ฉันก็กดวางสายจากพี่ชายไป แล้วเดินออกมานอกคณะกับนิเนยและใบเฟิร์นซึ่งตอนนี้กลายเป็นแก๊งเดียวกันไปแล้ว
"วันนี้พี่แกจะมารับเหรอ ขอฉันเห็นหน้าทีเถอะ" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างคาดหวังเพราะยังไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายฉันซักครั้ง
ถึงจะเรียนมหา'ลัยเดียวกัน พี่นธีจะมารับฉันบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยลงจากรถมาให้ใครเห็นเลย ของดีประจำจังหวัดก็แบบนี้แหละ
ยิ่งพี่ทศกัณฐ์ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่เกือบห้าเดือนแล้วฉันยังไม่เคยเห็นเขาเลย อาจจะเพราะเราต่างหนีหน้ากันอยู่ก็ได้
"แกไม่เจอพี่เขาเลยเหรอ"
"..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบให้นิเนยที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
"แกเอาแต่หนีไง" นิเนยพูดแล้วหันมามองฉัน
"เขาคงเกลียดฉันมาก จะเอาหน้าไปสู้เขาได้ไง"
"เรื่องมันก็นานละนะ ตอนนี้พวกเราต่างก็โตขึ้นกันแล้ว เขาเป็นเพื่อนพี่ชายแกคงไม่เกลียดกันขนาดนั้นหรอก ตอนนั้นเราก็ยังเด็กมั้ย" นิเนยเอาเรื่องนี้กลับมาพูดอีกแล้ว
ทั้งที่ฉันไม่อยากคิดถึงมันเลย
เพราะมันทำให้ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงเขา ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้เลยทั้งที่เป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆ
แต่ตอนนี้เขาคงจะไม่มีฉันอยู่ในเสี้ยวความคิดเลยด้วยซ้ำ...
"พี่นธีมาแล้วฉันไปนะ"
"เดี๋ยว! บอกพี่แกเอากระจกลงดิ ฉันอยากเห็นว่าจะโหดขนาดไหน ฮ่าๆ" ใบเฟิร์นพูดแล้วหัวเราะชอบใจ คงคิดว่าพี่ชายฉันจะเป็นแบบรุ่นพี่วิศวะที่ไว้ผมยาว หนวดเครารุงรังล่ะมั้ง
ฉันเดินมาที่รถแล้วเคาะกระจกเบาๆ
"อะไร" พี่นธีเลื่อนกระจกลงแล้วขมวดคิ้วสงสัย
"เพื่อนอยากเห็นพี่ชายนิน" แล้วฉันก็เบี่ยงตัวหลบให้เพื่อนมองเข้าไปในรถ แต่คงแค่แว่บเดียวเท่านั้นเพราะพี่นธีรีบกดเลื่อนกระจกขึ้นทันที
"นั่นมันพี่นธี!" ใบเฟิร์นมองกระจกที่เลื่อนขึ้นอ้าปากค้างจนฉันกับนิเนยยังอดขำไม่ได้
"ไปละนะ" ฉันโบกมือลาเพื่อนก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถ
"จะกินอะไร" พี่นธีทำสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยคงเพราะฉันเล่นสนุกเมื่อกี้ล่ะมั้ง
"อะไรก็ได้ค่ะ"
"..." แล้วพี่ชายฉันก็เงียบไปก่อนจะกดมือถือยุกยิกด้วยมือข้างเดียวอีกข้างขับรถอยู่
แล้วเขาก็พาฉันมาร้านข้าวที่อยู่เรียงรายหลังมหา'ลัยแต่กว่าจะหาที่จอดได้แทบจะหมดหิวกันพอดี
"ไอ้ธี!" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกพี่นธีทำให้เราทั้งคู่หันไปมองพร้อมกัน
ก่อนที่สายตาของฉันจะสะดุดกึกเข้ากับคนคนหนึ่งที่นั่งข้างรุ่นพี่วิศวะอีกคนและตอนนี้เขาก็กำลังเงยหน้าขึ้นมามองอยู่ ทำให้เราสองคนสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
และเป็นฉันที่รีบหลบสายตาของเขากลับมาที่พี่ชายตัวเองที่ยืนหน้านิ่งอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
"เดี๋ยวพี่นธี ไหนบอกว่าพี่เขาไม่มาไง" ฉันรั้งชายเสื้อช็อปสีกรมของเขาเอาไว้ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ
