ฉันลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ผู้หญิงมากมายชอบเขาขนาดนั้นแต่ฉันกลับเป็นตัวร้ายที่เคยทำไม่ดีกับเขา
"พี่ทศกัณฐ์" ฉันเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดประตู
"..." เขาหันมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชาและเงียบเหมือนรอให้ฉันพูดต่อ
"มีเรื่องจะรบกวนค่ะ"
"อะไร" เขาถามแล้วเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน
"นินขอเบอร์กับไลน์พี่ได้มั้ย" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกำมือไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาเพราะความตื่นเต้น
"..."
"นินโดนทำโทษรับน้อง" ฉันพูดแล้วทำหน้าสลดขณะที่อีกคนก็มองมาอย่างไม่พอใจนัก
"..." เขาไม่ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียวก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง
ขับออกไปและปล่อยให้ฉันยืนมองเหมือนหมาข้างถนนไปเลย
ใจร้ายชะมัด!
"ไง ไม่ได้เหรอ" พี่นธียิ้มเหมือนดูหนังตลก แต่ฉันไม่ตลกนะฉันเครียดอยู่
"ถ้าได้จะทำหน้าแบบนี้มั้ยล่ะ" ฉันตอบออกไปห้วนๆ
"พรุ่งนี้ไปถามมันดูอีกรอบ วันนี้ไปรับน้องมามันน่าจะเหนื่อย"
"ต้องไปอีกเหรอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเกลียดเราขนาดไหน" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆ
"ร้องไห้อีกละ ไม่อยากเห็นแล้วนะยัยนิน"
"ก็นินเจ็บ"
"..." พี่นธีถอนหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆ ก่อนจะขับรถไปส่งฉันที่คอนโด ซึ่งอยู่ห่างจากคอนโดของเขาไม่ไกลนัก
ตอนแรกแม่จะให้เราสองคนอยู่ที่เดียวกันแต่ฉันกับพี่นธีคิดว่ามันไม่ดีเลย เพราะเราต่างอยากเว้นระยะห่างจะได้ไม่หาเรื่องอีกฝ่ายไปฟ้องแม่
พอกลับมาถึงห้องฉันก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะหันไปมองกีตาร์ที่พิงอยู่ข้างโต๊ะทำงานและเดินไปหยิบมันมา
ถึงจะเอามันมาด้วยแต่แทบจะไม่ได้เล่นมันเลย
ตัวนี้เขาซื้อให้ฉันตอนที่ฉันเริ่มเล่นมันได้เพราะเขาเป็นคนสอนไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเราคบกันแรกๆ
ก๊อกๆ
ฉันวางกีตาร์พิงกับโซฟาก่อนจะเดินไปที่ประตู เมื่อเห็นว่าเป็นยัยนิเนยจึงเปิดให้เข้ามา หอพักของนิเนยอยู่ไม่ไกลจากฉันนักเราจึงแวะเวียนมาหากันบ่อยๆ แบบนี้
"สรุปว่ายังไงกับเรื่องป้ายดี" นิเนยถามขึ้นทันทีแล้วขยับมานั่งลงข้างฉัน มองกีตาร์ที่ฉันกำลังเล่นคอร์ดอยู่
"ขอแล้ว เจอเขาเมื่อกี้"
"หา! แกเจอพี่เขาเหรอ" นิเนยทำสีหน้าตกใจไม่น้อย
"อืม"
"แล้วเขาว่าไง ให้มั้ย"
"..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบแล้วแกล้งสนใจกีตาร์ต่อ เพราะไม่อยากพูดให้มาก ทุกคนรอบตัวต่างรู้ดีว่าฉันอ่อนแอแค่ไหนกับเรื่องนี้
"ช่างเถอะ ค่อยหาวิธีอื่น ทำอะไรสนุกๆ ดีกว่า" ว่าแล้วยัยนิเนยก็หยิบมือถือฉันขึ้นมาปลดล็อก "เฟสนี้ยังทักแกมาอีกเหรอ"
"อืม ทักมาตลอด สองปีกว่าแล้วมั้ง"
