เมื่อเธอได้หัวข้อการอบรมแล้ว กิจกรรมต่าง ๆ หัวข้อบรรยายย่อย ก็พรั่งพรูออกมาอย่างง่ายดาย
‘วิทยากร... แน่นอน!!! ต้องเป็นคนที่ทุกคนต้องร้องว้าว!’
เมื่อเรียวเริ่มละเลงลงบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์อีกครั้งเพื่อค้นหารายชื่อและประวัติผู้ทรงคุณวุฒิที่เหมาะสมสำหรับการเป็นวิทยากรที่ดีที่สุดในงานอบรม
ดวงตาเป็นประกายสดใสของเธอจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบ หญิงสาวมีความสุขกับการทำงานที่ท้าทาย แม้จะเจออุปสรรคบ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเธอ
‘คนนี้เลย! ศ. ดำรง ผู้ที่ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุด ในประเทศไทย !’
นิญาดาตาลุกวาวเมื่อค้นเจอชื่อวิทยากร
คลิก
นิญาดาคลิกปุ่มกดส่งอีเมลเพื่อทาบทามศาสตราจารย์ดำรงค์ทันทีที่ค้นเจอ
จากนั้นเรื่องที่เธอจะต้องจัดการต่อไป คือ สถานที่จัดอบรม และต้องเป็นที่ที่สวยงามน่าไปมากที่สุด ซึ่งคงหนีไม่พ้น “รีสอร์ตเดอะเบสต์ออร์คิด”
รีสอร์ตหรูท่ามกลางธรรมชาติที่แสนจะโรแมนติก
นิญาดาหลับตาพริ้มฝันหวานถึงที่นอนนุ่มท่ามกลางป่าเขาริมน้ำตก ในขณะกำลังค้นหาข้อมูลโรงแรมในอินเทอร์เน็ต หล่อนมักมีความสุขกับการทำงานเสมอ
เช้าวันต่อมา
นิญาดาเปิดเมล ด้วยใจระทึก
-ผมยินดีเป็นวิทยากรให้ครับ-
Yes ! ! ! !
‘ในที่สุด!!! ฉันก็คว้าวิทยากรระดับประเทศมาจนได้ Yes ! ! !’
นิญาดาตะโกนก้องในใจ หล่อนอยากกระโดดให้ตัวลอยขึ้นไปจนติดเพดานสำนักงาน เพราะความดีใจมันพองโตจนคับอก แต่ในความเป็นจริงหล่อนทำได้แค่ยิ้มแฉ่งให้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โชว์ข้อความตอบรับของวิทยากร
เมื่อได้วิทยากรแล้วขั้นต่อไป เธอต้องเร่งมือทำเอกสารประกอบอื่น ๆ สำหรับกิจกรรมในโครงการทันที เอกสารฉบับใดที่หล่อนทำเรียบร้อยแล้ว ก็จะถูกนำเข้าแฟ้มอย่างเป็นระเบียบเพื่อเสนอรองอธิการบดีให้ลงนามอนุมัติการอบรมและขอเบิกจ่ายตามระเบียบราชการต่อไป
นิญาดาก้มหน้าก้มตาทำงานแข่งกับเวลาทั้งงานในหน้าที่หลัก และงานโครงการอบรมที่เป็นงานพิเศษ
จนกระทั่ง
“นิ มา หา พี่ หน่อย”
เสียงเรียกดังมาจากโต๊ะด้านหลังสุดของห้อง
ผู้ถูกเรียกผละจากงานที่ทำค้างไว้ ขาเรียวสวยกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่โต๊ะหัวหน้าสำนักงาน
นิญาดานั่งลงบนเก้าอี้เบาะหนังสีดำที่มักจะรองรับผู้ที่ทำพลาด ทำผิด หรือแก้ไขงานและวันนี้เป็นเธอที่ต้องมานั่งตรงนี้ แล้วอะไรที่เธอทำผิด อะไรที่เธอทำพลาดจนต้องถูกเรียกให้มานั่งตรงนี้
คนเรียกเหลือบมองผู้มาใหม่เพียงเสี้ยววินาทีแล้วหลุบตาต่ำลงใบหน้าอวบอูม แต่งแต้มด้วยริ้วรอยแห่งวัยสี่สิบปี ริมฝีปากสีซีดเม้มแน่นตลอดเวลา
“งานอบรมที่เธอจะจัดตัวนี้...”
