EPISODE 01
สามปีก่อนหน้า
"ยัยนินแกจะไปดูพี่ๆ แข่งฟุตซอลมั้ย"
"..." ฉันยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว แปลว่าแม่ต้องมารับภายในอีกครึ่งชั่วโมง
ยังพอมีเวลา...
"ไปเถอะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวยักษ์กริ้วนะ"
'ยักษ์' ที่นิเนยเพื่อนสนิทของฉันพูดถึงคือ'พี่ทศกัณฐ์' รุ่นพี่ที่ฉันกำลังคบกับเขาอยู่
เขาอายุห่างจากฉันสองปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มอสี่พี่ทศกัณฐ์อยู่มอหก เขามีดีกรีเป็นถึงเด็กเรียนดี กีฬาเด่น เก่งดนตรี หน้าตาดีมากอีกต่างหาก
ที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่นธีพี่ชายของฉัน
แต่การที่เราเป็นแฟนกันพ่อกับแม่ไม่ได้รับรู้เพราะไม่มีใครอนุญาตให้ฉันมีแฟนยังไงล่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่ทุกคนยังคงต้องทะนุถนอมเอาไว้
"มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง" ฉันตอบแล้วรีบเก็บกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินตรงไปยังโรงยิมพร้อมกับยัยนิเนยทันที
เข้าไปถึงตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เต็มโรงยิมแล้วทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน
แน่ล่ะเพราะพวกนักกีฬาทีมนี้มีแต่พี่ๆ ที่หน้าตาดีทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่ทศกัณฐ์ของฉัน รวมไปถึงพี่ธีด้วย เรียกได้ว่าตัวท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้
"พี่ทศกัณฐ์!!" เสียงยัยนิเนยตะโกนออกไปทำให้พวกนักกีฬาพากันหันมามองทั้งโรงเรียนเราและโรงเรียนคู่แข่ง ไหนจะพวกสาวๆ ที่รอชมรอเชียร์อีก
หาตีนมาให้ฉันมั้ยเนี่ยยัยนิเนย
"ยัยนิเนย!"ฉันรีบหันจับแขนเพื่อนเพื่อปรามทันที
แต่พอหันกลับไปมองตรงขอบสนามก็เห็นพี่ทศกัณฐ์กำลังมองมาที่ฉันแล้วยิ้มให้จนฉันต้องยิ้มตอบเขาอย่างอายๆ
"ฉันอิจฉาแกจัง แกเป็นคนเดียวที่ได้รอยยิ้มจากเจ้ายักษ์เลยนะ" นิเนยพร่ำเพ้อก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงตรงสแตนเชียร์
"..." ฉันฟังคำพูดของนิเนยแล้วต้องหน้าร้อนขึ้นมา
มันเป็นจริงอย่างที่นิเนยว่า ถึงแม้พี่ทศกัณฐ์จะเป็นเด็กกิจกรรมหลายๆ อย่างแต่เขากลับดูเงียบขรึม น่านิ่ง จนแทบไม่มีใครกล้าคุยด้วยนอกจากเพื่อนเขา ถึงจะดูเหมือนเป็นเด็กดีแต่บางทีเขาก็ดูเลวเพราะมีเรื่องกับคนอื่นด้วยความที่ไม่ยอมคนเท่าไหร่ เข้าถึงยากพอสมควร
สมฉายาของเขาที่ใครก็ชอบเรียก'ยักษ์'
ฉันคงโชคดีมากเพราะเป็นคนที่เขาเปิดใจให้ แต่นั่นก็เพราะเราทั้งคู่ต่างแอบชอบกันมานานแล้วยังไงล่ะ โดยมีพี่นธีเป็นพ่อสื่อ
"ญานินพี่ทศกัณฐ์มาหาแก! กริ้ดด แกดูสายตาพวกผู้หญิงพวกนั้น อิจฉาจนตาจะถลนออกมาแล้ว" นิเนยดี้ด้าใหญ่เมื่อคนร่างสูงเดินขึ้นมาบนสแตนเชียร์ก่อนที่จะลงแข่ง
"มาดูด้วยเหรอ" เขานั่งลงข้างๆ ฉันแล้วยิ้มมุมปากออกมาตอนถาม
"มาแป้บดียวค่ะ เดี๋ยวคุณแม่คงมารับแล้ว"
"..." เขาพยักหน้าแล้วยังคงมองฉันไม่เลิก "ขอมือหน่อย"
"คะ" ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปหาเขาช้าๆ
"เพิ่มพลัง" เขาคว้ามือของฉันไปจับไว้ก่อนจะพูดขึ้น
