Share

บทที่ 433

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
บุรุษผู้ใส่เสื้อผ้ารัดรูปทั้งตัว ดูแล้วคล้ายกับข้ารับใช้ของขุนนางใหญ่ เคราบนหน้าก็รกรุงรังน่าขยะแขยงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ”

หลี่เฉินอันกำหมัดแน่น ทุบโต๊ะอย่างโกธเคือง “อาจารย์และอาจารย์หญิงของข้าไม่ใช่พลหทารไร้นาม ท่านเป็นใคร กล้าดียังไงมาพูดแทรกเช่นนี้?”

กล้าว่าร้ายอาจารย์ของเขาโดยเฉพาะอาจารย์หญิง? เขาทนไม่ได้

เถาเอ๋อร์กลับคิดไม่ถึงว่าหลี่เฉินอันจะกล้าลองดีกับตนเช่นนี้ ในสายตาของนางหลี่เฉินอันเป็นแค่เครื่องมือ “หากไม่ใช่เพราะข้าเขียนถึงเจ้า เดิมทีเจ้าก็ไม่มีตัวตน เจ้ากล้าดีอย่างไรมากล่าวหาว่าข้าเป็นใคร?”

นางคือผู้เขียนต้นฉบับ เทียบกับองค์หญิงแล้ว ไม่สิ เทียบกับฮ่องเฮาแล้วยังมีเกียรติมากกว่าเสียอีก ชะตาของทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนแต่อยู่ในการควบคุมของนางทั้งสิ้น!

หลี่เฉินอันตกอยู่ในความงุนงง “ท่านแม่ให้กำเนินข้า จะมีตัวตนหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าไม่ทราบ?”

วาจาของคนผู้นี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก หางตาของกู้หว่านเยว่กลับปรากฏเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ที่แท้เถาเอ๋อร์ก็เป็นผู้เขียนต้นฉบับนี่เอง

ในต้นฉบับกู้หว่านเยว่มักจะพูดแขวะถึงผู้เขียนอยู่หลายครั้ง ทำไมต้องเขียนให้ข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 434

    ทางฝั่งของมู่หรงอวี้เมื่อถูกกล่าวเช่นนี้ ก็เริ่มหวั่นไหว สุดท้ายเขาก็ยังตัดสินใจที่จะเลือกจัดการกับซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่ก่อนแล้วค่อยว่ากันตราบใดที่สองคนนี้ยังอยู่ เขาก็ยังต้องเจอกับความโชคร้าย จากคำกล่าวของเถาเอ๋อร์ เพียงจัดการกับพวกเขา เหตุใดยังต้องกังวลว่าตนจะหวนกลับมาตั้งตัวเป็นใหญ่อีกครั้งไม่ได้?“บนตัวของข้าเหลือเงินอยู่เพียงเท่านี้”มู่หรงอวี้ล้วงหยิบตั๋วเงินที่มีออกมา โชคดีที่เขายังมีคลังส่วนตัวหลายแห่งในเมืองที่ยังไม่โดนกวาดล้าง รอใช้เงินหมดเมื่อไหร่ ค่อยกลับไปเติมเงินในเมืองก็ย่อมได้กู้หว่านเยว่ชำเลืองมองเงินห้าร้อยเหรียญด้วยสายตารังเกียจเล็กน้อย “น้อยขนาดนี้ มู่หรงอวี้เจ้าช่างยากจนยิ่งนัก”ทันทีที่ได้เงินมา กู้หว่านเยว่ก็ใช้เสียงของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงอวี้เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างไม่ชอบมาพากล น้ำเสียงของอีกฝ่ายช่างคุ้นหูยิ่งนัก“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”มู่หรงอวี้เริ่มครุ่นคิดอย่างตื่นตระหนก ทั้งยังแอบคิดในใจ ‘เขาคงไม่ได้ล่มเรือในหนองน้ำเองหรอกนะ’ซูจิ่งสิงที่อยู่ตรงข้ามก็ไม่อยากปลอมตัวแล้วเช่นกัน รีบกระชากหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าออกทันที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 435

