"โปรโมทตัวเอง" ยัยนิเนยพูดขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายเพื่อนในเฟสของฉันที่เข้ามาดูตอนนี้เกือบร้อยคนแล้ว
ทำไมมีคนเข้ามาดูเยอะจัง
"สวัสดีค่ะ นิเนยนะคะ วันนี้นิเนยจะพาสาวสวยน่ารักน่าหยิกอย่างญานินมาเปิดตัว ด้วยเพลงเพราะๆ ก่อนนอนรับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักเธอแน่ๆ"
เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แต่ตอนอยู่โรงเรียนฉันก็ขึ้นแสดงโฟล์กซองเหมือนกันมันเลยไม่ได้ดูเขินเท่าไหร่
"ใครอยากให้ญานินเล่นเพลงไหนรีเควซท์มาได้เลยนะคะ"
แล้วเพื่อนในเฟสก็พากันขอเพลงเข้ามาจริงๆ ตอนนี้คอมเม้นขึ้นมาเป็นร้อยแล้วคนดูเพิ่มมาเกือบห้าร้อยคนเลย
"อ๊ะ งั้นเอาเพลงนี้นะคะ กำลังเข้ากับอารมณ์คนร้องพอดี" ว่าแล้วยัยนิเนยก็ใช้มือถือตัวเองเปิดคอร์ดและเนื้อเพลงให้ฉันดู
เพลงนี้ฉันฟังบ่อยนะ และเศร้าทุกครั้งด้วย
"ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมค่ะ" พอนิเนยพูดจบฉันก็เริ่มเล่นเพลงนั้นทันที
อยากจะรู้วิธีลืมใครสักคนต้องทำอย่างไร
เก็บข้าวของของเธอที่มีอยู่ และโยนทิ้งมันไปไม่เหลืออะไรเลย
และลบทุกรูปที่มีเธอ
ภาพความทรงจำในวันนั้น
ลบมันไปทุกข้อความ
ตั้งแต่วันที่เราได้พบกัน
ยัยนิเนยช่วยร้องเสริมท่อนนี้ด้วย ขณะที่ฉันก็เล่นกีตาร์และร้องไปอย่างนั้น อยู่ๆ ความรู้สึกที่มีก็ทำให้มันเริ่มจุกอก
ลบทุกอย่างที่นึกออก ที่มันเคยเกิดขึ้นระหว่างเรา
แม้พยายามเท่าไหร่แต่สุดท้าย...
มันไม่มีทางลืมใครสักคน ถ้าหากว่าเรานั้นยังรัก
มันไม่มีทางลบใครสักคน ถ้ายังเก็บไว้ในหัวใจ
ให้ลบดวงดาวทุกดวงหมดฟ้า ลบเรื่องราวที่เคยผ่านมา
ลบอะไรก็ตามแต่ถ้าสุดท้ายยังรักอยู่ การลบไม่ได้ช่วยให้ลืม
ไม่เคยลืมเธอได้ลงซักที
ตอนนี้คนดูพุ่งขึ้นพันกว่า คงเพราะมีคนกดแชร์ล่ะมั้ง และยังมีคอมเม้นจากใครหลายๆ คนที่ไม่รู้จักด้วย
'น่ารักมาก น้องชื่อญานินใช่มั้ย'
'โอ๊ย ร้องเพราะมากค่ะน้อง พี่จะร้องไห้แล้ว'
'ยังมีอารมณ์มาร้องเพลงใช่มั้ย ฉันเครียดนะ' นี่คือคอมเมนท์ของใบเฟิร์นที่แทรกขึ้นมาท่ามกลางคนไม่รู้จัก
"ไม่ต้องเครียดค่ะใบเฟิร์น คนที่ควรเครียดคือยัยนิน" นิเนยตอบใบเฟิร์นในไลฟ์สดหลังจากที่เราร้องเพลงนั้นจบแล้ว "มีคนขอเพลงอีกแล้วค่ะ ญานินจะร้องต่อมั้ยคะ"
นิเนยหันมาถามฉัน จึงพยักหน้าให้มัน
"ขออีกสองเพลงนะคะ นินเริ่มง่วงแล้ว" นี่ฉันเหมือนคนดังข้ามคืนเลยนะ ตอนนี้คนเข้ามาดูสองพันกว่าคนแล้วด้วย
"เอาเพลงเศร้านะคะ พอดีเพื่อนเนยอกหักหลายปีแล้วไม่หายสักที ใครอยากดามใจสมัครมาได้เลยค่ะ"
"ยัยเนย" ฉันมองค้อนมันทันทีก่อนจะเล่นเพลงต่อไปที่มันยื่นมาให้
'ขอสมัครเลยนะครับ ถึงพี่จะไม่ใช่หมอแต่รักษาแผลใจให้น้องได้แน่นอน'
'มาซบอกพี่แล้วจะลืมคนที่ทำร้ายน้องไปเลย'
"ฮ่าๆ มีคนสนใจญานินเยอะเลยแบบนี้ต้องต่อแถวแล้วค่ะ เพื่อนเนยโสดมานานแล้วต้องเลือกหน่อย" ยัยนิเนยยังคงโปรโมทฉันไม่หยุดจนต้องส่ายหน้าให้มันอย่างเอือมระอา "มาฟังเพลงต่อไปกันดีกว่าค่ะ เพลงนี้เหมาะกับน้องนินมากกก ใครที่ยังมีคนรักอยู่ รักษาเขาไว้ดีๆ นะคะ ถ้ารักก็อย่าปล่อยเขาไปค่ะ เพราะเดี๋ยวต้องมาร้องไห้แบบนี้"
