หน้าหลัก / แฟนตาซี / ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย / ตอนที่ 37 :  ท้องฟ้ามักจะสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะเข้ามา

แชร์

ตอนที่ 37 :  ท้องฟ้ามักจะสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะเข้ามา

ผู้เขียน: หัตถ์อนันต์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-11 15:28:40

〝อืม〜〞

          แสงอาทิตย์อุ่นๆยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างชั้นสองเข้ามากระทบใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มตื่นขึ้นจากภวังค์ แต่เพราะกำลังถูกความสบายเพราะนอนหลับนานกว่า 8 ชั่วโมงกดทับไว้อยู่เด็กหนุ่มจึงครางออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายเพราะไม่อยากลุกจากเตียงทันทีนั่นเอง         และถึงแม้ก่อนหน้านี้ 10 นาที นาฬิกาปลุกจากสมาร์ทโฟนของเขาจะดังไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมลุกจากเตียงแต่อย่างใด

〝กร!!! 7 โมงครึ่งแล้วนะ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก!〞

          เสียงของหญิงสาวผู้เป็นแม่ตะโกนขึ้นไปยังห้องที่อยู่บนชั้นสอง หรือก็คือห้องของกรด้วยน้ำเสียงดุดัน เพื่อเรียกให้ลงมาเตรียมตัวไปโรงเรียนโดยเร็ว

〝งือ〜 ขออีกซัก 12 ชั่วโมงครับแม่〞

〝ปกติมันต้องขอ 5 นาทีไม่ใช่เหรอ!!!!! แล้วขอตั้ง 12 ชั่วโมง คิดจะหลับจนถึงเย็นเลยรึไงกันยะ!!!!〞

〝คุณแม่รับมุขได้สวยครับ... ครอก〜〞

และต่อให้ท่านแม่ผู้บังเกิดเกล้าตะโกนขนาดไหน ฉันก็ไม่คิดที่จะลุกออกจากที่นอนเลยซักนิด

พอตบมุขคุณแม่เสร็จ ฉันก็ดึงผ้าห่มมาคลุมโปง แล้วกลับไปนอนต่อในทันที อา.... สุขสุดๆ

〝สวัสดีค่ะคุณน้า! ขออนุญาตนะคะ!〞

〝โอ๊ะริน! เข้ามาก่อนสิ!〞

〝ค่ะ!〞

เสียงแหลมเล็กของเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉัน ดังมาจากทางประตูหน้าบ้าน

ฟังจากน้ำเสียง ก็รู้แล้วว่ากระตือรือร้นสุดๆ

อ่อ... รินเองสินะ

ตอนนี้เธอคงกำลังสวมชุดนักเรียนปกกะลาสี สีขาว สวมกระโปงยาวถึงเข่าสีเทา ซึ่งก็คือเครื่องแบบนักเรียนโดยทั่วไปของประเทศไทยนั่นแหล่ะ

แล้วพอคุณแม่อนุญาต รินก็เปิดประตู แล้วเดินเข้ามาในทันที...  ถ้าถามว่าเข้ามาทำไมหล่ะก็ ก็เข้ามาปลุกฉันนี่แหล่ะนะ

ถึงจะรู้สึกผิดก็เถอะ แต่ตอนนี้ความรู้สึกดีๆที่มีให้ใครซักคน(เตียงกับผ้าห่ม)ของฉันมันมีมากกว่าเธอนะริน... เพราะงั้นขอโทษทีเน้อ

〝ทานข้าวเช้ารึยังจ๊ะ?〞

          แล้วพอรินรีบเดินเข้ามาในครัว ก็พบกับแม่ของกรที่กำลังสวมผ้ากันเปื้อนดูเข้ากันกับใบหน้าที่ยังสาวของเธอ

          อนึ่ง ตอนนี้แม่ของกรกำลังผัดข้าวผัดด้วยกระทะกับทอดไข่ดาวไปพร้อมๆกันอย่างคล่องแคล่ว ทั้งยังสามารถถามรินได้โดยไม่เสียสมาธิเลยแม้แต่น้อย

〝ทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ! ว่าแต่กร... คงเหมือนเดิมสินะคะ〞

〝เฮ้อ! ตามนั้นเลยจ๊ะ〞

คุณแม่ครับ ถอนหายใจใส่แบบนี้มันไม่ดีนา... เขาบอกว่าถอนหายใจหนึ่งครั้ง ความสุขจะหายไปหนึ่งครั้งเชียวนะ

〝ต้นเหตุก็เพราะลูกเองไม่ใช่รึไง! ให้ตายสิเจ้าลูกบ้ามุดถุงยางมาเกิดนี่ ซักวันจะจับยัดใส่กระสอบทรายแล้วเอาไปถ่วงอ่าวไทยให้ได้เลยคอยดู!!!〞

〝หนะ นั่นกรได้ยินนะคะนั่น!〞

ใช่เลยหล่ะ! ได้ยินเต็มสองรูหูเลยหล่ะ เพราะมีสุดยอดการประมวลผล ยังไงหล่ะ!!!

ว่าแต่ท่านแม่ครับ แบบนั้นมันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ... นี่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวของคุณเลยนะครับ!

….แล้วทำไมถึงอ่านใจผมออกหล่ะครับเนี่ย?

〝หึหึ! ก็กะให้ได้ยินนั่นแหล่ะ! เตรียมใจไว้ได้เลยไอ้ลูกชาย!!!〞

〝อือ〜〞

          คุณแม่ของกรตะโกนขู่อีกครั้งราวกับกำลังต่อว่าเด็กอนุบาลอยู่ยังไงอย่างงั้น และแน่นอนว่ากรตอบกลับมาด้วยเสียงครางเหมือนเดิม

〝ริน ฝากเป็นทัพหน้าเหมือนทุกทีด้วยนะ!〞

〝ค่ะ! ไว้ใจได้เลย〞

พอคุณแม่บอกรินแล้วกำมือชูนิ้วโป้งเพื่อให้กำลังใจเหมือนทุกที คุณรินก็ทำการเดินจ้ำอ้าว ๆ ขึ้นมาชั้นสอง...

ขึ้นมาถึงหน้าห้องแล้ว... เร็วแฮะ! ก็มาปลุกทุกวันนี่นา ...สกิลคงเต็มหลอดแล้วมั้งเนี่ย

อืม... คำพูดเมื่อกี้สื่อให้เห็นถึงความขี้เกียจของตัวเองเลยแฮะ แต่ฉันเหนื่อยกว่าคนอื่นง่ายนา... ต้องใช้พลังงานไปกับสุดยอดการประมวลผลนี่นา... เพราะงั้นขอทีเถอะ ถือว่าเป็นรางวัลของความพยายามไง!

แล้วอีกอย่าง ประตูห้องของฉันล็อคอยู่นะ เพราะงั้นเลิกหวังได้เลยริน

คลิ๊ก!

〝เข้าไปแล้วนะ!〞

          หลังจากที่เสียงปลดล็อดกลอนประตูจากภายนอกเงียบไปซักพัก รินก็ตะโกนเรียกเขาจากตรงประตูในทันที

เออ... ลืมไป... ยัยนี่ปั้มกุญแจสำรองไว้แล้วนี่หว่า

〝ตื่นได้แล้——〞

〝ไม่เอา!〞

          ยังไม่ทันที่รินจะพูดจบ กรก็รีบตัดบททันที รินที่อยู่ตรงประตูก็ถอนหายใจออกมาครั้งนึงเบาๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหากรที่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง แล้วก็ยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างเตียง

〝จะสายแล้วนะกร!〞

〝อลิซสายกว่าฉันอีก ไปปลุกยัยนั่นก่อนสิ...〞

〝วันนี้อลิซมีซ้อมตอนเช้า เธอไปโรงเรียนก่อนแล้ว〞

บ้าชิบ! ทางหนีทางแรกหายไปแล้ว

〝ชิ!〞

〝ยะ อย่าเดาะลิ้นแบบนั้นสิ!〞

ช่วยไม่ได้... ถ้างั้นก็มีแต่ต้องดันทุรังท่าเดียว

〝ถึงงั้นก็ไม่เอาอยู่ดี!!!〞

〝นะ นายเนี่ยน้า! ถ้างั้นคราวนี้... ฉันเองก็ต้องใช้วีธีรุนแรงแล้วเหมือนกันนะ〞

〝โห๋! รินนะเหรอรุนแรง น่ากลัวจังแฮะ〞

〝อย่ามาหยอกนะ! ——ยะ ย้า!〞

รินทำแก้มป่องอย่างน่ารักน่าชังใส่ฉันที่พูดประชดออกไปเล่นๆ แล้วเธอก็จับการดึงผ้าห่มที่คล้ายโดมโดยมีฉันอยู่ข้างในออกมาทั้งอย่างงั้นเลย

ว่าแต่...

〝เดี๋ยวสิเฮ้ย! นี่ก็ดึงเหมือนทุกทีไม่ใช่รึไง!〞

〝นายก็ไม่ยอมออกมาเหมือนกับทุกทีนั่นแหล่ะ!〞

〝ดื้อชะมัดเลย!〞

〝หนอย นายก็เหมือนกันแหล่ะ!〞

แต่แน่นอนว่าแรงของผู้ชายอย่างฉันต้องมากกว่าผู้หญิงบอบบางอย่างรินแน่นอน เธอเลยดึงไม่ออกซักที

แต่ถึงจะดึงออกไม่ได้ แต่แบบนี้มันจะไปนอนได้ยังไงกัน!

〝งั้นก็ช่วยไม่ได้!〞

〝อึก! คราวนี้จะใช้ไม้ไหนอีกหล่ะ〞

          พอกรพูดแบบนั้นออกมา รินก็ทำท่าทางระวังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกทีที่กรพูดแบบนั้นออกมา เขาก็จะทำเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงทุกครั้ง และแน่นอนว่าครั้งนี้เองก็เช่นกัน

ชึบ!

〝เอ๋!〞

          กรปล่อยผ้าห่มที่กำลังดึงอยู่แล้วถีบตัวเองออกจากเตียงไปอยู่ข้างหลังริน เนื่องจากว่าพอกรปล่อยผ้าห่ม รินที่กำลังดึงอยู่ก็ต้องเสียหลักแล้วล้มไปข้างหลังตามแรงปฏิกิริยาที่กรดึงผ้าห่มตามกฎข้อที่ 3 ของนิวตัน แต่กรก็คาดไว้แล้วจึงเข้าไปรับได้ทัน โดยการใช้มือทั้งสองข้างพยุงไหล่ของริน

          รินที่รู้สึกตัวอีกทีก็โดนกรจับได้ ก็กลับหน้าแดงออกมาเพราะถูกการจู่โจมอย่างกระทันเข้าไป แต่ก็เป็นแบบนั้นได้เพียงครู่เดียว เพราะต่อจากนั้น....

