ก่อนหน้านั้น“หวงฉีจิ้ง ยังไร้ฮองเฮาอ้ายหลิวเจ้าคิดว่า ตำแหน่งฮองเฮาควรจะเป็นใครกัน”อ้ายหลิวในวัยสาวยิ้มหวานหยด“ท่านพ่อ ท่านคงไม่อยากส่งเสริมลูกอนุเท่ากับอ้ายหลิว แม้จะรู้ว่าฝ่าบาทชื่นชมอ้ายจิงแต่นางแค่เพียงลูกอนุเป็นฮองเฮาเช่นไรจะเหมาะสม”ประวัติศาตร์มักจะซ้ำรอยเดิมเสมอ หญิงอัปลักษณ์เป็นชายารอง แต่หญิงงามเช่นจิวอัน เฉิงอู๋อ๋องกลับมองข้ามทั้งๆ ที่จิวอันมองเฉิงอู๋อ๋องด้วยฐานะอื่นไม่ใช่ฐานะท่านอาเสมอมา"ข้าส่งเสริมเจ้า จิวอันบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเผยตัวตนต่อหน้าผู้อื่น""เสด็จแม่ลูกเพียงแค่สงสารท่านอากับอ้ายฉิงไม่อยากให้นางต้องรับมือกับชายาเอกฟางหลินเพียงลำพัง ลูกกับนางอย่างไรเสียก็เป็นเหมือนพี่น้องอีกอย่างท่านอาก็รังเกียจนาง น่าสงสารยิ่งนัก"อ้ายหลิวยิ้ม"ดีเจ้าวางตัวเช่นนี้ แม่จึงส่งเสริมเจ้าเตรียมตัดชุดแดงไว้ได้อีกไม่นาน ข้าจะนำเรื่องนี้กราบทูลฝ่าบาท"จิวอันกอดแขนมารดาอย่างเอาใจ เดิมเห็นฟางหลินที่ร้ายกาจ มาบัดนี้อ้ายฉิงที่ไร้พิษสงหากร่วมมือกันกำจัดฟางหลิน ส่วนอ้ายฉิงคงไม่มีปากเสียงอะไรจวนเฉิงอู๋อ๋องประตูห้องเปิดออกด้วยแรงมือของเฉิงอู๋อ๋องร่างสูงเกือบถึงขอบประตูก้าวเข้ามาตามด้ว
สอดมืออุ่นดึงรั้งเส้นผมที่ท้ายท้อยของ เจิ้งอ้ายฉิงให้เงยหน้าขึ้นกดริมฝีปากลงบนปากบาง ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ปาหวางอ๋องไม่แม้แต่จะหันมามองก้าวเดินจากไปด้วยหัวใจที่กระตุกสั่น อ้ายฉิงทั้งดันทั้งผลักแต่กลับถูกกอดรัดไม่ยอมปล่อยริมฝีปากถูกบดเบียดเร่าร้อนรุนแรง เนิ่นนานไม่เปิดโอกาสให้ได้โมโหทั้งๆ ที่เหมือนถูกรังแกกับจูบรุนแรงนั้น แต่ผ่านไปไม่นานกลับเป็นรสจูบที่หวานในตอนท้ายจนร่างบางอ่อนระทวย เฉิงอู๋อ๋องถอนริมฝีปากออกช้าๆ ไม่วายขบเม้มริมฝีปากอย่างแสนเสียดาย“ใบหน้าอัปลักษณ์แต่รสจูบหวานยิ่งนัก”แลบลิ้นเลียริมฝีปากเหมือนกับเสียดายรสจูบเมื่อครู่“เพลี๊ยะ” มือบางสะบัดเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาเต็มแรงด้วยความรู้สึกทั้งอายทั้งโกรธที่ เฉิงอู๋อ๋องล่วงเกินต่อหน้าคนอื่น แล้วยังพูดจาถากถางให้เจ็บใจ“อายหรือ สามีภรรยาจะต้องอายใคร หรือว่ากลัวว่าปาหวางอ๋องจะถอดใจ รู้ไว้ด้วยต่อไปข้าจะทำยิ่งกว่านี้ หากปาหวางอ๋องยังมาที่นี่ อีกอย่างเจ้าปาหยางอ๋องนั่นจะได้เลิกคาดหวังในตัวเจ้าเสียที เห็นหรือไม่ว่าข้าเหนือกว่าเขาจะอุ่นเตียงหรือจะกอดจูบเจ้าเมื่อไหร่ก็ได้”“ข้าจะหย่ากับท่านเสีย”ดวงตาคมลุกโชนเหมือนเปลวไฟลากร่างบาง