"ตอนแรกจะไปร้านอื่นแต่คิดไม่ออก" พี่ธีตอบแล้วหันมามองฉันหน้านิ่ง "มาเถอะมันไม่ว่าหรอก"
แล้วเขาก็เดินไปนั่งในร้านปล่อยให้ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้าร้าน
"น้องญานินมานั่งเถอะพวกพี่ไม่กัดหรอก" พี่ผู้ชายที่เรียกพี่ชายของฉันไว้เมื่อกี้นี้บอกก่อนจะขยับไปนั่งด้านในแล้วเว้นเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับพี่ทศกัณฐ์มาให้ฉัน
ฉันเดินเข้าไปนั่งเงียบๆ สั่งอาหารพร้อมกับพวกรุ่นพี่แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเพราะเริ่มทำตัวไปถูกกับสถานการณ์แบบนี้
"พี่ชื่อฮ่องเต้ คนนี้ไอ้คิวแล้วก็นี่ไอ้ทศกัณฐ์น่าจะรู้จักกันใช่มั้ย" พี่ฮ่องเต้แนะนำตัวเองและเพื่อนแต่ละคน พี่คิวยิ้มทักทายฉันแต่อีกคนไม่แม้แต่จะมองมาด้วยซ้ำ
คิดเอาเถอะว่าเขาจะเกลียดฉันขนาดไหน
"หนูชื่อญานินค่ะ"
EPISODE 06"หนูชื่อญานินค่ะ""อื้อหือ ได้ยินคำว่าหนูแล้วกูใจสั่นเลย" พี่คิวพูดแล้วยกมือขึ้นมาทาบอกตัวเองทำท่าเหมือนจะทนไม่ไหว "มีน้องน่ารักขนาดนี้กูถึงว่าไม่ยอมพามารู้จักซักที""กูกลัวน้องตัวเองไม่ปลอดภัย" พี่นธีพูดแล้วมองเพื่อนสองคนอย่างเอือมๆ จากนั้นก็พากันแซวฉันต่อซึ่งฉันก็ได้แต่ยิ้มตามแห้งๆ เพราะยังคงอึดอัดอยู่"..." ขณะที่พี่ๆ คนอื่นคุยเล่นกันคนตรงหน้าก็เอาแต่เงียบ เขาจับหลอดแล้วเล่นกับน้ำแข็งวนไปมาอยู่อย่างนั้นอีกมือก็เล่นมือถือไปเหมือนไม่สนใจคนรอบข้างเท่าไหร่นักนี่คงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เราเลิกกันไปแล้วได้มาเห็นเขาใกล้ๆ แบบนี้พี่ทศกัณฐ์ดูดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก จากที่ตอนนั้นฉันก็แทบคลั่งแล้วตอนนี้ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ แต่...ฉันคงเป็นคนที่เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วล่ะ"เป็นอะไรของมึง นั่งเงียบอยู่ได้""..." พี่ทศกัณฐ์เงยหน้าขึ้นมามองพี่ฮ่องเต้เหมือนรำคาญก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมือถือต่ออึดอัดจังครืด~Ninoey : ฉันถึงหอแล้ว แกเปิดดูกระดาษแผ่นนั้นยังข้อความของยัยนิเนยทักมาพอดีฉันจึงแกล้งสนใจเรื่องอื่นไปเพราะไม่อยากอึดอัดไปให้มากกว่านี้Yanin : ยังเลย กำลังกินข้าวหลังมอกับพี่Ninoey : เป
ฉันลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ผู้หญิงมากมายชอบเขาขนาดนั้นแต่ฉันกลับเป็นตัวร้ายที่เคยทำไม่ดีกับเขา"พี่ทศกัณฐ์" ฉันเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดประตู"..." เขาหันมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชาและเงียบเหมือนรอให้ฉันพูดต่อ"มีเรื่องจะรบกวนค่ะ""อะไร" เขาถามแล้วเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน"นินขอเบอร์กับไลน์พี่ได้มั้ย" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกำมือไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาเพราะความตื่นเต้น"...""