“แต่งกับหญิงอัปลักษณ์ใบหน้าของนางน่าเกลียดน่ากลัวจนคนเห็นเป็นลมล้มพับไปก็หลายคนแล้ว ท่านอ๋องฝ่าบาททรงคิดอะไรอยู่”
ขันทีเสี่ยวอูบ่นงึมงำด้วยเห็นใจชินหวางอ๋องที่บทจะได้แต่งงานก็ต้องแต่งกับหญิงที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ที่สุดในสามแคว้น
“ก็ทรงคิดว่าต้องการยัดเยียดบุตรีของบ้านเสิ่นให้กับข้าเพียงเพราะโปรดปรานใต้เท้าเสิ่นกลัวว่าบุตรีเพียงคนเดียวจะหาสามีไม่ได้” น้ำเสียงหยามเหยียดยิ่งนัก
“ท่านอ๋องท่านเองก็รูปงามอีกทั้งยังมีคุณหนูตระกูลหลางผู้งดงามทำไมไม่ปฏิเสธไปแต่งนางในฐานะเมียเอก แล้วคนที่รักแต่งเมียรองท่านอ๋องท่านไม่สงสารคุณหนูบ้านหยางหรือไร”
“ข้าให้หญิงอัปลักษณ์นั่นได้แค่ตำแหน่งเมียรองเท่านั้นข้าจะยื่นคำขาดกับฝ่าบาทเรื่องที่จะแต่งนางในฐานะเมียรอง” สีหน้าบึ้งตึงรบชนะกลับมาตั้งใจแต่งฟางหราน แต่กลับถูกฝ่าบาทประทานงานแต่งงานกับบุตรีบ้านเสิ่น
บ้านเสิ่น
“คุณหนูเจ้าขา จะต้องแต่งจริงๆ เจ้าค่ะ”
“ก็ดีแล้ว เขายอมแต่งกับข้าด้วยหรือ ในเมื่อชินหวางอ๋องรูปงามที่สุดในเจ็ดคาบสมุทร เขายอมแต่กับคนอัปลักษณ์เช่นข้าหรือ” น้ำเรียบเฉยหากแต่เจือไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“เจ้าค่ะแต่คุณหนูจะต้องแต่งในฐานะชายารอง แต่อย่าน้อยใจไปเลยเจ้าค่ะฝ่าบาททรงมีเงื่อนไขว่าจะแต่งชายเอกได้ก็ต่อเมื่อคุณหนูตั้งครรภ์” ซีหรูยิ้มเศร้าๆ
“ตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ เขาจะอยากร่วมแท่นนอนกับหญิงอัปลักษณ์เช่นข้าหรือฝ่าบาททรงยื่นเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้แล้วชินหวางอ๋องยินยอมด้วยหรือ”
“ไม่ยินยอมเจ้าค่ะ หากว่าไม่ยินยอมก็จะไม่ได้แต่งกับชายาเอกที่หมายปอง คงจะเพราะอยากแต่งชายาเอกมากแน่ๆ เขาว่าเป็นคุณหนูผู้งดงามของตระกูลหยาง” เสิ่นซีหรูหลับตาลงช้าๆ นั่นยิ่งทำให้ชินกวานอ๋องเกลียดชังเสิ่นซีหรูเงื่อนไขแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างมาลงที่ซีหรูอย่างเลี่ยงไม่ได้
สามวันผ่านไป
งานจัดขึ้นยิ่งใหญ่ราวกับงานแต่งตั้งฮองเฮาก็ชินหวางอ๋องเป็นถึงอ๋องไร้พ่ายที่ทำศึกสงครามรบชนะสามแคว้นจึงปูนบำเหน็จเป็นหญิงอัปลักษณ์ที่มีบิดาเป็นที่โปรดปราน
ใต้เท้าเสิ่นกวงหลิวยืนนิ่งมองบุตรีคนเดียวที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องหอ ชินหวางอ๋องยืนนิ่งอยู่ด้านหน้า
“หวังว่าท่านอ๋องจะเมตตานาง” พูดได้เพียงเท่านั้นรอยยิ้มหยันจากริมฝีปากหล่อเหลาก็ยกยิ้มตรงหน้าของเสิ่นกงหลิว กระนั้นบิดาของซีหรูก็แค่เพียงยิ้มเศร้าๆ รู้ทั้งรู้ว่าผลจะต้องออกมาแบบนี้คนหนึ่งหล่อเลหาราวเทพบุตร แต่บุตตรีซีหรู นั้นอัปลักษณ์เหลือเกิน