ฉันฟังยัยนิเนยอ่านคอมเมนท์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งฉันเริ่มร้องเพลงนิเนยก็หยุดแล้วเคาะจังหวะตาม
ฉันผิดไปแล้ว ตอนนั้นที่พูดอะไรไม่ทันคิด จะขอแก้ตัวก็คงไม่มีสิทธิ์ มันก็ถูกแล้วใช่ไหม ที่ต้องคร่ำครวญแบบนี้
เธอรู้ไหม ที่ฉันยังไม่รักใคร ที่จริงแล้ว ฉันนั้นพร้อมเริ่มต้นใหม่ แต่ฉันอยากเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม
เพลงนี้มันเกินไปแล้วนะ เล่นเอาฉันขอบตาร้อนขึ้นมาเลยใครจะเห็นก็ช่างเถอะเพราะเขาคนนั้นคงไม่มาเห็นฉันในสภาพนี้ เราลบเฟสบุ๊คกันไปตั้งนานแล้วเพราะฉันไม่สามารถทนเห็นเขาได้ ฉันกลัว...
กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะมีใครมาแทนที่ฉัน...
ที่บอกเลิกวันนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจ ที่ตอนนั้น ฉันพลั้งพูดไป เพราะใจร้อน ที่บอกเลิกวันนั้น รู้ไหมฉันเสียใจ ขอได้ไหมขอเริ่มต้นใหม่ เพราะฉันไม่พร้อมรักใคร นอกจากเธอ
หลังจากออกไลฟ์สดนั่นแล้วก็มีคนมาเพิ่มเพื่อนในเฟสมากมายเลย ไหนจะข้อความที่พวกเขาทักมาหาอีกแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบใครแม้แต่คนเดียวN : ทำไมต้องร้องเพลงเศร้าขนาดนั้นฉันเปิดอ่านข้อความนั้นแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง เก็บไดร์เป่าผมแล้วหยิบมันขึ้นมาตอบYanin : ก็คนมันเศร้าN : เรื่องไหนอีกYanin : เรื่องเดิม ไม่น่าถามที่จริงฉันเคยระบายเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นใครแต่เขาก็ยอมรับฟังปัญหาใจของฉันได้เป็นอย่างดีN : ทำไมYanin : วันนี้เจอเขาด้วย เขามองฉันเหมือนเกลียดมากๆ ทั้งที่ฉันคิดว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำลงไปบ้าง แต่ฉันก็ผิดจริงๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้N : รู้ได้ไงว่าเขาเกลียดYanin: ฉันไปขอเบอร์กับไลน์ของเขาแต่เขาไม่ให้ แล้วยังหนีไปอีก สายตาที่มองมามันทำให้ฉันเจ็บปวดมากเลยนายรู้มั้ยN : เธอก็มีแล้วไม่ใช่เหรอYanin : รู้ได้ยังไงว่ามีN : เธอคงไม่ลบทิ้งหรอก หรือลบไปหมดแล้ว?Yanin : ไม่นะ ฉันยังมีทุกอย่าง แต่ฉันอยากขอเขาก่อนเพราะไม่อยากให้เขาโกรธN : ขอไปทำไมYanin : ฉันทำป้ายชื่อหาย พวกพี่ว้ากบอกให้ฉันหาให้เจอ ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษทั้งรุ่น พี่ว้ากให้กระดาษแผ่นหนึ่
หลายชั่วโมงต่อมา"คนอะไรวะกินสลัดแต่มีแค่แอปเปิลกับฝรั่ง" ใบเฟิร์นมองจานสลัดของฉันที่สั่งกับแม่ค้าว่าขอแค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะอย่างอื่นฉันไม่ชอบตอนนี้เรามากินข้าวที่ศูนย์ขายอาหารในมหาวิทยาลัยที่จะเปิดขายของกินหลายๆ อย่างในช่วงเย็นตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม"คนมันชอบแค่นี้""เปิดใจให้กว้างดิ ลองกินอย่างอื่นมั่ง" นิเนยบอกฉันแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้"น้องญานิน" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อของฉันขึ้นมาแต่อีกสองคนหันไปมองด้วยและมองแบบตาค้างมาก"พี่ฮ่องเต้ มาทานที่นี่ด้วยเหรอคะ" ฉันถามแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท"ไอ้ธีก็มานะ""นินเบื่อหน้าพี่ธีแล้วค่ะ" ฉันพูดแล้วแกล้งทำหน้าสยองออกมาจนพี่ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเบาๆวันนี้พวกพี่ๆ ใส่ชุดนักศึกษากันหมดและเสื้อนักศึกษาที่คณะนี้ใส่จะเป็นสีขาวสว่างไม่เหมือนกับคณะอื่นที่เป็นสีขาวนวล เลยทำให้เด่นๆ"พวกมึงนั่งนี่กันมั้ย ขอนั่งกับน้องๆ""ยินดีค่ะ พี่ๆ นั่งได้เลยถ้าไม่พอนั่งตักเฟิร์นก็ได้ค่ะ ฮ่าๆ" ยัยนิเนยกับใบเฟิร์นรีบขยับให้พวกพี่ฮ่องเต้นั่งทันทีแบบไม่ต้องคิดให้มากความแน่นอนว่าตอนนี้มีพี่ทศกัณฐ์ด้วย เขายืนมองเงียบๆ ก่อนจะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ฉันเพร
EPISODE 01สามปีก่อนหน้า"ยัยนินแกจะไปดูพี่ๆ แข่งฟุตซอลมั้ย""..." ฉันยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว แปลว่าแม่ต้องมารับภายในอีกครึ่งชั่วโมงยังพอมีเวลา..."ไปเถอะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวยักษ์กริ้วนะ"'ยักษ์' ที่นิเนยเพื่อนสนิทของฉันพูดถึงคือ'พี่ทศกัณฐ์' รุ่นพี่ที่ฉันกำลังคบกับเขาอยู่เขาอายุห่างจากฉันสองปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มอสี่พี่ทศกัณฐ์อยู่มอหก เขามีดีกรีเป็นถึงเด็กเรียนดี กีฬาเด่น เก่งดนตรี หน้าตาดีมากอีกต่างหากที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่นธีพี่ชายของฉันแต่การที่เราเป็นแฟนกันพ่อกับแม่ไม่ได้รับรู้เพราะไม่มีใครอนุญาตให้ฉันมีแฟนยังไงล่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่ทุกคนยังคงต้องทะนุถนอมเอาไว้"มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง" ฉันตอบแล้วรีบเก็บกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินตรงไปยังโรงยิมพร้อมกับยัยนิเนยทันทีเข้าไปถึงตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เต็มโรงยิมแล้วทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแน่ล่ะเพราะพวกนักกีฬาทีมนี้มีแต่พี่ๆ ที่หน้าตาดีทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่ทศกัณฐ์ของฉัน รวมไปถึงพี่ธีด้วย เรียกได้ว่าตัวท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้"พี่ทศกัณฐ์!!" เสียงยัยนิเนยตะโกนออกไปทำให้พวกนักกีฬาพากันหั
EPISODE 02ครืด~ ครืด~'ยักษ์ของนิน'ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะรีบกดวางสายแล้วพิมพ์ข้อความตอบไปในไลน์แทนYanin : รอแป๊บนึงนะ นินกำลังจะขึ้นห้อง'แล้วฉันจึงรีบหยัดตัวลุกออกไปจากตรงนั้น ที่มีพ่อแม่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่"จะนอนแล้วเหรอลูก อ่านหนังสือบ้างนะ" แม่หันมาถามแล้วมองมือถือในมือฉัน"ค่ะแม่" ฉันยิ้มตอบคุณแม่ก่อนรีบเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตัวเองฝั่งขวามือ ถัดจากห้องของพี่นธี ซึ่งตอนนี้ยังไม่กลับมาบ้านของที่ทศกัณฐ์จะใกล้โรงเรียนมากกว่าเราทำให้เขาถึงก่อนพี่นธีราวๆ สิบนาที"มาแล้ว" ฉันกดโทรออกไปเบอร์เดิมแล้วยิ้มออกมาทันทีที่เขากดรับสาย(พี่กำลังจะอาบน้ำ อาบด้วยกันมั้ย)"พูดอะไรเนี่ย