Share

บทที่ 10 ผมรักคุณได้ไหม? (1)

“โอเค ฉันจะเชื่อแกยัยแป้งโกะ” เอ่ยจบ พราวตะวันก็เดินตรงไปหาณาณีม

“แวะมาหาใครที่นี่หรือจ๊ะณา”

“คนรู้จักน่ะ เธอมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าพราว”

“เปล่า อ้อ…แล้วคนรู้จักที่ว่าของเธอ ผู้หญิงหรือว่าผู้ชายจ๊ะ”

“ก็ทั้งชายทั้งหญิง” ณาณีมตอบกว้างๆ ไว้ อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องตอบคำถามอะไรพวกนี้เลยก็ยังได้ 

“หวังว่าจะไม่ใช่ผู้ชายหรอกนะ เพราะถ้าใช่ พี่แดนคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ” พราวตะวันจีบปากจีบคอพูด ซึ่งล้วนแต่กระแนะกระแหนณาณีมทั้งนั้น

“อันที่จริง ฉันจะมาพบใคร หญิงหรือชาย นั่นก็เรื่องส่วนตัวของฉัน...ว่าไหม อีกอย่างเราก็แค่คนรู้จักกันแบบห่างๆ เธอไม่ต้องห่วงชีวิตครอบครัวของฉันมากมายเหมือนชีวิตของเธอเองก็ได้มั้ง” ณาณีมเอ่ยประโยคที่จะบอกให้พราวตะวันรู้ว่าเธอไม่ควรล้ำเส้นเกินไป แต่แทนที่จะหยุด พราวตะวันยังเอ่ยถึงดาวินอีก

“ฉันก็แค่ห่วงเธอตามประสาเพื่อนมนุษย์ เห็นว่านี่ก็ดึกมากแล้ว เธอยังเตร็ดเตร่อยู่ที่นี่ สามีดีเด่นของเธอจะว่ายังไงบ้าง”

“เขาก็คงเข้าใจฉันดี เธอไม่ต้องห่วงไปหรอก” น้ำเสียงตึงๆ ของณาณีมตอบกลับ 

“ตะกี้ยัยณาเหมือนจะว่าแกเสือกนะพราว” แป้งโกะที่ยืนเป็นกองหนุนของพราวตะวันเอ่ยขึ้น นั่นทำให้คนฟังหันขวับมามองตาขวาง เพราะเธอตั้งใจจะลืมประโยคนั้นไปแล้วแท้ๆ แต่แป้งโกะกลับขุดมันขึ้นมาซะได้ 

“รู้แล้ว ไม่ต้องแปลก็ได้ยัยแป้งโกะ”

“เอ้า! ฉันก็คิดว่าเธอไม่รู้”

“รู้ย่ะ” พราวตะวันเค้นเสียงตอบ 

“เชิญเธอสองคนคุยกันตามสบาย ฉันขอตัวก่อน” ในเมื่อไม่มีอะไรจะคุย ณาณีมก็ขอตัว แต่กลับถูกพราวตะวันเดินเข้าไปขวางหน้าไว้ 

“เดี๋ยวสิ”

“อะไร” น้ำเสียงนิ่งๆ ของณาณีมเอ่ยถาม 

“ฉันเพิ่งแวะมาส่งคุณราฮีมไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เราไปดินเนอร์ด้วยกันมา เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกับเขา เราสองคนกำลังคบกันอยู่”

“เธอเคยบอกฉันแล้ว” ณาณีมเอ่ยตอบ 

“บอกแล้วก็บอกอีกได้ หวังว่าเธอจะไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอกนะ” พราวตะวันกับณาณีมจ้องตากัน ส่วนแป้งโกะก็ลุ้นอยู่ใกล้ๆ ว่าเมื่อไหร่ฝ่ายใดจะลงไม้ลงมือก่อน 

“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ แต่ถ้าเธอยังเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันก็อาจจะเปลี่ยนใจ”

“นี่เธอ! กล้าคิดจะเป็นชู้กับแฟนคนอื่นเหรอ หน้าไม่อาย”

“มันก็คงตื่นเต้นดีออก...ว่าไหม” ณาณีมไหวไหล่เบาๆ แกล้งแหย่พราวตะวันให้ควันออกหูแบบนี้ก็สนุกดีไปอีกแบบ 

“จะมากไปแล้วนะณา” เสียงของพราวตะวันห้วนขึ้น สีหน้า ท่าทางก็พร้อมเอาเรื่อง 

“หมดธุระของเธอแล้วใช่ไหม ฉันขอตัว” เอ่ยจบณาณีมก็เดินไปยังลิฟต์ ไม่ได้ให้ความสนใจเพื่อนเก่าสักเท่าไหร่ พราวตะวันกัดฟันกรอดๆ ตามหลัง เธอไม่มีวันปล่อยราฮีมให้หลุดมือไปง่ายๆ และถ้าณาณีม คิดจะเป็นชู้กับเขาขึ้นมา เธอนี่แหละจะประจานพฤติกรรมเลวทรามนี้ด้วยตัวเอง 