〝กร! ขะ ขอบคุณนะ〞

〝อ่าห้า! นี่ไม่ใช่เวลามาขอบคุณหรอกนะ... เพราะของจริงมันต่อจากนี้ไปต่างหาก〞

〝ว่าไงนะ! ——ห๊ะ ๆ ๆ ๆ ยะ หยุดก่อน ห๊ะ ๆ ๆ ๆ〞

จากนั้นฉันก็ทำการจักจี้ที่เอวของรินอย่างต่อเนื่องในทันที นั่นเลยทำให้รินบิดตัวไปมาอย่างน่ารักน่าชังราวกับลูกแมวที่โดนลูบไล้ไปทั่วตัว แล้วก็หัวเราะเสียงแหลมออกมาพร้อมๆกันด้วยหล่ะ

เอ๋! นี่เป็นการลวนลามทางเพศอย่างนึงงั้นเหรอ? ใครสนเรื่องนั้นกันหล่ะ เพราะการนอนมันสำคัญกว่านี่นา แถมนี่หน่ะยังแค่เริ่มเองนะ...

〝ว้าย!!〞

          กรผลักรินให้ล้มลงไปกับเตียง (-///-) จากทางด้านข้างอย่างกระทัน นั่นเพราะรินกำลังเสียสมาธิอยู่ด้วยนั่นแหล่ะเลยไม่ได้ระวังตัวเลยซักนิด แต่ถึงกรจะผลักอย่างกระทันหันก็ไม่ได้ทำให้รินบาดเจ็บเลยซักนิดเดียว นั่นเพราะมีฟูกซ้อนอยู่บนเตียงชั้นนึงแถมยังใช้แรงผลักไม่มากอีก

〝ดะ เดี๋ยวสิกร! คิดจะทำอะไร〞

〝หุหุ! ทำอะไรงั้นเหรอ? นี่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่นา〞

          รินถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงและใบหน้าแดงระเรื่อ กรจึงตอบกลับไปพร้อมกับหายใจเข้าออกแรงๆ พร้อมกับทำมือขยุมขยัมทั้งสองข้างราวกับพวกโรคจิต แล้วก็เดินเข้าเข้าไปใกล้รินที่นอนราบบนเตียงทั้งๆแบบนั้น

〝มะ ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่พร้อม... ไม่สิ! ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้... แต่ตอนนี้มันยังเช้าอยู่... มะ ไม่ใช่แล้ว!!! นี่ฉันพูดอะไรออกมาเนี่ย!〞

〝ไม่เป็นไร เพราะจากนี้ จะได้อยู่ด้วยกันอีกยาวเลยหล่ะ… จนกว่าจะถึงเย็นเลย หุหุหุ!〞

〝มะ ไม่น้า!!!!〞

          แต่ถึงรินจะตะโกน แต่เธอก็ไม่ได้รีบวิ่งออกจากเตียงไปแต่อย่างใด จนเหมือนกับว่าเธอจำยอมยังไงอย่างงั้นเลย แล้วพอกรเดินเข้าไปจนถึงขอบเตียง มือทั้งสองข้างของเขาก็คืบคลานเข้าไปหารินที่นอนอยู่บนเตียงอย่างช้าๆ แล้วจากนั้น…

ฟุบ!

〝ไม่ได้น้า!!!! อะ อ้าว!?〞

          พอรินรู้สึกตัวอีกที เธอก็ถูกมัดด้วยฟูกหนา 3 นิ้วเป็นม้วนโดยมีเชือกไนลอนมัดอยู่โดยรอบอีกชั้นนึงอย่างหนาแน่น โดยโผล่ออกมาได้แค่ศีรษะกับขาท่อนล่างเท่านั้นเอง นั่นเลยทำให้รินสบถออกมาด้วยน้ำเสียงโล่งอกปนเสียดาย?เพราะเข้าใจผิด

〝ไงหล่ะ! ก็แค่เซ็ทฟูกกับเชือกให้ยาวออกมาพอดึงได้ทันทีไว้ล่วงหน้าอะน่ะ... พอเธอนอนปุ๊บก็รวบเชือกแล้วก็มัด ใช้เวลาราวๆ 1.8 วินาทีก็เสร็จแล้ว… สุดยอดปะล่ะ〞

〝เอ๋!!!!!!!!!!!〞

เป็นไงหล่ะ ตกใจมากหล่ะสินะกับแผนการอันชาญฉลาดของฉันหน่ะ... แต่ทำไมรู้สึกเหมือนเธอจะตกใจในเรื่องอื่นมากกว่าเนี่ย แถมทำหน้าเสียดายด้วย...

〝นั่นสินะ... งั้นแผนนี้ขอใช้ชื่อว่า 『ขนมโตเกียวสอดไส้รินที่เพิ่งพลาดท่าเพราะโดนฉันจักจี้』ก็แล้วกัน   〞

〝ยาวไปแล้วนะนั่น!!!〞

โอ๊ะ! ตบมุขได้สวยเลยนี่นา ที่โยนมุขไปเนี่ยไม่สูญเปล่าแล้วสินะ

แถมรินยังอยู่ในฟูกอีก แบบนี้เหมือนกับมุกในแก๊งสามช่าเลยนี่หว่า... ตลกดีเหมือนกันแฮะ

〝งือ〜ตกใจหมดเลย นึกว่านายจะทำอะไรฉันซะอีก〞

〝หืม?〞

          พอกรได้ยินรินพูดแบบนั้นออกมาด้วยใบหน้าเขินอาย เขาก็เข้าใจเหตุผลที่รินตกใจเพราะเรื่องอื่นได้เสียที แล้วยังคิดที่จะแกล้งรินเพิ่มอีกต่างหาก

〝อะไรกันครับคุณไอริน... นี่อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องแบบนั้นอยู่หน่ะ〜〞

〝มะ ไม่ใช่อย่างงั้น!〞

          จากนั้นกรก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้รินจนแทบจะชนกันเพื่อแกล้งเธอ พร้อมกับใช้คำพูดหยอกล้อเสริมเข้าไปอีก จนหน้าของรินที่โผล่ออกมาแค่ศีรษะแดงไปจนถึงหูด้วยความเขินอาย แล้วก็พยายามมุดหน้าลงไปในฟูกอย่างน่ารักน่าชังราวกับเต่าที่หดหัวเข้าไปในกระดอง แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จเพราะกรได้มัดมันเสียแน่นพอที่เธอจะหลุดออกมาไม่ได้โดยง่าย

〝เห๋! แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยหล่ะคร้าบ〜〞

〝กะ ก็นายบอกว่าจะอยู่ด้วยกันจนถึงเย็น... ชะ ฉันก็...〞

〝หึหึ! ฉันแค่กะจะให้เธอนอนอยู่เงียบๆเป็นเพื่อนแค่นั้นเอง ฉันจะนอนหลับสงบๆยังไงหล่ะ.... นี่คิดไปไกลขนาดไหนครับเนี่ยแม่คู๊ณ〞

〝กะ ก็เพราะพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนั้นนั่นแหล่ะ!〞

          รินทำแก้มป่องมองมาทางฉันด้วยสีหน้าเขินอายอีกครั้ง ทั้งที่หน้าแทบจะติดกัน เธอก็เลยหันหลบตาไปอีกทางในทันที

〝เอ๋ เอ๋ เอ๋? แต่เธอก็คิดถึงเรื่องแบบนั้นก่อนเลยนี่นา 〞

〝ระ เรื่องนั้นมัน!〞

          จากนั้นกรก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆหูของรินเพื่อพูดหยอกล้อใส่เธออีกครั้ง

〝ริน... ลา-มก-จัง〞

〝งึ้ย!〞

          กรพูดแบบนั้นข้างๆหูของรินที่ยังอยู่ในม้วนฟูก จนทำให้รินร้องเสียงแปลกๆออกมา เพราะสัมผัสกับลมที่ออกมาจากปากของกรในตอนที่พูดประโยคหยอกล้อที่แรงเกินไป จนเธอต้องเขินอาย รู้สึกจั๊กจี้และเสียวสันหลังวาบไปเลยทีเดียว

ฟิ้ว!

〝!!!〞

          ชั่วพริบตาที่รินร้องเสียงแปลกๆออกมา กรก็สัมผัสได้ถึงวัตถุเรียวยาวพุ่งตรงมายังบริเวณศีรษะของตน เขาจึงจัดการคว้ามันด้วยมือขวาทั้งที่ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่ขว้างมันมาใส่  แถมยังรับจากข้างหลังทั้งที่ไม่ได้มองอย่างสมบูรณ์แบบ

          แล้วพอกรนำวัตถุที่อยู่ในมือมาดูด้วยความสงสัย ก็ปรากฏว่ามันคือ ตะหลิว จึงสร้างความสงสัยให้กับทั้งกรและรินเป็นอย่างมาก จนทั้งสองคนถึงกับเอียงคอสงสัยและมีเครื่องหมายคำถามลอยขึ้นมาอยู่บนหัวเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วพริบตาอีกครั้ง ที่กรสัมผัสได้ถึงจิตต่อสู้อันรุนแรงมาจากข้างหลังจนตัวเขาสั่นเทิมไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัวที่เขาเจอมาตลอด 17 ปี ซึ่งบุคคลที่ว่านั่นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจาก...

〝คุ... คุณแม่คร้าบ!〞

〝อาหารเช้าเสร็จแล้วนะจ๊ะ! ว่าแต่ว่า....〞

〝อึ๋ย!〞

          หม่อมแม่ของกรมองมาทางเขาด้วยสายตารุนแรงในหลายๆความหมาย จนตอนนี้กรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกบที่โดนงูจ้องจนขยับไม่ได้ยังไงอย่างงั้นเลย

〝แกล้งรินของแม่หนักไปแล้วมั้งเนี่ย〞

〝อึก! คนที่สอนผมให้ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยไม่สนเงื่อนไขอื่นก็คือแม่ไม่ใช่เหรอครับ!〞

〝เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน!〞

〝อะ เอาแต่ใจจังนะครับผม〞

          อนึ่งตอนนี้กรกำลังนั่งอยู่ขอบเตียงและใช้มือทั้งสองข้างตั้งการ์ดป้องกันแม่ของตัวเองอยู่ ด้วยสัญชาตญาณที่แม้จะเห็นแม่ตัวเองภายนอกเป็นสาวสวยงามสง่ามีราศี กำลังยิ้งอยู่อย่างร่าเริง แต่ด้วยออร่าไม่ธรรมดาที่แผ่ออกมา(จากที่กรจินตนาการไปเอง) เลยตั้งท่าแบบนั้นออกมาโดยที่ไม่ต้องคิด

ก็นะ... ถึงที่แม่สอนมาจะเป็นคติสำหรับการใช้ชีวิตจริงๆก็เถอะ แต่ในความหมายเชิงปฏิบัติแล้วมันโหดสุดๆไปเลยหล่ะ

ประมาณว่า ถ้าอยากจะสอบได้ที่ 1 ก็ต้องอ่านหนังสือแบบไม่หลับไม่นอน 3 วันให้ตายไปข้าง... หรือถ้าอยากจะชนะการแข่งวิ่งร้อยเมตรก็ใส่แรงจนสุดตั้งแต่ต้นยันจบไปเลย!

