Home / โรแมนติก / ฉากรักในคืนฝนโปรย / บทที่ 3 ปฐมบทแห่งความเป็นหม้าย (2)

Share

บทที่ 3 ปฐมบทแห่งความเป็นหม้าย (2)

last update Last Updated: 2024-10-27 10:59:32

“แรงอ่ะ ใช้คำว่าเหี้ยกับปั๋วสุดประเสริฐของฉันเลยเหรอยะ” น้ำเสียงของธัญมณนั้นติดประชดประชันสามีอย่างเห็นได้ชัด 

“งั้นเห้ก็ได้อ่ะ เพราะถ้ามันไม่เห้จริง มันไม่เล่นชู้ในที่ทำงานแบบนั้นหรอก ผู้หญิงก็หน้าที่การงานดี แต่กลับยอมเป็นน้อย กินน้ำใต้ศอกคนอื่นก็เอา แต่แกก็ดีที่ยึดเงินเดือน ยึดบัตรเครดิตผัวแกมาหมดแบบนี้ ในเมื่อรักกันนักก็ไปอยู่ด้วยกันแต่ตัว...ไป๊!” 

“เพราะแบบนี้ไง ฉันเลยไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมาก แรกๆ ก็จะเป็นจะตาย ตอนนี้เหรอ...ปลง ใครอยากได้ก็เอาไป แต่ไปแต่ตัวนะ เงินอยู่กับฉัน...ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะของธัญมณดังขึ้น นั่นเพราะเธอเองก็มีแผนของเธอเช่นกัน เรื่องอะไรจะยอมหย่าให้พวกเมียน้อยได้ใจ 

“แล้วทำไมแกไม่หย่าเหมือนยัยณาให้มันจบๆ กันไป”

“หย่าทำไม นั่งไขว่ห้างสวยๆ มองพวกเมียน้อยมันตีกันไม่ดีกว่าเหรอ สนุกดีออก”

“ล้ำลึกมาก แกนี่หน้าตาซื่อๆ ก็โหดกับเขาเหมือนกันนะยะ” ณิการ์ยกนิ้วให้ธัญมณ ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มกริ่มแล้วเอ่ยรับ แม้ในใจมันจะไม่ได้ยิ้มเท่าใบหน้าก็ตามที เพราะเธอก็ยังรักสามีอยู่ แม้ความรักมันจะน้อยนิด เหลือเพียงแค่ความแค้นก็ตาม 

“นิดนึง” 

“ตายแล้ว จะบ่ายสามแล้วเหรอ ฉันไปรับลูกก่อนนะ เดี๋ยวต้องไปส่งเรียนพิเศษอีก” เอ่ยจบณิการ์ก็คว้ากระเป๋า พร้อมจะไปรับลูกชายสุดที่รัก

แต่ณาณีมกลับคิ้วขมวดแล้วเอ่ยถามทันที 

“หืม…น้องภูมินี่ต้องเรียนพิเศษด้วยเหรอ”

“ใช่น่ะสิ สมัยนี้มันต้องเรียนเยอะๆ จะได้เข้าเรียนโรงเรียนดีๆ” คุณแม่ลูกหนึ่งเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ โตขึ้นลูกชายเธอจะได้เข้าโรงเรียนดีๆ เรียนมหา’ลัยดีๆ และจบมาทำงานดีๆ อย่างที่เธอหวัง 

“แต่ลูกแกเพิ่งเข้าปอหนึ่งเองไม่ใช่เหรอ จะรีบอัดเรียนไปถึงไหน” ณาณีมเอ่ยถามอีก หรือว่าเธอจำอะไรผิดไปหรือเปล่า 

“ไม่ได้อัด เขาเรียกเรียนเตรียมความพร้อม คนอื่นๆ ก็ทำแบบฉันทั้งนั้นแหละ แกสองคนยังไม่มีลูก ไม่เข้าใจฉันหรอก”

“เออๆ พูดอีกก็ถูกอีก งั้นแกรีบไปรับลูกไป เดี๋ยวรถติด” เอ่ยจบณาณีมก็ยิ้มแห้งๆ ให้ เพราะทุกครั้งที่จะคุยเรื่องนี้ ณิการ์เป็นต้องตั้งท่าเตรียมความพร้อม บรรยายถึงความจำเป็นของเธอที่ต้องทำนั่นนี่ให้ลูกชาย

“ไว้เจอกัน”

“อืมม์” ณาณีมและธัญมณเอ่ยรับพร้อมๆ กัน เมื่อณิการ์กลับออกไปแล้ว ทั้งสองคุยกันอีกสักพักก็แยกย้าย 

ณาณีมกลับมาบ้านเพื่อแพ็คข้าวของรอจะย้ายออกไปอยู่คอนโดมิเนียม ส่วนข้าวของของดาวินนั้น ชายหนุ่มยังไม่ได้เก็บ เธอจึงวางไว้ที่เดิม

ของทุกชิ้นที่เก็บใส่ลังล้วนมีอดีต บางชิ้นเป็นอดีตของเธอเพียงคนเดียว แต่บางชิ้นก็มีอดีต มีเรื่องราวของดาวินรวมอยู่ด้วย ณาณีมแค่รู้สึกโหวงๆ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอก็ยังคงขอหย่าอยู่ดี