ก่อนหน้านั้น“ในวันที่ดอกไม้เบ่งบานนางจึงจะพบความสุข”“ท่านเซียน ทำไม นางจะต้องรอให้ถึงเวลานั้น เพียงแค่เปิดเผยใบหน้าของนางเสียก็พร้อมที่จะมีบุรุษมากมายยอมสยบให้นางด้วยใบหน้างดงามของนางหากใครได้พบเห็นเกรงว่าไม่อาจไม่รัก”“นางเพียงแค่ต้องการพิสูจน์ รอคอยใครสักคนที่ไม่ได้รักนางเพียงรูปโฉม ด้วยนางงดงามเพียงนี้ จะหาคนที่หลงรูปนางนั้นไม่ยากแต่คนที่พร้อมจะปกป้องนางไม่ว่านางจะอัปลักษณ์เพียงใด นั่นย่อมหาได้ไม่ง่ายนัก”ป้าเป่ยพยักหน้าขึ้นลงเช้าสดใส“เหว่ยจื่อหยวนถวายพระพรฝ่าบาท ฝ่าบาทให้ตามเหว่ยจื่อหยวน”“จื่อหยวน ดีเลยข้ามีเรื่องกลัดกลุ้มยิ่งนัก”“จื่อหยวนมานี่หวังว่าจะช่วยบรรเทาความกลัดกลุ้ม”“หลายคืนมานี้ ข้าไม่เคยหลับตาลง ยามหลับตาลงครั้งใดเห็นแต่ใบหน้าของอ้ายจิงวนเวียนล่องลอยจนต้องสะดุ้งตื่นลืมตา”“ฝ่าบาทนางตายไปแล้ว ฝ่าบาทควรเลิกโทษตัวเองเสียที”“ข้า เป็นคนเดียวที่ควรจะอยู่ข้างกายนางในวันนั้น แต่ข้ากลับไม่ได้เห็นแม้ใบหน้านางในวาระสุดท้าย”“อ้ายจิงยังภักดีต่อฝ่าบาทเสมอมา แต่ไหนแต่ไรฝ่าบาทไม่เคยสนใจเรื่องนี้ มาเวลานี้เช่นไรจึงหวนย้อนกลับไปคิดถึงนาง”“เมื่อวาน เจิ้งอ้ายฉิงมาที่นี่ ใบหน้าขอ
จวนปาหวางอ๋อง“ปาหวางอ๋องถวายพระพรฮองเฮา”“ได้ความว่าอย่างไรปาหวางอ๋อง”“หาของสำคัญในจวนอ๋องเฉิงอู๋ยากยิ่ง อีกทั้งเฉิงอู๋อ๋องรัดกุมรอบคอบไม่ทิ้งหลักฐานร่องรอย”“หึหึ สมกับเป็นเฉิงอู๋อ๋อง เดิมข้าตั้งใจจะเล่นงานเขา หลายปีที่เลี้ยงดูกันมาคาดหวังว่าเขาจะเห็นข้าเหมือนมารดา แต่สองสามปีให้หลังกับรู้สึกว่าเขาตีตัวออกห่าง คนของบิดาข้าที่ถูกส่งไปสอดแนมก็ถูกเฉิงอู๋อ๋องฆ่าตายโทษฐานยักยอกเงินเบี้ยหวัดของเหล่าทหารชั้นต่ำ ความจริงหากเขาจะเห็นแก่ข้า หลับหูหลับตาไปเสียบ้างก็ไม่ทำให้เดือดร้อนแต่นี่แม้จะรู้ว่าเป็นคนของท่านพ่อบิดาข้าเขากลับไม่ละเว้น”“ฮองเฮาเฉิงอู๋อ๋องฉลาดหลักแหลม เดิมเป็นเขาที่ฝ่าบาทวางใจ ในเมื่อฮองเฮาเองเคยสนับสนุนเขามาก่อน เช่นไรจึงไม่พูดเรื่องนี้กับฝ่าบาทคนอกตัญญูไม่เหมาะจะส่งเสริม ฝ่าบาทอาจเปลี่ยนด้วยแต่ไหนแต่ไรมาฝ่าบาทเชื่อในคำพูดของฮองเฮามาตลอด”“ข้าได้ยินว่าหลายวันมานี้ ปาหวางอ๋องแวะเวียน พบหน้าชายาอัปลักษณ์ของเฉิงอู๋อ๋องอย่าบอกนะว่าที่พูดแบบนี้จงใจยืมมือข้ากำจัดเฉิงอู๋อ๋อง”“ข้า ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกพิเศษกับเจิ้งอ้ายฉิงทั้งๆ ที่นางมีใบหน้าอัปลักษณ์หรืออาจเป็น
