Share

บทที่ 6

Author: เย่ชิงขวง
หากเป็นหลายปีก่อน การได้แต่งงานกับหานอ๋องถือว่าได้รับมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง แต่บัดนี้... หานอ๋องโดนยาพิษ อาการหนักถึงชีวิต มีข่าวลือว่าจะคงจะอยู่ไม่ถึงสิ้นปีนี้

ยิ่งไปกว่านั้น หานอ๋องอารมณ์แปรปรวน โหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนเป็นผักปลา การแต่งงานกับพระองค์ ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตายหรอกหรือ?

อัครเสนาบดีกู้พิจารณาพระราชประสงค์อย่างถี่ถ้วน

ลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่เพียงแต่รูปโฉมอัปลักษณ์ ยังอ่านหนังสือไม่ออกสัก หานอ๋องมีกำลังทหารในมือ อำนาจเทียมฟ้า การมอบลูกสาวของเขาให้กับหานอ๋อง ไม่ใช่การดูหมิ่นหานอ๋องซึ่งหน้าหรือ?

ก่อนหน้านี้แม้ฮ่องเต้และหานอ๋องจะไม่ลงรอยกัน แต่ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ แต่การแต่งงานครั้งนี้ อาจทำให้ฮ่องเต้และหานอ๋องต้องแตกหักกัน

มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุก หน้ามุ่ยคอตก

ฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ชอบจับคู่ให้คนอื่นเขาขนาดนั้น?

เพิ่งจะยกเลิกการหมั้นหมายไปหนึ่ง ก็มาอีกหนึ่ง หากฉันขายไม่ออกท่านคงไม่ยอมเลิกราสินะ?

ขันทีหม่าผู้มาประกาศราชโองการหัวเราะพลางเอ่ย “ฝ่าบาทตรัสว่า การแต่งงานของคุณหนูสามนั้นเป็นพระราชประสงค์ของฮ่องเต้พระองค์ก่อน บัดนี้... บัดนี้เจ๋ออ๋องประชวรอาการหนัก เกรงว่าจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลาของคุณหนูสาม จึงยกเลิกการหมั้นหมาย”

กู้ชูหน่วนแค่นหัวเราะ

เมื่อวานยังแข็งแรงดี วันนี้กลับป่วยหนัก คิดจะหลอกใครกัน

“ฝ่าบาทตรัสว่า รู้สึกละอายใจต่อคุณหนูสาม จึงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้คุณหนูสามแต่งงานกับหานอ๋อง เทพสงครามแห่งแคว้นเย่ จากนี้ไปคุณหนูสามจะอยู่ใต้บังคับบัญชาเพียงของเขาผู้เดียวเท่านั้น โปรดรับราชโองการขอรับ”

ขันทีหม่ายื่นราชโองการให้นางตรงหน้า

กู้ชูหน่วนไม่ได้รับราชโองการ แต่กลับมองขันทีหม่าด้วยสีหน้ามีเลศนัย “กงกง หากเทพสงครามรู้ว่าท่านนำราชโองการนี้มา ท่านคิดว่าเทพสงครามจะจดจำท่านไว้พิเศษหรือไม่”

นางเน้นคำว่า “พิเศษ” สองพยางค์อย่างหนักแน่น

ร่างของขันทีหม่าสั่นสะท้าน ความหวาดกลัวแวบผ่านแววตา

อัครเสนาบดีกู้ตวาดลั่น “บังอาจ ราชโองการของฝ่าบาท ไยเจ้าจึงกล้าขัดขืน รับราชโองการเดี๋ยวนี้”

“แล้วถ้าข้าไม่รับล่ะ”

“การขัดขืนราชโองการนั้น มีโทษถึงสามชั่วโคตร เจ้าไม่รับราชโองการ หมายจะให้ตระกูลอัครเสนาบดีถูกประหารทั้งตระกูลหรือ”

“ก็ประหารไปสิ ชาติหน้าเราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ดีนี่เจ้าคะ”

กู้ชูหน่วนพูดจบ มุมปากแสยะยิ้มเยาะเย้ย ก่อนจะเดินจากไปอย่างลิงโลด ท่ามกลางสายตาที่ตะลึงงันของทุกคน

เฮือก...

