หน้าหลัก / โรแมนติก / ซ่านรักซากุระเดือนห้า / ตอนที่3. เช้าตรู่ของวันใหม่

แชร์

ตอนที่3. เช้าตรู่ของวันใหม่

เช้าตรู่ของวันใหม่

นิญาดามาถึงสำนักงาน สิ่งแรกที่ทำ คือ รีบโทรศัพท์ ติดต่อขอโอนค่ามัดจำ กับรีสอร์ต ก่อนที่หัวหน้าจะจับได้ ว่ายังไม่ได้โอนมัดจำ

เมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีปรากฏการโอนเงินเรียบร้อย หล่อนก็ยิ้มอย่างเบาใจ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยรอแค่ประชาสัมพันธ์โครงการให้อาจารย์สมัครเข้าอบรม

จากนั้น นิญาดาก็รีบสะสางงานหลักต่อนิ้วเล็ก ๆ ของนิญาดาพลิ้วไหวบรรเลงลงบนแป้นพิมพ์ อย่างชำนาญ แปดชั่วโมงของการทำงานในช่วงใกล้ปิดงบประมาณ มันช่างน้อยนัก รู้ตัวอีกที ก็หมดเวลาทำงานเพื่อน ๆ ในสำนักงานกลับกันหมดแล้ว

 “นิญาดา”

เสียงหนักแน่น น่าเกรงขามดังขึ้น

หล่อนหันขวับไปยังต้นเสียงทันที

“.. เข้ามาหาอาจารย์ด้วย...”

ต้นเสียงเอ่ยต่อ

คนที่เรียกชื่อจริงของหล่อน.. มีเพียงคนเดียวเท่านั้น  คนนั้นคือ “รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย” ผู้ที่มีอำนาจลงนามสั่งให้คนทั้งมหาวิทยาลัยทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้และเป็นท่านประธานสูงสุดของสำนักงานวิจัยแห่งนี้

หญิงสาวผู้ถูกเรียกรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องรองอธิการบดี  เมื่อพบกับผู้ที่อยู่เบื้องหน้า หล่อนกระพุ่มไหว้อย่างเคารพตามธรรมเนียมผู้น้อยต้องไหว้ผู้ใหญ่

“นั่งลงสิ...”

เสียงเบาสั่ง แต่ยังคงความน่าเกรงขาม วันนี้ใบหน้าของรองอธิการบดีปรากฏริ้วหมอง ปากเม้มสนิทจนเป็นเส้นตรงขยับเอ่ยขึ้น

“โอนเงินค่ามัดจำโรงแรม ไปแล้วใช่ไหม?”

“คะ?”

เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากปากนิญาดา สมองที่เหนื่อยล้าจากงานมาทั้งวัน กำลังประมวลว่า ‘ท่านรองฯ ถามถึงอะไร?’

“ที่เธอจะจัดอบรม...”

เสียงหนักเอ่ย

“อ๋อ..”

คนจะจัดอบรมเพิ่งนึกออกจึงตอบไปว่า

“ค่ะ โอนมัดจำเรียบร้อยแล้วค่ะ”

ปัง !

ท่านรองอธิการบดีโยนแฟ้มโครงการลงบนโต๊ะเสียงดังปัง เวลานี้ความโกรธได้ปะทะขึ้นแล้ว ท่านจึงไม่เห็นว่าบัดนี้สาวน้อยผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าถึงกับหน้าซีด ปากสั่นระริก

“เธอโอนไปได้ยังไง!!!...   ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตา!!   ข้ามหัวผู้หลักผู้ใหญ่!!!”

