๘คนที่คู่ควร หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอรวรามักจะหลบหน้าเพื่อนเสมอและดูเหมือนเปมทัตก็ไม่ได้มาตามหรือตื้อจะคุยเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาคงไม่รู้เพราะเมาจนเห็นหล่อนเป็นบุณณดา นึกถึงก็ยิ่งเจ็บจนต้องสะบัดศีรษะไล่ความกังวลนั้นออกไป ช่วงนี้ต้องทำธีสิสจบจึงพยายามพุ่งความสนใจไปยังงานของตนเอง ช่วงเที่ยงก็ห่ออาหารมากินด้วยทำให้คลุกอยู่แต่แผนกของตนไม่ยอมออกไปหาร่างสูงที่แวะเวียนมาถามไถ่แต่กลับได้เพียงคำปฏิเสธ และคนใจร้อนก็ไม่ได้โวยวายแค่พยักหน้าเข้าใจ จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นใบข้าวเขาจะตื้อหรือเปล่า สับสนกับความคิดของตนเองที่ดูเหมือนจะปล่อยวางแต่ก็ยังคิดเพียงเรื่องของชายที่ตนหมายปอง “หนูอรไม่กลับเหรอ” ถึงเวลาเลิกงานก็ยังนั่งแช่ที่เดิมทั้งที่ไม่มีอะไรให้ทำ หล่อนสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วรีบเก็บข้าวของตามรุ่นพี่ออกไปรอลิฟต์ ไม่รู้ว่าสวรรค์ต้องการกลั่นแกล้งหรือเปล่าทำให้เมื่อประตูเปิดออกก็เห็นคนที่ตนกำลังหลบหน้ายืนอยู่ในนั้น ขาเรียวก้าวถอยหลังจะไม่เข้าไปแต่พอดีสบตากับชายหนุ่มก่อน ถ้าวิ่งหนีตอนนี้คงได้โดนตามไล่
๙หมากในเกมถึงจะพยายามข่มตาให้หลับก็ไม่อาจทำดังใจปรารถนาได้เพราะมัวแต่พะวงถึงใครอีกคนซึ่งยังไม่กลับบ้านสักที ร่างบางผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดม่านดูประตูรั้วกลับเงียบสนิทเหมือนเดิม เม้มปากแน่นเมื่อคิดว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กับธัญพิชชาถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งที่เตียงกว้างหยิบโทรศัพท์มาเปิดเพลงคลอเสียงเบากล่อมให้ง่วง สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มแล้วหลับตาเหมือนที่ทำมาเกือบค่อนคืน ดวงตาที่แดงช้ำเริ่มกลับมาเป็นปกติหลังจากประคบเย็นอยู่นานมองนาฬิกาดิจิตอลซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงพบว่าเป็นเวลาตีสอง ดวงตาปริ่มน้ำเจียนจะไหลแต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ กล่อมตัวเองให้หลับกระทั่งเริ่มเคลิ้มก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาภายในบ้านรีบสะดุ้งผุดลุกนั่งอย่างรวดเร็วริมฝีปากยิ้มโดยอัตโนมัติทั้งที่ไม่เข้าใจตนเองเช่นเดียวกัน เขาทำกับเธอถึงขนาดนี้ยังหลงรักเหมือนผู้หญิงหน้าโง่จมปลักกับผู้ชายเพียงคนเดียวอีกเหรอเมื่อรู้เวลากลับถึงบ้านของแทนไทก็โล่งอกเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสบายอุรา พยายามไม่คิดว่าทำไมเขาถึงกลับบ้านเอาป่านนี้เพราะรู้เหตุผลอยู่แล้วว่าคงสนุกสนานกับคนที่คู่ควรอย่างลูกสาวเจ้าสัวธนาคารชื่อดังเธอมันก็เป็นได้แค่ตั
