Share

บทที่ 7

Author: เย่ชิงขวง
last update Last Updated: 2024-11-26 14:56:24
กู้ชูหยุน ลูกสาวที่สองของเขานั้นรอบรู้ศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งฉิน หมากล้อม ตำรา วาดภาพ จึงถูกบังคับให้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง จวบจนตอนนี้ขุนนางเล็กใหญ่ในราชสำนักยังคงอิจฉาเขา อัครเสนาบดีกู้เองภาคภูมิใจเไปได้อีกนาน

แต่ว่า...

ลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่รู้หนังสือแม้สักแต่ หากเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวงท่ามกลางเหล่าปัญญาชนมากมาย คงเสียหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นนางยังหน้าตาขี้อัปลักษณ์ชวนอาเจียน

เมื่อมีราชโองการ นางจึงเป็นหานเฟยโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากนางเสียหน้า ก็เท่ากับหานอ๋องเสียหน้าไปด้วย

หากอัครเสนาบดีกราบทูลฝ่าบาท ฝ่าบาทจะต้องพอพระทัยและสรรเสริญเขาอย่างมาก

แต่เขาก็เท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับหานอ๋องโดยสิ้นเชิง

อัครเสนาบดีกู้ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าการเลือกข้างฝ่าบาทจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“หากหลันเอ๋อร์ฉลาดได้เจ้าสักครึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ต้องเสียความบริสุทธิ์”

อี๋เหนียงห้าซบใบหน้าเข้าหาอ้อมกอดของอัครเสนาบดีกู้ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “หลันเอ๋อร์ยังเด็ก คิดอะไรไม่รอบคอบ จึงถูกใส่ร้าย โชคดีที่รู้เรื่องนี้ไม่กี่คน หากปกปิดได้ดี เรื่องที่หลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ ต่อจากนี้ไปข้าจะอบรมหลันเอ๋อร์ให้ดี ขอนายท่านโปรดอย่าได้หมดหวังในตัวนางเลย”

อัครเสนาบดีกู้กอดอี๋เหนียงห้าไว้แน่น ใจเต็มไปด้วยความกังวล

ไม่นานนัก จวนอัครเสนาบดีก็ได้รับราชโองการอีกหนึ่งฉบับ ใจความของราชโองการมีอยู่ว่า คุณหนูสามจะได้อภิเษกสมรสเป็นหานอ๋องเฟย จึงอนุญาตให้เข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงเพื่อร่ำเรียน หมายมั่นว่าวันหน้าจะเป็นหานอ๋องเฟยที่รู้หนังสือมารยาทงาม และให้กู้ชูหลันคุณหนูห้าเข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงด้วย

เมื่อได้รับราชโองการ จวนอัครเสนาบดีก็อลหม่านอีกครั้ง

ฮูหยินใหญ่หน้าเสีย ลูกสาวของนางกู้ชูหยุนได้เข้าศึกษาในสำนักบัณฑิตหลวงเป็นความภาคภูมิใจของนางมาตลอด แต่บัดนี้จวนอัครเสนาบดีกลับส่งคุณหนูไปอีกสองคน คุณค่าของลูกสาวนางจะไม่ลงหรือ

อี๋เหนียงห้าและกู้ชูหลันดีใจสุดขีด อี๋เหนียงห้ายิ่งมั่นใจว่าการเลือกข้างฝ่าบาทนั้นถูกต้อง

ณ เรือนอี๋เหนียงสาม คุณหนูเจ็ดกู้ชูฉิงโยนข้าวของจนแตกกระจาย ปากสบถด่าไม่หยุด

“กู้ชูอวิ๋นความสามารถโดดเด่น จึงได้รับอนุญาตให้เข้าศึกษาในสำนักบัณฑิตหลวง นั่นก็เรื่องหนึ่ง หากฝ่าบาทหมายจะดูหมิ่นหานอ๋อง จึงส่งนางสารเลวกู้ชูหน่วนนั่นเข้าสำนักบัณฑิตหลวงให้อับอายขายขี้หน้า ข้ายังพอยอมรับได้ แต่กู้ชูหลันมีสิทธิ์อะไรเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง? นางเป็นแค่ลูกสาวอนุ แถมยังเป็นลูกสาวอนุที่เสียบริสุทธิ์แล้วอีกต่างหาก”

“จวนอัครเสนาบดีมีคุณหนูสี่คน ตอนนี้คนที่สอง คนที่สาม คนที่ห้าก็เข้าเรียนแล้ว เหลือข้าเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เข้า ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? อี๋เหนียง ข้าไม่ยอม”

ความชั่วร้ายเผยในแววตาของอี๋เหนียงสาม

ไม่เพียงแต่ที่กู้ชูอวิ๋นที่ไม่ยอม นางก็ไม่ยอมเช่นกัน

เพราะอี๋เหนียงห้ารูปโฉมคล้ายกับคู่หมั้นคู่หมายที่จากไปของนายท่าน จึงเป็นที่คนโปรดของนายท่าน ข่มเหงพวกนางมานานหลายปี

บัดนี้ กู้ชูหลันเสียความบริสุทธิ์แล้ว แต่ยังก็เหยียบย่ำพวกนางเหมือนเดิม

จะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ นางจะคอยดู ว่าพวกนางจะจองหองไปได้ถึงเมื่อไร

อี๋เหนียงสามสบถ “ยิ่งไต่สูง ตกลงมายิ่งเจ็บหนัก รีบร้อนไปทำไม”

ในห้องเตาผิง

ชิวเอ๋อร์รีบดึงกู้ชูหน่วนให้ลุกจากเตียง

“คุณหนู ลุกขึ้นมาเถอะเจ้าคะ เช้านี้มีราชโองการมาแล้ว ทรงพระโปรดเกล้าให้คุณหนูเข้าเรียรที่สำนักบัณฑิตหลวง เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นะเจ้าคะ มีคนไม่รู้เท่าไหร่อยากเข้าแต่เข้าไม่ได้”