“ถ้าไม่มีผู้ชายใหม่ ก็เป็นผู้หญิงสายเปย์ ซื้อกินเอานะยัยณาเอ๋ย” ณาณีมเอ่ยขำๆ กับตัวเอง เพราะเอาเข้าจริงๆ เธอก็หวงเนื้อหวงตัว ไม่สามารถมีอะไรกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักหรือไม่ได้รู้สึกดีด้วยเด็ดขาด แบบนี้จะเป็นผู้หญิงสายเปย์ ซื้อผู้ชายกินได้ยังไง

 

 

 

วันที่สอง ของการกลับมาเป็นโสด ระหว่างรอย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียม ณาณีมก็แพ็คกระเป๋าไปพักผ่อนที่ชายทะเลมันเสียเลย

แถมเธอยังยื่นเรื่องขอลาพักร้อนยาวไปหนึ่งเดือนเต็ม อยากพักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนจะกลับมาทำงานแบบยิงยาว เพราะกลับมาเมื่อไหร่ เธออาจต้องย้ายไปทำงานต่างประเทศ

การอยู่คนเดียว นั่งกินข้าวคนเดียว เที่ยวคนเดียวก็ดีไปอีกแบบ ณาณีมมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น ได้ทำอะไรที่อยากทำแบบไม่ต้องขออนุญาตหรือเกรงใจใคร

“ฉันโสดแล้วน๊าทะเลจ๋า ฉันโสดแล้วววววววว” ณาณีมยืนตะโกนอยู่ริมชายหาดให้สมกับความโสดในรอบสิบสามปี 

แต่หารู้ไม่ว่าเสียงตะโกนของเธอดังไปเข้าหูใครคนหนึ่งเข้า ชายหนุ่มที่สูงร้อยแปดสิบกว่ายืนกอดอกมองผู้หญิงตัวเล็กที่ตะโกนอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ริมชายหาดด้วยใบหน้ายิ้มๆ

“คนอะไร โสดก็ยังบอกให้โลกรู้” ราฮีมส่ายหน้าให้ตัวเอง ขณะที่สายตากำลังมองไปยังณาณีมอย่างอดไม่อยู่ จากที่เห็นว่าเธอยืนอยู่นิ่งๆ ตอนนี้กลับวิ่งไล่จับปูลมอย่างสนุก

“อายุเท่าไหร่แล้วนั่น วิ่งไล่จับปู่ลมยังกับเด็กสาววัยแรกแย้ม” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ กับแค่มองผู้หญิงไล่จับปูลม ทำไมเขาต้องสนใจ ต้องยิ้มจนเจ็บแก้มแบบนี้ด้วยก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน

แต่ท่าทางของเขา ทำให้พราวตะวันสนใจเช่นกัน ราฮีมคือแขกคนพิเศษของบริษัท ชายหนุ่มเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่มีโรงแรมดังๆ อยู่ทั่วทุกมุมโลกและเลือกที่จะมาร่วมหุ้น เปิดโรงแรมที่เมืองไทยกับบริษัทของเธอ ทำให้พราวตะวันมาคอยดูแลด้วยตัวเอง และสนใจชายหนุ่มเชิงส่วนตัวอยู่ไม่น้อย

ถ้าอนาคตเธอกับราฮีมจะขยับจากหุ้นส่วนธุรกิจไปเป็นหุ้นส่วนชีวิต เธอก็ไม่คัดค้านอะไร นั่นเพราะชายหนุ่มเพอร์เฟค ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ ใครไม่ชอบก็บ้าแล้ว 

“หัวเราะอะไรอยู่คะคุณราฮีม”

“อ้อ…เปล่าครับ” ราฮีมปฏิเสธ ก่อนจะหันมายิ้มให้พราวตะวัน หญิงสาวชาวไทยมีเสน่ห์มากคนหนึ่ง เพราะเขามีเพื่อนเป็นคนไทยและมาเที่ยวที่นี่ ใช้ชีวิตพักผ่อนบ่อยๆ จึงพูดภาษาไทยได้

“เอ๊ะ! นั่นณานี่นา”

 

