Home / โรแมนติก / ฉากรักในคืนฝนโปรย / บทที่ 6 ห้องเราผนังติดกัน (1)

Share

บทที่ 6 ห้องเราผนังติดกัน (1)

last update Last Updated: 2024-10-27 11:00:36

“ฉันชอบคุณราฮีม และเราก็กำลังดูๆ ใจกันอยู่ หวังว่าเธอจะเข้าใจ ไม่เล่นชู้กับแฟนคนอื่นหรอกนะ”

“เล่นชู้เหรอ?” ณาณีมเอ่ยทวนคำที่พราวตะวันใช้ เพราะมันแรงและดูถูกเธอมากทีเดียว นี่ถ้าไม่ถือว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน ณาณีมอาจกระโดดกัดคอไปแล้ว 

“ใช่…ฉันอ่านสายตาเธอเวลามองคุณราฮีมออก ว่าเธอคิดยังไงกับเขา”

“แล้วตอนนี้เธออ่านสายตาฉันออกไหม ว่าคิดยังไงกับเธอ”

“ออกสิ” พราวตะวันเอ่ยอย่างมั่นใจ แต่ณาณีมกลับมองบนใส่ เพราะเอาเข้าจริงๆ คนตรงหน้าก็แทบไม่รู้อะไรกับเขาเลย 

“อย่ามั่ว อย่าคิดแทนฉัน เพราะฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ต่อให้ฉันยังโสด คุณราฮีมก็ไม่ใช่ผู้ชายในสเปคฉันสักนิด เธอสบายใจได้”

“เธอพูดเองนะ อย่ากลืนน้ำลายตัวเองเสียล่ะ” พราวตะวันกำชับ 

“แน่นอน” ณาณีมเอ่ยรับอีกที แต่หารู้ไม่ว่าประโยคเหล่านี้ราฮีมได้ยิน ชายหนุ่มยืนฟังอยู่ไม่ไกล และรู้สึกเสียใจที่ได้ยินแบบนี้อยู่ไม่น้อย อกหักตั้งแต่แรกที่ได้รู้จักกัน มันเป็นแบบไหน วันนี้เขาก็เพิ่งได้สัมผัส 

 

 

 

 

ราฮีมกับพราวตะวันกลับเข้ากรุงเทพฯ ก่อน ส่วนณาณีมนั้นยังคงใช้ชีวิตชิลล์ๆ ที่ทะเลต่ออีกคืน กระทั่งช่วงสายของวันรุ่งขึ้น เธอก็กลับเข้ากรุงเทพฯ เช่นเดียวกัน

ณาณีมไม่ได้กลับบ้านเหมือนทุกครั้ง คราวนี้เธอตรงไปยังคอนโดมิเนียมที่เพิ่งซื้อหลังหย่าร้างกับดาวิน เมื่อมาถึงก็ให้บริษัทเอกชนที่รับย้ายบ้านมาส่งของ จากนั้นณาณีมก็จัดห้องกระทั่งมืด 

“โอ๊ย! หิวๆ” เพราะมัวแต่ทำนั่นทำนี่จนลืมมื้อเย็น มารู้ตัวอีกทีท้องก็ร้องประท้วง ณาณีมเดินไปยังตู้เย็น แต่พอเปิดออกกลับมีแค่น้ำเปล่าซะอย่างนั้น

เธอคว้ากระเป๋าใบเล็กมาถือ หยิบโทรศัพท์และคีย์การ์ดติดมือมาด้วย แล้วเดินออกไปหาอะไรกินข้างๆ คอนโดมิเนียมในสภาพมนุษย์ป้ามาก เพราะเวลานี้เธอสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ผมรวบมวยไว้บนศีรษะ แถมยังใส่แว่นอีกต่างหาก

ณาณีมก้มหน้าก้มตาเดิน นั่นเพราะไม่อยากสบตาใครในสภาพกระเซอะกระเซิงแบบนี้ ต่อให้จะไม่รู้จักใครก็เถอะ แต่สุดท้ายกลับมีเสียงทักขึ้น 

“อ้าว! คุณณา” น้ำเสียงของราฮีมแสดงออกถึงความประหลาดใจแต่ก็แฝงความยินดีด้วยที่ได้พบณาณีมที่นี่ 

“อุ๊ย! คุณราฮีม มาทำอะไรที่นี่คะ” ณาณีมหยุดกึก เกือบจะชนเข้ากับราฮีม พอเงยหน้าขึ้นจึงยิ้มแห้งๆ ให้เขาแล้วเอ่ยถาม ขณะนั้นก็บ่นในใจไปด้วย ว่าทำไมต้องมาเจอราฮีมเวลานี้ 

“ผมพักที่นี่ครับ แล้วคุณมาทำอะไร แต่ดูจากการแต่งตัวแล้ว คุณน่าจะอยู่ที่นี่ จริงไหม” ราฮีมสันนิษฐานจากสิ่งที่ตาเขามองเห็น 

“ก็ทำนองนั้นค่ะ”

“แล้วจะออกไปไหนค่ำๆ มืดๆ ครับ”

“พอดีฉันหิวข้าว เลยจะออกไปหาอะไรกิน”