    เมื่อเห็นท่าทางของกู้หว่านเยว่เหมือนจะยิ้มแต้ก็ไม่ยิ้ม มู่หรงอวี้ก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“กู้หว่านเยว่ เจ้ากล้าดูถูกข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!” มู่หรงอวี้เคียดแค้นชิงชังกู้หว่านเยว่มาก ยิ่งกว่าซูจิ่งสิงไปแล้ว สตรีที่ทำให้เขาเสียหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าผู้นี้ เขาเกลียดเข้ากระดูกดำจนอยากให้กู้หว่านเยว่ได้ลิ้มลองรสชาติของการโดนล้อบ้าง“เจ้าอยากฆ่าข้าหรือ?”กู้หว่านเยว่นั่งลงอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นยกแก้วชาขึ้นมาแกว่งเล่น“นี่คืออาณาบริเวณของข้า เจ้าอยากฆ่าข้าดูเหมือนจะยากอยู่ไม่น้อย ไม่สู้เป็นห่วงชีวิตของตัวเองก่อนดีหรือไม่?”เพียงแวบเดียว เหล่าผู้คุ้มกันของจวนโหวก็ทยอยกันตวัดมีด ข่มขู่ให้มู่หรงอวี้กลัวจนขาอ่อนดูท่าคนของจวนโหวผู้นี้จะเชื่อฟังกู้หว่านเยว่“ข้าคือท่านอ๋อง เจ้ากล้าฆ่าข้า ไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะเข้าหูฝ่าบาทหรอกหรือ?”“หากข้ากราบทูลฮ่องเต้น้อยว่าคลังส่วนตัวของเจ้าแอบซ่อนสมบัติและคลังอาวุธไว้ล่ะ?” กล้าข่มขู่นางนักใช่ไหม ก็คอยดูว่าใครจะข่มขู่ใครกันแน่“เจ้าเก่งนักนะ!”มู่หรงอวี้เกิดรู้สึกกลัวขึ้นมา เขาไม่กล้ากราบทูลให้ฮ่องเต้จัดการซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่ ทั้งยั้งเป็นกังวลว่าซูจิ่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 436

    มู่หรงอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย ใช่ เวลานี้ซูจิ่งสิงอยู่ในเมืองอวี้แล้ว คงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันหมู่บ้านสือหานแต่อย่างใดหากเขาถือโอกาสนี้พากลุ่มคนเข้าไปล้อมโจมตีหมู่บ้านสืนหาน ไม่เพียงแต่จะสามารถจับตัวครอบครัวของซูจิ่งสิงได้แล้ว ยังสามารถยึดของมีค่าอยู่วางอยู่แนวหลังของอีกฝ่ายมาบีบบังคับพวกเขาได้อีกด้วยต้องรู้ว่าหมู่บ้านสือหานไม่ได้มีเพียงสหายและครอบครัวของซูจิ่งสิง แต่ยังมีเสบียงอีกไม่น้อย.......ทางฝั่งกู้หว่านเยว่หลังจากขับไล่มู่หรงอวี้แล้ว จู่ ๆ นางก็นึกถึงเรื่องของสวีหลานขึ้นมาได้ นางจึงหันไปถามหลี่เฉินอันว่า “เรื่องของสวีหลานจัดการเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?”หลี่เฉินอันพยักหน้าอย่างสุภาพ “จากหลักฐานที่ปรากฏ สวีหลานดิ้นไม่หลุดอย่างแน่นอน ผู้อาวุโสที่เดิมทีอยู่ข้างนางก็ถึงกับหมดคำพูด”“ช่วงบ่ายคนของสกุลสวีจะมาที่นี่ แต่ข้าคิดว่า ต่อให้คนของสกุลสวีมาถึงที่นี่ ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาทอดทิ้งนาง ไม่มีทางช่วยนางอย่างแน่นอน”สวีหลานในตอนนี้คือคนล้มที่ทุกคนพร้อมจะเหยียบย่ำกู้หว่านเยว่ไม่ได้สนใจชีวิตของสวีหลาน “ชีวิตของนาง เจ้าตัดสินเองเถอะ”หลี่เฉินอันพยักหน้าและกล่าวทันทีว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 437

    เสียงร้องคร่ำครวญจากการถูกทรมานของสวีหลานดังขึ้นอย่างน่าเวทนา แม้แต่กู้หว่านเยว่ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในจวนด้านหลังก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน“ท่านพี่ เราไปดูกันเถอะ”เมื่อถูกก่อกวนจนไม่สามารถทำงานได้ กู้หว่านเยว่จึงอยากไปดูให้เห็นกับตา“ไปกันเถอะ”ซูจิ่งสิงรักภรรยามาก เขาอุ้มนางและกระโดดไปบนกำแพงของหอบรรพบุรุษสกุลหลี่สวีหลานถูกขึงมือและเท้าอยู่บนกระดานไม้เหมือนเมื่อวาน ไม่ว่าจะโดนเฆี่ยนกี่ครั้ง นางก็ยังปกป้องจางเยว่อยู่เสมอ“จะฆ่าจะแกงก็มาลงที่ข้า ปล่อยพี่เยว่ไป”ท่าทางที่ดูไร้ค่านั้นยิ่งยั่วโมโหผู้อาวุโสสกุลหลี่มากกว่าเดิม“นังสารเลว ไร้ยางอายยิ่งนัก ต่อหน้าพวกข้าเจ้ายังปกป้องชายชู้ของเจ้า”“น่าขายหน้ายิ่งนัก คุณธรรมประจำตระกูลของสกุลหลี่ถูกเจ้าทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี”ในตระกูลนี้มีผู้อาวุโสที่หน้าบางอยู่หลายคน พวกเขาโกรธจนต้องเมินหน้าไปทางอื่นไม่อยากเห็นสวีหลานและจางเยว่ที่กำลังแสดงฉากรักที่น่าขยะแขยงผู้อาวุโสสำดับสองเห็นว่าทุกคนถูกสอบสวนเสร็จแล้ว จึงรีบกล่าวว่า“เสี่ยวอัน พอได้แล้ว รีบพาสวีหลานไปขังเถอะ”ความจริงแล้วเขาไม่อยากได้ยินวาจาหยาบคายของสวีหลานต่างหาก เขารู้สึกดีอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 438