Related chapters

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 4 นี่แหละฉัน…ณาณีม

    “เอ๊ะ! นั่นณานี่นา” “คุณพราวรู้จักเธอ…คนนั้นหรือครับ” “รู้จักค่ะ ณาเป็นเพื่อนสมัยเรียนของพราวเอง” พราวตะวันยิ้มให้ มีใครจะไม่รู้จักคู่รักคู่ฮอตเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตบ้าง เพราะใครๆ ต่างพากันอิจฉาความรักของณาณีมกับดาวินกันทั้งนั้น ยิ่งพอรู้ว่าทั้งคู่เรียนจบและแต่งงานกัน ก็ยิ่งเป็นที่พูดถึงว่าคือรักแท้ “แต่เอ้! ณามาคนเดียวหรือเนี่ย พี่แดนสามีของณาคงติดธุระอยู่แน่ๆ ถึงปล่อยให้ภรรยาคนสวยมาเที่ยวทะเลคนเดียวแบบนี้” ประโยคที่ได้ยิน ทำเอาราฮีมคิ้วขมวดเพราะผิดหวังเล็กๆ ที่ณาณีมไม่โสด แล้วเมื่อครู่ที่เธอตะโกนว่าโสดแล้ว นั่นคืออะไร หรือเพราะกำลังทะเลาะกับสามี ถึงได้พูดประชดออกไป “จริงสิ ผมหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันไหมครับ” “ได้สิคะ พราวเองก็กำลังจะถามคุณราฮีมอยู่พอดี ว่าหิวหรือยัง งั้นเชิญค่ะ” “ขอบคุณครับ” ราฮีมเอ่ยรับ ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญพราวตะวัน ซึ่งจังหวะหนึ่งชายหนุ่มก็แอบชำเลืองมองณาณีมแวบหนึ่ง หลังเดินเล่นที่ชายหาดจนพอใจ ณาณีมก็กลับเข้าที่พัก ซึ่งห้องของเธออยู่โซนหน้าติดทั้งชายหาดและสระว่ายน้ำ แต่เพราะหิวทำให้เธอเลี้ยวขวาตรงไปยังห้องอาหารของทางรีสอร์ท จังหวะนั้น สายตาก็มองเห็นพน

    Last Updated : 2024-10-27
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 5 คิดไม่ซื่อ

    “งอนอะไรกันอยู่หรือเปล่า เธอถึงปลีกตัวมาไกลถึงเกาะช้างแบบนี้...หืม” พราวตะวันสันนิษฐาน ณาณีมยิ้มให้แล้วเอ่ยตอบ “ก็เปล่านี่”“ชีวิตคู่ก็แบบนี้ล่ะเนอะ เหมือนลิ้นกับฟัน เดี๋ยวทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีกันตามประสาสามีภรรยา” แทนที่จะหยุด พราวตะวันยังพูดต่อโดยไม่ได้สนใจคำตอบของณาณีมสักนิด “ก็แล้วแต่เธอจะคิดนะพราว ยังไงฉันขอตัวก่อนแล้วกัน” “เชิญจ้ะ” พราวตะวันหลีกทางให้ ณาณีมจึงเดินกลับเข้าห้องพักไป“ท่าทางแบบนี้ ณาคงงอนสามีมาแน่ๆ ว่าไหมคะคุณราฮีม” “ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับแค่นั้น ในใจของราฮีมตอนนี้มันโหวงๆ เหมือนคนกำลังอกหักอย่างบอกไม่ถูก พอเจอคนที่ถูกใจ เธอคนนั้นกลับมีเจ้าของเสียแล้ว แต่คบเป็นเพื่อนไว้ก็ดีไปอีกแบบ เกิดวันไหนณาณีมเลิกกับสามี เขาจะได้ขายขนมจีบเธอต่อ! ณาณีมตื่นแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็ออกไปวิ่งรับอากาศสดชื่นๆ ของทะเลยามเช้า แต่ขากลับดั้นได้โจ๊กกับปาท่องโก๋ติดไม้ติดมือมาอีกต่างหาก เมื่อกลับมายังรีสอร์ทก็เทโจ๊กใส่ถ้วย หยิบปาท่องโก๋ใส่จานแล้วชงกาแฟดำอีกแก้ว จากนั้นก็ถืออาหารเช้าไปนั่งกินริมชายหาด พร้อมกับมองดูพระอาทิตย์ขึ้นไปด้วย“กินไม่รอเจ้าหมาสีน้ำตาลตัวเมื่อวานเลยนะคุณ” เสียงที่ดัง

    Last Updated : 2024-10-27
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 6 ห้องเราผนังติดกัน (1)

    “ฉันชอบคุณราฮีม และเราก็กำลังดูๆ ใจกันอยู่ หวังว่าเธอจะเข้าใจ ไม่เล่นชู้กับแฟนคนอื่นหรอกนะ”“เล่นชู้เหรอ?” ณาณีมเอ่ยทวนคำที่พราวตะวันใช้ เพราะมันแรงและดูถูกเธอมากทีเดียว นี่ถ้าไม่ถือว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน ณาณีมอาจกระโดดกัดคอไปแล้ว “ใช่…ฉันอ่านสายตาเธอเวลามองคุณราฮีมออก ว่าเธอคิดยังไงกับเขา”“แล้วตอนนี้เธออ่านสายตาฉันออกไหม ว่าคิดยังไงกับเธอ”“ออกสิ” พราวตะวันเอ่ยอย่างมั่นใจ แต่ณาณีมกลับมองบนใส่ เพราะเอาเข้าจริงๆ คนตรงหน้าก็แทบไม่รู้อะไรกับเขาเลย “อย่ามั่ว อย่าคิดแทนฉัน เพราะฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ต่อให้ฉันยังโสด คุณราฮีมก็ไม่ใช่ผู้ชายในสเปคฉันสักนิด เธอสบายใจได้”“เธอพูดเองนะ อย่ากลืนน้ำลายตัวเองเสียล่ะ” พราวตะวันกำชับ “แน่นอน” ณาณีมเอ่ยรับอีกที แต่หารู้ไม่ว่าประโยคเหล่านี้ราฮีมได้ยิน ชายหนุ่มยืนฟังอยู่ไม่ไกล และรู้สึกเสียใจที่ได้ยินแบบนี้อยู่ไม่น้อย อกหักตั้งแต่แรกที่ได้รู้จักกัน มันเป็นแบบไหน วันนี้เขาก็เพิ่งได้สัมผัส ราฮีมกับพราวตะวันกลับเข้ากรุงเทพฯ ก่อน ส่วนณาณีมนั้นยังคงใช้ชีวิตชิลล์ๆ ที่ทะเลต่ออีกคืน กระทั่งช่วงสายของวันรุ่งขึ้น เธอก็กลับเข้ากรุงเทพฯ เช่นเดียวกันณาณีม