เฟสที่ว่าเป็นใครสักคนที่ไม่เปิดเผยตัวตน รูปโปรไฟล์เป็นรอยสักตัว 'N' เหมือนชื่อของเขาที่มีแต่อักษรตัว N เขาสักมันไว้ที่ไหนซักแห่งบนร่างกาย หรือไม่ก็คงรูปจากในเน็ตแต่ฉันลองค้นหาดูแล้วกลับไม่เจอเลย
ช่วงนั้นที่เขาทักมาฉันไม่ได้สนใจหรอก ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ตอนนี้เขาก็ยังคงทักมาแต่เราเริ่มคุยกันมากขึ้น ปรึกษากันบางเรื่อง แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องของฉันมากกว่าเพราะเขาแทบไม่ให้ฉันรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย
แต่ก็สบายใจเหมือนกันเป็นที่ระบายให้รู้สึกดีขึ้น
"ใครมันจะแอบชอบได้นานขนาดนั้นวะ แถมยังเก็บความรู้สึกเก่งด้วยไม่เปิดเผยแบบนี้" นิเนยว่าก่อนจะกดกล้องหน้าเปิดไลฟ์สด
"ทำอะไร" ฉันหันไปมองเพื่อน
"โปรโมทตัวเอง"
"โปรโมทตัวเอง" ยัยนิเนยพูดขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายเพื่อนในเฟสของฉันที่เข้ามาดูตอนนี้เกือบร้อยคนแล้วทำไมมีคนเข้ามาดูเยอะจัง"สวัสดีค่ะ นิเนยนะคะ วันนี้นิเนยจะพาสาวสวยน่ารักน่าหยิกอย่างญานินมาเปิดตัว ด้วยเพลงเพราะๆ ก่อนนอนรับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักเธอแน่ๆ"เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แต่ตอนอยู่โรงเรียนฉันก็ขึ้นแสดงโฟล์กซองเหมือนกันมันเลยไม่ได้ดูเขินเท่าไหร่"ใครอยากให้ญานินเล่นเพลงไหนรีเควซท์มาได้เลยนะคะ"แล้วเพื่อนในเฟสก็พากันขอเพลงเข้ามาจริงๆ ตอนนี้คอมเม้นขึ้นมาเป็นร้อยแล้วคนดูเพิ่มมาเกือบห้าร้อยคนเลย"อ๊ะ งั้นเอาเพลงนี้นะคะ กำลังเข้ากับอารมณ์คนร้องพอดี" ว่าแล้วยัยนิเนยก็ใช้มือถือตัวเองเปิดคอร์ดและเนื้อเพลงให้ฉันดูเพลงนี้ฉันฟังบ่อยนะ และเศร้าทุกครั้งด้วย"ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมค่ะ" พอนิเนยพูดจบฉันก็เริ่มเล่นเพลงนั้นทันทีอยากจะรู้วิธีลืมใครสักคนต้องทำอย่างไร เก็บข้าวของของเธอที่มีอยู่ และโยนทิ้งมันไปไม่เหลืออะไรเลย และลบทุกรูปที่มีเธอ ภาพความทรงจำในวันนั้น ลบมันไปทุกข้อความตั้งแต่วันที่เราได้พบกันยัยนิเนยช่วยร้องเสริมท่อนนี้ด้วย ขณะที่ฉันก็เล่นกีตาร์และร้องไปอย่างนั้น อยู่ๆ ค
หลังจากออกไลฟ์สดนั่นแล้วก็มีคนมาเพิ่มเพื่อนในเฟสมากมายเลย ไหนจะข้อความที่พวกเขาทักมาหาอีกแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบใครแม้แต่คนเดียวN : ทำไมต้องร้องเพลงเศร้าขนาดนั้นฉันเปิดอ่านข้อความนั้นแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง เก็บไดร์เป่าผมแล้วหยิบมันขึ้นมาตอบYanin : ก็คนมันเศร้าN : เรื่องไหนอีกYanin : เรื่องเดิม ไม่น่าถามที่จริงฉันเคยระบายเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นใครแต่เขาก็ยอมรับฟังปัญหาใจของฉันได้เป็นอย่างดีN : ทำไมYanin : วันนี้เจอเขาด้วย เขามองฉันเหมือนเกลียดมากๆ ทั้งที่ฉันคิดว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำลงไปบ้าง แต่ฉันก็ผิดจริงๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้N : รู้ได้ไงว่าเขาเกลียดYanin: ฉันไปขอเบอร์กับไลน์ของเขาแต่เขาไม่ให้ แล้วยังหนีไปอีก สายตาที่มองมามันทำให้ฉันเจ็บปวดมากเลยนายรู้มั้ยN : เธอก็มีแล้วไม่ใช่เหรอYanin : รู้ได้ยังไงว่ามีN : เธอคงไม่ลบทิ้งหรอก หรือลบไปหมดแล้ว?Yanin : ไม่นะ ฉันยังมีทุกอย่าง แต่ฉันอยากขอเขาก่อนเพราะไม่อยากให้เขาโกรธN : ขอไปทำไมYanin : ฉันทำป้ายชื่อหาย พวกพี่ว้ากบอกให้ฉันหาให้เจอ ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษทั้งรุ่น พี่ว้ากให้กระดาษแผ่นหนึ่