    ในตอนนั้นเองเหล่าผุ้อาวุโสของหอบรรพบุรุษออกมาพอดี พวกเขามองหลี่เฉินอันและกู้หว่านเยว่ด้วยความเคารพ“ชายหญิงคู่นั้นเป็นใคร?” ผู้อาวุโสลำดับสามกล่าวถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง“ได้ยินว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตองค์ชายไว้ องค์ชายเรียกพวกเขาว่าอาจารย์ และเชื่อฟังพวกเขามาก”คนที่อยู่ถัดไปกล่าวไขข้อข้องใจ ผู้อาวุโสลำดับสามสบถด่าอย่างไม่สบอารมณ์“องค์ชายยังเด็กนัก จึงย่อมอ่อนน้อมถ่อมตนต่อคนนอก เขาไม่ได้เห็นพวกเขาเป็นผู้มีพะคุณอะไรหรอก แค่กลัวว่าเจดีย์หนิงกู่แห่งนี้จะกลายเป็นของคนนอกเท่านั้น”“ไม่ใช่หรอก” ผู้อาวุโสสกุลหลี่คนอื่นต่างพากันส่ายหน้าผู้อาวุโสลำดับสามกลับคิดจริงจัง เขาลูบเคราพลางกล่าวว่า “ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายเด็ดขาด”กู้หว่านเยว่รู้ว่ามีคนไม่พอใจอย่างแน่นอน แต่ในสายตาของนาง นางต้องทำเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าก่อน“นี่คือแผนที่ของเจดีย์หนิงกู่”กู้หว่านเยว่คลี่แผนที่ที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะ“ทิศเหนือคือเมืองตงโจว ทิศใต้คือเมืองหลวงของฮ่องเต้”นางสร้างความโกลาหลใหญ่โตถึงเพียงนี้ แม้จะบอกว่าห่างไกลจากพระเนตรของฮ่องเต้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 439

    “ผู้ว่าการเมืองอวี้ชื่อว่าทังต่า เป็นลูกเขยของผู้อาวุโสลำดับสามสกุลหลี่”ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงเบากู้หว่านเยว่ประหลาดใจ “เจ้าตรวจสอบมาอย่างชัดเจนแล้วใช่หรือไม่?”บุรุษผู้นี้กำลังทำอะไรบางอย่างลับหลังนาง!ซูจิ่งสิงคลี่ยิ้มที่น่าเชื่อถือออกมา “ภรรยาของข้าอยากเปิดกิจการขนาดใหญ่ในเจดีย์หนิงกู่ ข้าจึงอยากช่วยอย่างสุดกำลัง”เขากล่าวพร้อมกับยื่นรายชื่อไปให้นางด้วยสายตาเอาใจ“นี่คือรายชื่อของขุนนางของเมืองอวี้ ในนั้นมีประวัติส่วนตัวของทุกคนเขียนไว้อย่างละเอียด”กู้หว่านเยว่เปิดดู หนึ่งในนั้นมีชื่อของผู้ว่าการทังด้วยเมื่อเงยหน้าขึ้นมองซูจิ่งสิง ในใจของนางก็พลันดีใจ “สามีของข้าพึ่งพาได้จริง ๆ”แต่ผู้ว่าการถังผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ หลังจากปิดรายชื่อลง กู้หว่านเยว่ก็ตัดสินใจไปเจออีกฝ่ายก่อนแล้วค่อยว่ากันเรื่องที่กู้หว่านเยว่อยากเจอผู้ว่าการของเมืองอวี้และเมืองตู้เปียน ได้แพร่กระจายเข้าหูทุกคนแล้ว“กู้หว่านเยว่ผู้นี้เป็นใครกัน องค์ชายหลี่อยากเจอข้า ข้ายังคิดหนักว่าจะไปหรือไม่ไป สตรีอย่างนางอยากเจอข้าอย่างนั้นหรือ?”ผู้ว่าการทังยิ้มเยาะด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก เขาไม่เคยเห็นกู้หว่านเยว่อยู่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 440

