EPISODE 04
ปัจจุบัน
"เร็วๆ ครับน้อง วิ่งครับ!"
เสียงของรุ่นพี่วินัยหรือพี่ระเบียบชั้นปีสอง เรียกรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งดังไปทั่วทุกทิศทาง หลังจากที่ทำกิจกรรมในห้องเชียร์ ซ้อมร้องเพลงคณะและเพลงมหาวิทยาลัยเหมือนที่ทำทุกๆ เย็นวันพุธ ก็ถูกรุ่นพี่เรียกมารวมตัวที่ลานกิจกรรมอีกรอบ
"วิ่งเร็วยัยนิน ฉันเห็นพวกพี่ว้ากกลุ่มนึงแอบซุ่มอยู่ตรงนั้น พวกนี้มันหลอกเรามาโดนว้ากแน่ๆ"เป็นยัยนิเนยที่พูดและรีบดึงแขนฉันไปด้วย
เราสองคนสอบติดคณะและสาขาเดียวกัน ของมหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในสิบลำดับของประเทศในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่นธีเรียนอยู่แต่พี่นธีเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์
สาขาไฟฟ้าเหมือนกับพี่ทศกัณฐ์...
ฉันใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มาเรียนที่นี่ ทั้งอ่านหนังสือสอบ ทั้งอ้อนแม่ เพราะมันไกลบ้านพอสมควรแม่จึงตัดสินใจยากมากกว่าจะยอม
แต่โชคดีที่ฉันใช้ข้ออ้างที่ว่าพี่ชายเรียนอยู่ที่เดียวกันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้
"หนึ่งสามเก้าคุณไม่รีบเหรอ!" ขณะที่ฉันกำลังถูกยัยนิเนยกึ่งดึงกึ่งลากไปเข้าแถวก็มีเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ฉันหันไปมองปรากฎเป็นรุ่นพี่ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นของคณะเราแต่เป็นเสื้อรุ่นที่มีสัญลักษณ์ตรงกระเป๋าเสื้อต่างกันตามปีรุ่น
พี่ว้าก!!
ที่พี่เขาเรียกมันเป็นรหัสนักศึกษาสามตัวท้ายของฉันเอง ได้ยินดังนั้นฉันจึงรีบเดินไปเข้าแถวกับเพื่อนทันทีเพราะถ้าฉันทำตัวมีปัญหา เพื่อนจะโดนทำโทษไปด้วยน่ะสิ
"ยัยนินฉันบอกแกแล้วว่าให้รีบ"
"ฉันก็รีบแล้วเนี่ย"
"เอ้า! เงียบครับ เสียงดังทำไมผมไม่ได้มาจัดคอนเสิร์ต!!" เสียงพี่เฮดว้ากที่ยืนอยู่บนแท่นด้านหน้าเราพูดขึ้น
"เข้าแถวกันแบบนี้จะมาซื้อข้าวเหรอ หน้าผมเหมือนพ่อค้ามั้ย!! เข้าแถวเรียงตามเมเจอร์ เรียงตามรหัส! ปฏิบัติ!!"
พอพี่เฮดว้ากพูดจบพวกเราก็พากันวิ่งสลับกันไปมา ตอนนี้รับน้องมาได้เกือบเทอมหนึ่งแล้วมันเลยดูคล่องแคล่วกว่าครั้งก่อนๆ
" สามสองสอง คุณไปอยู่ตรงนั้นทำไมคะใช่ที่คุณมั้ยย!"
