แสงอรุณยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดรับลม แสงแรกของวันใหม่เข้ามาคลอเคลียปลุกนิญาดาให้ตื่นจากการหลับใหลเหมือนเช่นทุกวัน ทุกชีวิตกำลังเริ่มเคลื่อนไหว ตามวิถีทางแห่งตน
เช้าวันนี้ ข้าราชการวัยเกษียณทั้งคู่ออกไปที่ไร่ก่อนลูกสาวจะตื่น นิญาดาจึงอนุญาตให้ตนเองเหลวไหลสักวัน
เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอกลับนอนเอนกายบนเก้าอี้หวายตรงระเบียงบ้าน ทอดสายตามองออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย
กาแฟในแก้วที่เคยส่งไอร้อนหอมกรุ่นบัดนี้ กลับเย็นชืด ไม่พร่องลงแม้แต่น้อย คราบน้ำตายังคงปรากฏอยู่บนใบหน้านวลลออ เหตุการณ์ถูกตำหนิจากท่านรองฯ เมื่อวาน มันยังคงแจ่มชัดในหัวจนแทบไม่อยากเข้าสำนักงาน
แสงแดดที่เริ่มแผดกล้าขึ้นรบเร้าให้ร่างบางค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้หวาย แม้จะไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ต้องออกโบยบิน จนกว่าจะสิ้นลม มันคือ หน้าที่ของมนุษย์กินเงินเดือนอย่างเธอ !
08.50 น.
นิญาดาเหลือบดูนาฬิกาบนผนังห้อง พร้อม ๆ กับหัวหน้าสำนักงานจ้องคนมาสายจนตาแทบจะถลนออกจากเบ้า
หล่อนจ้องตากลับไม่ยอมหลบพร้อมกับยกมือไหว้ แต่ไม่ยิ้มเหมือนเช่นเคย
“สวัสดีค่ะหัวหน้า”
นิญาดาทักทายเสียงแข็ง เพราะยังคงเสียใจและผิดหวังกับการกระทำของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่ใส่ร้ายป้ายสีจนเธอถูกท่านรองฯ ตำหนิอย่างรุนแรง
คนถูกไหว้มองผู้ใต้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเย็นชา ก่อนที่จะสะบัดหน้าอวบอูมไปทางอื่นแล้ว สาวเท้าเข้าห้องครัวเพื่อสวาปามอาหารคลีน ๆ ที่นางอุตส่าห์อดทนกินเพื่อลดน้ำหนัก!!!
นิญาดายักไหล่ หน้าเชิดขึ้น ก่อนทิ้งตัวลงที่นั่งอย่างสง่างาม ให้สมกับเป็นสาวสวยประจำสำนักงานเธอย้ำกับตัวเองให้เข้มแข็ง เรื่องเมื่อวานจบไปแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ดังนั้น เธอต้องเร่งมือทำโครงการอบรมที่หล่อนเป็นคนปั้นมันมากับมือให้สำเร็จ
แม้เวลาจะล่วงเข้าสู่ภาคบ่ายของการทำงานแล้ว แต่ในหัวนิญาดายังคงมีภาพของเมื่อวานวนเวียนซ้ำๆ ภาพที่ถูกท่านรองฯ ด่า เพราะการสาดสีของหัวหน้าเน่า ๆ ความรู้สึก “เจ็บ” “เอาคืน” มันฝังลึกลงในใจ เสียงในใจของผู้ถูกกระทำมันร่ำร้องให้แก้แค้น แต่หล่อนจะเอาคืนหัวหน้าได้อย่างไร ? ยังไง ?
