๑
ผู้มีพระคุณ
แสงไฟสาดส่องไปที่นางแบบสาวหน้าใหม่ซึ่งโพสท่าราวมืออาชีพ ตากล้องตะโกนชมไม่ขาดปากทำเอาหล่อนใจพองโตที่สามารถทำให้งานเดินไปโดยไม่ติดขัดทั้งที่ก่อนจะมาถ่ายแบบนั้นกังวลทั้งคืนด้วยค่อนข้างใหม่กับวงการนี้แต่รู้ว่าได้เงินดี
เหล่าบุคลากรเดินไปมาเพื่อทำงานในหน้าที่ของตนเอง เมื่อช่างภาพสั่งเติมหน้าเหล่าสาวประเภทสองก็เข้ามาซับใบหน้าหวานที่เริ่มชื้นเหงื่อพลางพูดคุยอย่างออกอรรถรส ทำให้ร่างบางคลายความเกร็งแล้วยิ้มรับคำพูดเอ่ยแซว
นิตยสารที่หล่อนขึ้นปกไม่ได้โด่งดังมากนักกลับตีตลาดวัยรุ่นเน้นการแต่งตัวแนวสตรีท ใบหน้าจิ้มลิ้มถูกเครื่องสำอางสีสันสดใสบดบังแทบจะกลายเป็นคนละคนด้วยซ้ำ ร่างโปร่งบางเข้ากับกางเกงยีนส์ราคาแพงและเสื้อฮู้ดตัวใหญ่ ผมยาวถูกถักเปียรอบศีรษะจนคิดว่าหากปล่อยออกคงต้องหยิกฟูแน่นอน
บุณณดานักศึกษาชั้นปีที่สี่ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งประเทศไทย หล่อนเลือกเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และบัญชี ภาควิชาการตลาดเนื่องด้วยเห็นว่าสายงานนี้ไม่มีทางตกงานทั้งยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย การเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีจึงได้รับทุนมาตลอดช่วงระยะเวลากว่าสี่ปี แต่ทุนนั้นไม่ได้รวมถึงค่าใช้จ่ายประจำวันทำให้ต้องหาเงินด้วยตนเอง
“ขอบคุณพี่ๆ มากเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ” เสร็จสิ้นภารกิจก็ยกมือไหว้แล้วเดินไปเปลี่ยนชุดเป็นนักศึกษาอีกครั้ง หล่อนเดินมาไหว้ทุกคนตั้งแต่ช่างหน้าช่างไฟ คนดูแลเสื้อผ้าและพนักงานส่วนต่างๆ ที่ขับเคลื่อนให้งานแล้วเสร็จก่อนเวลากำหนด
เธอเดินไปรับเงินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเก็บใส่ในกระเป๋าไม่ลืมบอกว่าหากมีงานอะไรสามารถเรียกใช้ได้เสมอ งานง่ายและสบายแถมได้เงินเยอะแบบนี้ไม่ค่อยถึงมือสักเท่าไหร่ ส่วนมากก็ต้องยืนหลังขดหลังแข็งเป็นพนักงานแคชเชียร์หรือไม่ก็จัดของตามร้านซูเปอร์มาเก็ต
เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 15 ปี ไม่อาจหวังกับทางบ้านได้เพราะแค่บิดายังเอาตัวแทบไม่รอด ตอนนี้เธอต้องอาศัยอยู่กับน้าที่อยู่บ้านเยื้องกันเช่นเดิมถึงพวกนั้นจะไม่มาทวงหนี้แต่ก็ไม่กล้าไปอยู่คนเดียว ไม่อาจรู้ได้ว่าพวกมันจะบุกเข้ามาวันไหน
คนตัวเล็กเดินออกจากอาคารสูงเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าแล้วกลับบ้าน โชคดีที่มหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านมากนักจึงไม่ต้องออกมาเช่าหอให้เปลืองเงิน อีกทั้งอาหารคุณน้าก็ใจดีทำให้ตลอดทั้งเช้าและเย็น มีแค่ช่วงเที่ยงต้องหาซื้อกินเองซึ่งหล่อนก็ไม่ได้รับประทานแพงมากนัก
“ใบข้าว” เดินอยู่ริมฟุตบาธกำลังจะขึ้นสะพานลอยข้ามถนนไปอีกฝั่งก็ได้ยินเสียงเรียกเสียก่อน หล่อนเห็นรถยนต์คันหรูจอดเทียบ แล้วกระจกค่อยเลื่อนลงมาเผยให้เห็นใบหน้าหล่อคมที่กำลังส่งยิ้มทำเอาใจสั่นได้ไม่ยาก
ริมฝีปากสวยยิ้มตอบอย่างดีใจพลางเดินเข้าไปหาเขาทันที ไม่รู้ว่าปฏิกิริยาที่แสดงออกนั้นเกินงามไหมเพราะหล่อนไม่ได้สำรวมอาการเลยสักนิด
“คุณแทนไท มาได้ยังไงคะ” น้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมท่าเกาะขอบกระจกทำให้เขาต้องอมยิ้มแล้วเอ่ยชวนให้หญิงสาวขึ้นมาบนรถ
“จะกลับบ้านใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปส่งขึ้นมาสิ” หากเป็นเมื่อก่อนสาวน้อยคงมีท่าทีเหนียมอายกับคำชวนนั้นแต่เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกและยังติดต่อกันเรื่อยมาจนตอนนี้หล่อนกำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วอาการเหล่านั้นจึงไม่หลงเหลือ
ร่างบางรีบเปิดประตูนั่งประจำข้างคนขับอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้เขาก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้นั่งรถหรูอีกหรือเปล่าในเมื่อหนี้สินกองท่วมหัวขนาดนี้
เครื่องปรับอากาศเย็นช่ำค่อนข้างต่างจากบรรยากาศข้างนอกทำให้นักศึกษาสาวอมยิ้มมีความสุข แต่นอกเหนือจากการนั่งบนรถยนต์สัญชาติยุโรปแล้วยังมีคนขับกิตติมศักดิ์นั่นคือ..