"โอ๊ย อะไรเนี่ย อิจฉาค่ะ!" นิเนยบ่นแล้วหน้าแดงขึ้นเหมือนเขินไปกับฉันด้วย
"สู้ๆ นะคะ นินอาจจะดูไม่จบเกมแต่จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ" ฉันพูดแล้วยิ้มเขินๆ
"ครับ" เขาตอบกลับมาแล้วบีบมือแน่นกว่าเดิม ฉันรู้สึกได้ดีว่าเราชอบกันขนาดไหน ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา หัวใจของฉันมันเต้นแรงเสมอ "ไปแล้วนะ คืนนี้ถึงบ้านแล้วจะโทรหา"
"ไอ้ทศ!" เสียงของพี่ธีดังขึ้นแล้วหรี่ตามองฉัน จึงรีบดึงมือที่จับกับพี่ทศกัณฐ์ออกมา "จะแข่งแล้วยังไปวอแวน้องกูอีกนะ"
"ก็แฟนกู!" เขาพูดอย่างไม่แคร์สายตาใครก่อนจะลุกขึ้นยืน
"แต่มันน้องกูครับ เดี๋ยวกูไม่ให้เข้าใกล้นะ"
"พูดมากเดี๋ยวกูพาหนี" สาบานได้เลยว่านี่คือเด็กมัธยมปลาย
"..." แล้วพี่นธีก็ชูนิ้วกลางมาให้เพื่อนของตัวเองก่อนจะเดินกลับไปในสนาม พี่ทศกัณฐ์ก็เดินลงไปด้วยอย่างเท่ห์ๆ เพราะเป็นคนสุดท้ายที่ไปถึง
ชักจะทำตัวเด่นเกินไปแล้วนะ!
EPISODE 02ครืด~ ครืด~'ยักษ์ของนิน'ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะรีบกดวางสายแล้วพิมพ์ข้อความตอบไปในไลน์แทนYanin : รอแป๊บนึงนะ นินกำลังจะขึ้นห้อง'แล้วฉันจึงรีบหยัดตัวลุกออกไปจากตรงนั้น ที่มีพ่อแม่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่"จะนอนแล้วเหรอลูก อ่านหนังสือบ้างนะ" แม่หันมาถามแล้วมองมือถือในมือฉัน"ค่ะแม่" ฉันยิ้มตอบคุณแม่ก่อนรีบเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตัวเองฝั่งขวามือ ถัดจากห้องของพี่นธี ซึ่งตอนนี้ยังไม่กลับมาบ้านของที่ทศกัณฐ์จะใกล้โรงเรียนมากกว่าเราทำให้เขาถึงก่อนพี่นธีราวๆ สิบนาที"มาแล้ว" ฉันกดโทรออกไปเบอร์เดิมแล้วยิ้มออกมาทันทีที่เขากดรับสาย(พี่กำลังจะอาบน้ำ อาบด้วยกันมั้ย)"พูดอะไรเนี่ย น่าเกลียดค่ะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่กำลังแดดิ้นและมุดหน้าลงกับหมอนเพราะความอาย(น่าเกลียดอะไร คิดอะไรอยู่เรา) เขาหัวเราะในลำคอกวนๆ แล้วพูดออกมา"คุยก่อนค่ะแล้วค่อยไปอาบ เดี๋ยวนินต้องไปอ่านหนังสือแล้ว" ฉันบอกแล้วผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้นตอนคุยสายกับเขาเราคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียนก็ได้เจอกันบ้าง แต่เพราะเขาเป็นพี่มอหกที่ใกล้จบแล้วเลยไม่ค่อยได้อยู่ใกล้กันเท่าไหร่นักมีเรื่อ
EPISODE 03ฉันตัดสินใจกดโทรออกไปเบอร์ที่คุ้นเคย ครั้งนี้หัวใจของฉันมันเต้นรัวราวกับโดนเขย่าแรงๆ และบีบขย้ำจนรู้สึกจุกไปหมด(ครับ)ไม่นานนักเขาก็กดรับสายด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเหมือนทุกๆ ครั้ง"..." ฉันยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองและไม่กล้าพูดอะไรออกไป มันทั้งเจ็บทั้งจุกตรงหน้าอกข้างซ้าย(ญานิน...เป็นอะไร ทำไมไม่พูด) เขาพูดขึ้นเหมือนกังวลใจไม่น้อย ถ้าเทียบกับฉันเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะเลย"พี่ทศกัณฐ์..." ฉันหยุดพูดแล้วสะอื้นออกมา(ว่าไง เป็นอะไรไป)"เราเลิกกันเถอะค่ะ"(...)