หลายชั่วโมงต่อมา"คนอะไรวะกินสลัดแต่มีแค่แอปเปิลกับฝรั่ง" ใบเฟิร์นมองจานสลัดของฉันที่สั่งกับแม่ค้าว่าขอแค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะอย่างอื่นฉันไม่ชอบตอนนี้เรามากินข้าวที่ศูนย์ขายอาหารในมหาวิทยาลัยที่จะเปิดขายของกินหลายๆ อย่างในช่วงเย็นตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม"คนมันชอบแค่นี้""เปิดใจให้กว้างดิ ลองกินอย่างอื่นมั่ง" นิเนยบอกฉันแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้"น้องญานิน" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อของฉันขึ้นมาแต่อีกสองคนหันไปมองด้วยและมองแบบตาค้างมาก"พี่ฮ่องเต้ มาทานที่นี่ด้วยเหรอคะ" ฉันถามแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท"ไอ้ธีก็มานะ""นินเบื่อหน้าพี่ธีแล้วค่ะ" ฉันพูดแล้วแกล้งทำหน้าสยองออกมาจนพี่ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเบาๆวันนี้พวกพี่ๆ ใส่ชุดนักศึกษากันหมดและเสื้อนักศึกษาที่คณะนี้ใส่จะเป็นสีขาวสว่างไม่เหมือนกับคณะอื่นที่เป็นสีขาวนวล เลยทำให้เด่นๆ"พวกมึงนั่งนี่กันมั้ย ขอนั่งกับน้องๆ""ยินดีค่ะ พี่ๆ นั่งได้เลยถ้าไม่พอนั่งตักเฟิร์นก็ได้ค่ะ ฮ่าๆ" ยัยนิเนยกับใบเฟิร์นรีบขยับให้พวกพี่ฮ่องเต้นั่งทันทีแบบไม่ต้องคิดให้มากความแน่นอนว่าตอนนี้มีพี่ทศกัณฐ์ด้วย เขายืนมองเงียบๆ ก่อนจะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ฉันเพร
EPISODE 01สามปีก่อนหน้า"ยัยนินแกจะไปดูพี่ๆ แข่งฟุตซอลมั้ย""..." ฉันยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว แปลว่าแม่ต้องมารับภายในอีกครึ่งชั่วโมงยังพอมีเวลา..."ไปเถอะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวยักษ์กริ้วนะ"'ยักษ์' ที่นิเนยเพื่อนสนิทของฉันพูดถึงคือ'พี่ทศกัณฐ์' รุ่นพี่ที่ฉันกำลังคบกับเขาอยู่เขาอายุห่างจากฉันสองปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มอสี่พี่ทศกัณฐ์อยู่มอหก เขามีดีกรีเป็นถึงเด็กเรียนดี กีฬาเด่น เก่งดนตรี หน้าตาดีมากอีกต่างหากที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่นธีพี่ชายของฉันแต่การที่เราเป็นแฟนกันพ่อกับแม่ไม่ได้รับรู้เพราะไม่มีใครอนุญาตให้ฉันมีแฟนยังไงล่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่ทุกคนยังคงต้องทะนุถนอมเอาไว้"มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง" ฉันตอบแล้วรีบเก็บกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินตรงไปยังโรงยิมพร้อมกับยัยนิเนยทันทีเข้าไปถึงตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เต็มโรงยิมแล้วทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแน่ล่ะเพราะพวกนักกีฬาทีมนี้มีแต่พี่ๆ ที่หน้าตาดีทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่ทศกัณฐ์ของฉัน รวมไปถึงพี่ธีด้วย เรียกได้ว่าตัวท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้"พี่ทศกัณฐ์!!" เสียงยัยนิเนยตะโกนออกไปทำให้พวกนักกีฬาพากันหั
