เสี่ยวไป๋ดึงมือออกจากมือซีหรู รีบเดินออกจากห้องสงสารซีหรูไม่น้อย ได้แต่ชะแง้คอมองเข้าไปข้างในปกติแล้วท่านอ๋องใจดีทำไมใจร้ายกับพระชายารองจัง
“เสี่ยวไป๋ปิดประตู” เสี่ยวไป๋รีบปิดประตูตามคำสั่งซีหรูหน้าเสีย
“ไปเปลี่ยนอาภรณ์เสียข้าจะรอที่นี่ เจ้าจะต้องไปยกน้ำชากับข้าที่ตำหนักชิงหนิงกง”
ซีหรูยังนั่งนิ่ง ชินหวางอ๋องเดินข้าไปคว้าข้อมือให้ลุกขึ้นยืน
“ปล่อยนะ อย่ามาทำแบบนี้มีสิทธิ์อะไร”
“ข้าคือสามี ไปสับเปลี่ยนอาภรณ์เสียไม่อย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนให้เอง”
“ไม่”“เดี๋ยวนี้จะต้องไปเดี๋ยวนี้ฮองเฮาดื่มชายามบ่าย หากช้ากว่านี้จะถูกตำหนิเรื่องเวลาเอาได้”
“นั่นมันเรื่องของท่านไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเสียหน่อยจะถูกตำหนิก็เรื่องของท่าน”
ชิงกวานอ๋องดึงสายรัดเอวของซีหรูออกอย่างรวดเร็ว สอดมือเข้าไปโอบเอวบางดึงอาภรณ์ออกอย่างคนที่ช่ำชอง
“ปะปล่อยข้านะ” กลิ่นกายหอมหวนจนเผลอสูดดมเข้าไปเต็มเปาอีกครั้ง
“หอมจัง” ดังฝันล่องลอยกลิ่นหอมนั้นติดอยุ่ที่ปลายจมูกทำให้อยากสูดดม
“ปล่อยนะ” ซีหรูผลักร่างสูงให้ถอยห่างไม่ทันระวังชิงหวานอ๋องกำลังจะล้มลงไปกับพื้นดึงเอาร่างเล็กของซีหรูล้มลงไปทับเขาอย่างจัง
ซีหรูพยายามลุกขึ้นแต่อีกคนรวบเอวกิ่วไว้ นั่นเพราะกลิ่นหอมจากผิวกายและเรือนผมตรึงชินหวางอ๋องไว้กับที่
ตาคมจ้องมองใบหน้าข้างที่ไม่มีผ้าแพรปิดบังไว้ตาสบตา ซีหรูรีบหลบตาเสีย
“ปล่อย จะไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันช่วงเวลาดื่มชาของฮองเฮา”
“ก็ลุกไปสิเจ้าก็ลุกไปเจ้าทับข้าอยู่” น้ำเสียงเย็นชาทั้งที่แอบสบตาเขา
ซีหรูลุกขึ้นจากการนอนทับไปบนร่างใหญ่
“ท่านออกไปเลยนะข้าจะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์” ไม่มองหน้าก้มหน้าหลบตา
“ไม่มีใครอยากจะดู ข้าน่ะจะหลับตาให้เจ้าเอง รีบเปลี่ยนอาภรณ์เสียห้ามบิดพลิ้วจะต้องไปยกน้ำชา ให้ทันเวลา”
ซีหรูรีบเดินไปที่ราวแขวนอาภรณ์สีสวยเลือกหยิบสีม่วงขาว มาทาบแล้วค่อยๆ ปลด อาภรณ์ลงไปกองกับพื้นตาจับจ้องไปที่ชินหวางอ๋องที่ยืนหันหลังหลับตานิ่ง
ร่างอ้อนแอ้นในอาภรณ์ชุดชั้นในบางเบารีบร้อนสวมอาภรณ์โดยเร็ว แต่ทว่า
“กรี๊ดดดดด” งูเขียวตัวเล็กตกลงมาจากอาภรณ์สีสวยซีหรูตกใจจนเผลอกรีดร้อง ชิงหวางอ๋องลืมตาหันหลังกลับมา
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ร่างอ้อนแอ้นทรวดทรงองค์เอวโค้งเว้าได้รูปงดงามจนไม่อาจบรรยายยืนตัวสั่นชี้มือไปที่เจ้างูเขียวที่กองอยู่บนอาภรณ์สีม่วงขาว
ชิงหวางอ๋องยืนตะลึงตาค้างก่อนจะถอนหายใจยาวเดินมาจับหัวเจ้างูตัวนั้นโยนออกนอกหน้าต่าง โดยเร็ว
“มันไปแล้ว” หยิบอาภรณ์ส่งให้ซีหรูโดยที่หลับตาสนิท เขาเบือนหน้าหนีร่างอ้อนแอ้นตรงหน้า
“ไม่ใส่แล้วไม่เอาตัวนี้แล้ว ข้าเกลียดงูที่สุด”
ชินหวางอ๋องถอนหายใจก้าวเดินออกจากประตูไป
“ข้ารอเจ้าที่เกี้ยว เสี่ยวไป๋ช่วยพระชายาแต่งตัวโดยเร็วที่สุด” เสี่ยวไป๋รีบก้าวเข้ามาในห้องอมยิ้มจ้องใบหน้าของซีหรู
“พระชายาของเสี่ยวไป๋ ก็มีเสน่ห์เหมือนกันนะเนี๊ยะท่านอ๋องงี้หน้าแดงออกไปเลย”
“เขาโกรธข้านะสิ” เสี่ยวไป๋เลิกคิ้ว
“โกรธเรื่องอะไรเจ้าค่ะ”
“โกรธเรื่องที่ข้ามาเป็นชายารองเขาอย่างไรเล่า” เสี่ยวไป๋ถอนหายใจยาว
“เจ้าค่ะโกรธก็โกรธแค่ที่พูดว่าพระชายาหลงใหลในตัวท่านอ๋องก็ผิดแล้วเจ้าค่ะ ท่านอ๋องอยู่มานมนานทำไมไม่ยอมแต่งชายาสักที พอมาถึงตอนนี้บอกว่าไม่รับแต่กลับมีคนอื่น รีรออะไรอยู่ทำไมไม่แต่งไปเสียตั้งแต่แรกแล้วจะมาโทษว่าเป็นความผิดของท่านมันไม่ถูก”