แทนไท ทรัพย์พูนทวี เจ้าของกิจการ The area group กลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีห้างสรรพสินค้าในเครือกว่าสี่สาขาและที่ร่วมลงทุนกับพัฒนาสยามอีกหนึ่งแห่ง ไหนจะโปรเจคในอนาคตที่กำลังจะสร้างให้เป็นที่กล่าวขาน รวยจนไม่รู้จะใช้ชาตินี้หมดหรือเปล่า
“ทำไมคุณแทนถึงมาแถวนี้คะ” ระหว่างนั่งบนรถก็หันไปเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ หล่อนชอบมองใบหน้าคมยามอมยิ้มมันชวนให้ใจเต้นแปลกจังหวะพิกล หรือบางทีเธออาจจะเป็นโรคหัวใจยามอยู่ใกล้เขา
ชายหนุ่มผู้ซึ่งได้รับฉายา ‘ดวงตาราชสีห์’ เพราะไม่ใช่เพียงแค่เก่งทางด้านธุรกิจที่หยิบจับอะไรก็รุ่งไปหมด เขาซื้อหุ้นตัวไหนก็ได้กำไรดีทุกตัวถึงขนาดที่มีคนติดตามว่าวันนี้เจ้าของ The area shopping จะซื้อหุ้นของบริษัทใดในตลาดหลักทรัพย์จะได้รีบซื้อตาม
ทว่าเขายังมีสายตาพิฆาตที่ทำเอานารีหลงแทบไม่เป็นอันทำอะไรเพียงแค่ได้สบตาเท่านั้น มันแฝงความเจ้าเล่ห์ เชิญชวนจนเกือบจะหลงเข้าไปในวังวนของเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
“มีเด็กบางคนงอแงกลัวถ่ายแบบออกมาไม่ดี ก็เลยกะว่าจะมาให้กำลังใจสักหน่อย แต่ติดประชุมกว่าจะได้ออกมาเธอก็เลิกงานแล้ว” ขณะที่มือจับพวงมาลัยเขาก็เหลือบตามามองหล่อนพร้อมยกยิ้มมุมปากทำให้คนอายุน้อยกว่าใบหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มให้ความสนใจตนเอง
ไม่รู้จะโต้ตอบกลับไปว่าอย่างไรด้วยไม่ทันตั้งตัวกับการถูกจู่โจมเร็วขนาดนี้ หล่อนพยายามปิดบังว่าคิดไม่ซื่อกับชายอายุคราวพ่อแต่ดูเหมือนจะถูกจับได้เสียแล้ว
คิดว่าแทนไทคงรู้ว่าเธอคิดเช่นไรกับเขา ถึงไม่ได้บอกเป็นคำพูดแต่แววตาของหล่อนก็มองเพียงผู้ชายคนนี้มาตลอดตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่เป็นเหมือนความบังเอิญ
และในบางครั้งความบังเอิญก็ทำให้เราหลงคิดว่ามันคือพรหมลิขิต..
สวรรค์ส่งเขามาให้เธอเพื่อเป็นของขวัญที่เคยทำชีวิตหล่อนพังตั้งแต่อายุ 13 ปี แทนไทเข้ามาเติมเต็มทุกอย่าง ช่วยเหลือในเรื่องการเรียน หางานพิเศษให้ที่โรงแรมและยังมีงานถ่ายแบบเล็กน้อยเขาก็เป็นคนแนะนำหล่อน เวลามีปัญหาชีวิตก็สามารถปรึกษาได้ทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ของเธอไปเสียแล้ว
เวลากว่า 4 ปีที่รู้จักกันพูดได้เต็มปากว่ามันมากกว่าคำว่าชอบ เพราะหล่อนหลงรักผู้ชายคนนี้ยากที่จะถอนตัวเสียแล้ว
ทว่าไม่รู้เขาคิดเหมือนกันไหมดูท่าทีไม่ออกเลย ไหนจะผู้หญิงที่เข้ามาหาร่างสูงอีก ด้วยความที่เขาฐานะดี ร่ำรวยเงินทอง สถานะโสด ญาติไม่ค่อยมี คุณสมบัติเหล่านี้เป็นที่ต้องการของหญิงสาวจนเห็นว่าบางครั้งก็มีสายโทรเข้ามาบ่อยและเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้
“ไม่ต้องมาก็ได้นะคะ ข้าวเกรงใจ” เมื่อวานหล่อนตื่นเต้นมากเพราะเป็นการถ่ายแบบครั้งแรกโดยคนที่แนะนำก็คือแทนไท เจ้าของนิตยสารรู้จักกับชายหนุ่มและต้องการหานางแบบหน้าใหม่เขาเลยเสนอบุณณดาฝ่ายนั้นก็ตอบตกลงทันที
เธอกังวลว่าจะทำออกมาไม่ดีจึงโทรไปปรึกษาคนที่งานยุ่งทั้งวันแต่ก็ปลีกตัวมาคุยโทรศัพท์และให้กำลังใจหล่อน
‘ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังเพราะใบข้าวของฉันเก่งที่สุด’ คำว่าใบข้าวของฉันทำให้หล่อนนอนแทบไม่หลับ คำหวานที่ชายหนุ่มพูดมันช่วยปลอบปะโลมหัวใจที่แห้งแล้งให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง และเธอทำมันออกมาอย่างดีเพื่อให้เขาภูมิใจ
“จะไม่มาได้ยังไง ว่าจะพาคนเก่งไปเลี้ยงสักหน่อย” ได้ยินอย่างนั้นก็ตาโต
“คุณแทนจะเลี้ยงข้าวเหรอคะ” เพราะเขาไม่ค่อยมีเวลาถึงจะรู้จักกันมานานแต่การจะเจอหน้าหรือไปรับประทานอาหารเพียงสองคนนั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย
เวลาของชายคนนี้เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้นแค่เขาสละเวลามาหาก็ทำให้เธอดีใจมากแล้ว แถมเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายจะพาไปกินข้าวอีก
ไม่น่าเล่าทำไมทางกลับบ้านถึงแปลกตากว่าทุกที ที่แท้ก็แวะเข้าไปยัง The area shopping สาขาที่สองในกรุงเทพมหานครนี่เอง
ห้างสรรพสินค้าของเขาออกแบบเป็นตึกสูงหกชั้นโดยใช้อิฐเป็นผนังเหมือนอยู่ยุโรป คนชอบมาถ่ายรูปและเช็คอินพร้อมทั้งแต่งตัวหนาเหมือนอยู่ต่างประเทศให้เข้ากับบรรยากาศ มีต้นไม้รอบบริเวณให้ความสดชื่นและร่มรื่น
“ใช่ ฉันจะเลี้ยงข้าวสำหรับนางแบบคนเก่งที่ชื่อใบข้าวโดยเฉพาะ” หมุนพวงมาลัยเข้ามายังลานจอดรถก่อนจะขึ้นไปที่ชั้นวีไอพีสำหรับผู้บริหาร
หล่อนตาโตกว่าเดิมไม่เคยขึ้นมายังชั้นนี้ ไม่เคยคิดฝันว่าตนเองจะได้กลับมาอยู่ในตำแหน่งคุณหนูอีกครั้งทำให้ยิ่งมองแทนไทด้วยสายตาเทิดทูนมากขึ้นว่าเดิม
เขาเป็นเหมือนชายขี่ม้าขาวเข้ามาในชีวิตอันแสนมืดมนของหล่อน