แล้วเสียงพี่ว้ากคนอื่นก็ด่ากันดังจอแจ ฉันเริ่มชินแล้วกับเสียงพวกนี้ ให้มันผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาไปดีกว่าเก็บมาคิดมาก
"เอาล่ะ ต่อไปผมจะให้เพื่อนผมตรวจเช็คเครื่องแต่งกาย เพราะได้ยินว่ามีพวกคุณผิดกฏมาเยอะ ออกไปข้างนอกก็ไม่ห้อยป้าย!!" พี่เฮดว้ากตะโกนเสียงดังเหมือนไม่พอใจเอามากๆ
"ทำไมครับอยากเป็นรุ่นพี่แล้วใช่มั้ย อยากเทียบรุ่นแล้วใช่มั้ย!!"แล้วเสียงคนอื่นก็ดังตามขึ้นมารอบๆ ล้อมพวกเราเอาไว้
นี่มันตรรกะอะไรเนี่ย ฉันได้แต่สงสัยว่าทำไปทำไม ทำไมต้องห้อยป้าย ทำไมต้องมาทำกิจกรรมพวกนี้แต่พี่นธีบอกว่า ปีหนึ่งอย่างฉันคงไม่เข้าใจจนกว่าจะจบรับน้อง
จากนั้นพี่ว้ากก็พากันเดินตรวจเครื่องแต่งกาย วันนี้ฉันมั่นใจมากว่าฉันแต่งตัวมาเรียบร้อย เพราะฉันเกลียดการถูกเรียกไปเป็นเหยื่อแผนการของพวกนี้ที่สุด
"หนึ่งสามเก้า!"
"คะ"ฉันตกใจรีบหันไปมองพี่ผู้ชายที่เรียกชื่อของฉันทันที
"ป้ายชื่อคุณอยู่ไหนครับ!"
"..." ฉันรีบก้มไปมองป้ายชื่อของตัวเอง
เห้ย!! มันหายไปได้ยังไง! ฉันจำได้ว่าฉันใส่มาแล้วนะก่อนจะออกห้อง
"ว่ายังไง ขนาดมารับน้องยังไม่ใส่มาเลย แบบนี้แปลว่าไม่อยากเอารุ่นแล้วใช่มั้ย!" พี่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันตะโกนใส่เสียงดัง
หน้าตาก็ดีทำไมต้องทำตัวแบบนี้ด้วยนะ
"มันหายค่ะ หนูใส่มาแล้ว" ฉันตอบแล้วมองตรงไปที่หลังเพื่อน
"หายเหรอ ทั้งที่มันห้อยอยู่ที่คอก็ยังหาย มันจะหายได้ยังไงครับ!" พอเขาพูดจบพวกพี่ๆ คนอื่นๆ ก็พากันมารายล้อมฉันเอาไว้ พูดอะไรต่างๆ นานาให้เสียขวัญกำลังใจ
"หนึ่งสามเก้าออกมา!" พี่เฮดว้ากตะโกนเรียกฉันขึ้นมา จึงต้องรีบเดินออกไปตามคำสั่ง
"..."
"เพื่อนคนนี้ไม่ห้อยป้าย เขาคงไม่อยากห้อย ไม่อยากเอารุ่นแล้ว!! พวกคุณจะทำยังไงครับ!"
ทันทีที่พี่เฮดว้ากพูดจบเพื่อนในแถวก็พากันเลิกลักหันไปปรึกษากันทันที
"หนึ่งสามเก้า! คุณบอกว่าทำหายใช่มั้ย"
"ค่ะ"
"บอกเหตุผลมาว่าทำหายยังไง!"
"คือ...เชือกน่าจะหลุดค่ะ" ฉันตอบออกไปอย่างคาดเดา ถ้ารู้มันจะเรียกว่าทำหายมั้ยเนี่ย
"นี่จะบอกว่าน้องพวกผมทำมาไม่ดีใช่มั้ย!!" น้องที่ว่าคือพวกพี่ปีสอง
พวกเขาจะนับปีสองว่าเป็นน้องแต่กับปีหนึ่งอยากพวกเราจะไม่เรียกว่าน้องจนกว่าจะได้รุ่น
"ไม่ใช่ค่ะ พวกพี่ๆ ทำมาดีแล้ว หนูรักษาไว้ไม่ดีค่ะ"ฉันรีบตอบออกไปเพราะไม่อยากให้พวกพี่ปีสองเดือดร้อน
"ดี! ยอมรับผิดมันก็ดี! แต่ผมจะให้เวลาพวกคุณทุกคน หาป้ายของหนึ่งสามเก้าให้เจอภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าหาไม่เจอพวกคุณทั้งหมดไม่ต้องเอารุ่น ไม่ต้องรับหัวเข็มขัดและติ๊งคณะ!"