ทุกคนอึ้งไป

กู้ชูหน่วนบ้าเกินไปแล้ว

กล้าขัดขืนราชโองการของฝ่าบาท นางไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ

กู้ชูหลันโกรธจัด ขวางทางนางไว้ “เจ้าอยากตายก็เรื่องของเจ้า แต่ห้ามลากตระกูลอัครเสนาบดีไปด้วย รับราชโองการเสียเดี๋ยวนี้”

“เหอะๆ น้องสาวนี่ใจกว้างนัก หากรักตระกูลอัครเสนาบดีจริง เจ้าก็ไปรับเองสิ”

“ฝ่าบาทเมตตาให้เจ้าแต่งงานกับเทพสงคราม ไม่ได้ให้ข้าแต่งเสียหน่อย”

“ถึงเจ้าจะเป็นลูกสาวอนุ แต่เจ้าก็สวยกว่าข้า ข้าว่าหากฝ่าบาทรู้ อาจจะเปลี่ยนใจให้เจ้าแต่งงานกับเทพสงครามแทนก็ได้”

“ถ้าข้าแต่งงานกับหานอ๋อง ข้าจะมีชีวิตอยู่หรือ”

กู้ชูหน่วนยกมือขึ้น “ใช่แล้ว ข้าแต่งงานก็ตาย ไม่แต่งก็ตาย ถ้าไม่แต่ง ยังมีคนในตระกูลอัครเสนาบดีอีกกว่าร้อยคนตายเป็นเพื่อนข้าในยมโลก จะได้ไม่เหงา เช่นนั้นข้าจะรับราชโองการทำไม ใครอยากรับก็รับไปสิ”

สามหาว

นางลูกสาวคนนี้สามหาวนัก

หากไม่ใช่เพราะขันทีหม่าอยู่ที่นี่ อัครเสนาบดีกู้คงสั่งให้คนโบยกู้ชูหน่วนจนตายไปแล้ว

เห็นนางเดินจากไปอย่างหยิ่งผยอง คนในจวนอัครเสนาบดีก็ยังคงตกตะลึงไม่ได้สติ

กู้ชูหน่วนไม่ใช่คนขี้ขลาด อ่อนแอ ไม่มีปากเสียงหรอกหรือ? วันนี้ผีเข้าหรือไร ถึงกล้าปฏิเสธการแต่งงานต่อหน้าทุกคน แถมยังปฏิเสธเทพสงครามผู้กุมอำนาจฟ้าดิน

นางจะไม่รู้หรือว่าเพียงแค่เทพสงครามกระดิกนิ้ว ตระกูลอัครเสนาบดีก็กลายเป็นเถ้าถ่านได้?

อี๋เหนียงห้าบ่นอุบอิบ “นายท่าน ดูคุณหนูสามสิเจ้าคะ นับวันยิ่งไม่อยู่ในร่องในรอย ถึงกับขัดขืนราชโองการ”

บัดนี้อัครเสนาบดีกู้ควบคุมกู้ชูหน่วนไม่ได้แล้ว เขาทำได้เพียงประจบประแจงขันทีหม่า มิให้ขันทีหม่าใส่ร้ายป้ายสีต่อหน้าฝ่าบาท มิเช่นนั้นตระกูลอัครเสนาบดีคงจะถึงคราววิบัติแน่

เขารีบมอบถุงทองคำให้แก่ขันทีหม่า พร้อมกับยิ้มอ่อนน้อม “กงกง ลูกสาวคนที่สามของข้าถูกข้าตามใจจนเสียคน ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ท่านวางใจได้ ข้าจะสั่งสอนนางให้ดี และจะให้นางรับราชโองการให้ได้ ขอท่านโปรดกราบทูลฝ่าบาทด้วยคำพูดรื่นหูด้วยเถิด

“ในเมื่อคุณหนูสามไม่สบาย จึงรับราชโองการไม่ได้ อัครเสนาบดีกู้ เช่นนั้นท่านรับแทนนางก็แล้วกัน เมื่อถึงวันแต่งงานต้นเดือนหน้า แล้วขบวนเจ้าสาวของคุณหนูสามมาไม่ถึงจวนหานอ๋อง ตระกูลอัครเสนาบดีก็จงเตรียมตัวรับโทษสามชั่วโคตรเถิด”

อัครเสนาบดีกู้ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ขันทีหม่าก็มอบราชโองการให้กับเขา พร้อมกับถุงทองคำอัดแน่น ก่อนจะจากไป

อัครเสนาบดีกู้มองราชโองการในมือ แล้วมองตามขันทีหม่า ในใจร้อนรนอยู่ไม่สุข

ฝ่าบาทตั้งใจจะให้กู้ชูหน่วนแต่งงานกับหานอ๋อง พวกเขาไม่อาจขัดขืน ดูท่าแล้ว การต่อสู้ระหว่างฝ่าบาทและหานอ๋องนั้นร้ายแรงกว่าที่เขาคิด

ณ ห้องหนังสือ อัครเสนาบดีกู้มองราชโองการอย่างเหม่อลอย อี๋เหนียงห้ามาพร้อมกับน้ำแกงเห็ดหูหนู เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “นายท่าน ยังคงคิดถึงเรื่องราชโองการอยู่หรือเจ้าคะ”

“อืม” รับราชโองการก็ท้ายทายหานอ๋อง ไม่รับราชโองการก็ท้ายทายฮ่องเต้ ไม่ว่าทางใด ก็ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง

ดวงตาอี๋เหนียงห้าหลุกหลิก เอ่ยเสียงเนิบช้า “ได้ยินมาว่าหานอ๋องถูกทำร้ายเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้พิษเดิมกำเริบ ไม่อาจรักษาได้ คงจะสิ้นพระชนม์ก่อนสิ้นปีนี้ แต่ฝ่าบาทกำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรือง ทั้งยังรับองค์หญิงคนโปรดของฮ่องเต้แคว้นฉู่มาเป็นพระสนม อำนาจกำลังพุ่งถึงขีดสุด ถ้าจะต้องเลือกผิดใจกับฝ่ายใด ข้าคิดว่าควรเลือกฝ่ายหานอ๋องเสียมากกว่า เพราะถึงแม้พระองค์จะอำนาจมากเพียงใด แต่ก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน”

“ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร แต่หานอ๋องกุมกำลังทหาร หากพระองค์คิดร้าย ตระกูลอัครเสนาบดีคงไม่มีทางรับมือได้...”

“แล้วนายท่านจะเลือกข้างหานอ๋องหรือเจ้าคะ”

อัครเสนาบดีกู้รีบส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ หานอ๋องเดาใจยากนัก ต่อให้ข้าเขาข้างเขา เจาก็อาจจะไม่ช่วยข้า แถมยัง...” แถมอีกฝ่ายก็ไม่มีวันที่จะปกป้องเขาด้วย

ตระกูลอัครเสนาบดีต้องดำรงอยู่สืบไป จึงต้องพึ่งพาฝ่าบาท

อี๋เหนียงห้าอยู่เคียงข้างอัครเสนาบดีกู้มานาน เข้าใจความคิดของอัครเสนาบดีกู้เป็นอย่างดี

นางยิ้มเย้ายวน “เช่นนั้น นายท่านก็ควรยืนอยู่ข้างฝ่าบาทอย่างเต็มที่ ฝ่าบาทมิใช่ฝ่าบาทพระองค์เดิมแล้ว ขอเพียงนายท่านมุ่งมั่น ฝ่าบาทเองก็กำลังต้องการคนใช้งาน ไม่มีทางมองข้ามพวกเราแน่”

“เจ้าพูดถูก ถ้าจะต้องเลือกฝ่ายใด ก็ควรเลือกฝ่ายที่มั่นคง”

แม้กองทัพของแคว้นเย่ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือหานอ๋อง แต่แม่ทัพเฒ่าเซียวก็ยังมีทหารอีกหลายแสน

ตระกูลเซียวภักดีต่อแผ่นดินมาช้านาน แม้ยามนี้จะยังไม่เข้าข้างฝ่ายใด แต่หากเกิดสงคราม แม่ทัพเซียวคงจะยืนข้างฝ่าบาท

“นายท่าน ข้าคิดว่านายท่านควรทูลฝ่าบาทให้คุณหนูสามเข้าศึกษาในสำนักบัณฑิตหลวง คุณหนูสามกำลังจะแต่งงานกับหานอ๋องอยู่แล้ว หากได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่ฝ่าบาทมีต่อหานอ๋อง”

อัครเสนาบดีกู้ไตร่ตรองคำพูดของอี๋เหนียงห้า ก็เข้าใจความหมายของนาง

สำนักบัณฑิตหลวงเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในแคว้นเย่ รับแต่เชื้อพระวงศ์และผู้มีคุณูปการต่อแผ่นดิน คนธรรมดาไม่มีสิทธิ์เข้าไปได้

ในแคว้นเย่ ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้เข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 7

    กู้ชูหยุน ลูกสาวที่สองของเขานั้นรอบรู้ศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งฉิน หมากล้อม ตำรา วาดภาพ จึงถูกบังคับให้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง จวบจนตอนนี้ขุนนางเล็กใหญ่ในราชสำนักยังคงอิจฉาเขา อัครเสนาบดีกู้เองภาคภูมิใจเไปได้อีกนานแต่ว่า...ลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่รู้หนังสือแม้สักแต่ หากเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวงท่ามกลางเหล่าปัญญาชนมากมาย คงเสียหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นนางยังหน้าตาขี้อัปลักษณ์ชวนอาเจียนเมื่อมีราชโองการ นางจึงเป็นหานเฟยโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากนางเสียหน้า ก็เท่ากับหานอ๋องเสียหน้าไปด้วยหากอัครเสนาบดีกราบทูลฝ่าบาท ฝ่าบาทจะต้องพอพระทัยและสรรเสริญเขาอย่างมากแต่เขาก็เท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับหานอ๋องโดยสิ้นเชิงอัครเสนาบดีกู้ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าการเลือกข้างฝ่าบาทจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง“หากหลันเอ๋อร์ฉลาดได้เจ้าสักครึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ต้องเสียความบริสุทธิ์”อี๋เหนียงห้าซบใบหน้าเข้าหาอ้อมกอดของอัครเสนาบดีกู้ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “หลันเอ๋อร์ยังเด็ก คิดอะไรไม่รอบคอบ จึงถูกใส่ร้าย โชคดีที่รู้เรื่องนี้ไม่กี่คน หากปกปิดได้ดี เรื่องที่หลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ ต่อจากนี้ไปข้าจะอบรมห