“ตีหนึ่งเนี่ยนะคุณ” ราฮีมก้มมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ 

“อื้อ…ร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวริมถนนน่าจะยังเปิดอยู่ ฉันไปก่อนนะคะ” ณาณีมรีบขอตัว นั่นเพราะกลัวจะดึกไปกว่านี้ 

“เดี๋ยวๆ งั้นผมไปเป็นเพื่อน” คนตรงหน้ารีบเอ่ยขึ้น 

“ไม่ต้อง ฉันไปเองได้” 

“ผมไปเป็นเพื่อนดีกว่า ต่อให้คุณจะมีหน้าตาเป็นอาวุธ แต่บางทีโจรมันก็ชอบปล้นคนแก่” คำพูดของราฮีมทำเอาณาณีมควันออกหู ยืนเท้าสะเอวมองเขาเสียเลย 

“นี่คุณ…”

“ผมล้อเล่นน่ะคุณ”

“หึ…” ณาณีมเบ้ปากใส่ราฮีม ผู้ชายอะไร หล่อก็หล่อ แต่ปากเสียชะมัด ก่อนจะสะบัดหน้าใส่เขาแล้วเดินจ้ำไปยังหน้าคอนโดมิเนียม ซึ่งราฮีมเองก็รีบตามไป 

แม้ตอนนี้เขาจะอิ่มมาก เพราะไปทานข้าวกับหุ้นส่วนมา แต่กลับสั่งบะหมี่มานั่งกินเป็นเพื่อนณาณีมชามโต ส่วนณาณีมนั้นพอกินบะหมี่เสร็จ เธอยังสั่งขนมหวานมากินอีกถ้วย ตามด้วยโรตีจากอาบังอีกแผ่น 

“คุณ…หิวมากเลยเหรอ”

“อื้อ…ฉันจัดห้องตั้งแต่บ่าย ยังไม่ได้กินอะไรเลย” ขณะตอบก็กินโรตีไปด้วย กินแค่นี้ไม่อ้วนหรอกมั้ง! แต่คำพูดของณาณีมก็ทำให้ราฮีมตั้งคำถาม 

“จัดห้องตั้งแต่บ่าย งั้นก็แสดงว่าคุณเพิ่งจะย้ายมาอยู่”

“ใช่”

“แล้วสามีคุณไปไหน ไม่มาช่วยจัดห้องด้วยเหรอ”

“พอดีเขาไม่ค่อยว่าง” ณาณีมบอกปัด 

“อ้อ”

“ฉันอิ่มแล้ว คุณอิ่มยัง”

“อิ่มแล้วครับ”

“พี่คะ คิดเงินด้วยค่ะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงนะ ขอบคุณที่คุณมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อน” พูดจบณาณีมก็หยิบเงินออกมาจ่ายค่าเสียหาย

“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ นั่นเพราะณาณีมไม่เปิดโอกาสให้เขาได้แย้ง 

เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ทั้งสองคนก็เดินกลับเข้าคอนโดมิเนียมด้วยกัน ณาณีมบอกลาราฮีมที่หน้าล็อบบี้ เพราะเข้าใจว่าชายหนุ่มจะอยู่อีกตึก แต่ผิดคาด เพราะไปๆ มาๆ เขาอยู่ตึกเดียวกับเธอ แถมยังชั้นเดียวกัน และห้องติดกันอีกต่างหาก

“คุณอยู่ห้องนี้เหรอ” ณาณีมชี้ไปยังห้องข้างๆ ที่ราฮีมยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับคีย์การ์ดในมือ 

“ครับ”

“โลกจะกลมไปไหน” บ่นเสร็จก็เปิดประตูเข้าห้องไป แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงราฮีมตามหลัง 

“ฝันดีนะครับ” ราฮีมยืนกอดอกมองยิ้มๆ ขอบคุณความกลมของโลกใบนี้ ที่ทำให้เขากับณาณีมได้มาอยู่ใกล้กัน

แต่ราฮีมก็ต้องปล่อยวาง นั่นเพราะเขารู้ว่าณาณีมไม่โสด ต่อให้ชอบเธอก็คงไม่บ้าพอจะไปเป็นชู้ 

ส่วนณาณีมเธอพอจะมองออกว่าราฮีมคิดยังไงด้วย แต่เวลานี้เธอยังไม่พร้อมจะมีใครจริงๆ ต่อให้ผู้ชายคนนั้นจะหล่อ จะรวย จะน่าลากแค่ไหนก็ตาม เธอเข็ดกับการมีความรัก เข็ดกับคำว่าครอบครัว เข็ดกับคำว่าคู่ อยากเป็นคี่บ้าง

 

Related chapters

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 7 ห้องเราผนังติดกัน (2)

    ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้นรัวๆ ทำเอาณาณีมที่กำลังนอนคลุมโปงสะดุ้งตื่น เธอลากขาลงจากเตียงแล้วเดินสะโหลสะเหลไปยังประตูพอมองผ่านหน้าจอเล็กๆ ตรงประตูว่าใครมา ณาณีมก็ถึงกับหายง่วง รีบเปิดประตูทันที“คุณราฮีม”“อยู่ๆ น้ำห้องผมมันไม่ไหล ผมขอมาอาบน้ำห้องคุณได้ไหม พอดีผมมีประชุมเช้า” ถึงไม่บอกณาณีมก็พอรู้ เพราะตอนนี้ฟองแชมพูยังอยู่บนหัวของชายหนุ่มเต็มไปหมดแต่การแต่งตัวของเขานี่สิ ที่ทำให้เธอลังเลว่าจะให้เข้าห้องมาดีไหม เพราะราฮีมสวมแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว ปมมันก็หมิ่นเหม่จะหลุดไม่หลุดแหล่ ซิกแพคเอย กล้ามเอย ณาณีมได้แต่ท่องยุบหนอพองหนออยู่ในใจ“คุณณา!” เพราะเห็นณาณีมเอาแต่นิ่งเงียบ ราฮีมจึงเอ่ยเรียก“อ้อ…เชิญค่ะ”“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของณาณีมแล้วตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ เพราะที่นี่ถูกออกแบบมาคล้ายๆ กัน ทำให้ราฮีมพอจะรู้ว่าห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ห้องน

    Last Updated : 2024-10-28
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 8 ห้องเราผนังติดกัน (3)

    “ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนจะหมุนซ้ายหมุนขวามองหาสวิตช์ไฟภายในห้อง ณาณีมส่ายหน้าให้ผู้ชายตัวโตที่มีความรู้เรื่องช่างน้อยนิด จากนั้นก็เดินไปยังจุดที่ติดตั้งสวิตช์ไฟไว้ ลากเก้าอี้มาวางแล้วเธอก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เพื่อจะได้สับสวิตช์ลงแต่ว่า…ความเตี้ยของเธอก็เป็นเหตุให้เอื้อมมือไม่ถึงสวิตช์ อันที่จริงณาณีมก็ไม่ได้เตี้ยอะไรมาก แต่ผิดที่เพดานของคอนโดมิเนียมที่นี่ค่อนข้างสูง“ให้ผมช่วยไหมคุณ”“ก็ดีค่ะ” ณาณีมหันมาตอบ พร้อมกับก้าวลงจากเก้าอี้ ราฮีมที่ยืนรออยู่ข้างๆ จึงก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แทนเธอ จากนั้นก็สับสวิตช์ให้ณาณีมเดินวกกลับไปยังห้องนอน แกะกล่องหลอดไป มองซ้ายมองขวาหาอุปกรณ์เสริมความสูง เพราะเก้าอี้มันคงจะเตี้ยไปหน่อย กระทั่งได้ยินเสียงราฮีมลากโต๊ะเข้ามาให้ราวกับอ่านความคิดของเธอได้เมื่อเตรียมหลอดไฟอันใหม่เรียบร้อย ณาณีมก็ก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ โดยมีราฮีมคอยช่วย จากนั้นเธอก็เปลี่ยนหลอดไฟ โดยมีผู้ชายตัวโตที่ไร้ความรู้เรื่องช่างทุกชนิดยืนมองตาป

    Last Updated : 2024-10-28
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 9 ตัดไฟแต่ต้นลม

    “ครับ” ราฮีมพยักหน้ารับ ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป ส่วนณาณีมก็เดินกลับห้องตัวเองเช่นกัน สรุปวันนี้เธอก็ไม่ได้เจอณิการ์ สงสัยต้องนัดใหม่เป็นพรุ่งนี้ราฮีมนั่งมองนิ้วโป้งขวา ที่มีผ้าพันแผลพันไว้จนกลมเหมือนก้อนหิมะ พักนี้เขาเป็นอะไรถึงได้ซุ่มซ่ามหาเรื่องใส่ตัวไม่ได้หยุดหย่อน พลอยทำให้ณาณีมต้องมาเป็นธุระให้ด้วย คิดแล้วก็เกรงใจเธอส่วนณาณีมก็อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ตามประสาคนรู้จักทั่วๆ ไป ไม่ได้เข้าใกล้ราฮีมจนเกินพอดี เธอจงใจทิ้งระยะห่าง เพราะไม่อยากใกล้ชิดกับเขาเกินไป แต่ยิ่งเธอทำแบบนั้น ราฮีมก็ยิ่งอยากเข้าใกล้แต่เพราะพักนี้เขาเองก็ยุ่งอยู่กับงาน กลับบ้านก็ค่ำมืด ทำให้ไม่มีโอกาสได้พบณาณีมสักเท่าไหร่นัก แต่ทุกครั้งที่กลับมา ราฮีมมักจะไปยืนอยู่หน้าประตูห้องของณาณีม ก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเอง“เฮ้อ...” ราฮีมจ้องนิ้วโป้งขวา ที่ตอนนี้เอาผ้าพันแผลออกไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ณาณีมพาเขาไปโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสี่วันเข้าไปแล้ว แต่เขากลับไม่ได้เจอหน้าเธออย่างที่ตั้งใจ ถึงจะได้ชื่อว่าอยู่ห้องติด

    Last Updated : 2024-10-29
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 10 ผมรักคุณได้ไหม? (1)