    Last Updated : 2024-10-27
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 7 ห้องเราผนังติดกัน (2)

    ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้นรัวๆ ทำเอาณาณีมที่กำลังนอนคลุมโปงสะดุ้งตื่น เธอลากขาลงจากเตียงแล้วเดินสะโหลสะเหลไปยังประตูพอมองผ่านหน้าจอเล็กๆ ตรงประตูว่าใครมา ณาณีมก็ถึงกับหายง่วง รีบเปิดประตูทันที“คุณราฮีม”“อยู่ๆ น้ำห้องผมมันไม่ไหล ผมขอมาอาบน้ำห้องคุณได้ไหม พอดีผมมีประชุมเช้า” ถึงไม่บอกณาณีมก็พอรู้ เพราะตอนนี้ฟองแชมพูยังอยู่บนหัวของชายหนุ่มเต็มไปหมดแต่การแต่งตัวของเขานี่สิ ที่ทำให้เธอลังเลว่าจะให้เข้าห้องมาดีไหม เพราะราฮีมสวมแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว ปมมันก็หมิ่นเหม่จะหลุดไม่หลุดแหล่ ซิกแพคเอย กล้ามเอย ณาณีมได้แต่ท่องยุบหนอพองหนออยู่ในใจ“คุณณา!” เพราะเห็นณาณีมเอาแต่นิ่งเงียบ ราฮีมจึงเอ่ยเรียก“อ้อ…เชิญค่ะ”“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของณาณีมแล้วตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ เพราะที่นี่ถูกออกแบบมาคล้ายๆ กัน ทำให้ราฮีมพอจะรู้ว่าห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ห้องน

    Last Updated : 2024-10-28
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 8 ห้องเราผนังติดกัน (3)

    “ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนจะหมุนซ้ายหมุนขวามองหาสวิตช์ไฟภายในห้อง ณาณีมส่ายหน้าให้ผู้ชายตัวโตที่มีความรู้เรื่องช่างน้อยนิด จากนั้นก็เดินไปยังจุดที่ติดตั้งสวิตช์ไฟไว้ ลากเก้าอี้มาวางแล้วเธอก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เพื่อจะได้สับสวิตช์ลงแต่ว่า…ความเตี้ยของเธอก็เป็นเหตุให้เอื้อมมือไม่ถึงสวิตช์ อันที่จริงณาณีมก็ไม่ได้เตี้ยอะไรมาก แต่ผิดที่เพดานของคอนโดมิเนียมที่นี่ค่อนข้างสูง“ให้ผมช่วยไหมคุณ”“ก็ดีค่ะ” ณาณีมหันมาตอบ พร้อมกับก้าวลงจากเก้าอี้ ราฮีมที่ยืนรออยู่ข้างๆ จึงก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แทนเธอ จากนั้นก็สับสวิตช์ให้ณาณีมเดินวกกลับไปยังห้องนอน แกะกล่องหลอดไป มองซ้ายมองขวาหาอุปกรณ์เสริมความสูง เพราะเก้าอี้มันคงจะเตี้ยไปหน่อย กระทั่งได้ยินเสียงราฮีมลากโต๊ะเข้ามาให้ราวกับอ่านความคิดของเธอได้เมื่อเตรียมหลอดไฟอันใหม่เรียบร้อย ณาณีมก็ก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ โดยมีราฮีมคอยช่วย จากนั้นเธอก็เปลี่ยนหลอดไฟ โดยมีผู้ชายตัวโตที่ไร้ความรู้เรื่องช่างทุกชนิดยืนมองตาป

    Last Updated : 2024-10-28
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 9 ตัดไฟแต่ต้นลม

    “ครับ” ราฮีมพยักหน้ารับ ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป ส่วนณาณีมก็เดินกลับห้องตัวเองเช่นกัน สรุปวันนี้เธอก็ไม่ได้เจอณิการ์ สงสัยต้องนัดใหม่เป็นพรุ่งนี้ราฮีมนั่งมองนิ้วโป้งขวา ที่มีผ้าพันแผลพันไว้จนกลมเหมือนก้อนหิมะ พักนี้เขาเป็นอะไรถึงได้ซุ่มซ่ามหาเรื่องใส่ตัวไม่ได้หยุดหย่อน พลอยทำให้ณาณีมต้องมาเป็นธุระให้ด้วย คิดแล้วก็เกรงใจเธอส่วนณาณีมก็อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ตามประสาคนรู้จักทั่วๆ ไป ไม่ได้เข้าใกล้ราฮีมจนเกินพอดี เธอจงใจทิ้งระยะห่าง เพราะไม่อยากใกล้ชิดกับเขาเกินไป แต่ยิ่งเธอทำแบบนั้น ราฮีมก็ยิ่งอยากเข้าใกล้แต่เพราะพักนี้เขาเองก็ยุ่งอยู่กับงาน กลับบ้านก็ค่ำมืด ทำให้ไม่มีโอกาสได้พบณาณีมสักเท่าไหร่นัก แต่ทุกครั้งที่กลับมา ราฮีมมักจะไปยืนอยู่หน้าประตูห้องของณาณีม ก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเอง“เฮ้อ...” ราฮีมจ้องนิ้วโป้งขวา ที่ตอนนี้เอาผ้าพันแผลออกไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ณาณีมพาเขาไปโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสี่วันเข้าไปแล้ว แต่เขากลับไม่ได้เจอหน้าเธออย่างที่ตั้งใจ ถึงจะได้ชื่อว่าอยู่ห้องติด

