Share

บทที่ 10

Author: เย่ชิงขวง
กู้ชูหลันชะงักไป ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไร

จะบอกว่านางจงใจไม่ปลุกตัวเอง แต่กลับมาสำนักบัณฑิตแต่เช้างั้นหรือ?

คำพูดแบบนั้น จะให้นางพูดออกไปได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "อีกอย่างเจ้าไม่ได้อาบน้ำจุดธูปหอม ไม่ตามข้าไปไหว้พระขอบพระทัยฝ่าบาท ถึงได้จงใจว่าร้ายข้า"

"ข้า..."

ให้ตายสิ นางสารเลวนี้ ติดกับนางอีกจนได้

สีหน้าของกู้ชูหลันเปลี่ยนไปตามอารมณ์ ทว่าตัวนั้นกลับนั่งไม่ติดที่

เซียวอวี่เชียนหันไปหากู้ชูหน่วนแล้วยกนิ้วให้ เพราะกู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างเขา เขาจึงเอ่ยกระซิบ "สาวน้อย ไม่เจอกันวันเดียว ฝีปากเหนือชั้นยิ่งกว่าเดิมอีกนะ"

กู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ ยกตำราขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง หันหน้ามายิ้มเอ่ยกับเซียวอวี่เชียน "ชมกันอีกแล้ว หากฝีปากไม่ดี ท่านจะมาสู่ขอหรือ"

"โครม..."

เซียวอวี่เชียนล้มลงในทันที สีหน้าพลันถมึงทึง

หญิงผู้นี้ เกิดปีลิงหรืออย่างไร ถึงได้เล่ห์เหลี่ยมปานนี้

นางรู้จักทำคำว่าจริงจังหรือไม่

ลองนึกว่าหากตัวเองแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์ ท่านพ่อคงตีเขาจนขาหัก

กู้ชูหลันนั่งข้างเจ๋ออ๋อง นางลอบมองกู้ชูหน่วน

ไม่ได้กลับบ้านไม่นาน น้องสามของนางเปลี่ยนไปยิ่งนัก

ก่อนหน้านี้นางแกล้งโง่ หรือว่า...

"หญิงอัปลักษณ์ แต่อวดดีจริงเชียว เจ้ามาสายเองแท้ๆ ทำเสียเหมือนอาจารย์จงใจกลั่นแกล้งเจ้าเสียอย่างนั้น"

คนพูดคือองค์หญิงตังตัง อายุราวสิบห้าสิบหกปี แม้ว่าจะยังเด็ก แต่หน้าตาใช้ได้ พอมองออกว่าวันหน้าต้องเป็นหญิงงามแน่นอน จากความดื้อรั้นบนใบหน้า มองปราดเดียวก็รู้ว่า ต้องเป็นองค์หญิงเอาแต่ใจ

อาจารย์สวีพยักหน้าเห็นด้วย "องค์หญิงตังตังพูดถูก"

กู้ชูหน่วนผายมือยักไหล่ "ข้าก็ไม่บอกว่าองค์หญิงพูดผิดนี่เจ้าคะ ข้าสำนึกผิดแล้วมิใช่หรือ ถึงได้หวังว่าอาจารย์จะให้โอกาสข้าได้กลับตัว"

หลอกใครกัน

ท่าทางโอหังนั่น เรียกว่าสำนึกผิดหรือ?

"ในเมื่อคุณหนูสามสำนึกผิด ทั้งยังเป็นความผิดครั้งแรก อาจารย์สวีให้โอกาสนางเถิดขอรับ"

ทันใดนั้น น้ำเสียงอ่อนโยนก็เอื้อนเอ่ยขึ้น เสียงนั้นก้องกังวาน ไพเราะเลยทีเดียว ได้ยินแล้วชวนให้รู้สึกสงบนิ่ง

กู้ชูหน่วนหันไปมอง ถึงได้พบว่าข้างอาจารย์สวีนั้นมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่

ชั่ววินาทีที่เห็นชายคนนั้น กู้ชูหน่วนก็ตกตะลึงในทันที

นี่มันผู้ชายอะไรกัน อบอุ่นดั่งแสงตะวัน สง่างามทว่าอ่อนน้อม รอบกายแผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายของผู้คงแก่เรียน

เครื่องหน้าของเขาหล่อเหลา ราวกับเทพเซียนมาจุติ

เขาสวมชุดสีขาวพริ้วลม ดุจดั่งเทวดา เส้นผมสีดำหมึกถูกรวบไว้ด้านข้างด้วยเชือกขาวอย่างไม่ตั้งใจ ปล่อยให้เส้นผมดำขลับนั้นคลอเคลียลงมา

ยามลมพัดผ่าน เส้นผมปลิวไสว ยิ่งทำให้ดูงดงามไร้ปรุงแต่ง โดดเด่นกว่าใคร

กู้ชูหน่วนกล้ายืนยันได้เลยว่า นอกจากชายหนุ่มที่ถูกเธอข่มเหงในวันนั้นแล้ว ตั้งแต่เกิดมานี่คือหนุ่มหล่อที่หล่อที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น

"นี่ กู้ชูหน่วน เหตุใดถึงเอาแต่จ้องอาจารย์ซ่างกวานเช่นนั้น ข้าขอเตือนเจ้า หากเจ้ากล้ามองเขาอีก ระวังข้าจะควักลูกตาเจ้า" องค์หญิงตังตังโมโห

กู้ชูหน่วนเข้าใจแล้ว

องค์หญิงเอาแต่ใจนั่นชอบอาจารย์หนุ่มน้อยคนนี้สินะ

ตาแหลมไม่เบานี่

อย่างน้อยก็ดีกว่ากู้ชูหลันกับกู้ชูฉิงเยอะ

แม้เจ๋ออ๋องจะไม่ได้ขี้เหร่ แต่หากเทียบกับอาจารย์ซ่างกวานแล้ว ไม่รู้ว่าห่างกันกี่โยชน์