น่าเกลียดค่ะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่กำลังแดดิ้นและมุดหน้าลงกับหมอนเพราะความอาย(น่าเกลียดอะไร คิดอะไรอยู่เรา) เขาหัวเราะในลำคอกวนๆ แล้วพูดออกมา"คุยก่อนค่ะแล้วค่อยไปอาบ เดี๋ยวนินต้องไปอ่านหนังสือแล้ว" ฉันบอกแล้วผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้นตอนคุยสายกับเขาเราคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียนก็ได้เจอกันบ้าง แต่เพราะเขาเป็นพี่มอหกที่ใกล้จบแล้วเลยไม่ค่อยได้อยู่ใกล้กันเท่าไหร่นักมีเรื่อ
EPISODE 03ฉันตัดสินใจกดโทรออกไปเบอร์ที่คุ้นเคย ครั้งนี้หัวใจของฉันมันเต้นรัวราวกับโดนเขย่าแรงๆ และบีบขย้ำจนรู้สึกจุกไปหมด(ครับ)ไม่นานนักเขาก็กดรับสายด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเหมือนทุกๆ ครั้ง"..." ฉันยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองและไม่กล้าพูดอะไรออกไป มันทั้งเจ็บทั้งจุกตรงหน้าอกข้างซ้าย(ญานิน...เป็นอะไร ทำไมไม่พูด) เขาพูดขึ้นเหมือนกังวลใจไม่น้อย ถ้าเทียบกับฉันเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะเลย"พี่ทศกัณฐ์..." ฉันหยุดพูดแล้วสะอื้นออกมา(ว่าไง เป็นอะไรไป)"เราเลิกกันเถอะค่ะ"(...)ฉันพูดมันออกไปแล้ว เขาเงียบไปในทันทีจนฉันรู้สึกใจหาย แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเอง"นินขอโทษ"(มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ อยู่ๆ เธอถึงพูดมันออกมา) เสียงของเขาเปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกกลัวเพราะตั้งแต่คบกันมาเขาก็ดีกับฉันมาโดยตลอด"ขอโทษค่ะ แต่นินคบกับพี่ทศกัณฐ์ไม่ได้แล้ว"(เธอทำฉันผิดหวังนะ) เขาพูดเสียงเรียบจนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้"พี่ทศกัณฐ์"(มาบอกเลิกง่ายๆ โดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ คิดว่าฉันมันไม่มีหัวใจเหรอ)"..." ฉันได้แต่เงียบและขอโทษเขาอยู่ในใจ ร้องไห้ออกมาอยู่อย่างนั้น(เลิกก็เลิก ถ้าเธอต้องการ ฉันจะไม่ถามหาเหตุ
EPISODE 04ปัจจุบัน"เร็วๆ ครับน้อง วิ่งครับ!"เสียงของรุ่นพี่วินัยหรือพี่ระเบียบชั้นปีสอง เรียกรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งดังไปทั่วทุกทิศทาง หลังจากที่ทำกิจกรรมในห้องเชียร์ ซ้อมร้องเพลงคณะและเพลงมหาวิทยาลัยเหมือนที่ทำทุกๆ เย็นวันพุธ ก็ถูกรุ่นพี่เรียกมารวมตัวที่ลานกิจกรรมอีกรอบ"วิ่งเร็วยัยนิน ฉันเห็นพวกพี่ว้ากกลุ่มนึงแอบซุ่มอยู่ตรงนั้น พวกนี้มันหลอกเรามาโดนว้ากแน่ๆ"เป็นยัยนิเนยที่พูดและรีบดึงแขนฉันไปด้วยเราสองคนสอบติดคณะและสาขาเดียวกัน ของมหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในสิบลำดับของประเทศในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่นธีเรียนอยู่แต่พี่นธีเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาไฟฟ้าเหมือนกับพี่ทศกัณฐ์...ฉันใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาเรียนที่นี่ ทั้งอ่านหนังสือสอบ ทั้งอ้อนแม่ เพราะมันไกลบ้านพอสมควรแม่จึงตัดสินใจยากมากกว่าจะยอมแต่โชคดีที่ฉันใช้ข้ออ้างที่ว่าพี่ชายเรียนอยู่ที่เดียวกันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้"หนึ่งสามเก้าคุณไม่รีบเหรอ!" ขณะที่ฉันกำลังถูกยัยนิเนยกึ่งดึงกึ่งลากไปเข้าแถวก็มีเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังฉันหันไปมองปรากฎเป็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นขอ