“เมื่อไหร่จะเปิดเผยใบหน้าได้เสียที”บ่นพึมพำเบาๆ วางแผ่นหนังสำหรับแปลงโฉมลงข้างหมอน เอนกายลงบนแท่นนอนทิ้งตัวลงนอนนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ ตงเกาเองก็ยังเอนกายพิงต้นไม้ใหญ่ คอยอารักขา“ตุ๊บ”ตงเกาผงกศีรษะมองไปยังต้นเสียงร่างของใครบางคน กำลังจะเร้นกายเข้าไปในห้องของเจิ้งอ้ายฉิงกระบี่ในมือถูกนำมากำไว้ในท่าเตรียมพร้อมพุ่งตัวตามเข้าไปด้านใน ชักกระบี่ออกจากฝักอย่างรวดเร็ว เห็นเพียงเงาตะคุ่มพุ่งตรงไปยังแท่นนอน รื้อค้นบางอย่าง“เจ้าเป็นใคร” คนผู้นั้นยกกระบี่ขึ้นมากางกั้นไว้ที่ตรงหน้าเสียงคมกระบี่ปะทะกันดังลั่น อ้ายฉิงผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ“มีคนร้าย มีคนร้าย”ตงเกาส่งเสียงตะโกนให้องครักษ์ของจวนอ๋องเตรียมรับมือ ตั้งใจจะตามคนร้ายไปทว่ากลับเป็นห่วงอ้ายฉิงกลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บ สะบัดมือให้เปลวไฟในห้องสว่างไสว เจิ้งอ้ายฉิงคว้ามือไปข้างกายตั้งใจหยิบแผ่นหนังแปลงโฉม ทว่าข้างหมอนกับว่างเปล่า ไม่ทันแล้วตงเกายืนจ้องใบหน้างดงามตะลึงตาค้าง ทั้งตกใจและประหลาดใจที่เห็นใบหน้าของอ้ายฉิง“พระ พระชายาทะทะ..ท่าน”ละล่ำละลัก มือไม่พันกันวุ่นวายด้วยหญิงงามปรากฏกายตรงหน้าใครบ้างที่พบหน้าเจิ้งอ้ายฉิงแล้วจะไม่สะทกสะท้าน
"ท่านสัญญากับข้าแล้วท่านองครักษ์ว่าจะช่วยข้าปิดบังเรื่องนี้""ปิดบัง ท่านคิดดูไม่สู้บอกความจริงไปเสียง่ายดายกว่าปิดบังท่านอ๋องที่ฉลาดหลักแหลมเป็นเรื่องยากยิ่ง บางทีข้าเริ่มจะคิดว่า ท่านอ๋องรู้ความจริงแล้วก็ได้ จึง..หวงแหนท่านยิ่งนักแต่ท่านอ๋องแสร้งโง่งม""ช่างเขา ข้าแค่ให้ท่านองครักษ์ไปที่บ้านตระกูลเหว่ยพบป้าเป่ยมอบสิ่งนี้ให้นางแล้วป้าเป่ยจะจัดการทุกอย่างให้เอง""ต้องไปเลยหรือ""ก่อนฟ้าสาง ตอนนี้ข้าไม่ให้เจียวหยูเข้ามาเกรงว่าจะปิดนางไม่ได้ ท่านรีบไปรีบมาข้ารอด้วยความหวัง"ตงเกาประสานมือจากไปก่อนออกจากจวนอ๋องเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้"ท่านอ๋องตงเกามีเรื่องสำคัญ"เฉิงอู๋อ๋องลุกขึ้นจากแท่นนอน เปิดประตูออกไปฟางหลินตามไปเกาะแขนไว้แน่นดังว่าจะรั้งเฉิงอู๋อ๋องไว้ได้หากเขาจะไป"มีเรื่องสำคัญใดกัน""นายหญิงชายารองมีอาการไข้และไอ ตงเกาจึงแวะมาบอก""แล้วเช่นไร"ฟางหลินถามขึ้น"อืมมม ตงเกาแค่กลัวว่าท่านอ๋องจะไปพบนายหญิงชายารองแล้วจะพลอยไม่สบายไปอีกคน""อืมมมข้าเข้าใจแล้ว แล้วเจ้ากำลังจะไปไหนกัน"ในใจเริ่มร้อนรุ่มตงเกาดำเนินแผนการผิดไปแล้วคิดว่าเฉิงอู๋อ๋องไม่แยแสเรื่องที่ เจิ้งอ้ายฉิงป่วยไข้หรือไร