แล้วพวกเพื่อนๆ ก็พากันหาป้ายของฉันทั่วบริเวณแต่ก็ไม่มีใครหาเจอเลยซักคน
"พวกแกว่ามันไม่แปลกเหรอ" ใบเฟิร์นเพื่อนในสาขาคนหนึ่งพูดขึ้นมา
"อะไรใบเฟิร์น" ยัยนิเนยเอ่ยถามทันทีด้วยคงสัย
"ก็ยัยญานินไม่มีป้ายห้อย แต่พวกพี่เขากลับเรียกรหัสถูกตั้งแต่แรก ฉันว่าจงใจชัดๆ"
"เรารับน้องมาหลายเดือนแล้วนะ คงมีคนจำได้แล้วแหละ" ฉันบอกออกไปอย่างนั้น
"ก็อาจจะใช่ อีกอย่างยัยนินมันทำเรื่องให้พวกพี่เขาจดจำด้วย" นิเนยเสริม
ที่บอกว่าน่าจดจำคือเมื่อสองสามเดือนก่อนพวกพี่ชมรมเชียร์ลีดเดอร์ของคณะมาทาบทามให้ฉันไปอยู่ชมรมด้วยแต่ฉันปฏิเสธไป
เหตุก็เพราะพี่นธีสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้ฉันทำอะไรพวกนี้ และฉันเองก็ไม่ได้ชอบเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ด้วยมันไม่ใช่ทาง
"หลายเรื่องด้วยสิ คงโดนพวกพี่เขาแกล้งเพราะไม่ให้ความร่วมมือ" เพื่อนอีกคนเดินมาเสริม
"ก็มันไม่ใช่ทางฉันมั้ย อีกอย่างพี่ชายฉันก็ไม่อยากให้ทำ ฉันไม่อยากมีปัญหา" ฉันตอบออกไป
"ฉันชักอยากเห็นหน้าพี่แกแล้วสิ คงโหดหน้าดู" ใบเฟิร์นพูดออกมา ทำให้ฉันกับนิเนยต้องหันมามองหนากันแล้วกลั้นขำ
เพราะพี่นธีเป็นหนึ่งในหนุ่มฮอตของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และแน่นอนว่าสาวๆ ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รู้จัก ยิ่งตอนนี้เขาเป็นรุ่นพี่ว้ากความเท่ห์ไม่ต้องถามถึง ขนาดฉันเป็นน้องสาวยังมองว่าดูดีเลย
และเช่นกัน พี่ทศกัณฐ์ก็เป็นถึงเฮดว้ากของคณะนั้นด้วย ตอนนี้ระหว่างฉันกับเขามันเลยดูเอื้อมไม่ถึงเลยซักนิดเดียว
"พี่ชายแกก็ห้ามทุกอย่างเลยเนอะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะยุ่ง" นิเนยกล่าวแล้วทำหน้าเอือมระอา
มีอีกเรื่องคือพี่สาขาบอกให้ฉันลงคัดเลือกดาวเดือนคณะแต่ฉันก็ปฏิเสธเพราะพี่ชายสั่งไว้อีกตามเคย
พี่นธีคงหวงฉันมากล่ะมั้ง แปลกเหมือนกันเพราะปกติไม่เห็นจะยุ่งกับฉันเท่าไหร่พอเข้ามามหา'ลัยเท่านั้นแหละ สั่งนั่นสั่งนี่ถามอยู่ได้เกือบทุกวี่วันว่ามีใครมาจีบมั้ย
"น้องสาวสวยไงพี่เลยหวง" เคน เพื่อร่วมคณะเดินเข้ามาแซว เขามีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะเราด้วย หล่อ เก่งและนิสัยดีมาก
"ทำไมไม่รีบหากันละคะ! ทำไมชิลกับแบบนี้ ไม่อยากได้ป้าย ไม่เอาแล้วใช่มั้ยรุ่น!!"
จากนั้นพวกเราต้องแยกย้ายกันหาป้ายไปทุกที่ที่ฉันเดินไปวันนี้แต่ก็ไม่พบ
"หรือจะมีคนเก็บได้แล้วเอาไปให้พวกรุ่นพี่ แต่ที่ทำแบบนี้เพราะทดสอบพวกเรา" ใบเฟิร์นบ่นออกมาซึ่งมันก็คงเป็นความคิดเดียวกับฉัน
EPISODE 05แล้วเราก็ต้องกลับมาเข้าแถวเหมือนเดิมเพราะไม่มีใครหาป้ายชื่อของฉันได้"สรุปว่ายังไงครับ! หาไม่เจอใช่มั้ย! งั้นเพื่อนคนนี้ก็ไม่ต้องเอารุ่น!""ไม่ต้องเอามันแล้ว!! แค่ป้ายชื่อยังรักษาไว้ไม่ได้เลย" พี่ว้ากคนอื่นๆ ก็เริ่มต่อว่าเสริมขึ้นมา"ยังไงคุณ จะยอมออกจากรุ่นมั้ย" พี่ผู้ชายคนเดิมที่เข้ามาถามหาป้ายชื่อฉันก่อนหน้าพูดขึ้น"ไม่ค่ะ""แล้วคุณจะทำยังครับ ตอนนี้เพื่อนหิวข้าวกันหมดแล้วเพราะคุณคนเดียวที่มีปัญหา" พี่ปีสามคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่มันแฝงไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ หน่อย"หนูจะหาเองค่ะ ขอเวลา""โอ๊ย!! ขอเวลาเหรอ เมื่อกี้ก็ให้ไปแล้วครึ่งชั่วโมง คนหาหลายร้อยไม่เจอคุณคนเดียวจะเจอเหรอ!!"พี่ว้ากผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังจนแสบแก้วหูไปหมด อยากจะหยิบน้ำผึ้งมะนาวมาให้พี่แกเหลือเกิน"หนูจะหาให้เจอค่ะ""พวกคุณว่ายังไง! จะให้เพื่อนหาหรือจะไม่ให้อยู่ในรุ่นคุณแล้ว!!" แล้วพี่เฮดว้ากก็หันไปตะโกนถามพวกเพื่อนๆ ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ "จะเอาอยู่มั้ยเพื่อนคนนี้ คนที่สร้างปัญหาให้พวกคุณเนี่ย ต้องมาอดข้าวอดน้ำอีก""เอาค่ะ/เอาครับ"เพื่อนพากันตอบอย่างพร้อมเพรียง ถ้าไม่ใช่การรับน้องที่ทดสอบความสามัคคีกัน
ฉันก็กดวางสายจากพี่ชายไป แล้วเดินออกมานอกคณะกับนิเนยและใบเฟิร์นซึ่งตอนนี้กลายเป็นแก๊งเดียวกันไปแล้ว"วันนี้พี่แกจะมารับเหรอ ขอฉันเห็นหน้าทีเถอะ" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างคาดหวังเพราะยังไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายฉันซักครั้งถึงจะเรียนมหา'ลัยเดียวกัน พี่นธีจะมารับฉันบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยลงจากรถมาให้ใครเห็นเลย ของดีประจำจังหวัดก็แบบนี้แหละยิ่งพี่ทศกัณฐ์ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่เกือบห้าเดือนแล้วฉันยังไม่เคยเห็นเขาเลย อาจจะเพราะเราต่างหนีหน้ากันอยู่ก็ได้"แกไม่เจอพี่เขาเลยเหรอ""..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบให้นิเนยที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี"แกเอาแต่หนีไง" นิเนยพูดแล้วหันมามองฉัน"เขาคงเกลียดฉันมาก จะเอาหน้าไปสู้เขาได้ไง""เรื่องมันก็นานละนะ ตอนนี้พวกเราต่างก็โตขึ้นกันแล้ว เขาเป็นเพื่อนพี่ชายแกคงไม่เกลียดกันขนาดนั้นหรอก ตอนนั้นเราก็ยังเด็กมั้ย" นิเนยเอาเรื่องนี้กลับมาพูดอีกแล้วทั้งที่ฉันไม่อยากคิดถึงมันเลยเพราะมันทำให้ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงเขา ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้เลยทั้งที่เป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆแต่ตอนนี้เขาคงจะไม่มีฉันอยู่ในเสี้ยวความคิดเลยด้วยซ้ำ..."พี่นธีมาแล้วฉั