“เชิญด้าน นี้ คร่า ”
เสียงนางยักษ์แปร๋นเข้ามาในสำนักงานก่อนตัวขนาดมหึมาจะย้ายร่างเข้ามา
นิญาดาตวัดสายตามองต้นเสียงที่ระริกระรี้จนผิดวิสัย เมื่อร่างท้วมใหญ่ก้าวพ้นประตูสำนักงานเข้ามา ชายหนุ่มร่างสูงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีครีมก็ก้าวเท้าตามเข้ามาติด ๆ กางเกงขายาวกระชับตะโพกแกร่งและท่อนขายาวล่ำสัน ทำให้ร่างสูงนั้นดูสง่างามยิ่งขึ้น ใบหน้าได้รูปคล้าย ๆ พระเอกเกาหลีนั้นเคร่งขรึม สายตาคมกริบไม่ว่อกแว่กสอดส่าย แม้ยามเดินผ่านบรรดาโต๊ะสาว ๆ
‘เจ้าชายน้ำแข็ง!’
นิญาดาสรุปท่าทีของชายหนุ่มกับตนเอง ร่างมาดเนี้ยบเดินตามตูดอันโอฬารของนางยักษ์ไปจนถึงโต๊ะทำงาน
นางยักษ์วางท่ากระบิดกระบวน ยิ้มแฉ่งจนหน้าแทบจะระเบิด ดีใจจนออกนอกหน้าที่มีหนุ่มหล่อเดินตาม แม้จะเป็นการเดินตามด้วยหน้าที่การงานก็ตาม นางก็อดที่จะดีใจไม่ได้
“เชิญนั่งค่ะ”
เจ้าของโต๊ะหย่อนตัวลงนั่งอย่างสะดีดสะดิ้งก่อนที่จะผายมือให้หนุ่มหล่อนั่งลงเช่นกัน
มุมปากของนิญาดายกขึ้นยิ้มน้อย ๆ
“นิ!! ยิ้มอะไร”
พี่เกด ถลาเข้ามาหา
“ดูสิ สงสัยนางยักษ์ผีเสื้อสมุทรจะตามพระอภัยมณีจนเจอ แล้วลากกลับมากินในถ้ำแน่ ๆ”
นิญาดาพยักพเยิดให้ดูฉากในวรรณคดีไทยใบหน้าอวบอูมของหัวหน้าสำนักงานที่แต่งจนหนาเตอะเพื่อกลบริ้วรอยฉีกยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับส่งให้อาจารย์หนุ่มหล่อที่นั่งบนเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะ ที่ที่หล่อนเคยนั่งเมื่อสองวันก่อน ! แต่สถานการณ์ช่างแตกต่างกันนัก
“เห็นผู้ชายล่ะยิ้ม เห็นลูกน้องล่ะบึ้งอิอิ”
พี่เกดกระเซ้า
นิญาดากลั้นหัวเราะจนน้ำตาเล็ด
“แหม พี่เกดพูดถูกใจ”
พี่เกดหัวเราะตาหยี พลางยกมือขึ้นปิดปากกลั้นหัวเราะจนไหล่กระเพื่อม
“เอ่อ ว่าแต่ อาจารย์คนนั้นเป็นใครคะ? ทำไมหัวหน้าถึงได้ดี๊ด๊าขนาดนั้น”
นิญาดาโบ้ยปากไปยังผู้ตกเป็นประเด็นสนทนา
“เอ๊า! เธอ”
พี่เกดลากเสียง แล้วลดเสียงลงราวกับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดที่จะต้องรีบดำเนินการในทันที
“คนนี้ก็อาจารย์เตชินไง ! เป็นตัวท็อปของคณะวิศวะฯ เลยนะ อย่างที่เห็น หล่อมาก ๆ กอไก่ล้านตัว”
สาวใหญ่ส่งสายตาหยาดเยิ้มมองคนที่พูดถึงแล้วเอ่ยต่อ
“จบนอก รวยเว่อร์ นี่ ๆ”
พี่เกดสะกิดคนที่กำลังตั้งใจฟัง
“รถบีเอ็มสีขาวรุ่นใหม่ล่าสุดป้ายแดง ของพ่อสุดหล่อนะจ๊ะ สาวเล็กสาวน้อยแถวนี้ตัวสั่นอยากเป็นตุ๊กตาหน้ารถกันทั้งมหาวิทยาลัย”
นิญาดาหันมองคนที่ถูกโฆษณาสรรพคุณ ผิวขาวผ่อง ปากบางสีชมพูชวนมอง รับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน กล้ามหน้าอกอันแข็งแกร่งแน่นเปรี๊ยะอยู่ในเสื้อเชิ้ต จนน่ากัด และกว้างพอที่ซุกไซ้หาความอบอุ่นไม่รู้จบ ยิ่งมองยิ่งพาให้หลงใหล หัวใจเริ่มเต้นโครมคราม ผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลต่อเพศตรงข้ามมากเหลือเกิน
“นิ!”
