Share

Ep. 4 หนึ่ง สาม เก้า

EPISODE 04

ปัจจุบัน

"เร็วๆ ครับน้อง วิ่งครับ!"

เสียงของรุ่นพี่วินัยหรือพี่ระเบียบชั้นปีสอง เรียกรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งดังไปทั่วทุกทิศทาง หลังจากที่ทำกิจกรรมในห้องเชียร์ ซ้อมร้องเพลงคณะและเพลงมหาวิทยาลัยเหมือนที่ทำทุกๆ เย็นวันพุธ ก็ถูกรุ่นพี่เรียกมารวมตัวที่ลานกิจกรรมอีกรอบ

"วิ่งเร็วยัยนิน ฉันเห็นพวกพี่ว้ากกลุ่มนึงแอบซุ่มอยู่ตรงนั้น พวกนี้มันหลอกเรามาโดนว้ากแน่ๆ"เป็นยัยนิเนยที่พูดและรีบดึงแขนฉันไปด้วย

เราสองคนสอบติดคณะและสาขาเดียวกัน ของมหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในสิบลำดับของประเทศในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่นธีเรียนอยู่แต่พี่นธีเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์

สาขาไฟฟ้าเหมือนกับพี่ทศกัณฐ์...

ฉันใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาเรียนที่นี่ ทั้งอ่านหนังสือสอบ ทั้งอ้อนแม่ เพราะมันไกลบ้านพอสมควรแม่จึงตัดสินใจยากมากกว่าจะยอม

แต่โชคดีที่ฉันใช้ข้ออ้างที่ว่าพี่ชายเรียนอยู่ที่เดียวกันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้

"หนึ่งสามเก้าคุณไม่รีบเหรอ!" ขณะที่ฉันกำลังถูกยัยนิเนยกึ่งดึงกึ่งลากไปเข้าแถวก็มีเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง

ฉันหันไปมองปรากฎเป็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นของคณะเราแต่เป็นเสื้อรุ่นที่มีสัญลักษณ์ตรงกระเป๋าเสื้อต่างกันตามปีรุ่น

พี่ว้าก!!

ที่พี่เขาเรียกมันเป็นรหัสนักศึกษาสามตัวท้ายของฉันเอง ได้ยินดังนั้นฉันจึงรีบเดินไปเข้าแถวกับเพื่อนทันทีเพราะถ้าฉันทำตัวมีปัญหา เพื่อนจะโดนทำโทษไปด้วยน่ะสิ

"ยัยนินฉันบอกแกแล้วว่าให้รีบ"

"ฉันก็รีบแล้วเนี่ย"

"เอ้า! เงียบครับ เสียงดังทำไมผมไม่ได้มาจัดคอนเสิร์ต!!" เสียงพี่เฮดว้ากที่ยืนอยู่บนแท่นด้านหน้าเราพูดขึ้น

"เข้าแถวกันแบบนี้จะมาซื้อข้าวเหรอ หน้าผมเหมือนพ่อค้ามั้ย!! เข้าแถวเรียงตามเมเจอร์ เรียงตามรหัส! ปฏิบัติ!!"

พอพี่เฮดว้ากพูดจบพวกเราก็พากันวิ่งสลับกันไปมา ตอนนี้รับน้องมาได้เกือบเทอมหนึ่งแล้วมันเลยดูคล่องแคล่วกว่าครั้งก่อนๆ

" สามสองสอง คุณไปอยู่ตรงนั้นทำไมคะใช่ที่คุณมั้ยย!"

แล้วเสียงพี่ว้ากคนอื่นก็ด่ากันดังจอแจ ฉันเริ่มชินแล้วกับเสียงพวกนี้ ให้มันผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาไปดีกว่าเก็บมาคิดมาก

"เอาล่ะ ต่อไปผมจะให้เพื่อนผมตรวจเช็คเครื่องแต่งกาย เพราะได้ยินว่ามีพวกคุณผิดกฏมาเยอะ ออกไปข้างนอกก็ไม่ห้อยป้าย!!" พี่เฮดว้ากตะโกนเสียงดังเหมือนไม่พอใจเอามากๆ