“เจ้าแอบฟังหรือ” ยิ้มบางๆ
เสี่ยวไป๋หัวเราะคิกคัก
“ท่านอ๋องปกติใจดีที่สุด ในจวนอ๋องทุกคนต่างรู้ดี ไม่มีทางตวาดใครด้วยซ้ำ แต่กับพระชายาทำไมใจร้ายจังแบบนี้เสี่ยวไป๋ไม่เข้าข้างหรอกเจ้าค่ะ”
“ช่างเขามาแต่งตัวให้ข้าดีกว่า” เสี่ยวไป๋ยิ้ม
“ต่อไปพระชายาจะต้อง รู้จักหลบหลีกนะเจ้าคะ” พูดด้วยความจริงใจจนซีหรูอดขำไม่ได้นี่กำลังไปรบหรือไร
หยิบปิ่นปักผมมาเสียบไปที่มวยผมของซีหรู
“วันก่อนเสี่ยวไป๋เห็นท่านอ๋องเลือกปิ่นสวยอันหนึ่งไม่ได้นำมามอบให้กับพระชายาตามธรรมเนียมหรือเจ้าคะ” ซีหรูส่ายหน้าไปมา
“ช่างเขาเถอะเรียบร้อยหรือยัง” ตัดบทไม่อยากรับรู้อะไรก็ไม่ได้มีผลอะไรไม่ได้รักเขาจะน้อยใจไปทำไมเขาเองก็ไมไ่ด้รักซีหรูทำไมจะต้องมอบปิ่นแทนใจด้วย
“เจ้าคะ” ซีหรูแค่ยิ้มบางๆ จะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่มีผลอะไรในเมื่อใบหน้าซีกซ้ายอัปลักษณ์เพียงนั้น แต่งหน้าได้ก้ไม่มีใครอยากจะมอง
เกี้ยวรออยู่หน้าจวนก่อนแล้ว ซีหรูก้าวขาเปิดม่านด้านหน้าเข้าไปในนั้น คนตัวสูงนั่งกอดอกหลับตาทำสีหน้าเบื่อหน่าย
“เคลื่อนเกี้ยว” ซีหรูยังไม่ทันได้นั่งหรือระวังตัว เซถลาล้มลงบนตักของชินหวางอ๋อง
มืออุ่นคว้าเอวบางใบหน้าชิดใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
ชินหวางอ๋องรีบผลักร่างเล็กลงไปข้างๆ
“ซีหรูล้มลงแทบเท้าเจ็บไปทั่วร่างค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นใบหน้าเหยเก
“ใจดำที่สุด” พึมพำเบาๆ
“เจ้าว่าอย่างไรนะ”
ซีหรูนิ่งไม่พูดว่าอย่างไร เปิดหน้าต่างเกี้ยวมองออกไปด้านนอกเสีย
“นี่ข้าถามว่าเจ้าพูดว่าอย่างไร”
“ข้าเกลียดท่าน” หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างไม่สนใจชนหวางอ๋องอีกเลย
เกี้ยวถูกหามถึงหน้าวังหลวง ชินหวางอ๋องลงจากเกี้ยว อย่างรวดเร็วไม่สนใจจะรับซีหรูลงจากเกี้ยวด้วยแม้แต่น้อย ซีหรูก้าวลงจากเกี้ยวช้าๆ อย่างระมัดระวังตัวเพราะยังเจ็บจากที่ล้มเมื่อครู่ กลัวว่าเท้าจะพลิกด้วยซ้ำไป “ชินหวางอ๋อง อ๋องน้อยตระกูลชินมาแล้วหรือ อ้าว แล้วเหตุใดไม่รับชายารองลงจากเกี้ยว” เสียงราวประกาศิตดังมาจากข้างหลังฮ่องเต้วัยกลางคนยืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสองโดยที่ไม่ได้ให้ขันทีขานเวลาที่เสด็จมาถึง “ตู้เล่อ ไปรับชายารองของชินหวางอ๋องระวังจะตกลงมาจากเกี้ยว” ตู้เล่อที่หลฃาอเหลาหนุ่มแน่นอต่รั้งตำแหน่ง หัวหน้าองครักษ์หรือองครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ ชินเตอหลางรีบส่งมือให้ซีหรูจับ “ชายาอ๋องระวังหน่อย” น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่สุด ชินหวางอ๋องหันมาประสานมือตรงหน้าชินเตอหลาง “ชินหวางอ๋องถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี” ซีหรูย่อกายลงตรงหน้าชินเตอหลาง เหลือบตามองตู้เล่อที่องอาจหล่อเหลาไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือรังเกียจ ใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรูแม้แต่น้อยแล้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่สุด นี่เขาหงุดหงิดเรื่องอะไรก้คงเรื่องที่หมอนั่น ทำท่าทีไม่ได้รัเกียจซีหรูเหมือนเป็นการตบหน้าเขาชัดๆ “ขอบคุณท่า