    ซูจิ่งสิงไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา แต่เขากลับเป็นกังวลว่าอีกฝ่ายจะสร้างความขุ่นเคืองให้ภรรยาของตน“ไม่เป็นไร เกิ่งกวงจะถึงเมื่อไหร่”กู้หว่านเยว่กวาดตามองตำราเรียนอย่างนิ่งสงบ ตั้งใจจะเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างสักหน่อย“พรุ่งนี้น่าจะถึงแล้ว”เกิ่งกวงมาพร้อมกับทหารระดับยอดฝีมือหนึ่งพันคน กู้หว่านเยว่กระตุกมุมปาก และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“ดูจากเวลาแล้ว ผู้ว่าการหลิวก็น่าจะถึงแล้วเช่นกัน เช่นนั้นหากผู้ว่าการทังไม่มา ก็ให้เกิ่งกวงไปลากตัวเขามาล่ะกัน”ในเมื่อนางได้ครอบครองเจดีย์หนิงกู่และเป็นเจ้าเมืองของเจดีย์หนิงกู่แล้ว ใครจะกล้าคัดค้านนางละ? รนหาที่ตายเสียเปล่า ๆ “ผู้ว่าการทังทำงานได้ดี ไว้ข้าจะคอยดู”กู้หว่านเยว่เปิดตำราอ่านต่อ เช้าวันรุ่งขึ้น เกิ่งกวงพาทหารระดับยอดฝีมือหนึ่งพันคนเข้ามาในเมืองอวี้ จากนั้นก็ตรงมาตั้งถิ่นฐานใกล้กับจวนโหว อำนาจบารมีของเขาสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนไม่น้อย“ยอดเยี่ยม เจดีย์หนิงกู่ของเรามีทหารม้าที่แข็งแกร่งและชุดเกราะอันประณีตงดงามเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”ทหารยอดฝีมือหนึ่งพันคนหน้าประตูจวนโหวสร้างความตื่นกลัวให้กับผู้คนไม่น้อยในความทรงจำของทุกคน เจดีย์ห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 441

    “สตรีที่ออกเรือนแล้วนางนี้คือใคร เหตุใดถึงมานั่งอยู่กลางโถง?”ผู้ว่าการอำเภอทังพูดกับกู้หว่านเยว่อย่างไม่เกรงใจผู้ว่าการอำเภอหลิวรออยู่ครึ่งค่อนวันแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสได้ออกโรง จึงรีบพูดว่า“บังอาจนัก เหตุใดถึงพูดจากับแม่นางกู้เช่นนั้น แม่นางกู้คือนายของพวกเรา”กู้หว่านเยว่เหลือบมองผู้ว่าการอำเภอหลิว ผู้ว่าการอำเภอหลิวผู้นี้ต่างหากที่เป็นตัวตลก“นายหรือ? ฮ่า ๆ ข้ามีนายเพียงคนเดียว นั่นก็คือหลี่โหวเหย”ผู้ว่าการอำเภอทังพูดอย่างจงใจ“แต่ว่า เวลานี้หลี่โหวเหยกำลังป่วยหนักอยู่บนเตียง ข้าไม่มีนาย”ทังฮูหยินก็ยังวางมาดเป็นผู้อาวุโส มองไปยังหลี่เฉินอันอย่างไม่พอใจ“องค์รัชทายาท หลี่โหวเหยป่วยหนักอยู่บนเตียง ถ้ารู้ว่าท่านได้มอบจวนโหวให้คนนอก เกรงว่าจะโมโหจนต้องฟื้นขึ้นมา”“ใครสองคนนี้มาจากไหนกัน มีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งพ่อของข้า?”ข้างกายทังฮูหยิน เด็กชายวัยห้าหกขวบเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจเด็กชายตัวน้อยมองไปยังผู้ว่าการอำเภอทัง สายตาเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมสายตาของกู้หว่านเยว่หยุดอยู่ที่เด็กชายตัวน้อย รู้สึกขบขันเล็กน้อย “เจ้าคือทังเหวิน บุตรบุญธรรมของผู้ว่าการอำเภอทังใช่ไหม?”นางจ