“ข้าเป็นถึงอ๋องไร้พ่ายหวัดทำอะไรข้าไม่ได้”กอดรวบเอวบางดึงเข้ากลางลำตัว อ้ายฉิงหน้าแดงก่ำอายจนแทบจะหลับตาแต่ไหนแต่ไรเคยต้องมือชายหรือไรเล่า“นอนได้แล้วเจ้าองครักษ์นั่นไปปลุกข้าแต่รุ่งสางยังนอนไม่พอ พูดให้ข้าห่วงใยเจ้าเห็นหรือไม่ข้าต้องรีบมาอดหลับอดนอนเจ้าต้องทำคุณไถ่โทษที่ทำข้านอนไม่พอตามใจข้าเสียหน่อยให้ข้านอนกอดหลับใหลเสียให้พอ”เอาคางเกยที่ไหล่บางสูดกลิ่นหอมจากเรือนผมและกายสาวหลับใหลลงได้ในไม่ช้า ตงเกาคาดการณ์ผิดมหันต์ตำหนักชิงหนิงกง“ฮองเฮาข้าน้อยพบสิ่งนี้ในห้องของนาง”วางแผ่นหนังลงบนโต๊ะเบื้องหน้าฮองเฮา“จริงอย่างที่คิด นางหลบซ่อนปิดบังใบหน้า จงใจให้หลายคนเอ็นดูสงสารซึ่งข้าก็เกือบหลงกลนาง”“ฮองเฮาไม่แน่ว่าเฉิงอู๋อ๋องจะรู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่านางต้องอาศัยตงเกาอารักขาทีเดียวเชียว ข้าเองหวั่นใจว่าเฉิงอู๋อ๋องจะรักและปกป้องนางเพราะหลงใหลใบหน้างดงามของนางเข้าแล้ว”“นางตั้งใจเล่นตลกต้องมีสิ่งใดซ่อนเร้นอีกแน่ มารดาของนางอ้ายจิง ก็ไม่ต่างกันมักจะทำตัวอ่อนหวานน่าเอ็นดูจนฝ่าบาทหลงใหลสุดท้ายก็ยอมถวายตัว ข้าจะกราบทูลฝ่าบาทเรื่องประทานงานแต่งงานให้กับจิวอันเสียจริงดี เดิมข้าคิดว่าเฉิงอู๋อ๋อ
วังหลวง“ฝ่าบาท งานชมดอกเหมยแดง ปีนี้อ้ายหลิวรับเป็นแม่งานเช่นเดิม ดอกเหมยแดงปีนี้เบ่งบาน มากกว่าปีก่อนๆ งานชมดอกเหมยบานก็คงต้องจัดให้ยิ่งใหญ่”หวงฉีจิ้งกุมมืออ้ายหลิวไว้“เจ้า รับเป็นแม่งาน จะเหนื่อยหนักเกินไปหรือไม่”“ฝ่าบาทปีนี้จิวอัน 19จิวฮัว 17ข้ามีคนคอยแบ่งเบาแล้ว”“เฮ้อเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน”คิดไปถึง อ้ายจิงที่จากไปถึง18ปีแล้วเช่นกัน“ฝ่าบาทมีหลายเรื่องที่ผ่านเข้ามาแต่มีเรื่องหนึ่งที่อ้ายหลิว เฝ้าครุ่นคิดมาตลอด”“เรื่องใดกัน”“อ้ายฉิง เจิ้งอ้ายฉิงข้าให้นางแต่งกับเฉิงอู๋อ๋อง หลายวันมานี้ได้ยินผู้คนในวังหลวงล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเฉิงอู๋อ๋องไม่สู้ชอบใจนักเรื่องชายาอัปลักษณ์ของเขา”“อืม เจ้ากับข้าคงได้ยินมาต่างกันสองวันก่อนเฉิงอู๋อ๋องเพิ่งจะมาขอให้ข้า เป็นพยานในคำสัญญาว่าจะไม่มีทางหย่ากับชายารอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” อ้ายหลิวยิ้มอ่อนหวานทว่าภายใน แทบกระอักเลือด เฉิงอู๋อ๋องนับว่าโดดเด่นไม่น้อยจะเหนือกว่าปาหวางอ๋องด้วยซ้ำไปเรื่องที่คิดไว้จึงไม่เอ่ยออกมา แต่คิดหาทางหนีที่ไล่ไว้“นับว่าเป็นเรื่องดี อ้ายหลิวห่วงหลานไม่น้อยกลัวว่าจะถูกรังเกียจนางน่าสงสาร ใบหน้าอัปลักษณ์หากเฉิ