“ข้ารับรองจะเมตตานางเหมือนที่ฝ่าบาท ทรงกดดันให้เป็นเช่นนั้น” บุรุษไร้ใจปากคอเลาะร้ายเหลือเกิน
เสิ่นกงหลิวได้แต่ประสานมือนอบน้อมมีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่กดดันชินหวางได้อย่างที่ชินหวางบอก
เสิ่นซีหรูนั่งนิ่งบนแท่นนอนผ่อนลมหายใจเข้าออกแม้จะคิดว่า..เขาไม่มีทางเข้าหอกับซีหรูแน่แต่อดตื่นเต้นเสียไม่ได้นึกวาดภาพใบหน้าที่หยิ่งยโสกับแววตาหยามเหยียดของชินหวางอ๋อง
สาวใช้ที่เดินเข้ามาท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าแม้กระทั่งมองใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรู ก็มันน่าเกลียดน่ากลัวเพียงนั้นใครกันจะอยากจ้องมอง
“พระชายาเจ้าขา ท่านอ๋องให้ข้าน้อยมาบอกพระชายารองว่าไม่ต้องรอเจ้าค่ะนอนได้เลย หากอยากจะตั้งครรภ์ก็ให้รอไปก่อนวันนี้ท่านอ๋องทรงออกไปปลอบขวัญเอ่อ…เอ่อ คุณหนูตระกูลหยาง” คำพูดที่ฝากมาบอกช่างหยามเหยียดคิดว่าซีหรูอยากจะแต่งกับเขาหรือไร
“ขอบใจเจ้า” สาวใช้ผงะกับเสียงหวานปานน้ำผึ้งผิดกับหน้าตา
ซีหรูยิ้มเศร้าๆ คนอะไรปากร้ายเพียงนี้แล้วยังทำอะไรไม่เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยาแม้แต่น้อยใครกันอยากจะตั้งครรภ์หากตั้งครรภ์เขาก็แต่งชายาเอกได้เร็วขึ้น ซีหรูดึงผ้าคลุมหน้าออกด้วยมือตัวเองไม่มีการเปิดผ้าคลุมหน้าไม่มีแววตาตื่นเต้นเขินอาย
เดินไปหย่อนกายลงในอ่างไม้ที่สาวใช้ผสมน้ำอุ่นให้เรียบร้อยแล้ว สาวใช้คนเดิมเดินมาช่วยซีหรูปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวหนักหนาสีแดงออกจากร่างกายบอบบาง
“เจ้ามีนามว่าอย่างไร”
“ข้าน้อย เสี่ยวไป๋เจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอกเสี่ยวไป๋ข้าจัดการเองได้เจ้าไปเถอะ”
“เจ้าค่ะ” เหลือบตามองแผ่นหลังขาวผิวเนื้อเนียนละเอียด เบื้องหลังที่งดงามจนแทบหยุดหายใจ ผมยาวสลวยละแผ่นหลังผมสีเข้มตัดกับผิวขาวเนียนเสี่ยวไป๋กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ทำไมร่างเปลือยของหญิงอัปลักษณ์จึงงดงามเพียงนี้
เสี่ยวไป๋ถอนหายใจสวรรค์ใยกลั่นแกล้งผิวเนื้อขาวเนียนของวัยสาวกับน้ำเสียงหวานหยดนั้นไม่อาจทดแทนใบหน้าที่อัปลักษณ์
ซีหรูถอนหายใจเหนื่อยกับพิธีการมาทั้งวัน พอได้พักรู้สึกสบายอย่างที่สุดอาจจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะแปลกที่แต่วันนี้เหนื่อยมากแล้วเรื่องนอนไม่เป็นปัญหา