ท่านรองฯ ตวาดเสียงดังด้วยความโมโห ความเกรี้ยวกราดที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

คลื่นแห่งความเกรี้ยวกราด มันพุ่งเข้าไปทิ่มแทงหัวใจของนิญาดาจนสั่นสะท้าน แม้ร่างบางจะนั่งบนเก้าอี้ แต่กลับรู้สึกจมดิ่งลงก้นเหวมืดดำ เคว้งคว้างฉับพลัน

ตลอดสามปีแห่งการทำงาน หล่อนได้รับคำชมเชยเสมอมา  ไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่  หล่อนทำทุก ๆ อย่างได้ดีเสมอ แต่ในวันนี้ กลับถูกผู้เป็นใหญ่ตำหนิอย่างรุนแรง  -ทำอะไรไม่ปรึกษาผู้ใหญ่- เสียงเฉียบจากผู้บังคับบัญชายังคงกรีดแทงหัวใจซ้ำ ๆ

ก้อนแห่งความเสียใจของคนตัวเล็กที่ทุ่มเททั้งหัวใจให้กับการทำงานมันจุกที่ลำคอ นิญาดาต้องกลืนก้อนแข็ง ๆ ให้ตกลงข้างใน

“...เงินเกือบแสน เธอคิดว่ามันคุ้มแล้วเหรอ กับการอบรมที่ไม่ตอบตัวชี้วัดของมหาวิทยาลัย!! จัดไปก็ไร้ประโยชน์!!!”

สิ้นเสียงของท่านรองมีเพียงความเงียบเข้าครอบงำคนถูกตำหนินั่งนิ่ง หากมีคำใดหลุดออกมามันคงออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ท่วมท้น

ท่านรองฯ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพ่นออกมายาว ๆ  ราวกับว่า กำลังพยายามไล่ความโกรธที่ปะทุขึ้นให้หายไปกับลมหายใจนั้น

นิญาดาก้มหน้ามองมือที่ประสานไว้บนตักปลายเล็บจิกลงบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ เพื่อสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลริน

เธอไม่เคยเห็นท่านรองฯ โมโหใครเท่าวันนี้  สิ่งที่ฉันทำมันผิดมากใช่ไหม ?   ทำไมถึงได้ถูกตำหนิว่า ข้ามหัวผู้ใหญ่ ?  ในเมื่อทุกโครงการที่เธอเป็นคนเขียนขอทุนมาได้ ก่อนจัดอบรมทุกครั้ง เธอก็เพียงแค่เสนอท่านรองฯ ให้รับทราบเท่านั้นเหมือนที่ผ่าน ๆ มา แต่ทำไมวันนี้ ท่านรองฯ ถึงโมโหมากมายขนาดนั้น เธอไม่เข้าใจ

“อีกแค่สามอาทิตย์. เธอจะหาอาจารย์มาเข้าร่วมอบรมได้ตามเป้าที่เธอวางไว้ได้ไหม?!”

แม้เสียงจะเบาลง แต่ยังคงเจือด้วยความขัดเคืองใจ

นิญาดาเงยหน้าขึ้น สบตา แล้วฝืนยิ้ม เพื่อให้ก้อนแข็ง ๆ ไหลลงสู่กลางใจ

“ทันค่ะ”

เสียงตอบแผ่วเบา เพราะน้ำตาที่เริ่มปริ่ม

“สี่สิบคน!!! ห้ามเอาคนในสำนักงานไปเด็ดขาด!! ที่ใส่ชื่อมาก็ลบซะ!!”

สมองที่กำลังมึนงง เหมือนถูกทุบด้วยค้อน สะดุดที่คำว่า

-ชื่อคนในสำนักงาน-

เมื่อวานหล่อนนั่งแก้เอกสารที่หัวหน้าให้แก้ไข และมั่นใจว่าไม่ได้แนบรายชื่อคนในสำนักงานไปแน่ ๆ  นอกจากทีมวิทยากร

 “ไม่เอาคนในสำนักงานไปแน่ ๆ ค่ะ หนูมั่นใจว่าไม่มีชื่อคนของสำนักงานในเอกสาร”

ท่านรองฯ พลิกหน้ากระดาษโครงการไปมา แล้วสุดท้ายก็เอ่ยเสียงเบา

“ไม่มี ก็ดี...”

บัดนี้ นิญาดารู้แล้วว่า ใครกันที่ทำให้ท่านรองฯ โมโหหล่อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่หัวหน้า ! นางงูพิษที่ชอบฉกด้านหลังลูกน้องที่ไร้ทางสู้ !