แทนไทมีธุรกิจในเครือค่อนข้างหลากหลายทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรมและโลจิสติกส์ทำให้เขากลายเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่สร้างฐานะได้ด้วยตนเองภายในเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะคลุกคลีกับวงการนี้ตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย พี่เขยของเขาก็เป็นเจ้าพ่อโลจิสติกส์ของประเทศอเมริกา เคยช่วยงานหลายครั้งไหนจะเข้าฝึกงานที่บริษัทตลาดหลักทรัพย์ New York Stock exchange ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกจึงไม่แปลกที่ร่างสูงจะมีสายตาแหลมคมในเรื่องของการเล่นหุ้นจนเคยขึ้นพูดบนเวทีระดับนานาชาติเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน
The area shopping คือห้างสรรพสินค้าในเครือ the area group ที่แทนไทยถือหุ้นกว่าครึ่งทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยซึ่งติด 20 อันดับแรกคนรวยในประเทศไทย ทรัพย์สินที่เขาถือครองมีมูลค่ากว่าพันล้านยิ่งทำให้หนุ่มคนนี้กลายเป็นหนุ่มเนื้อทองที่สาวๆ ต่างหมายปอง
จอดพาหนะยังชั้นบนซึ่งเป็นสถานที่ของระดับผู้บริหารก่อนเขาจะเลือกลงลิฟต์แก้วไปที่ชั้นอาหารของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
บุณณดาตื่นตาตื่นใจไปหมดถึงจะเคยมาเดินห้างนี้บ้างแต่เพราะคนข้างกายหล่อนเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมากนักเรียกได้ว่ามันแทบจะเป็นความฝันด้วยซ้ำจนต้องแอบหยิกแขนตัวเองว่าไม่ได้กำลังหลับ
โอ้ย..เจ็บแบบนี้น่าจะเป็นความจริง
ร่างสูงเดินเข้ามาภายในร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่มีพนักงานต้อนรับหน้าตายิ้มแย้ม ข้างในแทบไม่มีคนและการตกแต่งร้านก็ค่อนข้างทึบแต่กลับหรูหราเหมือนอยู่ในประเทศต้นตำรับ หล่อนอ่านป้ายชื่อร้านที่เป็นภาษาอิตาลีก็ไม่ออกจนต้องถามคนพามา
“ร้านอะไรคะ” ขณะที่มาถึงโต๊ะก็เอ่ยขึ้นแล้วเหลียวมองรอบร้าน
“Delizioso The Altin” ภาษาประหลาดที่เอ่ยออกมาหล่อนไม่สามารถทำความเข้าใจได้แต่คิดว่ามันน่าจะเป็นภาษาอิตาลี ทำเพียงพยักหน้าและขานรับเสียงเบาก่อนบริกรจะยื่นเมนูพร้อมรอรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่สร้างความกดดันให้คนโดนมอง
เห็นเมนูอาหารและราคาที่เริ่มต้นตั้งแต่ห้าร้อยหล่อนก็แทบจะวางลง ถูกสุดคือสปาเก็ตตี้ที่สนนราคา 439 บาท ซึ่งเธอสามารถใช้เงินจำนวนนี้ได้ตั้งสามวัน แต่ชายหนุ่มกลับจ่ายภายในมื้อเดียว
“สั่งได้เลยนะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” เห็นหล่อนทำสีหน้าไม่ถูกก็บอกด้วยเสียงราบเรียบ
“ข้าวกินอะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่คุณแทนเลย” ลอบกลืนน้ำลายเมื่อยิ่งเปิดหน้าถัดไปก็ไม่อาจปกปิดสีหน้าความตกใจในราคาอาหารได้จึงเลือกตัดปัญหาให้เขาเป็นคนสั่งจะได้ไม่ต้องรับรู้ถึงราคาแสนแพง
“Pizza Napoletana, Lasagna, Ossobuco alla Milanese, Panzanella” ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากเลือกเรียนวิชาเสรีเป็นภาษาอิตาลีแทนที่จะเรียนจีนและฝรั่งเศส เพราะหล่อนชอบสำเนียงของแทนไทยามเอ่ยกับบริกรเหลือเกินจนเผลอมองด้วยแววตาชื่นชม
เขาเก่งรอบด้านแม้แต่การสั่งอาหารที่หลายคนมองเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับบุณณดาแล้วไม่ว่าชายหนุ่มจะทำอะไรก็ดีไปเสียหมด
“สั่งเยอะขนาดนั้น จะกินหมดเหรอคะ” อดถามไม่ได้เพราะมากันแค่สองคนแต่ชายหนุ่มกลับสั่งตั้งสี่เมนู
“วันนี้ฉันไม่ได้กินข้าวเที่ยงเพราะมัวแต่ประชุม อีกอย่างก็เป็นชีทเดย์ไม่ต้องควบคุมอาหาร” ด้วยอายุมากขึ้นปีนี้ก็เข้า 42 ปีแล้วจึงค่อนข้างจะต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ
เขาเลือกกินอาหารคลีนและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำให้คนภายนอกแทบไม่รู้อายุจริงเวลาเห็นหน้า แถมหุ่นยังฟิตกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันเสียอีก
ชีทเดย์ที่แทนไทพูดถึงนั้นหมายถึงวันที่สามารถรับประทานอาหารได้ตามใจอยากหลังจากที่กินคลีนมากว่าสัปดาห์ เขาสามารถจะกินขนมปังหรือพิซซ่ามากเท่าไหร่ก็ได้ก่อนที่วันพรุ่งนี้ต้องกลับไปกินคลีนเหมือนเดิม
อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟพร้อมไวน์ขาวที่ชายหนุ่มสั่งเอาไว้ นักศึกษาตื่นเต้นกับทุกสิ่งแต่พยายามเก็บอาการทว่าเมื่อมองดวงตากลมโตที่ส่องประกายสดใสก็ทำให้คนตัวสูงแอบอมยิ้มกับความเด็กน้อยของหล่อน
“ดื่มไวน์ได้ไหม”
“น่าจะได้ค่ะ” ยกแก้วสูงขึ้นดมก่อนจะค่อยจิบแล้วยิ้มออกมา
“อร่อยดีค่ะ” เพราะไม่เคยดื่มแค่เห็นราคาก็ไม่กล้าเดินเข้าใกล้แล้ว จำได้ว่าเคยเห็นคุณปู่ดื่มขณะที่ท่านยังมีชีวิตและหล่อนอยู่ในสถานะคุณหนูของบ้านแต่ตอนนั้นยังเด็กมากจึงไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องของมึนเมาถึงไดไม่เคยดื่มสักครั้ง
พอโตมาราคามันก็สูงจนไม่กล้าฝันจะชิม ขอแค่น้ำสไปรท์ที่สีใกล้เคียงกันก็พอ ทว่าวันนี้กลับมีผู้ใจดีหยิบยื่นของดีมาให้มีหรือจะปฏิเสธ