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1416

    เดิมทีหญิงสาวนึกว่าตัวเองจะได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่ากลับเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน“เจ้า”สวีซื่อฉวนอยากก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกคนของถูเอ้อร์ขวางไว้“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”คนข้างหลังเขาก็ร้อนใจเช่นกัน เมื่อเห็นว่ากำลังจะตีกับถูเอ้อร์ จู่ๆ สวีซื่อฉวนเอ่ยขึ้น “ถอยให้หมด พวกเราไป”“หัวหน้ารอง...” หลายคนไม่พอใจ“ไป”สวีซื่อฉวนหันมองใบหน้าคนชั่วได้ใจของถูเอ้อร์แวบหนึ่ง แล้วกำหมัดแน่น พาคนของตัวเองจากไปอย่างเงียบเชียบ“ถุย คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้ารองจริงๆ หรือ”ถูเอ้อร์ถุยน้ำลายใส่แผ่นหลังเขาที่จากไป แล้วลากหญิงสาวที่เหลือออกไปหลังจากพวกเขาไปหมดแล้ว บนหลังคามีคนกระโดดลงมาสองคนซึ่งก็คือกู้หว่านเยว่กับหวังปี้ที่ดูอยู่เมื่อครู่“ดูท่าภายในของโจรพวกนี้ ก็ไม่ได้สามัคคีกันมากนัก”หวังปี้กล่าวพร้อมถอนหายใจ“ก่อนหน้านี้ทุกคนอยู่บนเขา เรียกท่านพี่ใหญ่ เรียกข้าพี่รอง เรียกขานกันดุจพี่น้องตอนนี้ยึดเมืองเหยาได้แล้ว จึงคิดอยากเป็นใหญ่ จะยอมแบ่งอำนาจได้หรือ”หวังปี้บ่นพร้อมส่ายหน้า กู้หว่านเยว่เพียงเม้มปากยิ้ม“นี่ก็พอดีเลยไม่ใช่หรือ จะได้ยุยงให้พวกเขาแตกคอกัน”นางดึงหวังปี้ “ไป พวกเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1415

    ก่อนจากมา กู้หว่านเยว่ยัดเงินใส่มือของจางเอ้อร์“ตอนนี้อยู่ข้างนอก อีกทั้งท่านยังบาดเจ็บ มีเงินอยู่กับตัวดีกว่าไม่ดี รับไว้เถอะ”“แม่นางกู้ บรรพบุรุษของข้าจางเอ้อร์ทำบุญด้วยอะไร ถึงได้มารู้จักกับท่าน”จางเอ้อร์ชั่งน้ำหนักเงินที่อยู่ในมือซึ่งน้ำหนักค่อนข้างมาก น้ำเสียงสะอื้น แล้วมองทั้งสองจากไป“พระชายา เหลือเวลาไม่มากแล้ว พวกเรารีบไปเมืองเหยากันเถอะ”หวังปี้เอ่ยเตือน ในไม่ช้าทั้งสองคนมาถึงนอกเมืองเหยาขณะนี้ภายในเมืองเหยาเงียบสงัดบนถนนเต็มไปด้วยศพที่นอนเกลื่อนกลาด ในอากาศกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง เลือดไหลมาบรรจบกันดุจแม่น้ำสายเล็กแล้วไหลลงสู่คูเมือง จนทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีแดงฉานร้านรวงสองข้างทางถูกปล้นจนว่างเปล่า ถูกทำลายบ้าง ถูกเผาบ้างภายในจวนเจ้าเมือง มีหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง กอดกันร้องไห้ส่วนมากพวกนางเป็นหญิงชาวบ้านในเมืองถูกโจรจับมาไว้ในจวน เพื่อให้พวกมันย่ำยี“ข้าอยากกลับบ้าน...”“ท่านพ่อท่านแม่ตายแล้ว พี่น้องก็ตายหมดแล้ว”“พวกเรายังมีบ้านหรือ?”“ไม่มี ไม่มีบ้านแล้ว ไม่มีบ้านอีกต่อไปแล้ว...”จากนั้นเสียงร้องไห้ดังขึ้นระงมขณะนี้ นอกประตูมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามากะทันหันแ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1414