    Last Updated : 2024-10-29
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 10 ผมรักคุณได้ไหม? (1)

    “โอเค ฉันจะเชื่อแกยัยแป้งโกะ” เอ่ยจบ พราวตะวันก็เดินตรงไปหาณาณีม“แวะมาหาใครที่นี่หรือจ๊ะณา”“คนรู้จักน่ะ เธอมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าพราว”“เปล่า อ้อ…แล้วคนรู้จักที่ว่าของเธอ ผู้หญิงหรือว่าผู้ชายจ๊ะ”“ก็ทั้งชายทั้งหญิง” ณาณีมตอบกว้างๆ ไว้ อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องตอบคำถามอะไรพวกนี้เลยก็ยังได้“หวังว่าจะไม่ใช่ผู้ชายหรอกนะ เพราะถ้าใช่ พี่แดนคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ” พราวตะวันจีบปากจีบคอพูด ซึ่งล้วนแต่กระแนะกระแหนณาณีมทั้งนั้น“อันที่จริง ฉันจะมาพบใคร หญิงหรือชาย นั่นก็เรื่องส่วนตัวของฉัน...ว่าไหม อีกอย่างเราก็แค่คนรู้จักกันแบบห่างๆ เธอไม่ต้องห่วงชีวิตครอบครัวของฉันมากมายเหมือนชีวิตของเธอเองก็ได้มั้ง” ณาณีมเอ่ยประโยคที่จะบอกให้พราวตะวันรู้ว่าเธอไม่ควรล้ำเส้นเกินไป แต่แทนที่จะหยุด พราวตะวันยังเอ่ยถึงดาวินอีก“ฉันก็แค่ห่วงเธอตามประสาเพื่อนมนุษย์ เห็นว่านี่ก็ดึกมากแล้ว เธอยังเตร็ดเตร่

    Last Updated : 2024-10-30
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 11 ผมรักคุณได้ไหม? (2)

    ชายหนุ่มยังไม่ได้เดินเข้าเกท แต่กลับเดินไปนั่งร้านกาแฟเพื่อรอเวลา แต่ขณะที่ยืนรอกาแฟที่สั่งไป อยู่ๆ ราฮีมก็กลับออกไปจากสนามบิน เป้าหมายของเขาคือณาณีม ไม่ว่ายังไงเขาต้องบอกความในใจให้เธอรู้“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” ราฮีมปลุกใจตัวเอง เวลานี้เขายืนอยู่หน้าห้องของณาณีม ผู้หญิงที่กล้าทำให้ใจเขาปั่นป่วนทั้งๆ ที่ปลุกใจตัวเองมาตลอดทางแล้วแท้ๆ ว่าจะสารภาพความในใจออกไป ถ้าสามีของเธออยู่ เขาก็พร้อมจะขอโทษ หรือถ้าทำให้ทั้งคู่อึดอัดใจ เขาก็พร้อมจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่พอเอาเข้าจริง กลับประหม่าจนแทบจะถอดใจ“อุ๊ย!” ณาณีมอุทานออกมาอย่างตกใจ เธอกำลังจะออกไปทิ้งขยะ แต่พอเปิดประตูออกมากลับเจอราฮีมยืนอยู่“คุณณา”“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เพราะสีหน้านิ่งๆ ของราฮีม ทำเอาณาณีม ต้องถาม เพราะดูเหมือนชายหนุ่มมีอะไรในใจ“ผมขอคุยด้วยสักสองนาทีได้ไหมครับ ถ้าคุณไม่สะดวกให้ผมเข้าไปคุยด้วยในห้อง เราลงไปคุยกันที่สวนก็ได้”“เอ่อ&h

    Last Updated : 2024-10-31

Latest chapter

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 49 บทส่งท้าย (จบ)