หัวหน้าเลื่อนแฟ้มงานโครงการอบรม -นักวิจัย ไฟแรงสูง- ที่รอเสนอรองอธิการบดีลงนามอนุมัติให้ผู้เป็นเจ้าของงานดู
“...จัดอบรมข้างนอกมหาวิทยาลัยไม่ได้นะ ไม่มีนโยบายให้จัดข้างนอก”
นิญาดาสบตาหัวหน้า... ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างสุดฝืน
“...ให้จัดที่ โรงแรมของมหาวิทยาลัย”
เสียงหัวหน้าสำนักงานบัญชา เด็ดขาด
‘ฉันเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว... ทุกอย่าง กำลังไปได้สวย... ฉันจะไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอกนะ!!!!’
นิญาดาร่ำร้องในใจ ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามอธิบายเหตุผลอย่างใจเย็นว่า
“พี่ณีคะ หนูถาม ป๋าวัฒน์ แล้วค่ะ สามารถจัดข้างนอกได้”
ป๋าวัฒน์ หรือ นายอภิวัฒน์ ตั้งตระกูลสุข คือ ผู้ที่จัดสรรทุนในการอบรมครั้งนี้ให้ อีกทั้งยังเป็นอดีตหัวหน้าสำนักงานคนเก่าที่น้อง ๆ ในสำนักงานยังคงให้ความเคารพนับถือด้วยใจเพราะเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ทำงานมากและคอยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้น้อง ๆ ไม่เหมือนกับหัวหน้าคนปัจจุบัน ที่มีแค่ตำแหน่งแต่ไร้ความเคารพนับถืออย่างจริงใจจากผู้ใต้บังคับบัญชา
“ยังไง ก็ควรจะจัดอบรมข้างในมอ* เป็นการสนับสนุนโรงแรมของมหาวิทยาลัยด้วย”
นางยักษ์ตาวาว หน้าตึง เสียงเข้มขึ้น
“หนูโอนค่ามัดจำรีสอร์ตเดอะเบสต์ออร์คิด เรียบร้อยแล้วค่ะ”
นิญาดาทิ้งไพ่ใบสุดท้าย!!!
“โอนไปเท่าไหร่”
หัวหน้ากัดฟันถาม ตาเขียวขุ่น
“สามหมื่นบาทค่ะ”
เธอพยายามบังคับเสียง ไม่ให้สั่น แม้ตอนนี้หัวใจมันจะเต้นระรัว กลัวหัวหน้าจับได้ว่าความจริงเธอยังไม่ได้โอนค่ามัดจำให้โรงแรมเลย
“นิ ญา ดา!!!”
ตาโปน ๆ ของหัวหน้า ปูดออกจนแทบจะออกจากเบ้าด้วยแรงโกรธ เรียกชื่อหล่อนเน้นทีละคำ จนแทบจะกรี๊ดใส่คนตรงหน้า ทว่าตำแหน่ง “หัวหน้าสำนักงาน” มันค้ำคอ จะทำอะไรต้องรักษาหน้า หล่อนจำเป็นต้องเม้มปากแน่นเพื่อระงับอารมณ์ ไม่บอกก็รู้ว่าบัดนี้ ภูเขาไฟระเบิดแล้ว
ส่วนคนที่แซะภูเขาไฟให้ระเบิด ก็ได้แค่ส่งยิ้มตอบให้ดูไร้เดียงสาที่สุด!!!!!
‘ยังไงซะ เด็กที่ทำอะไรไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ย่อมไม่ผิด!!!’ นิญาดาคิดหาวิธีเอาตัวรอด
หัวหน้าจ้องลูกน้องตาเขียวอย่างกับนางยักษ์จ้องนางเงือกด้วยความแค้นเพราะถูกแย่งพระอภัยมณีไป
ตาจ้องตาเพียงเสี้ยววินาที คนตาลุกเป็นไฟหลุบต่ำลงเบนสายตาไปจ้องที่แฟ้มเพื่อตัดไฟสงคราม มือบวมไขมันเปิดแฟ้มหน้าต่อไป
“ถ้าจะจัด... ก็ห้ามเอาคนในสำนักงานไปด้วย”
หัวหน้าสำนักงานขีดฆ่ารายชื่อที่แนบท้ายมากับเอกสารโครงการ
“ค่ะ เอาไปเฉพาะคนทำงานค่ะ”
นิญาดาตอบ เริ่มไม่ไว้วางใจ หัวหน้าจะมาไม้ไหนกับเธอหนอ
“แล้ว เรื่องเที่ยว ตัดออกเลยนะ! ห้ามไป!!”