ประมาณนี้แหล่ะครับท่านผู้ชม... แล้วถามว่าเคยลองทำไหมนะเหรอ.... จะเหลือเหรอครับ... แล้วผลลัพธ์หน่ะเหรอ

ต้องขออนุญาตใช้คำว่า 〝หลังเสร็จภารกิจ ก็อ้วกแตกทุกรอบ〞เลยหล่ะครับ... ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมก็อยากจะตบมุขแม่เหมือนกันนะว่า 〝อย่าสอนเรื่องแบบนี้ให้เด็กสิฟ่ะครับ!〞อยู่เหมือนกัน

ไม่ต้องสนความเสี่ยง... ไม่ต้องสนเวลาที่เสียไป... ไม่ต้องสนผลลัพธ์ที่ตามมา... ถ้าเจอทางที่จะเล่นเกมได้แต้มมากที่สุดก็เลือกทางนั้นไปเลยไม่ต้องคิด…

จะว่าไปแล้วนี่ก็คงเป็นสาเหตุนึงที่ฉันเป็นไอ้บ้าก็ได้หล่ะมั้ง... ก็ถูกเสี้ยมสอนมาตั้งแต่เด็กนี่นา... แถมพ่อก็ไม่ได้คัดค้านวิธีของแม่อีก เฮ้อ!

〝คิดอะไรระหว่างที่คุยกับคุณแม่สุดที่รักกันหา!  ไอ้ลูกชายตัวดี!!!!!!〞

〝อย่ามาอ่านใจกันสิคร้าบบบบ!!!!!!!〞

ชิ้ง!

พอฉันต่อล้อต่อเถียงกลับไป มือซ้ายของคุณแม่ก็ดันมีทัพพีมาอยู่ในมือซ้ายอย่างเร็วเลย มองไม่ทันด้วย ยังกะมายากลแหน่ะ! สัตว์ประหลาดชัดๆเลยครับคุณแม่!

แล้วก็ยังไม่จบ... เพราะแน่นอนว่าคุณแม่ของกระผมต้องทำการขว้างมันมาทางผมอีกครั้งอยู่แล้ว ฉันเลยกระโดดลงมาจากเตียงแล้วก็โยนตะหลิวทิ้งไปบนพื้น(เด็กดีอย่าเลียนแบบนะครับ)

และก็แน่นอนว่าหนนี้ฉันก็รับไม่พลาดเหมือนเคย... แล้วแม่ก็โยนมาทางนี้อีกอันนึงด้วยช้อน... และช้อนอีกอันนึง... และอีกอันนึง... และอีกอันนึง... และอีกอัน——   เดี๋ยวสิเฮ้ย! นี่เยอะไปแล้วครับเจ๊

         

〝การคิดเรื่องอื่น ทำให้เสียสมาธินะเจ้าลูกชาย!〞

〝หนอย! ก็บอกว่าอย่ามาอ่านใจไงครับ!〞

〝เอาเถอะ เดี๋ยวก็จบแล้ว!〞

〝อึ๋ย! คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกหล่ะครับเนี่ย!〞

ฉันตบมุขคุณแม่กลับไป แบบเดียวกับที่รินเคยพูดใส่ก่อนหน้านี้

และไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น แม่ของผมก็ขว้างอาวุธลับมาทางผมในทันที แล้วพอผมคว้ามันตามปกติ ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่ยังหลงเหลือจากการใช้งานของตะหลิวที่เพิ่งคว้างมา...

เดี๋ยวสิ! นี่เอาตะหลิวที่เพิ่งใช้เสร็จมาโยนใส่ลูกชายสุดที่รักงั้นเหรอครับ! แม่ตูโหดสลัดมาก!

แล้วก็เป็นไปตามที่แม่คาดไว้! ผมรีบโยนตะหลิวที่ยังร้อนนี้ทิ้งทันทีเนื่องจากปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ของร่างกายและเสียสมาธิไปพริบตานึง แล้วตอนนั้นเองที่แม่ผมอาศัยจังหวะเข้าประชิดตัวจนได้แล้วเอาช้อน(ที่ไม่รู้งัดออกมาจากไหนอีกเหมือนเคย) มาชี้เข้าที่หว่างคิ้วของผมพร้อมกับเท้าสะเอวและประกาศชัยชนะของตนอย่างภาคภูมิ

〝ครั้งที่ 2,485… หนนี้แม่ชนะแล้วนะ!〞

〝อือ〜แพ้แล้ว! 〞

          กรบ่นแบบนั้นในลำคอเบาๆ แต่แน่นอนว่าแม่ของเขาที่ประชิดตัวอยู่ต้องได้ยินแน่นอน เธอจึงสับหัวกรเบาๆครั้งนึง พอกรลูบหัวของตัวเองเบาๆกลับ เธอก็ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นราวกับบรรยากาศเมื่อครู่เป็นแค่เรื่องในจินตนาการไปเลย

〝ว่าแต่หนนี้โหดไปหน่อยรึเปล่าครับเนี่ย... ใช้ตะหลิวที่กำลังร้อนแบบนี้หน่ะครับ?〞

          แต่ถึงจะบอกว่ากรเป็นฝ่ายปราชัยก็ตาม แต่เรื่องที่ถูกขว้างด้วยตะหลิวที่กำลังร้อนใส่ก็ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ กรจึงกอดอกเพื่อขอให้แม่ตัวเองอธิบายในจุดนั้น แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็คล้ายๆกับทุกทีที่ผ่านมา

〝เอ๋ๆ! พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย〞

〝มามุขนี้อีกแล้ว... แต่พูดไปก็เหมือนข้ออ้างเปล่าๆ คราวนี้ผมยอมจบเรื่องเองก็ได้〞

          พอคำถามที่ถามอย่างจริงจังถูกตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆแล้ว ก็เลยทำให้กรหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็คิดอยู่ในใจอย่างหน่ายๆว่า เอาเถอะ ก็เหมือนทุกทีนี่นา! เลยถอนหายใจด้วยความคิดแล้วก็ปล่อยผ่านเรื่องนี้อย่างง่ายดายเหมือนกับที่คุณแม่ของกรทำ

〝ต้องแบบนี้สิลูกแม่! 〞

          คุณแม่ของกรเองก็ตอบกลับกรเพื่อที่จะจบบทสนทนาอันยืดยาวนี่เสียที  แล้วก็เข้าไปกอดลูกชายตัวเองอย่างแนบแน่น เลยทำให้กรคิดอยู่ในใจว่า ให้ตายสิ! แต่เพราะเขาก็โตเป็นหนุ่มแล้ว กรเลยหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเขินอายจากการที่ถูกแม่ของตัวเองกอด แต่ซักพักก็ถูกเสียงของบุคคลที่สามซึ่งนั่งคุดคู้อยู่บนเตียงของกรดึงกลับมาสู่ปัจจุบันกาล ด้วยน้ำเสียงที่ราวกับจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ

〝นะ นี่! ถ้าจบแล้วก็... ปล่อยฉันเถอะนะ... 〞

อ่อ... ริน ลืมไปซะสนิทเลย...

ขอโทษครับ…

❖❖❖❖❖

          หลังจากศึกย่อมๆในห้องนอนของกรจบลง กรที่ปลดปล่อยรินออกจากพันธนาการ(ฟูกนอน)แล้ว ก็รีบแจ้นไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเวลารวมแค่ 7 นาทีเศษเท่านั้น ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นผลมาจากการเข้าค่ายนักศึกษาวิชาทหารที่กรกำลังเรียนอยู่ในปีที่ 2 ซึ่งก็ผ่านค่ายพักแรมแบบที่ว่ามาแล้ว 2 ครั้ง จนติดเป็นนิสัย

          การเข้าค่ายของนักศึกษาวิชาทหารในประเทศไทย แม้จะมีการฝึกในช่วงกลางวันหนักแค่ไหน แต่เวลาพักผ่อนที่น้อยนิดอยู่แล้วก็ไม่ได้ถูกเพิ่มขึ้นมาตามความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวันแต่อย่างใด รวมถึงเวลาอาบน้ำด้วยเช่นกัน จากการที่ต้องเข้าค่ายเป็นคณะใหญ่กับโรงเรียนอื่นรวมแล้วกว่า 500 คน เวลาอาบน้ำก็ยิ่งน้อยลงเพราะถูกหารด้วยจำนวนห้องน้ำที่มีจำกัด แต่ถึงจะใช้ห้องอาบน้ำรวมก็มีเวลาแค่ 10 นาทีในการทำภารกิจดังกล่าว เท่านั้นตามที่ถูกกำหนดโดยครูฝึก

          ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการฝึกบริหารเวลา และใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด กรที่เข้าใจแบบนั้นจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใดกับเรื่องฝึก ทั้งยังติดเป็นนิสัยไปอีกด้วย บวกกับนิสัยโอตาคุที่ไม่อยากเสียเวลาฟาร์มเวลแม้วินาทีด้วยแล้ว เลยทำให้กรใช้เวลาได้แบบคุ้มสุดในเวลาอันน้อยนิดนั่นเอง

          ขณะนี้ทั้งสามคน อันประกอบไปด้วยกร รินที่อยู่ในชุดนักเรียนมาตรฐานของโรงเรียนมัธยมปลายใกล้บ้าน กับคุณแม่ของกรที่อยู่ในชุดลำลองหลังจากถอดผ้ากันเปื้อนแล้วกำลังนั่งเข้าหากันโดยมีโต๊ะยาวสำหรับ 6 คนอยู่ตรงกลาง โดยกรและรินนั่งข้างๆกัน ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นแม่ของกร

〝เฮ้อ! 〞

          รินถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ ในขณะที่ตักข้าวผัดใส่จานให้กับกร

〝โทษทีนะริน... 〞

〝ไม่ต้องมาขอโทษเลย!〞

          กรร่างกระตุกเล็กน้อยเพราะถูกดุ ก่อนที่จะรับจานที่รินส่งมาให้อย่างรู้สึกผิด

〝กะ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา... ก็นี่หน่ะ——〞

〝ค่าๆ! เพราะเป็น 『การฝึกควบคุมและเพิ่มความเสถียรในการใช้งานสุดยอดการประมวลผล』.... ใช่ไหมล่า!〞

〝อึก!〞

เพราะฉันกำลังถูกรินดุอยู่ จังหวะการพูดเลยติดขัดไปหน่อย... รินก็เลยพูดแทรกได้

แถมที่พูดออกมานั่นยังแทงใจดำกระผมอีกแหน่ะ...