ทิ้งตัวลงนอนในอาภรณ์บางเบาหลับใหลไปง่ายดาย
่จนฟ้าใกล้จะสางร่างสูงของชินหวางอ๋องเดินโซซัดโซเซเข้ามา ทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนข้างๆ ซีหรู
มือข้างหนึ่งดึงสายรัดเอวของตัวเองออกโยนทิ้งกลิ่นสุราคละคลุ้งเมามายหรอกหรือไม่เช่นนั้นคงไม่มาถึงนี่มืออีกข้างไขว่คว้า
“อะ จะทำอะไร” อีกคนกลับคว้าเอวบางไว้ เผลอสูดดมกลิ่นหอมของคนข้างกายอย่างลืมตัว “ข้าน่ะอยากให้เจ้าท้องแล้วนี่ ข้าจะได้แต่งกับฟางหลานเสียที นางร้องจนตาบวม ข้าไม่อยากให้นางเสียใจไปมากกว่านี้” ซีหรูกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ ผลักร่างสูงที่เมามายลงไปบนแท่นนอนลุกขึ้นยืน แล้วคว้าผ้าห่มเดินออกจากตรงนั้นแต่อีกคนกับคว้าร่างบางไว้ซีหรูสะบัดมือไฟในห้องก็สว่างไสว ชินหวางอ๋องลุกขึ้นยืนจ้องใบหน้าของซีหรูนิ่งสร่างเมาในทันที “ใบหน้าเจ้าอัปลักษณ์สิ้นดี” สะบัดชายเสื้อเดินออกจากห้องไป ซีหรูยิ้มทิ้งตัวลงบนแท่นนอนแม้จะเจ็บปวดแต่ไม่มีน้ำตาเช้าสดใส “ไทเฮาเสด็จจจจจจจจจ” ร่างท้วมเดินมาพร้อมกันขันทีและนางสนองพระโอฐและนางกำนัลสองสามคนถือวิสาสะเดินเข้าในห้องบรรทมของชินหวางอ๋องกับซีหรูซีหรูที่รีบเอาผ้าแพรพันใบหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าอัปลักษณ์เสีย รีบย่อกายลงอ่อนหวานตรงหน้าไทเฮา “ซีหรูถวายพระพรไทเฮา” “หือเสียงดังกระดิ่งทอง ไพเราะเสียจริง” “พวกเจ้าช้าอยู่ไย” ซีหรูตกใจไม่น้อยนี่เพิ่งจะยามเฉิน (07.00น-09.00น) ทำไมไทเฮาถึงมาถึงจวนอ๋องได้รวดเร็วนัก นางกำนัลรีบมาไปที่แท่นนอนรื้อค้นราวกับกำลังหาสิ่งสำคัญที่ทำหล่นหาย “เจ
“เจ้ากล้าหรือ” “แน่นอนในเมื่อคิดว่าข้าอยากแต่งกับท่านสิ่งเดียวที่ข้าจะทำเพื่อลบล้างคำพูดที่ว่าอยากจะได้ท่านเป็นสามีจนตัวสั่น ข้าก็ควรหย่ากับท่านเสีย เพราะชินหวางอ๋องผู้สูงส่งทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติข้าแม้แต่น้อย” “เจ้ากล้าดีอย่างไร ข้าเสียอีกควรขอหย่าจากเจ้า หญิงอัปลักษณ์เช่นเจ้ายังกล้าขอหย่าสามี หย่าแล้วคิดว่าใครเขาจะอยากรับเจ้าเป็นภรรยาต่อจากข้าทั้งหม้ายทั้ง…อัปลักษณ์” โมโหอย่างที่สุดก็ควรเป็นเขาสินะที่ต้องขอหย่าจากนางเขายังไม่กล้าทูลฝ่าบาทรื่องนี้หากเขากล้าฝืนบัญชาฝ่าบาทมิสู้ไม่ขอแต่งนางตั้งแต่แรกแล้วหรือ “ท่านไม่ต้องห่วงดีไหมเรื่องแบบนี้ ข้าแบกรับเพียงลำพังยินดีที่จะต้องทนให้ท่านพูดว่าข้าตั้งใจให้ท่านพ่อกดดันฝ่าบาทให้ประทานอนุญาตข้าแต่งกับท่าน” ชินหวางอ๋องกัดฟันจนเป็นสันนูน สะบัดชายเสื้อจากไปตำหนักไทเฮา “ชิงหวานอ๋องทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติชายารองแม้แต่น้อยข้าอยากจะลดทอนความหยิ่งยโสของตระกูลหยางลง จึงไม่ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับหยางฟางหรานคนนั้นแต่ดูสิ่งที่เขาทำ ไม่แม้แต่จะแตะตัวชายารองผู้น่าสงสาร” “ไทเฮาเพฮะนาง…เอ่อชายารองของชินหวางอ๋องมีใบหน้า ไม่พึงประสงค์ชินหวางอ๋องก็บุรุษก็ย่
เสี่ยวไป๋ดึงมือออกจากมือซีหรู รีบเดินออกจากห้องสงสารซีหรูไม่น้อย ได้แต่ชะแง้คอมองเข้าไปข้างในปกติแล้วท่านอ๋องใจดีทำไมใจร้ายกับพระชายารองจัง “เสี่ยวไป๋ปิดประตู” เสี่ยวไป๋รีบปิดประตูตามคำสั่งซีหรูหน้าเสีย “ไปเปลี่ยนอาภรณ์เสียข้าจะรอที่นี่ เจ้าจะต้องไปยกน้ำชากับข้าที่ตำหนักชิงหนิงกง” ซีหรูยังนั่งนิ่ง ชินหวางอ๋องเดินข้าไปคว้าข้อมือให้ลุกขึ้นยืน “ปล่อยนะ อย่ามาทำแบบนี้มีสิทธิ์อะไร” “ข้าคือสามี ไปสับเปลี่ยนอาภรณ์เสียไม่อย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนให้เอง” “ไม่” “เดี๋ยวนี้จะต้องไปเดี๋ยวนี้ฮองเฮาดื่มชายามบ่าย หากช้ากว่านี้จะถูกตำหนิเรื่องเวลาเอาได้” “นั่นมันเรื่องของท่านไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเสียหน่อยจะถูกตำหนิก็เรื่องของท่าน” ชิงกวานอ๋องดึงสายรัดเอวของซีหรูออกอย่างรวดเร็ว สอดมือเข้าไปโอบเอวบางดึงอาภรณ์ออกอย่างคนที่ช่ำชอง “ปะปล่อยข้านะ” กลิ่นกายหอมหวนจนเผลอสูดดมเข้าไปเต็มเปาอีกครั้ง “หอมจัง” ดังฝันล่องลอยกลิ่นหอมนั้นติดอยุ่ที่ปลายจมูกทำให้อยากสูดดม “ปล่อยนะ” ซีหรูผลักร่างสูงให้ถอยห่างไม่ทันระวังชิงหวานอ๋องกำลังจะล้มลงไปกับพื้นดึงเอาร่างเล็กของซีหรูล้มลงไปทับเขาอย่างจังซีหรูพยายามลุกขึ้น
เกี้ยวถูกหามถึงหน้าวังหลวง ชินหวางอ๋องลงจากเกี้ยว อย่างรวดเร็วไม่สนใจจะรับซีหรูลงจากเกี้ยวด้วยแม้แต่น้อย ซีหรูก้าวลงจากเกี้ยวช้าๆ อย่างระมัดระวังตัวเพราะยังเจ็บจากที่ล้มเมื่อครู่ กลัวว่าเท้าจะพลิกด้วยซ้ำไป “ชินหวางอ๋อง อ๋องน้อยตระกูลชินมาแล้วหรือ อ้าว แล้วเหตุใดไม่รับชายารองลงจากเกี้ยว” เสียงราวประกาศิตดังมาจากข้างหลังฮ่องเต้วัยกลางคนยืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสองโดยที่ไม่ได้ให้ขันทีขานเวลาที่เสด็จมาถึง “ตู้เล่อ ไปรับชายารองของชินหวางอ๋องระวังจะตกลงมาจากเกี้ยว” ตู้เล่อที่หลฃาอเหลาหนุ่มแน่นอต่รั้งตำแหน่ง หัวหน้าองครักษ์หรือองครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ ชินเตอหลางรีบส่งมือให้ซีหรูจับ “ชายาอ๋องระวังหน่อย” น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่สุด ชินหวางอ๋องหันมาประสานมือตรงหน้าชินเตอหลาง “ชินหวางอ๋องถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี” ซีหรูย่อกายลงตรงหน้าชินเตอหลาง เหลือบตามองตู้เล่อที่องอาจหล่อเหลาไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือรังเกียจ ใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรูแม้แต่น้อยแล้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่สุด นี่เขาหงุดหงิดเรื่องอะไรก้คงเรื่องที่หมอนั่น ทำท่าทีไม่ได้รัเกียจซีหรูเหมือนเป็นการตบหน้าเขาชัดๆ “ขอบคุณท่า
“เจ้าก็พูดเสียจนชินหวางอ๋องเป็นตัวร้ายความจริงแล้วชินหวางอ๋องเป็นคนที่จิตใจดีเพียงแค่เป็นข้าที่กดดันมากไปใช่ไหม แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่ข้ามอบให้มันดีที่สุด” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปกันดีกว่า ปล่อยฝ่าบาทกับท่านอ๋องคุยกันไปเราสองคนไปเลือกหยิบสิ่งของที่เจ้าถูกใจดีไหม ของกำนัลจากต่างแคว้นและของกำนัลจากฝ่าบาทมากมาย ข้ายินดีให้เจ้าเลือกหยิบเอาตามใจ” ดึงมือซีหรูเดินตามเข้าไปในตำหนักชิงหนิงกงชินเตอหลางเปลี่ยนท่าทีจากยิ้มแย้มเป็นเคร่งขรึมทันที “มาถึงเรื่องของเรา” “พ่ะย่ะค่ะ” “ใต้เท้าหยาง กำลังจะทำเรื่องที่ผิดกับข้า เจ้าจะวางเฉยได้ไหม” “ฝ่าบาท บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดา” ชินหวางอ๋องตัดพ้อ “บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดาได้หรือ ใต้เท้าหยางกล้าให้การช่วยเหลือ เชวียเต๋ออ๋องส่งเสบียงและอาวุธอ้างว่าเพื่อเงิน แต่ที่ข้ารู้หยางซูซินคนนี้ ตั้งใจยกบุตตรีให้กับเชวียอ๋อง” “เช่นนั้นฝ่าบาทก็ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับบุตรีของใต้เท้าหยางเสียจึงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น” ชินเตอหลางฮ่องเต้ถอนหายใจยาวค่ำคืนเหน็บหนาวซีหรูนอนขดตัวในผ้าห่มหนา ข่มตาหลับไหลคืนนี้คืนที่สองแล้วเขาก็ยังไม่แวะมา ถอนหายใจโล่งอกเสียมากกว่าชินชากั
“เจ้าก็พูดเสียจนชินหวางอ๋องเป็นตัวร้ายความจริงแล้วชินหวางอ๋องเป็นคนที่จิตใจดีเพียงแค่เป็นข้าที่กดดันมากไปใช่ไหม แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่ข้ามอบให้มันดีที่สุด” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปกันดีกว่า ปล่อยฝ่าบาทกับท่านอ๋องคุยกันไปเราสองคนไปเลือกหยิบสิ่งของที่เจ้าถูกใจดีไหม ของกำนัลจากต่างแคว้นและของกำนัลจากฝ่าบาทมากมาย