"องค์หญิง หากว่าตามอาวุโสแล้ว ข้าคือน้าสะใภ้ของท่าน พูดจากับน้าสะใภ้ ต้องระวังคำพูดนะเจ้าคะ"

"น้าสะใภ้อะไรกัน ข้าไม่มีน้าสะใภ้อัปลักษณ์เช่นเจ้าหรอก"

"ในสายตาของคนรัก ข้าย่อมงามดุจไซซี บางทีท่านก็ลองถามเสด็จน้าเทพสงครมดู คงชอบแบบข้านี่แหละ"

เงียบกริบ

ทั้งห้องเงียบสงัดไร้เสียง ทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน

ใต้ฟ้านี้ไม่มีผู้ใดกล้าหยิบยกหานอ๋องมาล้อเล่นหรอกนะ นางไม่กลัวว่าตายแล้วจะไม่เหลือศพให้ฝังหรือ?

เมื่ออาจารย์ซ่างกวานพูดเช่นนั้น อาจารย์สวีก็ไม่คิดกลั่นแกล้งกู้ชูหน่วนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้ลามปามไปถึงเทพสงครามด้วย

"เอาละๆ เรื่องนี้ให้จบเพียงเท่านี้ คุณหนูสามตระกูลกู้ ถือว่าเป็นความผิดครั้งแรกของเจ้า คราวนี้ข้าจะไม่เอาความ ครั้งหน้าห้ามมาสายอีกเด็ดขาด"

"เจ้าค่ะ"

"หาที่นั่งเอาเองก็แล้วกัน"

กู้ชูหน่วนกวาดสายตามอง

ข้างกู้ชูหลันกับกู้ชูอวิ๋นก็มีที่ว่างอยู่หรอก แต่ไม่อยากนั่งสักเท่าไร ที่นั่งด้านหน้านั้น นางก็ไม่กล้านั่ง จึงนั่งลงข้างเซียวอวี่เชียน

เซียวอวี่เชียนตกใจ "เจ้ามานั่งข้างข้าทำไม ข้างหน้ามีที่ตั้งเยอะแยะ"

ไม่ใช่ว่าหมายตาเขาจริงๆ หรอกนะ

"หากเจ้าอยากนั่งหน้า ก็ขยับขึ้นไปเองสิ"

ล้อเล่นหรือไง ข้างหน้ามีอาจารย์นั่งอยู่ตั้งสองคน ถ้าเธอนั่งข้างหน้าจะอู้ได้อย่างไร

"แต่ข้ามาก่อน" เซียวอวี่เชียนเถียง

"ใครสนว่าเจ้ามาก่อน อย่างไรเสียที่นั่งนี่ก็ไม่ใช่ของตระกูลเจ้าเสียหน่อย เจ้าไม่อยากนั่งกับข้า ก็ย้ายเองสิ"

โอ้โฮ

หญิงผู้นี้ หน้าไม่อายเสียจริง

นางคงถูกใจหน้าตา ฐานะ และความสามารถของเขาสินะ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน

"เมื่อครู่พวกเรากล่าวถึงสรรพสิ่ง มีเกิด มีรุ่งเรือง มีเสื่อมถอย เป็นธรรมดา ตอนนี้เรามาว่ากันต่อ..." อาจารย์สวีสอนหนังสือต่อ

"นี่ ชายงามที่นั่งข้างอาจารย์สวีคือใครกัน?" กู้ชูหน่วนใช้ศอกสะกิดเซียวอวี่เชียน ส่งเสียงคิกคัก

"ซ่างกวานฉู่อย่างไรเล่า อาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในสำนักบัณฑิตหลวง ชาติตระกูลไม่รู้แน่ชัด รู้เพียงแค่ว่ารอบรู้รอบด้าน ได้ชื่อว่าเป็๋นหนึ่งในสี่อัจฉริยะทัดเทียมกับพี่ชายข้า"

"สี่อัจฉริยะ? อีกสองคนคือใคร?"

"ยัยขี้เหร่นี่ เจ้าล้อข้าเล่นหรือไร สี่อัจฉริยะผู้เลื่องชื่อคือใครบ้าง เจ้าไม่รู้เลยหรือ"

สวรรค์โปรดเมตตา เธอไม่รู้จริงๆ ในหัวเธอไม่มีความทรงจำเรื่องนี้เลย

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอถึงได้รู้สึกว่าความทรงจำบางส่วนของตัวเองหายไป

"แล้วทำไมอาจารย์ซ่างกวานถึงไม่สอน แต่ให้ตาเฒ่านั่นสอนคนเดียว?"

เซียวอวี่เชียนหัวเราะ "นี่เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้? ในห้องเรียนของสำนักบัณฑิตหลวง อย่างน้อยต้องมีอาจารย์สองคน คนหนึ่งเป็นผู้สอน อีกคนหนึ่งมาฟัง หากมีนักเรียนถาม แล้วอาจารย์ผู้สอนตอบไม่ได้ อาจารย์ผู้ฟังก็จะตอบแทน ยัยขี้เหร่ ก่อนมาเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง เจ้าไม่เคยรู้กฎระเบียบที่นี่เลยหรือ?"

"จะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ที่แบบนี้ สักวันข้าจะยุบทิ้งให้หมด สำนักบัณฑิตควรเปิดให้กับราษฎรทั่วทั้งแคว้นต่างหาก มีที่ไหนให้แต่ลูกหลานขุนนางราชวงศ์เข้าเรียน"

"เงียบ พวกเจ้าสองคนสุมหัวคุยอะไรกัน?" อาจารย์สวีตะโกนลั่น

ในห้องมีเด็กไม่เอาอ่าวอย่างเซียวอวี่เชียนคนเดียวก็พอแล้ว ยามนี้มีคนมาให้ปวดหัวเพิ่มอีก

กู้ชูหน่วนปิดปากอย่างเขินอาย ยกตำราขึ้นมาบังหน้าตัวเองแล้วอ้าปากหาว ยิ่งฟังอาจารย์สวีก็ยิ่งง่วง

เมื่อครู่ตอนที่เธอออกมาจากจวนอัครเสนาบดี เธอแวะร้านยาหลายแห่ง แต่ร้านไหนก็ไม่มียาที่เธออยากได้ ต่อให้มีอย่างน้อยก็ต้องใช้เงินหนึ่งร้อยตำลึงขึ้นไป

เธอต้องการตัวยาทั้งหมดสามสิบสองชนิด หนึ่งในนั้นมีหญ้าตี้อวี้และดอกเยียนหลัวที่หายากที่สุด ร้านยาในเมืองหลวงคงไม่มีขาย

กู้ชูหน่วนคิดหนัก ถ้าไม่มียา ต่อให้เธอเป็นหมอยอดฝีมือแค่ไหน ก็ไม่มีทางถอนพิษบนใบหน้านี้ได้

ส่วนตัวยาอื่น ต่อให้เธอจะไม่มีเงินซื้อ แต่ก็พอหาเองได้เพียงแค่ลำบากนิดหน่อย แต่หญ้าตี้อวี้กับดอกเยียนหลัวนี่สิ? ตัวยาสองชนิดนี้เหมือนจะหายากมากในแถบนี้
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 11

    เหอะ ตัวยาสามสิบสองชนิด แถมยังเติบโตในสภาพแวดล้อมต่างกันทั้งหมด กว่าเธอจะเก็บได้ทุกชนิด สู้หาเงินแล้วไปซื้อเอายังจะง่ายกว่าเสียงพูดของอาจารย์สวีเหมือนยานอนหลับ บวกกับตั้งแต่ข้ามกาลเวลามาก็ยังไม่เคยได้พักผ่อนเต็มที่ กู้ชูหน่วนจึงผล็อยหลับไปจนกระทั่งนางสะดุ้งตื่นเพราะเซียวอวี่เชียนสะกิดนางเงยหน้าพรวดขึ้น "เช้าแล้วหรือ?"อาจารย์สวีเดือดดาล "กู้ชูหน่วน เจ้ายังเห็นอาจารย์เฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตาหรือไม่?"กู้ชูหน่วนเกาหูตาเฒ่านี่ อายุปูนนี้แล้วยังขี้โมโหอีกทุกคนในห้องเรียนต่างหัวเราะอย่างอดไม่ได้มาสายก็แล้วไป แต่ยังกล้าหลับในห้องเรียนอีกอาจารย์สวีขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว"ที่นี่คือห้องเรียนแห่งสำนักบัณฑิตหลวง แผ่นดินนี้มีคนไม่รู้เท่าไหร่เฝ้าฝันอยากจะเข้ามาเรียน แต่เจ้า... เจ้ากลับหลับในห้องเรียน เจ้า...เจ้าอยากจะให้ข้าอกแตกตายหรืออย่างไร?"เซียวอวี่เชียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขาควรจะดีใจ หรือว่าควรจะสงสารนางดี?ตอนกู้ชูหน่วนยังไม่มา คนที่ถูกอาจารย์ต้อนถามทุกครั้งคือเขา ตอนนี้เหมือนลมจะเปลี่ยนทิศเสียแล้ว ยัยขี้เหร่นี่ ไม่เอาอ่าวยิ่งกว่าเข้าเสียอีกอย่างมากเขาก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 12

    ทุกคนล้วนแต่คาดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะท่องได้ทุกคำ"เถาวัลย์พันเครือ เมล็ดพันธุ์แตกยอด ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"เฮือก...ทั้งห้องเรียนตกตะลึงนาง...นางท่องได้อย่างไร?บทกลอนของซูหลีสาบสูญไปแล้วมิใช่หรือ? พวกเขารู้แค่ครึ่งท่อนแรกเท่านั้นเองเฒ่าสวีตาค้างกู้ชูหลันกับกู้ชูอวิ๋นและคนอื่นๆ นิ่งอึ้งเจ๋ออ๋องมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่เชื่อสายตาแม้แต่ซ่างกวานฉู่ข้างอาจารย์สวีที่ถือตำราอยู่ยังมือสั่น เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาอันงดงามคู่นั้นราวกับกำลังสำรวจกู้ชูหน่วนคนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภอย่างนั้นหรือนาง...รู้กลอนซูหลีได้อย่างไร"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์ออกผล ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?"สายตาแปลกประหลาดของทุกคนทำเอากู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิกนี่ไม่ใช่กลอนของซูหลีหรือไงเธอไม่กล้าท่องวรรคที่สามแล้วทำได้เพียงเอ่ยอย่างเก้อเขิน "คือว่า...อาจารย์เจ้าคะ ข้าไปวิ่งห้าสิบรอบก็ได้ แต่กู้ชูหลันเป็นบัณฑิตผู้ติดตาม หากข้าต้องถูกทำโทษ นางมีเหตุผลอะไรจะไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 13