กู้ชูหน่วนกลอกตา นอนหลับต่อ

เพิ่งจะหลุดพ้นจากมัธยมปลายสามปี มหาวิทยาลัยอีกสี่ปี จะให้เธอเรียนอีกหรือ ฟ้าช่วยผ่าเธอให้ตายที

ยิ่งไปกว่านั้น นี่มันเรียกว่าพระมหากรุณาธิคุณหรือ เรียกว่าดูหมิ่นเสียมากกว่า

“คุณหนู เหตุใดจึงนอนลงอีกล่ะเจ้าคะ จะสายอยู่แล้ว ไปเรียนสายตั้งแต่วันแรก อาจารย์จะไม่ประทับใจเอา ที่สำคัญคือ เจ๋ออ๋องก็เรียนยู่ที่สำนักบัณฑิตหลวงด้วย หากพวกท่านสองคนได้อยู่ใกล้ชิดกัน เจ๋ออ๋องอาจเปลี่ยนใจ ขอร้องฝ่าบาทยกเลิกการถอนหมั้นก็ได้”

กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูด

ราชโองการถอนหมั้นก็ออกมาแล้ว ราชโองการอภิเษกสมรสก็ออกแล้ว เจ๋ออ๋องจะเปลี่ยนใจได้หรือ

กู้ชูหน่วนเปลี่ยนท่าแล้วนอนต่อ

แต่ชิวเอ๋อร์ดึงนางขึ้นอย่างไม่ลดละ จนนางนอนต่อไม่ไหว

“ข้าบอกแล้ว ให้ข้านอนต่ออีกสักหน่อย ข้าง่วงมาก”

ให้ตายเถอะ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับชายหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ทั้งคืน ตอนนี้ขาสองข้าของเธอยังปวดเมื่อยไหมหายเลย

ชิวเอ๋อร์เอ่ยเสียงจริงจัง ไม่สนใจว่านางจะโกรธหรือไม่ เอ่ยตามตรง “ไม่ได้เจ้าค่ะ ฝ่าบาทให้คุณหนูห้าไปเรียนเป็นเพื่อนกับคุณหนู เข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงด้วยกัน คุณหนูห้าชอบเจ๋ออ๋อง นางจะต้องพยายามฉอเลาะเจ๋ออ๋องแน่นอน เราจะยอมให้คุณหนูห้าแย่งเจ๋ออ๋องไปไม่ได้”

กู้ชูหน่วนปวดหัว

เจ๋ออ๋องอีกแล้ว เจ๋ออ๋องมีดีอะไร ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชิวเอ๋อร์ถึงได้ยึดติดกับเจ๋ออ๋องขนาดนี้

กู้ชูหน่วนปล่อยให้ชิวเอ๋อร์แต่งตัวให้ ส่วนตัวเองกัดหมั่นโถวในมือราวกับกำลังระบายอารมณ์

“คุณหนู เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

กู้ชูหน่วนมองกระจก ชิวเอ๋อร์ทำผมทรงสูงให้ สวยมากทีเดียว ผ้าคลุมหน้าสีขาวปกคลุมใบหน้าขี้เหร่ของนาง เผยให้เห็นเพียงดวงตาสุกใส

เมื่อมองลงมา ก็เห็นชุดใหม่ นางเอ่ยเย้ยหยัน “ในที่สุดจวนอัครเสนาบดีถึงกับยอมให้ชุดใหม่แล้วหรือ”

“ไม่ใช่เจ้าคะ ข้าทาสไปยืมเงินจากเพื่อนในจวน ซื้อชุดใหม่มาให้คุณหนู ถึงเนื้อผ้าจะไม่ดีเท่าคุณหนูห้า แต่ก็เป็นชุดใหม่ คุณหนูไปสำนักบัณฑิตหลวงจะได้สู้หน้าเขาได้”

“มือเจ้าเป็นอะไร?”

กู้ชูหน่วนจับมือชิวเอ๋อร์ แต่ก็พบว่าฝ่ามือของนางบวมแดง เหมือนถูกตี

ชิวเอ๋อร์รีบดึงมือกลับ ซ่อนไว้ข้างหลัง หัวเราะเจื่อน “ไม่มีอะไรหรอกเจ้าคะ แค่ทำงานแล้วบาดเจ็บเล็กน้อย”

“พูดความจริงมา”

กู้ชูหน่วนหน้าเคร่งขรึม รังสีน่าเกรงขามแผ่ซ่านออกมา จ้องมองชิวเอ๋อร์ ราวกับมองนางออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

ชิวเอ๋อร์หวาดกลัว ต่อหน้ากู้ชูหน่วน นางไม่กล้าโกหกแม้แต่คำเดียว

จึงทำได้เพียงสารภาพออกไป “ตอนไปซื้อชุดกลับมา เจอสาวใช้คนสนิทของอี๋เหนียงห้า นางบังคับให้ข้าส่งชุดให้นาง ข้าไม่ยอม จึง…จึงโดนลงโทษเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

“ปึง…”

กู้ชูหน่วนโยนหมั่นโถวในมือทิ้ง เลือดขึ้นหน้า ก่อนจะหยิบไม้กลองวิ่งไปที่ลานบ้าน ตีกลองเสียงดังปึง ปึง ปึง

ชิวเอ๋อร์ตกใจ ร้อนรนจนแทบร้องไห้ “คุณหนู ไม่ชอบเนื้อผ้าของชุดที่ข้าทาสซื้อมาหรือเจ้าคะ หากท่านไม่พอใจ ข้าจะไปซื้อชุดที่ดีกว่ามาให้”