๑๐ความแตก ก่อนงานวันเกิดหม่อมหลวงพินทุอรหลานสาวสุดที่รักอย่างธัญพิชชาก็เกณฑ์คนให้มาช่วยงานซึ่งจัดอยู่โรงแรมในเครือ The area hotel ห้องแกรนด์บอลรูมเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่จุคนได้เกือบพันถูกจับจองเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดังเนรมิตให้เหมือนเอาสวนมาไว้ในห้อง มีฉากดอกไม้ น้ำตกจนต้องจ้างนักจัดสวนมาโดยเฉพาะ ร่างบางกำลังยุ่งในการตรวจงานจึงไม่ทันสังเกตเห็นคนที่เข้ามาใหม่ซึ่งมีท่าทางเก้กังไม่รู้ว่าตนเองต้องทำอะไร บุณณดาไม่อยากมาแต่ไม่อาจคัดคำสั่งของเจ้านายได้ ตื่นเช้ามารับประทานอาหารพร้อมกับที่เขาบอกให้ไปช่วยธัญพิชชาจัดงานวันเกิดหม่อมหลวงที่หล่อนไม่รู้จัก ถึงอยากขัดแต่สิ่งที่ทำได้คือการตอบรับแล้วขับรถยนต์ของชายหนุ่มมายังบริเวณงาน ทุกอย่างแปลกตาไปหมด กระทั่งแม่งานอย่างดีไซเนอร์สาวหันมาพบหล่อนจึงเดินยิ้มเข้าทักทาย “อ้าวมาแล้วเหรอ พอดีเลยกำลังอยากได้คนช่วยงาน” อีกฝ่ายจับมือถือแขนอย่างสนิทสนมพร้อมยิ้มรับด้วยไมตรีจิตจนเธอรู้สึกผิดที่คิดเข้ามาแทรกกลางระหว่างหญิงสาวกับแทนไท แต่ก็ไม่อาจหันหลังกลับได้เพราะเดินมาไกลเกินจะย้อน
๑๑ความแตก บุณณดาตื่นก่อนถึงจะนอนทีหลังจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำชำระกายค่อยเลือกชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขายาวมาสวมทับ มัดผมหางม้าอย่างลวกๆ ค่อยเติมหน้าพอให้มีสีสันไม่จืดชืดจนเกินไปเพื่อมัดใจเจ้าของบ้าน เธอยังไม่ยอมแพ้เรื่องแผนที่จะทำให้เขารัก ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนก็ถือว่าเธอยังมีสิทธิ์ คิดปลุกปลอบใจตนเองแล้วเดินออกจากห้องพยายามเมินเงินค่าตัวราคาห้าพันซึ่งเขาเพิ่มให้เพราะถูกใจในลีลาที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ ของหล่อน หันไปมองชายหนุ่มที่นอนหลับบนเตียงของตนเองคงเพราะเหนื่อยจากงานถึงไม่กลับไปนอนห้องประจำ อมยิ้มเล็กน้อยเพราะปกติถึงจะอยู่ด้วยกันดึกแค่ไหนร่างสูงก็มักจะกลับไปนอนห้องปล่อยให้เธอกอดตัวเองร้องไห้เพียงลำพัง มันเป็นสัญญาณที่ดีระหว่างความสัมพันธ์ของเราหรือเปล่านะ... คิดแล้วก็ยิ้มมากกว่าเดิมแล้วออกไปข้างนอกเพื่อช่วยเหล่าแม่บ้านเตรียมอาหาร แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นโต๊ะเต็มไปด้วยมื้อเช้าจนรีบเดินลงไปเพื่อสอบถามว่าเหตุใดถึงตั้งโต๊ะเช้ากว่าปกติ ทว่าเมื่อเห็นแม่ครัวจำเป็นคำถามที่เกิดขึ้นก็
๑๒เธอจากไปตลอดกาล บุณณดาไปโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์เพียงลำพังเพราะพ่อของเด็กไม่ว่าง มีคนขับรถรออยู่ข้างนอก ทำให้เป็นการดีที่จะนัดใครสักคนมาพูดคุยและปรึกษาปัญหาชีวิต ซึ่งคนคนนั้นคือเพื่อนสนิทที่อยู่ไทยเพียงคนเดียวของหล่อน ...