EPISODE 06"หนูชื่อญานินค่ะ""อื้อหือ ได้ยินคำว่าหนูแล้วกูใจสั่นเลย" พี่คิวพูดแล้วยกมือขึ้นมาทาบอกตัวเองทำท่าเหมือนจะทนไม่ไหว "มีน้องน่ารักขนาดนี้กูถึงว่าไม่ยอมพามารู้จักซักที""กูกลัวน้องตัวเองไม่ปลอดภัย" พี่นธีพูดแล้วมองเพื่อนสองคนอย่างเอือมๆ จากนั้นก็พากันแซวฉันต่อซึ่งฉันก็ได้แต่ยิ้มตามแห้งๆ เพราะยังคงอึดอัดอยู่"..." ขณะที่พี่ๆ คนอื่นคุยเล่นกันคนตรงหน้าก็เอาแต่เงียบ เขาจับหลอดแล้วเล่นกับน้ำแข็งวนไปมาอยู่อย่างนั้นอีกมือก็เล่นมือถือไปเหมือนไม่สนใจคนรอบข้างเท่าไหร่นักนี่คงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เราเลิกกันไปแล้วได้มาเห็นเขาใกล้ๆ แบบนี้พี่ทศกัณฐ์ดูดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก จากที่ตอนนั้นฉันก็แทบคลั่งแล้วตอนนี้ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ แต่...ฉันคงเป็นคนที่เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วล่ะ"เป็นอะไรของมึง นั่งเงียบอยู่ได้""..." พี่ทศกัณฐ์เงยหน้าขึ้นมามองพี่ฮ่องเต้เหมือนรำคาญก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมือถือต่ออึดอัดจังครืด~Ninoey : ฉันถึงหอแล้ว แกเปิดดูกระดาษแผ่นนั้นยังข้อความของยัยนิเนยทักมาพอดีฉันจึงแกล้งสนใจเรื่องอื่นไปเพราะไม่อยากอึดอัดไปให้มากกว่านี้Yanin : ยังเลย กำลังกินข้าวหลังมอกับพี่Ninoey : เป
ฉันลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ผู้หญิงมากมายชอบเขาขนาดนั้นแต่ฉันกลับเป็นตัวร้ายที่เคยทำไม่ดีกับเขา"พี่ทศกัณฐ์" ฉันเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดประตู"..." เขาหันมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชาและเงียบเหมือนรอให้ฉันพูดต่อ"มีเรื่องจะรบกวนค่ะ""อะไร" เขาถามแล้วเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน"นินขอเบอร์กับไลน์พี่ได้มั้ย" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกำมือไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาเพราะความตื่นเต้น"...""นินโดนทำโทษรับน้อง" ฉันพูดแล้วทำหน้าสลดขณะที่อีกคนก็มองมาอย่างไม่พอใจนัก"..." เขาไม่ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียวก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งขับออกไปและปล่อยให้ฉันยืนมองเหมือนหมาข้างถนนไปเลยใจร้ายชะมัด!"ไง ไม่ได้เหรอ" พี่นธียิ้มเหมือนดูหนังตลก แต่ฉันไม่ตลกนะฉันเครียดอยู่"ถ้าได้จะทำหน้าแบบนี้มั้ยล่ะ" ฉันตอบออกไปห้วนๆ"พรุ่งนี้ไปถามมันดูอีกรอบ วันนี้ไปรับน้องมามันน่าจะเหนื่อย""ต้องไปอีกเหรอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเกลียดเราขนาดไหน" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆ"ร้องไห้อีกละ ไม่อยากเห็นแล้วนะยัยนิน""ก็นินเจ็บ""..." พี่นธีถอนหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆ ก่อนจะขับรถไปส่งฉันที่คอนโด ซึ่งอยู่ห