    หลังเสร็จสิ้นการมาร่วมงานแต่งงาน ณาณีมและราฮีมก็ใช้เวลาพักผ่อนกันที่ภูเก็ตอีกหลายวัน ชายหนุ่มพาเธอไปล่องเรือยอร์ช และณาณีมก็มีโอกาสได้ใส่บิกินี่อวดหุ่นสวยๆแต่ทว่าเธอก็แค่ได้ใส่ นั่นเพราะยังไม่ทันจะได้กระโดดลงไปเล่นน้ำทะเล ราฮีมก็จัดการถอดมันออกเสียก่อน จากนั้นเขาก็ทำให้เธอเร่าร้อนจนนอนหอบ กว่าจะได้หยิบบิกินี่มาสวมก็เย็นมากแล้วช่วงเวลาสำหรับการมาพักผ่อนมักจะผ่านไปเร็วเสมอ กระทั่งถึงเช้าวันสุดท้าย เพราะช่วงบ่ายๆ ณาณีมกับราฮีมต้องบินกลับกรุงเทพฯ‘เจอกันที่ชายหาดนะคะ’ นี่คือข้อความที่ณาณีมเขียนด้วยลายมือแล้วทิ้งไว้บนหมอนให้ราฮีมที่เพิ่งตื่นนอนได้อ่าน และเขาก็ไม่ลังเลที่จะเดินตามเธอไปยังชายหาดและทันทีที่มาถึง ชายหนุ่มก็ถึงกับยืนตะลึง เพราะถ้าเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากจนเกินไป ตรงหน้านี่คือฉากแต่งงานใช่ไหม ริมชายหาดมีซุ้มแต่งงานที่ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สดสีสวยและก้อนหิน ริมทางเดินยังโปรยด้วยกลีบกุหลาบแดงตัดกับทรายสีขาวละเอียดก่อนที่ณาณีมจะเดินมาหา ตอนนี้เ

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 48 ไปร่วมงานแต่ง (2)

    ณาณีมกับราฮีมบินไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนชายหนุ่มที่ภูเก็ต บรรยากาศงานแต่งงานริมชายหาดที่ตกแต่งด้วยดอกไม้และเปลือกหอย เน้นโทนขาวฟ้าตามแบบที่เจ้าสาวชอบช่างดูโรแมนติก บวกกับแสงแดดอ่อนๆ ยามอัสดง ที่ทอประกายระยิบระยับสะท้อนกับคลื่นก็ยิ่งสวยงามไหนจะแสงจากเทียนที่ประดับอยู่รอบๆ ก็ส่งให้งานแต่งงานครั้งนี้น่าจดจำ บ่าวสาวนั้นสวยหล่อดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก“มองอะไรอยู่ครับ”“มองเจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ะค่ะ” ณาณีมเอ่ยยิ้มๆ มีความสุขกับการได้เห็นคนรักกัน แม้ชีวิตเธอจะเคยล้มเหลวเรื่องความรักถึงขั้นหย่าร้าง แต่สุดท้ายก็ได้รับความรักดีๆ จากผู้ชายอย่างราฮีม แม้จะไม่รู้ว่าความรักครั้งนี้จะจบลงแบบไหน แต่ณาณีมก็ไม่เสียใจที่ได้รักใครอีกครั้ง“เปลี่ยนใจแต่งงานกับผมไหม”“ไม่เปลี่ยน”“ใจร้ายจังเลย” ราฮีมตีหน้าเศร้าได้ไม่นานก็ยิ้มร่า ทำเอาณาณีมตามอารมณ์เขาไม่ทัน แบบนี้ล่ะมั้งถึงอยู่ด้วยกันได้“แต่ร้ายยังไงก็รักครับ”“น่ารักแบบนี้ จะไม่ใ

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 47 ไปร่วมงานแต่งงาน

    “เรื่องคืนนั้นที่ญี่ปุ่นน่ะค่ะ พอมาตั้งสติแล้วนั่งคิด พราวถึงได้รู้ว่าตัวเองโง่มากที่ทำแบบนั้นลงไป” พราวตะวันคิดได้แบบนี้ในวันที่ผู้เป็นแม่ป่วยหนัก แม่พรั่งพรูความในใจออกมามากมายว่าเคยทำเรื่องไม่ดีกับใครไว้บ้าง อยากขอโทษก่อนที่จะสายไป แต่บางคนก็จากโลกนี้ไปแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้คุย ได้ปรับความเข้าใจกันนั่นทำให้พราวตะวันย้อนคิดถึงตัวเองว่าเธอเคยทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพียงเพราะต้องการเอาชนะกัน หรืออะไรก็ตาม พอมานั่งคิดเรื่องต่างๆ ก็ย้อนกลับมาและหนึ่งในนั้นคือเรื่องของราฮีม ทำให้เธอมาหาเขาที่นี่“พราวอยากขอโทษณาด้วย แต่วันนี้กลับติดต่อณาไม่ได้”“คุณณามีประชุมครับ” ราฮีมบอกเหตุผล นั่นเพราะณาณีมได้บอกไว้แล้วว่าวันนี้เธออาจต้องประชุมทั้งวัน“ถ้ายังไง พราวฝากคุณราฮีมขอโทษณาด้วยนะคะ”“ได้สิครับ”“ถ้างั้นพราวขอตัวก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะต้องไปรับคุณแม่ที่โรงพยาบาล”“เชิญครับ” เสียงทุ้มเอ่ย

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 46 ความรักที่ไม่ต้องการยึดติด