“เจ้าก็พูดเสียจนชินหวางอ๋องเป็นตัวร้ายความจริงแล้วชินหวางอ๋องเป็นคนที่จิตใจดีเพียงแค่เป็นข้าที่กดดันมากไปใช่ไหม แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่ข้ามอบให้มันดีที่สุด” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปกันดีกว่า ปล่อยฝ่าบาทกับท่านอ๋องคุยกันไปเราสองคนไปเลือกหยิบสิ่งของที่เจ้าถูกใจดีไหม ของกำนัลจากต่างแคว้นและของกำนัลจากฝ่าบาทมากมาย ข้ายินดีให้เจ้าเลือกหยิบเอาตามใจ” ดึงมือซีหรูเดินตามเข้าไปในตำหนักชิงหนิงกงชินเตอหลางเปลี่ยนท่าทีจากยิ้มแย้มเป็นเคร่งขรึมทันที “มาถึงเรื่องของเรา” “พ่ะย่ะค่ะ” “ใต้เท้าหยาง กำลังจะทำเรื่องที่ผิดกับข้า เจ้าจะวางเฉยได้ไหม” “ฝ่าบาท บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดา” ชินหวางอ๋องตัดพ้อ “บุตรีไม่เกี่ยวกับบิดาได้หรือ ใต้เท้าหยางกล้าให้การช่วยเหลือ เชวียเต๋ออ๋องส่งเสบียงและอาวุธอ้างว่าเพื่อเงิน แต่ที่ข้ารู้หยางซูซินคนนี้ ตั้งใจยกบุตตรีให้กับเชวียอ๋อง” “เช่นนั้นฝ่าบาทก็ให้ชินหวางอ๋องแต่งกับบุตรีของใต้เท้าหยางเสียจึงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น” ชินเตอหลางฮ่องเต้ถอนหายใจยาวค่ำคืนเหน็บหนาวซีหรูนอนขดตัวในผ้าห่มหนา ข่มตาหลับไหลคืนนี้คืนที่สองแล้วเขาก็ยังไม่แวะมา ถอนหายใจโล่งอกเสียมากกว่าชินชากั
“พระชายาเพคะวันนี้ห้องเครื่องทำเครื่องเสวยที่พระชายาชอบมีทั้งผัดโป๊ยเซียนทั้งขนมผักกาด”เสี่ยวไป๋พยายามเบี่ยงเบนความสนใจส่งตะเกียบให้กับซีหรู“ข้าบอกให้มานี่มาช่วยกันวางแผน”ซีหรูรับเอาตะเกียบคีบขนมผักกาดเคี้ยวงับๆ“ไม่ได้ยินหรือไร เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้”เดินมาหยุดตรงหน้า ซีหรูที่คาบขนมผักกาดไว้แก้มป่อง ดวงตาที่โผล่มาข้างเดียวกลมใส“รอก่อนได้ไหมข้าหิวจะแย่แค่ต้องรอไทเฮาตรวจแท่นนอนข้าก็หิวแทบตายแล้ว”เคี้ยวไปพูดไป ซีหรูยมกินนับว่าเป็นช่วงเวลาที่นางมีความสุขที่สุดแล้ว“อั๊กๆๆๆ”สำลักขนม ชินหวางอ๋องคว้าถ้วยน้ำส่งให้อย่างลืมตัวเพราะเอาแต่จ้องตากลมใสของซีหรู ที่รับเอาน้ำมากระดกลงคออึกใหญ่ชินหวางอ๋อง ทรุดกายนั่งลงตรงข้ามกับซีหรู“เสี่ยวอูยกเครื่องเสวย”เสี่ยวอูทำสีหน้างงๆก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องเครื่อง“ก็ต้องแบบนี้แหละเจ้าค่ะไม่กินอย่างไรสมองจะแล่น”เสี่ยวไป๋ตักข้าวเลื่อนไปวางตรงหน้าชินหวางอ๋องเสี่ยวอูกลับเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในจวนที่ถือเครื่องเสวยชุดใหญ่เข้ามาวาง“ทำไมต้องเป็นชุดใหญ่”“ก็ ก็ ก็ท่านอ๋องกับพระชายเสวยด้วยกันก็ต้องชุดใหญ่”ชินหวางอ๋องส่ายหน้าไปมา“ทดสอบพิษ”เสี่ยวอูหยิบตะเกียบทดสอบพิษใ
“อีกเรื่อง ฟางหรานอ้อนวอนข้าขอเข้ามาในฐานะ ว่าที่ชายาเอกในจวนอ๋อง เจ้ายินดีที่จะให้นางเข้ามาหรือไม่” ซีหรูหลับตาลงช้าๆ ไล่ความรู้สึกเจ็บแปลบในใจ หันหลังก้าวเดินออกจากตรงนั้น “แล้วแต่ท่านอ๋องหากเห็นว่าควรข้าก็ไม่อาจขัดท่านตัดสินใจไปแล้วนี่จะมาถามข้าทำไม” ซีหรูสาวเท้า ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว “เฉวี่ยเต๋ออ๋อง แวะมา คารวะท่านอ๋องไร้พ่ายยยย” เฉวี่ยเต๋ออ๋องที่รูปร่างสูงโปร่งใบหน้าขาวสะอาดทว่าใบหน้าเชิดหยิ่ง หล่อเหลาไม่เป็นรองชินหวางอ๋องแม้แต่น้อย “เฉวี่ยเต๋ออ๋อง แวะมาเยือนจวนอ๋องไร้พ่าย” สายตาจับจ้องที่แผ่นหลังงดงามซีหรูไม่วางตา เพียงคำปราศรัยทว่าสายตามองไปที่ร่างงามอรชรที่เดินจากไป “ชายารองได้ชื่อว่าหญิงที่มีใบหน้าไม่งดงาม ถูกใจท่านอ๋องน้อยชินหวางอ๋องเหตุใดจึงรีบไปเสียไม่พามาแนะนำให้กับเฉวี่ยฮ่องได้พบพานบ้าง” “ไม่ต้อง ไม่สำคัญ” “เฉวี่ยอ๋องไม่สำคัญหรือว่าชายารองไม่สำคัญ ได้ยินว่าฝ่าบาทโปรดปรานบิดานางใต้เท้าเสิ่น หากท่านอ๋องไม่โปรดปรานนางหย่ากับนางแล้วยกให้เฉวี่ยอ๋องเสียดีไหม” ชินหวางอ๋องทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร “เฮ้อ ของเขาเราอยากได้” เฉวี่ยเต๋ออ๋องพึมพำเบาๆ “มานี่