EPISODE 02ครืด~ ครืด~'ยักษ์ของนิน'ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะรีบกดวางสายแล้วพิมพ์ข้อความตอบไปในไลน์แทนYanin : รอแป๊บนึงนะ นินกำลังจะขึ้นห้อง'แล้วฉันจึงรีบหยัดตัวลุกออกไปจากตรงนั้น ที่มีพ่อแม่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่"จะนอนแล้วเหรอลูก อ่านหนังสือบ้างนะ" แม่หันมาถามแล้วมองมือถือในมือฉัน"ค่ะแม่" ฉันยิ้มตอบคุณแม่ก่อนรีบเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตัวเองฝั่งขวามือ ถัดจากห้องของพี่นธี ซึ่งตอนนี้ยังไม่กลับมาบ้านของที่ทศกัณฐ์จะใกล้โรงเรียนมากกว่าเราทำให้เขาถึงก่อนพี่นธีราวๆ สิบนาที"มาแล้ว" ฉันกดโทรออกไปเบอร์เดิมแล้วยิ้มออกมาทันทีที่เขากดรับสาย(พี่กำลังจะอาบน้ำ อาบด้วยกันมั้ย)"พูดอะไรเนี่ย น่าเกลียดค่ะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่กำลังแดดิ้นและมุดหน้าลงกับหมอนเพราะความอาย(น่าเกลียดอะไร คิดอะไรอยู่เรา) เขาหัวเราะในลำคอกวนๆ แล้วพูดออกมา"คุยก่อนค่ะแล้วค่อยไปอาบ เดี๋ยวนินต้องไปอ่านหนังสือแล้ว" ฉันบอกแล้วผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้นตอนคุยสายกับเขาเราคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียนก็ได้เจอกันบ้าง แต่เพราะเขาเป็นพี่มอหกที่ใกล้จบแล้วเลยไม่ค่อยได้อยู่ใกล้กันเท่าไหร่นักมีเรื่อ
EPISODE 03ฉันตัดสินใจกดโทรออกไปเบอร์ที่คุ้นเคย ครั้งนี้หัวใจของฉันมันเต้นรัวราวกับโดนเขย่าแรงๆ และบีบขย้ำจนรู้สึกจุกไปหมด(ครับ)ไม่นานนักเขาก็กดรับสายด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเหมือนทุกๆ ครั้ง"..." ฉันยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองและไม่กล้าพูดอะไรออกไป มันทั้งเจ็บทั้งจุกตรงหน้าอกข้างซ้าย(ญานิน...เป็นอะไร ทำไมไม่พูด) เขาพูดขึ้นเหมือนกังวลใจไม่น้อย ถ้าเทียบกับฉันเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะเลย"พี่ทศกัณฐ์..." ฉันหยุดพูดแล้วสะอื้นออกมา(ว่าไง เป็นอะไรไป)"เราเลิกกันเถอะค่ะ"(...)ฉันพูดมันออกไปแล้ว เขาเงียบไปในทันทีจนฉันรู้สึกใจหาย แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเอง"นินขอโทษ"(มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ อยู่ๆ เธอถึงพูดมันออกมา) เสียงของเขาเปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกกลัวเพราะตั้งแต่คบกันมาเขาก็ดีกับฉันมาโดยตลอด"ขอโทษค่ะ แต่นินคบกับพี่ทศกัณฐ์ไม่ได้แล้ว"(เธอทำฉันผิดหวังนะ) เขาพูดเสียงเรียบจนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้"พี่ทศกัณฐ์"(มาบอกเลิกง่ายๆ โดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ คิดว่าฉันมันไม่มีหัวใจเหรอ)"..." ฉันได้แต่เงียบและขอโทษเขาอยู่ในใจ ร้องไห้ออกมาอยู่อย่างนั้น(เลิกก็เลิก ถ้าเธอต้องการ ฉันจะไม่ถามหาเหตุ