“ค่ะ”
นิญาดาตอบค่ะ แต่คันปากยิก ๆ อยากจะบอกว่า ‘มันไม่ใช่เรื่องเที่ยวนะ!!! กรุณาอ่านให้จบ! มันเป็นการท่องโลกกว้าง เพื่อเปิดโลกทัศน์ กระตุ้นความคิด ในชั่วโมงว่าง!!’
หลังจากที่ขีด เขียน ฆ่าเอกสารโครงการของนิญาดาจนสาแก่ใจ หัวหน้าปิดแฟ้มลงดังปัง! แล้วเลื่อนซากโครงการที่พรุนไปด้วยรอยขีดฆ่าของปากกาแดงมาตรงหน้าเจ้าของโครงการ
“ไปแก้มา! แล้วค่อยมาเสนอใหม่!!”
“ค่ะ”
สาวน้อยรับแฟ้มงานคืน แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะ
หล่อนต้องกัดฟัน ตั้งสติ กับการที่จะต้องมาแก้งานที่ไม่คาดฝันในครั้งนี้ กว่าจะแก้งานเสร็จ ให้ได้ตามที่หัวหน้าต้องการ
ตะวันก็ลับขอบฟ้า ทั้งสำนักงานเหลือเพียงแค่ร่างบางกับโต๊ะที่ว่างเปล่าเกือบยี่สิบตัว หล่อนวางแฟ้มเอกสารแก้ไขไว้บนโต๊ะหัวหน้า
‘... ขอให้ทุกอย่าง... ผ่านพ้นด้วยดี..’
นิญาดาภาวนา
เช้าตรู่ของวันใหม่นิญาดามาถึงสำนักงาน สิ่งแรกที่ทำ คือ รีบโทรศัพท์ ติดต่อขอโอนค่ามัดจำ กับรีสอร์ต ก่อนที่หัวหน้าจะจับได้ ว่ายังไม่ได้โอนมัดจำเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีปรากฏการโอนเงินเรียบร้อย หล่อนก็ยิ้มอย่างเบาใจ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยรอแค่ประชาสัมพันธ์โครงการให้อาจารย์สมัครเข้าอบรมจากนั้น นิญาดาก็รีบสะสางงานหลักต่อนิ้วเล็ก ๆ ของนิญาดาพลิ้วไหวบรรเลงลงบนแป้นพิมพ์ อย่างชำนาญ แปดชั่วโมงของการทำงานในช่วงใกล้ปิดงบประมาณ มันช่างน้อยนัก รู้ตัวอีกที ก็หมดเวลาทำงานเพื่อน ๆ ในสำนักงานกลับกันหมดแล้ว “นิญาดา”เสียงหนักแน่น น่าเกรงขามดังขึ้นหล่อนหันขวับไปยังต้นเสียงทันที“.. เข้ามาหาอาจารย์ด้วย...”ต้นเสียงเอ่ยต่อคนที่เรียกชื่อจริงของหล่อน.. มีเพียงคนเดียวเท่านั้น คนนั้นคือ “รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย” ผู้ที่มีอำนาจลงนามสั่งให้คนทั้งมหาวิทยาลัยทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้และเป็นท่านประธานสูงสุดของสำนักงานวิจัยแห่งนี้หญิงสาวผู้ถูกเรียกรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องรองอธิการบดี เมื่อพบกับผู้ที่อยู่เบื้องหน้า หล่อนกระพุ่มไหว้อย่างเคารพตามธรรมเนียมผู้น้อยต้องไหว้ผู้ใหญ่“นั่งลงสิ...”เสียงเบาสั่ง แต่ยังคงความน่าเกร
แสงอรุณยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดรับลม แสงแรกของวันใหม่เข้ามาคลอเคลียปลุกนิญาดาให้ตื่นจากการหลับใหลเหมือนเช่นทุกวัน ทุกชีวิตกำลังเริ่มเคลื่อนไหว ตามวิถีทางแห่งตนเช้าวันนี้ ข้าราชการวัยเกษียณทั้งคู่ออกไปที่ไร่ก่อนลูกสาวจะตื่น นิญาดาจึงอนุญาตให้ตนเองเหลวไหลสักวัน เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอกลับนอนเอนกายบนเก้าอี้หวายตรงระเบียงบ้าน ทอดสายตามองออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมายกาแฟในแก้วที่เคยส่งไอร้อนหอมกรุ่นบัดนี้ กลับเย็นชืด