ข้ายินดีให้เจ้าเลือกหยิบเอาตามใจ” ดึงมือซีหรูเดินตามเข้าไปในตำหนักชิงหนิงกงชินเตอหลางเปลี่ยนท่าทีจากยิ้มแย้มเป็นเคร่งขรึมทันที “มาถึงเรื่องของเรา” “พ่ะย่ะค่ะ” “ใต้เท้าหยาง กำลังจะทำเรื่องที่ผิดกับข้า เจ้าจะวางเฉยได้ไหม” “ฝ่าบาท บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดา” ชินหวางอ๋องตัดพ้อ “บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดาได้หรือ ใต้เท้าหยางกล้าให้การช่วยเหลือ เชวียเต๋ออ๋องส่งเสบียงและอาวุธอ้างว่าเพื่อเงิน แต่ที่ข้ารู้หยางซูซินคนนี้ ตั้งใจยกบุตตรีให้กับเชวียอ๋อง” “เช่นนั้นฝ่าบาทก็ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับบุตรีของใต้เท้าหยางเสียจึงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น” ชินเตอหลางฮ่องเต้ถอนหายใจยาวค่ำคืนเหน็บหนาวซีหรูนอนขดตัวในผ้าห่มหนา ข่มตาหลับไหลคืนนี้คืนที่สองแล้วเขาก็ยังไม่แวะมา ถอนหายใจโล่งอกเสียมากกว่าชินชากั
เกี้ยวถูกหามถึงหน้าวังหลวง ชินหวางอ๋องลงจากเกี้ยว อย่างรวดเร็วไม่สนใจจะรับซีหรูลงจากเกี้ยวด้วยแม้แต่น้อย ซีหรูก้าวลงจากเกี้ยวช้าๆ อย่างระมัดระวังตัวเพราะยังเจ็บจากที่ล้มเมื่อครู่ กลัวว่าเท้าจะพลิกด้วยซ้ำไป “ชินหวางอ๋อง อ๋องน้อยตระกูลชินมาแล้วหรือ อ้าว แล้วเหตุใดไม่รับชายารองลงจากเกี้ยว” เสียงราวประกาศิตดังมาจากข้างหลังฮ่องเต้วัยกลางคนยืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสองโดยที่ไม่ได้ให้ขันทีขานเวลาที่เสด็จมาถึง “ตู้เล่อ ไปรับชายารองของชินหวางอ๋องระวังจะตกลงมาจากเกี้ยว” ตู้เล่อที่หลฃาอเหลาหนุ่มแน่นอต่รั้งตำแหน่ง หัวหน้าองครักษ์หรือองครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ ชินเตอหลางรีบส่งมือให้ซีหรูจับ “ชายาอ๋องระวังหน่อย” น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่สุด ชินหวางอ๋องหันมาประสานมือตรงหน้าชินเตอหลาง “ชินหวางอ๋องถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี” ซีหรูย่อกายลงตรงหน้าชินเตอหลาง เหลือบตามองตู้เล่อที่องอาจหล่อเหลาไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือรังเกียจ ใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรูแม้แต่น้อยแล้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่สุด นี่เขาหงุดหงิดเรื่องอะไรก้คงเรื่องที่หมอนั่น ทำท่าทีไม่ได้รัเกียจซีหรูเหมือนเป็นการตบหน้าเขาชัดๆ “ขอบคุณท่า