“คุณหนู อย่าตีอีกเลยเจ้าคะ ขึนตีต่อไป คนในจวนจะแตกตื่นเอานะเจ้าคะ”

“ตึง ตึง ตึง…”

กู้ชูหน่วนตีกลองเสียงดังสะท้าน ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

คนในจวนต่างตื่นตกใจ

อี๋เหนียงห้าตะโกนด่า “กู้ชูหน่วน เจ้าบ้าไปแล้วหรือไร ตีกลองอะไรแต่เช้า เจ้าไม่นอน แต่จะไม่ให้คนอื่นนอนเลยหรือ”

กู้ชูหน่วนทิ้งไม้กลองในมือ ง้างมือขึ้น ตบอี๋เหนียงห้าสองฉาด ทว่าเหมือนยังไม่สะใจ นางจึงง้างมือตบอีกสองฉาด

ฝ่ามือนั้นรุนแรง ใบหน้าของอี๋เหนียงห้าบวมแดงในทันใด รอยฝ่ามือสิบนิ้วเด่นชัด

เฮือก...

คนที่ง่วงนอนเมื่อครู่พลันตื่นเต็มตา เพราะฝ่ามือนั้น ความง่วงงุนก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 8

    คุณ...คุณหนูสาม... กล้าตบ...ตบหน้าอี๋เหนียงห้าเลยหรือ...แม่เจ้า พวกเขาไม่ได้ตาฟาดใช่ไหมอี๋เหนียงห้าเป็นถึงอนุคนโปรดของนายท่านเชียวนะอี๋เหนียงห้าโดนตบจนเห็นดาว เกือบเซล้ม นางกุมใบหน้าบวมแดงอย่างตกตะลึง ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาดอี๋เหนียงห้าเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ตวาดลั่น "นี่เจ้ากล้าตบข้าหรือ?""ก็ตบเจ้าอย่างไรเล่า""สามหาว! สามหาว! ใครก็ได้ จับตัวคุณหนูสามเอาไว้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้เข็ด""กล้าก็เข้ามา"กู้ชูหน่วนที่เคยอ่อนแอ กลับแผ่รังสีทรงอำนาจไปทั่วร่างแววตาของนางเย็นยะเยือก เย็นชาไร้ซึ่งตวามรู้สึก เมื่อถูกนางจ้องมอง เหล่าบ่าวรับใช้ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับก้าวเท้าข้างหนึ่งลงนรกไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นกู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย็นชา "ท่านแม่ข้าคือน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเจาหลิง ส่วนข้านั้นเป็นลูกสาวแท้ๆ ขององค์หญิง คุณหนูสามสายตรงแห่งจวนอัครเสนาบดี อี๋เหนียงห้าจะเทียบอันใดได้? ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำในจวนอัครเสนาบดี อย่าว่าแต่ข้าตบเจ้าวันนี้เลย ต่อให้วันนี้ข้าฆ่าเจ้า ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้"ตาลายทุกคนต่างตาลายหากการที่นางปฏ

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 9

    ฮูหยินใหญ่หัวใจกระตุกวูบนางคิดบัญชีกับอี๋เหนียงห้าเสร็จแล้ว ก็หันมาคิดบัญชีกับนางงั้นหรือ?ฮูหยินใหญ่ส่งสายตาให้แม่นมผู้ดูแล ตวาดเสียงลั่น "เงินเดือนของคุณหนูสามเล่า เหตุใดนางถึงไม่ได้รับ? หรือว่าพวกเจ้าแอบยักยอก""ฮูหยินโปรดตรวจสอบ ต่อให้ข้าทาสจะใจกล้าเพียงใด ข้าทาสก็ไม่กล้ายักยอกเงินเดือนของคุณหนูสามหรอกเจ้าค่ะ ข้าทาสจะตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าค่ะ""แม่นมไป๋ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนละ ในเมื่อบัดนี้ข้าคือว่าที่พระชายาของเทพสงครามหานอ๋อง หากหานอ๋องรู้เข้าว่าพระชายาของเขาใช้ชีวิตอย่างลำบาก เกรงว่าเขาคงจะไม่พอใจนัก""เจ้าค่ะๆ..."คนทั้งจวนสีหน้าไม่สู้ดีนักยังไม่ทันได้เป็นหานอ๋องเฟย ก็เริ่มวางท่าเป็นหานอ๋องเฟยแล้ว ใครก็รู้ว่าหานอ๋องมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หากหานอ๋องไม่อยู่แล้ว คอยดูซินางจะอวดดีเช่นนี้หรือไม่กู้ชูหน่วนกวาดตามองทุกคน ณ ที่นั้น ก่อนจะประกาศตนเสียงทรงอำนาจ "นับแต่วันนี้เป็นต้นไป หากผู้ใดกล้ารังแกชิวเอ๋อร์ ก็เท่ากับรังแกข้า แม้ในจวนนี้ข้าจะฐานะต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ข้าคิดว่าด้วยฐานะของธิดาแห่งองค์หญิงเจาหลิง หากจะสั่งประหารชีวิตใครสักคนคงพอมีอำนาจอยู่บ้าง"ทุกคนหวาดผวาตัวสั่