    แต่นึกไม่ถึงว่าทำดีไม่ได้ดี ความเมตตานี้กลับถูกคนชั่วหลอกใช้หลังจากเอ้อร์คำนับเสร็จ ก็ยันตัวลุกขึ้นยืนกู้หว่านเยว่ตรวจดูอาการของเขาสักครู่“ข้ากับแม่ทัพหวังยังมีธุระต่อ เกรงว่าคงอยู่ดูแลเจ้าที่นี่ไม่ได้ ที่นี่มีเงินถึงหนึ่ง เจ้ารับไป แล้วหาที่รักษาตัวเถอะ”กู้หว่านเยว่นำก้อนเงินเล็กถุงหนึ่งยื่นให้จางเอ้อร์จางเอ้อร์เห็นถุงก้อนเงินเล็กขอบตาแดงไปหมด มองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาตื้นตันในยามนั้นการทำดีตอนเนรเทศ วันนี้ถือว่ามีส่วนช่วยเขาอย่างใหญ่หลวง“แม่นางกู้”แต่ว่าเขาไม่ได้ยื่นมือไปรับถุงก้อนเงินเล็กมา“พวกท่านจะไปเมืองเหยาหรือ?”กู้หว่านเยว่สบตากับหวังปี้แวบหนึ่ง เนื่องจากจางเอ้อร์ไม่ใช่คนเลว ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ปิดบัง แต่ว่าทัพใหญ่ของหนางหยางอ๋องตั้งค่ายอยู่ในภูเขาเหยา ทั้งสองไม่ได้เปิดเผยให้รู้“ถูกต้อง พวกเราสองคนต้องไปทำธุระในเมืองเหยา”“พาข้าไปด้วยได้หรือไม่?” จางเอ้อร์ถามหยั่งเชิงคราวนี้กู้หว่านเยว่ไม่ลังเล ส่ายหน้าทันที“ท่านคงยังไม่รู้สถานการณ์ในเมืองเหยา เมืองเหยาถูกพวกโจรโจมตีแล้ว ตอนนี้พวกโจรกำลังฆ่าคนไปทั่วเมือง คนทั่วไปเมื่อเข้าไปก็จะไม่ได้ออกมาอีกอีกอย่าง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1413

    ไม่ว่าเขาจะเรียกร้องอย่างไร หัวหน้าสำนักคุ้มภัยหวังก็เหมือนคนนอนหลับ ไม่มีการตอบสนองสักนิด“จางเอ้อร์ หักห้ามใจเถอะ”หวังปี้ถอนหายใจ พร้อมเอ่ยเตือนเขาเข้าใจอาการคลุ้มคลั่งในยามนี้ของจางเอ้อร์ดี เพียงแต่ คนตายไม่อาจฟื้นคืน“ข้าผิดคำพูดแล้ว”ในใจจางเอ้อร์เสียใจอย่างที่สุดเขาเคยรับปากหัวหน้าสำนักคุ้มภัยหวังว่าจะช่วยเขา“ข้าจะทำแผลให้ท่านก่อน”กู้หว่านเยว่นำขวดยาและผ้าพันแผลที่ติดตัวมา ทำแผลให้จางเอ้อร์“ขอบคุณแม่นางกู้”จางเอ้อร์น้ำตาร่วงต่อให้ในใจจะเสียใจเพียงใด เขาก็รู้ว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงบาดแผลบนตัวจางเอ้อร์ค่อนข้างลึก กู้หว่านเยว่ทำแผลได้เพียงเบื้องต้น เพื่อไม่ให้บาดแผลอักเสบ“ท่านลุกขึ้นยืนได้หรือไม่?”หลังทำแผลเสร็จ กู้หว่านเยว่สอบถามนางและหวังปี้ต้องเข้าไปสืบข่าวในเมืองเหยา จึงดูแลจางเอ้อร์เป็นเวลานานไม่ได้“ข้า ข้าพอยืนได้”หลังกินยาของกู้หว่านเยว่เข้าไป เรี่ยวแรงของจางเอ้อร์ฟื้นฟูขึ้นมาบ้าง“ยืนได้ก็ดีแล้ว ใช่สิ สำนักคุ้มภัยของพวกท่านพบเจอเรื่องใดหรือ ถึงได้ล้มตายกันหมดเช่นนี้?”กู้หว่านเยว่สอบถาม เมื่อครู่ระหว่างทำแผลให้จางเอ้อร์ นางมองสำรวจโดยรอบพ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1412

    เขาโกรธจนกำหมัดแน่นเพื่อให้ทหารระบายความแค้น ก่อนและหลังโจมตีเมือง บางกองทัพจะฆ่าล้างบางชาวบ้านหนึ่งเพื่อข่มขวัญผู้คนที่อยู่ในเมืองสองเพื่อให้เหล่าทหารผ่อนคลายเพียงแต่หนางหยางอ๋องและซูจิ่งสิงปกครองอย่างเข้มงวด ไม่เคยปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น“พวกเราไปก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ทนดูไม่ได้อีกต่อไป จึงเก็บสายตากลับมาเงียบๆตั้งแต่โบราณผู้ที่ทุกข์ร้อนในศึกสงครามก็คือชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ขณะที่ทั้งสองเตรียมจากไป จู่ๆ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังแผ่วเบามาจากถนนสายเล็กด้านข้าง“ทางนั้นเหมือนจะมีคน”หวังปี้รีบหันมองทันที“ไป พวกเราไปดูสักหน่อย” กู้หว่านเยว่ลากหวังปี้เข้าไปตรวจดูด้วยกัน ปรากฏว่าเห็นคนสองคนล้มอยู่ในพงหญ้าบนตัวทั้งสองคนเต็มไปด้วยเลือด บนตัวมีบาดแผลจากดาบไม่น้อย“น้องเล็ก ดูจากเสื้อผ้าของพวกเขาน่าจะเป็นคนของสำนักคุ้มภัย”หวังปี้เปลี่ยนสรรพนามอย่างระวัง กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดินไปหาคนที่ขอความช่วยเหลือนางรู้สึกว่าเสียงของคนผู้นี้คุ้นหูอยู่บ้างพอดีกับที่ชายผู้นั้นเห็นว่ามีคนเข้ามา จึงรีบมองไปทางพวกกู้หว่านเยว่เมื่อทั้งสองสบตากัน ต่างชะงักไปทันใด กู้หว่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1411