อย่างที่รินบอกนั่นแหล่ะ... ที่พวกเราสามคนทำทุกเช้านั่น เหตุผลกว่า 80% นั่นเป็นเพราะทั้งหมด คือ การฝึกควบคุมสุดยอดการประมวลผลนั่นเอง

ทำไมถึงต้องฝึกงั้นเหรอ... ก็เพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้ควบคุม สุดยอดการประมวลผลให้อยู่ในอำนาจจิตใจยังไงหล่ะ... พอคุ้นชินกับมันในระดับนึง ก็จะควบคุมมันได้มากขึ้นเช่นกัน... ก็ไอ้ความสามารถนี้หน่ะตอนแรกมันเป็นความสามารถที่อยู่นอกเหนืออำนาจจิตใจนี่นา...

ถ้าไม่ฝึกควบคุมล่ะก็ ตอนเดินบนถนนที่คนพลุกพล่าน ฉันคงไม่พ้นต้องอาเจียน... ไม่สิ จริงๆแล้วก่อนนห้านี้ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาแล้วตั้งหลายครั้งแหล่ะนะ... เพราะงั้นแหล่ะถึงต้องฝึก

แล้ว กว่าจะควบคุมไม่ให้ตาลายเวลาสวนกับคนเยอะๆนี่ก็ล่อไปซะเกือบปีเชียวนะ... ลำบากโคตรเลยหล่ะ …

ก็เหมือนกับการฝึกกล้ามเนื้อกับสมาธิ… ยิ่งฝึกนานละบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ...

แล้วคงสงสัยกันสินะ... ว่าทำไมถึงต้องเป็นตอนตื่นนอน

ก็อย่างว่า... คติของแม่คือ 〝ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยไม่สนเงื่อนไขอื่น〞เป็นการกระทำที่บ้าดีเดือดจริงๆเลยให้ตายสิ...

อย่างที่เคยบอก... สุดยอดการประมวลผลมันใช้การเผาผลาญพลังงานมากกว่าคนปกติ... ก็แน่นอนอยู่แล้วหล่ะ ฉันถึงได้เป็นคนนอนเยอะ แม่ก็เลยอาศัยจุดนี้แหล่ะ...

อย่างจะนอนต่อก็ใช้สุดยอดประมวลผลเอาชนะให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องนอน.... (โชคยังดีที่ไม่ทำแบบนี้ในตอนก่อนนอนนะครับผม)

แต่ถึงแบบนั้น นอกจากเช้าวันหยุดแล้ว ฉันแพ้ตลอดเลยหล่ะ... เพราะฉันเองก็มีความรับผิดชอบเหมือนกันน้า...

เพราะถึงจะตื่นสายแต่ก็ยังอยู่ในเวลาที่ไปโรงเรียนทัน(น่าจะนะ) แถมยังมีรินมาเป็นกำลังเสริมอีก ถึงจะมารับหน้าก่อนทุกครั้งก็เถอะ... เลยไม่อยากให้เธอโดดคาบแรกไปด้วยหน่ะ

ทำไมถึงกลับคำพูดตอนแรกที่ทำคนอื่นลำบากงั้นเหรอ? แหมๆตอนนั้นมันเบลอๆอยู่นี่นา... คนเพิ่งตื่นนะเฟ้ย ใครก็คิดที่จะนอนต่อโดยไม่สนอินทร์สนพรหมทั้งนั้นแหล่ะคร้าบ!!!

ว่ากันว่ามนุษย์ที่เอาชนะแรงดึงดูดจากเตียงหลังตื่นนอนได้ก็คือยอดมนุษย์เชียวนะ นับได้ว่าเป็นชัยชนะของมนุษย์ชาติได้เลย... ฉันในตอนนี้ยังทำเรื่องยิ่งใหญ่แบบนั้นไม่ไหวหรอก...

และแน่นอน ที่รินไม่เตือนฉันในเชิงว่า 〝เลิกทำอย่างนี้ซักที 〞ก็เพราะว่า เธอเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยอยู่แล้ว...

แล้วรินยังอาสามาช่วยเองด้วยนะ... ถึงผลลัพธ์จริงๆเธอจะไม่ค่อยมีส่วนช่วยเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ไม่กล้าบอกอ่า... สงสารรินจะตายชัก

แต่ถึงจะไม่ได้มีวิธีฝึกแค่วิธีนี้วิธีเดียวก็เถอะ... แต่ยังไงแม่ก็คงใช้วิธีนี้อยู่ดีนั่นแหล่ะ...

แล้วถึงจะบ่นนู่นบ่นนี่... แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้กังวลว่าผมจะไปสายเลยซักนิด....

เพราะแบบนี้แหล่ะ... ถ้าไม่เรียกว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้แล้ว จะเรียกว่าอะไร——

〝แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกันนะ!〞

〝อึก!〞

          กรทั้งสะอึกและร่างกระตุกเป็นครั้งที่สอง ต่อหน้ารินที่ดุเขาราวกับเด็กๆ กรจึงทำได้แค่ก้มหน้ามองจานข้าวผัดและรู้สึกผิดต่อการกระทำอันหยาบคายก่อนหน้าของตัวเองเพียงเท่านั้น

          เพราะถึงจะบอกว่าเป็นการฝึก แต่ที่กรทำกับรินมันก็เกินไปจริงๆ ไม่ต่างกับที่แม่ของกรขว้างตะหลิวที่กำลังร้อนใส่เลย จะว่าเป็นกรรมตามสนองก็ได้ กรในตอนนั้นถึงรู้สึกว่าไม่ใช่ความผิดของแม่ฝ่ายเดียวและปล่อยผ่านเรื่องดังกล่าวไป

〝ขะ ขอโทษ... ไหว้หล่ะ สำนึกผิดแล้วคร้าบ! จะให้ทำอะไรก็ยอม... ยกโทษให้ทีเถอะนะ!!!〞

          เพราะเห็นว่าควรจะขอโทษอย่างจริง ๆ จัง ๆ เสียทีกรก็รีบพนมมือขอขมารินตามที่พูดในทันที ด้วยสีหน้าที่จริงจัง และน้ำเสียงที่ฟังดูรู้สึกผิดแบบสุดๆออกไป

          แต่ปฏิกิริยาที่กรได้กลับมาจากรินกลับเป็นสิ่งที่น่าตกใจกว่า... นั่นเพราะรินหัวเราะเบาๆในจมูกดัง หึ! แล้วทำหน้าเหมือนกับจะบอกว่า เสร็จล่ะ! กลับมา นั่นเลยทำให้กรเข้าใจได้ในทันทีว่านั่นหมายความว่ายังไง

〝สัญญาแล้วนะ!〞

〝สะ เสร็จกัน!〞

          จังหวะที่กรขอขมาออกไปแบบนั้น ชะตากรรมของกรก็ตกเป็นของรินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว...

〝จะกลัวไปทำไมเล่าไอ้ลูกชาย... รินไม่ใช่คนโหดร้ายแบบนั้นซักหน่อย... อย่างมากก็คงแค่ถูกสั่งให้นั่งคุกเข่าในท่าเบญจางคประดิษฐ์ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง〞

〝อึ๊ย!〞

          กรอุทานออกมาด้วยเสียงแปลกๆแล้วก็เขยิบตัวถอยห่างจากรินด้วยสัญชาตญานในทันที เพราะสำหรับกรที่สมองทำงานได้รวดเร็วกว่าคนอื่น จนเรียกได้ว่ากระแสของเวลาความคิดของกรเดินช้ากว่าคนปกติหลายสิบเท่า การถูกจับไปนั่งเป็นเวลานาน ๆ ก็คือการทรมานที่ทารุณจิตใจอย่างหนักหน่วงราวกับถูกจำคุกนาน 10 ปีก็ไม่ปานนั่นแล

〝จะว่าไปแล้วคุณน้าเองก็ด้วยนะคะ! เรื่องที่โยนตะหลิวใส่กรหน่ะ... ถึงกรจะไม่คิดอะไร แต่ฉันคิดว่าแบบนั้นมันเกินไปจริง ๆ นะคะ〞

〝อึ๊ย!〞

          แต่เจ้าของสัญญาอย่างรินก็รีบปฏิเสธออกมาก่อน แล้วคราวนี้คนที่โดนดุก็เป็นแม่ของกรแทนจนร้องแปลกๆออกมาและทำท่าทางเหมือนกับกรไม่มีผิด จนตอนนี้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าใครกันแน่ที่อายุมากกว่ากัน

〝เถอะน่าริน! เรื่องนั้นก็ถือว่าหายกันกับที่ฉันทำกับเธอไง? นะ!〞

          จากมุมมองของกรแล้ว การที่แม่ของเขาทำการโจมตีอย่างหนักหน่วงใส่ตน เป็นสิ่งที่ถูกคำนวณมาแล้วว่าจะไม่ทำให้กรได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นฟกช้ำแต่อย่างใด เพราะจะว่าไปแล้ว กรที่มีสุดยอดการประมวลผลสามารถรับสัมผัสได้เร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า เขาจึงใช้เวลาในการคว้าและขว้างตะหลิวทิ้งเพียงไม่ถึง 0.5 วินาทีด้วยซ้ำ เลยไม่ทำให้เกิดแผลพุพองแต่อย่างใด

          คราวนี้กรจึงเป็นฝ่ายรีบแก้ต่างให้กับบุพการีของตนบ้าง อย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ทว่า...