“การดื่มไวน์ที่ถูกต้องทำยังไงรู้ไหม อันดับแรกเราต้องจับที่ก้านแก้วแล้วหมุนเล็กน้อยให้ไวน์ได้สัมผัสกับอากาศจะทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้น เขาเรียกว่าปฏิกิริยา oxidation” การมารับประทานอาหารครั้งนี้นอกจากความอิ่มแล้วยังได้ความรู้อีกด้วย
“หลังจากนั้นให้ยกขึ้นจรดจมูกแล้วสูดดม ค่อยจิบเล็กน้อยแล้วอมไว้เพื่อแยกรสแล้วค่อยกลืน ขั้นตอนยุ่งยากไหม” คนตั้งใจฟังพยักหน้ารับทันที
“ยากค่ะ ทำไมการดื่มไวน์มันต้องมีขั้นตอนมากมายแบบนี้ด้วยคะ เราดื่มเข้าไปเลยไม่ได้เหรอ”
“การทำไวน์ใช้เวลาค่อนข้างนาน กว่าจะหมักหรือบ่มให้ออกมารสชาติดีแบบนี้ได้เขาก็ต้องการให้เราได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาเหล่านั้น และยิ่งได้ดื่มกับคนพิเศษด้วยแล้วก็จะกลายเป็นห้วงเวลาแห่งความสุขเลยล่ะ”
ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมผู้ชายตรงหน้าจึงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วไป เขาช่างพูดและทำให้มื้ออาหารแสนพิเศษนี้ยิ่งพิเศษมากกว่าเดิมเพียงแค่โดนมองด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้มก็ตกเข้าไปในหลุมพรางทั้งที่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ขุดด้วยซ้ำ
หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วขึ้นจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน และช่างโชคดีเหลือเกินที่บริกรเริ่มเสิร์ฟอาหารเริ่มต้นด้วยพิซซ่าร้อนจากเตา เป็นพิซซ่าเก่าแก่ต้นตำรับอิตาเลี่ยนของแท้ที่ถูกปากคนไทย ขอบพิซซ่าจะบางและค่อนข้างกรอบ จุดเด่นจะอยู่ที่มะเขือเทศและชีสซึ่งทำออกมาได้ถูกปากชาวเอเชียยิ่งนัก
ตามมาด้วยพาสต้าสูตรอิตาเลี่ยนขนานแท้ที่นำเนื้อ พาสต้าชีสและมะเขือแทนมาวางเป็นชั้นสลับกันได้อย่างน่าอร่อย ต่อมาคือสเต็กเนื้อที่ปรุงรสด้วยไวน์ขาว น้ำซุปและผักซึ่งเมนูนี้มีมานานตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ทว่าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ในหมู่คนเชีย มันโด่งดังและเป็นอาหารพื้นเมืองของคนมิลาน ปิดท้ายที่สลัดขนมปังโดยส่วนผสมหลักคือขนมปังและมะเขือเทศ ส่วนผักชนิดอื่นก็จะเป็นไปตามฤดูกาล
แค่มองก็รับรู้ได้ถึงความอร่อยและเพียงอาหารเข้าปากดวงตาก็เป็นประกายทันที หล่อนจัดการทุกอย่างโดยไม่ห่วงสวยหรือมีมาดต่อหน้าผู้ชายที่ตัวเองชอบสักนิด
“ค่อยๆ กิน เดี๋ยวก็ติดคอ” เตือนด้วยความหวังดีกลัวอาหารจะติดคอคนที่กินอย่างเอร็ดอร่อย เห็นเธอชอบเขาก็ดีใจที่ตัวเองเลือกร้านไม่ผิด
ถึงขนาดปิดร้านเพื่อมาดินเนอร์กับหญิงสาวสองคนด้วยไม่อยากตกเป็นข่าวในวงสังคมไปมากกว่านี้ แค่เรื่องมีผู้หญิงตบตีกันไม่เว้นวันเพราะเขาก็น่าหนักใจมากแล้ว ไม่ต้องการให้มีข่าวลือว่าเป็นเสี่ยเลี้ยงเด็กอีก
ทั้งยังเป็นเด็กรุ่นลูกเสียด้วย..
“อร่อยมากเลยค่ะ” ชมพร้อมกับยิ้มจนตาปิด หล่อนเพลิดเพลินกับอาหารจนไม่เห็นสายตาที่เขามองมายังตนเอง
“เห็นว่าใกล้ฝึกงานแล้ว จะไปฝึกที่ไหน” คนที่พามากินแต่ไม่ค่อยแตะอาหารนอกจากพิซซ่าหนึ่งชิ้นเอ่ยถามขึ้น หล่อนรีบกลืนเนื้อลงไปแล้วตอบเขาอย่างรวดเร็ว
“ถ้าขอไปฝึกที่บริษัทคุณแทนได้ไหมคะ” ได้โอกาสก็ขอร้องทันที เธอคิดไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากไปศึกษาการตลาดในเครือ The area group ที่เติบโตได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ระยะเวลา 15 ปีเขามีอาณาจักรเป็นของตัวเองที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรง มีคนรอซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แต่น่าเสียดายที่แทนไทไม่ได้นำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ แต่ดูจากเมกะโปรเจคที่กำลังจะทำในอนาคต เดาได้ไม่ยากว่าผู้บริหารหนุ่มมีแนวโน้มจะนำเครือของตนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมเงินทุนในการสร้างห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่เชื่อได้ว่าคงสร้างผลกำไรอย่างมหาศาล
“กำลังจะชวนพอดี ฉันอยากให้เธอเข้าไปฝึกที่บริษัทของฉัน” เหมือนถูกหวยทำให้หญิงสาวอยากลุกขึ้นไชโยแต่ก็ต้องสำรวมกิริยาเอาไว้
ไม่ง่ายเลยที่จะเข้าไปฝึกงานที่บริษัทแห่งนี้ เคยถามรุ่นพี่หลายคนที่ยื่นเรื่องไปก็ต้องเสียใจกลับมาทุกครั้งเพราะเขาไม่รับนักศึกษาฝึกงาน
“แบบนี้เรียกว่าใช้เส้นไหมคะ เห็นรุ่นพี่หลายคนบอกคุณแทนไม่รับนักศึกษาฝึกงาน”
“โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันก็อยากได้คนรุ่นใหม่มาช่วยคิดเหมือนกัน บอกตามตรงว่าบางครั้งก็ไม่ทันเทคโนโลยีหรือความคิดอ่านของคนรุ่นเธอ ได้นักศึกษาฝึกงานมาช่วยเผื่อจะมีแนวทางใหม่ๆ บ้าง”
คนฟังยิ้มแก้มปริไม่คิดว่าตนเองจะได้สถานที่ฝึกงานเร็วขนาดนี้ เหนือกว่าความรักหล่อนเริ่มจะเทิดทูนและบูชาเขาเสียแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเข้ามาหลอกหรือเปล่าแต่เพราะความสม่ำเสมอและไม่คิดเข้าหาเชิงชู้สาวสักครั้งทำเอาบุณณดาเริ่มวางใจในตัวเขา
