“ผู้ว่าการเมืองอวี้ชื่อว่าทังต่า เป็นลูกเขยของผู้อาวุโสลำดับสามสกุลหลี่”ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงเบากู้หว่านเยว่ประหลาดใจ “เจ้าตรวจสอบมาอย่างชัดเจนแล้วใช่หรือไม่?”บุรุษผู้นี้กำลังทำอะไรบางอย่างลับหลังนาง!ซูจิ่งสิงคลี่ยิ้มที่น่าเชื่อถือออกมา “ภรรยาของข้าอยากเปิดกิจการขนาดใหญ่ในเจดีย์หนิงกู่ ข้าจึงอยากช่วยอย่างสุดกำลัง”เขากล่าวพร้อมกับยื่นรายชื่อไปให้นางด้วยสายตาเอาใจ“นี่คือรายชื่อของขุนนางของเมืองอวี้ ในนั้นมีประวัติส่วนตัวของทุกคนเขียนไว้อย่างละเอียด”กู้หว่านเยว่เปิดดู หนึ่งในนั้นมีชื่อของผู้ว่าการทังด้วยเมื่อเงยหน้าขึ้นมองซูจิ่งสิง ในใจของนางก็พลันดีใจ “สามีของข้าพึ่งพาได้จริง ๆ”แต่ผู้ว่าการถังผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ หลังจากปิดรายชื่อลง กู้หว่านเยว่ก็ตัดสินใจไปเจออีกฝ่ายก่อนแล้วค่อยว่ากันเรื่องที่กู้หว่านเยว่อยากเจอผู้ว่าการของเมืองอวี้และเมืองตู้เปียน ได้แพร่กระจายเข้าหูทุกคนแล้ว“กู้หว่านเยว่ผู้นี้เป็นใครกัน องค์ชายหลี่อยากเจอข้า ข้ายังคิดหนักว่าจะไปหรือไม่ไป สตรีอย่างนางอยากเจอข้าอย่างนั้นหรือ?”ผู้ว่าการทังยิ้มเยาะด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก เขาไม่เคยเห็นกู้หว่านเยว่อยู่
ซูจิ่งสิงไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา แต่เขากลับเป็นกังวลว่าอีกฝ่ายจะสร้างความขุ่นเคืองให้ภรรยาของตน“ไม่เป็นไร เกิ่งกวงจะถึงเมื่อไหร่”กู้หว่านเยว่กวาดตามองตำราเรียนอย่างนิ่งสงบ ตั้งใจจะเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างสักหน่อย“พรุ่งนี้น่าจะถึงแล้ว”เกิ่งกวงมาพร้อมกับทหารระดับยอดฝีมือหนึ่งพันคน กู้หว่านเยว่กระตุกมุมปาก และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“ดูจากเวลาแล้ว ผู้ว่าการหลิวก็น่าจะถึงแล้วเช่นกัน เช่นนั้นหากผู้ว่าการทังไม่มา ก็ให้เกิ่งกวงไปลากตัวเขามาล่ะกัน”ในเมื่อนางได้ครอบครองเจดีย์หนิงกู่และเป็นเจ้าเมืองของเจดีย์หนิงกู่แล้ว ใครจะกล้าคัดค้านนางละ? รนหาที่ตายเสียเปล่า ๆ “ผู้ว่าการทังทำงานได้ดี ไว้ข้าจะคอยดู”กู้หว่านเยว่เปิดตำราอ่านต่อ เช้าวันรุ่งขึ้น เกิ่งกวงพาทหารระดับยอดฝีมือหนึ่งพันคนเข้ามาในเมืองอวี้ จากนั้นก็ตรงมาตั้งถิ่นฐานใกล้กับจวนโหว อำนาจบารมีของเขาสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนไม่น้อย“ยอดเยี่ยม เจดีย์หนิงกู่ของเรามีทหารม้าที่แข็งแกร่งและชุดเกราะอันประณีตงดงามเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”ทหารยอดฝีมือหนึ่งพันคนหน้าประตูจวนโหวสร้างความตื่นกลัวให้กับผู้คนไม่น้อยในความทรงจำของทุกคน เจดีย์ห