"โปรโมทตัวเอง" ยัยนิเนยพูดขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายเพื่อนในเฟสของฉันที่เข้ามาดูตอนนี้เกือบร้อยคนแล้วทำไมมีคนเข้ามาดูเยอะจัง"สวัสดีค่ะ นิเนยนะคะ วันนี้นิเนยจะพาสาวสวยน่ารักน่าหยิกอย่างญานินมาเปิดตัว ด้วยเพลงเพราะๆ ก่อนนอนรับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักเธอแน่ๆ"เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แต่ตอนอยู่โรงเรียนฉันก็ขึ้นแสดงโฟล์กซองเหมือนกันมันเลยไม่ได้ดูเขินเท่าไหร่"ใครอยากให้ญานินเล่นเพลงไหนรีเควซท์มาได้เลยนะคะ"แล้วเพื่อนในเฟสก็พากันขอเพลงเข้ามาจริงๆ ตอนนี้คอมเม้นขึ้นมาเป็นร้อยแล้วคนดูเพิ่มมาเกือบห้าร้อยคนเลย"อ๊ะ งั้นเอาเพลงนี้นะคะ กำลังเข้ากับอารมณ์คนร้องพอดี" ว่าแล้วยัยนิเนยก็ใช้มือถือตัวเองเปิดคอร์ดและเนื้อเพลงให้ฉันดูเพลงนี้ฉันฟังบ่อยนะ และเศร้าทุกครั้งด้วย"ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมค่ะ" พอนิเนยพูดจบฉันก็เริ่มเล่นเพลงนั้นทันทีอยากจะรู้วิธีลืมใครสักคนต้องทำอย่างไร เก็บข้าวของของเธอที่มีอยู่ และโยนทิ้งมันไปไม่เหลืออะไรเลย และลบทุกรูปที่มีเธอ ภาพความทรงจำในวันนั้น ลบมันไปทุกข้อความตั้งแต่วันที่เราได้พบกันยัยนิเนยช่วยร้องเสริมท่อนนี้ด้วย ขณะที่ฉันก็เล่นกีตาร์และร้องไปอย่างนั้น อยู่ๆ ค
หลังจากออกไลฟ์สดนั่นแล้วก็มีคนมาเพิ่มเพื่อนในเฟสมากมายเลย ไหนจะข้อความที่พวกเขาทักมาหาอีกแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบใครแม้แต่คนเดียวN : ทำไมต้องร้องเพลงเศร้าขนาดนั้นฉันเปิดอ่านข้อความนั้นแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง เก็บไดร์เป่าผมแล้วหยิบมันขึ้นมาตอบYanin : ก็คนมันเศร้าN : เรื่องไหนอีกYanin : เรื่องเดิม ไม่น่าถามที่จริงฉันเคยระบายเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นใครแต่เขาก็ยอมรับฟังปัญหาใจของฉันได้เป็นอย่างดีN : ทำไมYanin : วันนี้เจอเขาด้วย เขามองฉันเหมือนเกลียดมากๆ ทั้งที่ฉันคิดว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำลงไปบ้าง แต่ฉันก็ผิดจริงๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้N : รู้ได้ไงว่าเขาเกลียดYanin: ฉันไปขอเบอร์กับไลน์ของเขาแต่เขาไม่ให้ แล้วยังหนีไปอีก สายตาที่มองมามันทำให้ฉันเจ็บปวดมากเลยนายรู้มั้ยN : เธอก็มีแล้วไม่ใช่เหรอYanin : รู้ได้ยังไงว่ามีN : เธอคงไม่ลบทิ้งหรอก หรือลบไปหมดแล้ว?Yanin : ไม่นะ ฉันยังมีทุกอย่าง แต่ฉันอยากขอเขาก่อนเพราะไม่อยากให้เขาโกรธN : ขอไปทำไมYanin : ฉันทำป้ายชื่อหาย พวกพี่ว้ากบอกให้ฉันหาให้เจอ ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษทั้งรุ่น พี่ว้ากให้กระดาษแผ่นหนึ่