เปมทัต เมื่อทำธุระเรียบร้อยจึงโทรหาอีกฝ่ายโดยนัดพบกันยังแผนกเด็ก หลบเลี่ยงสายตาของผู้คนใช้เด็กที่วิ่งไปมาและส่งเสียงดังเป็นกันชน รอสักพักก็เห็นลูกชายเจ้าของโรงแรมที่เดี๋ยวนี้ใส่สูทผูกเนกไทจนกลายเป็นผู้บริหารไปเสียแล้ว อดชื่นชมไม่ได้จนอยากให้อรวราเห็นเหมือนกับหล่อนว่าเพื่อนคนนี้เปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอได้รับรูปจากคนที่อยู่โอ๊คแลนด์ว่าคลอดลูกสาวออกมาแล้ว โดยบิดามารดาไม่รู้เพราะคุณน้าช่วยปิดเอาไว้ แต่ก็คิดว่าจะปิดได้อีกนานแค่ไหน เดี๋ยวเรื่องก็แดงขึ้นจนเข้าหูชายหนุ่มเหมือนเดิม ร่างสูงนั่งลงข้างหล่อนพลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ เสร็จจากประชุมก็วิ่งมาทันทีกลัวว่าเพื่อนจะรอนานและอีกอย่างคือเขามีงานอื่นต้องไปทำหลังจากพูดคุยกับบุณณดาเสร็จ “มีอะไรหรือเปล่าเรียกเราออกมาคุยที่นี่ คนของข้าวไม่ว่าหรื
๑๓เหนือตะวันสถานที่ซึ่งชายหนุ่มไม่อยากมาแต่จำต้องเหยียบเข้าภายในวัดที่มีรูปใบหน้าของหญิงสาวที่เขากกกอดอยู่ทุกคืนตั้งเอาไว้ หลบวูบเมื่อสบเข้ากับภาพของหล่อน ไม่อยากเชื่อว่าบุณณดาได้จากเขาไปตลอดกาล ทิ้งเอาไว้เพียงร่องรอยที่ทำให้คนอยู่เจ็บปวดทุกครั้งยามได้มองเสื้อผ้าของเธอ สมุดโน้ต เครื่องใช้ในห้อง ภาพยามที่ร่างบางเดินวนเวียนอยู่ในบ้าน องค์ประกอบทุกอย่างของเธอทำให้แทนไทจมปลักอยู่ในอดีต กระทั่งรับรู้ว่าต้องลุกเพื่อมาบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายขายาวก้าวไปยังบริเวณเมรุ มีเพื่อนร่วมคณะหลายคนเข้ามาไว้อาลัยในการจากไปอย่างกะทันหัน คนเป็นพ่อร้องไห้จนตาบวมก่อนที่จะหันมาเห็นแขกไม่ได้รับเชิญ บัลลพตรงเข้าไปหาหนุ่มนักบริหารอย่างรวดเร็วพลางชี้หน้าด่าเพราะไม่กล้าทำร้ายร่างกาย“มึงมาทำไมไอ้ฆาตกร มึงฆ่าลูกสาวกู” ยังไม่หยุดกล่าวหาทั้งที่รู้ว่าความจริงมันเป็นอุบัติเหตุและใบข้าวก็โชคร้ายที่เข้าไปอยู่ในรถคันนั้นพอดีไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหญิงสาวเป็นที่รักของคนรอบข้างด้วยความมีน้ำใจทั้งยังหน้าตาสะสวย อาจารย์มหาวิทยาลัยมาร่วมแสดงความอาลัยค่อนข้างเยอะเนื่องจากเธอคือศิษย์รักใบหน้าคมไม่ได้แสดงอาการใดออกมานอกจา
๑๔วันที่ฉันพบเธอ เจ้าของบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่กลับมาโหมงานหนักอีกครั้ง ห้างสรรพสินค้า The victory เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยทำให้ตอนนี้ต้องลุยงานใหญ่อย่าง Grand paradise ห้างใหญ่ใจกลางกรุงที่ระดมวิศวกรจำนวนมากเพื่อเสกให้ห้างแห่งนี้เสร็จตามกำหนดการณ์ และวิศวกรที่ได้รับเลือกให้ทำโครงการใหญ่คือวิจิตร จำกัด(มหาชน) ซึ่งกองทัพลงมาดูแลด้วยตัวเองพร้อมน้องชายอย่างนักรบเป็นหัวหน้าทีมวิศวกร พวกเขาต้องหามรุ่งหามค่ำประชุมดึกดื่นจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไหนจะต้องคุยเกี่ยวกับร้านค้าในแต่ละชั้นของห้างสรรพสินค้า มีลานน้ำพุใหญ่กลางห้างเนรมิตให้เหมือนสวน คัดสรรต้นไม้ทำให้เป็นหนึ่งเดียวกับอาคารเหมือนที่บ้านของตนเอง แทนไทเปิดรับเลขาอีกคนเพราะเพียงแค่นนทัชอาจจะหนักกับอีกฝ่ายมากเกินไป สิ่งที่ชายหนุ่มย้ำนักหนาคือต้องการเลขาผู้ชายเนื่องจากสะดวกในการเดินทาง อีกอย่างจะได้ไม่ตกเป็นข้อครหาของคนอื่นที่จ้องมองและพร้อมนำเรื่องซึ่งไม่สนใจว่าเป็นความจริงหรือไม่ไปพูดต่อ “ขอบคุณทุกคนมากครับ” เสร็จงานที่เวลาหกทุ่มทำให้ผู้ช่วยต่างแยกย้ายกลับบ้าน นนทัชลุกขึ้นเก็บเอ