“สตรีที่ออกเรือนแล้วนางนี้คือใคร เหตุใดถึงมานั่งอยู่กลางโถง?”ผู้ว่าการอำเภอทังพูดกับกู้หว่านเยว่อย่างไม่เกรงใจผู้ว่าการอำเภอหลิวรออยู่ครึ่งค่อนวันแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสได้ออกโรง จึงรีบพูดว่า“บังอาจนัก เหตุใดถึงพูดจากับแม่นางกู้เช่นนั้น แม่นางกู้คือนายของพวกเรา”กู้หว่านเยว่เหลือบมองผู้ว่าการอำเภอหลิว ผู้ว่าการอำเภอหลิวผู้นี้ต่างหากที่เป็นตัวตลก“นายหรือ? ฮ่า ๆ ข้ามีนายเพียงคนเดียว นั่นก็คือหลี่โหวเหย”ผู้ว่าการอำเภอทังพูดอย่างจงใจ“แต่ว่า เวลานี้หลี่โหวเหยกำลังป่วยหนักอยู่บนเตียง ข้าไม่มีนาย”ทังฮูหยินก็ยังวางมาดเป็นผู้อาวุโส มองไปยังหลี่เฉินอันอย่างไม่พอใจ“องค์รัชทายาท หลี่โหวเหยป่วยหนักอยู่บนเตียง ถ้ารู้ว่าท่านได้มอบจวนโหวให้คนนอก เกรงว่าจะโมโหจนต้องฟื้นขึ้นมา”“ใครสองคนนี้มาจากไหนกัน มีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งพ่อของข้า?”ข้างกายทังฮูหยิน เด็กชายวัยห้าหกขวบเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจเด็กชายตัวน้อยมองไปยังผู้ว่าการอำเภอทัง สายตาเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมสายตาของกู้หว่านเยว่หยุดอยู่ที่เด็กชายตัวน้อย รู้สึกขบขันเล็กน้อย “เจ้าคือทังเหวิน บุตรบุญธรรมของผู้ว่าการอำเภอทังใช่ไหม?”นางจ
ผู้ว่าการอำเภอทังตวาดเสียงลั่น“ไหนจะฮ่องเต้อีก ฮ่องเต้ทราบเรื่องนี้หรือไม่ หากฮ่องเต้รู้ว่าท่านกล้าทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเช่นนี้ มอบอำนาจศักดินาทั้งหมดให้กับสตรีนางหนึ่ง ต้องโกรธดั่งสายฟ้าฟาดเป็นแน่!”ภายใต้ความโกรธแค้นของผู้ว่าการอำเภอทัง ถึงกับยกฮ่องเต้มาอ้างผู้ว่าการอำเภอหลิวมองผู้ว่าการอำเภอทังเหมือนเห็นคนโง่ คนผู้นี้ยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของซูจิ่งสิงสินะ?ในเมื่อสามีภรรยาคู่นี้กล้าสร้างความโกลาหลในเจดีย์หนิงกู่ คงไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตาเป็นแน่อีกอย่างเจดีย์หนิงกู่ยังอยู่ห่างจากเมืองหลวงมากขนาดนั้น ต่อให้ฮ่องเต้ต้องการเข้าไปยุ่มย่าม ภายในระยะเวลาอันสั้นก็ไม่อาจเอื้อมถึงเช่นกัน“ผู้ว่าการอำเภอทัง ข้าขอแนะนำท่านว่า ผู้รู้สถานการณ์คืออัจฉริยชน”ผู้ว่าการอำเภอหลิวกล่าวเบา ๆ ประโยคหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่มิตรภาพระหว่างทั้งสอง เขาจะไม่พูดอะไรมากเด็ดขาดผู้ว่าการอำเภอทังยิ้มเยาะกล่าวว่า “ท่านรักตัวกลัวตาย แต่ข้าไม่กลัว เรื่องใดที่ท่านไม่อยากยุ่ง ข้าจะจัดการเอง ข้าเคยพูดเสมอว่า วันนี้ข้าจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะไม่ยอมรับสตรีมาเป็นนายของข้า”ความจริงพูดไป