เสี่ยวไป๋ดึงมือออกจากมือซีหรู รีบเดินออกจากห้องสงสารซีหรูไม่น้อย ได้แต่ชะแง้คอมองเข้าไปข้างในปกติแล้วท่านอ๋องใจดีทำไมใจร้ายกับพระชายารองจัง “เสี่ยวไป๋ปิดประตู” เสี่ยวไป๋รีบปิดประตูตามคำสั่งซีหรูหน้าเสีย “ไปเปลี่ยนอาภรณ์เสียข้าจะรอที่นี่ เจ้าจะต้องไปยกน้ำชากับข้าที่ตำหนักชิงหนิงกง” ซีหรูยังนั่งนิ่ง ชินหวางอ๋องเดินข้าไปคว้าข้อมือให้ลุกขึ้นยืน “ปล่อยนะ อย่ามาทำแบบนี้มีสิทธิ์อะไร” “ข้าคือสามี ไปสับเปลี่ยนอาภรณ์เสียไม่อย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนให้เอง” “ไม่” “เดี๋ยวนี้จะต้องไปเดี๋ยวนี้ฮองเฮาดื่มชายามบ่าย หากช้ากว่านี้จะถูกตำหนิเรื่องเวลาเอาได้” “นั่นมันเรื่องของท่านไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเสียหน่อยจะถูกตำหนิก็เรื่องของท่าน” ชิงกวานอ๋องดึงสายรัดเอวของซีหรูออกอย่างรวดเร็ว สอดมือเข้าไปโอบเอวบางดึงอาภรณ์ออกอย่างคนที่ช่ำชอง “ปะปล่อยข้านะ” กลิ่นกายหอมหวนจนเผลอสูดดมเข้าไปเต็มเปาอีกครั้ง “หอมจัง” ดังฝันล่องลอยกลิ่นหอมนั้นติดอยุ่ที่ปลายจมูกทำให้อยากสูดดม “ปล่อยนะ” ซีหรูผลักร่างสูงให้ถอยห่างไม่ทันระวังชิงหวานอ๋องกำลังจะล้มลงไปกับพื้นดึงเอาร่างเล็กของซีหรูล้มลงไปทับเขาอย่างจังซีหรูพยายามลุกขึ้น
“เจ้ากล้าหรือ” “แน่นอนในเมื่อคิดว่าข้าอยากแต่งกับท่านสิ่งเดียวที่ข้าจะทำเพื่อลบล้างคำพูดที่ว่าอยากจะได้ท่านเป็นสามีจนตัวสั่น ข้าก็ควรหย่ากับท่านเสีย เพราะชินหวางอ๋องผู้สูงส่งทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติข้าแม้แต่น้อย” “เจ้ากล้าดีอย่างไร ข้าเสียอีกควรขอหย่าจากเจ้า หญิงอัปลักษณ์เช่นเจ้ายังกล้าขอหย่าสามี หย่าแล้วคิดว่าใครเขาจะอยากรับเจ้าเป็นภรรยาต่อจากข้าทั้งหม้ายทั้ง…อัปลักษณ์” โมโหอย่างที่สุดก็ควรเป็นเขาสินะที่ต้องขอหย่าจากนางเขายังไม่กล้าทูลฝ่าบาทรื่องนี้หากเขากล้าฝืนบัญชาฝ่าบาทมิสู้ไม่ขอแต่งนางตั้งแต่แรกแล้วหรือ “ท่านไม่ต้องห่วงดีไหมเรื่องแบบนี้ ข้าแบกรับเพียงลำพังยินดีที่จะต้องทนให้ท่านพูดว่าข้าตั้งใจให้ท่านพ่อกดดันฝ่าบาทให้ประทานอนุญาตข้าแต่งกับท่าน” ชินหวางอ๋องกัดฟันจนเป็นสันนูน สะบัดชายเสื้อจากไปตำหนักไทเฮา “ชิงหวานอ๋องทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติชายารองแม้แต่น้อยข้าอยากจะลดทอนความหยิ่งยโสของตระกูลหยางลง จึงไม่ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับหยางฟางหรานคนนั้นแต่ดูสิ่งที่เขาทำ ไม่แม้แต่จะแตะตัวชายารองผู้น่าสงสาร” “ไทเฮาเพฮะนาง…เอ่อชายารองของชินหวางอ๋องมีใบหน้า ไม่พึงประสงค์ชินหวางอ๋องก็บุรุษก็ย่
