EPISODE 05
แล้วเราก็ต้องกลับมาเข้าแถวเหมือนเดิมเพราะไม่มีใครหาป้ายชื่อของฉันได้
"สรุปว่ายังไงครับ! หาไม่เจอใช่มั้ย! งั้นเพื่อนคนนี้ก็ไม่ต้องเอารุ่น!"
"ไม่ต้องเอามันแล้ว!! แค่ป้ายชื่อยังรักษาไว้ไม่ได้เลย" พี่ว้ากคนอื่นๆ ก็เริ่มต่อว่าเสริมขึ้นมา
"ยังไงคุณ จะยอมออกจากรุ่นมั้ย" พี่ผู้ชายคนเดิมที่เข้ามาถามหาป้ายชื่อฉันก่อนหน้าพูดขึ้น
"ไม่ค่ะ"
"แล้วคุณจะทำยังครับ ตอนนี้เพื่อนหิวข้าวกันหมดแล้วเพราะคุณคนเดียวที่มีปัญหา" พี่ปีสามคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่มันแฝงไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ หน่อย
"หนูจะหาเองค่ะ ขอเวลา"
"โอ๊ย!! ขอเวลาเหรอ เมื่อกี้ก็ให้ไปแล้วครึ่งชั่วโมง คนหาหลายร้อยไม่เจอคุณคนเดียวจะเจอเหรอ!!"พี่ว้ากผู้หญิงพูดขึ้นเสียงดังจนแสบแก้วหูไปหมด อยากจะหยิบน้ำผึ้งมะนาวมาให้พี่แกเหลือเกิน
"หนูจะหาให้เจอค่ะ"
"พวกคุณว่ายังไง! จะให้เพื่อนหาหรือจะไม่ให้อยู่ในรุ่นคุณแล้ว!!" แล้วพี่เฮดว้ากก็หันไปตะโกนถามพวกเพื่อนๆ ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ "จะเอาอยู่มั้ยเพื่อนคนนี้ คนที่สร้างปัญหาให้พวกคุณเนี่ย ต้องมาอดข้าวอดน้ำอีก"
"เอาค่ะ/เอาครับ"
เพื่อนพากันตอบอย่างพร้อมเพรียง ถ้าไม่ใช่การรับน้องที่ทดสอบความสามัคคีกันอยู่ละก็ ฉันคงโดนพวกมันรุมด่าแล้วล่ะ
"ได้!! งั้นผมจะให้เวลาคุณสองวัน หาป้ายชื่อตัวเองให้เจอ ถ้าไม่เจอเพื่อนคุณโดนทำโทษทั้งหมด หรือไม่ก็ไม่ต้องรับติ้งคณะเรา!!"
ฉันได้แต่ก้มหน้าเงียบๆ หนทางมืดมนไปหมด ฉันจะหาเจอจากที่ไหนล่ะเผลอๆ อาจจะมีคนเอาไปซ่อนด้วย
ตอนนี้เพื่อนพากันเลิกลักใหญ่ คงคิดว่าฉันจะทำไม่ได้แน่ๆ
"ฉันจะช่วยแกหา ไม่ต้องกลัว" นิเนยเอื้อมมือมาจับแขนฉันอย่างให้กำลังใจ ตอนที่เดินกลับมาเข้าแถว
"ฉันด้วย แกวางใจได้เราต้องหาเจอ" ใบเฟิร์นพูดเสริมสีหน้ามุ่งมั่น
"เอ้า! เงียบครับ เพื่อนผมมีอะไรจะบอก"
แล้วพี่ว้ากผู้หญิงตัวอ้วนๆ หน้าดุๆ ก็เดินขึ้นไปบนแท่นแทนเฮดว้าก ก่อนจะบอกระเบียบและเวลานัดเจอครั้งต่อไปก็คือเย็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้
แปลว่าฉันต้องหาป้ายตัวเองให้เจอก่อนเย็นวันนั้น
"หนึ่งสามเก้า" พี่ผู้ชายที่ทักป้ายชื่อของฉันเดินมายืนข้างๆ ก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ "ห้ามเปิดจนกว่าจะถึงห้องคุณ คนที่เจอป้ายคุณเขาฝากมา"
ฉันรับมันไว้แล้วยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่คนนั้น
"ขอบคุณค่ะ"
เขาทำหน้าดุๆ เหมือนเคยก่อนจะเดินไปเงียบๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วพวกเราก็ถูกปล่อยออกมา ต่างคนต่างแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง
ครืด~ ครืด~
'P'Natee'
"อื้ม~" ฉันกดรับสายจากพี่ชายตัวเองอย่างเหนื่อยล้าระหว่างที่กำลังหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือไว้
เขาโทรมาพอดีราวกับรู้ว่าฉันรับน้องเสร็จแล้ว หรืออาจจะเพราะเขาเลิกรับน้องเวลานี้เหมือนกัน