 

 

 

แม้จะอยู่ห้องติดกัน มีเพียงกำแพงกั้น แต่ราฮีมกลับไม่ค่อยได้พบณาณีมอย่างที่หวัง นั่นเพราะเธอจงใจเลี่ยงเขานั่นเอง ราฮีมเป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เขารู้ว่าคิดยังไงกับณาณีมและรู้ว่ามันไม่ถูกต้องเช่นกันที่ไปรักคนมีเจ้าของแล้วแบบนั้น แต่ใช่ว่าเขาจะรู้สึกแบบนี้กับใครง่ายๆ 

วันนี้เขาต้องบินกลับไปทำงานที่อังกฤษ และคงอยู่ยาวสามสี่เดือน รวมทั้งตั้งใจจะไปอยู่ให้ห่างเธอ เผื่ออะไรๆ ในหัวใจมันจะเปลี่ยนแปลง หวังว่าจะตัดใจจากณาณีมได้ก่อนบินกลับมา แต่ดูท่าอะไรๆ ที่ว่ามันจะไม่ง่ายดายแบบนั้น

“เฮ้อ...” ราฮีมถอนหายใจออกมาหนักๆ โตจนจะอายุสามสิบเจ็ดเข้าไปแล้ว แต่กลับรู้สึกว้าวุ่นราวกับเด็กหนุ่มกำลังตกหลุมรัก

ก่อนจะตัดใจหิ้วกระเป๋าลงไปที่รถของคนขับรถที่หน้าคอนโดมิเนียม แต่ทว่ากลับได้พบพราวตะวันแทน

“คุณพราว” 

“ให้พราวไปส่งคุณที่สนามบินนะคะ” 

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากรบกวน” ราฮีมอยากถามอีกคำถาม ทำไมพราวตะวันถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่เอ่ยถามออกไป เพราะมันคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

“ไม่ได้รบกวนเลย พราวเต็มใจ นะคะ” พราวตะวันยิ้มอ้อนวอน นั่นทำให้ราฮีมใจอ่อนจนยอมให้เธอขับรถไปส่งที่สนามบิน

พราวตะวันอยากขอตามไปอังกฤษด้วย แต่ก็ต้องสงวนท่าที รอให้ราฮีมเป็นคนเอ่ยชวนเอง แต่ดูท่าเธอจะไม่สมหวังแน่นอน เพราะเขาเฉยเกินไป เธอจึงต้องรุกขนาดนี้ แต่จะให้ปล้ำเขาเลยก็คงไม่ได้อีก 

“คุณราฮีมจะกลับมาเมืองไทยวันไหนคะ พราวจะได้ล็อกคิวไว้ไปรอรับที่สนามบิน”

“ยังไม่มีกำหนดวันครับ”

“อยู่ห่างกันแบบนี้ พราวต้องคิดถึงคุณมากแน่ๆ”

“ครับ”

“พราวชอบคุณนะคะคุณราฮีม เราลองคบกันดูไหม” ประโยคนี้พราวตะวันได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกไป สองจิตสองใจระหว่างพูดหรือไม่พูดอยู่นานสองนาน กระทั่งถึงสนามบิน

เมื่อมาถึงราฮีมก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าเขานั้นต้องเข้าไปข้างในเพื่อรอขึ้นเครื่อง ขอให้พราวตะวันกลับไปก่อน เพราะกลับช้าเดี๋ยวรถจะติด 

“เดินทางปลอดภัยนะคะ” พราวตะวันรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปกอดและเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อหอมแก้มของราฮีม แม้จะอายแต่เธอก็ยอม ราฮีมจะได้รู้เสียทีว่าเธอคิดอะไรกับเขา

“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ พราวตะวันเขินอายจนต้องรีบกลับออกไป แม้เธอจะเป็นผู้หญิงแรงๆ ในสายตาใคร แต่ถ้าเมื่อไหร่ชอบใครขึ้นมาสักคน เธอจะเขินอายและเปลี่ยนไป ความกล้าที่มีดูจะลดน้อยลงไปมาก เพราะปกติผู้หญิงอย่างพราวตะวันมีแต่ผู้ชายมารุมล้อมขอความรัก

ราฮีมถอนหายใจออกมาหนักๆ น่าแปลกที่เขาเอาแต่คิดถึงณาณีม ทั้งๆ ที่มีผู้หญิงเซ็กซี่ ร้อนแรงและพร้อมจะขึ้นเตียงกับเขาอย่างพราวตะวันมาบอกว่าชอบแบบนี้

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status