    “โอเค ฉันจะเชื่อแกยัยแป้งโกะ” เอ่ยจบ พราวตะวันก็เดินตรงไปหาณาณีม“แวะมาหาใครที่นี่หรือจ๊ะณา”“คนรู้จักน่ะ เธอมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าพราว”“เปล่า อ้อ…แล้วคนรู้จักที่ว่าของเธอ ผู้หญิงหรือว่าผู้ชายจ๊ะ”“ก็ทั้งชายทั้งหญิง” ณาณีมตอบกว้างๆ ไว้ อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องตอบคำถามอะไรพวกนี้เลยก็ยังได้“หวังว่าจะไม่ใช่ผู้ชายหรอกนะ เพราะถ้าใช่ พี่แดนคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ” พราวตะวันจีบปากจีบคอพูด ซึ่งล้วนแต่กระแนะกระแหนณาณีมทั้งนั้น“อันที่จริง ฉันจะมาพบใคร หญิงหรือชาย นั่นก็เรื่องส่วนตัวของฉัน...ว่าไหม อีกอย่างเราก็แค่คนรู้จักกันแบบห่างๆ เธอไม่ต้องห่วงชีวิตครอบครัวของฉันมากมายเหมือนชีวิตของเธอเองก็ได้มั้ง” ณาณีมเอ่ยประโยคที่จะบอกให้พราวตะวันรู้ว่าเธอไม่ควรล้ำเส้นเกินไป แต่แทนที่จะหยุด พราวตะวันยังเอ่ยถึงดาวินอีก“ฉันก็แค่ห่วงเธอตามประสาเพื่อนมนุษย์ เห็นว่านี่ก็ดึกมากแล้ว เธอยังเตร็ดเตร่

    Last Updated : 2024-10-30
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 11 ผมรักคุณได้ไหม? (2)

    ชายหนุ่มยังไม่ได้เดินเข้าเกท แต่กลับเดินไปนั่งร้านกาแฟเพื่อรอเวลา แต่ขณะที่ยืนรอกาแฟที่สั่งไป อยู่ๆ ราฮีมก็กลับออกไปจากสนามบิน เป้าหมายของเขาคือณาณีม ไม่ว่ายังไงเขาต้องบอกความในใจให้เธอรู้“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” ราฮีมปลุกใจตัวเอง เวลานี้เขายืนอยู่หน้าห้องของณาณีม ผู้หญิงที่กล้าทำให้ใจเขาปั่นป่วนทั้งๆ ที่ปลุกใจตัวเองมาตลอดทางแล้วแท้ๆ ว่าจะสารภาพความในใจออกไป ถ้าสามีของเธออยู่ เขาก็พร้อมจะขอโทษ หรือถ้าทำให้ทั้งคู่อึดอัดใจ เขาก็พร้อมจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่พอเอาเข้าจริง กลับประหม่าจนแทบจะถอดใจ“อุ๊ย!” ณาณีมอุทานออกมาอย่างตกใจ เธอกำลังจะออกไปทิ้งขยะ แต่พอเปิดประตูออกมากลับเจอราฮีมยืนอยู่“คุณณา”“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เพราะสีหน้านิ่งๆ ของราฮีม ทำเอาณาณีม ต้องถาม เพราะดูเหมือนชายหนุ่มมีอะไรในใจ“ผมขอคุยด้วยสักสองนาทีได้ไหมครับ ถ้าคุณไม่สะดวกให้ผมเข้าไปคุยด้วยในห้อง เราลงไปคุยกันที่สวนก็ได้”“เอ่อ&h

    Last Updated : 2024-10-31
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 12 ชีวิตช่วงลาพักร้อน

    ณาณีมยังคงใช้ชีวิตช่วงลาพักร้อนในแบบที่ชอบ หลังจากกลับจากทะเล เธอก็แบ็คแพ็คไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว อยากไปที่ไหนเธอก็แค่จองตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก จากนั้นก็บินไป ชีวิตอิสระแม้จะเหงาบ้าง แต่ความเหงาก็มาพร้อมกับความอิสระแต่น่าแปลก ทำไมเวลาไปที่ไหนเธอต้องคิดถึงราฮีมด้วย เขามักจะชอบโผล่เข้ามาในความคิดของเธอเสมอๆ สลัดทิ้งเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้สักทีซึ่งความรู้สึกนี้ใช่ว่าจะเป็นแค่ณาณีมคนเดียวเท่านั้น เพราะราฮีมเองก็คิดถึงเธอเช่นกัน ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน สมองส่วนหนึ่งก็ยังคงวนเวียนคิดถึงแต่เธอ“ท่าจะเป็นเอามาก เธอมีสามีแล้วราฮีม เลิกคิด เลิก!” ราฮีมสั่งตัวเองมาเป็นครั้งที่ร้อย แต่ดูเหมือนสมองรวมทั้งหัวใจจะทรยศ เพราะมันไม่ยอมทำตามง่ายๆแต่ละวันที่ผ่านไป ใช่ว่าความคิดถึงที่ราฮีมมีให้ณาณีมจะลดน้อยลง ยิ่งไม่ได้เห็นเธอเขาก็ยิ่งคิดถึง สงสัยจะตกนรกก็คราวนี้ คิดถึงใครไม่คิด คิดถึงคนที่มีเจ้าของในขณะที่ณาณีมเองก็ยังคงใช้ชีวิตเป็นปกติ หลังหมดวันพักร้อนเธอก็กลับไปทำงาน และก็ตามคาด เ