“.... และโปรแกรมเที่ยวก็ตัดออก ! เดี๋ยวสำนักงานอื่นเขาจะว่าเอาได้ ว่าสำนักงานเราเอาเงินหลวงไปละลายทิ้ง !”

“ไม่มีโปรแกรมเที่ยวค่ะ อาจารย์ลองดูในกำหนดการอีกทีนะคะ”

นิญาดาตอบท่านรองฯ ทันที เพราะเริ่มแน่ใจแล้วว่าที่โครงการอบรมของเธอไม่ผ่านการอนุมัติจากท่านรองฯ เกิดจากการใส่ไฟของนางยักษ์ล้วน ๆ

ท่านรองฯ พยายามไล่ดูกำหนดการอบรมว่ามีโปรแกรมเที่ยวในการอบรมหรือไม่ ? ทุกอย่างเริ่มแจ่มชัด  ท่านรองฯ ไม่ได้เห็นตัวโครงการที่หล่อนเขียนขึ้นจริง ๆ แต่กลับเชื่อเพียงลมปากของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าสำนักงาน

ลมปากที่พ่นออกมาไม่ใช่สีขาวแน่ ๆ แต่ต้องแต่งเติมสาดสีเน่า ๆ ขนาดไหนหนอ ถึงสามารถเป่าหูท่านรองฯ ให้คุกรุ่นได้ขนาดนี้ !

เมื่อพลิกกี่รอบ ๆ ก็ไม่เจอสิ่งที่ต้องการหา ท่านรองฯ จึงหยิบดินสอขึ้นจรดลงบนกระดาษ

“งั้นก็ไปแก้... คำถูกคำผิดมา ตรวจทานอีกรอบแล้วกัน”

“ค่ะ”

นิญาดารับคำ พร้อมยื่นมือรับเอกสารคืนอย่างอ่อนแรง

“แก้เสร็จแล้วเสนอมาใหม่ คราวหน้าจะทำอะไร ก็ให้เข้ามาปรึกษาก่อน”

“ค่ะ”

หล่อนรับแฟ้มเอกสารโครงการคืน

ร่างบางที่เคยเดินกระฉับกระเฉง บัดนี้ แม้แต่แรงลากขากลับมาที่โต๊ะทำงานยังแทบจะไม่มี

วางแฟ้ม....

ปิดคอมพิวเตอร์.... 

แล้วเดินออกจากสำนักงาน... ด้วยดวงใจที่อ่อนล้า พร้อมกับเสียงตะโกนก้องในใจ

‘เลิกเถอะ!!!’

‘พอกันที!!!!’

น้ำใส ๆ ไหลหยาดหยดอาบแก้มน้อยอย่างเงียบ ๆ แต่ในหัวของหล่อนกลับมีเสียงตะโกนร่ำไห้ตอกย้ำความเจ็บปวดว่า

‘มึงจะทำโครงการดี ๆ  ให้คนเขาด่าเล่นทำไมวะ ?’

‘เลิกสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิดี ๆ  เอาแค่ใครก็ได้... เหมือนที่คนอื่น ๆ เขาทำกัน !’

‘เลิกทำจริง ๆ แล้วเอารายชื่อผีมาเบิกเงินหลวงกิน!... เหมือนที่นางยักษ์ทำอย่างไรล่ะ !’

‘เลิกคิด เลิกทำสิ่งใหม่ ๆ..... แล้วปล่อยให้อาจารย์ทั้งมหาวิทยาลัยอยู่ในกะลาครอบ!!!!’

 แม้ตะวันลาลับขอบฟ้า แต่หยาดน้ำตา กลับรื้นขึ้นมาไม่ขาดสาย  พรุ่งนี้จะมีแรงทุ่มเทให้กับงานอีกไหมหนอ หรือจะยอมละทิ้งอุดมการณ์ แล้วล่องลอยไปกับสายน้ำสีขุ่นในสังคม

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status