นินโดนทำโทษรับน้อง" ฉันพูดแล้วทำหน้าสลดขณะที่อีกคนก็มองมาอย่างไม่พอใจนัก"..." เขาไม่ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียวก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งขับออกไปและปล่อยให้ฉันยืนมองเหมือนหมาข้างถนนไปเลยใจร้ายชะมัด!"ไง ไม่ได้เหรอ" พี่นธียิ้มเหมือนดูหนังตลก แต่ฉันไม่ตลกนะฉันเครียดอยู่"ถ้าได้จะทำหน้าแบบนี้มั้ยล่ะ" ฉันตอบออกไปห้วนๆ"พรุ่งนี้ไปถามมันดูอีกรอบ วันนี้ไปรับน้องมามันน่าจะเหนื่อย""ต้องไปอีกเหรอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเกลียดเราขนาดไหน" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆ"ร้องไห้อีกละ ไม่อยากเห็นแล้วนะยัยนิน""ก็นินเจ็บ""..." พี่นธีถอนหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆ ก่อนจะขับรถไปส่งฉันที่คอนโด ซึ่งอยู่ห
"โปรโมทตัวเอง" ยัยนิเนยพูดขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายเพื่อนในเฟสของฉันที่เข้ามาดูตอนนี้เกือบร้อยคนแล้วทำไมมีคนเข้ามาดูเยอะจัง"สวัสดีค่ะ นิเนยนะคะ วันนี้นิเนยจะพาสาวสวยน่ารักน่าหยิกอย่างญานินมาเปิดตัว ด้วยเพลงเพราะๆ ก่อนนอนรับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักเธอแน่ๆ"เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แต่ตอนอยู่โรงเรียนฉันก็ขึ้นแสดงโฟล์กซองเหมือนกันมันเลยไม่ได้ดูเขินเท่าไหร่"ใครอยากให้ญานินเล่นเพลงไหนรีเควซท์มาได้เลยนะคะ"แล้วเพื่อนในเฟสก็พากันขอเพลงเข้ามาจริงๆ ตอนนี้คอมเม้นขึ้นมาเป็นร้อยแล้วคนดูเพิ่มมาเกือบห้าร้อยคนเลย"อ๊ะ งั้นเอาเพลงนี้นะคะ กำลังเข้ากับอารมณ์คนร้องพอดี" ว่าแล้วยัยนิเนยก็ใช้มือถือตัวเองเปิดคอร์ดและเนื้อเพลงให้ฉันดูเพลงนี้ฉันฟังบ่อยนะ และเศร้าทุกครั้งด้วย"ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมค่ะ" พอนิเนยพูดจบฉันก็เริ่มเล่นเพลงนั้นทันทีอยากจะรู้วิธีลืมใครสักคนต้องทำอย่างไร เก็บข้าวของของเธอที่มีอยู่ และโยนทิ้งมันไปไม่เหลืออะไรเลย และลบทุกรูปที่มีเธอ ภาพความทรงจำในวันนั้น ลบมันไปทุกข้อความตั้งแต่วันที่เราได้พบกันยัยนิเนยช่วยร้องเสริมท่อนนี้ด้วย ขณะที่ฉันก็เล่นกีตาร์และร้องไปอย่างนั้น อยู่ๆ ค
หลังจากออกไลฟ์สดนั่นแล้วก็มีคนมาเพิ่มเพื่อนในเฟสมากมายเลย ไหนจะข้อความที่พวกเขาทักมาหาอีกแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบใครแม้แต่คนเดียวN : ทำไมต้องร้องเพลงเศร้าขนาดนั้นฉันเปิดอ่านข้อความนั้นแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง เก็บไดร์เป่าผมแล้วหยิบมันขึ้นมาตอบYanin : ก็คนมันเศร้าN : เรื่องไหนอีกYanin : เรื่องเดิม ไม่น่าถามที่จริงฉันเคยระบายเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นใครแต่เขาก็ยอมรับฟังปัญหาใจของฉันได้เป็นอย่างดีN : ทำไมYanin : วันนี้เจอเขาด้วย เขามองฉันเหมือนเกลียดมากๆ ทั้งที่ฉันคิดว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำลงไปบ้าง แต่ฉันก็ผิดจริงๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้N : รู้ได้ไงว่าเขาเกลียดYanin: ฉันไปขอเบอร์กับไลน์ของเขาแต่เขาไม่ให้ แล้วยังหนีไปอีก สายตาที่มองมามันทำให้ฉันเจ็บปวดมากเลยนายรู้มั้ยN : เธอก็มีแล้วไม่ใช่เหรอYanin : รู้ได้ยังไงว่ามีN : เธอคงไม่ลบทิ้งหรอก หรือลบไปหมดแล้ว?Yanin : ไม่นะ ฉันยังมีทุกอย่าง แต่ฉันอยากขอเขาก่อนเพราะไม่อยากให้เขาโกรธN : ขอไปทำไมYanin : ฉันทำป้ายชื่อหาย พวกพี่ว้ากบอกให้ฉันหาให้เจอ ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษทั้งรุ่น พี่ว้ากให้กระดาษแผ่นหนึ่