หลายชั่วโมงต่อมา"คนอะไรวะกินสลัดแต่มีแค่แอปเปิลกับฝรั่ง" ใบเฟิร์นมองจานสลัดของฉันที่สั่งกับแม่ค้าว่าขอแค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะอย่างอื่นฉันไม่ชอบตอนนี้เรามากินข้าวที่ศูนย์ขายอาหารในมหาวิทยาลัยที่จะเปิดขายของกินหลายๆ อย่างในช่วงเย็นตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม"คนมันชอบแค่นี้""เปิดใจให้กว้างดิ ลองกินอย่างอื่นมั่ง" นิเนยบอกฉันแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้"น้องญานิน" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อของฉันขึ้นมาแต่อีกสองคนหันไปมองด้วยและมองแบบตาค้างมาก"พี่ฮ่องเต้ มาทานที่นี่ด้วยเหรอคะ" ฉันถามแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท"ไอ้ธีก็มานะ""นินเบื่อหน้าพี่ธีแล้วค่ะ" ฉันพูดแล้วแกล้งทำหน้าสยองออกมาจนพี่ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเบาๆวันนี้พวกพี่ๆ ใส่ชุดนักศึกษากันหมดและเสื้อนักศึกษาที่คณะนี้ใส่จะเป็นสีขาวสว่างไม่เหมือนกับคณะอื่นที่เป็นสีขาวนวล เลยทำให้เด่นๆ"พวกมึงนั่งนี่กันมั้ย ขอนั่งกับน้องๆ""ยินดีค่ะ พี่ๆ นั่งได้เลยถ้าไม่พอนั่งตักเฟิร์นก็ได้ค่ะ ฮ่าๆ" ยัยนิเนยกับใบเฟิร์นรีบขยับให้พวกพี่ฮ่องเต้นั่งทันทีแบบไม่ต้องคิดให้มากความแน่นอนว่าตอนนี้มีพี่ทศกัณฐ์ด้วย เขายืนมองเงียบๆ ก่อนจะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ฉันเพร
EPISODE 01สามปีก่อนหน้า"ยัยนินแกจะไปดูพี่ๆ แข่งฟุตซอลมั้ย""..." ฉันยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว แปลว่าแม่ต้องมารับภายในอีกครึ่งชั่วโมงยังพอมีเวลา..."ไปเถอะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวยักษ์กริ้วนะ"'ยักษ์' ที่นิเนยเพื่อนสนิทของฉันพูดถึงคือ'พี่ทศกัณฐ์' รุ่นพี่ที่ฉันกำลังคบกับเขาอยู่เขาอายุห่างจากฉันสองปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มอสี่พี่ทศกัณฐ์อยู่มอหก เขามีดีกรีเป็นถึงเด็กเรียนดี กีฬาเด่น เก่งดนตรี หน้าตาดีมากอีกต่างหากที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่นธีพี่ชายของฉันแต่การที่เราเป็นแฟนกันพ่อกับแม่ไม่ได้รับรู้เพราะไม่มีใครอนุญาตให้ฉันมีแฟนยังไงล่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่ทุกคนยังคงต้องทะนุถนอมเอาไว้"มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง" ฉันตอบแล้วรีบเก็บกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินตรงไปยังโรงยิมพร้อมกับยัยนิเนยทันทีเข้าไปถึงตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เต็มโรงยิมแล้วทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแน่ล่ะเพราะพวกนักกีฬาทีมนี้มีแต่พี่ๆ ที่หน้าตาดีทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่ทศกัณฐ์ของฉัน รวมไปถึงพี่ธีด้วย เรียกได้ว่าตัวท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้"พี่ทศกัณฐ์!!" เสียงยัยนิเนยตะโกนออกไปทำให้พวกนักกีฬาพากันหั