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 8

    คุณ...คุณหนูสาม... กล้าตบ...ตบหน้าอี๋เหนียงห้าเลยหรือ...แม่เจ้า พวกเขาไม่ได้ตาฟาดใช่ไหมอี๋เหนียงห้าเป็นถึงอนุคนโปรดของนายท่านเชียวนะอี๋เหนียงห้าโดนตบจนเห็นดาว เกือบเซล้ม นางกุมใบหน้าบวมแดงอย่างตกตะลึง ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาดอี๋เหนียงห้าเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ตวาดลั่น "นี่เจ้ากล้าตบข้าหรือ?""ก็ตบเจ้าอย่างไรเล่า""สามหาว! สามหาว! ใครก็ได้ จับตัวคุณหนูสามเอาไว้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้เข็ด""กล้าก็เข้ามา"กู้ชูหน่วนที่เคยอ่อนแอ กลับแผ่รังสีทรงอำนาจไปทั่วร่างแววตาของนางเย็นยะเยือก เย็นชาไร้ซึ่งตวามรู้สึก เมื่อถูกนางจ้องมอง เหล่าบ่าวรับใช้ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับก้าวเท้าข้างหนึ่งลงนรกไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นกู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย็นชา "ท่านแม่ข้าคือน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเจาหลิง ส่วนข้านั้นเป็นลูกสาวแท้ๆ ขององค์หญิง คุณหนูสามสายตรงแห่งจวนอัครเสนาบดี อี๋เหนียงห้าจะเทียบอันใดได้? ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำในจวนอัครเสนาบดี อย่าว่าแต่ข้าตบเจ้าวันนี้เลย ต่อให้วันนี้ข้าฆ่าเจ้า ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้"ตาลายทุกคนต่างตาลายหากการที่นางปฏ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 9

    ฮูหยินใหญ่หัวใจกระตุกวูบนางคิดบัญชีกับอี๋เหนียงห้าเสร็จแล้ว ก็หันมาคิดบัญชีกับนางงั้นหรือ?ฮูหยินใหญ่ส่งสายตาให้แม่นมผู้ดูแล ตวาดเสียงลั่น "เงินเดือนของคุณหนูสามเล่า เหตุใดนางถึงไม่ได้รับ? หรือว่าพวกเจ้าแอบยักยอก""ฮูหยินโปรดตรวจสอบ ต่อให้ข้าทาสจะใจกล้าเพียงใด ข้าทาสก็ไม่กล้ายักยอกเงินเดือนของคุณหนูสามหรอกเจ้าค่ะ ข้าทาสจะตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าค่ะ""แม่นมไป๋ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนละ ในเมื่อบัดนี้ข้าคือว่าที่พระชายาของเทพสงครามหานอ๋อง หากหานอ๋องรู้เข้าว่าพระชายาของเขาใช้ชีวิตอย่างลำบาก เกรงว่าเขาคงจะไม่พอใจนัก""เจ้าค่ะๆ..."คนทั้งจวนสีหน้าไม่สู้ดีนักยังไม่ทันได้เป็นหานอ๋องเฟย ก็เริ่มวางท่าเป็นหานอ๋องเฟยแล้ว ใครก็รู้ว่าหานอ๋องมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หากหานอ๋องไม่อยู่แล้ว คอยดูซินางจะอวดดีเช่นนี้หรือไม่กู้ชูหน่วนกวาดตามองทุกคน ณ ที่นั้น ก่อนจะประกาศตนเสียงทรงอำนาจ "นับแต่วันนี้เป็นต้นไป หากผู้ใดกล้ารังแกชิวเอ๋อร์ ก็เท่ากับรังแกข้า แม้ในจวนนี้ข้าจะฐานะต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ข้าคิดว่าด้วยฐานะของธิดาแห่งองค์หญิงเจาหลิง หากจะสั่งประหารชีวิตใครสักคนคงพอมีอำนาจอยู่บ้าง"ทุกคนหวาดผวาตัวสั่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 10