“แม่นางท่านนี้” สวีไฉ่หานประสานมือตรงหน้าดวงตาจับจ้องมองใบหน้าที่จะว่าน่าเอ็นดูไม่ได้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ภายใต้ผ้าแพรบางเบาคุลมหน้าไว้ กระนั้นกลับจินตนาการว่าซูหรูที่เห็นช่างงดงาม ต่างจากหญิงทั่วไปนางมีบางอย่างสะดุดตาสวีไฉ่หานยิ่งนัก เสี่ยวไป๋ยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนทำสีหน้างุนงงว่าเหตุใดมีหญิงนางหนึ่งที่แม้แต่ท่าทางการเยื้องย่างยังต่างออกมาอยู่ในจวนอ๋องเวลานี้ ย่อกายลง “ท่านองครักษ์ไฉ่หานนี่คือชายารองของท่านอ๋อง พระชายารองเสิ่นซีหรู “ข้าน้อยสวีไฉ่หานยินดีที่ได้พบท่านพระชายารอง” “เช่นกัน” หันหลังก้าวเดิน สวีไฉ่หานมองแผ่นหลังงดงามท่าทีที่มั่นคงนั้นต่างออกไปจริงๆ “ท่านอ๋อง ท่านองครักษ์สวีไฉ่หานกลับมาแล้ว” ชินหวางอ๋อง ที่เอาแต่คัดอักษรตวัดพู่กันจนกระดาษฉีกขาดเพราะรอยหมึกที่กดอยู่กับเนื้อกระดาษ เสี่ยวอูฝนหมึกจนมือชาถอนหายใจเมื่อองครักษ์สวีไฉ่หานกลับมาจากหายไปแรมปีหลังจากรบชนะเขาก็ออกเดินทาง จนกระทั่งวันนี้จึงมาพบกันกับชินหวางอ๋องที่จวนอ๋องไร้พ่าย “มาแล้วหรือหายไปจน ข้าคิดว่าจะไม่ได้พบกันเสียแล้ว” สวีไฉ่หานยิ้มน้อยๆ เหลือบตามองกระดาษที่ถูกขยำกับรอยหมึกสีเข้มบนกระดาษบนโต๊ะ “ได้ข่าวว่า
“พระชายาเจ้าขาทำไมต้องยอมด้วยเจ้าค่ะแต่งเข้ามาก่อนก็ต้องสู้สิเจ้าคะจะต้องครอบครองท่านอ๋องเก็บท่านอ๋องไว้เพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ ไม่มีใครยอมหรอกนะเจ้าคะยอมให้สามีรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง” ซีหรูยิ้มบางๆ “เขาไม่ใช่สามีข้านี่ แล้วเราก็ไม่ได้รักกันเขากับคุณหนูตระกูลหยางนั่นรักกันมาเนิ่นนานก็สมควรที่จะได้ครองรักกัน ยิ่งไปขัดขวางเท่ากับยิ่งทำให้เขาเกลียดชังไม่สู้ข้าถอยออกมาเสียดีกว่า” “พระชายาเจ้าขาช่างมีน้ำใจเสียจริงท่านอ๋องเสียอีกเกเรราวกับเด็กหนุ่ม รอวันไหนที่พระชายาหายไปจะรู้สึก” เสี่ยวไป๋บ่นเบาๆ “เขาจะดีใจที่ข้า… ไปเสียได้ เขาจะได้แต่งกับชายาเอกของเขาฝ่าบาทก็จะไม่มีทางว่าอะไรเขาได้เป็นเพราะข้าที่ทนเขาไม่ได้ด้วยตัวเอง” เสี่ยวไป๋ถอนหายใจพระชายาเจ้าขาตัวมอมหมดแล้วเสี่ยวไป๋เตรียมน้ำอุ่นพระชายารองนอนแช่น้ำอุ่นให้หายเมื่อยดีไหมเจ้าค่ะอาการเหนื่อยล้าจะได้หายไปเราสองคนเหนื่อยมาทั้งวันแล้วห้องนี้จึงออกมาดีเพียงนี้” หันมองรอบๆ ห้องที่ก่อนหน้านั้นเคยรกเรื้อมาตอนนี้กลับสะอาดสะอ้านน่านั่งน่านอนและยังตกแต่งราวกับแท่นบรรทมของฮ่องเต้ “ดีเหมือนกัน ข้ากำลังคิดว่าเจ้าไปขอแบ่งวัตถุดิบมาจากห้องเครื่องของจวน