    "เจ้าว่ามาได้เลย""เมื่อคืนข้านอนไม่ค่อยหลับ ประเดี๋ยวข้าอยากนอนสักงีบ ท่านห้ามลงโทษข้า""ได้ ไม่มีปัญหา"แม่เจ้า ตาเฒ่านี่ ใจเด็ดเสียจริง ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม?เมื่อมองไปที่อาจารย์ซ่างกวานแถวหน้าอีกครั้ง ถึงภายนอกเขาจะดูสงบนิ่ง อ่อนโยนดั่งสายลม แต่เธอรู้ดีว่าจังหวะลมหายใจของซ่างกวานฉู่ถี่รัวขึ้นหลายเท่า เห็นได้ชัดว่าเขาก็อยากฟังกลอนประโยคสุดท้ายเหมือนกันก็ได้ เห็นแก่หนุ่มหล่อ ท่องก็ได้"เถาวัลย์พันเครือ พืชพันธุ์สุกงอม ไกลบ้านยากเข็ญ ดวงใจระส่ำส่าย คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ ใยหนอสวรรค์! ใยทำเช่นนี้?""เยี่ยม... ยอดเยี่ยม... กลอนบทนี้ใช้วิธีซ้ำคำ สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ตัดพ้อที่แตกต่างกันสามแบบของตัวเอกต่อการล่มสลายของราชวงค์โจวอ๋อง""อาจารย์ ข้าหลับได้หรือยัง?""เจ้ารู้กลอนนี้ได้อย่างไร?""อ๋อ... บังเอิญเห็นในตำราโบราณเล่มหนึ่ง" เธอไม่ได้โง่เสียหน่อย จะบอกว่าแต่ก่อนเคยท่อนกลอนบทนี้ได้อย่างไร"ตำราโบราณเล่มใด อ่านได้ที่ไหน? ตำราสมัยก่อนมิได้สาบสูญไปหมดแล้วหรือ?""นานมากแล้ว จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน แต่มิใช่สำนวนต้นฉบับ มีคนแปลมาอีกทีเจ้าค่ะ"ทุกคนพลันกระจ่างแจ้ง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 14

    "ไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกว่าเป็นประโยคซ้ำคำหรือ?""ประโยคซ้ำคำคืออะไร?""…"กู้ชูหน่วนคิดว่าตัวเองโง่แล้ว แต่พอได้เจอกับเซียวอวี่เชียน เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองเก่งแค่ไหน"ยัยขี้เหร่ คนเคย ห่วงหาข้า คนไกลว่า ข้านั้นโลภ แปลว่าอะไรหรือ?""ความหมายใกล้เคียงกับ คุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า เพียงจอดรถม้าเหมือนดั่งสหายครั้งวันวาน""ยัยขี้เหร่ เจ้าช่วยพูดภาษาคนจะได้ไหม ข้าไม่เข้าใจ"กู้ชูหน่วนชะงักไป อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ "คนบางคนรู้จักกันมาทั้งชีวิต ทว่าไม่รู้แม้กระทั่งอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไร คนบางคนเพิ่งเคยพบหน้า แต่กลับรู้ใจกัน คนไม่เข้าใจจะคบหาไปทำไม คนที่เข้าใจกันย่อมรู้ว่าเจ้ารักชังสิ่งใด"เซียวอวี่เชียนพลันกระจ่างแจ้ง "อ๋อ... พวกเราคืออย่างหลังสินะ""ผิด อย่างแรกต่างหาก"รอยยิ้มของเซียวอวี่เชียนชะงักไปหรือว่าพวกเขาไม่มีวาสนาต่อกันขนาดนั้น?คนที่ยังไม่ออกจากห้องเรียนได้ยินคำพูดของกู้ชูหน่วนเจ๋ออ๋องมองนางอย่างสงสัยไม่เจอกันเพียงไม่นาน เหตุใดนางถึงได้เปลี่ยไปเป็นคนละคน?คนไม่รู้หนังสือท่องกลอนคุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า เพียงจอดรถม้าเหมือนดั่งสหายครั้งวันวานได้ด้วยหรือ?กู้ชูอวิ๋นประหลาดใจกั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 15

    กู้ชูหน่วนจ้องมองใบหน้าบวมแดงของนาง เอ่ยประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายโกรธจนแทบบ้า "อืม คราวนี้ค่อยสมมาตรกันหน่อย"แค้นนัก...องค์หญิงตังตังเดือดจนอกแทบระเบิด แผดเสียงลั่น "มัวนิ่งอยู่ทำไม ยังไม่รีบจับตัวกู้ชูหน่วนอีก ข้าจะให้นางต้องร้องขอชีวิต ให้นางต้องนึกเสียใจที่เกิดมาไปตลอดชาติ"เหล่าองครักษ์ล้อมกู้ชูหน่วนเอาไว้ทุกคนเป็นห่วงกู้ชูหน่วนอย่างอดไม่ได้แต่กู้ชูหน่วนราวกับไม่สนใจ กลับกันยังยิ้มเอ่ยเสียงเนิบ "ข้าคือน้าสะใภ้ขององค์หญิง น้าสะใภ้จะสั่งสอนหลานสาวสักหน่อย ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว พวกเจ้ากล้าจับตัวข้าหรือ? ได้ เช่นนั้นเราไปหาท่านอ๋องเทพสงครามกัน แล้วนับญาติกันให้ชัดเจน"ท่านอ๋องเทพสงครามคือบุคคลต้องห้าม เหล่าองครักษ์ไม่กล้าขยับตัวยิ่งไปกว่านั้นกู้ชูหน่วนเน้นย้ำคำว่านับญาติ พวกเขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องนับญาติในราชวงศ์ได้อย่างไรองค์หญิงตังตังกระทืบเท้าตึงตัง "กู้ชูหน่วน เจ้ามันหน้าไม่อาย เสด็จน้าข้าพูดเมื่อใดว่าจะแต่งงานกับเจ้า""แปลกนัก ราชโองการมิใช่เสด็จพี่ของเจ้าเป็นผู้รับสั่งหรอกหรือ? เทพสงครามจะไม่แต่งงานกับข้างั้นหรือ? เช่นนั้นก็ได้ เจ้าก็บอกให้เสด็จพี่ของเจ้ายกเลิกร