EPISODE 04ปัจจุบัน"เร็วๆ ครับน้อง วิ่งครับ!"เสียงของรุ่นพี่วินัยหรือพี่ระเบียบชั้นปีสอง เรียกรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งดังไปทั่วทุกทิศทาง หลังจากที่ทำกิจกรรมในห้องเชียร์ ซ้อมร้องเพลงคณะและเพลงมหาวิทยาลัยเหมือนที่ทำทุกๆ เย็นวันพุธ ก็ถูกรุ่นพี่เรียกมารวมตัวที่ลานกิจกรรมอีกรอบ"วิ่งเร็วยัยนิน ฉันเห็นพวกพี่ว้ากกลุ่มนึงแอบซุ่มอยู่ตรงนั้น พวกนี้มันหลอกเรามาโดนว้ากแน่ๆ"เป็นยัยนิเนยที่พูดและรีบดึงแขนฉันไปด้วยเราสองคนสอบติดคณะและสาขาเดียวกัน ของมหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในสิบลำดับของประเทศในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่นธีเรียนอยู่แต่พี่นธีเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาไฟฟ้าเหมือนกับพี่ทศกัณฐ์...ฉันใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาเรียนที่นี่ ทั้งอ่านหนังสือสอบ ทั้งอ้อนแม่ เพราะมันไกลบ้านพอสมควรแม่จึงตัดสินใจยากมากกว่าจะยอมแต่โชคดีที่ฉันใช้ข้ออ้างที่ว่าพี่ชายเรียนอยู่ที่เดียวกันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้"หนึ่งสามเก้าคุณไม่รีบเหรอ!" ขณะที่ฉันกำลังถูกยัยนิเนยกึ่งดึงกึ่งลากไปเข้าแถวก็มีเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังฉันหันไปมองปรากฎเป็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นขอ
EPISODE 05แล้วเราก็ต้องกลับมาเข้าแถวเหมือนเดิมเพราะไม่มีใครหาป้ายชื่อของฉันได้"สรุปว่ายังไงครับ! หาไม่เจอใช่มั้ย! งั้นเพื่อนคนนี้ก็ไม่ต้องเอารุ่น!""ไม่ต้องเอามันแล้ว!! แค่ป้ายชื่อยังรักษาไว้ไม่ได้เลย" พี่ว้ากคนอื่นๆ ก็เริ่มต่อว่าเสริมขึ้นมา"ยังไงคุณ จะยอมออกจากรุ่นมั้ย" พี่ผู้ชายคนเดิมที่เข้ามาถามหาป้ายชื่อฉันก่อนหน้าพูดขึ้น"ไม่ค่ะ""แล้วคุณจะทำยังครับ ตอนนี้เพื่อนหิวข้าวกันหมดแล้วเพราะคุณคนเดียวที่มีปัญหา" พี่ปีสามคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่มันแฝงไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ หน่อย"หนูจะหาเองค่ะ ขอเวลา""โอ๊ย!! ขอเวลาเหรอ เมื่อกี้ก็ให้ไปแล้วครึ่งชั่วโมง คนหาหลายร้อยไม่เจอคุณคนเดียวจะเจอเหรอ!!"พี่ว้ากผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังจนแสบแก้วหูไปหมด อยากจะหยิบน้ำผึ้งมะนาวมาให้พี่แกเหลือเกิน"หนูจะหาให้เจอค่ะ""พวกคุณว่ายังไง! จะให้เพื่อนหาหรือจะไม่ให้อยู่ในรุ่นคุณแล้ว!!" แล้วพี่เฮดว้ากก็หันไปตะโกนถามพวกเพื่อนๆ ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ "จะเอาอยู่มั้ยเพื่อนคนนี้ คนที่สร้างปัญหาให้พวกคุณเนี่ย ต้องมาอดข้าวอดน้ำอีก""เอาค่ะ/เอาครับ"เพื่อนพากันตอบอย่างพร้อมเพรียง ถ้าไม่ใช่การรับน้องที่ทดสอบความสามัคคีกัน