〝ไม่ได้นะคะ! ยังไงแบบนั้นมันก็เกินไป...〞

          แต่ดูเหมือนหนนี้ รินจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทั้งกรและแม่ของเขา ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเพิ่งผ่านการออกกำลังมาอารมณ์เลยยังคุกกรุ่นอยู่ก็เป็นได้

〝...แล้วเรื่องฝึกหน่ะ หนูคิดว่าจนถึงตอนนี้ก็มากเกินไปแล้วด้วย... น่าจะถึงเวลา——〞

〝ไม่ได้หรอก〞

          แต่พอรินที่อยู่ในอารมณ์เดือดปุดๆ พูดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงของแม่กรที่พูดแทรกขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง ราวกับเป็นคนละคนกับหญิงสาวขี้เล่นก่อนหน้า

〝กรหน่ะ... พิเศษ รินเองก็รู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอจ๊ะ?〞

〝ระ เรื่องนั้นทราบดีค่ะ... กรหน่ะสุดยอด... แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะคะ...〞

          แล้วรินที่โวยวายมาซักครู่ก็เงียบลง เพราะหาคำพูดมาใช้โต้กลับไม่ได้ก็ต้องยอมแพ้ไปโดยปริยาย

〝น่าๆ ถึงเจ้าลูกชายจะวิเศษวิโสยังไง... แต่ก็ยังเป็นไอ้บ้าอยู่ดีนั่นแหล่ะ... เพราะงั้นถ้าไม่ฝึกให้เชื่อง ซักวันต้องไปไล่งับชาวบ้านแน่เลย ห๊ะห๊ะห้า!〞

〝เดี๋ยวๆ ! ผมไม่ใช่หมานะครับแม่!〞

          ด้วยคำพูดล้อเล่นเช่นเคยของแม่กรเลยทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง กรที่ตบมุขนั่นกลับไปเองก็เพื่อการนี้ด้วยเช่นกัน

〝ถึงต้องให้รินช่วยดูแลกรด้วยยังไงหล่ะ!〞

〝นะ นั่นก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ〞

〝เพราะลูกชายน้าเป็นแบบนี้… เพราะมีความสามารถแบบนี้อยู่กับตัว ตอนที่เผลออาจจะไม่สามารถควบคุมพลัง แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดหรืออะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ ถึงต้องมีไอรินอยู่ด้วยไง... เพราะน้าเองก็อยู่กับเขาไม่ได้ตลอดไปนี่น๊ะ〞

〝….คุณแม่〞〝คะ คุณน้าคะ〞

          ในทันทีที่คุณแม่ของกรพูดเรื่องจริงจังออกมากลางโต๊ะอาหาร เลยทำให้เกิดบรรยากาศเดธแอร์ขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ กรเองก็หยุดเคี้ยวอาหารโดยที่ไม่รู้ตัว ส่วนรินก็ได้แต่ก้มหน้ากับคำพูดของแม่กร

เป็นอย่างที่คุณแม่ว่า... ถ้าเกิดวันนึงเราต้องอยู่เพียงลำพังขึ้นมา...

ไม่ไหวหรอก... นึกภาพตัวเองที่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีคุณแม่ไม่ได้เลยแฮะ

ถึงจะเป็นคุณแม่แบบนั้นก็เถอะ... แต่ก็ไม่มีผู้ใหญ่ที่รู้จักใจดีไปกว่าแม่อีกแล้ว...

ถึงจะเป็นเรื่องของอนาคต… แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมา.... ตอนนั้นเราจะทำยังไง——

〝เพราะงั้นถ้าทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แล้วมีหลานให้แม่อุ้มเร็วๆ ก็จะดีใจมากเลยหล่ะ! อะแฮะ!〞

〝〝หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞〞

          บรรยากาศซึ้งกินใจเมื่อครู่ ถูกเป่าให้หายไปในพริบตาที่แม่ของกรพูดโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกๆพร้อมกับเอากำปั้นข้างขวาเขกที่ศีรษะของตัวเองและแลบลิ้นออกมาอย่างจงใจ แต่ว่านั่นกลับทำให้ทั้งสองมีปฏิกิริยากลับในหลายๆความหมาย

〝พะพะพะพะพะพะพะ พูดเรื่องอะไรกันคะเนี่ย!!! ระระระ เรื่องแบบนั้นไม่เห็นเกี่ยว!!! แถมมัน... มะ มันยังไม่ถึงเวลาด้วย!〞

〝นะ นึกว่าจะพูดเรื่องอะไรซะอีก〞

〝กะกะกะ กร! ใจเย็นเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!〞

          ต่างกับรินที่โหวกเหวกออกมา กรกลับตอบกลับคำพูดของแม่ตัวเองด้วยอารมณ์ปกติที่เขินอายเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นใบหน้าของกรก็ยังแดงกว่าปกติโขอยู่ดี

〝นี่มันสมัยไหนแล้วจ๊า! แม่ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าทั้งสองคนจะวู้ฮู้หรือสะบาระเห้ กันหน่ะ!〞

〝ไปเอาศัพท์เพี้ยนๆนั่นมาจากไหนกันครับนั่น! ว่าแต่แม่ที่ไหนสนับสนุนให้ลูกทำเรื่องอย่างว่าก่อนวัยอันควรกันหน่ะครับ!〞

〝ก็แม่คนนี้นี่แหล่ะ〞

〝ยะ ยอมแพ้แม่คนนี้จริงๆเลยให้ตายสิ!〞

          กรที่เอาแต่ตบมุขแม่ตัวเอง ก็ไม่ได้สังเกตเลยว่า รินนั่นเขินอายจนควันออกหู แล้วก็เอาศีรษะไปแนบกับโต๊ะอาหารเพราะหมดแรงไปเสียแล้ว

〝แต่ถ้ารินไม่รีบหล่ะก็... อาจจะโดนอลิซโฉบไปก่อนก็ได้นา〞

〝หวะ หวาหวาหวาหวา.....〞

          แล้วคุณแม่ที่ยังไม่หยุดล้อเล่นก็ยังคงแกล้งรินต่อ จนกรรู้สึกจากใจเลยว่า นิสัยเสียที่ชอบแกล้งคนอื่นนั้นมาจากเธอคนนี้แน่นอน รินที่โดนแม่ของกรแกล้งก็เรียกได้ว่าแทบจะสลบคาโต๊ะ ก็ได้กรช่วยพยุงขึ้นมา เพราะทานอาหารหมดแล้ว จากนั้นจึงเตรียมตัวที่จะเดินทางไปโรงเรียน

          พอกรรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกันเสร็จเรียบร้อยก็ดันเก้าอี้กลับเข้าที่ พร้อมกับดึงสติของรินด้วยการจิ้มที่แก้มและตบที่ไหล่ของเธอเบาๆ รินที่ตื่นขึ้นมาก็ทำหน้าแดงแก้มป่องใส่ทั้งสองคน ก่อนที่จะออกไปรอที่หน้าประตูบ้าน

〝รีบไปรีบกลับหล่ะพ่อตัวยุ่ง!〞

〝คร้าบๆ! 〞

          พอทั้งสองคนพนมมือและทักทายแม่ของกรตามมารยาท แม่ของกรก็รับไหว้แล้วก็โบกมือให้ทั้งสองคน ก่อนที่กรและรินจะเดินทางไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนกับทุกๆวันที่ผ่านมา…

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 38 :  ยิ่งแสงสว่างทอประกายเท่าใด เงาที่ทอดออกมาก็ยิ่งมืดมิดมากเท่านั้น

    หลังจากที่กรเข้าไปรับการโจมตีปริศนาด้วยลูกธนูยักษ์จากทศกัณฑ์ เพื่อไม่ให้มีอาและเมอร์ลินได้รับดาเมจที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ในครั้งเดียว ทั้งที่อุตส่าห์ลบลูกธนูที่ว่าให้หายไปได้ ก็กลับเป็นตัวกรเองที่ต้องรับดาเมจทางจิตใจอันหนักหน่วงอย่างคาดไม่ถึง〝อ้ากกกก!!!!!!!——————〞 เสียงร้องโหยหวนอันเกิดจากความเจ็บปวดทางจิตใจระดับที่เรียกได้ว่ามหาศาลของกร ยังคงลากยาวอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยซักนิด〝กร!〞〝กะ เกิดบ้าอะไรขึ้นกับหมอนี่อีกเนี่ย!〞 ทั้งมีอาและเมอร์ลินที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ก็ได้แต่ตกตะลึงและเบิกตาโพลงกับสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความงุนงง แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าตัวกรในตอนนี้กำลังรับภาระอะไรบางอย่างจนทรมานอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เพราะทั้งสองคนถูกจำกัดการเคลื่อนไหวด้วยเวทย์แรงโน้มถ่วงจนขยับเข้าไปใกล้กรไม่ได้เลยซักนิด ทั้งสองคนจึงทำได้แค่ดูและเรียกหากรที่กำลังเจ็บปวดโดยที่ทำอะไรไม่ได้เพียงเท่านั้นตุ๊บ! และด้วยเพราะกรถูกการโจมตีทางจิตใจเข้าไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ผลของสกิล『แขนยักษา』จึงได้คลายออกโดยอัตโนมัติทำให้ผลกระทบด้านลบของมันเริ่มทำงาน ผลลัพธ์ก็คือต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 39 :  การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของชายที่อ่อนแอที่สุดในโลก... สู่จุดเริ่มต้นของชายที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล

    หลังจากที่กรได้สติจากการหลับใหลในเวลาสมมติอย่างทรมานเกือบๆแสนปี ภายในหัวตอนนี้มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น...〝อาวหล่ะทีนี้... จะจัดการยังไงดีน้า!?〞กร๊อบ! กรหักนิ้วมือทั้งสิบของตัวเอง พลางคิดแผนการ ฆ่า ทศกัณฑ์อยู่ในหัว มีอาและเมอร์ลินที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ขยับเข้ามาใกล้กร เพื่อที่จะปรึกษาแผนการ〖แก... ท่าทางหยิ่งยโสแบบนั้นมันอะไร!? เจ้าหนุ่ม แกทำข้าโมโหนัก!!!!〗 กับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามกับที่หวังไว้ว่า กรที่โดนเวทย์เข้าไป ต้องจิตใจแหลกสลายแล้วกลายเป็นเจ้าชายนิทราตลอดกาล นั่นเลยทำให้ทศกัณฑ์ตกตะลึงและหงุดหงิดถึงที่สุด〝มีอาคุ้มกันด้วย.... เมอร์ลินยื่นหูมาทีสิ〞 กรหันกลับไปด้านหลังทำเมินทศกัณฑ์อีกครั้ง แล้วกวักมือเรียกทั้งสองคนก่อนที่จะออกคำสั่งตามลำดับ มีอาขยับขึ้นมาข้างหน้าบังกรไว้ ส่วนเมอร์ลินก็ขยับหูเข้ามาใกล้ เพื่อที่กรจะได้แอบกระซิบอะไรบางอย่างได้สะดวก〝นะ นี่นาย! แบบนั้นไม่ไหวหรอก!〞〝!〞 เมอร์ลินตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันทีที่กรกระซิบบอกแผนการ นั่นทำให้มีอาที่คอยดูท่าทีทศกัณฑ์อยู่เยื้องไปข้างหน้าเล็กน้อย ร่างกระตุกเบาๆเช่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 40 :  การเสวนาของเหล่าเพื่อนสนิท