ไม่พร่องลงแม้แต่น้อย คราบน้ำตายังคงปรากฏอยู่บนใบหน้านวลลออ เหตุการณ์ถูกตำหนิจากท่านรองฯ เมื่อวาน มันยังคงแจ่มชัดในหัวจนแทบไม่อยากเข้าสำนักงานแสงแดดที่เริ่มแผดกล้าขึ้นรบเร้าให้ร่างบางค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้หวาย แม้จะไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ต้องออกโบยบิน จนกว่าจะสิ้นลม มันคือ หน้าที่ของมนุษย์กินเงินเดือนอย่างเธอ !08.50 น.นิญาดาเหลือบดูนาฬิกาบนผนังห้อง พร้อม ๆ กับหัวหน้าสำนักงานจ้องคนมาสายจนตาแทบจะถลนออกจากเบ้าหล่อนจ้องตากลับไม่ยอมหลบพร้อมกับยกมือไหว้ แต่ไม่ยิ้มเหมือนเช่นเคย “สวัสดีค่ะหัวหน้า”นิญาดาทักทายเสียงแข็ง เพราะยังคงเสียใจและผิดหวังกับการกระทำของผู้ที
อะไรที่หล่อนอยากได้ หล่อนต้องทำให้ได้ แค่ข้อมูลผู้ชายเพียงคนเดียวมีหรือเด็กเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจะหามันมาไม่ได้!ไม่นานนักข้อมูลของเครื่องมือในการแก้แค้นหัวหน้าก็ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ชื่อเต็ม ๆ คือ “ผศ. ดร. เตชิน ไตรสุวรรณภักดี” อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาไฟฟ้า อายุสามสิบเจ็ดปี สถานภาพโสด ชื่อ-ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ ข้อมูลครบเมื่อได้ข้อมูลมาเรียบร้อย นิญาดารีบส่งอีเมลเชิญเป้าหมายเข้าร่วมงานอบรมที่หล่อนกำลังจะจัดขึ้นทันทีนิญาดาปรบมือให้ตัวเองเบา ๆ ก่อนจะลงมือทำงานพร้อมกับฮัมเพลงออกมาเบา ๆ อย่างอารมณ์ดีจากนี้ก็แค่รอ รอ......ให้สุดที่รักของหัวหน้าเดินเข้ามาติดกับ แล้วเธอก็จะได้แก้แค้นอย่างสาสม ! เช้าวันรุ่งขึ้นนิญาดารีบเช็กอีเมลทันที แต่กลับไม่ปรากฏเมลของคนที่กำลังรอคอย ดวงตาคู่งามจับจ้องใบรายชื่อผู้ที่ลงทะเบียนเข้าอบรม ไม่ว่าจะดูกี่รอบ ๆ ก็ไม่ปรากฏชื่อ “ผศ. ดร. เตชิน ไตรสุวรรณภักดี” เลยสักนิด สุดที่รักของหัวหน้า เครื่องมือชิ้นเอกในการแก้แค้น“นิ! นิญาดา มาหาพี่หน่อย!”เสียงของนางช้างยักษ์ ร้องแปร๋นลั่นห้อง อย่างวางอำนาจแทรกเข้ามาในโสตประสาทแม้จะไม่อยากไปหา แต่
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ทักทายอาจารย์ตั้งแต่เช้าตรู่ จนบัดนี้ผ่านไปสามสิบกว่าท่าน จนเหงือกเริ่มจะแห้ง แข้งขาที่วิ่งขึ้นวิ่งลงรถบัสคันใหญ่เพื่อแจกป้ายชื่อบ้าง พาอาจารย์ขึ้นไปนั่งรอบนรถบ้าง เริ่มจะล้า “พี่นิขอป้ายชื่อหน่อยจ้า”เสียงน้องภีมร้องเรียกแจ้ว ๆ อยู่ด้านล่าง นิญาดาจึงรีบวิ่งลงไปด้วยความรีบร้อน ยังไม่ทันที่เท้าจะก้าวลงจากรถก็สะดุดเท้าตัวเอง“กรี๊ดดดดดดด”นิญาดาร้องเสียงหลง ร่างบอบบางคะมำไปข้างหน้า พรึบ!เธอกระแทกกับแผงอกกว้างของใครบางคน มือเล็กคว้าคล้องคอชายตรงหน้าไว้โดยอัตโนมัติ มือหนารวบเอวอรชรไว้ได้ทันก่อนจะร่วงลงกระแทกพื้น อกอิ่มนุ่มนิ่มเบียดเสียดกับอกแน่นล่ำสัน เนื้อแกร่งร้อนระอุ ความเร่าร้อนที่แฝงเร้นในกายชายหนุ่มกระตุ้นเลือดในกายสาวให้เดือดพล่าน ใบหน้าคนในอ้อมกอดร้อนผะผ่าวแดงก่ำ ดวงตาคู่งามที่ตื่นตระหนกด้วยความตกใจเมื่อครู่ สบกับดวงตานิ่งล้ำลึกเนิ่นนาน“เอ่อ อะ แฮ่ม!”ภีมถลาเข้ามาหาคนทั้งคู่ นิญาดาได้สติรีบคลายมือออก มือใหญ่จึงปล่อยเอวบางเช่นกัน“สวัสดีคร้า ท่านอาจารย์เตชิน”ภีมสาวในร่างชายส่งเสียงแหลมปรี๊ดทักทายผู้มาใหม่“สวัสดีค่ะ อาจารย์เตชิน” นิ