“หุบปาก!”ดูเหมือนว่าผู้ว่าการอำเภอทังรู้ว่ากู้หว่านเยว่จะพูดอะไร จึงรีบห้ามไว้อย่างร้อนใจ ขาที่ไขว่ห้างอยู่ก็วางลง“นางมาร เจ้าต้องการจะพูดอะไร อย่ามาปล่อยข่าวให้คนตกใจที่นี่”เหงื่อเย็นเยียบหยดลงมาจากหน้าผากของผู้ว่าการอำเภอทัง หรือว่าความลับของเขาจะถูกเปิดเผยเสียแล้ว?เป็นไปไม่ได้ แม้แต่คนของสกุลหลี่ก็ไม่รู้กู้หว่านเยว่บุ้ยปาก ราวกับเห็นหนูเที่ยวกระโดดโลดเต้นไปทั่ว“ข้ายังพูดไม่จบ ผู้ว่าการอำเภอทังก็ตื่นเต้นไปก่อนแล้ว”“ฮูหยิน พวกเราไปกันเถอะ”ยิ่งสบตากับกู้หว่านเยว่มากเท่าไหร่ ผู้ว่าการอำเภอทังก็ยิ่งประหม่ามากขึ้นเท่านั้น รีบดึงมือของทังฮูหยินและทังเหวินขึ้นมากำลังจะออกไป“ช้าก่อนท่านพี่”เมื่อครู่ทังฮูหยินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเห็นผู้ว่าการอำเภอทังกำลังจะออกไป ในใจก็เริ่มสงสัยมากขึ้น“อย่าเพิ่งรีบร้อนออกไป ข้าอยากฟังว่าที่แม่นางกู้พูดมันหมายถึงอะไรกันแน่ เหตุใดเหวินเอ๋อร์ถึงไม่ใช่ลูกบุญธรรมของสกุลทัง”“ฮูหยิน อย่าไปฟังผู้หญิงคนนั้นพูดจาไร้สาระ”ผู้ว่าการอำเภอทังกระทืบเท้า“นางต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างเรา ที่พูดมาไม่มีความจริงสักประโยคเดียว เจ้าอย่าปล่อ
ตอนนั้นเพราะเรื่องนี้ ทังฮูหยินยังรู้สึกว่าตัวเองขี้ระแวงไปเรื่อย ทำให้นายอำเภอทังเสียหน้า รู้สึกผิดต่อเขาเป็นอย่างมากในเวลานั้นทังเหวินเข้าไปในจวน นายอำเภอทังจับความรู้สึกผิดของนางได้“ส่งคนไปที่ตรอกไป่ฮวา พาผู้หญิงคนนั้นมานี่”ทังฮูหยินสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากสงบสติอารมณ์ลง ก็หาเก้าอี้มานั่ง“ฮูหยิน ถ้ามีอะไรจะพูด เรากลับไปค่อยคุยกัน...”สีหน้าของนายอำเภอทังดูหม่นหมอง ทังฮูหยินเมินเฉยเขาอย่างสิ้นเชิงไม่นานหลังจากนั้น หญิงชราสองคนก็พาสตรีที่ออกเรือนแล้วแต่ยังพราวเสน่ห์เห็นแล้วก็หลงรักคนหนึ่งเข้ามา“ฮูหยิน ผู้หญิงคนนี้ชื่อหลิ่วเหนียง”“ทำไมต้องจับข้า ข้าทำผิดอะไร?” ทันทีที่หลิ่วเหนียงเข้ามาก็พูดด้วยความหวาดกลัวทังฮูหยินไม่พลาดจังหวะที่นายอำเภอทังเห็นนาง สายตาที่หวาดหวั่นนั้น แววตาของนางเผยความผิดหวังออกมาอย่างรุนแรงเดิมทีเคยคิดว่านางกับนายอำเภอทังมีความรักต่อกันอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่สุดท้ายปรากฏว่าตัวตลกกลับกลายเป็นนางเอง?คำนวณจากการตั้งครรภ์สิบเดือน หญิงผู้นี้ได้รับการเลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาอย่างน้อยเจ็ดปีแล้ว“ท่านอยู่กับนางมานานแค่ไหนแล้ว”เมื่อยอมรับความจริงแล้ว
ทังเหวินจับมือผู้ว่าการอำเภอทังไว้ “ท่านพ่อ นางตีแม่ของข้า ท่านต้องจัดการให้ท่านแม่!”“เหวินเอ๋อร์ อย่าพูดจาเหลวไหล”สีหน้าของผู้ว่าการอำเภอทังดูแย่มาก ที่เขามีวันนี้ได้ ทั้งหมดล้วนพึ่งพาทังฮูหยิน“ฮูหยิน เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด...”“ทังต่า ท่านเห็นข้าเป็นคนโง่จริงหรือ?”ทังฮูหยินถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ“ท่านอยู่กับหญิงชู้นางนี้มานานแค่ไหนแล้ว ท่านจะไม่บอกข้าใช่ไหม ได้ ถงจือสวี่เจ้าพูดมา”ตอนแรกถงจือสวี่ปกปิดให้ผู้ว่าการอำเภอทัง ถึงทำให้นางคิดว่าหลิ่วเหนียงเป็นอนุของถงจือสวี่“ทังฮูหยิน ท่าน ทำไมพวกท่านต้องทำให้ข้าลำบากใจด้วย”ถงจือสวี่เหงื่อแตกพลั่ก เขาไม่สามารถล่วงเกินผู้บังคับบัญชาหรือคนในสกุลหลี่ได้“ฮูหยิน เจ้าอย่าวุ่นวายอีกเลย นี่คือแผนยุแยงตะแคะรั่วของกู้หว่านเยว่”ถงจือสวี่ไม่พูด ทังฮูหยินก็ยิ่งทวีความโกรธมากขึ้น ผลักผู้ว่าการอำเภอทังที่เข้ามากอดนางออกไป“ไปให้พ้น ข้ารังเกียจความสกปรก แต่งงานมาหกปี ข้าคิดว่าท่านเสื่อมสมรรถภาพ ที่แท้ก็แค่เสื่อมสมรรถภาพกับข้า”ฮ่า ๆ เรื่องตลก เป็นเรื่องตลกระดับชาติจริง ๆ นางยังเข้าใจว่าทังต่าเสื่อมสมรรถภาพ
ทังต่าตะโกนลั่น ถูกคนของเกิ่งกวงลากลงไป“พวกท่านยังมีความเห็นต่างอะไรอีกหรือไม่?”กู้หว่านเยว่หันไปมองเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ทุกคนตัวสั่น รีบส่ายหน้า“ไม่มี”“พวกข้าทุกคนเชื่อฟังท่าน”“ฮูหยิน ท่านพูดอะไร พวกข้าจะทำตามทุกอย่าง”ใครกล้าเป็นปฏิปักษ์กับนาง แสดงว่าต้องการบ้านแตกสาแหรกขาด!ทหารชั้นยอดของเกิ่งกวงยังคงยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก พวกเขาเพิ่งเห็นทังต่าประสบหายนะด้วยตาตัวเอง แล้วจะกล้าต่อต้านได้อย่างไร“เมืองอวี้จะขาดผู้ว่าการอำเภอไม่ได้สักวัน ผู้ว่าการอำเภอนี้ ต้องเชื่อฟังผู้พิพากษาเจียง ท่านมาเป็นแล้วกัน”กู้หว่านเยว่ชี้ไปที่ผู้พิพากษาเจียงที่ยืนอยู่ด้านหลังฝูงชน ไม่ได้พูดอะไรมากนักมาตลอดวันนี้ผู้พิพากษาเจียงเข้ามาที่จวนโหวด้วยตัวเอง กู้หว่านเยว่เคยตรวจสอบเขาแล้ว รู้ว่าคนคนนี้ไม่มีปัญหาอะไรผู้พิพากษาเจียงตกใจ ไม่คิดว่ากู้หว่านเยว่จะชี้มาที่เขา ใบหน้าที่ซื่อตรงแสดงความประหลาดใจออกมา รีบเอ่ยขึ้น“ขอบคุณแม่นางกู้ ต่อไปข้าจะพยายามทำเพื่อประชาชนของเมืองอวี้อย่างเต็มที่”“อืม”กู้หว่านเยว่จิบชา ผู้ว่าการอำเภอเจียงเชื่อฟังเช่นนี้ นางพอใจมาก“พวกท่านตามข้ามาที่ห้องหนังสือ ข้ามีบาง
กู้หว่านเยว่หยิบน้ำเชื่อมออกมาขวดหนึ่งแล้วยื่นให้เขา พร้อมกับอธิบาย“ข้าและท่านพี่ได้ยินว่าท่านเกิดเรื่อง จึงเร่งเดินทางมาที่นี่ ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”หนานหยางอ๋องได้ยินดังนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ประสานมือคารวะทั้งสองคน“ขอบคุณท่านอ๋องและพระชายาที่ยังเป็นห่วงข้า”กู้หว่านเยว่เห็นเขามีสีหน้าอ่อนเพลีย จึงรีบเอ่ยขึ้น “รีบดื่มน้ำเชื่อมนี่เถิด จะช่วยให้ท่านฟื้นฟูกำลังได้”“ตกลง”หนานหยางอ๋องเปิดขวดน้ำเชื่อมอย่างเชื่อฟัง แล้วดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง ก็รู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงขึ้นมาไม่น้อยเลยจริง ๆ จึงรีบดื่มน้ำเชื่อมที่เหลือจนหมดขวดในขณะที่หนานหยางอ๋องดื่มน้ำเชื่อมอยู่นั้น กู้หว่านเยว่ก็ไปดูชาวประมงคนอื่น ๆ พบว่าชาวประมงเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นลมเพราะความหิวชุนจวี๋รีบวิ่งเข้ามาดู แต่หลังจากที่ตามหาหนึ่งรอบแล้ว ก็ไม่พบสามีของนาง“พี่ต้าหนิว เหตุใดจึงไม่เห็นพี่ต้าหนิวเลยล่ะ?”ต้าหนิวเป็นคนกลุ่มแรกที่ตกลงไปในวังน้ำวน ตามหลักแล้ว เขาก็น่าจะอยู่ที่นี่ แต่เหตุใดจึงไม่พบเขาเลย?ชุนจวี๋ร้อนใจจนแทบบ้าเมื่อเห็นชาวประมงเหล่านี้ นางก็รู้สึกดีใจอย่างมาก คิดว่าในที่สุดก็ได้พบกับสามีของนางแล้ว แ
กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงตกตะลึงเล็กน้อย “เจ้ามาจับปลาคนเดียวหรือ เจ้ามีสามีด้วยมิใช่หรือ?”พูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของชุนจวี๋ก็น้ำตาคลอ“เขาหายตัวไปสามวันแล้ว เมื่อคืนข้าแอบออกมาตามหาเขา”ชุนจวี๋พูดพลางร้องไห้ “คนอื่นบอกว่าเขาตายแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อข้าแอบพายเรือลำเล็กมาที่ใจกลางทะเลสาบคนเดียว แล้วก็รู้สึกได้ถึงแรงดูดมหาศาลกำลังดึงข้าอยู่ ข้ายังไม่ทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกดึงลงไปพร้อมกับเรือ”นางเงยหน้าขึ้น “พอข้าตื่นขึ้นมา ก็เห็นพวกท่านทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าข้า”ชุนจวี๋นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบมองไปรอบ ๆ “สามีของข้าอาจจะตกลงมาด้วย พวกท่านเห็นเขาแถวนี้บ้างหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “พวกเราเห็นแค่เจ้าคนเดียว”ชุนจวี๋หัวใจสลายในทันที“แต่พื้นที่ข้างล่างนี้กว้างมาก น่าจะเป็นสุสานใต้ดิน พวกเราลองหาทางเข้าสุสานใต้ดินดู พวกเขาลงมานานแล้ว อาจจะเข้าไปในสุสานใต้ดินนานแล้วก็ได้”กู้หว่านเยว่อธิบาย เมื่อครู่นางให้ระบบส่งแผนที่ของสุสานใต้ดินมาให้นางแล้ว“ข้าจะไปหาพร้อมกับพวกท่าน”น้ำเสียงที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยของชุนจวี๋ ทำให้กู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“เจ้าไม่กลัวหรือ? ในส
“อืม”เขาตัดสินใจกัดฟันถอดเสื้อผ้าออก แต่พอถอดถึงกางเกง กู้หว่านเยว่ก็หันหน้าหนี ทำให้ซูจิ่งสิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาเปลี่ยนเป็นกางเกงสะอาดตัวใหม่ ไม่ได้ใส่เสื้อ รอให้กู้หว่านเยว่ทายาให้“ผู้ชายอย่างท่านนี่ เหตุใดทั้งตัวมีแต่กล้ามเนื้อแบบนี้ล่ะ?”กู้หว่านเยว่ทนไม่ไหว จึงลูบกล้ามท้องของเขา ทำเอาชายหนุ่มตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันทีถ้าเขาเดาไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็นห้องนอนในมิติของกู้หว่านเยว่สินะทั้งห้องเป็นสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวอบอวลอยู่เมื่อได้กลิ่นหอมนั้น มองไปที่เตียงใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหลังกู้หว่านเยว่ ใบหูของเขาก็ร้อนผ่าวกู้หว่านเยว่หัวเราะชอบใจ ถ้าไม่นึกถึงภารกิจสำคัญที่จะต้องทำเดี๋ยวนี้ นางต้องลากท่านพี่มากลิ้งบนเตียงสักหน่อยหลังจากฆ่าเชื้อโรคที่บาดแผลอย่างง่าย ๆ และโรยยาจินชวงสมานแผลแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก“น่าจะเรียบร้อยแล้ว โชคดีที่แผลนี้ไม่ลึกมาก แค่ช่วงสองสามวันนี้ระวังอย่าให้โดนน้ำก็พอ”“ขอบคุณน้องหญิง”ซูจิ่งสิงใส่เสื้อ กู้หว่านเยว่รู้สึกเสียดายเล็กน้อย มองไม่เห็นกล้ามท้องแล้วรอจนกระทั่งซูจิ่งสิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ กู้หว่านเยว่ก็เอ่
