนายกมาโอบไหล่บางของภรรยาไว้แล้วหยิบของลงไปข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ดาวใกล้เดือน   ๑๐

    ร่างบางเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านด้วยชุดเดรสลายดอกไม้แขนตุ๊กตาสั้นเหนือเข่าเพียงเล็กน้อย ผมถูกรวบครึ่งหัวแล้วปล่อยยาวลงมาปลายดัดลอนเพียงเล็กน้อย ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มสีสันส่งให้เธอดูน่ามองมากยิ่งขึ้น กว่าจะลงมาได้ก็หมุนดูตัวเองในกระจกหลายรอบจนอดหัวเราะในความตื่นเต้นครั้งนี้ไม่ได้ เขาชวนเธอไปกินข้าวด้วยกันเป็นครั้งแรกมันเหมือนกับเดตแรกของเราสองคน“สวยจริงลูกแม่ ทานอาหารให้อร่อยนะจ๊ะคุณวรรณภาลูบศีรษะลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดีในทางที่ควร จะเป็น“ค่ะ หนูไปก่อนนะคะ” ไม่อยากไปสายเธอจึงเลือกที่จะไปรอเขาก่อนเวลานัดลุงแซมเปิดประตูให้ส่งยิ้มพร้อมชมคุณผู้หญิงคนเล็กของบ้าน“วันนี้คุณนิทสวยมากเลยครับ” “ขอบคุณค่ะ” ได้รับคำชมก็เก้อเขินเล็กน้อยขึ้นไปนั่งบนรถรอจนกระทั่งลุงแซมออกรถไปยังที่หมายคือโรงแรมระดับห้าดาวรถติดมากเป็นพิเศษกว่าจะถึงก็ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งทั้งที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก หล่อนยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้วจึงรีบลงจากรถด้วยความรีบ เธอนำบัตรวีไอพีที่เขาให้ไว้กับเธอยื่นให้พนักงานดูเขาจึงได้นำไปยังชั้นดาดฟ้าเมื่อถึงสถานที่ดินเนอร์เธอก็ตกตะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02

บทล่าสุด

  • ดาวใกล้เดือน   ตอนพิเศษ เพื่อนรัก..รักเพื่อน

    ตอนพิเศษ เพื่อนรัก..รักเพื่อนเสียงฟ้าร้องดังก่อนที่ฝนจะตกลงมาจนเด็กหนุ่มวัยรุ่นต้องเอากระเป๋าตัวเองมากอดไว้ ด้วยกลัวจะเปียกจึงวิ่งหลบเข้ามาภายในอาคารเรียน เพราะเป็นเวลากว่าหกโมงแล้วคนจึงบางตาจนแทบไม่มีนักเรียนอยู่ เขาหันมองซ้ายขวาก็ต้องชะงัก เมื่อพบเด็กหญิงคนหนึ่งที่ใส่ยูนิฟอร์มของมัธยมต้น เดินกอดลูกแมวมา“ไม่หนาวแล้วนะ” เสียงหวานทำให้เขาเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด จนกระทั่งน้องเดินมาหยุดข้างกายเขา ร่างสูงเกินวัยเด็กอายุสิบเจ็ดปีรีบหันหน้าหนีทันที“ไปอยู่ด้วยกันนะคะ” เป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานเหลือเกิน พสุธา วิจิตรประภา คิดพลางเหลือบมองน้องจนกระทั่งมีรถยนต์คันหนึ่งมาจอดเทียบ พร้อมกับคนรถที่ถือร่มมารับคุณหนูตัวน้อย เขาแอบมองอยู่เงียบๆ จนกระทั่งเธอขึ้นรถไป จดจำป้ายทะเบียนเอาไว้จนขึ้นใจ เขาจะต้องตามหาตัวเธอให้เจอ!เช้าวันต่อมาเด็กหนุ่มยกมือไหว้บิดามารดาก่อนออกจากบ้าน ไม่ลืมที่จะหอมแก้มคนเป็นแม่อย่างเอาใจ เดินขึ้นรถมาพร้อมกับน้องสาวที่มีใบหน้าน่ารักคล้ายแม่ และคนเป็นพ่อก็หวงลูกสาวมากเหลือเกินชนิดที่ถ้าผู้ชายคนไหน อยู่ใกล้เกินร้อยเมตรต้องมองจนล่า ถอยไป“เด็กขี้เหร่” พอขึ้นรถมาได้พี่ชายก็เรียกน้องส