    กู้ชูหลันชะงักไป ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรจะบอกว่านางจงใจไม่ปลุกตัวเอง แต่กลับมาสำนักบัณฑิตแต่เช้างั้นหรือ?คำพูดแบบนั้น จะให้นางพูดออกไปได้อย่างไรกู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "อีกอย่างเจ้าไม่ได้อาบน้ำจุดธูปหอม ไม่ตามข้าไปไหว้พระขอบพระทัยฝ่าบาท ถึงได้จงใจว่าร้ายข้า""ข้า..."ให้ตายสิ นางสารเลวนี้ ติดกับนางอีกจนได้สีหน้าของกู้ชูหลันเปลี่ยนไปตามอารมณ์ ทว่าตัวนั้นกลับนั่งไม่ติดที่เซียวอวี่เชียนหันไปหากู้ชูหน่วนแล้วยกนิ้วให้ เพราะกู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างเขา เขาจึงเอ่ยกระซิบ "สาวน้อย ไม่เจอกันวันเดียว ฝีปากเหนือชั้นยิ่งกว่าเดิมอีกนะ"กู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ ยกตำราขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง หันหน้ามายิ้มเอ่ยกับเซียวอวี่เชียน "ชมกันอีกแล้ว หากฝีปากไม่ดี ท่านจะมาสู่ขอหรือ""โครม..."เซียวอวี่เชียนล้มลงในทันที สีหน้าพลันถมึงทึงหญิงผู้นี้ เกิดปีลิงหรืออย่างไร ถึงได้เล่ห์เหลี่ยมปานนี้นางรู้จักทำคำว่าจริงจังหรือไม่ลองนึกว่าหากตัวเองแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์ ท่านพ่อคงตีเขาจนขาหักกู้ชูหลันนั่งข้างเจ๋ออ๋อง นางลอบมองกู้ชูหน่วนไม่ได้กลับบ้านไม่นาน น้องสามของนางเปลี่ยนไปยิ่งนักก่อนหน้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 11

    เหอะ ตัวยาสามสิบสองชนิด แถมยังเติบโตในสภาพแวดล้อมต่างกันทั้งหมด กว่าเธอจะเก็บได้ทุกชนิด สู้หาเงินแล้วไปซื้อเอายังจะง่ายกว่าเสียงพูดของอาจารย์สวีเหมือนยานอนหลับ บวกกับตั้งแต่ข้ามกาลเวลามาก็ยังไม่เคยได้พักผ่อนเต็มที่ กู้ชูหน่วนจึงผล็อยหลับไปจนกระทั่งนางสะดุ้งตื่นเพราะเซียวอวี่เชียนสะกิดนางเงยหน้าพรวดขึ้น "เช้าแล้วหรือ?"อาจารย์สวีเดือดดาล "กู้ชูหน่วน เจ้ายังเห็นอาจารย์เฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตาหรือไม่?"กู้ชูหน่วนเกาหูตาเฒ่านี่ อายุปูนนี้แล้วยังขี้โมโหอีกทุกคนในห้องเรียนต่างหัวเราะอย่างอดไม่ได้มาสายก็แล้วไป แต่ยังกล้าหลับในห้องเรียนอีกอาจารย์สวีขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว"ที่นี่คือห้องเรียนแห่งสำนักบัณฑิตหลวง แผ่นดินนี้มีคนไม่รู้เท่าไหร่เฝ้าฝันอยากจะเข้ามาเรียน แต่เจ้า... เจ้ากลับหลับในห้องเรียน เจ้า...เจ้าอยากจะให้ข้าอกแตกตายหรืออย่างไร?"เซียวอวี่เชียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขาควรจะดีใจ หรือว่าควรจะสงสารนางดี?ตอนกู้ชูหน่วนยังไม่มา คนที่ถูกอาจารย์ต้อนถามทุกครั้งคือเขา ตอนนี้เหมือนลมจะเปลี่ยนทิศเสียแล้ว ยัยขี้เหร่นี่ ไม่เอาอ่าวยิ่งกว่าเข้าเสียอีกอย่างมากเขาก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 12

    ทุกคนล้วนแต่คาดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะท่องได้ทุกคำ"เถาวัลย์พันเครือ เมล็ดพันธุ์แตกยอด ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"เฮือก...ทั้งห้องเรียนตกตะลึงนาง...นางท่องได้อย่างไร?บทกลอนของซูหลีสาบสูญไปแล้วมิใช่หรือ? พวกเขารู้แค่ครึ่งท่อนแรกเท่านั้นเองเฒ่าสวีตาค้างกู้ชูหลันกับกู้ชูอวิ๋นและคนอื่นๆ นิ่งอึ้งเจ๋ออ๋องมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่เชื่อสายตาแม้แต่ซ่างกวานฉู่ข้างอาจารย์สวีที่ถือตำราอยู่ยังมือสั่น เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาอันงดงามคู่นั้นราวกับกำลังสำรวจกู้ชูหน่วนคนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภอย่างนั้นหรือนาง...รู้กลอนซูหลีได้อย่างไร"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์ออกผล ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"สายตาแปลกประหลาดของทุกคนทำเอากู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิกนี่ไม่ใช่กลอนของซูหลีหรือไงเธอไม่กล้าท่องวรรคที่สามแล้วทำได้เพียงเอ่ยอย่างเก้อเขิน "คือว่า...อาจารย์เจ้าคะ ข้าไปวิ่งห้าสิบรอบก็ได้ แต่กู้ชูหลันเป็นบัณฑิตผู้ติดตาม หากข้าต้องถูกทำโทษ นางมีเหตุผลอะไรจะไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 13