“หากถูกดูดเข้าไปในวังน้ำวน ยังมีโอกาสรอดชีวิตหรือไม่?”เมี่ยชิงหว่านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน พอเห็นกู้หว่านเยว่ส่ายหน้า นางก็ทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาแดงก่ำกู้หว่านเยว่ดึงซูจิ่งสิงไปด้านข้าง จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย “ท่านพี่ ใต้วังน้ำวนนั่นอาจจะมีของบางอย่าง”เมื่อครู่ระบบบอกกับนางว่า ใต้วังน้ำวนอาจจะมีสมบัติอยู่กู้หว่านเยว่รู้สึกคันไม้คันมืออีกแล้ว“ข้าตั้งใจว่าจะไปดู ถ้าเห็นชาวประมงที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะพากลับมา”ซูจิ่งสิงเห็นดวงตาของนางเป็นประกาย ก็รู้ว่านางอยากไปมาก ในเมื่อน้องหญิงอยากไป เขาก็จะไม่ห้ามแน่นอน“เราสองคนไปด้วยกัน”“ก็ได้”อย่างมากก็หากเจออันตราย ก็จะลากซูจิ่งสิงเข้าไปหลบในมิติด้วยกันเมื่อตัดสินใจได้แล้ว กู้หว่านเยว่ก็หันไปบอกทุกคน“พวกเจ้ารอคำสั่งอยู่บนเรือใหญ่ หากไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามใครพายเรือเด็ดขาด ข้าและท่านอ๋องจะนั่งเรือเล็กไปสำรวจที่ใจกลางทะเลสาบก่อน”คนที่นำมาล้วนเป็นองครักษ์จันทรา ไม่กลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อฟังชิงเหลียนและฉู่เฟิงรีบไปที่ท้ายเรือ จากนั้นค่อย ๆ วางเรือลำเล็กไว้บนผิวน้ำ“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านต้องระวังตัวด้วย” ชิง
“นี่คือเรือใหญ่ของหมู่บ้านเรา สามารถจุคนได้มากกว่ายี่สิบคน ด้านท้ายเรือยังมีเรือเล็กอีกสองลำ เพื่อความสะดวกในการให้คนลงไปตรวจสอบได้ทุกเมื่อ”ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านแนะนำ กู้หว่านเยว่ไม่พูดพร่ำทำเพลง เหยียบบันไดขึ้นไปบนเรือใหญ่ทันที“หว่านเยว่!”แววตาของซูจิ่งสิงทั้งเอ็นดูและจนปัญญา“เจ้าห้ามไปที่ทะเลสาบ ตกลงกันแล้ว”“เราเป็นสามีภรรยากัน”กู้หว่านเยว่กะพริบตา กล่าวอย่างซุกซน“หากมีอันตราย ก็จะได้ตายไปพร้อมกัน”ซูจิ่งสิง ...ระหว่างพูด กู้หว่านเยว่ก็ขึ้นไปบนเรือแล้ว พร้อมกับเรียกให้ทุกคนขึ้นมา ซูจิ่งสิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา พลางเหาะขึ้นไปบนเรือ แล้วโอบเอวนางไว้“ชิงหว่าน”สายตาของเผยเสวียนฉายแววไม่เห็นด้วย ทำให้เมี่ยชิงหว่านโกรธมาก“คนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรคือท่านพ่อของข้า หากท่านรักตัวกลัวตายก็ไม่ต้องไป แต่ข้าต้องไปให้ได้”พูดจบก็สะบัดมือเขาออกแล้วก้าวขึ้นเรือไปเผยเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขึ้นตามไปด้วยสีหน้ามืดมนเนื่องจากมาตรวจสอบหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ซูจิ่งสิงจึงนำองครักษ์ที่พายเรือเป็นมาล่วงหน้า หลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือแล้ว ซูจิ่งสิงก็สั่งให้องครักษ์พายเ