ฉันพูดมันออกไปแล้ว เขาเงียบไปในทันทีจนฉันรู้สึกใจหาย แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเอง"นินขอโทษ"(มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ อยู่ๆ เธอถึงพูดมันออกมา) เสียงของเขาเปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกกลัวเพราะตั้งแต่คบกันมาเขาก็ดีกับฉันมาโดยตลอด"ขอโทษค่ะ แต่นินคบกับพี่ทศกัณฐ์ไม่ได้แล้ว"(เธอทำฉันผิดหวังนะ) เขาพูดเสียงเรียบจนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้"พี่ทศกัณฐ์"(มาบอกเลิกง่ายๆ โดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ คิดว่าฉันมันไม่มีหัวใจเหรอ)"..." ฉันได้แต่เงียบและขอโทษเขาอยู่ในใจ ร้องไห้ออกมาอยู่อย่างนั้น(เลิกก็เลิก ถ้าเธอต้องการ ฉันจะไม่ถามหาเหตุ
EPISODE 04ปัจจุบัน"เร็วๆ ครับน้อง วิ่งครับ!"เสียงของรุ่นพี่วินัยหรือพี่ระเบียบชั้นปีสอง เรียกรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งดังไปทั่วทุกทิศทาง หลังจากที่ทำกิจกรรมในห้องเชียร์ ซ้อมร้องเพลงคณะและเพลงมหาวิทยาลัยเหมือนที่ทำทุกๆ เย็นวันพุธ ก็ถูกรุ่นพี่เรียกมารวมตัวที่ลานกิจกรรมอีกรอบ"วิ่งเร็วยัยนิน ฉันเห็นพวกพี่ว้ากกลุ่มนึงแอบซุ่มอยู่ตรงนั้น พวกนี้มันหลอกเรามาโดนว้ากแน่ๆ"เป็นยัยนิเนยที่พูดและรีบดึงแขนฉันไปด้วยเราสองคนสอบติดคณะและสาขาเดียวกัน ของมหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในสิบลำดับของประเทศในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่นธีเรียนอยู่แต่พี่นธีเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาไฟฟ้าเหมือนกับพี่ทศกัณฐ์...ฉันใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาเรียนที่นี่ ทั้งอ่านหนังสือสอบ ทั้งอ้อนแม่ เพราะมันไกลบ้านพอสมควรแม่จึงตัดสินใจยากมากกว่าจะยอมแต่โชคดีที่ฉันใช้ข้ออ้างที่ว่าพี่ชายเรียนอยู่ที่เดียวกันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้"หนึ่งสามเก้าคุณไม่รีบเหรอ!" ขณะที่ฉันกำลังถูกยัยนิเนยกึ่งดึงกึ่งลากไปเข้าแถวก็มีเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังฉันหันไปมองปรากฎเป็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นขอ
EPISODE 05แล้วเราก็ต้องกลับมาเข้าแถวเหมือนเดิมเพราะไม่มีใครหาป้ายชื่อของฉันได้"สรุปว่ายังไงครับ! หาไม่เจอใช่มั้ย! งั้นเพื่อนคนนี้ก็ไม่ต้องเอารุ่น!""ไม่ต้องเอามันแล้ว!! แค่ป้ายชื่อยังรักษาไว้ไม่ได้เลย" พี่ว้ากคนอื่นๆ ก็เริ่มต่อว่าเสริมขึ้นมา"ยังไงคุณ จะยอมออกจากรุ่นมั้ย" พี่ผู้ชายคนเดิมที่เข้ามาถามหาป้ายชื่อฉันก่อนหน้าพูดขึ้น"ไม่ค่ะ""แล้วคุณจะทำยังครับ ตอนนี้เพื่อนหิวข้าวกันหมดแล้วเพราะคุณคนเดียวที่มีปัญหา" พี่ปีสามคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่มันแฝงไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ หน่อย"หนูจะหาเองค่ะ ขอเวลา""โอ๊ย!! ขอเวลาเหรอ เมื่อกี้ก็ให้ไปแล้วครึ่งชั่วโมง คนหาหลายร้อยไม่เจอคุณคนเดียวจะเจอเหรอ!!"พี่ว้ากผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังจนแสบแก้วหูไปหมด อยากจะหยิบน้ำผึ้งมะนาวมาให้พี่แกเหลือเกิน"หนูจะหาให้เจอค่ะ""พวกคุณว่ายังไง! จะให้เพื่อนหาหรือจะไม่ให้อยู่ในรุ่นคุณแล้ว!!" แล้วพี่เฮดว้ากก็หันไปตะโกนถามพวกเพื่อนๆ ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ "จะเอาอยู่มั้ยเพื่อนคนนี้ คนที่สร้างปัญหาให้พวกคุณเนี่ย ต้องมาอดข้าวอดน้ำอีก""เอาค่ะ/เอาครับ"เพื่อนพากันตอบอย่างพร้อมเพรียง ถ้าไม่ใช่การรับน้องที่ทดสอบความสามัคคีกัน