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 16

    "สองบวกสอง เท่ากับมิใช่สอง"ทุกคนปาดเหงื่อ นี่มันคำถามอะไร?เซียวอวี่เชียนไม่ยอม "นี่เจ้าเล่นคำนี่?""ข้าจะเล่นคำได้อย่างไร? คำถามทดสอบลูกพี่ทั้งทีต้องมีไหวพริบหน่อยมิใช่รึ? ที่ข้าตอนนี้กำลังทดสอบเจ้าอยู่นั้นเป็นการช่วยพัฒนาสมองนะ""ไม่สิๆ ต้องไม่ใช่แบบนั้น""ข้าถามเจ้า อาจารย์สวีมิใส่สองใช่หรือไม่?""ใช่สิ""เจ๋ออ๋องเองก็มิใช่สองใช่หรือไม่?""ใช่สิ""เช่นนั้นพวกเขารวมกัน มิใช่สองมิถูกหรือไม่?"แววตาของเจ๋ออ๋องเดือดพล่าน สะบัดแขนเสื้อเดินหนีไปหากมิใช่เขาถอนหมั้นโดยไม่มีเหตุผล คงไม่ถูกฮ่องเต้และเสด็จแม่ตำหนิ ทั้งยังถูกสั่งห้ามมิให้เขาก่อเรื่อง ไม่เช่นนั้นละก็ป่านนี้เขาคงตะเพิดนางไปแล้ว ไม่ปล่อยให้นางลอยหน้าลอยตาหรอกกู้ชูหลันชอบเจ๋ออ๋อง เหมือนเห็นดังนั้นจึงรีบตามไปเซียวอวี่เชียนมึนงงที่กู้ชูหน่วนพูดเหมือนจะไม่ผิด แต่ก็เหมือนจะผิด"คำถามที่สอง อาจารย์ซ่างกวานบวกเจ๋ออ๋องเป็นเท่าไหร่?""ฮะ... นี่มันคำถามอะไร""ก็คำถามนั่นแหละน่า"ชิวเอ๋อร์ป้องปากหัวเราะอย่างอดไม่ได้คุณหนูแกล้งคนเก่งนักนั่นไม่ใช่คำถามด้วยซ้ำ ท่านชายเซียวจะตอบได้อย่างไรเป็นไปตามคาด เซียวอวี่เชียนตอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 17

    เซียวอวี่เชียนสะบัดแขนนางที่กอดคอออก ควักเงินห้าร้อยตำลึงออกมาจากอกเสื้อแล้วโยนให้ด้วยใบหน้าบึ้งตึงเอ่ยร้องทุกข์ "ห้ามเรียกข้าว่าเสี่ยวเชียนเชียน พี่ใหญ่ข้ามีหน้ามีตาในสำนักบัณฑิตหลวง หากคนอื่นได้ยินเข้า จะเหมาะสมหรือ?""ไม่เรียกเสี่ยวเชียนเชียนก็ได้ เช่นนั้นเจ้าเอามาอีกห้าร้อยตำลึง"เซียวอวี่เชียนล้วงเงิน ก่อนจะเห็นเงินห้าร้อยตำลึงสุดท้ายที่มีติดตัวแล้วก็รู้สึกปวดใจกู้ชูหน่วนแย่งเงินมา นับเงินอย่างคล่องแคล่ว ยกยิ้มพึงพอใจ"เสี่ยวเชียนเชียนเป็นเด็กดีนัก วันหน้าพี่จะเอ็นดูเจ้าให้มาก""…"ไม่ใช่แค่เซียวอวี่เชียนที่ตกตะลึง แม้แต่ชิวเอ๋อร์ยังทำตัวไม่ถูกเอ็นดูเจ้าให้มาก?นางเป็นหญิง เหตุใดถึงกล้าพูดจาเช่นนี้ยิ่งเห็นท่าทียามเดินผิวปากออกไปอย่างลิงโลด พวกเขาก็ขนลุกชูชันไปทั้งตัวเซียวอวี่เชียนมุมปากกระตุก ตะโกนลั่นอย่างขุ่นเคือง "บอกแล้วอย่างไรเล่าว่าห้ามเรียกข้าว่าเสี่ยวเชียนเชียน""รู้แล้วน่า เสี่ยวเชียนเชียน"ให้ตายสิหญิงผู้นี้จงใจแกล้งเขาให้อกแตกตายสินะ?ชิวเอ๋อร์ปาดเหงื่อ รีบวิ่งตามติด"คุณหนูเจ้าคะ เมื่อครู่ท่านทำเกินไปหรือไม่ เพิ่งเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตก็มีเรื่องกั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 18

    หลังจากหญิงผู้นั้นทำให้เจ้านายต้องแปดเปื้อน อารมณ์ของเจ้านายก็ยิ่งแปรปรวน บ่าวที่คอยปรนนิบัติถูกตัดหัวไปแล้วไม่รู้กี่คนทว่าสูตรยาที่หญิงนางนั้นให้มาได้ผลดียิ่งนักอาการพิษกำเริบของเจ้านาย ตั้งแต่เริ่มใช้สูตรยาของนาง อาการกลับดีขึ้นมากจริงๆ ไม่ได้ทรมานเหมือนแต่ก่อนแล้วหากจับตัวหญิงนางนั้นมาได้ บางที่อาจจะรักษาพิษที่เจ้านายโดนได้หายขาด"นายท่าน เรื่องการแต่งงาน พวกเราจะล้มเลิกหรือไม่?"ได้ยินดังนั้น เย่จิ่งหานก็เผยยิ้มร้าย รอบกายแผ่นรังสีทรงอำนาจ ราวกับกษัตริย์จากสวรรค์ผู้ควบคุมทุกสรรพสิ่ง"กล้าเล่นงานข้า ย่อมรู้ว่าต้องต้านทานไฟโกรธของข้าได้"เอ่อ..แล้วเรื่องแต่งงานจะล้มเลิกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?ฮ่องเต้แสร้งไม่รู้ไม่เห็น ไม่กล้าแม้แต่จะมีเรื่องกับนายท่านด้วยอำนาจของนายท่าน เพียงแต่ขยับนิ้ว ก็สามารถทำให้พระองค์กลิ้งตกจากบัลลังก์ได้คุณหนูสามตระกูลกู้เป็นหญิงอัปลักษณ์ที่เลื่องชื่อไปทั่วแคว้นเย่ ให้นายท่านแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์เช่นนั้น หากมิใช่หยามเกียรตินายท่านแล้วจะเรียกว่าอะไร?ชิงเฟิงคิดว่าเย่จิ่งหานต้องล้มการแต่งงานครั้งนี้แน่นอนคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทอดสายตามองไปทางที่กู้

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 380

    ครั้งนี้ นางใช้โชคเข้าปะทะชีพจรยุทธ ทุกครั้งที่ใกล้จะทะลวงชีพจรยุทธได้สำเร็จ นางจะคว้ายาชำระไขกระดูกจำนวนมากมากินเพื่อเพิ่มพลังงานเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ทุกครั้งที่นางเพิ่งจะเปิดรอยแยกได้ ก็จะปิดลงทันที กู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้ นางทะลวงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ในที่สุดนางก็เปิดชีพจรยุทธได้สำเร็จ"เฮือก......"เลือดสดอีกคำไหลหยดออกมา คนอื่นทะลวงชีพจรยุทธแล้วจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว มีพลังงานเต็มเปี่ยม แต่นางกลับเหมือนหนีความตายมาได้ และเกือบเอาชีวิตนางไปกู้ชูหน่วนคราบเลือดติดมุมปาก แต่นางก็แย้มรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมานางพยายามใช้โชคหมุนเวียนพลังงานภายในร่างกาย เปลวไฟกลุ่มหนึ่งในตันเถียนของนางกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และร่างกายของนางก็เบาขึ้นกว่าเดิมมากนางมีพลังภายในแล้ว...... แม้ว่าพลังภายในจะอ่อนแอมากก็ตาม......การเปิดชีพจรยุทธบ่งชี้ว่านางสามารถฝึกวิชายุทธได้แล้วกู้ชูหน่วนหายใจออกมายาวและเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาอีกครั้งยายกระดับเป็นยาที่ช่วยเพิ่มพลังภายในอย่างรวดเร็วและทะลวงผ่านหนึ่งขั้นได้กู้ชูหน่วนรู้สึกสนใจขึ้นมา"ชิงเฟิง"ชิงเฟิงทำหน้าบูดบึ้ง "พระชาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 379

    บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องกำลังช่วยกันดับไฟ ผมของกู้ชูหน่วนถูกระเบิดจนยุ่งเหยิง ราวกับรังไก่ ชิงเฟิงจัดให้นางไปอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกห้องหนึ่งภายในห้อง กู้ชูหน่วนมองกล่องยาชำระไขกระดูกขนาดใหญ่ตรงหน้า ทั้งกังวลและโล่งใจกังวลคือยาชำระไขกระดูกยังห่างไกลจากผลลัพธ์ที่นางต้องการโล่งใจคือในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว"ชิวเอ๋อร์ ไปเฝ้าหน้าประตู ห้ามให้ใครเข้ามา รวมถึงท่านอ๋องด้วย""คุณหนู ท่านจะทำอะไรอีกแล้วหรือเจ้าคะ?"ชิวเอ๋อร์กลัวจนตัวสั่น ชีวิตของคุณหนูเกือบจะจบสิ้นแล้ว นางคงไม่คิดที่จะปรุงยาอีกแล้วใช่หรือไม่"เจ้ารู้อะไร รีบออกไปเถิด""แต่ว่า......"ก่อนที่ชิวเอ๋อร์จะพูดจบ กู้ชูหน่วนก็ผลักนางออกไป แล้วนั่งขัดสมาธิบนเตียง หยิบยาชำระไขกระดูกในกล่องตรงหน้ามากินหนึ่งเม็ดความร้อนไหลขึ้นมาจากตันเถียน แต่ชีพจรยุทธไม่เปิดออกเสียทีกู้ชูหน่วนกินอีกหลายเม็ด ความร้อนในตันเถียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เส้นลมปราณทั้งเจ็ดและแปดเส้นรู้สึกสบาย แต่ชีพจรยุทธยังคงไม่เปิดออกนางขมวดคิ้ว "ใช้สมุนไพรที่คล้ายกันมาทดแทน ผลลัพธ์ก็ยังแตกต่างกันมาก ยาชำระไขกระดูกนี้แย่เกินไป"กู้ชูหน่วนกัดฟัน กลืนยาชำระไขกระ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 378

    "พระชายา โปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลย ข้าน้อยก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น"เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนตั้งใจจะออกไป ชิงเฟิงก็ตกใจและเอ่ยว่า "พระชายา ท่านต้องการไปหายาใช่หรือไม่? หรือว่าท่านจะให้ใบสั่งยาแก่ข้าน้อย แล้วให้ข้าน้อยปหายามาให้""ก็ได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี""ขอรับ"ความเร็วของชิงเฟิงและคนอื่นๆ นั้นรวดเร็วมาก แต่หลังจากกลับมา คำตอบของพวกเขาก็เหมือนกับที่ชิวเอ๋อร์พูดไม่มีผิดเพี้ยน"พระชายา ข้าน้อยได้ไปหาหมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงแล้ว พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรในใบสั่งยาของท่านเลย และไม่สามารถหายาเหล่านั้นมาให้ท่านได้"ด้วยความกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะโกรธ ชิงเฟิงจึงหยุดชะงักแล้วเอ่ยต่อทันทีว่า "ข้าน้อยได้พาหมอหลวงจากสำนักหมอหลวง รวมถึงหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาด้วย พระชายาสามารถสอบถามพวกเขาได้โดยตรงเลย"เมื่อโบกมือ หมอจำนวนมากก็เดินเข้ามาทีละคน และทำความเคารพนาง "คารวะพระชายา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พันปี พันๆ ปี""พอเถอะ ข้าขอถามพวกท่าน พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อซานหลิง ซูเหอเซียง การบูร จริงๆ หรือ?""ทูลพระชายา พวกข้าประกอบอาชีพหมอมาหลายสิบปี บรรพบุรุษของพวกข้าก็เป็นหมอเช่นกัน พวกข้าไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 377

    นิ้วเรียวสวยของกู้ชูหน่วนพลิกดูตำรารวมสูตรปรุงยาที่ขาดวิ่นอย่างต่อเนื่อง นางมองอย่างตั้งใจจนลืมตัว และไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาที่จวนหานอ๋องตั้งแต่เมื่อใด"เย่จิ่งหานล่ะ?" กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นถามทันทีชิงเฟิงเม้มปาก การต่อสู้ดุเดือดขนาดนั้น พระชายาของเขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่?"นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินมาชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียว นายท่านต่อสู้กับเขา และยามนี้ยังอยู่ในป่าไผ่ นายท่านให้ข้าพาพระชายากลับจวนก่อน""อย่างนั้นหรือ สามหมื่นล้านตำลึง ล่อตาล่อใจโจรจริง ๆ แผนที่ไข่มุกสีเขียวต้องได้รับการปกป้องอย่างดี อาจจะเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดของจวนหานอ๋องก็ได้นะ" นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินบาดเจ็บไม่ใช่หรือ? เย่จิ่งหานน่าจะรับมือได้เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนพูดเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง คิ้วเข้มของชิงเฟิงก็ขมวดแน่นสิ่งที่นางควรเป็นห่วงไม่ใช่นายท่านหรอกหรือ?"ข้าจะกลับไปศึกษาตำรารวมสูตรปรุงยา บอกบ่าวรับใช้ว่าห้ามใครรบกวนหากไม่มีคำสั่งจากข้า""ขอรับ"ภายในห้อง กู้ชูหน่วนจรดพู่กันเขียนตำรับยาหลายแผ่นอย่างคล่องแคล่ว แล้วส่งให้ชิวเอ๋อร์ "ไปร้านขายยา ซื้อยาตามตำรับที่ข้าให้มา กลับมามากหน่อย"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 376

    กู้ชูหน่วนรับจดหมายเชิญ แล้วเกี่ยวคางของนางอย่างเย้าแหย่ "เมื่อมีสาวงามมาเชิญ เราจะกล้าไม่มาได้อย่างไร วางใจได้ งานประมูลเฟิงเซียงสิ้นเดือนนี้ พวกเราจะไปให้ตรงเวลาแน่นอน""เช่นนั้น เสี่ยวลู่จะรอแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านอยู่ที่งานประมูลเฟิงเซียง"หลังออกจากงานประมูลเฟิงเซียง เย่จิ่งหานก็ยังคงทำหน้าเย็นชาตลอดเวลาระหว่างทางกลับ พวกเขานั่งรถม้าประจำตัวของเย่จิ่งหาน กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่ารถม้าทำจากวัสดุอะไร ภายนอกดูธรรมดา แต่ภายในกลับมีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถดื่มชา เล่นหมากรุก หรือนอนพักผ่อนได้ อีกทั้งยังป้องกันลูกธนูพิษและอาวุธทุกชนิดได้ เมื่อสัมผัสกับรถม้า จะมีเพียงเสียงโลหะกระทบกันเท่านั้นตลอดทาง เสียงการต่อสู้ดังขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดพื้นดินสั่นสะเทือนเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าข้างนอกต่อสู้กันดุเดือดเพียงใดกู้ชูหน่วนรู้ว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาเพื่อแย่งชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียวของเย่จิ่งหานแต่เมื่อมองไปที่เย่จิ่งหาน เขานั่งจิบชาอ่านหนังสืออย่างสง่างามริมหน้าต่างรถม้า ราวกับไม่รับรู้ถึงการต่อสู้ภายนอกกู้ชูหน่วนเปิดม่านรถม้าดู ข้างนอกมีแต่แ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 375

    อี้เฉินเฟยพิจารณาความหมายในคำพูดของกู้ชูหน่วนอย่างถี่ถ้วนครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง ยิ้มอย่างอ่อนโยน "สุภาพบุรุษไม่แย่งชิงสิ่งที่ผู้อื่นชื่นชอบ ในเมื่อแขกชั้นล่างชื่นชอบแผนที่ไข่มุกสีเขียวขนาดนี้ ข้าก็จะไม่แย่งแล้ว"กู้ชูหน่วนลูบปลายคาง คำพูดนี้ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน?แต่อี้เฉินเฟยก็มีสมองขึ้นมาบ้างแล้วสามพันล้าน......จุ จุ จุทรัพย์สมบัติของเย่จิ่งหานถูกสูบไปหมดแล้วใช่หรือไม่"สามพันล้านครั้งที่หนึ่ง สามพันล้านครั้งที่สอง สามพันล้านครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบเก้า ได้รับแผนที่ไข่มุกสีเขียวไปครอง"ทุกคนต่างมองเย่จิ่งหานด้วยความอิจฉาในหมู่พวกเขาบางคนเคยคิดที่จะแย่งชิง แต่ฝ่ายตรงข้ามคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ พวกเขาจะแย่งชิงได้อย่างไร?เด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเสียดายแล้วเสียดายอีกสามพันล้านสูงเกินไป......น่าเสียดายที่อาจารย์อี้เตรียมการมานาน สุดท้ายก็ยังพลาดการประมูลเจ๋ออ๋องขมขื่นในใจ เดินออกงานประมูลอย่างอ้างว้างหางตาของซ่างกวานฉู่ฉายแววเย็นเยือก มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ายวนคนของเผ่าเทียนเฝินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "ดำเนินการตามแผนเดิม ต้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 374