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 10

    กู้ชูหลันชะงักไป ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรจะบอกว่านางจงใจไม่ปลุกตัวเอง แต่กลับมาสำนักบัณฑิตแต่เช้างั้นหรือ?คำพูดแบบนั้น จะให้นางพูดออกไปได้อย่างไรกู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "อีกอย่างเจ้าไม่ได้อาบน้ำจุดธูปหอม ไม่ตามข้าไปไหว้พระขอบพระทัยฝ่าบาท ถึงได้จงใจว่าร้ายข้า""ข้า..."ให้ตายสิ นางสารเลวนี้ ติดกับนางอีกจนได้สีหน้าของกู้ชูหลันเปลี่ยนไปตามอารมณ์ ทว่าตัวนั้นกลับนั่งไม่ติดที่เซียวอวี่เชียนหันไปหากู้ชูหน่วนแล้วยกนิ้วให้ เพราะกู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างเขา เขาจึงเอ่ยกระซิบ "สาวน้อย ไม่เจอกันวันเดียว ฝีปากเหนือชั้นยิ่งกว่าเดิมอีกนะ"กู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ ยกตำราขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง หันหน้ามายิ้มเอ่ยกับเซียวอวี่เชียน "ชมกันอีกแล้ว หากฝีปากไม่ดี ท่านจะมาสู่ขอหรือ""โครม..."เซียวอวี่เชียนล้มลงในทันที สีหน้าพลันถมึงทึงหญิงผู้นี้ เกิดปีลิงหรืออย่างไร ถึงได้เล่ห์เหลี่ยมปานนี้นางรู้จักทำคำว่าจริงจังหรือไม่ลองนึกว่าหากตัวเองแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์ ท่านพ่อคงตีเขาจนขาหักกู้ชูหลันนั่งข้างเจ๋ออ๋อง นางลอบมองกู้ชูหน่วนไม่ได้กลับบ้านไม่นาน น้องสามของนางเปลี่ยนไปยิ่งนักก่อนหน้า

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 11

    เหอะ ตัวยาสามสิบสองชนิด แถมยังเติบโตในสภาพแวดล้อมต่างกันทั้งหมด กว่าเธอจะเก็บได้ทุกชนิด สู้หาเงินแล้วไปซื้อเอายังจะง่ายกว่าเสียงพูดของอาจารย์สวีเหมือนยานอนหลับ บวกกับตั้งแต่ข้ามกาลเวลามาก็ยังไม่เคยได้พักผ่อนเต็มที่ กู้ชูหน่วนจึงผล็อยหลับไปจนกระทั่งนางสะดุ้งตื่นเพราะเซียวอวี่เชียนสะกิดนางเงยหน้าพรวดขึ้น "เช้าแล้วหรือ?"อาจารย์สวีเดือดดาล "กู้ชูหน่วน เจ้ายังเห็นอาจารย์เฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตาหรือไม่?"กู้ชูหน่วนเกาหูตาเฒ่านี่ อายุปูนนี้แล้วยังขี้โมโหอีกทุกคนในห้องเรียนต่างหัวเราะอย่างอดไม่ได้มาสายก็แล้วไป แต่ยังกล้าหลับในห้องเรียนอีกอาจารย์สวีขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว"ที่นี่คือห้องเรียนแห่งสำนักบัณฑิตหลวง แผ่นดินนี้มีคนไม่รู้เท่าไหร่เฝ้าฝันอยากจะเข้ามาเรียน แต่เจ้า... เจ้ากลับหลับในห้องเรียน เจ้า...เจ้าอยากจะให้ข้าอกแตกตายหรืออย่างไร?"เซียวอวี่เชียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขาควรจะดีใจ หรือว่าควรจะสงสารนางดี?ตอนกู้ชูหน่วนยังไม่มา คนที่ถูกอาจารย์ต้อนถามทุกครั้งคือเขา ตอนนี้เหมือนลมจะเปลี่ยนทิศเสียแล้ว ยัยขี้เหร่นี่ ไม่เอาอ่าวยิ่งกว่าเข้าเสียอีกอย่างมากเขาก

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 12

    ทุกคนล้วนแต่คาดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะท่องได้ทุกคำ"เถาวัลย์พันเครือ เมล็ดพันธุ์แตกยอด ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"เฮือก...ทั้งห้องเรียนตกตะลึงนาง...นางท่องได้อย่างไร?บทกลอนของซูหลีสาบสูญไปแล้วมิใช่หรือ? พวกเขารู้แค่ครึ่งท่อนแรกเท่านั้นเองเฒ่าสวีตาค้างกู้ชูหลันกับกู้ชูอวิ๋นและคนอื่นๆ นิ่งอึ้งเจ๋ออ๋องมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่เชื่อสายตาแม้แต่ซ่างกวานฉู่ข้างอาจารย์สวีที่ถือตำราอยู่ยังมือสั่น เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาอันงดงามคู่นั้นราวกับกำลังสำรวจกู้ชูหน่วนคนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภอย่างนั้นหรือนาง...รู้กลอนซูหลีได้อย่างไร"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์ออกผล ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"สายตาแปลกประหลาดของทุกคนทำเอากู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิกนี่ไม่ใช่กลอนของซูหลีหรือไงเธอไม่กล้าท่องวรรคที่สามแล้วทำได้เพียงเอ่ยอย่างเก้อเขิน "คือว่า...อาจารย์เจ้าคะ ข้าไปวิ่งห้าสิบรอบก็ได้ แต่กู้ชูหลันเป็นบัณฑิตผู้ติดตาม หากข้าต้องถูกทำโทษ นางมีเหตุผลอะไรจะไ