    "เจ้าว่ามาได้เลย""เมื่อคืนข้านอนไม่ค่อยหลับ ประเดี๋ยวข้าอยากนอนสักงีบ ท่านห้ามลงโทษข้า""ได้ ไม่มีปัญหา"แม่เจ้า ตาเฒ่านี่ ใจเด็ดเสียจริง ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม?เมื่อมองไปที่อาจารย์ซ่างกวานแถวหน้าอีกครั้ง ถึงภายนอกเขาจะดูสงบนิ่ง อ่อนโยนดั่งสายลม แต่เธอรู้ดีว่าจังหวะลมหายใจของซ่างกวานฉู่ถี่รัวขึ้นหลายเท่า เห็นได้ชัดว่าเขาก็อยากฟังกลอนประโยคสุดท้ายเหมือนกันก็ได้ เห็นแก่หนุ่มหล่อ ท่องก็ได้"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์สุกงอม ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?""เยี่ยม... ยอดเยี่ยม... กลอนบทนี้ใช้วิธีซ้ำคำ สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ตัดพ้อที่แตกต่างกันสามแบบของตัวเอกต่อการล่มสลายของราชวงค์โจวอ๋อง""อาจารย์ ข้าหลับได้หรือยัง?""เจ้ารู้กลอนนี้ได้อย่างไร?""อ๋อ... บังเอิญเห็นในตำราโบราณเล่มหนึ่ง" เธอไม่ได้โง่เสียหน่อย จะบอกว่าแต่ก่อนเคยท่อนกลอนบทนี้ได้อย่างไร"ตำราโบราณเล่มใด อ่านได้ที่ไหน? ตำราสมัยก่อนมิได้สาบสูญไปหมดแล้วหรือ?""นานมากแล้ว จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน แต่มิใช่สำนวนต้นฉบับ มีคนแปลมาอีกทีเจ้าค่ะ"ทุกคนพลันกระจ่างแจ้ง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 14

    "ไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกว่าเป็นประโยคซ้ำคำหรือ?""ประโยคซ้ำคำคืออะไร?""…"กู้ชูหน่วนคิดว่าตัวเองโง่แล้ว แต่พอได้เจอกับเซียวอวี่เชียน เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองเก่งแค่ไหน"ยัยขี้เหร่ คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ แปลว่าอะไรหรือ?""ความหมายใกล้เคียงกับ คุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า เพียงจอดรถม้าเหมือนดั่งสหายครั้งวันวาน""ยัยขี้เหร่ เจ้าช่วยพูดภาษาคนจะได้ไหม ข้าไม่เข้าใจ"กู้ชูหน่วนชะงักไป อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ "คนบางคนรู้จักกันมาทั้งชีวิต ทว่าไม่รู้แม้กระทั่งอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไร คนบางคนเพิ่งเคยพบหน้า แต่กลับรู้ใจกัน คนไม่เข้าใจจะคบหาไปทำไม คนที่เข้าใจกันย่อมรู้ว่าเจ้ารักชังสิ่งใด"เซียวอวี่เชียนพลันกระจ่างแจ้ง "อ๋อ... พวกเราคืออย่างหลังสินะ""ผิด อย่างแรกต่างหาก"รอยยิ้มของเซียวอวี่เชียนชะงักไปหรือว่าพวกเขาไม่มีวาสนาต่อกันขนาดนั้น?คนที่ยังไม่ออกจากห้องเรียนได้ยินคำพูดของกู้ชูหน่วนเจ๋ออ๋องมองนางอย่างสงสัยไม่เจอกันเพียงไม่นาน เหตุใดนางถึงได้เปลี่ยไปเป็นคนละคน?คนไม่รู้หนังสือท่องกลอนคุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า เพียงจอดรถม้าเหมือนดั่งสหายครั้งวันวานได้ด้วยหรือ?กู้ชูอวิ๋นประหลาดใจกั