“พระชายารองขอรับท่านอ๋องให้พระชายาออกมาข้างนอกขอรับ” เสียงเสี่ยวอูยังตะโกนดังๆ “พระชายาเจ้าขาไม่ต้องออกไปเสี่ยวไป๋จะบอกว่าพระชายากำลังบรรทมเจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋เองก็ยังยืนยันคำเดิม “ช่างเถอะข้าออกไปเอง” ซีหรูกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง ประตูห้องถูกกระชากอย่างแรงจนบานประตูหลุดติดมือออกมาเสี่ยวไป๋ส่ายหน้าไปมาซีหรูยืนนิ่งเสี่ยวอูรีบเข้ามารับบานประตูไป ชินหวางอ๋องกวาดสายตามองห้องที่เคยรกร้างบัดนี้กลับตกแต่งงดงามอีกทั้งยังสะอาดสะอ้านน่านั่งน่านอนกลิ่นหอมจากกำยานกลิ่นอ่อนๆ ชวนให้ผ่อนคลาย ทุกอย่างที่เห็นราวกับว่าไม่เคยเป็นห้องรกร้างมาก่อน “กลับไปที่ห้องของเจ้าเสีย” ซีหรูหลุบตามองพื้น ไม่ต่อคำ “เสี่ยวไป๋เก็บของ ของพระชายารองกลับไปที่ห้องเดิม เหตุใดชอบสร้างปัญหาบิดาเจ้ามาพบว่าบุตตรีที่รักต้องมาอาศัยในห้องเก่ารกร้างแบบนี้จะต้องนำเรื่องนี้ไปฟ้องฝ่าบาท” ซีหรูยิ้มเศร้าๆ “ท่านพ่อไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นท่านอ๋องกังวลมากไปแล้วซีหรูเพิ่งจะทำความสะอาดห้องนี้เสร็จเมื่อชั่วยามที่ผ่านมานี้เอง จึงอยากจะอยู่นี่จนกว่าจะคุ้มกับแรงที่ลงไป” ยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมมากำไว้ผมยาวสลวยหลุดลุ่ยสยายเต็มแผ่นหลังกลิ่นหอม
“ท่านอ๋องขอรับ” ท่านพ่อบ้านถือค้อนมายืนตรงหน้าชินหวางอ๋องโบกมือให้หยุดพูด “เอ่อ ข้าน้อยเร่งมาถึงนี่เพื่อมาซ่อมแซมประตูตามคำสั่งของท่านอ๋อง” ”ไฉ่หานอมยิ้ม “ไม่ต้องแล้วมีคนมาซ่อมให้นางเรียบร้อยแล้ว” “แบบนี้สินะท่านอ๋องเองก็ส่งคนมาแต่ช้ากว่า ท่านองครักษ์สินะ” เสี่ยวไป๋พูดขึ้นเบาๆ “เสี่ยวไป๋คุกเข่า” ชินหวางอ๋องกำลังหาที่ลงพอดี “นางผิดอะไร” ซีหรูพูดขึ้นไม่พอใจที่อีกคนฟาดงวงฟาดงาเพียงแค่ไฉ่หานมาซ่อมประตูให้กับซีหรู หากมองอยู่ข้างนอกอย่างไฉ่หานเขาเข้าใจลึกซึ้งอาการคล้ายคนกำลังหึง “เสี่ยวไป๋ลุกขึ้นไชินหวางอ๋องเปลี่ยนแปลงคำสั่งง่ายดาย “ไฉ่หาน ด้านหน้านั้นต้องการคนคอยอารักขาส่วนขาไม่ต้องการให้ใครมาอารักขาชายารองของข้าเพราะนางไม่ใช่คนสำคัญอะไร” ซีหรูยิ้มบางๆ เดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องเสี่ยวไป๋เดินตามกำลังจะปิดประตู ชินหวางอ๋องเดินแทรกตัวเข้าไปในทันที “ทะท่านอ๋องเจ้าขา พระชายารองหิ้วท้องรอตั้งนานแล้วเจ้าค่ะกำลังจะกินอะไรเพื่อบรรเทาความหิวแต่ท่านอ๋องก็กลับไปกลับมาทำให้พระชายารองป่านนี้ยามไหนแล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง” เสี่ยวไป๋พูดขึ้นพลางถอนหายใจ “ข้าจะเข้ามาตักเตือนนางที่ทำใจดีกับคน
ฉุดมือบางให้ลุกขึ้น โน้มตัวกดริมฝีปากกับปากบางบดเบียดอ่อนหวานเว้าวอน ซีหรูตัวชารับรู้ถึงสัมผัสอ่อนโยนนั้นรสจูบหวานฉ่ำจนแทบจะกลืนกิน ชินหวางอ๋องเองกลับรู้สึกว่าตัวเขามองข้ามเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรูไปเสียแล้วในตอนนี้เขาหนาวๆ ร้อนๆ ราวกับบุรุษหนุ่มที่จูบครั้งแรกกับหญิงที่รัก ดวงตากลมโตที่ส่งมาราวกับจะขอร้องว่า ปล่อยข้าไปเถิด กระนั้นร่างอ่อนระทวยของซีหรูในอ้อมแขนของเขาก็อุ่นนุ่มกลิ่นกายหอมละมุนนั้นอีกเขาจะไม่อาจตัดใจคลายอ้อมกอดถอนริมฝีปากออกช้าๆ จ้องมองใบหน้าที่มีรอยแผ่นหนังอัปลักษณ์ปิดทับไว้ แล้วหยุดที่ดวงตากลม“ข้าจูบเจ้าอีกได้ไหม” เสียงที่พยายามปรับให้นิ่งทว่ากลับสั่นกระเส่า “ท่านอ๋องปล่อยซีหรูเถิด” เสียงหวานใสทำเอาใจแกว่งชินหวางอ๋องยิ่งกระชับอ้อมกอดไว้แน่นกว่าเดิม จวนตระกูลเสิ่น“เหตุใดต้องจัดงานต้อนรับ”“ท่านพี่การมาการไปของคุณหนู ใครๆ ก็รู้เรื่องนี้เราเชิญชินหวางอ๋องกับเสวียเต๋ออ๋องมาเท่ากับขอบคุณที่ทั้งสองคนช่วยกันตามคุณหนูกลับมาแล้วยังเท่ากับเป็นการป่าวประกาศว่าคุณหนูแม้จะมีใบหน้าไม่พึงประสงค์ทว่าก็มีท่านอ๋องถึงสองคนที่ห่วงใย นั่นเท่ากับทำให้ชาวบ้านที่เอาแต่พูดไปในทางที่เส