นิญาดารวบช้อน แล้วรีบกลืนไอติมให้ละลายลงคอ แล้วกรอกตามด้วยน้ำเปล่า“หนูขอตัว ไปดูความเรียบร้อยในห้องประชุมก่อนนะคะ”หล่อนขออนุญาตพี่เกด ก่อนวิ่งตามอาจารย์ออกไปภีมมองตามหญิงสาวที่วิ่งออกไปแล้วหันมาสบตากับสาวใหญ่ยิ้ม ๆ อย่าง “รู้กัน”แผนการขั้นต่อไปของนิญาดา คือ ต้องปรากฏตัวให้เป้าหมายรู้จัก ! นิญาดาแกล้งเดินเฉียดใกล้กลุ่มของอาจารย์เตชินด้วยใจระทึก“เดี๋ยวสิ คุณนิ”หนึ่งในแก๊งหนุ่ม ๆ อาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ร้องเรียก‘Yes!!! เป็นไปตามแผน!!’ นิญาดายิ้มน้อย ๆ อย่างลิงโลดในใจก่อนหันไปยังผู้เรียก พร้อมกับแววตาใสซื่อที่สุดเท่าที่เธอเคยกระทำมา“คะ?”“ทำไมถึงได้จัดงานอบรมนี้ขึ้นล่ะครับ?”อาจารย์หนุ่มหนึ่งในกลุ่มนั้นถามขึ้น“คือ อยากจะเติมไฟให้อาจารย์ค่ะ เชิญศาสตราจารย์เก่ง ๆ มาพูดให้ฟัง เผื่อว่าจะได้พลังใจดี ๆ กลับไปค่ะ”แววตาผู้ตอบฉายแววมุ่งมั่น ย้ำว่าสิ่งที่เธอพูดและทำมาจากความตั้งใจจริง ๆ“แล้ว ทำไมถึงได้เชิญพวกผมล่ะครับ?”หล่อนเหลือบมองหัวหน้าภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ตามด้วยรองหัวหน้าภาควิชา ไล่ไปจนถึงอาจารย์ทุกคนของภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มารวมตัวอยู่ที่นี่เกินกว่าครึ่งของภาค
“โต๊ะนี้ คงเป็นโต๊ะที่โชคดีมากนะครับ ที่มีโอกาสได้นั่งทานข้าวกับสาวสวยที่สุดในค่ำคืนนี้”ดร. พงษ์ เลิศปัญญา เพื่อนสนิทของเตชิน เอ่ยทักขึ้นเป็นคนแรก เพราะมีเชื้อจีน ผิวพรรณจึงขาวเนียน บวกกับความมีอารมณ์ขันจึงทำให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย แม้ว่าจะล่วงเข้าวัยสามสิบแปดปี“ขอบคุณค่ะอาจารย์พงษ์ ยินดีเช่นกันที่มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า”หล่อนยิ้มหวานให้หนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหาร และยังไม่ลืมที่จะโปรยรอยยิ้มแสนหวานนั้นมายังอาจารย์เตชินซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ แต่เขากลับเฉย แววตาคมกริบนิ่งลึก ยากที่จะอ่านความรู้สึก“ขอบใจมาก นะจ๊ะน้องภีม”นิญาดา กระซิบภีมพร้อมกับขยิบตาให้เป็นเชิงรู้กันว่า การที่หล่อนได้มานั่งข้าง อาจารย์เตชินไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างตั้งใจล้วน ๆ “เรื่องแบบนี้ ไว้ใจสุดสวยอย่างภีมได้เลยจ้ะ พี่สาว”ภีมยกแก้วไวน์ชนแก้วกับนิญาดาฉลองให้กับการเริ่มต้นแผนการฉกดวงใจของหัวหน้าที่ส่อแววว่าจะไปได้สวยส่วน “พี่ปัญญ์” คนที่หัวหน้าส่งมาคอยคุมพวกเธอ น้องภีมมอบหมายให้พี่เกดจัดการ หากเหลียวดูโต๊ะข้าง ๆ จะเห็นสาวสูงวัย ผมถูกรวบมวยไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อยต