    สายลมฤดูร้อนพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ผ้าม่านในห้องพยาบาลสำหรับทหารในกองอัศวินโบกสะบัด แล้วพอลมสงบ ก็ปรากฏร่างของเด็กสาวนั่งเหยียดขาตรงอย่างเรียบร้อยอยู่ใต้ผ้าห่ม เอนหลังพิงกับหัวเตียง มองออกไปทางหน้าต่างที่เพิ่งมีลมพัดผ่านโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตาซักนิด เด็กสาวที่แม้จะเพิ่งตื่นจากการหลับใหล อยู่ในชุดเดรสติดระบายสีขาวหลวมๆ แต่เนื้อผ้าไม่ได้โปร่งถึงขนาดจะส่องเห็นเนื้อหนังมังสาได้ เด็กสาวที่ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถึงจะไม่มากนัก แต่ก็ทำให้บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่เดิมที่ขี้อาย ก็ค่อนข้างเงียบขรึมและเยือกเย็นขึ้นมา แม้ลมจะพัดเข้ามาเป็นครั้งที่สองของวัน มากระทบกับเปลือกตา แต่เธอก็ยังไม่ยอมหลับตา และจ้องมองออกไปยังอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้า เพื่อรอคอยการกลับมาของชายที่ตัวเองรักด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างทับถมกันอยู่ในอก อย่างกระวนกระวายและทรมานก๊อกๆๆ!〝ริน! พวกเราเข้าไปนะ! 〞〝อื้ม!〞 หลังสิ้นคำขออนุญาตด้วนน้ำเสียงที่ฟังแล้วสุภาพและค่อนข้างเป็นทางการ ชาญที่เป็นต้นเสียง อลิซและโชตก็เดินเข้ามาในห้องพยาบาลส่วนตัวที่มีแค่รินอยู่ข้างในตามลำดับ แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 41 :  ขั้วอำนาจทั้งสองในหมู่นักเรียนผู้กล้า

    หลังจากกองทหารของฮันซี่กลับมาจากภารกิจค้นหาตัวกรที่ถูกวาร์ปเข้าไปในมหาดันเจี้ยนโบราณ ก็ผ่านมาแล้วถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กรชนะทศกัณฑ์และเคลียร์ดันเจี้ยนสุดหฤโหดได้พอดิบพอดี... หากปล่อยไว้นานนักเรียนผู้กล้าทุกคนจะยิ่งระสับระส่าย ดังนั้นพอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ฮันซี่จึงเรียกรวมตัวทุกคนแล้วประกาศเรื่องที่กรเสียชีวิตไปแล้วในดันเจี้ยนอย่างเป็นทางการในทันที และแน่นอนว่านั่นทำให้ทุกคนช็อคมาก แต่ไม่ได้หมายความถึงว่าตกตะลึงเมื่อเพื่อนร่วมโรงเรียนอย่างกรตาย เพราะนักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบกรมากนัก... แต่เป็นความตกตะลึงจากการที่มีคนตายจากอุบัติเหตุในการฝึก ทำให้ตระหนักได้ว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ในโลกที่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว และกำลังถูกฝึกเพื่อเป็นทหารไปสู้รบกับเผ่าอื่น เนื่องจากนั่นเป็นทางเดียวที่จะได้กลับบ้าน แถมนั่นยังเป็นแค่เรื่องแต่งของพระราชาอีกต่างหาก นั่นจึงทำให้ทุกคนหดหู่ไปนานมากเลยทีเดียว แต่ฮันซี่ก็ไม่ใจร้ายไส้ระกำขนาดที่จะบังคับนักเรียนที่ไม่มีกระจิตกระใจฝึก เขาจึงปล่อยให้ทุกคนจัดการความคิดของตัวเองอยู่นานพอสมควร จนกว่าที่งานศพของกรจะจบลง...❖

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 42 : ความจริงของโลก... ชะตากรรมของจักรวาล...

    ในชั้นลึกสุดของดันเจี้ยนใต้ชั้นที่ 100... มันคือพื้นที่กว้าง มีลักษณะเป็นป่าโปร่ง ที่มีต้นไม้น้อยใหญ่สีเขียวขจีเรียงรายกันอยู่นับไม่ถ้วน มีแม่น้ำ ลำคลองเล็กใหญ่แซมอยู่ระหว่างทาง ลึกเข้าไปอีกพอประมาณก็จะพบเข้ากับรั้วของคฤหาสน์หลังใหญ่ ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าโปร่งรอบด้านราวกับใช้แทนป้อมปราการ ถัดจากรั้วเข้าไป มันคือสวนหย่อมที่ถูกประดับด้วยดอกไม้นานาชนิด และสิ่งปลูกสร้างมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ รูปปั้น หรือมีแม้กระทั่งโต๊ะน้ำชากลางแจ้งที่มีม่านจากต้นไม้บดบังแสงอาทิตย์ดูร่มรื่นไม่ใช่น้อย และลึกเข้าไปอีกในคฤหาสน์ ทางเดินถูกปูด้วยพรมสีแดงราวกับพระราชวัง มีโคมระย้าแขวนห่างกันเป็นช่วงๆ และไม่ดูรกเกินไป อีกฝั่งหนึ่งคือกระจกบานยักษ์ที่ใช้มองดูวิวนอกคฤหาสน์ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งมีประตูห้องต่างๆ เรียงเป็นแนวยาวตามปกติ ราวกับห้องเรียนที่อยู่ชิดติดระเบียงยังไงอย่างงั้น จนถึงสุดทางเดิน มีประตูของห้องๆหนึ่ง เปิดแง้มออกมา โดยมีแสงอาทิตย์ยามเช้าเล็ดรอดออกมาพร้อมกัน ภายในนั้นได้รับการตกแต่งอย่างโอ่อ่า ไม่ว่าจะโคมระย้าสีทองอร่ามที่แขวนอยู่กลางห้อง หรือว่าจะเป็นพวกเครื่องเรือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 43 : คนจนจะยิ่งจน คนรวยจะยิ่งรวย

    หลังจากที่กรสามารถเคลียร์หนึ่งในมหาดันเจี้ยนโบราณ ที่มีระดับความยากสูงที่สุดในโลกได้สำเร็จ กรจึงได้รับรู้ถึงความจริงของโลก.... ไม่สิ ของจักรวาลจากปากของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์โดยตรงซึ่งก็คือฟรังซ์ ออลเดลที่เป็นดันเจี้ยนมาสเตอร์ของมหาดันเจี้ยนแห่งนี้ จอมมารยังคงมีชีวิตอยู่ และถูกผนึกไว้เท่านั้น แถมผนึกที่ว่ายังอยู่ได้อย่างน้อยอีกแค่ 6 เดือน... นั่นคือ ความเป็นจริงที่น่าหวาดหวั่น... พลังของจอมมารนั้น มีมากมายมหาศาลถึงขนาดที่ว่าทำให้ดวงดาวหลายสิบดวงแตกสลาย รวมถึงยังทำให้ดาวของพวกเทพล่มสลายลงได้อีก... แทบจะไม่ต้องคิด... เมื่ออยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว กรจึงตัดสินใจที่จะปกป้องสิ่งสำคัญที่อยู่ในมือก่อนเหนือสิ่งอื่นใด และตัดสินใจเป็นคนรับหน้าเพื่อปราบจอมมารในทันที เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างที่สำคัญรวมถึงจักรวาลแห่งนี้ คงจะล่มสลายลงด้วยน้ำมือของจอมมารเป็นแน่.......ผั๊ว! ผั๊ว! ผั๊ว! ผั๊ว!——————— เสียงแปลกๆที่เกิดจากวัตถุบางอย่างกระทบกัน ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากชั้นใต้ดินของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางชั้นที่ 101 ซึ่งเป็นอยู่พักอาศัยข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 44 : สวรรค์ในห้องอาบน้ำ

    〝『ค่าสิทธ์』 เหรอ?〞 พอกรเลื่อนหน้าต่างที่ดูน่าสงสัยนี้มาอยู่ตรงกลางทัศนวิสัย เมอร์ลินที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะถูกเลื่อนมาอยู่ในขอบเขตที่เธอมองเห็นได้ จึงถามออกมาด้วยความสงสัยเช่นกัน แล้วไม่รอช้า... กรรวมถึงมีอาและเมอร์ลิน... แม้แต่เคลเบรอสและฟรังซ์ที่ยื่นหน้าเข้ามาดูจากทางด้านหลังเองก็ทำการอ่านรายละเอียดที่เขียนอยู่บนหน้าต่างนี้ในทันทีเช่นกัน... หน้าต่างค่าสิทธ์1 - ???????????2 - ?????, ดาวเคราะห์3 - พระเจ้า ดันเจี้ยนมาสเตอร์ มอนสเตอร์และบอสในดันเจี้ยน (ระดับ SS ขึ้นไป)4 – เผ่าเทพเจ้าและตัวตนระดับสูง (เช่น เทพตกสวรรค์ วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ปีศาจ)5 – มอนสเตอร์ในดันเจี้ยน (ระดับ A ขึ้นไป แต่ไม่ถึงระดับ SS)6 - มอนสเตอร์และบอสนอกดันเจี้ยนทั้งหมด (ระดับ A ลงไป)7 - ผู้ปกครองแผ่นดิน8 - สิ่งมีชีวิตทรงปัญญาทุกประเภท9 – ทาสและสิ่งมีชีวิตไร้สติปัญญา*หมายเหตุ : การตั้งค่าทุกอย่าง ถูกขยายขอบเขตให้สามารถตั้งค่าบุคคลอื่นในแบบเดียวกับที่ตั้งค่าให้กับตัวเองได้ทุกอย่างปล. สีเขียว คือ กลุ่มที่มีค่าสิทธิ์ต่ำกว่าผู้ใช้ เป็นกลุ่มที่สามารถตั้งค่าได้ทุกอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 45 : การปฏิเสธตัวเองในอดีต ก็เท่ากับเป็นการปฏิเสธตัวเองในตอนนี้ด้วยเช่นกัน