หลายชั่วโมงต่อมา"คนอะไรวะกินสลัดแต่มีแค่แอปเปิลกับฝรั่ง" ใบเฟิร์นมองจานสลัดของฉันที่สั่งกับแม่ค้าว่าขอแค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะอย่างอื่นฉันไม่ชอบตอนนี้เรามากินข้าวที่ศูนย์ขายอาหารในมหาวิทยาลัยที่จะเปิดขายของกินหลายๆ อย่างในช่วงเย็นตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม"คนมันชอบแค่นี้""เปิดใจให้กว้างดิ ลองกินอย่างอื่นมั่ง" นิเนยบอกฉันแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้"น้องญานิน" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อของฉันขึ้นมาแต่อีกสองคนหันไปมองด้วยและมองแบบตาค้างมาก"พี่ฮ่องเต้ มาทานที่นี่ด้วยเหรอคะ" ฉันถามแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท"ไอ้ธีก็มานะ""นินเบื่อหน้าพี่ธีแล้วค่ะ" ฉันพูดแล้วแกล้งทำหน้าสยองออกมาจนพี่ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเบาๆวันนี้พวกพี่ๆ ใส่ชุดนักศึกษากันหมดและเสื้อนักศึกษาที่คณะนี้ใส่จะเป็นสีขาวสว่างไม่เหมือนกับคณะอื่นที่เป็นสีขาวนวล เลยทำให้เด่นๆ"พวกมึงนั่งนี่กันมั้ย ขอนั่งกับน้องๆ""ยินดีค่ะ พี่ๆ นั่งได้เลยถ้าไม่พอนั่งตักเฟิร์นก็ได้ค่ะ ฮ่าๆ" ยัยนิเนยกับใบเฟิร์นรีบขยับให้พวกพี่ฮ่องเต้นั่งทันทีแบบไม่ต้องคิดให้มากความแน่นอนว่าตอนนี้มีพี่ทศกัณฐ์ด้วย เขายืนมองเงียบๆ ก่อนจะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ฉันเพร
EPISODE 01สามปีก่อนหน้า"ยัยนินแกจะไปดูพี่ๆ แข่งฟุตซอลมั้ย""..." ฉันยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว แปลว่าแม่ต้องมารับภายในอีกครึ่งชั่วโมงยังพอมีเวลา..."ไปเถอะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวยักษ์กริ้วนะ"'ยักษ์' ที่นิเนยเพื่อนสนิทของฉันพูดถึงคือ'พี่ทศกัณฐ์' รุ่นพี่ที่ฉันกำลังคบกับเขาอยู่เขาอายุห่างจากฉันสองปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มอสี่พี่ทศกัณฐ์อยู่มอหก เขามีดีกรีเป็นถึงเด็กเรียนดี กีฬาเด่น เก่งดนตรี หน้าตาดีมากอีกต่างหากที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่นธีพี่ชายของฉันแต่การที่เราเป็นแฟนกันพ่อกับแม่ไม่ได้รับรู้เพราะไม่มีใครอนุญาตให้ฉันมีแฟนยังไงล่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่ทุกคนยังคงต้องทะนุถนอมเอาไว้"มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง" ฉันตอบแล้วรีบเก็บกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินตรงไปยังโรงยิมพร้อมกับยัยนิเนยทันทีเข้าไปถึงตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เต็มโรงยิมแล้วทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแน่ล่ะเพราะพวกนักกีฬาทีมนี้มีแต่พี่ๆ ที่หน้าตาดีทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่ทศกัณฐ์ของฉัน รวมไปถึงพี่ธีด้วย เรียกได้ว่าตัวท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้"พี่ทศกัณฐ์!!" เสียงยัยนิเนยตะโกนออกไปทำให้พวกนักกีฬาพากันหั