  • ดาวใกล้เดือน   ตอนพิเศษ3

    ตอนพิเศษ3สัปดาห์นี้พสุเลิกงานเร็วทุกวันเพราะเขาเคลียร์งาน เพื่อมาดูแฟชั่นโชว์ที่ภรรยาร่วมดูแลโดยเฉพาะ วันนี้เป็นการซ้อมครั้งยิ่งใหญ่ โดยรวมนายแบบนางแบบจากทั่วฟ้าเมืองไทย พร้อมทั้งมีดาราแถวหน้ามาเดินแบบด้วย คนสวยหล่อจึงมีละลานตาเต็มไปหมด ร่างสูงอุ้มลูกชายตัวน้อยเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“สวยไปหมดเลยพ่อ” เด็กน้อยเอ่ยกับบิดาเมื่อหันไปเห็นสาวหน้าตาดี“นั้นสิลูก พ่อจองคนนั้นนะ” กระซิบกับลูกชายหลังจากเห็นนางแบบบนเวทีกำลังเดินด้วยใบหน้านิ่ง“พี่เขาดุจังเลย” ทำหน้าย่นก่อนจะกวาดสายตามองโดยรอบ แล้วใช้มือตีไหล่พ่อหลายทีแล้วชี้ให้ดูทางข้างเวที“พี่ปลายสวยจังเลยครับ” พสุหันไปตามมือลูกน้อยก็พบดาราขวัญใจคนไทย ที่กำลังนั่งพักที่ข้างเวที พสุธาพูดชื่อในละครของเธอที่เล่นจนดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ลูกชายเขาติดงอมแงมต้องดูละครก่อนถึงจะเข้านอนได้คงเพราะอยู่กับยายและย่าบ่อยจึงติดการดูละครมากกว่าดูการ์ตูนเสียอีก“แต่แม่นิทสวยที่สุดใช่ไหม” คนพ่อกระซิบถาม“ใช่แล้ว แม่นิทของดินสวยที่สุด” มือต่างขนาดแท็กกันอย่างเห็นด้วย ก่อนที่พสุจะสะดุดกับเหตุการณ์ข้างเวที ผู้หญิงที่นายแบบหุ่นดีคนนั้นยืนใกล้คือภรรยาของเขาเป็นแน่

  • ดาวใกล้เดือน   ตอนพิเศษ แอบรัก

    ตอนพิเศษ แอบรัก หญิงสาวโค้งศีรษะให้กับยามหน้าบริษัท ที่เปิดประตูให้พร้อมกับส่งยิ้มหวาน ที่ใครมองเป็นต้องหลง วารีกานต์ สนธยานนท์ เป็นผู้ช่วยเลขาคนใหม่ของรองประธานบริษัท เพราะคุณสุชาติด้วยวัยที่มากขึ้น แต่ภาระงานกลับยิ่งหนักคงทำคนเดียวไม่ไหว เขาจึงต้องประกาศรับสมัครผู้ช่วยที่มีความสามารถและประสบการณ์ “รอด้วยค่ะ” รีบวิ่งไปด้วยความเร็ว แม้จะมีอุปสรรคเป็นรองเท้าส้นสูงก็ตาม ประตูลิฟต์เปิดออกช้าๆ และคนที่ยืนอยู่ข้างในทำให้เธอชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบก้าวเข้ามาทันที “มาแต่เช้าเลยนะครับ” น้ำเสียงเป็นมิตรของเขาทำให้หัวใจเธอทำงานหนักอีกครั้ง ไม่คิดว่าหัวหน้าของตนเองจะมาเช้าขนาดนี้ “ค่ะ พอดีกานต์อยากรีบเคลียร์งานส่วนของตัวเองให้เสร็จ” ร่างสูงพยักหน้ายิ้มให้ “ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำคุณเสียใจแล้วละ เพราะวันนี้คุณต้องออกไปข้างนอกกับผมตอนบ่าย พอดีคุณสุชาติเขาลาคงต้องรบกวนด้วยนะครับคุณผู้ช่วยเลขา” เธอรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เลขาอย่างคุณสุชาติลา เพราะต้องไปทำธุระ งานหนักจึงตกมาอยู่ที่เธอ เพราะต้องควบคุมการเต้นของหัวใจไม่ให้มันดังจนเขาได้ยินน่ะสิ “ย