    “พี่น้องสกุลฮั่ว เจ้าไม่เป็นไรนะ?” กู้หว่านเยว่เดินมาตรงหน้าฮั่วจี๋ แต่อีกฝ่ายยังอยู่บนหลังของหวังปี้ ไม่มีแรงลงมา“คารวะพระชายา”ฮั่วจี๋ใช้หางตาเหลือบมองกู้หว่านเยว่แวบหนึ่งท้องฟ้ามืดสลัว เขาเองก็มองไม่ชัดว่าหน้าตากู้หว่านเยว่เป็นอย่างไรแต่ว่าเขาเพิ่งเคยเห็นหญิงสาวลอบโจมตีสนามรบพร้อมกองทัพยามวิกาลเป็นครั้งแรก ในใจจึงรู้สึกนับถือมาก คำพูดที่พูดกับกู้หว่านเยว่จึงเคารพมาก“พระชายาโปรดอภัย ข้าน้อยไม่อาจลงไปคารวะด้วยตัวเอง”“แค่พิธีเท่านั้น รักษาตัวสำคัญกว่า”กู้หว่านเยว่เป็นคนในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใส่ใจพิธีรีตองมากนักอีกอย่างพวกนางกำลังเร่งเดินทาง ไม่จำเป็นต้องให้ฮั่วจี๋ลงจากหลังหวังปี้ เพียงเพื่อทำความเคารพเท่านั้นฮั่วจี๋คุยกับกู้หว่านเยว่เพียงไม่กี่คำ พลันหลับตาลงอย่างอึดอัดบิดาและพี่ชายเพิ่งเสียชีวิต ประชาชนชาวเมืองเหยาตกอยู่ในอันตราย เขาเป็นแม่ทัพน้อยแห่งเมืองเหยา จึงไม่มีแก่ใจพูดคุยกับใครเมื่อนึกถึงกลุ่มโจรเหล่านั้นในเมืองเหยา ที่เข้ามาปล้นชิงฉุดคร่าทำให้หมัดของฮั่วจี๋ กำแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมเขาโกรธมาก!สกุลฮั่วเฝ้ารักษาเมืองเหยามาตลอดชีวิตราษฎรเมืองเหยาคือครอบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1410

    ฮั่วจี๋รู้สึกแค้นเคืองภายในใจเพียงเขาหลับตาลงหนึ่งข้าง เบื้องหน้าก็ปรากฏภาพศีรษะของบิดาและพี่ชายถูกห้อยอยู่หน้าประตูเมืองหากมิใช่เพราะฮ่องเต้ชั่วตัดสินใจผิดพลาด ไฉนเลยสกุลฮั่วของเขาจะตกลำบากมาถึงขั้นนี้ได้?“ก่อนกองโจรโจมตียึดครองเมืองสองสามวัน ท่านพ่อและพี่ชายได้รับข่าวมาแล้ว ตั้งใจเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ ขอความเมตตาจากฝ่าบาทเคลื่อนย้ายกำลังพลจากคูเมืองละแวกใกล้เคียงมาเพียงน่าเสียดาย ฝ่าบาทไม่สนใจพวกเราเลยแม้แต่น้อย”ฮั่วจี๋ย้อนนึกถึงความทรงจำทีละน้อย ภายในสายตาเปี่ยมไอแค้น“บิดาและพี่ชายไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงย้ายข้าออกมาก่อนเป็นอันดับแรก”ที่แท้ฮั่วจี๋ไปเลือกกำลังพลในวันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่สกุลฮั่วสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรก ตั้งใจส่งเขาออกไป“ข้าไม่เต็มใจจากไป ท่านพ่อและท่านพี่สั่งให้คนตีข้าจนหมดสติตอนข้าฟื้นขึ้นมา ทั้งหมดก็สายไปแล้ว”อาจเพราะคนของสกุลฮั่วรู้ว่าไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้อีก ดังนั้นจึงต้องการเก็บสายเลือดสุดท้ายไว้ นี่ถึงส่งฮั่วจี๋ออกไป“หลานชาย”หนานหยางอ๋องถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ไม่รู้สมควรปลอบเยี่ยงไรนึกถึงตอนแรก เขาและเหล่าฮั่วสองคนต่อสู้เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1409