EPISODE 02ครืด~ ครืด~'ยักษ์ของนิน'ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะรีบกดวางสายแล้วพิมพ์ข้อความตอบไปในไลน์แทนYanin : รอแป๊บนึงนะ นินกำลังจะขึ้นห้อง'แล้วฉันจึงรีบหยัดตัวลุกออกไปจากตรงนั้น ที่มีพ่อแม่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่"จะนอนแล้วเหรอลูก อ่านหนังสือบ้างนะ" แม่หันมาถามแล้วมองมือถือในมือฉัน"ค่ะแม่" ฉันยิ้มตอบคุณแม่ก่อนรีบเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตัวเองฝั่งขวามือ ถัดจากห้องของพี่นธี ซึ่งตอนนี้ยังไม่กลับมาบ้านของที่ทศกัณฐ์จะใกล้โรงเรียนมากกว่าเราทำให้เขาถึงก่อนพี่นธีราวๆ สิบนาที"มาแล้ว" ฉันกดโทรออกไปเบอร์เดิมแล้วยิ้มออกมาทันทีที่เขากดรับสาย(พี่กำลังจะอาบน้ำ อาบด้วยกันมั้ย)"พูดอะไรเนี่ย น่าเกลียดค่ะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่กำลังแดดิ้นและมุดหน้าลงกับหมอนเพราะความอาย(น่าเกลียดอะไร คิดอะไรอยู่เรา) เขาหัวเราะในลำคอกวนๆ แล้วพูดออกมา"คุยก่อนค่ะแล้วค่อยไปอาบ เดี๋ยวนินต้องไปอ่านหนังสือแล้ว" ฉันบอกแล้วผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้นตอนคุยสายกับเขาเราคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียนก็ได้เจอกันบ้าง แต่เพราะเขาเป็นพี่มอหกที่ใกล้จบแล้วเลยไม่ค่อยได้อยู่ใกล้กันเท่าไหร่นักมีเรื่อ
EPISODE 03ฉันตัดสินใจกดโทรออกไปเบอร์ที่คุ้นเคย ครั้งนี้หัวใจของฉันมันเต้นรัวราวกับโดนเขย่าแรงๆ และบีบขย้ำจนรู้สึกจุกไปหมด(ครับ)ไม่นานนักเขาก็กดรับสายด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเหมือนทุกๆ ครั้ง"..." ฉันยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองและไม่กล้าพูดอะไรออกไป มันทั้งเจ็บทั้งจุกตรงหน้าอกข้างซ้าย(ญานิน...เป็นอะไร ทำไมไม่พูด) เขาพูดขึ้นเหมือนกังวลใจไม่น้อย ถ้าเทียบกับฉันเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเยอะเลย"พี่ทศกัณฐ์..." ฉันหยุดพูดแล้วสะอื้นออกมา(ว่าไง เป็นอะไรไป)"เราเลิกกันเถอะค่ะ"(...)ฉันพูดมันออกไปแล้ว เขาเงียบไปในทันทีจนฉันรู้สึกใจหาย แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเอง"นินขอโทษ"(มันพูดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ อยู่ๆ เธอถึงพูดมันออกมา) เสียงของเขาเปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกกลัวเพราะตั้งแต่คบกันมาเขาก็ดีกับฉันมาโดยตลอด"ขอโทษค่ะ แต่นินคบกับพี่ทศกัณฐ์ไม่ได้แล้ว"(เธอทำฉันผิดหวังนะ) เขาพูดเสียงเรียบจนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้"พี่ทศกัณฐ์"(มาบอกเลิกง่ายๆ โดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ คิดว่าฉันมันไม่มีหัวใจเหรอ)"..." ฉันได้แต่เงียบและขอโทษเขาอยู่ในใจ ร้องไห้ออกมาอยู่อย่างนั้น(เลิกก็เลิก ถ้าเธอต้องการ ฉันจะไม่ถามหาเหตุ