    Last Updated : 2024-11-01
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 13 เมื่อเราได้กลับมาพบกันใหม่

    ณิการ์และธัญมณเลี้ยงส่งณาณีมที่กำลังไปทำงานที่ญี่ปุ่น แม้จะไปแค่ไม่กี่เดือนก็ตามที กระทั่งถึงวันเดินทางทั้งสองสาวก็ได้ไปส่งณาณีมที่สนามบิน และที่นั่นเธอได้พบกับใครคนหนึ่งเข้าณิการ์หันมากระซิบให้ณาณีมรู้พิกัด“แก๊…สองนาฬิกา”“ยัยพราว” ณาณีมเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นพราวตะวัน“อุ๊ย!…โลกกลม มาเจอแก๊งสาว สาว สาวที่สนามบินด้วย จะไปไหนกันจ๊ะ” พราวตะวันเอ่ยทัก“ฉันสองคนไม่ได้ไป แต่ณาไป” ณิการ์เอ่ยขึ้น“จะบินไปไหนหรือจ๊ะณา”“ญี่ปุ่น พอดีต้องไปทำงาน”“แหม…อายุก็เยอะขึ้นทุกวัน แต่ยังทำงานงกๆ เนอะ เขาให้เงินเดือนเท่าไหร่เนี่ย ลาออกแล้วมาเป็นพนักงานบริษัทฉันไหม” พราวตะวันเน้นคำว่าพนักงานแบบชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาณิการ์กับธัญมณเบ้ปากให้คนขี้อวด รู้หรอกว่าบ้านรวย แต่ไม่ต้องพองยังกับอึ่งอ่างก็ได้มั้ง หมั่นไส้!“ขอบใจที่มี

    Last Updated : 2024-11-02
  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 14 เมื่อเราได้กลับมาพบกันใหม่ (2)

    ราฮีมนั่งจิบชาอุ่นๆ อยู่ในห้องพัก ซึ่งที่นี่ถูกออกแบบและตกแต่งให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทุกครั้งที่มาทำงานเขาก็จะมาพักที่นี่เสมอๆขณะที่นั่งจิบชาอยู่นั้น ก็ทอดสายตามองไปไกล แม้เวลานี้จะมืดแล้วแต่แสงจันทร์บนท้องฟ้าก็สว่างมากพอที่ราฮีมจะมองเห็นเงาของภูเขาไฟที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งนั่นเป็นสัญลักษณ์ของประเทศนี้ บวกกับท้องฟ้าเปิด จึงเป็นใจให้ท้องฟ้าสวยงามเขาบินมาทำงานที่ญี่ปุ่นได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว และพยายามเลิกคิดถึงณาณีม แต่ยิ่งพยายามสั่งห้ามตัวเองมากเท่าไหร่ เขากลับยังคงคิดถึงเธอมากขึ้นเท่านั้น“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากราฮีม นั่นเพราะเรื่องนี้คอยทำให้เขาสติหลุดอยู่เรื่อย ขนาดอยู่ไกลกัน ไม่ได้เจอกันเลย แทนที่เขาจะตัดใจได้ง่ายๆ แต่กลับยิ่งคิดถึงคนที่ไม่ควรคิดถึงก่อนจะตัดสินใจไปแช่ออนเซ็นคลายเครียดเสียหน่อย ที่นี่มีออนเซ็นไว้บริการลูกค้า แต่ธรรมเนียมของการแช่ออนเซ็นคือต้องเปลือยทั้งตัว ราฮีมเองก็ทำตามธรรมเนียมนั้นอย่างไม่อิดออดชายหนุ่มเดินไปตามป้ายบอกทางอย่างไม่ลังเล นั่น

    Last Updated : 2024-11-03

Latest chapter

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 49 บทส่งท้าย (จบ)

    หลังเสร็จสิ้นการมาร่วมงานแต่งงาน ณาณีมและราฮีมก็ใช้เวลาพักผ่อนกันที่ภูเก็ตอีกหลายวัน ชายหนุ่มพาเธอไปล่องเรือยอร์ช และณาณีมก็มีโอกาสได้ใส่บิกินี่อวดหุ่นสวยๆแต่ทว่าเธอก็แค่ได้ใส่ นั่นเพราะยังไม่ทันจะได้กระโดดลงไปเล่นน้ำทะเล ราฮีมก็จัดการถอดมันออกเสียก่อน จากนั้นเขาก็ทำให้เธอเร่าร้อนจนนอนหอบ กว่าจะได้หยิบบิกินี่มาสวมก็เย็นมากแล้วช่วงเวลาสำหรับการมาพักผ่อนมักจะผ่านไปเร็วเสมอ กระทั่งถึงเช้าวันสุดท้าย เพราะช่วงบ่ายๆ ณาณีมกับราฮีมต้องบินกลับกรุงเทพฯ‘เจอกันที่ชายหาดนะคะ’ นี่คือข้อความที่ณาณีมเขียนด้วยลายมือแล้วทิ้งไว้บนหมอนให้ราฮีมที่เพิ่งตื่นนอนได้อ่าน และเขาก็ไม่ลังเลที่จะเดินตามเธอไปยังชายหาดและทันทีที่มาถึง ชายหนุ่มก็ถึงกับยืนตะลึง เพราะถ้าเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากจนเกินไป ตรงหน้านี่คือฉากแต่งงานใช่ไหม ริมชายหาดมีซุ้มแต่งงานที่ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สดสีสวยและก้อนหิน ริมทางเดินยังโปรยด้วยกลีบกุหลาบแดงตัดกับทรายสีขาวละเอียดก่อนที่ณาณีมจะเดินมาหา ตอนนี้เ