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 441

    นอกเจ้านายท่านหลันและคนอื่นๆ เย่จิ่งหานและพวกต่างก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจ เย่จิ่งหานพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแล้วออกไปตามหากู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขาไม่อยากจะจินตนาการเอาเองอีกต่อไปว่ากู้ชูหน่วนต้องประสบพบเจอกับเรื่องแบบใดกันแน่ถึงได้กรีดร้องอย่างกับจะขาดใจเช่นนั้น ประมุขชิงตื่นตระหนกยิ่งกว่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจหยุดได้ ฝีเท้าเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาหน่วน... เจ้าอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด จะต้องรอข้าก่อน หากเจ้าตาย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใด ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นแน่ เสียงร้องที่หดหู่ดังก้องไปเรื่อยๆ ประมุขชิงมาถึงบริวเวณปากคอขวดน้ำเต้าที่กู้ชูหน่วนเพิ่งไปเมื่อครู่แล้ว บนปากคอขวด มีร่องรอยของกรงเล็บมังกรยักษ์หลงเหลืออยู่ รอยเท้าฝังลึกลงไปในพื้นดิน ทุกรอยเท้ามีความลึกหลายสิบเมตร เห็นได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ประทับลงไปนั้นมหาศาลเพียงใด ทอดมองออกไปยังสนามรบที่เละไม่เหลือชิ้นดีหลังจากการสู้ครั้งใหญ่ของยอดฝีมือ ประมุขชิงสั่นสะท้าน ลึกลงไปในใจรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง อาหน่วนเคยบอกไว้ โลกนี้มีมังกรอสูรขั้นเจ็ดทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งคือมังกรน้ำ อยู่ในสถ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 440

    แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีชีวิตถึงหมื่นชีวิต ก็คงต้องตายอย่างแน่นอนภารกิจบนบ่าของเขานั้นหนักอึ้งนัก เขาควรจะสลัดออกไปอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาพลังปราณที่เหลืออยู่ในร่างกาย แต่......ไม่รู้ทำไม เขาถึงลังเลภาพของกู้ชูหน่วนที่ดูมีชีวิตชีวาและฉลาดหลักแหลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขาพร้อมกับใบหน้าเล็กๆ ของนางที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและอดทนต่อความทุกข์ทรมานอย่างแข็งขัน เวินเส้าอี๋ก็แอบลังเลเวินเส้าอี๋รีบดึงพลังฝ่ามือของเขากลับ เขาพยายามมาหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงเฝ้าดูพลังภายในที่เขาฝึกฝนมาหลายปี ค่อยๆ หายไปในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นของคนอื่นเมื่อหันมองกู้ชูหน่วนอีกครั้งใบหน้าเล็กๆ ของนางขมวดเป็นปมด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นแดงระเรื่อ ในที่สุดร่างกายของนางก็เหมือนถูกไฟไหม้ ร้อนจนคนไม่กล้าสัมผัสร่างกายของนางรับพลังภายในมากเกินไปไม่ได้ พลังปราณในร่างกายของนางพุ่งชนไปมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะทำลายร่างกายของนาง"วิชาดูดพลังคืออะไร" กู้ชูหน่วนอดทนต่อความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างอดทน แล้วกัดฟันถาม"……""เวินเส้าอี๋ รีบถอนมือเร็ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 439

    ณ หน้าผาเวินเส้าอี๋ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ภาพที่เห็นคือแผ่นหินที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผา เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นเมฆสีขาวจำนวนมาก ไม่รู้ว่าสูงเพียงใดเมื่อมองลงไปด้านล่างเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน คลื่นเลือดสาดกระเซ็นเป็นระยะๆ อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจเมื่อมองไปด้านข้าง กู้ชูหน่วนหมดสติอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเวินเส้าอี๋พยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปหากู้ชูหน่วน มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาลองแตะที่จมูกของนาง ยังมีลมหายใจอ่อนๆ ทำให้ใจที่ตึงเครียดของเวินเส้าอี๋๋ผ่อนคลายลงโชคดีที่มีแผ่นหินที่ยื่นออกมานี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปแล้วหน้าผาสูงเกินไป เขาถูกมังกรไฟทำร้ายสาหัส หากอยู่คนเดียวอาจจะขึ้นไปได้ แต่การพากู้ชูหน่วนขึ้นไปบนยอดผา ช่างยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก"เจ้าขมวดคิ้วดูไม่ดีเลย"กู้ชูหน่วนฟื้นตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แล้วพึมพำเสียงเบา"แค่ก แค่ก......"นางไอออกมาเป็นชุด ไอออกมาเป็นกองเลือดเวินเส้าอี๋จับชีพจรของนาง มองสีหน้าที่อ่อนแรงและซีดเซียวของนาง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างหนักแน่น "เจ้าตกจากที่สูง ปอดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ""ข้าดวงแข็ง พญายมยังกลัวข้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 438