พี่เกดดึงสติหล่อนกลับมา
“นี่เธอ! ไปอยู่ที่ไหนมาจ๊ะ ถึงไม่รู้จักหนุ่มฮอตที่สุดในมหาวิทยาลัย ขนาดหัวหน้าเรายังพร่ำเพ้อละเมอหาทุกวัน”
นิญาดามองหน้าพี่สาวกะพริบตาปริบ ๆ เพราะงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับแพทย์และการสาธารณสุข จึงไม่แปลกที่หล่อนจะไม่รู้จักคนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ บวกกับหล่อนทุ่มเทให้งานมากกว่าจะสนใจเรื่องผู้ชาย
เมื่อผู้ฟังยังเงียบ ผู้มีประสบการณ์จึงเล่าต่ออย่างออกรส
“หัวหน้าชอบอาจารย์ ตั้งแต่แกยังไม่ไปเรียนที่ญี่ปุ่นเลย อาจารย์เรียนจบกลับมาจนได้ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์แล้ว หัวหน้าเรายังไม่หายบ้า”
นิญาดาหัวเราะพรืด ถ้าไม่ติดว่านั่งอยู่ในสำนักงาน เสียงหัวเราะคงจะดังลั่นเพราะคำพูดของพี่เกดช่างตรงไปตรงมาดีแท้
นอกจากหัวหน้าจะบ้าเรื่องกัดจิกลูกน้องแล้ว อีกเรื่องที่บ้าไม่แพ้กันก็เรื่องผู้ชายนี่แหละ บ้าชนิดที่เรียกว่ามีคนเห็นนางแอบถ่ายรูปหนุ่ม ๆ ในสังกัดบ่อย ๆ
สักพักชายหนุ่มผู้ตกเป็นหัวข้อสนทนาขยับตัวลุกขึ้น เดินออกจากห้อง
นิญาดาลอบสังเกตเห็นนางยักษ์มองตามชายหนุ่มด้วยสายตาละห้อยอย่างสุดแสนเสียดาย เธอจึงมาดมั่นในใจว่า
‘ชอบมากใช่ไหม? คอยดู! ฉันนี่แหละจะทำให้ได้มากกว่าส่งสายตา!’
มันช่างเป็นการแก้แค้นที่น่าเอาคืนยิ่งนัก !