(อะไร ทำไมทำเสียงแบบนั้น)
"เปล่าค่ะ พี่จะมารับนินใช่มั้ย จะเดินไปรอตรงป้ายหน้าคณะนะ"
(อืม ว่าจะไปกินข้าวหลังมอ ไปมั้ย)
"ใครไปบ้างคะ" ฉันถามแบบนี้ทุกครั้งที่พี่ชายตัวเองเอ่ยชวน เพราะว่าฉันกลัวพี่ทศกัณฐ์จะมาด้วย
ฉันไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา ถึงแม่เรื่องมันจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
อีกอย่างเขาก็คงไม่อยากเจอหน้าฉัน
(ไม่มี)
"ได้ค่ะ นินจะไปทานด้วย แค่นี้นะจะไปรอแล้ว"
ฉันก็กดวางสายจากพี่ชายไป แล้วเดินออกมานอกคณะกับนิเนยและใบเฟิร์นซึ่งตอนนี้กลายเป็นแก๊งเดียวกันไปแล้ว"วันนี้พี่แกจะมารับเหรอ ขอฉันเห็นหน้าทีเถอะ" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างคาดหวังเพราะยังไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายฉันซักครั้งถึงจะเรียนมหา'ลัยเดียวกัน พี่นธีจะมารับฉันบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยลงจากรถมาให้ใครเห็นเลย ของดีประจำจังหวัดก็แบบนี้แหละยิ่งพี่ทศกัณฐ์ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่เกือบห้าเดือนแล้วฉันยังไม่เคยเห็นเขาเลย อาจจะเพราะเราต่างหนีหน้ากันอยู่ก็ได้"แกไม่เจอพี่เขาเลยเหรอ""..." ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบให้นิเนยที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี"แกเอาแต่หนีไง" นิเนยพูดแล้วหันมามองฉัน"เขาคงเกลียดฉันมาก จะเอาหน้าไปสู้เขาได้ไง""เรื่องมันก็นานละนะ ตอนนี้พวกเราต่างก็โตขึ้นกันแล้ว เขาเป็นเพื่อนพี่ชายแกคงไม่เกลียดกันขนาดนั้นหรอก ตอนนั้นเราก็ยังเด็กมั้ย" นิเนยเอาเรื่องนี้กลับมาพูดอีกแล้วทั้งที่ฉันไม่อยากคิดถึงมันเลยเพราะมันทำให้ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงเขา ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้เลยทั้งที่เป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆแต่ตอนนี้เขาคงจะไม่มีฉันอยู่ในเสี้ยวความคิดเลยด้วยซ้ำ..."พี่นธีมาแล้วฉั
EPISODE 06"หนูชื่อญานินค่ะ""อื้อหือ ได้ยินคำว่าหนูแล้วกูใจสั่นเลย" พี่คิวพูดแล้วยกมือขึ้นมาทาบอกตัวเองทำท่าเหมือนจะทนไม่ไหว "มีน้องน่ารักขนาดนี้กูถึงว่าไม่ยอมพามารู้จักซักที""กูกลัวน้องตัวเองไม่ปลอดภัย" พี่นธีพูดแล้วมองเพื่อนสองคนอย่างเอือมๆ จากนั้นก็พากันแซวฉันต่อซึ่งฉันก็ได้แต่ยิ้มตามแห้งๆ เพราะยังคงอึดอัดอยู่"..." ขณะที่พี่ๆ คนอื่นคุยเล่นกันคนตรงหน้าก็เอาแต่เงียบ เขาจับหลอดแล้วเล่นกับน้ำแข็งวนไปมาอยู่อย่างนั้นอีกมือก็เล่นมือถือไปเหมือนไม่สนใจคนรอบข้างเท่าไหร่นักนี่คงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เราเลิกกันไปแล้วได้มาเห็นเขาใกล้ๆ แบบนี้พี่ทศกัณฐ์ดูดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก จากที่ตอนนั้นฉันก็แทบคลั่งแล้วตอนนี้ยิ่งมากเข้าไปใหญ่ แต่...ฉันคงเป็นคนที่เขาเลือกจะมองข้ามไปแล้วล่ะ"เป็นอะไรของมึง นั่งเงียบอยู่ได้""..." พี่ทศกัณฐ์เงยหน้าขึ้นมามองพี่ฮ่องเต้เหมือนรำคาญก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองมือถือต่ออึดอัดจังครืด~Ninoey : ฉันถึงหอแล้ว แกเปิดดูกระดาษแผ่นนั้นยังข้อความของยัยนิเนยทักมาพอดีฉันจึงแกล้งสนใจเรื่องอื่นไปเพราะไม่อยากอึดอัดไปให้มากกว่านี้Yanin : ยังเลย กำลังกินข้าวหลังมอกับพี่Ninoey : เป
ฉันลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ ผู้หญิงมากมายชอบเขาขนาดนั้นแต่ฉันกลับเป็นตัวร้ายที่เคยทำไม่ดีกับเขา"พี่ทศกัณฐ์" ฉันเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะเปิดประตู"..." เขาหันมามองฉันด้วยสีหน้าเย็นชาและเงียบเหมือนรอให้ฉันพูดต่อ"มีเรื่องจะรบกวนค่ะ""อะไร" เขาถามแล้วเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน"นินขอเบอร์กับไลน์พี่ได้มั้ย" ฉันพูดออกไปพร้อมกับกำมือไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาเพราะความตื่นเต้น"...""นินโดนทำโทษรับน้อง" ฉันพูดแล้วทำหน้าสลดขณะที่อีกคนก็มองมาอย่างไม่พอใจนัก"..." เขาไม่ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียวก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งขับออกไปและปล่อยให้ฉันยืนมองเหมือนหมาข้างถนนไปเลยใจร้ายชะมัด!"ไง ไม่ได้เหรอ" พี่นธียิ้มเหมือนดูหนังตลก แต่ฉันไม่ตลกนะฉันเครียดอยู่"ถ้าได้จะทำหน้าแบบนี้มั้ยล่ะ" ฉันตอบออกไปห้วนๆ"พรุ่งนี้ไปถามมันดูอีกรอบ วันนี้ไปรับน้องมามันน่าจะเหนื่อย""ต้องไปอีกเหรอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเกลียดเราขนาดไหน" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆ"ร้องไห้อีกละ ไม่อยากเห็นแล้วนะยัยนิน""ก็นินเจ็บ""..." พี่นธีถอนหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆ ก่อนจะขับรถไปส่งฉันที่คอนโด ซึ่งอยู่ห
"โปรโมทตัวเอง" ยัยนิเนยพูดขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายเพื่อนในเฟสของฉันที่เข้ามาดูตอนนี้เกือบร้อยคนแล้วทำไมมีคนเข้ามาดูเยอะจัง"สวัสดีค่ะ นิเนยนะคะ วันนี้นิเนยจะพาสาวสวยน่ารักน่าหยิกอย่างญานินมาเปิดตัว ด้วยเพลงเพราะๆ ก่อนนอนรับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักเธอแน่ๆ"เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ แต่ตอนอยู่โรงเรียนฉันก็ขึ้นแสดงโฟล์กซองเหมือนกันมันเลยไม่ได้ดูเขินเท่าไหร่"ใครอยากให้ญานินเล่นเพลงไหนรีเควซท์มาได้เลยนะคะ"แล้วเพื่อนในเฟสก็พากันขอเพลงเข้ามาจริงๆ ตอนนี้คอมเม้นขึ้นมาเป็นร้อยแล้วคนดูเพิ่มมาเกือบห้าร้อยคนเลย"อ๊ะ งั้นเอาเพลงนี้นะคะ กำลังเข้ากับอารมณ์คนร้องพอดี" ว่าแล้วยัยนิเนยก็ใช้มือถือตัวเองเปิดคอร์ดและเนื้อเพลงให้ฉันดูเพลงนี้ฉันฟังบ่อยนะ และเศร้าทุกครั้งด้วย"ลบไม่ได้ช่วยให้ลืมค่ะ" พอนิเนยพูดจบฉันก็เริ่มเล่นเพลงนั้นทันทีอยากจะรู้วิธีลืมใครสักคนต้องทำอย่างไร เก็บข้าวของของเธอที่มีอยู่ และโยนทิ้งมันไปไม่เหลืออะไรเลย และลบทุกรูปที่มีเธอ ภาพความทรงจำในวันนั้น ลบมันไปทุกข้อความตั้งแต่วันที่เราได้พบกันยัยนิเนยช่วยร้องเสริมท่อนนี้ด้วย ขณะที่ฉันก็เล่นกีตาร์และร้องไปอย่างนั้น อยู่ๆ ค