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 48 ไปร่วมงานแต่ง (2)

    ณาณีมกับราฮีมบินไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนชายหนุ่มที่ภูเก็ต บรรยากาศงานแต่งงานริมชายหาดที่ตกแต่งด้วยดอกไม้และเปลือกหอย เน้นโทนขาวฟ้าตามแบบที่เจ้าสาวชอบช่างดูโรแมนติก บวกกับแสงแดดอ่อนๆ ยามอัสดง ที่ทอประกายระยิบระยับสะท้อนกับคลื่นก็ยิ่งสวยงามไหนจะแสงจากเทียนที่ประดับอยู่รอบๆ ก็ส่งให้งานแต่งงานครั้งนี้น่าจดจำ บ่าวสาวนั้นสวยหล่อดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก“มองอะไรอยู่ครับ”“มองเจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ะค่ะ” ณาณีมเอ่ยยิ้มๆ มีความสุขกับการได้เห็นคนรักกัน แม้ชีวิตเธอจะเคยล้มเหลวเรื่องความรักถึงขั้นหย่าร้าง แต่สุดท้ายก็ได้รับความรักดีๆ จากผู้ชายอย่างราฮีม แม้จะไม่รู้ว่าความรักครั้งนี้จะจบลงแบบไหน แต่ณาณีมก็ไม่เสียใจที่ได้รักใครอีกครั้ง“เปลี่ยนใจแต่งงานกับผมไหม”“ไม่เปลี่ยน”“ใจร้ายจังเลย” ราฮีมตีหน้าเศร้าได้ไม่นานก็ยิ้มร่า ทำเอาณาณีมตามอารมณ์เขาไม่ทัน แบบนี้ล่ะมั้งถึงอยู่ด้วยกันได้“แต่ร้ายยังไงก็รักครับ”“น่ารักแบบนี้ จะไม่ใ

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 47 ไปร่วมงานแต่งงาน

    “เรื่องคืนนั้นที่ญี่ปุ่นน่ะค่ะ พอมาตั้งสติแล้วนั่งคิด พราวถึงได้รู้ว่าตัวเองโง่มากที่ทำแบบนั้นลงไป” พราวตะวันคิดได้แบบนี้ในวันที่ผู้เป็นแม่ป่วยหนัก แม่พรั่งพรูความในใจออกมามากมายว่าเคยทำเรื่องไม่ดีกับใครไว้บ้าง อยากขอโทษก่อนที่จะสายไป แต่บางคนก็จากโลกนี้ไปแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้คุย ได้ปรับความเข้าใจกันนั่นทำให้พราวตะวันย้อนคิดถึงตัวเองว่าเธอเคยทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพียงเพราะต้องการเอาชนะกัน หรืออะไรก็ตาม พอมานั่งคิดเรื่องต่างๆ ก็ย้อนกลับมาและหนึ่งในนั้นคือเรื่องของราฮีม ทำให้เธอมาหาเขาที่นี่“พราวอยากขอโทษณาด้วย แต่วันนี้กลับติดต่อณาไม่ได้”“คุณณามีประชุมครับ” ราฮีมบอกเหตุผล นั่นเพราะณาณีมได้บอกไว้แล้วว่าวันนี้เธออาจต้องประชุมทั้งวัน“ถ้ายังไง พราวฝากคุณราฮีมขอโทษณาด้วยนะคะ”“ได้สิครับ”“ถ้างั้นพราวขอตัวก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะต้องไปรับคุณแม่ที่โรงพยาบาล”“เชิญครับ” เสียงทุ้มเอ่ย

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 46 ความรักที่ไม่ต้องการยึดติด