เมื่อจบการเมาท์มอย พี่เกดก็กลับไปทำงานต่อ ส่วนหล่อนก็เริ่มลงมือค้นหาข้อมูลสุดที่รักของหัวหน้าทันที
อะไรที่หล่อนอยากได้ หล่อนต้องทำให้ได้ แค่ข้อมูลผู้ชายเพียงคนเดียวมีหรือเด็กเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจะหามันมาไม่ได้!ไม่นานนักข้อมูลของเครื่องมือในการแก้แค้นหัวหน้าก็ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ชื่อเต็ม ๆ คือ “ผศ. ดร. เตชิน ไตรสุวรรณภักดี” อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาไฟฟ้า อายุสามสิบเจ็ดปี สถานภาพโสด ชื่อ-ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ ข้อมูลครบเมื่อได้ข้อมูลมาเรียบร้อย นิญาดารีบส่งอีเมลเชิญเป้าหมายเข้าร่วมงานอบรมที่หล่อนกำลังจะจัดขึ้นทันทีนิญาดาปรบมือให้ตัวเองเบา ๆ ก่อนจะลงมือทำงานพร้อมกับฮัมเพลงออกมาเบา ๆ อย่างอารมณ์ดีจากนี้ก็แค่รอ รอ......ให้สุดที่รักของหัวหน้าเดินเข้ามาติดกับ แล้วเธอก็จะได้แก้แค้นอย่างสาสม ! เช้าวันรุ่งขึ้นนิญาดารีบเช็กอีเมลทันที แต่กลับไม่ปรากฏเมลของคนที่กำลังรอคอย ดวงตาคู่งามจับจ้องใบรายชื่อผู้ที่ลงทะเบียนเข้าอบรม ไม่ว่าจะดูกี่รอบ ๆ ก็ไม่ปรากฏชื่อ “ผศ. ดร. เตชิน ไตรสุวรรณภักดี” เลยสักนิด สุดที่รักของหัวหน้า เครื่องมือชิ้นเอกในการแก้แค้น“นิ! นิญาดา มาหาพี่หน่อย!”เสียงของนางช้างยักษ์ ร้องแปร๋นลั่นห้อง อย่างวางอำนาจแทรกเข้ามาในโสตประสาทแม้จะไม่อยากไปหา แต่
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ทักทายอาจารย์ตั้งแต่เช้าตรู่ จนบัดนี้ผ่านไปสามสิบกว่าท่าน จนเหงือกเริ่มจะแห้ง แข้งขาที่วิ่งขึ้นวิ่งลงรถบัสคันใหญ่เพื่อแจกป้ายชื่อบ้าง พาอาจารย์ขึ้นไปนั่งรอบนรถบ้าง เริ่มจะล้า “พี่นิขอป้ายชื่อหน่อยจ้า”เสียงน้องภีมร้องเรียกแจ้ว ๆ อยู่ด้านล่าง นิญาดาจึงรีบวิ่งลงไปด้วยความรีบร้อน ยังไม่ทันที่เท้าจะก้าวลงจากรถก็สะดุดเท้าตัวเอง“กรี๊ดดดดดดด”นิญาดาร้องเสียงหลง ร่างบอบบางคะมำไปข้างหน้า พรึบ!เธอกระแทกกับแผงอกกว้างของใครบางคน มือเล็กคว้าคล้องคอชายตรงหน้าไว้โดยอัตโนมัติ มือหนารวบเอวอรชรไว้ได้ทันก่อนจะร่วงลงกระแทกพื้น อกอิ่มนุ่มนิ่มเบียดเสียดกับอกแน่นล่ำสัน เนื้อแกร่งร้อนระอุ ความเร่าร้อนที่แฝงเร้นในกายชายหนุ่มกระตุ้นเลือดในกายสาวให้เดือดพล่าน ใบหน้าคนในอ้อมกอดร้อนผะผ่าวแดงก่ำ ดวงตาคู่งามที่ตื่นตระหนกด้วยความตกใจเมื่อครู่ สบกับดวงตานิ่งล้ำลึกเนิ่นนาน“เอ่อ อะ แฮ่ม!”ภีมถลาเข้ามาหาคนทั้งคู่ นิญาดาได้สติรีบคลายมือออก มือใหญ่จึงปล่อยเอวบางเช่นกัน“สวัสดีคร้า ท่านอาจารย์เตชิน”ภีมสาวในร่างชายส่งเสียงแหลมปรี๊ดทักทายผู้มาใหม่“สวัสดีค่ะ อาจารย์เตชิน” นิ