“อืม ใช่ครับ เรียกได้ว่าเป็นซากุระสุดท้ายที่บานให้เชยชมก่อนที่จะร่วงหมดทั้งประเทศ เหมือนกับ...”เขาหยุดคำพูดแค่นั้น แล้วกระดกเครื่องดื่มในแก้วจนหมด ดูเหมือนมีม่านบางอย่างเกิดขึ้นในแววตาคมกริบคู่นั้นคิ้วเรียวงามของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเมื่อเขาหยุดพูดไปเฉย ๆ หล่อนจึงชวนคุยต่อ เพื่อดำเนินการไปตามแผนที่วางเอาไว้“ฉันฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อยากเห็นซากุระสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่พอกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ก็เหมือนว่าชีวิตจะยุ่งทุกวัน ฮ่า ๆ”“ชอบซากุระ?”คำถามสั้นเช่นเคย แต่คนฟังกลับรู้สึกยินดีที่เขายังโต้ตอบบ้าง“ค่ะ ซากุระ ซูชิ ออนเซ็น ชอบทุก ๆ อย่างที่เป็นญี่ปุ่น ถ้าวันไหนไปญี่ปุ่น จะขอนอนแช่ออนเซ็นดูฟูจิให้หนำใจไปเลย !”ชายหนุ่มมองแววตาเพ้อฝันของคนเล่า ยิ้มลึก“แล้วอาจารย์ล่ะคะ?”“ครับ”หญิงสาวเลิกคิ้วสูง คำว่า “ครับ” คือ ชอบหรือไม่ชอบ ราวกับว่าเขาพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งก้าวล่วงเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไปความเจ็บแปลบ แล่นสู่หัวใจดวงน้อย นิญาดาต้องเตือนตัวเองอีกครั้ง เขาคือเครื่องมือในการแก้แค้นเท่านั้น! เรื่องส่วนตัวของเขาเราไม่จำเป็
“เออ พี่ลืมบอกพวกเธออีกหนึ่งเรื่อง”“อะไร้ เจ๊!”ภีมหน้าเครียด“มะ เมื่อก่อน อาจารย์เตชิน เคยได้ฉายาว่า คาสโนวาตัวพ่อ!”“อุ๊ปส์”ภีมหน้าเหวอ จะบุกเข้าไปช่วยพี่สาวตอนนี้ ก็กลัวจะได้ดูหนังสด แต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็จะรู้สึกผิด เพราะแผนการอ่อยผู้ชายครั้งนี้ เขาเป็นคนวางแผนให้หญิงสาวทั้งหมด“เอาอย่างนี้แล้วกัน เราไปแอบฟังที่ประตูกันเถอะ ถ้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือค่อยบุก!”“ถ้าไม่”ภีมถามกลับอย่างสยอง“ก็แยกย้ายสิจ๊ะ”แล้วสองร่างก็แนบหูเข้ากับประตูห้องต้นเหตุอือ... อ่า อือ... อะทั้งคู่ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากข้างในชัดเจน หน้าของทั้งคู่แดงก่ำแดง ต่างสบตาอย่างรู้กัน แล้วค่อย ๆ ย่องหายกลับห้องใครห้องมัน อย่างรู้สถานการณ์ปัง ! ทันทีที่ประตูปิดลง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวในอ้อมกอดดันเข้าชิดผนังห้อง แล้วมือใหญ่ที่แข็งราวคีมเหล็กยึดข้อมือเล็กติดกำแพงปากหนาประกบกลีบปากบางไม่ยอมห่าง จูบรุนแรง ไม่อ้อยอิ่งอย่างคนหิวโหย เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มซอนไซ้ คลอเคล้าอย่างเร่งร้อน ดูดดื่มจนสาวน้อยในกำแพงกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่เพราะเขาตรึงหล่อนไว้กับผนัง ร่างบางคงพับลงพื้นเพราะไฟสว