และค่อยแปรเปลี่ยนเป็นความรักที่ฝังรากลึกเสียแล้ว
“ขอบคุณมากเลยนะคะ เดี๋ยวข้าวจะรีบทำเรื่องขอฝึกงานให้เร็วที่สุด” ที่จริงเธอก็ฝึกงานช่วงปิดเทอมปีที่สามแล้ว ส่วนปีที่สี่จะเป็นฝึกงานใหญ่ที่นำมาทำสารนิพนธ์จบจึงอยากเลือกสถานที่ตนเองสนใจและใฝ่ฝันจะเข้าไปทำงานสักครั้งอย่าง the area group
“แต่ฉันไม่ได้อยากให้เธออยู่แผนการตลาด” ขณะที่ดีใจเขาก็เอ่ยขึ้นทำให้คนตัวเล็กชะงักไปครู่หนึ่ง
“คุณแทนหมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันอยากให้เธอมาเป็นผู้ช่วยเลขาของฉัน” เหมือนได้โชคสองชั้นหรือโบนัสใหญ่ประจำปี เสียงพลุดังขึ้นจนหูอื้ออึง ไม่คิดว่าตนเองจะโชคดีมากขนาดนี้ เพราะนอกจากได้ใกล้ชิดหนุ่มในฝันแล้วยังได้รับประสบการณ์ซึ่งหาที่ไหนไม่ได้แล้ว
ผู้บริหารระดับใหญ่ขนาดนี้มีผู้ช่วยเลขาเป็นนักศึกษาฝึกงาน แค่คิดก็เกินเอื้อมจนไม่กล้าจะรับไว้ทั้งที่ใจตื่นเต้นกับประโยคของเขา
“แต่ว่ามันจะเกิดข้อครหาไหมคะ ข้าวเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน” ไม่อยากโดนเขม่นตั้งแต่วันแรกที่ไปทำงานจึงต้องเอ่ยถามคนชวนเสียก่อน
“ดูจากความสามารถของเธอแล้ว จะไม่มีใครกังขาได้เลย” เก่งระดับได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกเทอม ไหนจะไปฝึกงานกับบริษัทใหญ่ทั้งยังมีประสิทธิภาพถึงขนาดวางแผนกลยุทธ์ของบริษัทได้อย่างเฉียบคม ใครจะกล้าพูดหรือสงสัยในความสามารถ
“คุณแทนมั่นใจในตัวข้าวขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หล่อนยังไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่
“ฉันมั่นใจ ว่าใบข้าวของฉันเก่งที่สุด” ได้รับคำชมก็ยิ้มแก้มปริไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สนคำคนและมุ่งฝึกงานเพื่อให้ได้รับความรู้จากผู้บริหารระดับสูงคนนี้มากที่สุด
อนาคตจะได้ไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของใครเหมือนตอนนี้ที่ต้องหาเงินใช้หนี้แทนพ่อแทบไม่ได้พักผ่อน
อีกไม่นานเธอจะผงาดขึ้นมาให้ได้ ด้วยมันสมองและสองมือของตนเอง..
หลังลงจากรถยนต์คันหรูหล่อนก็เดินเข้าบ้านของคุณน้าที่ใจดีให้ที่พักอาศัยทั้งที่บ้านตนเองก็ไม่ได้อยู่ห่างกันเลย ท่านเอ็นดูเหมือนเธอเป็นลูกสาวคนหนึ่งอาจเพราะไม่มีครอบครัวเหลือเพียงตัวคนเดียวจึงรักบุณณดามากนัก
บ้านสองชั้นขนาดกลางล้อมรอบด้วยต้นไม้ดูอบอุ่นสบายตาเปิดต้อนรับนักศึกษาสาว เข้ามาภายในบ้านก็เห็นหญิงวัยสามสิบแปดหุ่นท้วมนั่งเย็บผ้าอยู่หน้าจอโทรทัศน์ นางเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่ก่อนจะยกยิ้มให้
“ใครมาส่งจ๊ะ” น้าแพง หรือนางนลินี โชติชนิด มีอาชีพเย็บผ้าพอมีรายได้ประทังชีวิต เธอไม่มีสามีเพราะเคยผิดหวังจากรักครั้งแรกจนฝังใจจึงไม่เชื่อในความรัก แต่ไม่เคยปิดกั้นยามบุณณดากำลังคบหาดูใจกับใครสักครั้ง
นางไม่เข้าไปก้าวก่ายในชีวิตของผู้อื่นมีเพียงรับฟังและให้คำแนะนำเท่านั้นจึงกลายเป็นที่รักของหลานสาวคนนี้ได้ไม่ยาก อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่หล่อนอายุ 16 ปีจนใกล้จะเรียนจบได้ทำงาน นอกจากพ่อที่จะต้องตอบแทนในฐานะบิดาก็มีเพียงน้าแพงเท่านั้นแหละที่เธออยากตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูมาตลอดจนคิดว่าท่านเป็นแม่ตนเอง
“คุณแทนค่ะ” โทรศัพท์บอกว่าเธอจะกินข้าวข้างนอกนางจึงไม่ได้เตรียมอาหารไว้ให้เหมือนทุกครั้ง
ร่างบางเดินมานั่งข้างคุณน้าพลางหยิบนิตติ้งที่วางอยู่ตะกร้าบนโต๊ะเล็กขึ้นมาถักต่อ ริมฝีปากบางระบายยิ้มไม่ปิดบังว่าตนเองมีความสุขมากแค่ไหนจนคนมองอดยิ้มตามไม่ได้
“ไม่เล่าให้น้าฟังเหรอว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงทำให้หลานสาวคนนี้ยิ้มไม่หุบ” เอ่ยกระเซ้าทำเอาคนโดนล้อต้องเม้มปากแน่น
“น้าแพงน่ะ ล้อข้าวตลอดเลย”
“ก็ข้าวทำตัวให้น่าล้อทำไมล่ะ ดูสิแก้มแดงตาเป็นประกายขนาดนี้ ชอบเขามากใช่ไหม” มือเล็กกำลังถักนิตติ้งชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาที่เคยเป็นประกายหม่นลงแล้วหันไปถามน้าแพงที่คอยให้คำแนะนำหล่อนทุกเรื่อง
“น้าแพงว่ามันจะเป็นไปได้ไหมคะ มันเกินเอื้อมหรือเปล่า คุณแทนเขาเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงจะมาสนใจเด็กกะโปโลอย่างข้าวจริงเหรอคะ” ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะกลายเป็นที่สนใจของชายหนุ่มเพราะดูจากฐานะแล้วไม่น่าจะเจอกันได้
อีกทั้งยังยากที่เขาจะเข้ามาทำดีด้วยโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่กว่าสี่ปีที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าแทนไทไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝง ชายหนุ่มปฏิบัติกับเธอสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนเลยสักนิด
หากจะมีคนเปลี่ยนก็คงเป็นหล่อนที่ไม่ได้คิดกับเขาแค่ผู้มีพระคุณ
ตอบได้อย่างไม่อายว่าหลงรักคนสูงศักดิ์เสียแล้ว..