  • ดาวใกล้เดือน   ตอนพิเศษซ้อนแผน

    ตอนพิเศษซ้อนแผน สี่ปีต่อมา “ฉลองงงง” แก้วสีเข้มถูกยกขึ้นชนกันเสียงดัง ฉลองให้กับความสำเร็จของโครงการใหญ่ที่อุตส่าห์ตรากตรำทำมาเสียนาน ร่างสูงของรองประธานที่แม้จะเข้าสู่วัยเลขสามแล้ว ก็ยังคงความหล่อและน่าหลงใหลจนสาวในคลับหันมามองกันอย่างสนอกสนใจ “วันนี้ไม่เมาไม่กลับเว้ย!” หนุ่มไม่โสดทั้งสี่กล่าวพร้อมกัน พลางยกแก้วขึ้นดื่มอย่างมีความสุข หลังแต่งงานไปพวกเขาเหมือนตกอยู่ในอำนาจมืด จะออกไปไหนต้องคอยรายงานตลอด สังสรรค์ทีบอกละเอียดราวกับพรีเซ้นต์งานเมื่อสมัยมหา’ลัย วันนี้สบโอกาสดีเหล่าเมียทั้งหลายไม่อยู่ พวกเขาเลยต้องออกมา ลั้ลลาตามประสาหนุ่มๆ สักหน่อย “ไอ้พสุเมียมึงไม่ว่าหรือ” ปวิชถามขึ้นขณะชงเหล้าให้จิณณ์ เขาเป็นบุคคลที่เรียกเข้าขั้นกลัวเมียที่สุดไม่กล้าหืออือใดๆ ทั้งสิ้น คำสั่งเมียคือประกาศิตที่ต้องทำตาม พสุไหวไหล่ยกแก้วสีเข้มขึ้นดื่มพลางเอนหลังพิงโซฟาสีเข้มอย่างสบายอารมณ์ “เมียกูไม่เคยว่าอะไรอยู่แล้ว เขาอยู่ในโอวาสกูจะตาย” รองประธานหนุ่มหล่อยกยิ้มด้วยความภูมิใจ เพื่อนต่างส่งเสียแซ็วใหญ่กับคำพูดราวกับไม่กลัวเมีย พสุรู้สึกว่าตนเ

  • ดาวใกล้เดือน   ๑๘

    ข่าวการคืนดีกันของสองหนุ่มสาวสร้างความยินดีให้กับทุกคนจน ต้องจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ภายในบ้านวิจิตรประภา โดยจัดที่ริมสระน้ำสองสาวอย่างลินดาและนิทราก็ช่วยกันยกอาหารที่ทำเสร็จจากในครัวออกมาให้ประมุขของบ้านได้กินคุณวรรณนภาก็พูดคุยถึงเรื่องละครกับพี่สาวคนสนิทอย่างคุณยลลดาโดยมีคุณมินตรามาเป็นแขกคนใหม่เพราะสามีไม่อยู่บ้านเธอเหงาจึงขอมางานเลี้ยงด้วย“พอได้แล้วค่ะ มานั่งกินกับพี่ดีกว่า” เห็นภรรยาเดินเข้าออกในครัวก็เหนื่อยแทนภมรจึงดึงร่างบางให้มานั่งข้างเขา กว่าจะได้แต่งก็นานเหมือนกัน เขาเฝ้าขออยู่เป็นปีแต่เธอก็เอาแต่ผลัดไปเพราะยังไม่เชื่อใจเขาทั้งที่เคลียร์เรื่องของปุณิกาได้นานแล้ว“ได้ค่ะคุณสามี” ลินดาไม่ปฏิเสธแถมเรียกเขาเสียงหวานจนอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะต้องถอนหายใจเพราะเลี่ยนกับคำหวานของสองสามีภรรยา“เป็นอะไรตาเล็กดูทำหน้าเข้า”“เหม็นความรักน่ะพี่” เขาทำเป็นปัดไล่กลิ่นเหม็นจนลินดาต้องเอ่ยปราม“ก็คนเขามีความสุข” ร่างบางเอนตัวไปซบแขนแกร่งของสามีพสุเลยมองหานิทราที่เอาแต่ช่วยงานในครัวยังไม่ออกมาทั้งที่งานตัวเองก็หนักอยู่แล้ว หลังจากที่เรียนจบกลับมานิทราได้เข้าทำงานให้กับแบรนด์พรรณนาราออกแบบเสื้อผ้า