    เรื่องราวของแม่ทัพคนที่ 7 งั้นเหรอ?จะว่าไปแล้ว เรื่องที่ฟรังซ์ ออลเดลเล่าครั้งแรกนั่นก็มีกล่าวถึงเหมือนกันนี่... ถึงจะพูดถึงแค่ครั้งเดียวเองก็เถอะถ้าจำไม่ผิด... เจ้านั่นบอกว่าแม่ทัพที่สู้กับจอมมารหน่ะมี 7 คน แล้วต่อมา 6 ใน 7 คน ได้กลายเป็นมหานักปราชญ์....เราเองก็คาใจมาตลอดว่าอีกคนนึงคือใคร... เพราะจาก 6 คน ก็มีพระเจ้าคนนึง กับดันเจี้ยนมาสเตอร์อีก 5...เราเองก็หาหนังสือแบบเดียวกันมาตลอด แต่ไม่มีถูกกล่าวถึงเลยซักนิด เหมือนกับมีคนจงใจลบข้อมูลส่วนนั้นออกไปเลย...แต่ถือวิสาสะเอามาอ่านเองแบบนี้นี่ ยัยนั่น.... เมอร์ลินจะโกรธรึเปล่าเนี่ย... แถมในส่วนลึกของจิตใจ เรากลับรู้สึกว่า ไม่ควรไปแตะต้องมันซะนี่... กรที่กำลังลังเล พยายามก้าวเท้าขวาเข้าไปข้างในห้องแต่ก็ต้องชักเท้ากลับออกมาเพราะรู้สึกผิดอยู่ในใจ แต่แล้วความอยากรู้อยากเห็นก็เข้าครอบงำอีกครั้งเขาจึงก้าวเท้าเข้าไปอีก แล้วพอมาคิดดูว่าเมอร์ลินจะรู้สึกยังไงที่โดนรุกล้ำเข้าพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาติ กรก็ชักเท้าหนีอีกจนไม่ได้เข้าไปเสียที จนแม้จะผ่านไปถึง 5 นาทีเขาก็ยังคงทำแบบนั้นอยู่ด้านหน้าห้องของเมอร์ลิน จนกระทั่ง...〝ทำอะไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11

บทล่าสุด

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 100 : ยามเมื่อเหล่าบุปผาผลิบาน

    ———— 1 สัปดาห์ต่อมา ชั้นที่ 2 ของมหาดันเจี้ยน『หอคอยแห่งปัญญา』 ณ ดันเจี้ยนชั้นพิเศษ ซึ่งถูกสร้างโดยอาเธนต่อจากชั้นที่ 1 อันเป็นชั้นที่เอาไว้หลอกคนทั่วไป ถูกสร้างขึ้นเพื่อการฝึกฝนและเก็บเลเวลโดยเฉพาะ หากแต่ผู้ที่จะใช้มันได้นั้น มีเพียงแค่กลุ่มของผู้ที่ผ่านการทดสอบที่แท้จริงแล้วเท่านั้นถึงจะเข้ามาในนี้ได้ ที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามเขต อันได้แก่ เขตที่พักอาศัย เขตใช้ฝึก『บัญญัติพันประการ』 และสุดท้ายคือเขตที่ใช้สำหรับเก็บเลเวล... หรือก็คือ เขตมอนสเตอร์ทรงภูมิปัญญานั่นเอง ในพื้นที่ของเขตที่สามถูกสร้างให้เป็นพื้นกระเบื้องและเพดานหน้าตัดเรียบส่องแสงสีเขียว (Lime) พื้นที่โดยรอบมีวัตถุโปร่งแสงรูปทรงเรขาคณิต ทั้งสามเลี่ยม สี่เหลี่ยมไปจนถึงรูปทรงหลายเหลี่ยมกระจัดกระจายเต็มไปหมดทำให้ยากแก่การเคลื่อนไหว แต่กลับกันแล้ว มันทำให้ง่ายต่อการดำเนินแผนที่ซับซ้อนและแยบยล และเขตที่สามนี้เอง ที่มีหญิงสาวทั้ง 4 คน อันได้แก่ มีอา ซาช่า เรเชลและริต้า กำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์จำนวนเท่ากันอยู่ มอนสเตอร์ทั้งสี่ตัวที่เป็นศัตรู มีหนึ่งตัวที่สวมผ้าคลุมสีดำ มีส่วนหัวเป็น

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 99 : ความเป็นจริงที่ซ่อนอยู่หลังความเป็นจริง

    〝 คุณโรนี่กับราชา... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย 〞 กรถามออกไปแบบนั้น ในเวลาเดียวกับที่ใช้『รีดดิ้งอายส์』ตรวจสอบบุคคลทั้งสองตรงหน้า แล้วก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าทั้งคู่เป็นตัวจริง...〝 ทำหน้าแบบนั้นคงจะรู้แล้วสินะว่าพวกข้าเป็นตัวจริง... 〞ราชาพูดแทงใจดำพลางยิ้มออกมา ทำให้กรคิ้วกระตุกเพราะคาดการณ์เรื่องตรงหน้าไม่ทัน ในขณะที่กรคิดแบบนั้น ราชาก็เดินเข้ามาทางกร แล้วก็ใช้เวทย์บางอย่างเปลี่ยนใบหน้าตัวเองเป็นคนอื่น ไม่สิ... เปลี่ยนจากคนอื่นกลับมาเป็นตนเองคนเดิมต่างหาก ซึ่งที่เปลี่ยนไปนั้นมีเพียงโครงหน้าเท่านั้น แต่ความสูงอายุและริ้วรอยนั้นแทบไม่ต่างจากเดิมเลย แล้วก็หันไปสบตากับเมอร์ลินเข้า นั่นทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ...〝 นายมัน อาเธนงั้นเหรอ!!!? 〞เมอร์ลินที่เห็นใบหน้าจริงของชายชราตรงหน้าก็จำได้ทันทีพร้อมทั้งเรียกชื่อจริงของเขาออกมาอย่างสนิทสนม โดยมีสายตางงงวยจากสาวๆคนอื่น แต่พอรู้ว่าคนน่าสงสัยตรงหน้าเป็นคนรู้จักของเมอร์ลิน การ์ดของพวกเธอก็คลายลงพอสมควร〝 แหมๆ ในที่สุดก็จำได้ซักทีนะแม่คุณ... ข้าหล่ะเจ็บช้ำไม่น้อยเลยนะ ตรงที่เจ้าบ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 98 : หัวเราะทีหลังย่อมดังกว่าเสมอ

    หลังจากเรื่องเมื่อวานเคลียร์กันจบในตอนเย็น กรได้ทำการเพิ่มฟังก์ชั่นหลบหนีฉุกเฉินใส่บัตรนักผจญภัยของเจนนี่ไว้ก่อนด้วย เผื่อในกรณีที่เกิดอันตรายกับเธอ เธอสามารถใช้มันวาร์ปมาหากรได้ทุกเมื่อ รวมถึงพาคนรู้จักอย่างไมน์กับรีเบคก้ามาด้วยก็ยังได้ จากนั้นพวกกรกับพวกไมน์จึงได้แยกกันกลับที่พักของตัวเอง อนึ่ง เจนนี่ตอนนี้นั้นอยู่สถานะของคนชื่อ『เบลนด้า อัลบา』 รูปลักษณ์ภายนอกที่คนอื่นเห็น เป็นคนผิวสีแทน ใบหน้าปานกลางค่อนไปทางแย่(จากความเห็นส่วนใหญ่ในกลุ่มของกร) แต่นั่นก็เพื่อไม่ให้เธอเป็นจุดเด่น เพราะหากจะว่าไปแล้วเจนนี่ในร่างธรรมดานั้นจัดว่าเป็นคนสวยมากเลยทีเดียว และด้วยการใช้บัตรนักผจญภัยอ้างถึงตัวตน ก็สามารถเข้าพักที่เดียวกับพวกไมน์ได้ แต่เธอเลือกที่จะพักคนละห้องแทนเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย (แต่สุดท้ายตอนนอนก็ย้ายมานอนห้องเดียวกันอยู่ดี) ส่วนทางด้านของกร พอกลับไปพวกกรก็รีบทำธุระส่วนตัว แล้วเข้านอนในทันที เพื่อสะสมพลังงานให้เต็มอิ่มก่อนที่จะออกรบในดันเจี้ยน『หอคอยแห่งปัญญา』 และเพื่อความไม่ประมาทช่วงเช้าทั้งหมด กรและพรรคพวกจะใช้เวลาไปกับการตร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 97 : เหตุผลในการมีชีวิต

    〝 ไง ทั้งสองคน 〞 ในขณะที่ทุกคนแสดงสีหน้าตกตะลึงยังกับเห็นผีออกมา เจนนี่ก็เริ่มเป็นฝ่ายทักไมน์และรีเบคก้าก่อนด้วยรอยยิ้มในทันที〝 เจนนี่!!! 〞〝 อุ๊ยตาย!? 〞 ไมน์ที่เห็นแบบนั้นไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปสวมกอดเจนนี่อย่างเร็ว นั่นเองก็ทำเจ้าตัวอย่างเจนนี่ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน〝 เจนนี่! เจนนี่จริงๆใช่ไหมเนี่ย? ไม่ใช่ผีหรือตัวปลอมใช่ไหม!? 〞ไมน์พูดแล้วก็ลูบๆคลำๆเจนนี่ไปทั่ว ทำเอาร่างเธอสั่นนิดหน่อยเพราะจักกะจี๊เลยทีเดียว〝 ยัยบ๊อง! ก็จับตัวกันได้อยู่ไม่ใช่รึไง? แล้วฉันก็ยังจำได้อยู่เลยนะว่าตรงก้นของรีเบคก้ามีไฝอยู่ด้วยหน่ะ 〞 เจนนี่พูดแบบนั้นออกมา ทำให้รีเบคก้าออกอาการหน้าแดง แล้วก็พุ่งเข้ามาสับกะโหลกเจนนี่เหมือนกับที่ผ่านมา〝 ฮึ่ย! ไอ้นิสัยพูดไม่คิดนี่ตัวจริงชัวร์ 〞รีเบคก้าพูดแล้วก็ใช้กำปั้นหมุนๆใส่ศีรษะของเจนนี่〝 โอ้ยๆ! เจ็บอ่ะรีเบคก้า ออมมือให้หน่อยเซ่! 〞 ทั้งสามคนหยอกล้อกันไปมาแบบนั้น ราวกับต้องการจะซึมซับและฟื้นคืนบรรยากาศที่ถูกทำลายไปให้กลับมาเหมือนเดิม แม้จะยังเคลือบแคลงสงสัย แต่ความอบอุ่นของภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้ทุกคนลืมหลายเรื่องที่คิดอ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 96 : การต่อรองต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย

    หลังจากที่งีบหลับไปประมาณ 3 ชั่วโมง ความเหนื่อยล้าทางจิตใจก็ดูจะลดลงไปบ้างเอาจริงๆ ต่อให้ลุยต่อทั้งอย่างงี้ก็ไหวอยู่หรอก แต่แค่นี้ทุกคนก็เป็นห่วงมากพออยู่แล้ว เพราะงั้นทำตามที่ทุกคนแนะนำเป็นการดีที่สุดทางริต้าเองยังคงหลับอยู่เลยปล่อยให้หลับต่อไปก่อนโดยให้เรเชลดูแลอยู่ข้างๆส่วนทุกคนเองดูเหมือนว่าจะไม่ได้หลับเลยในระหว่างที่ฉันพักแต่ก็ต้องขอบคุณในจุดนั้น เพราะในช่วงที่ฉันไปเจรจากับราชา ฉันต้องการที่จะไปคนเดียว...ก็แหม... ฉันไม่อยากให้ทุกคนเห็นท่าทางแย่ๆเท่าไหร่นี่นา〝 เพราะทุกคนเฝ้าฉันมาตลอดคงจะเหนื่อยแย่ ฉันเลยอยากให้พวกเธอพักรอฉันอยู่ที่นี่หน่ะ 〞พูดแบบนั้นออกไปทุกคนก็ทำหน้าถมึงทึงใส่ และแน่นอนว่าทุกคนทำท่าอยากจะไปด้วยกันหมดเลยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมตั้งนานกว่าจะยอม แต่ก็เพราะทุกคนเป็นห่วงเรานั่นแหล่ะนะ น่าดีใจแท้ๆแต่ทุกคนก็ไม่อยากตื้อให้เราจนกังวลเกินไปเหมือนกันเพราะงั้นแค่รับปากว่าจะไม่ฝืนฉันก็ขอตัวมาได้แล้วหล่ะนะแล้วจากนั้นก็วาร์ปมาที่เมืองหลวง ในซอกตึกที่นึงใกล้ๆกับทางเข้าพระราชวังโห... มองดูจากตรงนี้ยังเห็นรูที่เจ้าชายมันทำพังไว้อยู่เลย...เดี๋ยวไม่สิ... เราเป็นคนทำนี่หว่า คง

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 95 : ตัวละครเอกมักเป็นพวกชอบหาเรื่องใส่ตัว

    หลังจากที่การแสดงของฉันดำเนินมาได้ซักพัก จุดจบก็มาถึงโดยที่ฉันเป็นคนจัดการปิดคดีได้อย่างดงามถึงช่วงกลางๆจะโดนคุณโรนี่แย่งซีนก็เถอะ แต่ตอนจบก็กู้หน้าคืนมาได้อ่ะนะ...จากนั้นริออนที่ถูกฉันต่อยจนสลบก็ถูกพวกฟรอนกับคาลอสคุมตัวไปส่วนไอ้ปีศาจนั่นฉันปล่อยให้มันหนีไปเองด้วยเหตุผลทางด้านผลประโยชน์ในอนาคตแต่ทางฝั่งนั้นอาจจะกำลังคิดว่าหนีฉันพ้นอยู่ก็ได้หล่ะนะ... แต่ปล่อยให้คิดแบบนั้นก็ดีเหมือนกันแล้วหลังจากเรื่องจบ ฉันก็ไม่อยู่รอดูสถานการณ์หรอกนะเพราะว่าเป็นห่วงทุกคน ฉันเลยรีบผละตัวออกมาในทันทีที่มีโอกาสก่อนหน้าที่จะออกมาก็มีถูกพระราชานัดพบเป็นการส่วนตัวด้วยอยู่ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ แล้วก็คงคิดจะคุยถึงเรื่องต่อจากนั้นนั่นแหล่ะเป็นไปตามแผนเลย ฉันคิดจะใช้โอกาสนี้ต่อรองกับราชาอยู่แล้ว…แล้วพอวิ่งออกมาถึงจุดนัดพบในซอกตึกรามบ้านช่อง ก็เจอกับทุกคนโชคดีไป... ดูเหมือนทั้งมีอา เมอร์ลิน ชาลอต ซาช่า จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย โล่งอกไปที...กลับกันแล้วพวกเธอเป็นห่วงฉันสุดๆเลยชาลอตก็เอาแต่บอกว่า〝 นายท่านอย่าเสี่ยงไปคนเดียวแบบนั้นอีกเลยนะคะ! 〞ส่วนซาช่าก็〝 ตอนที่นายท่านกระโดดเข้าไปหาลูกบอลแปลกๆนั่น...

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 94 : บทปิดม่านของชายผู้ถูกความขลาดเขลากลืนกิน

    〝 อั๊ก!!! 〞 เจ้าชายออริออน... ริออนกุมมือขวาของตัวเองด้วยความเจ็บปวด เพราะได้รับผลกระทบจากการถูกยิง ต้องบอกว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่อัญมณีรับความเสียหายแทนไปเกือบหมด ไม่งั้นมือของเขาคงขาดไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะความเจ็บปวดที่แล่นจากมือขวาไปสู่ทั่วทั้งร่างนี่แหล่ะ ทำให้ริออนดึงสติของตัวเองกลับมาได้อีกครั้งวูม!!!!!!———〝 อะ อา.... 〞 ริออนรำพึงอยู่ในลำคออย่างน่าเวทนา ในตอนที่แสงสีแดงจากวงเวทย์สว่างน้อยลงพร้อมๆกับวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ค่อยๆจางหายไปจากท้องฟ้ายามค่ำคืน จนในที่สุดแสงสว่างสีแดงฉานก็อันตรธานหายไปจากท้องฟ้า เช่นเดียวกับวงเวทย์ขนาดมหึมา ทำให้แสงจันทร์ส่องลงมาถึงพื้นดินอีกครั้ง แต่ยังคงมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวเนื่องด้วยความสับสนของชาวเมืองอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าทุกคนปลอดภัยดีแล้ว และไม่มีใครได้รับผลกระทบจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยซักคน ความสิ้นหวังเข้าคลุมสติของริออนในพริบตา อย่างที่เขาว่าไว้… เมื่อพริบตาที่ความหวังใกล้จะสัมฤทธิ์ผลถูกทำลายลง นั่นคือความสิ้นหวังอย่างที่สุด... และนั่นก็ทำให้สีหน้าของริออนเปลี่ยนจากสิ้นหวังไปเป็นอาฆาตแค้นแทน แ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 93 : การแสดงชั้นยอด

    〝 น่าตกใจจริงๆ… นี่รู้อยู่แล้วหรอกเหรอว่าข้าเป็นคนร้าย? 〞 เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง... เจ้าชายออริออนถามกรออกมาด้วยแววตาและท่าทางหยิ่งยโส พร้อมกับเป็นการยอมรับข้อกล่าวหาไปในตัว ว่าตัวเองคือคนร้ายตัวจริง ในขณะที่มองกรลงมาจากเบื้องบน〝 ก็นะ... เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานมานี้เองแหล่ะ แสบจริงนะให้ตายสิ... 〞กรพูดออกมาพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แล้วก็เดินเข้ามาทางเจ้าชายออริออนมากกว่าเดิม เหล่าสมุนเล็บโลหิตตั้งท่าเตรียมพร้อมโจมตีกันเต็มที่ แต่ยังไม่มีใครกล้าเริ่มโจมตีกรก่อน ทั้งด้วยความกลัวพลังที่ต่อกรกับพวกของตนระหว่างทางได้อย่างง่ายดาย แถมผ่านมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วนก็ด้วย แต่ประเด็นสำคัญคือจิตสังหารอันหนักอึ้ง ราวกับถูกน้ำตกซัดสาดนั่นของกรต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าขยับตัว〝 งั้นขอเข้าเรื่องเลยละกัน... 『อุปกรณ์ตัวหลัก』 อยู่ที่ไหน? 〞 กรเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนน่ากลัว นั่นทำให้เหล่าเล็บโลหิตจำนวนเกินครึ่งยืนตัวสั่นได้ ไม่สิ... แม้แต่ชายเผ่าปีศาจที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าชายออริออนยังแอบสั่นเลยด้วยซ้ำ มีเพียงโรนี่ที่ใจเย็

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 92 : คนร้ายตัวจริง

    หลังจากที่แอบย่องขึ้นมาบนชั้นสอง แล้วมองลอดเข้าไปในห้องที่จับสัมผัสวิญญาณได้พวกเราก็เจอกับเด็กผู้หญิงกำลังนั่งอยู่บนขอบระเบียงเป็นภาพที่น่าแปลก... เพราะเธอคนนั้นโปร่งแสงจนมองทะลุไปถึงท้องฟ้าที่เป็นฉากหลังเลยเนี่ยสิถ้างั้นก็ไม่ต้องสงสัย... เด็กคนนั้นคือวิญญาณที่กำลังตามหาอยู่แน่นอน กรคิดแบบนั้นพลางมองไปยังเด็กสาว ส่วนทางเด็กสาวนั้นกลับหันมามองทางกรในเวลาเดียวกัน〝 เอ่อ... ไม่ต้องหลบหรอกนะคะ คือหนูเห็นตั้งแต่เข้ามาในคฤหาสน์แล้วหล่ะค่ะ 〞เสียงกังวานของเด็กสาวพูดขึ้นมา โดยในน้ำเสียงมีความเอียงอายเล็กน้อย แล้วพอเด็กสาวพูดแบบนั้น กรก็ให้สัญญาณทุกคนเดินตามหลังเขาเข้ามาในห้องทันที〝 เข้าใจหล่ะ โทษทีนะที่บุกรุกเข้ามา 〞เมื่ออีกฝ่ายพูดอย่างสุภาพ ก็เป็นมารยาทเช่นกันที่กรจะตอบกลับไปแบบเดียวกัน〝 ไม่หรอกค่ะ... เอาจริงๆในรอบ 10 ปีมานี้มีคนเข้ามาในคฤหาสน์นับคนได้เลยหล่ะค่ะ มีคนบ้างแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน 〞เด็กสาวยิ้มตอบกรอย่างเป็นมิตร พร้อมกับลอยตัวจากขอบระเบียงมายืนอยู่ด้านหน้าของพวกกร สภาพแบบนั้นทำเอาพวกกรประหลาดใจไม่น้อย เว้นเสียแต่ซาช่าที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่〝 นี่เธอเป

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status