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 13

    "เจ้าว่ามาได้เลย""เมื่อคืนข้านอนไม่ค่อยหลับ ประเดี๋ยวข้าอยากนอนสักงีบ ท่านห้ามลงโทษข้า""ได้ ไม่มีปัญหา"แม่เจ้า ตาเฒ่านี่ ใจเด็ดเสียจริง ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม?เมื่อมองไปที่อาจารย์ซ่างกวานแถวหน้าอีกครั้ง ถึงภายนอกเขาจะดูสงบนิ่ง อ่อนโยนดั่งสายลม แต่เธอรู้ดีว่าจังหวะลมหายใจของซ่างกวานฉู่ถี่รัวขึ้นหลายเท่า เห็นได้ชัดว่าเขาก็อยากฟังกลอนประโยคสุดท้ายเหมือนกันก็ได้ เห็นแก่หนุ่มหล่อ ท่องก็ได้"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์สุกงอม ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?""เยี่ยม... ยอดเยี่ยม... กลอนบทนี้ใช้วิธีซ้ำคำ สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ตัดพ้อที่แตกต่างกันสามแบบของตัวเอกต่อการล่มสลายของราชวงค์โจวอ๋อง""อาจารย์ ข้าหลับได้หรือยัง?""เจ้ารู้กลอนนี้ได้อย่างไร?""อ๋อ... บังเอิญเห็นในตำราโบราณเล่มหนึ่ง" เธอไม่ได้โง่เสียหน่อย จะบอกว่าแต่ก่อนเคยท่อนกลอนบทนี้ได้อย่างไร"ตำราโบราณเล่มใด อ่านได้ที่ไหน? ตำราสมัยก่อนมิได้สาบสูญไปหมดแล้วหรือ?""นานมากแล้ว จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน แต่มิใช่สำนวนต้นฉบับ มีคนแปลมาอีกทีเจ้าค่ะ"ทุกคนพลันกระจ่างแจ้ง

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 14

    "ไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกว่าเป็นประโยคซ้ำคำหรือ?""ประโยคซ้ำคำคืออะไร?""…"กู้ชูหน่วนคิดว่าตัวเองโง่แล้ว แต่พอได้เจอกับเซียวอวี่เชียน เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองเก่งแค่ไหน"ยัยขี้เหร่ คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ แปลว่าอะไรหรือ?""ความหมายใกล้เคียงกับ คุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า เพียงจอดรถม้าเหมือนดั่งสหายครั้งวันวาน""ยัยขี้เหร่ เจ้าช่วยพูดภาษาคนจะได้ไหม ข้าไม่เข้าใจ"กู้ชูหน่วนชะงักไป อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ "คนบางคนรู้จักกันมาทั้งชีวิต ทว่าไม่รู้แม้กระทั่งอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไร คนบางคนเพิ่งเคยพบหน้า แต่กลับรู้ใจกัน คนไม่เข้าใจจะคบหาไปทำไม คนที่เข้าใจกันย่อมรู้ว่าเจ้ารักชังสิ่งใด"เซียวอวี่เชียนพลันกระจ่างแจ้ง "อ๋อ... พวกเราคืออย่างหลังสินะ""ผิด อย่างแรกต่างหาก"รอยยิ้มของเซียวอวี่เชียนชะงักไปหรือว่าพวกเขาไม่มีวาสนาต่อกันขนาดนั้น?คนที่ยังไม่ออกจากห้องเรียนได้ยินคำพูดของกู้ชูหน่วนเจ๋ออ๋องมองนางอย่างสงสัยไม่เจอกันเพียงไม่นาน เหตุใดนางถึงได้เปลี่ยไปเป็นคนละคน?คนไม่รู้หนังสือท่องกลอนคุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า เพียงจอดรถม้าเหมือนดั่งสหายครั้งวันวานได้ด้วยหรือ?กู้ชูอวิ๋นประหลาดใจกั

    Last Updated : 2024-11-26
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 15

    กู้ชูหน่วนจ้องมองใบหน้าบวมแดงของนาง เอ่ยประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายโกรธจนแทบบ้า "อืม คราวนี้ค่อยสมมาตรกันหน่อย"แค้นนัก...องค์หญิงตังตังเดือดจนอกแทบระเบิด แผดเสียงลั่น "มัวนิ่งอยู่ทำไม ยังไม่รีบจับตัวกู้ชูหน่วนอีก ข้าจะให้นางต้องร้องขอชีวิต ให้นางต้องนึกเสียใจที่เกิดมาไปตลอดชาติ"เหล่าองครักษ์ล้อมกู้ชูหน่วนเอาไว้ทุกคนเป็นห่วงกู้ชูหน่วนอย่างอดไม่ได้แต่กู้ชูหน่วนราวกับไม่สนใจ กลับกันยังยิ้มเอ่ยเสียงเนิบ "ข้าคือน้าสะใภ้ขององค์หญิง น้าสะใภ้จะสั่งสอนหลานสาวสักหน่อย ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว พวกเจ้ากล้าจับตัวข้าหรือ? ได้ เช่นนั้นเราไปหาท่านอ๋องเทพสงครามกัน แล้วนับญาติกันให้ชัดเจน"ท่านอ๋องเทพสงครามคือบุคคลต้องห้าม เหล่าองครักษ์ไม่กล้าขยับตัวยิ่งไปกว่านั้นกู้ชูหน่วนเน้นย้ำคำว่านับญาติ พวกเขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องนับญาติในราชวงศ์ได้อย่างไรองค์หญิงตังตังกระทืบเท้าตึงตัง "กู้ชูหน่วน เจ้ามันหน้าไม่อาย เสด็จน้าข้าพูดเมื่อใดว่าจะแต่งงานกับเจ้า""แปลกนัก ราชโองการมิใช่เสด็จพี่ของเจ้าเป็นผู้รับสั่งหรอกหรือ? เทพสงครามจะไม่แต่งงานกับข้างั้นหรือ? เช่นนั้นก็ได้ เจ้าก็บอกให้เสด็จพี่ของเจ้ายกเลิกร