หลังจากออกไลฟ์สดนั่นแล้วก็มีคนมาเพิ่มเพื่อนในเฟสมากมายเลย ไหนจะข้อความที่พวกเขาทักมาหาอีกแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบใครแม้แต่คนเดียวN : ทำไมต้องร้องเพลงเศร้าขนาดนั้นฉันเปิดอ่านข้อความนั้นแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง เก็บไดร์เป่าผมแล้วหยิบมันขึ้นมาตอบYanin : ก็คนมันเศร้าN : เรื่องไหนอีกYanin : เรื่องเดิม ไม่น่าถามที่จริงฉันเคยระบายเรื่องนี้กับเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นใครแต่เขาก็ยอมรับฟังปัญหาใจของฉันได้เป็นอย่างดีN : ทำไมYanin : วันนี้เจอเขาด้วย เขามองฉันเหมือนเกลียดมากๆ ทั้งที่ฉันคิดว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำลงไปบ้าง แต่ฉันก็ผิดจริงๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้N : รู้ได้ไงว่าเขาเกลียดYanin: ฉันไปขอเบอร์กับไลน์ของเขาแต่เขาไม่ให้ แล้วยังหนีไปอีก สายตาที่มองมามันทำให้ฉันเจ็บปวดมากเลยนายรู้มั้ยN : เธอก็มีแล้วไม่ใช่เหรอYanin : รู้ได้ยังไงว่ามีN : เธอคงไม่ลบทิ้งหรอก หรือลบไปหมดแล้ว?Yanin : ไม่นะ ฉันยังมีทุกอย่าง แต่ฉันอยากขอเขาก่อนเพราะไม่อยากให้เขาโกรธN : ขอไปทำไมYanin : ฉันทำป้ายชื่อหาย พวกพี่ว้ากบอกให้ฉันหาให้เจอ ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษทั้งรุ่น พี่ว้ากให้กระดาษแผ่นหนึ่
หลายชั่วโมงต่อมา"คนอะไรวะกินสลัดแต่มีแค่แอปเปิลกับฝรั่ง" ใบเฟิร์นมองจานสลัดของฉันที่สั่งกับแม่ค้าว่าขอแค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะอย่างอื่นฉันไม่ชอบตอนนี้เรามากินข้าวที่ศูนย์ขายอาหารในมหาวิทยาลัยที่จะเปิดขายของกินหลายๆ อย่างในช่วงเย็นตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม"คนมันชอบแค่นี้""เปิดใจให้กว้างดิ ลองกินอย่างอื่นมั่ง" นิเนยบอกฉันแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้"น้องญานิน" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อของฉันขึ้นมาแต่อีกสองคนหันไปมองด้วยและมองแบบตาค้างมาก"พี่ฮ่องเต้ มาทานที่นี่ด้วยเหรอคะ" ฉันถามแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท"ไอ้ธีก็มานะ""นินเบื่อหน้าพี่ธีแล้วค่ะ" ฉันพูดแล้วแกล้งทำหน้าสยองออกมาจนพี่ฮ่องเต้หัวเราะออกมาเบาๆวันนี้พวกพี่ๆ ใส่ชุดนักศึกษากันหมดและเสื้อนักศึกษาที่คณะนี้ใส่จะเป็นสีขาวสว่างไม่เหมือนกับคณะอื่นที่เป็นสีขาวนวล เลยทำให้เด่นๆ"พวกมึงนั่งนี่กันมั้ย ขอนั่งกับน้องๆ""ยินดีค่ะ พี่ๆ นั่งได้เลยถ้าไม่พอนั่งตักเฟิร์นก็ได้ค่ะ ฮ่าๆ" ยัยนิเนยกับใบเฟิร์นรีบขยับให้พวกพี่ฮ่องเต้นั่งทันทีแบบไม่ต้องคิดให้มากความแน่นอนว่าตอนนี้มีพี่ทศกัณฐ์ด้วย เขายืนมองเงียบๆ ก่อนจะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ฉันเพร