นิญาดารวบช้อน แล้วรีบกลืนไอติมให้ละลายลงคอ แล้วกรอกตามด้วยน้ำเปล่า“หนูขอตัว ไปดูความเรียบร้อยในห้องประชุมก่อนนะคะ”หล่อนขออนุญาตพี่เกด ก่อนวิ่งตามอาจารย์ออกไปภีมมองตามหญิงสาวที่วิ่งออกไปแล้วหันมาสบตากับสาวใหญ่ยิ้ม ๆ อย่าง “รู้กัน”แผนการขั้นต่อไปของนิญาดา คือ ต้องปรากฏตัวให้เป้าหมายรู้จัก ! นิญาดาแกล้งเดินเฉียดใกล้กลุ่มของอาจารย์เตชินด้วยใจระทึก“เดี๋ยวสิ คุณนิ”หนึ่งในแก๊งหนุ่ม ๆ อาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ร้องเรียก‘Yes!!! เป็นไปตามแผน!!’ นิญาดายิ้มน้อย ๆ อย่างลิงโลดในใจก่อนหันไปยังผู้เรียก พร้อมกับแววตาใสซื่อที่สุดเท่าที่เธอเคยกระทำมา“คะ?”“ทำไมถึงได้จัดงานอบรมนี้ขึ้นล่ะครับ?”อาจารย์หนุ่มหนึ่งในกลุ่มนั้นถามขึ้น“คือ อยากจะเติมไฟให้อาจารย์ค่ะ เชิญศาสตราจารย์เก่ง ๆ มาพูดให้ฟัง เผื่อว่าจะได้พลังใจดี ๆ กลับไปค่ะ”แววตาผู้ตอบฉายแววมุ่งมั่น ย้ำว่าสิ่งที่เธอพูดและทำมาจากความตั้งใจจริง ๆ“แล้ว ทำไมถึงได้เชิญพวกผมล่ะครับ?”หล่อนเหลือบมองหัวหน้าภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ตามด้วยรองหัวหน้าภาควิชา ไล่ไปจนถึงอาจารย์ทุกคนของภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มารวมตัวอยู่ที่นี่เกินกว่าครึ่งของภาค
“โต๊ะนี้ คงเป็นโต๊ะที่โชคดีมากนะครับ ที่มีโอกาสได้นั่งทานข้าวกับสาวสวยที่สุดในค่ำคืนนี้”ดร. พงษ์ เลิศปัญญา เพื่อนสนิทของเตชิน เอ่ยทักขึ้นเป็นคนแรก เพราะมีเชื้อจีน ผิวพรรณจึงขาวเนียน บวกกับความมีอารมณ์ขันจึงทำให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย แม้ว่าจะล่วงเข้าวัยสามสิบแปดปี“ขอบคุณค่ะอาจารย์พงษ์ ยินดีเช่นกันที่มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า”หล่อนยิ้มหวานให้หนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหาร และยังไม่ลืมที่จะโปรยรอยยิ้มแสนหวานนั้นมายังอาจารย์เตชินซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ แต่เขากลับเฉย แววตาคมกริบนิ่งลึก ยากที่จะอ่านความรู้สึก“ขอบใจมาก นะจ๊ะน้องภีม”นิญาดา กระซิบภีมพร้อมกับขยิบตาให้เป็นเชิงรู้กันว่า การที่หล่อนได้มานั่งข้าง อาจารย์เตชินไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างตั้งใจล้วน ๆ “เรื่องแบบนี้ ไว้ใจสุดสวยอย่างภีมได้เลยจ้ะ พี่สาว”ภีมยกแก้วไวน์ชนแก้วกับนิญาดาฉลองให้กับการเริ่มต้นแผนการฉกดวงใจของหัวหน้าที่ส่อแววว่าจะไปได้สวยส่วน “พี่ปัญญ์” คนที่หัวหน้าส่งมาคอยคุมพวกเธอ น้องภีมมอบหมายให้พี่เกดจัดการ หากเหลียวดูโต๊ะข้าง ๆ จะเห็นสาวสูงวัย ผมถูกรวบมวยไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อยต