    Last Updated : 2024-11-26

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 140

    ชายแคระปากบอกว่าได้ แต่ดาบในมือกลับฟาดแรงขึ้นทุกที ร้องเสียงดังลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน“หนุ่มน้อย นางผู้นี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าถึงได้ปกป้องนางด้วยชีวิตเช่นนี้?”เด็กหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ตั้งสมาธิรับมือการต่อสู้แต่หญิงวัยกลางคนกลับหัวเราะคิกคักตอบว่า “เขาเป็นของข้า จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับยัยขี้เหร่เล่า มากสุดก็แค่อยากได้กระดิ่งภินวิญญาณเท่านั้น”“ของที่พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานต้องการ เจ้าก็กล้าแย่ง? กล้ามากเลยนะ”"ปัง..."ดาบโจมตีไม่โดนเด็กหนุ่ม แต่กลับผ่ากำแพงดินหลังเด็กหนุ่มออกเป็นสองท่อน กำแพงดินที่แข็งแกร่งพังทลายลงจนเสียงดังกึกก้อง“เจ้าห้า หลังจากวันนี้ไป เขาอาจเป็นคนของพวกเราเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน เจ้าลงมือเบาหน่อย อย่าทำร้ายเขาจนพิการ”“รู้แล้ว รำคาญเสียจริง”กู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองการต่อสู้ในสนามด้วยท่าทีผ่อนคลายชายแคระมีกำลังมาก มีพลังภายในแก่กล้า และลงมือด้วยกำลังอันป่าเถื่อน ส่วนเด็กหนุ่มกลับมีดวงตาเย็นชาและสงบนิ่ง มือเล็กยกขึ้นเบาๆ เสียงพิณกระทบกับดาบ ทุกครั้งที่พุ่งชนกัน ดาบราวกับวัวตกลงไปในทะเลโคลน อ่อนปวกเปียก ไม่ว่าจะฟาดอย่างไรก็ไม่โดนเด็กหนุ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 139

    กู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่มชุดดำถูกกลุ่มคนล้อมไว้ พูดให้ถูกคือ กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาล้อมไว้ แต่เนื่องจากเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ นางจึงติดร่างแหไปด้วย พวกที่ล้อมพวกเขามีถึงหลายสิบคน ทุกคนสวมชุดดำปิดบังใบหน้า ถือเคียว และมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรหัวหน้าคือชายแคระตัวเตี้ยกับหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนส่งสายตามองเด็กหนุ่มอย่างเร้าร้อน "โอ้ หนุ่มน้อย แค่มองรูปร่างของเจ้า ข้าก็น้ำลายไหลแล้ว อยากจะให้เจ้าถอดหน้ากากออก แล้วให้ข้าได้ดูแลเจ้าดีหรือไม่""เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน" เด็กหนุ่มค่อยๆ เอ่ย"เจ้าตาดีไม่เบา พวกเราหลบซ่อนอยู่ในเขาอินซานมานานหลายปี ไม่คิดว่าจะมีใครจำพวกเราได้""แล้วอีกสองคนล่ะ""แค่พวกเจ้าสองคน ไม่จำเป็นต้องใช้พวกเราทั้งสี่คนหรอก" ชายแคระแบกดาบใหญ่ ดาบนั้นสูงกว่าตัวเขา ทำให้ดูไม่สมส่วนเขาเสียงดัง หน้าตาอัปลักษ์ ตาโปน ราวกับเป็นดวงตาของปลาตาย แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวกู้ชูหน่วนพยายามค้นหาความทรงจำในสมองของนาง นางพอจะจำได้เลือนลางเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานมีเจ็ดคน แต่ละคนวิทยายุทธเก่งกาจและโหดเหี้ยมมาก พวกเขาฆ่าคนเป็นว่าเล่น เมื่อหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 138

    กู้ชูหน่วนเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านตีเหล็กกลางเมืองหลวง ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มอย่างเกียจคร้านราวกับกำลังพูดกับตนเอง“คืนนี้มืดมิดเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่รอบข้าง ใต้เท้าจะไม่ออกมา หรือว่าจะให้ข้าพากลับบ้านไปต้มหม้อไฟดี?”ในความมืดมิด ปรากฏเด็กหนุ่มสวมหน้ากากดำถือพิณเดินออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายเปล่งประกายด้วยความเย็นชาเด็กหนุ่มวัยยังน้อย รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน โดยเฉพาะชุดรัดรูปที่สวมใส่ ทำให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างชัดเจนหลังของเขาแบกพิณสีดำสนิท ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมืดออกมาเพื่อลอบสังหาร แล้วยังแบกพิณมาด้วย คนผู้นี้ช่างมีรสนิยมจริงๆกู้ชูหน่วนพิจารณาเขาอย่างละเอียด รู้สึกว่าดูคุ้นตานางกะพริบตาปริบๆ ยิ้มเอ่ยว่า “หนุ่มน้อย รูปร่างดีจริงๆ ไม่รู้ว่าหน้าตาจะหล่อเหลาแค่ไหน หากว่าหล่อจริง ข้าอาจจะยอมให้จีบก็ได้นะ”เด็กหนุ่มหน้าตายเอ่ยเพียงประโยคเดียวว่า “ข้าต้องการเพียงกระดิ่งภินวิญญาณ”“เช่นนั้นเจ้าบอกข้าทีว่า เจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณไปทำไม หรือจะตอบว่ากระดิ่งภินวิญญาณนี้มีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้นะ หากคำตอบของเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะมอบมันให้เจ้า”“ข้าต้องการเพียงแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 137