EPISODE 01สามปีก่อนหน้า"ยัยนินแกจะไปดูพี่ๆ แข่งฟุตซอลมั้ย""..." ฉันยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงครึ่งแล้ว แปลว่าแม่ต้องมารับภายในอีกครึ่งชั่วโมงยังพอมีเวลา..."ไปเถอะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวยักษ์กริ้วนะ"'ยักษ์' ที่นิเนยเพื่อนสนิทของฉันพูดถึงคือ'พี่ทศกัณฐ์' รุ่นพี่ที่ฉันกำลังคบกับเขาอยู่เขาอายุห่างจากฉันสองปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มอสี่พี่ทศกัณฐ์อยู่มอหก เขามีดีกรีเป็นถึงเด็กเรียนดี กีฬาเด่น เก่งดนตรี หน้าตาดีมากอีกต่างหากที่สำคัญเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่นธีพี่ชายของฉันแต่การที่เราเป็นแฟนกันพ่อกับแม่ไม่ได้รับรู้เพราะไม่มีใครอนุญาตให้ฉันมีแฟนยังไงล่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กที่ทุกคนยังคงต้องทะนุถนอมเอาไว้"มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง" ฉันตอบแล้วรีบเก็บกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินตรงไปยังโรงยิมพร้อมกับยัยนิเนยทันทีเข้าไปถึงตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เต็มโรงยิมแล้วทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแน่ล่ะเพราะพวกนักกีฬาทีมนี้มีแต่พี่ๆ ที่หน้าตาดีทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่ทศกัณฐ์ของฉัน รวมไปถึงพี่ธีด้วย เรียกได้ว่าตัวท็อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้"พี่ทศกัณฐ์!!" เสียงยัยนิเนยตะโกนออกไปทำให้พวกนักกีฬาพากันหั
EPISODE 02ครืด~ ครืด~'ยักษ์ของนิน'ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะรีบกดวางสายแล้วพิมพ์ข้อความตอบไปในไลน์แทนYanin : รอแป๊บนึงนะ นินกำลังจะขึ้นห้อง'แล้วฉันจึงรีบหยัดตัวลุกออกไปจากตรงนั้น ที่มีพ่อแม่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่"จะนอนแล้วเหรอลูก อ่านหนังสือบ้างนะ" แม่หันมาถามแล้วมองมือถือในมือฉัน"ค่ะแม่" ฉันยิ้มตอบคุณแม่ก่อนรีบเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตัวเองฝั่งขวามือ ถัดจากห้องของพี่นธี ซึ่งตอนนี้ยังไม่กลับมาบ้านของที่ทศกัณฐ์จะใกล้โรงเรียนมากกว่าเราทำให้เขาถึงก่อนพี่นธีราวๆ สิบนาที"มาแล้ว" ฉันกดโทรออกไปเบอร์เดิมแล้วยิ้มออกมาทันทีที่เขากดรับสาย(พี่กำลังจะอาบน้ำ อาบด้วยกันมั้ย)"พูดอะไรเนี่ย น่าเกลียดค่ะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่กำลังแดดิ้นและมุดหน้าลงกับหมอนเพราะความอาย(น่าเกลียดอะไร คิดอะไรอยู่เรา) เขาหัวเราะในลำคอกวนๆ แล้วพูดออกมา"คุยก่อนค่ะแล้วค่อยไปอาบ เดี๋ยวนินต้องไปอ่านหนังสือแล้ว" ฉันบอกแล้วผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้นตอนคุยสายกับเขาเราคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียนก็ได้เจอกันบ้าง แต่เพราะเขาเป็นพี่มอหกที่ใกล้จบแล้วเลยไม่ค่อยได้อยู่ใกล้กันเท่าไหร่นักมีเรื่อ