    “ข้ารู้แล้ว ขอบคุณเจ้าที่ยอมเล่าให้พวกเราฟัง”กู้หว่านเยว่มองเจียงม่านมากอีกทีหนึ่ง กลับไม่ดูเบาเพียงเพราะนางเป็นสตรีในโลกีย์“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เล่าความจริงให้พวกท่านฟัง นั่นเพราะข้าไม่สามารถแยกออกว่าพวกท่านเป็นมิตรหรือศัตรูกังวลพูดฐานะของคุณชายฮั่วออกไป จะนำมาซึ่งหายนะ”เจียงม่านคำนับกู้หว่านเยว่“ล่วงเกินไปที่ใด หวังว่าแม่นางจะให้อภัย”บัดนี้ได้เห็นกู้หว่านเยว่ออกมือช่วยเหลือฮั่วจี๋ด้วยตนเอง นางก็คือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตฮั่วจี๋ปัดเศษดูแล้ว ภายภาคหน้าก็เป็นผู้มีบุญคุณของเจียงม่านนางเฉกเดียวกัน“ไม่ต้องเกรงใจถึงเพียงนี้”กู้หว่านเยว่ยื่นอาหารแห้งให้นาง“ยังไม่ได้กินข้าวกระมัง รองท้องก่อนเถอะ”เจียงม่านเลียริมฝีปาก นับตั้งแต่หนีออกจากเมืองเหยา เพื่อป้องกันถูกคนพบเห็น นางเองก็ไม่กล้าพาฮั่วจี๋ไปยังที่ที่มีคนมากนางไม่กล้าไปแม้แต่โรงน้ำชาเพื่อจิบชา กลัวถูกคนรู้ฐานะนางไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว ได้เห็นอาหารแห้งตาก็ลุกวาว รีบรับอาหารแห้งไปด้วยสองมือ ขอบคุณกู้หว่านเยว่นับพันนับหมื่นครั้งทุกคนเดินไปราวระยะหนึ่ง ฮั่วจี๋ก็ฟื้นขึ้นมาหลังเขาฟื้นแล้ว หนานหยางอ๋องก็แสดงตัว พูดคุย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1408

    นางอยากเปิดบาดแผลของฮั่วจี๋ให้พวกเขาดู แต่มือสองข้างถูกมัดไว้“คุณชายถูกยิงที่อก ลูกธนูยังอยู่ข้างในเจ้าค่ะ!”หนานหยางอ๋องเลื่อนคบเพลิงเข้าใกล้อกของฮั่วจี๋ได้เห็นลูกธนูที่บาดแผลบนอกของเขาไม่ผิดไปดังคาด ถูกเกราะบังไว้ เห็นได้ไม่ชัดนัก“พระชายา ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”หนานหยางอ๋องมองทางกู้หว่านเยว่ ครั้งนี้พวกเขาออกมาเป็นหน่วยจู่โจมสายฟ้าแลบ ข้างกายมิได้พาหมอทหารมาด้วย“ไม่เป็นไร”กู้หว่านเยว่พกกระเป๋ายาติดมาด้วย ก็เพื่อรับมือในยามจำเป็นแผลถูกธนูยิงนี้สำหรับนางกลับเป็นเรื่องเล็ก“วางคนนอนราบก่อน ข้าจะดูอาการของเขา”หวังปี้รีบขยับขึ้นไป “ข้าเอง”เขามือเท้าคล่องแคล่วว่องไว แก้มัดเชือกบนตัวฮั่วจี๋ออก จากนั้นจับคนนอนราบ“เอาคบเพลิงมาอีกสองอัน ส่องสว่างให้ข้า”เพื่อป้องกันมิให้มีแสงไฟ ทำให้คนสังเกตเห็นเบาะแสดังนั้นภายในหน่วยจึงจุดคบเพลิงเพียงหนึ่งถึงสองอันหนานหยางอ๋องนำคบเพลิงสองอันมา สั่งให้คนย่อตัวถือคบเพลิงข้างกายกู้หว่านเยว่ ส่องแสงให้นางขั้นตอนการดึงธนูออกมีเลือดเล็กน้อยกู้หว่านเยว่สวมถุงมือ การกระทำเป็นขั้นเป็นตอน คีบลูกธนูที่หักออกมาก่อน ล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์ โรยผงยาแก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status