“ความรักมันไม่แบ่งชนชั้นวรรณะหรอกนะลูก ขนาดคนอินเดียที่เขาแบ่งแยกชัดเจนขนาดนั้นยังมีคนที่ยอมเป็นจัณฑาลเพื่อให้มารักกับคนที่ต่างชั้นกันเลย” ได้ฟังแล้วความกังวลก็ไม่หมดไป หล่อนถามอีกทันทีจนคนเป็นน้าต้องวางมือจากงานที่กำลังทำ
“เขาจะมาเล่นๆ กับข้าวหรือเปล่าคะ ผู้หญิงที่คู่ควรกับเขาก็เยอะ” หล่อนรู้ข่าวบ้างเรื่องผู้หญิงที่เข้าหาแทนไทไม่ขาด ทั้งลูกสาวของนักธุรกิจ ดารามีชื่อเสียง ไฮโซฐานะทางบ้านดี ล้วนเหมาะสมกับชายหนุ่มทั้งนั้น
ไม่เหมือนเธอ...ที่มีแค่ตัว
“เรื่องนี้น้าตอบไม่ได้เพราะไม่ได้คลุกคลีกับเขา แต่การที่คุณแทนไทสม่ำเสมอกับข้าวมากว่าสี่ปีมันก็บอกทุกอย่างแล้วไม่ใช่เหรอ ยังจะกังวลอะไรอีกจ๊ะ น้าว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เขาแล้วมั้ง”
ปัญหามันคือความกลัวของเธอต่างหาก
บุณณดาไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร หล่อนคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นจนพาลทำให้ไม่กล้าจะก้าวข้ามความสัมพันธ์ครั้งนี้สักที
แต่แทนไทก็ไม่ได้พูดหรือเอ่ยถึงเรื่องระหว่างเราสักครั้งทำให้คนอายุน้อยกว่าไม่กล้าฝันไกลกลัวตกลงมาแล้วมันจะเจ็บ
ชายหนุ่มไม่ได้ดีแค่กับเธอเพราะขนาดกับน้าแพงฝ่ายนั้นก็เคยเข้ามาทักทายแต่ไม่บ่อยเพราะงานที่รัดตัว แต่ก็ยังฝากของกินและของใช้มาให้ยามมีโอกาสจนดูเหมือนว่าน้าสาวจะปลื้มเขาเสียเหลือเกิน คนรวยที่นิสัยเอื้อเฟื้อโดยเนื้อแท้แบบนี้หายาก
“ถ้าข้าวยังกลัวก็ดูกันไปก่อน เรื่องความรักไม่ต้องเร่งรีบหรอกลูก ถึงเวลาเมื่อไหร่คำตอบมันก็จะมาเองอย่าไปคิดมากนักเลย แค่เรื่องเรียนก็ปวดหัวมากแล้วไม่ใช่เหรอ” ลูบศีรษะหลานสาวพลางเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
หลังจากนั้นหล่อนก็เล่าเรื่องที่จะไปฝึกงานอยู่ The area group ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาให้ฟังทันที พร้อมตื่นเต้นใหญ่ที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งหาได้ยากจากคนระดับนั้น เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอย่างหล่อนจะได้เคียงข้างประธานบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่
พูดคุยกันเสร็จก็ขอตัวขึ้นมาบนห้อง เปิดประตูไม้สีทึบถูกเปิดออกแล้วปิดลงเสียงเบา เข้ามาข้างในก็เป็นเตียงนอนที่อยู่ติดหน้าต่าง ข้างกันเป็นโต๊ะเขียนหนังสือโดยปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า ห้องขนาดสี่เหลี่ยมไม่ได้ใหญ่มากเท่าไหร่แต่ก็อยู่ได้ไม่อึดอัด
เธอวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาชาร์ตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าแบตเหลือน้อยเต็มที พบสายที่ไม่ได้รับกว่าสิบสายและเมื่อดูชื่อก็ต้องถอนหายใจทันที
ยังไม่ทันจะโทรกลับเสียงร้องของเครื่องมือสื่อสารก็ดังขึ้นเสียก่อน “ว่าไงเปรม” เป็นเพื่อนชายคนสนิทนั่นเอง
‘โทรไปตั้งหลายรอบทำไมไม่รับ’ ถามเสียงเข้มเพราะเพียรกดหาหล่อนจนสายแทบไหม้แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับเสียที
“ฉันไปถ่ายแบบเพิ่งกลับถึงบ้าน นายมีอะไรหรือเปล่า”
เดินไปนั่งลงบนเตียงพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อย ดูเหมือนเปมทัตจะรุกหนักขึ้นทุกวันถึงแม้จะเรียนคณะเดียวกันแต่คนละภาควิชาเพราะเขาเลือกภาคพาณิชยศาสตร์สำหรับบริหารธุรกิจทางบ้านโดยเฉพาะ
ที่จริงบิดาของเปมทัตอยากให้ไปต่อปริญญาตรีที่ต่างประเทศแต่ชายหนุ่มไม่ยอม ยืนยันว่าอย่างไรก็จะเรียนที่ไทยจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับหล่อนได้ เขาตามติดจนเหมือนเป็นเงาตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างอึดอัดแต่ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่ได้ขอพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนจึงจำต้องปล่อยผ่าน ขอเพียงแค่ไม่ล้ำเส้นที่ขีดไว้ก็พอ
‘ไปกับใคร’
“คนเดียว แค่นี้ก่อนได้ไหมฉันเหนียวตัวอยากไปอาบน้ำ” ตอบเสร็จก็รีบหาข้ออ้างเพื่อวางสาย
‘เดี๋ยวก่อนสิข้าว เอ่อ ถ้าอย่างนั้นฝันดีนะ’ โทรมาเพียงเพื่อบอกฝันดีก่อนที่หญิงสาวจะตัดสายโดยไม่ได้ตอบกลับ
อันที่จริงไม่อยากให้ความหวังเพื่อนด้วยซ้ำเพราะกลัวว่าฝ่ายชายจะเจ็บมากหากถูกปฏิเสธ อย่างไรเขาก็คอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างมาโดยตลอด เคยคิดอยากตอบกลับความรักแต่ความรู้สึกที่มีต่อเปมทัตมันชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น
อีกอย่างหล่อนไม่กล้าทำร้ายจิตใจอรวราที่หลงรักฝ่ายชายมาตลอด ถึงแม้ไม่พูดออกมาแต่แววตาบอกหมดทุกอย่าง เธออยากให้ทั้งสองลงเอยกันทว่าไม่กล้าเป็นกามเทพกลัวเรื่องจะยิ่งบานปลาย
คำว่าเพื่อนมันช่างเปราะบางเสียเหลือเกิน