EPISODE 05แล้วเราก็ต้องกลับมาเข้าแถวเหมือนเดิมเพราะไม่มีใครหาป้ายชื่อของฉันได้"สรุปว่ายังไงครับ! หาไม่เจอใช่มั้ย! งั้นเพื่อนคนนี้ก็ไม่ต้องเอารุ่น!""ไม่ต้องเอามันแล้ว!! แค่ป้ายชื่อยังรักษาไว้ไม่ได้เลย" พี่ว้ากคนอื่นๆ ก็เริ่มต่อว่าเสริมขึ้นมา"ยังไงคุณ จะยอมออกจากรุ่นมั้ย" พี่ผู้ชายคนเดิมที่เข้ามาถามหาป้ายชื่อฉันก่อนหน้าพูดขึ้น"ไม่ค่ะ""แล้วคุณจะทำยังครับ ตอนนี้เพื่อนหิวข้าวกันหมดแล้วเพราะคุณคนเดียวที่มีปัญหา" พี่ปีสามคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่มันแฝงไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ หน่อย"หนูจะหาเองค่ะ ขอเวลา""โอ๊ย!! ขอเวลาเหรอ เมื่อกี้ก็ให้ไปแล้วครึ่งชั่วโมง คนหาหลายร้อยไม่เจอคุณคนเดียวจะเจอเหรอ!!"พี่ว้ากผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังจนแสบแก้วหูไปหมด อยากจะหยิบน้ำผึ้งมะนาวมาให้พี่แกเหลือเกิน"หนูจะหาให้เจอค่ะ""พวกคุณว่ายังไง! จะให้เพื่อนหาหรือจะไม่ให้อยู่ในรุ่นคุณแล้ว!!" แล้วพี่เฮดว้ากก็หันไปตะโกนถามพวกเพื่อนๆ ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ "จะเอาอยู่มั้ยเพื่อนคนนี้ คนที่สร้างปัญหาให้พวกคุณเนี่ย ต้องมาอดข้าวอดน้ำอีก""เอาค่ะ/เอาครับ"เพื่อนพากันตอบอย่างพร้อมเพรียง ถ้าไม่ใช่การรับน้องที่ทดสอบความสามัคคีกัน
ฉันก็กดวางสายจากพี่ชายไป แล้วเดินออกมานอกคณะกับนิเนยและใบเฟิร์นซึ่งตอนนี้กลายเป็นแก๊งเดียวกันไปแล้ว"วันนี้พี่แกจะมารับเหรอ ขอฉันเห็นหน้าทีเถอะ" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างคาดหวังเพราะยังไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายฉันซักครั้งถึงจะเรียนมหา'ลัยเดียวกัน พี่นธีจะมารับฉันบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยลงจากรถมาให้ใครเห็นเลย ของดีประจำจังหวัดก็แบบนี้แหละยิ่งพี่ทศกัณฐ์ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่เกือบห้าเดือนแล้วฉันยังไม่เคยเห็นเขาเลย อาจจะเพราะเราต่างหนีหน้ากันอยู่ก็ได้"แกไม่เจอพี่เขาเลยเหรอ""..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบให้นิเนยที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี"แกเอาแต่หนีไง" นิเนยพูดแล้วหันมามองฉัน"เขาคงเกลียดฉันมาก จะเอาหน้าไปสู้เขาได้ไง""เรื่องมันก็นานละนะ ตอนนี้พวกเราต่างก็โตขึ้นกันแล้ว เขาเป็นเพื่อนพี่ชายแกคงไม่เกลียดกันขนาดนั้นหรอก ตอนนั้นเราก็ยังเด็กมั้ย" นิเนยเอาเรื่องนี้กลับมาพูดอีกแล้วทั้งที่ฉันไม่อยากคิดถึงมันเลยเพราะมันทำให้ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงเขา ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้เลยทั้งที่เป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆแต่ตอนนี้เขาคงจะไม่มีฉันอยู่ในเสี้ยวความคิดเลยด้วยซ้ำ..."พี่นธีมาแล้วฉั