    "ปัง......"กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงมา เพียงแต่สถานที่ที่ตกลงมาไม่ใช่ทะเลโลหิต แต่ตกลงกระแทกบนแผ่นหินที่ยื่นออกมา"โอ๊ย......"กู้ชูหน่วนส่งเสียงครางเบาๆ เอวของนาง......เกือบหักแล้ว"ฟิ้ว......"เวินเส้าอี๋โยนกู้ชูหน่วนขึ้นไปในอากาศ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตกลงมาของนาง ส่วนตัวเองก็ตกลงกระแทกบนแผ่นหินอย่างจัง แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระดูกทั่วร่างราวกับแตกกระจาย แม้แต่อวัยวะภายในก็ยังกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งสองหมดสติไปพร้อมกัน เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนยอดผา พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังต่อเนื่องในหุบเขาทางทิศตะวันตก เย่จิ่งหานและน้องเก้าราวกับรับรู้ได้ว่ากู้ชูหน่วนประสบเคราะห์ร้ายเย่จิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ต้องการออกไปตามหากู้ชูหน่วน แต่ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำอะไรกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาทั้งร่างกายอ่อนแรง พลังภายในสูญสิ้น แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงร้อนใจอยู่ภายใน"หลีลั่ว ส่งคนออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนำพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย""นายท่าน หากทำเช่นนั้น สถานะของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย ถึงย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 437

    เวินเส้าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส......ขณะที่กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะย้อนกลับไปช่วยเวินเส้าอี๋หรือไม่ อุณหภูมิในท้องฟ้าก็ลดลงอย่างกะทันหัน และยังมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้าๆฤดูนี้มีหิมะได้อย่างไร?ที่นี่มีน้ำไม่มาก แล้วจะรวมตัวกันเป็นหิมะได้อย่างไรกัน?หรือว่าเวินเส้าอี๋ใช้พลังภายในแปลงเป็นหิมะ?ความคิดยังไม่ทันกระจ่าง เวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดสะบัดหลุด และตามนางทันแล้วเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างร้อนรน "ไปเร็ว""ข้าใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว"ทั้งสองเดินเคียงข้างกันด้วยความเร็วราวสายฟ้าทะเลโลหิตทั่วฟ้าโปรยปรายลงมาราวกับฝนเลือด ไม่ว่าจะเป็นหินหรือหญ้าที่โดนฝนเลือด ก็ล้วนละลายหรือลุกไหม้อย่างรวดเร็วเวินเส้าอี๋หลบหนีพลางใช้พลังฝ่ามือปัดป้องฝนเลือดไปด้วยทันใดนั้น ภูเขาหินที่ปกติก็แตกออกเป็นโพรงขนาดใหญ่ทั้งสองพลาดพลั้งเหยียบพลาดไป"อ้าก......"เสียงร้องตกใจดังขึ้นกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงไปก้นเหว เสียงร้องหวาดกลัวดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาเวินเส้าอี๋สีหน้าเปลี่ยน เขาปลดปล่อยกระบวนท่าพันจินจุ้ย เร่งความเร็วในการตกลง และใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของกู้ชูหน่วนไว้ ส่วนอีกมือเกาะกำแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 436

    ในขณะที่ลูกไฟกำลังจะตกลงมาใส่นาง พลังฝ่ามืออันเฉียบคมก็สั่นคลอนลูกไฟออกไปทันทีจากนั้นเวินเส้าอี๋ก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ ประสานมือสร้างสัญลักษณ์ และสร้างเกราะป้องกันแสงสีขาวด้วยพลังภายในของเขาที่เส้นแบ่งระหว่างทะเลโลหิตกับหิน เพื่อป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องของมังกรไฟมังกรไฟสะบัดหาง เกราะป้องกันแสงสีขาวสั่นสะเทือนหลายทีตาข่ายขนาดใหญ่ไม่สะทกสะท้าน มังกรไฟว่ายอยู่กลางอากาศ กระแทกตาข่ายขนาดใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะกลืนกินกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋เข้าไปในท้อง"ปัง ปัง ปัง......"ทุกครั้งที่กระแทก เกราะป้องกันแสงจะอ่อนแอลงเวินเส้าอี๋กระตุ้นพลังภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกราะป้องกันแสง"ปัง......"เกิดการกระแทกครั้งใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับลาวาจากทะเลโลหิตที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้ามุมปากของเวินเส้าอี๋ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาในดวงตาอ่อนโยนและสงบนนิ่งของเขาเผยร่องรอยของความตกใจสัตว์อสูรขั้นเจ็ด......เป็นสัตว์อสูรขั้นเจ็ดจริงๆ ด้วย และเป็นมังกรไฟของทะเลโลหิตที่มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเขาและเย่จิ่งหาน หัวหน้าเผ่าหมอ อยู่ในระดับเดียวกัน แต่พวกเขาทั้งสาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status