“อืม ใช่ครับ เรียกได้ว่าเป็นซากุระสุดท้ายที่บานให้เชยชมก่อนที่จะร่วงหมดทั้งประเทศ เหมือนกับ...”เขาหยุดคำพูดแค่นั้น แล้วกระดกเครื่องดื่มในแก้วจนหมด ดูเหมือนมีม่านบางอย่างเกิดขึ้นในแววตาคมกริบคู่นั้นคิ้วเรียวงามของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเมื่อเขาหยุดพูดไปเฉย ๆ หล่อนจึงชวนคุยต่อ เพื่อดำเนินการไปตามแผนที่วางเอาไว้“ฉันฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อยากเห็นซากุระสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่พอกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ก็เหมือนว่าชีวิตจะยุ่งทุกวัน ฮ่า ๆ”“ชอบซากุระ?”คำถามสั้นเช่นเคย แต่คนฟังกลับรู้สึกยินดีที่เขายังโต้ตอบบ้าง“ค่ะ ซากุระ ซูชิ ออนเซ็น ชอบทุก ๆ อย่างที่เป็นญี่ปุ่น ถ้าวันไหนไปญี่ปุ่น จะขอนอนแช่ออนเซ็นดูฟูจิให้หนำใจไปเลย !”ชายหนุ่มมองแววตาเพ้อฝันของคนเล่า ยิ้มลึก“แล้วอาจารย์ล่ะคะ?”“ครับ”หญิงสาวเลิกคิ้วสูง คำว่า “ครับ” คือ ชอบหรือไม่ชอบ ราวกับว่าเขาพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งก้าวล่วงเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไปความเจ็บแปลบ แล่นสู่หัวใจดวงน้อย นิญาดาต้องเตือนตัวเองอีกครั้ง เขาคือเครื่องมือในการแก้แค้นเท่านั้น! เรื่องส่วนตัวของเขาเราไม่จำเป็
“เออ พี่ลืมบอกพวกเธออีกหนึ่งเรื่อง”“อะไร้ เจ๊!”ภีมหน้าเครียด“มะ เมื่อก่อน อาจารย์เตชิน เคยได้ฉายาว่า คาสโนวาตัวพ่อ!”“อุ๊ปส์”ภีมหน้าเหวอ จะบุกเข้าไปช่วยพี่สาวตอนนี้ ก็กลัวจะได้ดูหนังสด แต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็จะรู้สึกผิด เพราะแผนการอ่อยผู้ชายครั้งนี้ เขาเป็นคนวางแผนให้หญิงสาวทั้งหมด“เอาอย่างนี้แล้วกัน เราไปแอบฟังที่ประตูกันเถอะ ถ้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือค่อยบุก!”“ถ้าไม่”ภีมถามกลับอย่างสยอง“ก็แยกย้ายสิจ๊ะ”แล้วสองร่างก็แนบหูเข้ากับประตูห้องต้นเหตุอือ... อ่า อือ... อะทั้งคู่ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากข้างในชัดเจน หน้าของทั้งคู่แดงก่ำแดง ต่างสบตาอย่างรู้กัน แล้วค่อย ๆ ย่องหายกลับห้องใครห้องมัน อย่างรู้สถานการณ์ปัง ! ทันทีที่ประตูปิดลง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวในอ้อมกอดดันเข้าชิดผนังห้อง แล้วมือใหญ่ที่แข็งราวคีมเหล็กยึดข้อมือเล็กติดกำแพงปากหนาประกบกลีบปากบางไม่ยอมห่าง จูบรุนแรง ไม่อ้อยอิ่งอย่างคนหิวโหย เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มซอนไซ้ คลอเคล้าอย่างเร่งร้อน ดูดดื่มจนสาวน้อยในกำแพงกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่เพราะเขาตรึงหล่อนไว้กับผนัง ร่างบางคงพับลงพื้นเพราะไฟสว