    “ให้ตายสิ เชื่อไหม ผมไม่อยากกลับห้องเลย ตั้งแต่รักคุณ ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเด็กสิบหกสิบเจ็ดที่มีความรักสุมอก” บางครั้งราฮีมก็อยากเจาะประตูให้ห้องเขาและห้องณาณีมเชื่อมติดกันนัก แต่การอยู่กันคนละห้องแบบนี้ก็ดี เพราะต่างฝ่ายก็ต่างมีพื้นที่ของกันและกัน จะได้เว้นช่องว่างและจะได้คิดถึงกัน เฝ้ารอเวลาที่จะได้พบกัน“เชื่อค่ะ เพราะคุณทำให้ณาเชื่อ สำหรับณา รักครั้งนี้มันร้อนแรงจนณา…” ณาณีมกัดริมฝีปากตัวเอง พร้อมกับส่งสายตายั่วยวนมายังราฮีม“จนณาทำไมครับ”“จนณาคิดถึงและอยากกินคุณวันละหลายๆ ครั้ง” น้ำเสียงเบาๆ ของณาณีมทำเอาราฮีมขนลุก ส่วนตานั้นก็ลุกวาวอย่างเจ้าเล่ห์“เอาเลย ผมพร้อมเสมอ”“ไว้วันมะรืนก่อนนะคะ ณาจะกินคุณตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าเลย” แค่ได้ฟัง ราฮีมก็อยากร่นวันร่นเวลาให้ถึงมะรืนที่เป็นวันคู่โดยเร็วแล้วสิ ส่วนณาณีมนั้นกลับยิ้มขำ ที่เขาจริงจังจนออกนอกหน้านอกตาแบบนี้“คนหล่อๆ ลุคนิ่งๆ ดูสมาร์ทนี่เขา

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 45 ไม่ได้นอนด้วยกันทั้งคู่

    ชายหนุ่มดึงตัวณาณีมให้ขึ้นมานั่งคร่อม ยกสะโพกของเธอขึ้นสูงแล้วค่อยๆ กดลงมารับแก่นกายของเขาช้าๆ ให้มันค่อยๆ มุดหายเข้าไปอยู่ในตัวเธอ แม้จะมีอะไรกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่แรงตอดรัด ความอุ่นภายในตัวของณาณีมก็ทำให้ราฮีมคลั่งได้เสมอๆ“อ่า...อาห์…” ณาณีมครางออกมาเมื่อเวลานี้เธอรับแก่นกายของราฮีมไว้จนลึกสุด ชายหนุ่มนอนนิ่งๆ ราวกับต้องการซึมซับความเสียวซ่าน แต่ณาณีมกลับทนไม่ไหวและเธอก็เริ่มขยับสะโพกบดเบียดสลับขึ้นลง จากช้าก็เปลี่ยนมาเป็นเร็วและถี่กระชั้น“ใจเย็นๆ ที่รัก ผมยังอยากอยู่ในตัวคุณ” ราฮีมรีบห้าม นั่นเพราะยังอยากอยู่ในตัวณาณีมให้นาน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือณาณีมกัดริมฝีปากล่าง มองราฮีมด้วยแววตาเซ็กซี่ ทำเอาหัวใจชายหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะเผลอปล่อยอารมณ์ให้กระเจิดกระเจิงจนเกือบปลดปล่อยและเมื่อรู้ตัวราฮีมก็ถอดถอนความแข็งขืนออกมาจากตัวเธอก่อน แล้วจัดการเปลี่ยนท่าทางด้วยการจับณาณีมให้กลับมานอนหงายบนเตียง ส่วนเขาลงไปยืนอยู่ริมเตียง รั้งเธอให้ขยับเข้าหาแล้วแทรกตั

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 44 คนแปลกอยากกินคนแปลก

    “ขอบใจแกสองคนมากนะ ที่คอยช่วยเหลือฉันทุกอย่าง” ณิการ์หันไปมองณาณีมกับธัญมณที่ต้องเหนื่อยแทนเธอตั้งหลายเรื่อง โดยเฉพาะณาณีม“เล็กน้อยน่ะ” ธัญมณยิ้มให้“พรุ่งนี้สามีฉันก็บินกลับมาแล้ว โล่งอกไปหน่อย”“สู้ๆ คุณแม่” ณาณีมยิ้มให้คนบนเตียงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนด้วยอีกคน“อื้อ…สู้อยู่แล้ว เป็นแม่คนต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย แต่แค่ผ่าไส้ติ่งทำไมมันเจ็บงี้ก็ไม่รู้” เพิ่งบอกให้อดทนไปหยกๆ แต่อยู่ๆ หน้าณิการ์ก็ยู่ยี่ เพราะยังรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แผลผ่าตัด“เอาน่ะ เจ็บแค่นี้เล็กน้อย มันสู้ตอนแกเบ่งคลอดน้องภูมิไม่ได้ด้วยซ้ำ จริงไหม” ณิการ์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของณาณีม“จริง เพราะงั้นฉันเลยขอมีลูกแค่คนเดียวนี่ไง เข็ดตอนเบ่งคลอด”“แกนี่” ณาณีมส่ายหน้าให้ณิการ์อีกที ก่อนที่ณิการ์จะเอ่ยกับลูกชาย ที่พอทำการบ้านเสร็จก็ตัวติดกับราฮีมทันทีเหมือนกัน“น้องภู