“ลุกขึ้นเถอะ”ซูจิ่งชิงโบกมือให้ลุก เขามีเรื่องสำคัญต้องทำ ไม่ต้องมากพิธีเขาเปิดเรื่องถามทันที “ทะเลสาบที่เกิดเรื่องอยู่ไหน?”“ด้านหลังหมู่บ้าน เชิญท่านอ๋องตามข้าน้อยมา”ผู้ใหญ่บ้านรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีใครสนใจ คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะเดินทางมาด้วยตัวเองจากปากทางหมู่บ้านไปถึงทะเลสาบยังห่างไปอีกช่วงหนึ่ง กู้หว่านเยว่จึงถือโอกาสถามทันทีว่า“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านช่วยเล่าเหตุการณ์ให้เราฟังหน่อยเจ้าค่ะ”ผู้ใหญ่บ้านสังเกตเห็นว่าข้างกายของท่านอ๋องนั้นยังมีสตรีหน้าตางดงามอีกหนึ่งคนตั้งแต่ที่ท่านอ๋องจูงมือของนาง แสดงท่าทางปกป้องมากเป็นพิเศษ ผู้ใหญ่บ้านพอจะเดาสถานะของกู้หว่านเยว่ได้ครั้นเห็นนางเอ่ยปากถาม จึงรีบกล่าวทันที“รายงานพระชายา ทะเลสาบแห่งนี้ชื่อว่าทะเลสาบโก่วสยง”เดิมทีหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างตกปลาเลี้ยงชีพจากทะเลสาบแห่งนี้มาหลายชั่วอายุคนแล้วเมื่อครึ่งเดือนก่อน กลับเกิดพายุครั้งใหญ่เกิดฟ้าผ่าสายหนึ่งกลางทะเลสาบโก่วสยงแห่งนี้“ยามนั้นเรียกได้ว่าแผ่นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง จนชาวบ้านต้องพากันออกมาดูสถานการณ์ ผลปรากฏว
“ว่ามา”“เช้าตรู่วันนี้ หมู่บ้านชาวประมงมีชาวประมงสูญหายอีกสองคน หนานหยางอ๋องทรงรับสั่งให้รุดหน้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าหลังจากที่มาถึงกลางทะเลสาบ เรือและคนก็ล้วนหายไปพร้อมกันขอรับ”“ว่าอย่างไรนะ?” สีหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนไป “หนานหยางอ๋องไปที่นั่นได้อย่างไร?”“พระชายาทรงยังไม่ทราบ เดิมทีหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้นเป็นที่ตั้งหลักของกองทัพทหารหนานหยางอ๋อง”ฉู่เฟิงกล่าวอธิบาย คิ้วของกู้หว่านเยว่ขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม“ท่านพี่ เรารีบไปดูกันเถอะ”ก่อนที่ทั้งสองคนจะออกเดินทาง คาดไม่ถึงว่าหนานหยางอ๋องจะเกิดเรื่องเช่นนี้ก่อน ดังนั้นแผนการเดิมคือการสำรวจหมู่บ้านชาวประมงอย่างช้า ๆ หากหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้นอันตรายมากจริง ๆ ก็ต้องล้อมทะเลสาบนั้นไว้ ห้ามใครเข้าไปเด็ดขาดแต่ตอนนี้หนานหยางอ๋องดันเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เรื่องราวกลับเลวร้ายมากขึ้นทุกที“เราต้องไปดูก่อน ฉู่เฟิงเจ้ามาบังคับม้า เร่งความเร็วกว่านี้”ฉู่เฟิงพยักหน้า ทันทีที่กระโดดขึ้นรถม้าก็เห็นรถม้าอีกคันไล่ตามมา“พี่หญิงหว่านเยว่!”เมี่ยชิงหว่านเปิดม่านหน้าต่างรถม้า ก่อนจะชะโงกหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาออกมา“ท่านพ่อเกิดเรื่องแล้ว