  • ดาวใกล้เดือน   ๑๗

    ผ่านไปหนึ่งเดือนก็ถึงกำหนดที่นิทราต้องบินไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ร่างบางเอาเสื้อผ้าไปเยอะพอสมควรเพราะไม่อยากเสียเงินซื้อใหม่ที่ต่างประเทศ สองแม่ลูกช่วยกันยกกระเป๋าออกมาจากบ้านโดยมีกระเป๋าทั้งหมดสองใบ แม้จะกังวลที่ลูกไปอยู่ไกลแต่เพราะอนาคตของลูกสาวคุณยลลดาจึงอยากให้นิทราได้ไป“หนูช่วยค่ะ” สองแม่ลูกหันไปมองก็พบลินดาที่เดินเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับภมรและพสุ หญิงสาววิ่งมาช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถพร้อมกับภมรที่ยกอีกใบใส่หลังรถเหลือเพียงพสุที่ยืนมองเธอนิ่ง แววตาเขาฉายความเศร้าอย่างชัดเจนจนนิทราต้องยิ้มให้“ใจหายเหมือนกันนะที่นิทต้องไปนานขนาดนี้” ลินดาเดินมายืนตรงหน้าเพื่อนข้างบ้านที่แม้จะไม่ได้สนิทมากแต่เธอก็ชอบนิสัยของนิทรา อีกทั้งอาหารที่บางครั้งคนตัวเล็กกว่าเธอชอบเอาไปให้กินก็แสนจะอร่อย“เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าแล้วโอบกอดนิทราเอาไว้ก่อนผละออก ในขณะที่ภมรก็เดินมายืนข้างแฟนสาวของตนเอง“เดินทางดีๆ นะ” ชายหนุ่มเปรียบเสมือนพี่ใหญ่ของน้องทั้งสามมองเธอมาด้วยสายตาที่อบอุ่นเหมือนเดิมนิทรายิ้มให้ภมร“ขอบคุณค่ะพี่ภมร” สองหนุ่มสาวล่ำลาเสร็จก็ผละออกมาให้พสุเดินมายืนตรงหน้านิทรา เขายิ้มให้เธอแม้

  • ดาวใกล้เดือน   ๑๖

    ตกเย็นร่างบางที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใส่ชุดเสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงขาสามส่วนเดินมานั่งที่ระเบียงมองบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันลาลับฟ้าถูกแต้มให้กลายเป็นสีเข้มก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูเธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ประตูเปิดออกเจอพนักงานหญิงถือกล่องขนาดกลางยื่นมาให้ตนเอง“คุณผู้ชายห้องข้างๆ ฝากมาให้ค่ะ บอกให้คุณใส่แล้วเขาจะมารับไปดินเนอร์ตอนเย็น” รอยยิ้มของพนักงานหญิงที่ดูเหมือนจะมีความสุขกับภารกิจนี้เธอจึงไม่กล้าปฏิเสธยื่นมือไปรับของมาแล้วเอ่ยขอบคุณปิดประตูทันทีกล่องถูกวางบนเตียงเมื่อเปิดออกก็พบชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนตุ๊กตายาวกรอมเท้าสีชมพู ลวดลายถูกปักเป็นรูปดอกไม้ มีเครื่องประดับเป็นสร้อยเล็กๆ รูปดาวพร้อมโน้ตที่แนบมาด้วย“เจอกันนะ”..อะไรของเขากันนะหล่อนคิดอย่างสงสัยหากก็ไปเปลี่ยนชุดแล้วออกมาแต่งหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมยาวถูกมัดเป็นหางม้าอย่างเรียบร้อยมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาทุ่มว่าแล้ว..เขาจะให้เธอไปหาหรืออย่างไรทำไมไม่มาสักทีก๊อก ก๊อก ก๊อก..นึกถึงก็มาพอดีนิทราเดินไปเปิดประตูก็พบพสุอยู่ในเสื้อผ้าฝ้ายพื้นเมืองอีสานสีเทาเข้มกับกางเกงขาก๊วยสีน้ำเงินอดหัวเราะไม่ได้เพราะไม่ค่อยเห็นเขาในลักษ