    "อะไรนะ เขาคือเทพสงคราม"ทุกคนต่างถอยหลังด้วยความหวาดกลัว พยายามรักษาระยะห่าง เพราะกลัวว่าเย่จิ่งหานจะลงมือกับพวกเขาหากเป็นคนอื่นที่เสนอราคานี้ พวกเขาคงจะประหลาดใจมาก แต่หากเป็นเทพสงครามที่เสนอราคา ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเพราะเทพสงครามคือบุคคลสำคัญของแคว้นเย่ ทั้งศักยภาพ ความมั่งคั่ง และอิทธิพลของเขายิ่งใหญ่กว่าฮ่องเต้เสียอีกเด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเอ่ยว่า "อาจารย์อี้ เราจะเพิ่มราคาอีกหรือไม่?"อี้เฉินเฟยเงียบไป ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักมูลค่าอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงยกป้ายขึ้น "หนึ่งพันเจ็ดร้อยล้าน"อะไรนะ......คนในห้องหมายเลขเจ็ดเป็นใครกัน?เพิ่มราคาครั้งละสองร้อยล้านเงินในสายตาพวกเขาเป็นเพียงตัวเลขหรืออย่างไร?เจ๋ออ๋องโยนป้ายทิ้งอย่างหมดแรงจะประมูลไปทำไม ประมูลไปก็เปล่าประโยชน์เขาไม่สามารถประมูลได้แม้แต่เศษเสี้ยวของพวกเขาในชั่วพริบตา เจ๋ออ๋องรู้สึกว่าตนแตกต่างจากพวกเขาอย่างมาก"สองพันล้าน" เย่จิ่งหานเอ่ยชิงเฟิงเหงื่อออกที่ฝ่ามือแม้นายท่านจะมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก แต่การสูญเสียสองพันล้านในคราวเดียวก็ต้องทำให้บาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอนซ่างกวานฉู่หน้าตายไร้อารมณ์ มองไม่ออ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 373

    "ห้าร้อยห้าสิบล้านตำลึง" ซ่างกวานฉู่รีบตามมาติดๆการเพิ่มราคาเมื่อครู่เป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น ยามนี้ผู้ที่เสนอราคาคือตัวเอกที่แท้จริงกู้ชูหน่วนรู้ว่าอี้เฉินเฟย ซ่างกวานฉู่ และเย่จิ่งหานจะต้องแข่งขันกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสามยักษ์ใหญ่เหล่านี้ใครจะเหนือกว่ากัน"หกร้อยล้าน""หกร้อยห้าสิบล้าน""เจ็ดร้อยล้าน"ซี้ดดด......ทั้งงาน นอกจากอี้เฉินเฟยและซ่างกวานฉู่แล้ว ไม่มีใครกล้าเสนอราคาอีกเลยแม้ว่าพวกเขาจะอยากได้ไข่มุกสีเขียวมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถหาเงินมาได้มากขนาดนั้นกู้ชูหน่วนมองไปทางเย่จิ่งหานเจ้าคนนี้มองดูเฉยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้เสนอราคาเลย หรือว่าเขาตั้งใจจะรอให้อี้เฉินเฟยกับซ่างกวานฉู่สู้กันเสร็จก่อนแล้วค่อยเสนอราคา?เจ็ดร้อยล้านตำลึง นี่ไม่ใช่จำนวนเงินเล็กๆ เลยนะคงจะเทียบเท่ากับเงินทั้งหมดในคลังหลวงกระมังอี้เฉินเฟยเป็นบุคคลสำคัญของแคว้นหวา ทั้งยังเป็นอาจารย์สามของสำนักหยู และยังมีอีกหลายตัวตนที่ไม่เปิดเผย เขามีเงินก็สมเหตุสมผลแต่ซ่างกวานฉู่มีอะไร เขาเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?หรือจะพูดว่าเขามีตัวตนลับหลังอีกมากแค่ไหนกันแน่"เจ็ดร้อยห้าสิบล้านตำลึง" อี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 372

    เสียงของพิธีกรเสี่ยวลู่ดังขึ้นอีกครั้ง"สินค้าชิ้นต่อไปที่จะประมูลคือของปิดการประมูลของเราในครั้งนี้ ยังคงเป็นแผนที่ แผนที่สมบูรณ์ ชื่อว่าแผนที่มังกรเขียว"ตู้ม......การประมูลก็ระเบิดขึ้นทันที"เจ้าพูดอะไรนะ แผนที่มังกรเขียว? เป็นแผนที่พบลูกแก้วมังกรสีเขียวใช่หรือไม่?""ใช่ ทุกคนคงรู้ดีว่าลูกแก้วมังกรหมายถึงอะไร มีลูกแก้วมังกรทั้งหมดเจ็ดลูกในโลก ได้แก่ แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน และม่วง หากต้องการค้นหาลูกแก้วมังกร ก็ต้องมีแผนที่""โอ้สวรรค์ ลูกแก้วมังกรในตำนาน รีบกลับไปรวบรวมเงิน แม้ว่าเจ้าจะขายทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้า เจ้าก็ต้องรวบรวมเงินทั้งหมด""ท่านพ่อ การขายบ้านทันทีทำได้ยากมาก""เช่นนั้นก็เอาบ้านไปจำนองก่อน แล้วเอาเงินมา""อาฝู รีบกลับไปหาฮูหยินเร็ว และให้ฮูหยินรวบรวมเงินทั้งหมดในบ้านและให้ลูกชายข้าไปยืมเงินทุกที่ที่ทำได้ ยืมให้ได้มากที่สุด คราวนี้เราจะเสี่ยงชีวิตเพื่อประมูลแผนที่ไข่มุกสีเขียว""……"แขกทุกคนในงานประมูลแทบจะให้คนรับใช้กลับไปรวบรวมเงินแม้แต่อัครเสนาบดีกู้ที่ไม่อยากเข้าร่วมการประมูลต่อแล้ว ก็ยังหวั่นไหวอีกครั้งและให้กู้ชูอวิ๋นรีบกลับไป แม้ว่าจะต้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status