"ทำไมครับอยากเป็นรุ่นพี่แล้วใช่มั้ย อยากเทียบรุ่นแล้วใช่มั้ย!!"แล้วเสียงคนอื่นก็ดังตามขึ้นมารอบๆ ล้อมพวกเราเอาไว้

นี่มันตรรกะอะไรเนี่ย ฉันได้แต่สงสัยว่าทำไปทำไม ทำไมต้องห้อยป้าย ทำไมต้องมาทำกิจกรรมพวกนี้แต่พี่นธีบอกว่า ปีหนึ่งอย่างฉันคงไม่เข้าใจจนกว่าจะจบรับน้อง

จากนั้นพี่ว้ากก็พากันเดินตรวจเครื่องแต่งกาย วันนี้ฉันมั่นใจมากว่าฉันแต่งตัวมาเรียบร้อย เพราะฉันเกลียดการถูกเรียกไปเป็นเหยื่อแผนการของพวกนี้ที่สุด

"หนึ่งสามเก้า!"

"คะ"ฉันตกใจรีบหันไปมองพี่ผู้ชายที่เรียกชื่อของฉันทันที

"ป้ายชื่อคุณอยู่ไหนครับ!"

"..." ฉันรีบก้มไปมองป้ายชื่อของตัวเอง

เห้ย!! มันหายไปได้ยังไง! ฉันจำได้ว่าฉันใส่มาแล้วนะก่อนจะออกห้อง

"ว่ายังไง ขนาดมารับน้องยังไม่ใส่มาเลย แบบนี้แปลว่าไม่อยากเอารุ่นแล้วใช่มั้ย!" พี่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันตะโกนใส่เสียงดัง

หน้าตาก็ดีทำไมต้องทำตัวแบบนี้ด้วยนะ

"มันหายค่ะ หนูใส่มาแล้ว" ฉันตอบแล้วมองตรงไปที่หลังเพื่อน

"หายเหรอ ทั้งที่มันห้อยอยู่ที่คอก็ยังหาย มันจะหายได้ยังไงครับ!" พอเขาพูดจบพวกพี่ๆ คนอื่นๆ ก็พากันมารายล้อมฉันเอาไว้ พูดอะไรต่างๆ นานาให้เสียขวัญกำลังใจ

"หนึ่งสามเก้าออกมา!" พี่เฮดว้ากตะโกนเรียกฉันขึ้นมา จึงต้องรีบเดินออกไปตามคำสั่ง

"..."

"เพื่อนคนนี้ไม่ห้อยป้าย เขาคงไม่อยากห้อย ไม่อยากเอารุ่นแล้ว!! พวกคุณจะทำยังไงครับ!"

ทันทีที่พี่เฮดว้ากพูดจบเพื่อนในแถวก็พากันเลิกลักหันไปปรึกษากันทันที

"หนึ่งสามเก้า! คุณบอกว่าทำหายใช่มั้ย"

"ค่ะ"

"บอกเหตุผลมาว่าทำหายยังไง!"

"คือ...เชือกน่าจะหลุดค่ะ" ฉันตอบออกไปอย่างคาดเดา ถ้ารู้มันจะเรียกว่าทำหายมั้ยเนี่ย

"นี่จะบอกว่าน้องพวกผมทำมาไม่ดีใช่มั้ย!!" น้องที่ว่าคือพวกพี่ปีสอง

พวกเขาจะนับปีสองว่าเป็นน้องแต่กับปีหนึ่งอยากพวกเราจะไม่เรียกว่าน้องจนกว่าจะได้รุ่น

"ไม่ใช่ค่ะ พวกพี่ๆ ทำมาดีแล้ว หนูรักษาไว้ไม่ดีค่ะ"ฉันรีบตอบออกไปเพราะไม่อยากให้พวกพี่ปีสองเดือดร้อน

"ดี! ยอมรับผิดมันก็ดี! แต่ผมจะให้เวลาพวกคุณทุกคน หาป้ายของหนึ่งสามเก้าให้เจอภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าหาไม่เจอพวกคุณทั้งหมดไม่ต้องเอารุ่น ไม่ต้องรับหัวเข็มขัดและติ๊งคณะ!"