    “ให้ตายสิ เชื่อไหม ผมไม่อยากกลับห้องเลย ตั้งแต่รักคุณ ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเด็กสิบหกสิบเจ็ดที่มีความรักสุมอก” บางครั้งราฮีมก็อยากเจาะประตูให้ห้องเขาและห้องณาณีมเชื่อมติดกันนัก แต่การอยู่กันคนละห้องแบบนี้ก็ดี เพราะต่างฝ่ายก็ต่างมีพื้นที่ของกันและกัน จะได้เว้นช่องว่างและจะได้คิดถึงกัน เฝ้ารอเวลาที่จะได้พบกัน“เชื่อค่ะ เพราะคุณทำให้ณาเชื่อ สำหรับณา รักครั้งนี้มันร้อนแรงจนณา…” ณาณีมกัดริมฝีปากตัวเอง พร้อมกับส่งสายตายั่วยวนมายังราฮีม“จนณาทำไมครับ”“จนณาคิดถึงและอยากกินคุณวันละหลายๆ ครั้ง” น้ำเสียงเบาๆ ของณาณีมทำเอาราฮีมขนลุก ส่วนตานั้นก็ลุกวาวอย่างเจ้าเล่ห์“เอาเลย ผมพร้อมเสมอ”“ไว้วันมะรืนก่อนนะคะ ณาจะกินคุณตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าเลย” แค่ได้ฟัง ราฮีมก็อยากร่นวันร่นเวลาให้ถึงมะรืนที่เป็นวันคู่โดยเร็วแล้วสิ ส่วนณาณีมนั้นกลับยิ้มขำ ที่เขาจริงจังจนออกนอกหน้านอกตาแบบนี้“คนหล่อๆ ลุคนิ่งๆ ดูสมาร์ทนี่เขา

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 45 ไม่ได้นอนด้วยกันทั้งคู่

    ชายหนุ่มดึงตัวณาณีมให้ขึ้นมานั่งคร่อม ยกสะโพกของเธอขึ้นสูงแล้วค่อยๆ กดลงมารับแก่นกายของเขาช้าๆ ให้มันค่อยๆ มุดหายเข้าไปอยู่ในตัวเธอ แม้จะมีอะไรกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่แรงตอดรัด ความอุ่นภายในตัวของณาณีมก็ทำให้ราฮีมคลั่งได้เสมอๆ“อ่า...อาห์…” ณาณีมครางออกมาเมื่อเวลานี้เธอรับแก่นกายของราฮีมไว้จนลึกสุด ชายหนุ่มนอนนิ่งๆ ราวกับต้องการซึมซับความเสียวซ่าน แต่ณาณีมกลับทนไม่ไหวและเธอก็เริ่มขยับสะโพกบดเบียดสลับขึ้นลง จากช้าก็เปลี่ยนมาเป็นเร็วและถี่กระชั้น“ใจเย็นๆ ที่รัก ผมยังอยากอยู่ในตัวคุณ” ราฮีมรีบห้าม นั่นเพราะยังอยากอยู่ในตัวณาณีมให้นาน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือณาณีมกัดริมฝีปากล่าง มองราฮีมด้วยแววตาเซ็กซี่ ทำเอาหัวใจชายหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะเผลอปล่อยอารมณ์ให้กระเจิดกระเจิงจนเกือบปลดปล่อยและเมื่อรู้ตัวราฮีมก็ถอดถอนความแข็งขืนออกมาจากตัวเธอก่อน แล้วจัดการเปลี่ยนท่าทางด้วยการจับณาณีมให้กลับมานอนหงายบนเตียง ส่วนเขาลงไปยืนอยู่ริมเตียง รั้งเธอให้ขยับเข้าหาแล้วแทรกตั

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 44 คนแปลกอยากกินคนแปลก

    “ขอบใจแกสองคนมากนะ ที่คอยช่วยเหลือฉันทุกอย่าง” ณิการ์หันไปมองณาณีมกับธัญมณที่ต้องเหนื่อยแทนเธอตั้งหลายเรื่อง โดยเฉพาะณาณีม“เล็กน้อยน่ะ” ธัญมณยิ้มให้“พรุ่งนี้สามีฉันก็บินกลับมาแล้ว โล่งอกไปหน่อย”“สู้ๆ คุณแม่” ณาณีมยิ้มให้คนบนเตียงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนด้วยอีกคน“อื้อ…สู้อยู่แล้ว เป็นแม่คนต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย แต่แค่ผ่าไส้ติ่งทำไมมันเจ็บงี้ก็ไม่รู้” เพิ่งบอกให้อดทนไปหยกๆ แต่อยู่ๆ หน้าณิการ์ก็ยู่ยี่ เพราะยังรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แผลผ่าตัด“เอาน่ะ เจ็บแค่นี้เล็กน้อย มันสู้ตอนแกเบ่งคลอดน้องภูมิไม่ได้ด้วยซ้ำ จริงไหม” ณิการ์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของณาณีม“จริง เพราะงั้นฉันเลยขอมีลูกแค่คนเดียวนี่ไง เข็ดตอนเบ่งคลอด”“แกนี่” ณาณีมส่ายหน้าให้ณิการ์อีกที ก่อนที่ณิการ์จะเอ่ยกับลูกชาย ที่พอทำการบ้านเสร็จก็ตัวติดกับราฮีมทันทีเหมือนกัน“น้องภู