“อะ จะทำอะไร” อีกคนกลับคว้าเอวบางไว้ เผลอสูดดมกลิ่นหอมของคนข้างกายอย่างลืมตัว “ข้าน่ะอยากให้เจ้าท้องแล้วนี่ ข้าจะได้แต่งกับฟางหลานเสียที นางร้องจนตาบวม ข้าไม่อยากให้นางเสียใจไปมากกว่านี้” ซีหรูกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ ผลักร่างสูงที่เมามายลงไปบนแท่นนอนลุกขึ้นยืน แล้วคว้าผ้าห่มเดินออกจากตรงนั้นแต่อีกคนกับคว้าร่างบางไว้ซีหรูสะบัดมือไฟในห้องก็สว่างไสว ชินหวางอ๋องลุกขึ้นยืนจ้องใบหน้าของซีหรูนิ่งสร่างเมาในทันที “ใบหน้าเจ้าอัปลักษณ์สิ้นดี” สะบัดชายเสื้อเดินออกจากห้องไป ซีหรูยิ้มทิ้งตัวลงบนแท่นนอนแม้จะเจ็บปวดแต่ไม่มีน้ำตาเช้าสดใส “ไทเฮาเสด็จจจจจจจจจ” ร่างท้วมเดินมาพร้อมกันขันทีและนางสนองพระโอฐและนางกำนัลสองสามคนถือวิสาสะเดินเข้าในห้องบรรทมของชินหวางอ๋องกับซีหรูซีหรูที่รีบเอาผ้าแพรพันใบหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าอัปลักษณ์เสีย รีบย่อกายลงอ่อนหวานตรงหน้าไทเฮา “ซีหรูถวายพระพรไทเฮา” “หือเสียงดังกระดิ่งทอง ไพเราะเสียจริง” “พวกเจ้าช้าอยู่ไย” ซีหรูตกใจไม่น้อยนี่เพิ่งจะยามเฉิน (07.00น-09.00น) ทำไมไทเฮาถึงมาถึงจวนอ๋องได้รวดเร็วนัก นางกำนัลรีบมาไปที่แท่นนอนรื้อค้นราวกับกำลังหาสิ่งสำคัญที่ทำหล่นหาย “เจ
“แต่งกับหญิงอัปลักษณ์ใบหน้าของนางน่าเกลียดน่ากลัวจนคนเห็นเป็นลมล้มพับไปก็หลายคนแล้ว ท่านอ๋องฝ่าบาททรงคิดอะไรอยู่” ขันทีเสี่ยวอูบ่นงึมงำด้วยเห็นใจชินหวางอ๋องที่บทจะได้แต่งงานก็ต้องแต่งกับหญิงที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ที่สุดในสามแคว้น “ก็ทรงคิดว่าต้องการยัดเยียดบุตรีของบ้านเสิ่นให้กับข้าเพียงเพราะโปรดปรานใต้เท้าเสิ่นกลัวว่าบุตรีเพียงคนเดียวจะหาสามีไม่ได้” น้ำเสียงหยามเหยียดยิ่งนัก “ท่านอ๋องท่านเองก็รูปงามอีกทั้งยังมีคุณหนูตระกูลหลางผู้งดงามทำไมไม่ปฏิเสธไปแต่งนางในฐานะเมียเอก แล้วคนที่รักแต่งเมียรองท่านอ๋องท่านไม่สงสารคุณหนูบ้านหยางหรือไร” “ข้าให้หญิงอัปลักษณ์นั่นได้แค่ตำแหน่งเมียรองเท่านั้นข้าจะยื่นคำขาดกับฝ่าบาทเรื่องที่จะแต่งนางในฐานะเมียรอง” สีหน้าบึ้งตึงรบชนะกลับมาตั้งใจแต่งฟางหราน แต่กลับถูกฝ่าบาทประทานงานแต่งงานกับบุตรีบ้านเสิ่นบ้านเสิ่น “คุณหนูเจ้าขา จะต้องแต่งจริงๆ เจ้าค่ะ” “ก็ดีแล้ว เขายอมแต่งกับข้าด้วยหรือ ในเมื่อชินหวางอ๋องรูปงามที่สุดในเจ็ดคาบสมุทร เขายอมแต่กับคนอัปลักษณ์เช่นข้าหรือ” น้ำเรียบเฉยหากแต่เจือไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “เจ้าค่ะแต่คุณหนูจะต้องแต่งในฐานะชายารอง