    "ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง..."อาวุธลับฝังเข้าไปในผนัง ลึกเข้าไปในเนื้อไม้สามส่วน เซียวอวี่เชียนสะดุ้งจนคอหดอาวุธลับนี้ หากโดนคนเข้าล่ะก็ คงทะลุร่างแน่นอน"ใคร? ใครลอบโจมตี?" เซียวอวี่เชียนตะโกนลั่นสำนักบัณฑิตหลวงมียอดีมือคอยปกป้องจำนวนมากเช่นนี้ ยังมีคนแอบเข้ามาฆ่าคนได้อีกหรือ? ช่างจองหองเกินไปแล้วกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว กำกระดิ่งภินวิญญาณในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและยิ้มเอ่ยว่า "ก็แค่พวกโจรขโมยชั้นต่ำ พวกเขาคงเห็นว่าข้าชนะการเดิมพันมามาก เลยเกิดความโลภน่ะ"เซียวอวี่เชียนแม้จะเจ้าสำราญไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้โง่อาวุธลับสามสิบแปดเล่มนั้นมาพร้อมกับกระบวนท่าสังหาร ผู้มาเยือนไม่ได้คิดจะปล่อยให้ยัยขี้เหร่มีชีวิตอยู่และที่นี่คือสำนักบัณฑิตหลวงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วที่นี่จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า รอบๆ สำนักบัณฑิตหลวงมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่จำนวนมากเมื่อใดก็ตามที่มีคนคุกคามชีวิตนักเรียน เหล่าองครักษ์ลับก็จะออกมาปกป้องทันที"ยัยขี้เหร่ พวกโจรขโมยทั่วไปไม่มีวิทยายุทธตัวเบาที่เก่งกาจเพียงนี้หรอก ข้าว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเจ้านะ""เอาชีวิตอะไรเล่า ข้าไม่ได้ล่วงเกินใครซัก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 136

    ทุกคนต่างถือว่ากระดิ่งภินวิญญาณเป็นสิ่งล้ำค่า ไม่มีใครคิดจะทุบมัน แต่กู้ชูหน่วนกลับคิดนอกกรอบทุบไปหนึ่งทียังไม่แตกกู้ชูหน่วนจึงทุบซ้ำไปซ้ำมาหลายหน แต่ก็ยังไม่แตกจนสุดท้ายนางก็เหนื่อยหอบ"กระดิ่งอะไรเนี่ย แข็งมาก ทุบเท่าไหร่ก็ไม่แตกซักที"เมื่อการทุบกระดิ่งไม่ได้ผล กู้ชูหน่วนก็ลองใช้วิธีอื่นดู เผาด้วยไฟ ลวกด้วยน้ำ แช่ด้วยยา แต่ก็ไม่มีวิธีใดได้ผลกับกระดิ่งภินวิญญาณเลยสักวิธีเดียวไม่รู้ว่ากระดิ่งภินวิญญาณทำมาจากอะไร ถึงได้แข็งแกร่งทนทานขนาดนี้ ไม่ว่าจะใช้ดาบหรือหอกก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่หยกจันทร์เสี้ยว ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้กู้ชูหน่วนเริ่มโมโห นางจึงหยิบอิฐขึ้นมา ตั้งใจจะทุบหยกจันทร์เสี้ยวเพื่อดูโครงสร้างภายในแต่หยกชิ้นนี้มีค่าถึงห้าสิบล้านตำลึง นางจึงลังเลใจ ทำให้มือที่ถืออิฐสั่นเทาหากไม่มีสิ่งใดอยู่ภายในหยก หรือหากหยกแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ เงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะสูญเปล่าขณะนี้กู้ชูหน่วนถึงได้เข้าใจว่ายามนั้นไทเฮาต้องรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด"ตุ้บ..."นางกัดฟัน ก่อนจะเหวี่ยงอิฐก้อนใหญ่ทุบลงไปบนหยกอย่างแรง จนหยกงดงามแตกละเอียดหยกจันทร์เสี้ยวแตกแล้ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 135

    เซียวอวี่เชียนกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก “ในแคว้นเย่ของเรามีเขาสวินหลงแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีของวิเศษขั้นต่ำและขั้นกลางอยู่ไม่น้อย หากโชคดีอาจได้ของวิเศษขั้นสูงด้วย มุกอุ่นประภพของเจ้าสำนักก็ได้มาจากเขาสวินหลงนี่แหละ”"แล้วอย่างไรต่อ?"“ใครที่เข้าไปในนั้นแล้วหาสมบัติอะไรเจอ สมบัตินั้นก็จะเป็นของคนผู้นั้นแต่การจะได้สิทธิเข้าไปใเขาสวินหลงนั้นยากมาก แน่นอนว่า คนของสำนักบัณฑิตหลวงอย่างพวกเรามีสิทธิพิเศษที่จะได้เข้าไปก่อนอยู่แล้ว นี่แหละคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายคนอยากเข้ามาเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง”แม้เซียวอวี่เชียนจะพูดเพียงไม่กี่ประโยค แต่กู้ชูหน่วนก็พอจะเข้าใจว่างานสวินหลงไม่ง่ายอย่างที่คิดใครได้สมบัติไป สมบัติก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น?แต่ก็ต้องรอดชีวิตออกมาจากการแข่งขันให้ได้เสียก่อนการเข่นฆ่าเพื่อแย่งชิงสมบัติก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งของวิเศษราคาสูงอย่างนั้นหรือ?กู้ชูหน่วนลูบคางพลางเกิดความสนใจขึ้นมาหากล่าสมบัติแบบเดียวกับมุกอุ่นประภพได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ก็สามารถใช้รักษาได้ ดูเหมือนจะดีไม่น้อยเลยหลังเลิกเรียน ทุกคนต่างแยกย้ายกันไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนกับเซียวอวี่เช