๒ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว หลังจากทำเรื่องและบริษัทตอบรับการฝึกงานแล้ว บุณณดาก็เตรียมตัวให้พร้อมด้วยการค้นข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับ The area group ทำให้ยิ่งทึ่งกับความสามารถของเขามากกว่าเดิม แทนไท ทรัพย์พูนทวี นักธุรกิจที่มาแรงเพราะเขาเริ่มต้นสร้างอาณาจักรตั้งแต่ยังอายุได้เพียง 27 ปี โดยเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดกลางก่อนแล้วเริ่มขยับขยายใหญ่ขึ้นจนปัจจุบันมีหลายสาขาพร้อมทั้งเริ่มกิจการทางโรงแรมโดยใช้ชื่อว่า The area hotel (TAH) เน้นที่ต่างจังหวัด มีที่ภูเก็ต เชียงใหม่ โคราชและที่กำลังสร้างคืออุบลราชธานี แต่ละพื้นที่ชื่อจะแตกต่างกันออกไปแต่ยังอยู่ในเครือของ The area hotel ส่วนห้างสรรพสินค้าอยู่ในส่วนของ The area shopping (TAS) มีทั้งหมดสี่สาขาที่เมืองหลวง และที่ร่วมทุนกับพัฒนาสยามตั้งเป็นห้างยักษ์ใหญ่เมื่อสองปีที่แล้ว The luxury ถือเป็นสถานที่ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก มีแบรนด์ดังเข้ามาเปิดจนคนแน่นห้างตั้งแต่วันแรก และยังเป็นอย่างนั้นจนถึงปัจจุบัน และโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นคือการร่วมทุนกับพัฒนาสยามสร้างห้างสรรพสินค้าตามเมืองใหญ่ของแต่ละภาคในประ
๓ข้างๆ หัวใจ เข้าพักบังกะโลติดหาดที่เป็นส่วนตัว หล่อนได้ยินว่าปีหน้ากำลังจะปิดปรับปรุงแต่ดูแล้วที่พักไม่ได้เก่าเลยสักนิด หลังคามุงด้วยหญ้าฝางซึ่งค่อนข้างแข็งแรงมีเพดานฉลุลายดอกไม้ปิดทับอีกชั้น ผนังห้องทำด้วยไม้ขัดเงา ตัวที่พักจะยกสูงจากพื้นประมาณหนึ่งเมตรทำให้มีชานเรือนสำหรับนั่งรับลมหรือดูวิวทะเล เดินไปเปิดหน้าต่างรับลมข้างนอกพลางสูดเอากลิ่นทะเลเข้าปอด เธอไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ แต่ละวันผ่านไปด้วยการเรียนและโหมงานหนักจนแทบไม่เคยได้พักผ่อน เคยมีครั้งหนึ่งถึงขั้นเป็นลมจนเพื่อนที่ทำงานด้วยกันต้องปฐมพยาบาล ดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากแค่นอนไม่พอ ถึงจะทำงานหนักแค่ไหนแต่เงินเก็บก็มีเพียงสองหมื่นเพราะส่วนมากหล่อนจ่ายหนี้ให้บิดาไปจนหมด หรือบางครั้งท่านก็มาหยิบยืมโดยไม่เคยคืนสักบาทจนต้องทำใจเสียแล้วว่าหากให้เงินพ่อก็ไม่หวังจะได้คืน วางกระเป๋าไว้บนเตียงเสร็จแล้วค่อยรูดซิปสำรวจว่าแม่บ้านเตรียมอะไรให้บ้าง มีชุดชั้นในครบเซ็ตพร้อมทั้งชุดนอนกระโปรงยาวผ้าเนื้อนุ่มที่แค่ได้สัมผัสก็รู้ว่าต้องราคาแพงแน่นอน ชุดทำงานเป็นเสื้อแขนยาวสีชมพูม
๔ความจริงที่เจ็บปวด ผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนที่เหล่านักศึกษาฝึกงานได้ลองใช้ชีวิตในการทำงานจริง ค่อนข้างสะบักสะบอมเพราะไม่ได้เป็นอย่างที่นึกสักนิด งานก็หนักยิ่งเป็นน้องใหม่ก็ถูกใช้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอรวราที่ปฏิเสธคนไม่เป็น หน้าที่ประจำของเธอคือการซื้อกาแฟให้พี่ๆ กระทั่งเปมทัตรู้เรื่องหล่อนถึงโดยว่าเสียยกใหญ่เพราะมันไม่ใช่หน้าที่สักนิด เธอไม่อยากมีเรื่องจึงต้องกล่อมให้เพื่อนสนิทใจเย็นพลางบอกว่ามันไม่ได้ลำบากเลย ร้านกาแฟก็อยู่ใกล้บริษัทแค่เดินไม่กี่ก้าวถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว จนร่างสูงอดค่อนแคะไม่ได้ว่าช่างมีความสุขในการรับใช้คนอื่นเสียเหลือเกิน ตอนเที่ยงพวกเขามักมารับประทานอาหารด้วยกัน เลือกจะกินร้านใกล้บริษัทเพราะตอนบ่ายต้องรีบเข้างานเดี๋ยวจะโดนรุ่นพี่พูดใส่อีกว่าเป็นนางสาวสายเสมอ “จริงเหรอ แสดงว่าคนที่มาเป็นผู้ช่วยคุณนนก็คือเด็กเลี้ยงคุณแทน” ขณะที่กำลังนั่งรออาหารก็ได้ยินพี่ที่ทำงานบริษัทเดียวกันพูดถึงประเด็นร้อนแรงซึ่งกลายเป็นข่าวดังไปทั่วตึก “ฉันได้ยินเขาเล่ากันมา ถามจริงเถอะพวกแกเคยเห็นเด็กฝึกงานมาเป็นผู้ช่วยเลขาหรือไง ถ้า
๕เลือกได้ไหม หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกจากโรงเรียนมัธยมชื่อดังเขาก็ได้สอบชิงทุนเข้าคณะวิศวกรรมการบินของสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง แทนไทเหลือพี่สาวเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว แม่ของเขาเสียชีวิตตอนชายหนุ่มอายุ 15 ปี ส่วนพ่อก็ทิ้งพวกเขาไปตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อทั้งหน้าตาค่อนไปทางฝรั่งเลยโดนล้อมาตลอด เขาทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยเก็บเงินเรียนไม่ต้องการใช้เงินแม่ที่เป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านไม่ทำงานที่มันมีเกียรติหรือศักดิ์ศรีมากกว่านี้ ชายหนุ่มมุมานะในการเรียนจนได้อยู่ในสังคมของคนเก่งและเต็มไปด้วยคนรวย ตอนนั้นเองที่ทำให้ได้รู้จักกับบัลลพ บวรกิตติ์ ลูกชายนักธุรกิจชื่อดังที่เข้ามาสร้างความสัมพันธ์โดยไม่คำนึงถึงชนชั้นวรรณะแต่อย่างใด กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเรียนที่สถาบันเดียวกัน เขาหลงคิดฝันจะได้เพื่อนแท้โดยไม่รู้เลยสักนิดว่างูเห่ามันแฝงตัวอยู่ภายในกายของอีกฝ่าย จนวันที่แฟนสาวเข้ามาบอกพร้อมทั้งน้ำตา ‘เราท้อง..’ ตกใจจนมือไม้ชาเพราะเขาไม่เคยแตะต้องหล่อนไปมากกว่าจับมือ ยิ่งช่วงก่อนหน้า