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 43 เพศพรหมจรรย์

    “เชิญค่ะ เพราะการเม้าท์มอยในที่ทำงานถือเป็นงานหลัก เอ้ย! ไม่สิ งานอดิเรกของใครหลายๆ คนอยู่แล้ว แต่ณาว่าพี่ณิอรกับมาตาคงไม่เป็นหรอก ใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะใช่” ณิอรเอ่ยรับก่อน“ใช่ค่ะ มาตากับพี่ณิอรไม่ใช่พวกขาเม้าท์แน่นอน เรื่องเม้าท์ไร้สาระทั้งนั้น” มาตาที่นั่งฟังมานานเอ่ยเสริมขึ้นบ้าง แต่แค่ได้ฟังก็คันปากยิกๆ“กินข้าวกันค่ะ เดี๋ยวเย็นแล้วมันจะไม่อร่อย” ณิอรและมาตาพยักหน้ารับกันหงึกหงักแล้วกินข้าวเที่ยงกันอย่างเงียบๆ ส่วนณาณีมนั้นนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะรู้ว่าสองคนนี้คิดอะไรกันอยู่ ดีไม่ดีกลับเข้าไปทำงานในช่วงบ่าย เธออาจเป็นเซเลบที่มีแต่คนมอง ซึ่งณาณีมก็หาได้แคร์ไม่กระทั่งอิ่ม ณาณีมก็ขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อกลางวัน ณิอรและมาตาก็ไม่ได้คัดค้าน ดีซะอีก เพราะจะได้ประหยัดเงินค่ามื้อเที่ยงไปอีกหนึ่งมื้อ จากนั้นณาณีมก็ขอตัวกลับออกไปก่อน“ก่อนกินข้าว พี่ณิอรว่าพี่ณาแขวะเราไหมคะ” เมื่ออยู่กันสองคน มาตาก็เอ่ยขึ้น“

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 42 ความสุขอันแท้จริง

    “เร็วไปนะคะ พูดถึงท่านปุ๊บก็จะชวนณาไปปั๊บ ใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้” ณาณีมส่ายหน้าให้คนตัวโตกว่า ที่ตอนนี้เขาเอาแต่นั่งยิ้ม นั่นเพราะแม้รักครั้งนี้เขาจะให้ณาณีมเป็นคนออกแบบ แต่เส้นทางที่เธอเลือกมันก็ไม่ได้ต่างไปจากตัวตนในแบบที่ราฮีมอยากได้“ก็ผมอยากให้ครอบครัวได้เจอกับผู้หญิงคนที่ผมจะใช้ชีวิตด้วยหลังจากนี้ ผมจะได้บอกพ่อกับแม่ว่าวันนี้พระเจ้าได้ประทานผู้หญิงที่มีค่ามาให้ผมแล้ว”“เดี๋ยวณาก็ตัวลอยหรอก”“ผมพูดเรื่องจริง”“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจณา ขอบคุณ” นอกจากคำๆ นี้แล้ว ณาณีมก็ไม่รู้จะเอ่ยคำไหน ถึงแม้ก่อนหน้านี้เธอไม่คิดจะเปิดใจให้เขา แต่สุดท้ายก็แพ้ใจ“ถ้าไม่ให้ผมเข้าใจคนที่ผมรักแล้วจะให้ผมไปเข้าใจใครครับ…หืม” เพราะรักราฮีมจึงเข้าใจด้วยหัวใจ และไม่ต้องการเปลี่ยนตัวตนของณาณีม เขาต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธอเปิดใจให้ นั่นเพราะรู้ว่าความรักสำหรับคนอย่างณาณีมนั้นต่างจากทุกๆ คน“ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้คุณ

  • ฉากรักในคืนฝนโปรย   บทที่ 41 สังคมที่เต็มไปด้วยอันตราย

    “รู้ไหมว่าลูกแกพูดอะไรกับฉันเมื่อวาน น้องภูมิบอกว่ารักแกมาก แกอยากให้เรียนพิเศษอะไร น้องภูมิก็เรียน เรียนเพื่อตามใจแก” ยังฟังไม่ทันจบประโยค ณิการ์ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างยากจะกลั้นไว้ได้เธอสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ที่ผ่านมาเธอคงเป็นแม่ที่เห็นแก่ตัวจริงๆ คิดเองเออเองในฐานะแม่ ว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับภูมิแผ่นดิน และเมื่อเห็นแม่ร้องไห้ เด็กชายก็เดินเข้ามาหาใกล้ๆ นั่นทำให้ณิการ์คว้าลูกชายมากอดอย่างรู้สึกผิด“แม่ขอโทษนะครับภูมิ แม่ขอโทษ”“คุณแม่ขอโทษน้องภูมิทำไมครับ” เด็กชายเอ่ยถามอย่างงุนงง นั่นเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดนัก ที่สำคัญเมื่อครู่ยังถูกราฮีมจงใจเบี่ยงเบนความสนใจขณะที่ณาณีมคุยกับณิการ์ไปด้วย“วันหลังเราไปเล่นบ้านบอล ไปกินเฟรนช์ฟรายส์กันนะครับ”“จริงๆ นะฮะ” ภูมิแผ่นดินยิ้มกว้างทันที“จริงสิครับ ส่วนเรียนพิเศษ ต่อไปนี้แม่จะถามก่อนว่าน้องภูมิอยากเรียนไหม ถ้าไม่ชอบก็บอกแม่นะครับ”

DMCA.com Protection Status