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 134

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้ชูหน่วนแทบอยากตบเขาให้ตายนางใช้หลักการของรูเล็กเป็นกระจก ส่องแสงจากระยะไกลไปยังช่องหน้าต่าง เซียวอวี่เชียนเพียงแค่วางหมากตามตำแหน่งของช่องหน้าต่าง ก็สามารถเอาชนะเทพหมากล้อมได้อย่างง่ายดายแต่เขากลับเดินพลาดได้แม้แต่ทำตามช่องหน้าต่างกู้ชูหน่วนสงสัยอย่างมากว่าเขาเข้าใจคณิตศาสตร์หรือไม่หากไม่ใช่เพราะนางฉลาดกว่าคนอื่น และวางแผนล่วงหน้าไว้หลายชั้นในการเดินหมากแต่ละครั้ง นางคงแพ้ไปแล้วครั้งนี้แม้จะชนะ แต่ก็ใช้เวลาของนางไปมากจนแทบทำให้สมองของนางหมดแรงไปด้วยหลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยเข้ามาล้อมรอบ "พี่ใหญ่ วิชาหมากของพี่เก่งเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน"เซียวอวี่เชียนหัวเราะอย่างได้ใจ "ก็แค่วางหมาก ข้าหลับตาก็เอาชนะเทพหมากล้อมได้แล้ว"เทพหมากล้อมเดินออกมาด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวแพ้ให้กับอาจารย์ก็ยังพอรับได้ แต่ทำไมถึงแพ้ให้กับเซียวอวี่เชียนหนุ่มเจ้าสำราญผู้นี้ด้วย?หรือว่าหมากของเขาจะแย่มากจริงๆ?วิชาหมากที่เคยภาคภูมิใจ ในสายตาของเทพหมากล้อมยามนี้กลายเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว"ท่านอาจารย์..."กู้ชูหน่วนรีบห้ามไว้ "เจ้าแพ้แล้ว ฉะนั้นการเดิมพันของเราจึงมีผลตั้งแต่บัดนี้เป

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 133

    ไทเฮาตกใจหน้าซีดเกือบล้มหน้าคว่ำ โชคดีที่มีขันทีคอยประคองไว้ใบหน้าของนางแดงบ้างซีดบ้าง ชั่วครู่ใหญ่ก็พูดไม่ออกสักคำองค์หญิงตังตังโกรธจัดตะโกนว่า “กู้ชูหน่วน เจ้าโกง! ข้าไม่ยอมรับผลการแข่งขันรอบนี้!”กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นงุนงง “ข้าโกงตรงไหน? ห้องนั้นมีคนของพวกท่านเฝ้าอยู่ตั้งหลายชั้น จะให้ข้าบินเข้าไปหรือ นอกจากเข้าห้องส้วม ข้าก็อยู่แต่ลานกว้างมาตลอด มีคนของสำนักบัณฑิตเห็นเต็มไปหมด ท่านคิดว่าข้ามีวิชาแปลงร่างที่จะไปสอนเซียวอวี่เชียนเล่นหมากล้อมได้รึอย่างไร”"เจ้า...""หรือว่าเมื่อพวกท่านแพ้แล้วจึงจะเบี้ยวหนี้? ไทเฮาทรงเป็นแม่ของปวงประชาทั้งแผ่นดิน ทรงเป็นแม่แห่งแคว้น บุคคลสำคัญอย่างท่านจะมาเบี้ยวหนี้ได้อย่างไร องค์หญิงตังตังกำลังใส่ร้ายป้ายสีท่าน มีเจตนาที่จะทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียงนะเพคะ"กู้ชูหน่วนพูดรัวเร็วเป็นชุด คำพูดทุกคำล้วนเกี่ยวข้องกับความเห็นชอบของปวงประชาและแผ่นดิน ถึงแม้ว่าไทเฮาอยากจะกลับคำ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้ จึงจำต้องยอมแพ้ และตกลงที่จะมอบเงินห้าสิบล้านตำลึงให้แก่กู้ชูหน่วนองค์หญิงตังตังโกรธจนแทบหมดสติ "เสด็จแม่ นั่นเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียวนะเพคะ เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 132

    หลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยหายใจออกยาวๆยังดี ยังดี น่าจะรักษาเงินห้าสิบล้านตำลึงไว้ได้เยี่ยเฟิงและเจ้าสำนักหันมองตำแหน่งที่กู้ชูหน่วนเคยยืนพร้อมกัน ยามนี้ที่นั่นไม่มีใครอยู่แล้วทั้งสองคนรู้ดีว่ากู้ชูหน่วนคงจะโกงแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่านางโกงได้อย่างไร“คุณหนูสามอยู่ที่ใดกัน นางไปห้องส้วมทำไมนานขนาดนั้น”ไทเฮาแม้จะกังวลผลลัพธ์ แต่ก็ยังคงจับตามองกู้ชูหน่วนอยู่ตลอด เกรงว่ากู้ชูหน่วนจะโกงขันทีคนหนึ่งกระซิบข้างๆ ว่า “กราบทูลไทเฮา คุณหนูสามออกมาจากห้องส้วมก็มานั่งรออยู่ที่ประตู บอกว่าในห้องโถงมีคนมากเกินไป นางรู้สึกอึดอัด”“นางมีส่วนช่วยโกงหรือไม่”“น่าจะไม่พ่ะย่ะค่ะ บ่าวได้ทำตามคำสั่งของไทเฮา ไม่ให้คุณหนูสามเข้าใกล้ประตูบานนั้นเกินสองจั้ง และนอกประตูนั้นก็มีคนของเราแฝงตัวอยู่จำนวนมาก คุณหนูสามเข้าไปไม่ได้แน่นอน”“ตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ดูสิว่านางมีการส่งข่าวอะไรเข้าไปหรือไม่”"พ่ะย่ะค่ะ"จิตใจของไทเฮาเริ่มไม่สงบ เพราะเทพหมากล้อมถอยหนีไม่หยุดและ...จากตำแหน่งของนาง สามารถมองเห็นฉากที่เซียวอวี่เชียนกำลังลงแข่งกับเทพหมากล้อมหมากได้อย่างชัดเจนเซียวอวี่เชียนดูสงบเยือกเย็น ใบหน้าเปี่ยมด้

DMCA.com Protection Status