ซีหรูดิ้นรนฮึดฮัดแต่อีกคนกอดไว้แน่นแทบไม่ให้ขยับตัว“เสี่ยวอู เสี่ยวอู” เสี่ยวอูวิ่งเหยาะเข้ามา“เอาเครื่องนอนมาคืนนี้ข้าง่วงแล้วและจะนอนกับพระชายาของข้า เสี่ยวเต๋ออ๋องเชิญ” สั่งเสี่ยวอูไล่เสวี่ยเต๋ออ๋อง แล้วดึงมือซีหรูที่ยังพยายามจะแกะมือเหนียวนั้นออกไปที่แท่นนอน เสวี่ยเต๋ออ๋องกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นก่อนจะสะบัดชายเสื้อก้าวเดินจากไป“โครมมมมม"เสวี่ยเต๋ออ๋องกวาดมือไปบนโต๊ะที่วางทั้งกาน้ำชาและขนมก้อนอารมณ์โกรธพุ่งสูงปรี๊ด“ชินหวางอ๋องข้ากับท่านคงต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”“ท่านอ๋อง” ฉีก้านก้มหน้ารับผิด“อย่าทรงโมโหมากไปกว่านี้เลย”“เชอะกล้าพูดแบบนี้กับข้าหรือ หาทางกำจัดชินหวางอ๋องเสียท่าทีโอหังของเขาทำทีเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งที่ข้าเป็นคนที่พบซีหรูก่อน” เสวี่ยอ๋องนิ่งงัน เกือบลืมไปว่าซีหรูกับใบหน้างดงามที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวนั่นคืออะไรกันแน่ เขาแน่ใจว่านางต้องการปกปิดอน่เพราะแผ่นหนังที่ถุกคมกระบี่ดึงให้เผยอออกนั้นไม่มีร่องรอยของโลหิตแม้แต่น้อย“ฉีก้าน ทำเรื่องหนึ่งให้ข้า” ฉีก้านประสานมือ เสวี่ยเต๋ออ๋องถอนหายใจยาวกระโจมกลาง“ปล่อยข้านะ”“หืออให้ปล่อยอย่านั้นหรือ เดิมก็หนีมาแล้วถูกคนปองร้ายบิด
มืดค่ำแล้วซีหรูยังคงนั่งมองเสี่ยวไป่ที่บาดเจ็บเพราะปกป้องซีหรู“พระชายารองเจ้าขานอนเถิดเจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ“ขอบใจเจ้าที่ช่วยข้าไม่อย่างนั้น คนที่นอนตรงนี้อาจเป็นข้าหรือข้าอาจตายไปแล้วก็ได้”เสี่ยวไป๋ยิ้ม“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะเสี่ยวไป๋ยินดี หากช่วยพระชายารองไม่ได้นั่นต่างหากที่เสี่ยวไป๋จะเสียใจไปตลอดชีวิต พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะพรุ่งนี้จะได้เดินทางกันต่อไปถึงวังหลวงเร็วเท่าไหร่พระชายารองยิ่งปลอดภัยเท่านั้น”ทัพของชินหวางอ๋อง ที่เดินทางทั้งกลางวันกลางคืนตั้งใจให้ทันขบวนของซีหรู“อีกไม่นานขอรับเชื่อว่าทางนั้นจะต้องพักค้างแรมแล้วเราอาจตามทันแต่คงจะดึกสักหน่อย ท่านอ๋องจะให้ตั้งกระโจมที่นี่เลยไหมขอรับ”“ไม่ต้องให้ทันขบวนของชายารองของข้าช้าไปหน่อยดึกไปหน่อยก็ค่อยพัก” นายกองประสานมือรับคำสั่ง“ท่านอ๋อง ว่าที่พระชายาเอกบ่นว่าเหนื่อยแล้วอยากจะลงไปเดินบ้างนั่งเกี้ยวมาทั้งวัน” ชินหวางอ๋องส่ายหน้าไปมา“จอดพักเกี้ยวววววว”“เฟี้ยววววววววว” ลูกดอกพุ่งเข้าใส่ชินหวางอ๋องแต่ทว่าไม่ได้ระคายผิว ร่างสูงพลิกตัวหลบจับลูกดอกไว้อย่างรวดเร็ว“ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” เสี่ยวอูวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้า
ซีหรูกุมใบหน้าข้างซ้ายไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือเสี่ยเต่อต๋องรอด้วยใจจดจ่อแต่อีกคนก็ยังลังเลไม่กล้าเปิดเผยใบห้าที่บัดนี้แผ่นหนังอัปลักษณ์ยังติดเรียบร้อยดี“ฮะฮะฮะฮ่าาาาาาข้าแค่ล้อเล่นข้าหาใช่คนที่ใจดำเพียงนั้นคมกระบี่ไม่ถูกจุดสำคัญเพียงตอนนี้ซือซือก็คงกำลังช่วยเสี่ยวไป๋ มือสังหารล่าถอยแล้ว ไม่ต้องกังวลขบวนของเรามีหมอดีเพราะข้าออกตามหาคุณหนูเสิ่นอาจได้รับบาดเจ็บจึงได้นำตัวท่านหมอติดขบวนมาด้วย” ซีหรูผ่อนลมหายใจช้าๆ“ไม่ได้กดดันเจ้าเสียหน่อยไม่ให้ดูก็ไม่ดูเสวี่ยเต๋ออ๋องหาใช่คนที่บังคับ ขืนใจหญิงใดยิ่งหญิงที่งดงามเช่นเจ้าเสวี่ยเต่ออ๋องไม่มีทางจะบังคับใจโรงเตี๊ยม“ลงมือรุนแรงเกินไปไหม”อ้ายหลัวปิงเอ่อถอนหายใจ “เจ้านั่นตั้งใจจะฆ่าหลานข้าจำต้องเข้าแทรกแซง”“เปิดหน้าหลานสาวเพื่อให้ เสวี่ยเต๋ออ๋องได้เห็นแบบนี้เสวี่ยเต๋ออ๋องก็ได้เปรียบสินะ อย่างไรกัดไม่ปล่อย คนที่ไม่เคยเห็นใบหน้างงดงามของซีหรูอย่างชินหวางอ๋องจำต้องถอดใจใช่ไหม นี่ข้าพลาดอะไรไปใช่ไหม”“ฮะฮะฮะฮ่าาาา วางเดิมพันเข้าข้างชินหวางอ๋องก็ต้องหาทางช่วยให้เขาตาสว่างเหมือนข้าสิข้าใช้กระบี่ช่วยเปิดแผ่นหนังให้เสวี่ยเต่ออ๋องได้เห็นใบหน้าที่แท้จร
“เร่งเดินทางให้เร็วที่สุดอย่างให้ห่างจากขบวนของพระชายารอง” ไฉ่หานชักม้ามายืนข้างม้าของชินหวางอ๋อง“ท่านอ๋องขอรับ แต่ทางนั้นเขาออกเดินทางตั้งแต่ยามซื่อทัพของเราออกเดินทางยามเว่ยห่างกันถึงสองชั่วยามเช่นไรจะตามทันป่านนี้พวกเขาไม่ถึงวังหลวงแล้วหรือไร”“จากการตั้งข้อสังเกตของข้าใต้เท้าเสิ่นรักบุตรีคนนี้มากเช่นนั้นเขาจะไม่มีทางให้คนพวกนั้นเคลื่อนเกี้ยวอย่างเร่งรีบอาจค่อยเคลื่อนเกี้ยวไปตามทางช้าๆ เพื่อความปลอดภัย เสวี่ยเต๋ออ๋องเองก็คงไม่ได้เร่งรีบอะไรเพราะว่าไม่อยากจะห่างจากชายารองของข้าแม้สักครึ่งชั่วยามหากซีหรูกลับ ไปที่วังหลวงแล้วอาจจะไม่มีโอกาสได้พบชายารองข้าอีกต่อไป” กระหยิ่มในใจที่ได้เหน็บแนมถากถางคนที่ไม่ชอบกัน“แต่นั่นอีกไม่นานท่านอ๋องก็จะหย่ากับพระชายารองเพื่อแต่งพระชายาเอกแล้วนี่ขอรับถึงเวลานั้นเสวี่ยเต๋ออ๋องย่อมมีโอกาสมากขึ้น”“เมื่อถึงเวลานั้นค่อยว่ากันยามนี้ข้าก็แค่อยากจะ ไม่ยอมให้ใครทำตามใจก็เท่านั้น”“ไฉ่หานจะรุดหน้าไป่ก่อนดีไหมขอรับเพื่อให้ขบวนของพระชายารองรอทัพของท่านอ๋องดีไหม” ชินหวางอ๋องพยักหน้าขึ้นลง“ดี แจ้งให้ขบวนของพระชายารองรอข้าแต่เสี่ยวเต๋ออ๋องจะไปไหนก็เชิญ”“โอ๊ย
“ท่านอ่องท่านอ๋อง พระชายารองไปแล้วขอรับ” ชินหวางอ๋อง ขมวดคิ้วคมเข้าหากันฟาหรานสังเกตท่าทีของชินหวางอ๋องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ“ไปไหน แล้วใครอนุญาตนาง”“เอ่อ ก็พระชายารองไปกับคนของบ้านเสิ่น”“ข้าไม่ได้ถามว่าไปกับใครข้าถามว่าใครอนุญาตให้นางไป” ตวาดเสี่ยวอูจนหัวหด“เอ่อไม่มีใครอนุญาตแต่พระชายารองก็ไม่ไปกับจวิ้นหวังเสียหน่อย แล้วก็มีคนของบิดามารับอย่างดี เสี่ยวอูอย่างไรจะกล้าห้าม ท่านอ๋องเองเถอะก็จะกล้าห้ามสิ่งที่บิดาใต้เท้าเสิ่นทำเพื่อบุตรีหรือไร…”หยุดคำพูดที่กำลังจะบอกว่ายิ่งไปทำผิดกับซีหรูไว้ใต้เท้าเสิ่นกำลังหมายหัวชินหวางอ๋องชะรอยจะไม่ให้กลับจวนอ๋องให้กลับไปที่จวนขุนนางกรมคลังเสียแล้วชินหวางอ๋องที่ทำได้เพียงมองหน้าทำตาปริบๆ จะกล้าต่อกรกับพ่อตาอย่างใต้เท้าเสิ่นที่เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทและยังโกรธจริงรักจริงอย่างนั้นหรือ“คิดแทนข้าอย่างนั้นหรือเดี๋ยวนี้เจ้า เสี่ยวอูเจ้ากล้าคิดแทนข้าอย่างนั้นหรือ แล้วปล่อยให้พระชายารองกลับไปมีทหารอารักขาหรือไมาหากเป็นอะไรไปแล้วคนที่ผิดไม่ใช่ข้าหรือไร”“ใต้เท้าเสิ่นส่งคนมาอารักขาเป็นยอดฝีมือถึงยี่สิบสองคน แล้วก็ยังมีขบวนของเสวี่ยเต๋ออ๋องที่ตามหลังไปอีก”“เช