  • ดาวใกล้เดือน   ๑๕

    เช้าวันต่อมาชายหนุ่มตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันจัดกระเป๋าออกเดินทางไปยังสนามบินโดยให้เลขาจองตั๋วไว้ให้ ตอนนี้เขาได้สั่งให้นักสืบที่จ้างไปตามหานิทราจากข้อมูลที่ได้มาก็ทราบว่าเธอเช่ารีสอร์ตเล็กๆ แห่งหนึ่งอยู่กับเพื่อน แต่เขาก็ยังสงสัยว่าเหตุใดหญิงสาวจึงบอกมารดาว่าอยู่บ้านเพื่อนพสุถึงสนามบินจัดการธุระทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจึงเข้าไปนั่งรอภายในเกท และไม่นานเขาก็ได้ขึ้นเครื่องที่พร้อมจะทะยานไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพื่อปรับความเข้าใจกับภรรยาของตนเอง ครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้พลาดอีกแล้วเขาพักผ่อนสายตาจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ดีที่เคยติดต่องานกับเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนี้จึงแจ้งความประสงค์ใช้รถอีกฝ่ายก็หามาให้อย่างดีโดยมีคนขับรถมารอรับถึงหน้าสนามบิน“เธออยู่คนเดียวหรือ” หลังจากนั่งรถมาไม่นานเขาก็โทรศัพท์หานักสืบที่ตนได้ว่าจ้างทันทีด้วยความร้อนใจ“ครับ เพื่อนของเธอเก็บกระเป๋าออกไปกับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ หากก็ยินดีที่เธออยู่คนเดียวอาจจะทำให้การง้อของเขาครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี“เฝ้าเธอไว้ถ้าเธอไปไหนให้รายงานผมด้วย” เขากดวางสายทันทีพลาง

  • ดาวใกล้เดือน   ๑๔

    วันต่อมานิทราตื่นเช้ามาใส่บาตรกับมารดาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพบพสุกับคุณวรรณนภายืนอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว แม้ใจจะอยากเดินเข้าบ้านแต่ก็คิดว่าเธอไม่ควรจะหนีเขาจึงทำหน้านิ่งเดินไปกางโต๊ะและนำของใส่บาตรวางไว้ ร่างสูงเดินมายืนข้างนิทราโดยที่มารดาไม่ต้องบอกเหมือนครั้งก่อนแล้ว“ใส่บาตรด้วยนะคะพี่ลดา”“มาสิวรรณ” หญิงสูงวัยทั้งสองเดินไปข้างกันปล่อยให้สามีภรรยาใส่บาตรด้วยกัน“ตื่นเช้ามารับอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ คงต้องตื่นเช้าบ่อยๆ เสียแล้ว” ร่างสูงชวนคุยแต่นิทราก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบอะไร เขาถอดรองเท้าตามหญิงสาวเพราะเห็นพระเดินมาก่อนนั่งลงใส่บาตร เมื่อเสร็จแล้วพสุก็เริ่มคิดหนักเพราะนิทราไม่ได้กล่าวอะไรกับตนแถมทำท่าจะเดินเข้าบ้านอีกด้วย“หิว หิวข้าวจังเลยครับแม่ ผมขอเข้าไปกินข้าวด้วยได้ไหมครับ” เขาเดินไปหาคุณยลลดาแล้วเอ่ยถามจนนิทราหันมามองด้วยความไม่ชอบใจ“นายก็ไปกินบ้านตัวเองสิ” ยังไม่ทันที่มารดาจะตอบนิทราก็เอ่ยขึ้นมาขัด“แต่ว่าบ้านเรายังทำอาหารไม่เสร็จใช่ไหมครับแม่” พูดคนเดียวไม่พอยังหาตัวร่วมคุณวรรณนภาเพียงแค่ยิ้มเท่านั้นไม่ได้พูดอะไร“ผมขออนุญาตไปกินข้าวเช้าด้วยนะครับแม่ลดา” ใบหน้าคมยิ้ม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status