หน้าหลัก / โรแมนติก / ซ่านรักซากุระเดือนห้า / ตอนที่1. หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ

แชร์

ซ่านรักซากุระเดือนห้า
ซ่านรักซากุระเดือนห้า
ผู้แต่ง: Bunmeebooks

ตอนที่1. หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ

หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ซอยส้นสูงสีแดงสดก้าวฉับ ๆ เข้ามาในสำนักงาน  ผมสลวยสีดำเงางามสะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน  ดวงตากลมโตแต่งเติมด้วยอายแชโดว์เพิ่มความหวานซ่อนเปรี้ยวให้ดวงตาคู่งาม หญิงสาวเหลือบดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้อง  

08.30 น. 

เวลาตอกบัตรเข้างานพอดิบพอดี ปากบางแต้มด้วยสีแดงกุหลาบกระตุกยิ้มพร้อมมองสบตาสาวใหญ่ที่กำลังมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า

“สวัสดีค่ะพี่ณี”

นิญาดา  สาวสวยประจำสำนักงานทักทายเสียงใสอย่างมีจริตจะก้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้า

แววตาถมึงทึงของหัวหน้าสำนักงานจ้องสาวน้อยที่ทักทายเพียงแวบเดียว แล้วสะบัดหน้าบูดบึ้งนั้นหันไปสนใจกับงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง

สาวสวยยักไหล่ คิดในใจ

 ‘ก็ช่างปะไรต่างคนต่างอยู่’

แล้วขายาวเรียวนวลเนียนภายใต้กระโปรงสีแดงแปร๊ดรัดรูปอย่างสาวออฟฟิศสมัยใหม่ก็ก้าวไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งอย่างเคยชิน สายตาคู่งามก็หลุบต่ำลงเมื่อเห็นหนังสือราชการที่ตนอุตส่าห์ตั้งใจทำเมื่อวานกว่ายี่สิบฉบับ ถูกขีดฆ่า แก้ไขด้วยปากกาสีแดงเป็นปื้น ๆ

เฮ่อ !

นิญาดาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย  แล้วทิ้งร่างอรชรบอบบางลงบนเก้าอี้

แม้จะถูกกลั่นแกล้งจนเคยชิน แต่ก็ยังอดเหนื่อยใจไม่ได้ ‘เมื่อไหร่นะ นางยักษ์จะเลิกจิกกัดหล่อนสักที !’

เพียงแค่หล่อนเป็นเพื่อนสนิทกับลูกน้องคนเคยสนิทของนางยักษ์ก็เท่านั้นเอง!!!

หัวหน้าสำนักงานผู้มีนามเต็ม คือ  “กัลยาณี ต้องหทัยมั่น”  ซึ่งลูกน้องในสังกัดมักจะเรียกนางลับหลังว่า “นางยักษ์” เหตุเพราะรูปร่างของสาวใหญ่ ทรวดทรงขนาดมหึมา แต่ไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งของความเป็นผู้หญิง แถมยังชอบทำหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธคนทั้งโลกตลอดเวลา นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้สาวร่างยักษ์ขึ้นคานมาจนถึงทุกวันนี้

ส่วนลูกน้องคนนั้นชื่อนุ้ย  นุ้ยเป็นเจ้าหน้าที่ในโครงการวิจัยของหัวหน้า เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาสายตรงของหัวหน้า ในช่วงแรกนุ้ยเป็นลูกน้องคนโปรด เพราะทำงานเก่งและสามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามที่หัวหน้าต้องการ

 พักหลัง ๆ นุ้ยเริ่มระบายความอึดอัดให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มฟังว่า นางยักษ์ชอบสั่งให้เบิกจ่ายเกินความเป็นจริงทีละหมื่นสองหมื่น บางครั้งนุ้ยต้องจำใจขอสำเนาบัตรประชาชนผีจากชาวบ้านเพื่อมาเบิกจ่ายในกิจกรรมที่ไม่ได้ทำจริง ๆ

จนกระทั่งวันหนึ่งนุ้ยทะเลาะกับหัวหน้าอย่างรุนแรง  แล้วถูกไล่ออกอย่างกะทันหัน เพื่อนที่เหลือในกลุ่มต่างก็ตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และเริ่มระแคะระคายว่าสิ่งที่นุ้ยบอกน่าจะเป็นความจริง

สิ่งเหล่านี้นิญาดา คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ซึ่งอาจจะมีนอกมีใน ซึ่งหากใครเข้าไปยุ่งด้วยก็มีแต่เสียกับเสีย หล่อนจึงพยายามที่จะนิ่งเฉยเสีย แต่นางยักษ์ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น !

งานแรกของวันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการแก้ไขเอกสาร

หญิงสาวสูดอากาศยามเช้าเข้าเต็มปอดลึก ๆ เพื่อสลัดความหงุดหงิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกไปจากใจ ไม่นานนักมือเรียวก็บรรเลงไปบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์อย่างชำนาญ

ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเอกสารเกือบยี่สิบฉบับถูกแก้ไขเรียบร้อยพร้อมนำเข้าแฟ้มเตรียมเสนอหัวหน้าอีกครั้ง

นิญาดายักไหล่  ‘เรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ’

เธอเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมเหรียญทองของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศ รับมือกับสถานการณ์เท่านี้ได้สบาย

คามจริงสาขาการบัญชีที่หล่อนอุตส่าห์ร่ำเรียนมาถึงสี่ปี หากทำงานในกรุงเทพมหานคร จะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล   หากแต่ว่า เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ตระกูลไพรีพิจิตร หรือชื่อเต็มของเธอคือ

“นิญาดา ไพรีพิจิตร” 

นิญาดาจำต้องยอมรับทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่มาตรฐานงานวิจัยในมหาวิทยาลัยเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่บ้านเกิดของเธอเอง เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแม่ ซึ่งตอนนี้ท่านทั้งคู่เกษียณราชการแล้ว และกำลังเริ่มต้นทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นความสุขในบั้นปลายชีวิต  ส่วนเธอชีวิตการทำงานที่เพิ่งจะเริ่มต้น

“นิญาดา”

เสียงเรียกต่ำ ๆ ดึงหล่อนให้หลุดจากความคิด

“คะ?”

คนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดกะพริบตามองไปยังต้นเสียง

หญิงรูปร่างท้วมใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะของเธอเมื่อไหร่ก็มิอาจทราบได้ ผมของผู้หญิงคนนั้นถูกตัดให้เข้าทรงมากกว่าการจัดตกแต่ง เสื้อผ้าเรียบแต่ดูหรูด้วยแบรนด์ต่างประเทศการันตี  เค้าโครงหน้าของผู้อยู่ในวัยใกล้เกษียณ มีความสง่าของผู้มีบารมี

เมื่อมองเห็นผู้ส่งเสียงเรียกเมื่อครู่ชัด ๆ นิญาดาจึงรีบกระพุ่มมือไหว้ทันที

“สวัสดีค่ะท่านรองฯ”

รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดพยักหน้าตอบรับพร้อมเอ่ยถาม

“โครงการพัฒนาทักษะนักวิจัย ถึงไหนแล้ว รีบทำนะจะสิ้นปีงบประมาณแล้ว ถ้าเสร็จไม่ทันเวลาเขาให้คืนเงินทั้งหมด”

 “กำลังดำเนินการค่ะ”

นิญาดาตอบได้ไม่เต็มปากนัก

ท่านรองฯ เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ โดยไม่ทันสังเกตว่าใบหน้าสาวสวยซีดลงทันตา

เมื่อท่านรองฯ  เดินเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุดของสำนักงาน คนถูกทวงงานถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อวานหล่อนเพิ่งจะได้รับอีเมล (E-mail)  จากทีมวิทยากรที่ติดต่อไว้

-เนื่องด้วย ติดภารกิจกะทันหัน จึงขอยกเลิกการเป็นวิทยากร-

‘ม่ายยยย นะ!!!’

นิญาดาคร่ำครวญในใจ

เมื่อถูกทีมวิทยากรเดิมตอบปฏิเสธ เหมือนงานที่วางแผนไว้แล้วทุกอย่างพังทลายลงมา แล้วต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดภายในระยะเวลาที่จำกัด!!

หากจัดไม่ทันภายในหนึ่งเดือน พนักงานดีเด่นประจำสำนักงานอย่างหล่อนก็จะต้องถูกตราหน้าว่า

ไม่มีปัญญาบริหารจัดการโครงการให้สำเร็จ!!!  

งบประมาณในปีถัดไป หล่อนก็อย่าหวังว่าจะได้!!!

เหลือเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งเดือน จะสิ้นปีงบประมาณ เอกสารขออนุมัติค่าจ่ายในโครงการต้องทำ ให้เสร็จภายในวันที่สิบของเดือนกันยายนนี้!!! นั่นหมายความว่า นิญาดามีเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์ สำหรับการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิและกิจกรรม!!!

‘ตั้งสติ!!!’

นิญาดาบอกกับตนเอง

 ‘ถ้าเราเป็นอาจารย์... เราอยากเข้าอบรมแบบไหนนะ ?’

หล่อนตั้งคำถามในใจ

มีวิทยากรเจ๋ง ๆ

ที่พักสวย ๆ

อาหารอร่อย ๆ

. ได้ความรู้ และไฟ!!

ใช่แล้ว!!!!

ไฟ!!!

‘อาจารย์ที่มีประสิทธิภาพ ต้องมีไฟ! อยู่ในตัวเสมอ!! เพราะฉะนั้นเราจะต้องเติมไฟ !’

เพราะฉะนั้น หัวข้อการอบรมก็ต้องเป็น

‘นักวิจัย ไฟแรงสูง’

 ‘เฮ้ย!!!! มันเลิศมาก’

นิญาดาชมตัวเองในใจ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status