เช้าวันที่สอง ในที่สุดซูจื่อชิงก็ลืมตาหลังจากเมาค้างมาหนึ่งคืนเต็ม อาการปวดหัวของเขาได้ทวีความรุนแรงขึ้น วินาทีต่อจากนั้นรูม่านตาของเขาก็หดลงฉับพลัน“ชิวจู๋ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” อีกฝ่ายนอนอยู่บนเตียงของเขา อีกทั้งบนตัวของนางก็สวมใส่เพียงเสื้อเอี๊ยมชิ้นเดียวซูจื่อชิงกระโดดลงจากเตียงทันที จากนั้นก็มองไปยังเสื้อผ้าที่ร่วงอยู่บนพื้นด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”นัยน์ตาของชิวจู๋แดงก่ำ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ “เมื่อคืนคุณชายรองคิดว่าข้าเป็นผู้อื่น จึงถอดเสื้อผ้าของข้า...”“ว่าอย่างไรนะ?” สีหน้าของซูจื่อชิงซีดเผือดลง เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ อีกฝ่ายพูดเป็นนัยอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เวลานี้อาการปวดหัวของเขาทวีคูณมากขึ้น เขาไม่มีความภาพความประทับใจของเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย เขาคิดไม่ออกว่าตัวเองทำอะไรชิวจู๋หรือไม่“เราสองคนทำอะไรกันแน่?”เขาไม่อยากเชื่อ เขาไม่เคยนึกชอบชิวจู๋“เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว คุณชายรองยังอยากจะให้ข้าพูดออกมาอีกอย่างนั้นหรือ แล้วข้ายังจะมีหน้าไปเจอคนอื่นได้อย่างไรเจ้าคะ?”นัยน์ตาของชิวจู๋แดงก่ำ น้
ซูจิ่งสิงไม่เห็นด้วย ประเด็นหลักเพราะเขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพราะจากคำให้การของชาวบ้านเหล่านั้น ฟังดูแล้วทะเลสาบแห่งนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก บางคนก็บอกว่ามีปีศาจอยู่ในทะเลสาบแห่งนั้น คนที่ดำลงไปสำรวจใต้น้ำก่อนหน้านั้นต่างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย“ไม่ได้ ในเมื่อเป็นสถานที่อันตราย ข้าก็ยิ่งต้องไปกับท่าน มิเช่นนั้นหากท่านตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด ทำให้ซูจิ่งสิงจนปัญญา เดิมทีเขาอยากมาบอกกล่าวภรรยาของตัวเองก่อนออกเดินทางสักคำ คิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนจะขอไปกับเขาด้วยเมื่อเห็นสายตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาก็รู้ทันทีว่าต่อให้ตัวเองโน้มน้าวอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำใจ“ก็ได้ เช่นนั้นเราก็ไปด้วยกัน แต่เจ้าต้องรับปากข้าก่อน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าห้ามกระโดดลงจากเรือไปสำรวจในทะเลสาบเพียงลำพังเด็ดขาด”“ไม่มีปัญหา”กู้หว่านเยว่รับปากวันนี้รับปาก พรุ่งนี้กลับคำเนื่องจากสองสามีภรรยาคู่นี้จะต้องออกเดินทางไปสำรวจทะเลสาบแห่งนั้นตั้งแต่เช้าตรู่ ดังนั้นคืนนี้ทั้งสองคนจึงไม่อยู่รอให้ซูจื่อชิงฟื้นอยู่ในจวน แต่