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 43 เพศพรหมจรรย์

    “เชิญค่ะ เพราะการเม้าท์มอยในที่ทำงานถือเป็นงานหลัก เอ้ย! ไม่สิ งานอดิเรกของใครหลายๆ คนอยู่แล้ว แต่ณาว่าพี่ณิอรกับมาตาคงไม่เป็นหรอก ใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะใช่” ณิอรเอ่ยรับก่อน“ใช่ค่ะ มาตากับพี่ณิอรไม่ใช่พวกขาเม้าท์แน่นอน เรื่องเม้าท์ไร้สาระทั้งนั้น” มาตาที่นั่งฟังมานานเอ่ยเสริมขึ้นบ้าง แต่แค่ได้ฟังก็คันปากยิกๆ“กินข้าวกันค่ะ เดี๋ยวเย็นแล้วมันจะไม่อร่อย” ณิอรและมาตาพยักหน้ารับกันหงึกหงักแล้วกินข้าวเที่ยงกันอย่างเงียบๆ ส่วนณาณีมนั้นนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะรู้ว่าสองคนนี้คิดอะไรกันอยู่ ดีไม่ดีกลับเข้าไปทำงานในช่วงบ่าย เธออาจเป็นเซเลบที่มีแต่คนมอง ซึ่งณาณีมก็หาได้แคร์ไม่กระทั่งอิ่ม ณาณีมก็ขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อกลางวัน ณิอรและมาตาก็ไม่ได้คัดค้าน ดีซะอีก เพราะจะได้ประหยัดเงินค่ามื้อเที่ยงไปอีกหนึ่งมื้อ จากนั้นณาณีมก็ขอตัวกลับออกไปก่อน“ก่อนกินข้าว พี่ณิอรว่าพี่ณาแขวะเราไหมคะ” เมื่ออยู่กันสองคน มาตาก็เอ่ยขึ้น“

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 42 ความสุขอันแท้จริง

    “เร็วไปนะคะ พูดถึงท่านปุ๊บก็จะชวนณาไปปั๊บ ใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้” ณาณีมส่ายหน้าให้คนตัวโตกว่า ที่ตอนนี้เขาเอาแต่นั่งยิ้ม นั่นเพราะแม้รักครั้งนี้เขาจะให้ณาณีมเป็นคนออกแบบ แต่เส้นทางที่เธอเลือกมันก็ไม่ได้ต่างไปจากตัวตนในแบบที่ราฮีมอยากได้“ก็ผมอยากให้ครอบครัวได้เจอกับผู้หญิงคนที่ผมจะใช้ชีวิตด้วยหลังจากนี้ ผมจะได้บอกพ่อกับแม่ว่าวันนี้พระเจ้าได้ประทานผู้หญิงที่มีค่ามาให้ผมแล้ว”“เดี๋ยวณาก็ตัวลอยหรอก”“ผมพูดเรื่องจริง”“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจณา ขอบคุณ” นอกจากคำๆ นี้แล้ว ณาณีมก็ไม่รู้จะเอ่ยคำไหน ถึงแม้ก่อนหน้านี้เธอไม่คิดจะเปิดใจให้เขา แต่สุดท้ายก็แพ้ใจ“ถ้าไม่ให้ผมเข้าใจคนที่ผมรักแล้วจะให้ผมไปเข้าใจใครครับ…หืม” เพราะรักราฮีมจึงเข้าใจด้วยหัวใจ และไม่ต้องการเปลี่ยนตัวตนของณาณีม เขาต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธอเปิดใจให้ นั่นเพราะรู้ว่าความรักสำหรับคนอย่างณาณีมนั้นต่างจากทุกๆ คน“ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้คุณ

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 41 สังคมที่เต็มไปด้วยอันตราย

    “รู้ไหมว่าลูกแกพูดอะไรกับฉันเมื่อวาน น้องภูมิบอกว่ารักแกมาก แกอยากให้เรียนพิเศษอะไร น้องภูมิก็เรียน เรียนเพื่อตามใจแก” ยังฟังไม่ทันจบประโยค ณิการ์ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างยากจะกลั้นไว้ได้เธอสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ที่ผ่านมาเธอคงเป็นแม่ที่เห็นแก่ตัวจริงๆ คิดเองเออเองในฐานะแม่ ว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับภูมิแผ่นดิน และเมื่อเห็นแม่ร้องไห้ เด็กชายก็เดินเข้ามาหาใกล้ๆ นั่นทำให้ณิการ์คว้าลูกชายมากอดอย่างรู้สึกผิด“แม่ขอโทษนะครับภูมิ แม่ขอโทษ”“คุณแม่ขอโทษน้องภูมิทำไมครับ” เด็กชายเอ่ยถามอย่างงุนงง นั่นเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดนัก ที่สำคัญเมื่อครู่ยังถูกราฮีมจงใจเบี่ยงเบนความสนใจขณะที่ณาณีมคุยกับณิการ์ไปด้วย“วันหลังเราไปเล่นบ้านบอล ไปกินเฟรนช์ฟรายส์กันนะครับ”“จริงๆ นะฮะ” ภูมิแผ่นดินยิ้มกว้างทันที“จริงสิครับ ส่วนเรียนพิเศษ ต่อไปนี้แม่จะถามก่อนว่าน้องภูมิอยากเรียนไหม ถ้าไม่ชอบก็บอกแม่นะครับ”

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status