ฟางหรานยิ้มเสี่ยวอูเบ้ปาก“แต่ทำแบบนี้ทำให้เสียเวลาและกำลังพลโดยเปล่าประโยชน์นะขอรับตอนนี้ ไฉ่หานก็กำลังรั้งอยู่ที่ชายป่าเพื่อเก้บลุกสาลี่ป่าแค่นี้ก็คงพอแล้วไม่จำเป็นต้องใช้คนทั้งกองทัพอีกอย่างเรากำลังจะเดินทางกลับวังหลวงหากช้าแบบี้คาดว่าวันนี้คงต้องค้างที่นี่อีกคืน”“ไฉ่หานยอมทำอะไรแบบนั้นด้วยหรือ”“เขาบอกว่าตั้งใจหาสาลี่ป่าที่สวยที่สุดหวานที่สุดและสุกกำลังกินสองลูก ลูกหนึ่งสำหรับว่าที่พระชายาเอก อีกลูก…”“ให้ใคร” ชินหวางอ๋องพูดขึ้นดังๆ“อีกลูกสำหรับพระชายารองของท่านอ๋องขอรับ”“ชักจะวุ่นวายกันมากไปแล้วรับคำสั่งข้าบอกให้ไฉ่หานกลับมา แล้วเร่งเดินทางกลับวังหลวง” ฟางหรานกัดริมฝีปากตัวเองน้อยใจอย่างที่สุด“ท่านอ๋องแล้ว แล้วสาลี่ของว่าที่พระชายาเล่าพ่ะย่ะค่ะ”“ปล่อยให้เป็นเรื่องของเสวี่ยเต๋ออ๋องเถอะข้านะทำเรื่องที่หาสาระไม่ได้แบบนี้หรอก ใครจะทำก็ปล่อยพวกเขาไป ฟางหรานเจ้าก็คงรู้ดีว่าข้า มีเจ้าในใจไม่จำเป็นต้องแสดงอะไรที่มันไม่เข้าท่าแบบนี้” เอื้อมมือกุมมือฟาหรานเสี่ยวอูยิ้มเบ้ปาก“แล้วจะเสียใจทีหลัง” เสี่ยวอูบ่นเบาๆ“เจ้าพูดอะไรเสี่ยวอู”“อะปะปะเปล่าขอรับ แค่บ่นไฉ่หานที่ทำอะไรแบบนี้แล้วจะเ
ซุนเจอหนีนั่งไปบนหลังม้าองอาจ สมกับอาภรณ์ที่สวมในชุดเกราะแม่ทัพเต็มยศ“องค์หญิงขอรับวันนี้มีเกี้ยวที่ฝ่าบาทประทานมาเพื่อการเดินทางที่ยาวนานเกรงว่าองค์หญิงจะลำบากหากต้องนั่งบนหลังม้า” รองแม่ทัพกุ้ยเหยียนซารองแม่ทัพที่สี่ (มีรองแม่ทัพสี่คน) เอ่ยปากยิ้มๆซุนเจอหนี่ส่ายหน้าไปมา“องค์หญิงจะไปพบท่านอ๋อง ข้าน้อยหมายถึง ชินหวางอ๋องที่องค์หญิงเคยชื่นชมหากยังเกาะไปบนหลังม้าข้าน้อยเกรงว่าพอไปถึงแคว้นฉี เกรงว่าจะดูไม่ดีนั่งไปบนเกี้ยวเชิดหน้างดงามพอไปถึงท่านอ๋องจึงประทับใจเมื่อได้พบหน้า” หลุบตามองพื้น เผลออมยิ้มจริงด้วยสินางอยากให้ชินหวางอ๋องที่ไมไ่ด้พบกันแสนนานเมื่อพบกันครั้งนี้จะต้องพึงพอใจในรูปร่างหน้าตาตอนนี้ ซุนเจอหนี่ในตอนนั้นที่พบกัน รอนแรมในสนามรบราวบุรุษจะให้ความน่าประทับใจไม่มี“ให้ เสี่ยวหวินไปกับข้า นำเอาหีบใส่อาภรณ์ชุดฮันฝูไปด้วยไปถึงแคว้นฉีข้าจะเปลี่ยนอาภรณ์ไม่สวมชุดแม่ทัพ” เหยียนซาอมยิ้ม“กลัวว่าท่านอ๋องจะได้พบหญิงงามเสียแล้วในคราวนี้”“หุบปากท่านเสียรองแม่ทัพที่สี่ ที่ข้าไม่สวมอาภรณ์และชุดเกราะไปเพราะเกรงว่าชาวบ้านและคนของแคว้นฉีจะพากันแตกตื่นคิดว่าแคว้นเป่ยของเรายกทัพทำสงครามแค่ป้
“เสี่ยวอู เสี่ยวอูเป็นคนของท่านอ๋องภักดีมาตลอดเรื่องข้างนอกข้างในล้วนเพื่อท่านอ๋อง”“คงต้องอาศัยเจ้าแล้วล่ะเสี่ยวอู มารดาเจ้าสบายดีไหม”“หาพระชายารองได้โปรดอย่าบอกนะว่าท่านจะ ส่งคนไปสังหารมารดาของข้าเพื่อบีบบังคับให้ขาช้าปิดปากเรื่องนี้” ซีหรูถอนหายใจ“มองข้าในด้านร้ายเกินไปหรือไม่ข้าแค่อยากจะให้ มารดาเจ้ามาที่นี่เพื่อมาพวเจ้าสักครั้งยินดีส่งคนพาตัวมารดามาจากด้านชายแดนเพื่อพบลูกของนางเสี่ยวอูเจ้าจะยินดีที่จะปิดบังเรื่องนี้ให้กับข้าไหมได้ทั้งเงินทั้งยังได้พบมารดา” เสี่ยวอูยิ้ม“ความจริงเสี่ยวอูก็ภักดีกับท่านอ๋องนะขอรับแต่เขามักจะพูดกันว่าเรื่องของสามีภรรยาเป้นเรื่องของคนสองคนเช่นนั้นเสี่ยวอูยอมไม่พูดช่วยปิดบังเรื่องนี้ก็ได้” ซีหรูยิ้มบางๆ รีบบรรจงปิดแผ่นหนังที่ใบหน้า“เกือบลืมขอรับท่านอ๋องให้มาบอกพระชายารองว่าเสวยก่อนท่านอ๋องไปเลยเพราะท่านอ๋องกำลังจะออกไปรับว่าที่พระชายาเอก” ซีหรูหันกลับมายิ้มบางๆ เสี่ยวอูจ้องมองใบหน้าที่ถูกแปะด้วยแผ่นหนังแล้วก็ถอนหายใจใบหน้าที่อยู่ภายใต้แผ่นหนังงดงามเกินใคร ไม่อยากจะนึกภาพยามที่ชินหวางอ๋องได้พบความจริงข้อนี้จะมีท่าทีเช่นไรกัน“คุณหนูเสิ่น ข้าแวะมาจึงม