ปากร้ายร้อนระอุ ขบเม้มปากบาง ลิ้นร้ายซอกไซ้กวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างผู้ช่ำชอง แล้วละออก โลมเล้าไล่เลียเรื่อยลงมาที่พวงแก้วนวล ซุกไซ้คอขาวผ่องอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นสากไล้วนลงมาตรงเนินอกอวบอัด ดูด ขบ เน้นเบา ๆ“... อือ.... อะ.... อา....”เสียงร้องครางเบาหวิว ร่างบางดิ้นทุรนทุรายภายใต้อ้อมกอด เนื้อเนียนนุ่มเสียดสีกล้ามเนื้อหนา ยิ่งเหมือนการเติมเชื้อไฟสวาทเร่งเร้าให้เขาระเบิดเพลิงราคะมากยิ่งขึ้นมือเรียวแกร่งของชายหนุ่มเคล้าคลึงสะโพกบีบเน้นหนั่นเนื้อกลมกลึงอย่างหนักหน่วง มืออีกข้างกระชับเอวคอดแน่น ไฟราคะในกายหนุ่มโหมแรงอย่างต่อเนื่อง ดวงตาคมดุดันวาวโรจน์ เมื่อซุกไซ้ทรวงอกสล้างจนสาแก่ใจเขาจึงตวัดร่างบางอุ้มพาไปที่เตียงเขาปล่อยร่างอ่อนระทวยลงบนเตียงนุ่ม แล้วปลดตะขอกางเกงของตนเอง รูดออกจากตัว พร้อมทั้งกระชากเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าร่างนวลผ่องนั้นจะหายไปนิญาดารวบรวมสติอันน้อยนิด พลิกขยับตัวคลานหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อป้องกันตัวจากชายหนุ่ม โคมไฟอยู่แค่เอื้อมแต่ด้วยฤทธิ์ของเหล้าบวกกับการเล้าโลมเมื่อครู่จึงทำให้สมองของหล่อนยังคงมึนงง การเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควรจะเป็น มือน้อยเก
“อะ... อา....”ร่างบางแอ่น หยัดสะโพกครวญคราง เมื่อจมูกโด่งคมสันบดลึก ถูกไถกับตุ่มเกสรกุหลาบงาม ปากร้อนผนึกกินดอกไม้ทั้งกลีบ ลิ้นสากซอนไซ้ โลมเลียกลีบกุหลาบอย่างช่ำชอง ความเสียวซ่านแผ่ไปทั้งกายสาวจนน้ำค้างชุ่มฉ่ำเต็มกลีบมือใหญ่ช้อนสะโพกกลมกลึง บีบเน้น ในขณะที่ปากหนาขบเม้มหนักหน่วง ลิ้นสากระอุสอดแทรกโลมเลียตุ่มเกสร กลืนกินกลีบดอกอย่างหิวกระหาย จนร่างบางบิดเร่าแตกสลายกลายเป็นดวงดาวขาวพร่างไปกับปากและลิ้นดุดัน หล่อนก็ยิ่งครางเสียงดัง“...อ๊า.....”ร่างบางที่กำลังถูกไฟสวาทเข้าครอบงำจนหล่อนเองจำเสียงตนไม่ได้ จิตใจเธอวาบหวามไปกับการเคลื่อนไหวของลิ้นร้ายจนไม่ได้ยินอะไร ลมพายุลูกใหญ่กำลังอื้ออึงเต็มสองหู ความเสียวซ่านอันแปลกประหลาดพุ่งกระจายไปทั่วร่างก่อนจะมุ่งหน้าสู่กึ่งกลางกายสร้างความหวานไหวให้หล่อนอ่อนเปลี้ยราวกับร่างกายไร้กระดูก“...หึ... หึ...”ชายหนุ่มคำรามในลำคออย่างเหิมเกริม ยินดีที่เรียกเสียงครางจากคนรั้นได้“แค่นี้... ก็ร้องจนถึงสวรรค์.. ต่อจากนี้...คือ บทเรียนจากคาสโนวา!”มือหนาประคองแก่นกายกำยำร้อนจนแทบจะระเบิด จ่อ... ถู... ไถ ที่กุหลาบงามอันชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานร่างน้อยบิ