แล้วพวกเพื่อนๆ ก็พากันหาป้ายของฉันทั่วบริเวณแต่ก็ไม่มีใครหาเจอเลยซักคน

"พวกแกว่ามันไม่แปลกเหรอ" ใบเฟิร์นเพื่อนในสาขาคนหนึ่งพูดขึ้นมา

"อะไรใบเฟิร์น" ยัยนิเนยเอ่ยถามทันทีด้วยคงสัย

"ก็ยัยญานินไม่มีป้ายห้อย แต่พวกพี่เขากลับเรียกรหัสถูกตั้งแต่แรก ฉันว่าจงใจชัดๆ"

"เรารับน้องมาหลายเดือนแล้วนะ คงมีคนจำได้แล้วแหละ" ฉันบอกออกไปอย่างนั้น

"ก็อาจจะใช่ อีกอย่างยัยนินมันทำเรื่องให้พวกพี่เขาจดจำด้วย" นิเนยเสริม

ที่บอกว่าน่าจดจำคือเมื่อสองสามเดือนก่อนพวกพี่ชมรมเชียร์ลีดเดอร์ของคณะมาทาบทามให้ฉันไปอยู่ชมรมด้วยแต่ฉันปฏิเสธไป

เหตุก็เพราะพี่นธีสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้ฉันทำอะไรพวกนี้ และฉันเองก็ไม่ได้ชอบเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ด้วยมันไม่ใช่ทาง

"หลายเรื่องด้วยสิ คงโดนพวกพี่เขาแกล้งเพราะไม่ให้ความร่วมมือ" เพื่อนอีกคนเดินมาเสริม

"ก็มันไม่ใช่ทางฉันมั้ย อีกอย่างพี่ชายฉันก็ไม่อยากให้ทำ ฉันไม่อยากมีปัญหา" ฉันตอบออกไป

"ฉันชักอยากเห็นหน้าพี่แกแล้วสิ คงโหดหน้าดู" ใบเฟิร์นพูดออกมา ทำให้ฉันกับนิเนยต้องหันมามองหนากันแล้วกลั้นขำ

เพราะพี่นธีเป็นหนึ่งในหนุ่มฮอตของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และแน่นอนว่าสาวๆ ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รู้จัก ยิ่งตอนนี้เขาเป็นรุ่นพี่ว้ากความเท่ห์ไม่ต้องถามถึง ขนาดฉันเป็นน้องสาวยังมองว่าดูดีเลย

และเช่นกัน พี่ทศกัณฐ์ก็เป็นถึงเฮดว้ากของคณะนั้นด้วย ตอนนี้ระหว่างฉันกับเขามันเลยดูเอื้อมไม่ถึงเลยซักนิดเดียว

"พี่ชายแกก็ห้ามทุกอย่างเลยเนอะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะยุ่ง" นิเนยกล่าวแล้วทำหน้าเอือมระอา

มีอีกเรื่องคือพี่สาขาบอกให้ฉันลงคัดเลือกดาวเดือนคณะแต่ฉันก็ปฏิเสธเพราะพี่ชายสั่งไว้อีกตามเคย

พี่นธีคงหวงฉันมากล่ะมั้ง แปลกเหมือนกันเพราะปกติไม่เห็นจะยุ่งกับฉันเท่าไหร่พอเข้ามามหา'ลัยเท่านั้นแหละ สั่งนั่นสั่งนี่ถามอยู่ได้เกือบทุกวี่วันว่ามีใครมาจีบมั้ย

"น้องสาวสวยไงพี่เลยหวง" เคน เพื่อร่วมคณะเดินเข้ามาแซว เขามีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะเราด้วย หล่อ เก่งและนิสัยดีมาก

"ทำไมไม่รีบหากันละคะ! ทำไมชิลกับแบบนี้ ไม่อยากได้ป้าย ไม่เอาแล้วใช่มั้ยรุ่น!!"

จากนั้นพวกเราต้องแยกย้ายกันหาป้ายไปทุกที่ที่ฉันเดินไปวันนี้แต่ก็ไม่พบ

"หรือจะมีคนเก็บได้แล้วเอาไปให้พวกรุ่นพี่ แต่ที่ทำแบบนี้เพราะทดสอบพวกเรา" ใบเฟิร์นบ่นออกมาซึ่งมันก็คงเป็นความคิดเดียวกับฉัน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status