๖หัวใจไม่ใช่กระดาษความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่นของประธานบริษัทในเครือ The area group กับผู้ช่วยเลขาสาวสวยในบ้านสามชั้นที่มีเหล่าคนใช้ปิดหูปิดตาไม่รับรู้สิ่งใดเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ห้องนอนของหล่อนกลายเป็นรังรักยามใดที่ต้องการก็แค่เปิดประตูเข้าข้างใน ร่วมรักจนพอใจค่อยโยนเงินไว้หัวเตียงแล้วกลับไปนอน จนตอนนี้หล่อนเริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงแค่ผู้หญิงหากินคนหนึ่งเท่านั้น นอนร้องไห้ติดกันหลายคืนจนกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า มองอะไรก็กลายเป็นสีหม่นไปหมดทำให้ต้องปฏิวัติตนเองใหม่อีกทั้งยังต้องทีธีสิสจบด้วย เหลือเวลาเพียงเดือนครึ่งในการฝึกงานเท่านั้น จะมามัวเศร้าหมองกับชีวิตคงไม่ทันทำกินพอดี ในเมื่อเขากำลังเล่นเกมกับพ่อแล้วทำไมเธอจะเล่นเกมกับเขาบ้างไม่ได้ มารยาหญิงมีกี่เล่มเกวียนทำไมไม่งัดออกมาใช้.. คิดพลางยกยิ้มมุมปากเมื่อนึกแผนการดีๆ ออก เธอจะไม่ยอมเจ็บคนเดียวแน่ ในเมื่อเสียตัวแล้วก็ขอให้ได้อะไรตอบแทนกลับมาหน่อยเถอะ ยอมรับว่ารักแทนไทจนถอนตัวได้ยากถึงเขาจะทำไม่ดีด้วย ความจริงเป็นอย่างนี้จะฝืนตัดใจไปทำไมทั้งที่ได้อยู่ใกล้ชายหนุ่มมากกว่าผู
๗นอกคำสั่ง หลังเลิกงานหญิงสาวขออนุญาตเจ้าชีวิตมาหาน้าสาวที่ดูแลมาตลอดระยะเวลาหลายปี เขาให้คนขับรถไปส่งถึงบ้าน อีกทั้งเพื่อจับตาดูไม่ให้บุณณดาคลาดสายตาจนคนมีแผนในใจเริ่มอึดอัด ที่จริงวันนี้นัดบิดาเอาไว้ที่บ้านนางนลินี พาหนะจอดยังหน้าบ้านสองชั้นขนาดเล็ก หล่อนขอบคุณพี่พริกซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนท่าทางใจดี เป็นคนขับรถบ้านแทนไทมาเกือบสิบปีแล้วรู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดี เธอเดินลงจากรถปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งรอข้างนอกแล้วค่อยเดินเข้าไปภายในบ้าน น้าแพงนั่งทำงานที่เดิมเมื่อเห็นหลานสาวก็เข้ามากอดพร้อมถามไถ่ด้วยความคิดถึง ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมากนักแต่เห็นแววตากังวลของหญิงสาวก็พอจะเดาได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญไม่สามารถบอกให้ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมดได้ในเวลาจำกัด “พ่อล่ะคะน้าแพง” หลังถามจบประตูห้องน้ำก็เปิด ซึ่งคนที่ออกมาคือบัลลพนั่นเอง ชายร่างใหญ่เห็นบุตรสาวก็ตรงเข้ามาสำรวจตามร่างกายพลางถามเสียงตระหนก “ข้าวเป็นยังไงบ้าง ไอ้แทนมันทำอะไรข้าวไหม” เมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่ได้มีรอยช้ำตามร่างกายก็พอเบาใจว่าฝ่ายนั้นคงไม่ได้ซ้อมหรือทำร้ายร่างกายอย่างที่
๘คนที่คู่ควร หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอรวรามักจะหลบหน้าเพื่อนเสมอและดูเหมือนเปมทัตก็ไม่ได้มาตามหรือตื้อจะคุยเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาคงไม่รู้เพราะเมาจนเห็นหล่อนเป็นบุณณดา นึกถึงก็ยิ่งเจ็บจนต้องสะบัดศีรษะไล่ความกังวลนั้นออกไป ช่วงนี้ต้องทำธีสิสจบจึงพยายามพุ่งความสนใจไปยังงานของตนเอง ช่วงเที่ยงก็ห่ออาหารมากินด้วยทำให้คลุกอยู่แต่แผนกของตนไม่ยอมออกไปหาร่างสูงที่แวะเวียนมาถามไถ่แต่กลับได้เพียงคำปฏิเสธ และคนใจร้อนก็ไม่ได้โวยวายแค่พยักหน้าเข้าใจ จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นใบข้าวเขาจะตื้อหรือเปล่า สับสนกับความคิดของตนเองที่ดูเหมือนจะปล่อยวางแต่ก็ยังคิดเพียงเรื่องของชายที่ตนหมายปอง “หนูอรไม่กลับเหรอ” ถึงเวลาเลิกงานก็ยังนั่งแช่ที่เดิมทั้งที่ไม่มีอะไรให้ทำ หล่อนสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วรีบเก็บข้าวของตามรุ่นพี่ออกไปรอลิฟต์ ไม่รู้ว่าสวรรค์ต้องการกลั่นแกล้งหรือเปล่าทำให้เมื่อประตูเปิดออกก็เห็นคนที่ตนกำลังหลบหน้ายืนอยู่ในนั้น ขาเรียวก้าวถอยหลังจะไม่เข้าไปแต่พอดีสบตากับชายหนุ่มก่อน ถ้าวิ่งหนีตอนนี้คงได้โดนตามไล่
๙หมากในเกมถึงจะพยายามข่มตาให้หลับก็ไม่อาจทำดังใจปรารถนาได้เพราะมัวแต่พะวงถึงใครอีกคนซึ่งยังไม่กลับบ้านสักที ร่างบางผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดม่านดูประตูรั้วกลับเงียบสนิทเหมือนเดิม เม้มปากแน่นเมื่อคิดว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กับธัญพิชชาถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งที่เตียงกว้างหยิบโทรศัพท์มาเปิดเพลงคลอเสียงเบากล่อมให้ง่วง สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มแล้วหลับตาเหมือนที่ทำมาเกือบค่อนคืน ดวงตาที่แดงช้ำเริ่มกลับมาเป็นปกติหลังจากประคบเย็นอยู่นานมองนาฬิกาดิจิตอลซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงพบว่าเป็นเวลาตีสอง ดวงตาปริ่มน้ำเจียนจะไหลแต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ กล่อมตัวเองให้หลับกระทั่งเริ่มเคลิ้มก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาภายในบ้านรีบสะดุ้งผุดลุกนั่งอย่างรวดเร็วริมฝีปากยิ้มโดยอัตโนมัติทั้งที่ไม่เข้าใจตนเองเช่นเดียวกัน เขาทำกับเธอถึงขนาดนี้ยังหลงรักเหมือนผู้หญิงหน้าโง่จมปลักกับผู้ชายเพียงคนเดียวอีกเหรอเมื่อรู้เวลากลับถึงบ้านของแทนไทก็โล่งอกเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสบายอุรา พยายามไม่คิดว่าทำไมเขาถึงกลับบ้านเอาป่านนี้เพราะรู้เหตุผลอยู่แล้วว่าคงสนุกสนานกับคนที่คู่ควรอย่างลูกสาวเจ้าสัวธนาคารชื่อดังเธอมันก็เป็นได้แค่ตั