ฉันก็กดวางสายจากพี่ชายไป แล้วเดินออกมานอกคณะกับนิเนยและใบเฟิร์นซึ่งตอนนี้กลายเป็นแก๊งเดียวกันไปแล้ว"วันนี้พี่แกจะมารับเหรอ ขอฉันเห็นหน้าทีเถอะ" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างคาดหวังเพราะยังไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายฉันซักครั้งถึงจะเรียนมหา'ลัยเดียวกัน พี่นธีจะมารับฉันบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยลงจากรถมาให้ใครเห็นเลย ของดีประจำจังหวัดก็แบบนี้แหละยิ่งพี่ทศกัณฐ์ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่เกือบห้าเดือนแล้วฉันยังไม่เคยเห็นเขาเลย อาจจะเพราะเราต่างหนีหน้ากันอยู่ก็ได้"แกไม่เจอพี่เขาเลยเหรอ""..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบให้นิเนยที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี"แกเอาแต่หนีไง" นิเนยพูดแล้วหันมามองฉัน"เขาคงเกลียดฉันมาก จะเอาหน้าไปสู้เขาได้ไง""เรื่องมันก็นานละนะ ตอนนี้พวกเราต่างก็โตขึ้นกันแล้ว เขาเป็นเพื่อนพี่ชายแกคงไม่เกลียดกันขนาดนั้นหรอก ตอนนั้นเราก็ยังเด็กมั้ย" นิเนยเอาเรื่องนี้กลับมาพูดอีกแล้วทั้งที่ฉันไม่อยากคิดถึงมันเลยเพราะมันทำให้ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงเขา ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้เลยทั้งที่เป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆแต่ตอนนี้เขาคงจะไม่มีฉันอยู่ในเสี้ยวความคิดเลยด้วยซ้ำ..."พี่นธีมาแล้วฉั
EPISODE 06"หนูชื่อญานินค่ะ""อื้อหือ ได้ยินคำว่าหนูแล้วกูใจสั่นเลย" พี่คิวพูดแล้วยกมือขึ้นมาทาบอกตัวเองทำท่าเหมือนจะทนไม่ไหว "มีน้องน่ารักขนาดนี้กูถึงว่าไม่ยอมพามารู้จักซักที""กูกลัวน้องตัวเองไม่ปลอดภัย" พี่นธีพูดแล้วมองเพื่อนสองคนอย่างเอือมๆ จากนั้นก็พากันแซวฉันต่อซึ่งฉันก็ได้แต่ยิ้มตามแห้งๆ เพราะยังคงอึดอัดอยู่"..." ขณะที่พี่ๆ คนอื่นคุยเล่นกันคนตรงหน้าก็เอาแต่เงียบ เขาจับหลอดแล้วเล่นกับน้ำแข็งวนไปมาอยู่อย่างนั้นอีกมือก็เล่นมือถือไปเหมือนไม่สนใจคนรอบข้างเท่าไหร่นักนี่คงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เราเลิกกันไปแล้วได้มาเห็นเขาใกล้ๆ แบบนี้พี่ทศกัณฐ์ดูดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก จากที่ตอนนั้นฉันก็แทบคลั่งแล้วตอนนี้ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ แต่...ฉันคงเป็นคนที่เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วล่ะ"เป็นอะไรของมึง นั่งเงียบอยู่ได้""..." พี่ทศกัณฐ์เงยหน้าขึ้นมามองพี่ฮ่องเต้เหมือนรำคาญก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมือถือต่ออึดอัดจังครืด~Ninoey : ฉันถึงหอแล้ว แกเปิดดูกระดาษแผ่นนั้นยังข้อความของยัยนิเนยทักมาพอดีฉันจึงแกล้งสนใจเรื่องอื่นไปเพราะไม่อยากอึดอัดไปให้มากกว่านี้Yanin : ยังเลย กำลังกินข้าวหลังมอกับพี่Ninoey : เป
ฉันลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ผู้หญิงมากมายชอบเขาขนาดนั้นแต่ฉันกลับเป็นตัวร้ายที่เคยทำไม่ดีกับเขา"พี่ทศกัณฐ์" ฉันเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดประตู"..." เขาหันมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชาและเงียบเหมือนรอให้ฉันพูดต่อ"มีเรื่องจะรบกวนค่ะ""อะไร" เขาถามแล้วเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน"นินขอเบอร์กับไลน์พี่ได้มั้ย" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกำมือไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาเพราะความตื่นเต้น"...""นินโดนทำโทษรับน้อง" ฉันพูดแล้วทำหน้าสลดขณะที่อีกคนก็มองมาอย่างไม่พอใจนัก"..." เขาไม่ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียวก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งขับออกไปและปล่อยให้ฉันยืนมองเหมือนหมาข้างถนนไปเลยใจร้ายชะมัด!"ไง ไม่ได้เหรอ" พี่นธียิ้มเหมือนดูหนังตลก แต่ฉันไม่ตลกนะฉันเครียดอยู่"ถ้าได้จะทำหน้าแบบนี้มั้ยล่ะ" ฉันตอบออกไปห้วนๆ"พรุ่งนี้ไปถามมันดูอีกรอบ วันนี้ไปรับน้องมามันน่าจะเหนื่อย""ต้องไปอีกเหรอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเกลียดเราขนาดไหน" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆ"ร้องไห้อีกละ ไม่อยากเห็นแล้วนะยัยนิน""ก็นินเจ็บ""..." พี่นธีถอนหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆ ก่อนจะขับรถไปส่งฉันที่คอนโด ซึ่งอยู่ห
"โปรโมทตัวเอง" ยัยนิเนยพูดขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายเพื่อนในเฟสของฉันที่เข้ามาดูตอนนี้เกือบร้อยคนแล้วทำไมมีคนเข้ามาดูเยอะจัง"สวัสดีค่ะ นิเนยนะคะ วันนี้นิเนยจะพาสาวสวยน่ารักน่าหยิกอย่างญานินมาเปิดตัว ด้วยเพลงเพราะๆ ก่อนนอนรับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักเธอแน่ๆ"เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แต่ตอนอยู่โรงเรียนฉันก็ขึ้นแสดงโฟล์กซองเหมือนกันมันเลยไม่ได้ดูเขินเท่าไหร่"ใครอยากให้ญานินเล่นเพลงไหนรีเควซท์มาได้เลยนะคะ"แล้วเพื่อนในเฟสก็พากันขอเพลงเข้ามาจริงๆ ตอนนี้คอมเม้นขึ้นมาเป็นร้อยแล้วคนดูเพิ่มมาเกือบห้าร้อยคนเลย"อ๊ะ งั้นเอาเพลงนี้นะคะ กำลังเข้ากับอารมณ์คนร้องพอดี" ว่าแล้วยัยนิเนยก็ใช้มือถือตัวเองเปิดคอร์ดและเนื้อเพลงให้ฉันดูเพลงนี้ฉันฟังบ่อยนะ และเศร้าทุกครั้งด้วย"ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมค่ะ" พอนิเนยพูดจบฉันก็เริ่มเล่นเพลงนั้นทันทีอยากจะรู้วิธีลืมใครสักคนต้องทำอย่างไร เก็บข้าวของของเธอที่มีอยู่ และโยนทิ้งมันไปไม่เหลืออะไรเลย และลบทุกรูปที่มีเธอ ภาพความทรงจำในวันนั้น ลบมันไปทุกข้อความตั้งแต่วันที่เราได้พบกันยัยนิเนยช่วยร้องเสริมท่อนนี้ด้วย ขณะที่ฉันก็เล่นกีตาร์และร้องไปอย่างนั้น อยู่ๆ ค