๑๕เริ่มต้นใหม่เหมือนโดนตีหัวซ้ำหลายรอบจนมึนงง แต่เหนือสิ่งอื่นใดความรู้สึกที่เด่นชัดคือดีใจ เหมือนกับว่าได้รับโอกาสอีกครั้งเพื่อให้ได้แก้ตัวจากเรื่องเลวร้ายที่ตนเองกระทำต่อหญิงสาว ดวงตาคมจ้องสองแม่ลูกไม่วางแล้วค่อยยกยิ้มขึ้นแต้มริมฝีปากมือหนาถือโทรศัพท์เอาไว้เพื่อรับฟังเรื่องราวทุกอย่างจากผู้ร่วมแผนการ และเป็นคนคอยช่วยเหลือบุณณดากระทั่งหาที่พักให้หล่อนกับลูก ไม่ใช่ในฐานะคนแอบรัก แต่ทำเพราะใบข้าวคือเพื่อนสนิทจึงไม่อยากเห็นอีกฝ่ายตกระกำลำบาก‘ผมเป็นคนบอกข้าวให้เอารถไปติดแก๊สถึงจะมีข้ออ้างให้รถไหม้ทั้งคันได้อย่างรวดเร็ว’ อันที่จริงก็สงสัยว่ารถยนต์ของตนทุกคันไม่ได้ติดแก๊ส แล้วทำไมคันที่หล่อนขับถึงถังแก๊สแต่นนทัชมาบอกว่าหญิงสาวเอาไปทำเองเนื่องจากอยากประหยัดเงินค่าน้ำมันจึงไม่สงสัยและหาคำตอบเกี่ยวกับการตายที่มีช่องโหว่ ปล่อยให้มันผ่านไปและจมอยู่กับความรู้สึกผิด‘ทิ้งของทุกอย่างไว้บนนั้นและก่อนที่รถจะระเบิดก็ต้องรีบออกมาจากเบาะหลังเพื่อให้ไม่มีคนเห็น แผนการต่างๆ มันค่อนข้างเสี่ยงแต่ข้าวก็ยอม คุณรู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร’ ยกยิ้มทันทีเมื่อได้ฟังคำถาม ไม่ต้องคาดเดาเลยสักนิดเพราะทุกอย่างมันชัดเจ
ตอนพิเศษพบเจอทุกชาติไป วาระสุดท้ายของคุณแทนไทห้อมล้อมไปด้วยลูกหลานที่มาเฝ้าหลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย คนรักอย่างบุณณดาดูแลไม่ห่างถึงยามมองหน้าเขาจะแอบน้ำตาซึมจนต้องแอบหลบไปร้องไห้เพียงลำพัง ปีนี้สามี 85 ปี ซึ่งหล่อนได้แต่อธิษฐานให้เขาอยู่อีกสักร้อยปี แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะหนึ่งสัปดาห์ต่อมาบุรุษผู้สร้างอาณาจักร The area group ได้จากไปในตอนเช้า สร้างความเศร้าโศกให้ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง บุณณดาเสียใจเป็นอย่างยิ่งทว่าต้องหยัดยืนเพื่อลูกและหลาน หล่อนทำเหมือนไม่เป็นอะไรมาก ดำเนินชีวิตอย่างปกติกระทั่ง 5 ปีผ่านไป เช้าวันที่อากาศแจ่มใสหล่อนก็จากไปด้วยอาการหลับใหลที่ไม่ว่าใครจะปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเสียที ครอบครัวทรัพย์พูนทวีสูญเสียคุณผู้หญิงของบ้านไปอย่างน่าเศร้า “ขอให้พ่อกับแม่ได้เจอกันบนสวรรค์นะครับ” ลูกชายคนโตอย่างคิมหันต์เอ่ยขึ้นพลางมองอัฐิเจดีย์ของท่านที่วางเคียงกัน คำอธิษฐานนั้นไม่รู้จะถึงคนบนฟ้าหรือไม่ แต่ขอให้สักวันพวกท่านได้เจอและครองรักกันอีกครั้ง... 90 ปีต่อมา หญิงสาวในช
ตอนพิเศษกรงขังแห่งรัก หลังจากกลับมาจากเที่ยวปีใหม่คุณแม่คนสวยก็มุ่งทำร้านกาแฟจนมีคนแวะเข้าไม่ขาดสาย ตัวชูโรงคือเด็กน้อยอย่างคิมหันต์ซึ่งมีชุดเสิร์ฟอาหารเป็นของตัวเองโดยอ้อนแม่บ้านให้ตัดโดยเฉพาะหลังจากเห็นในการ์ตูน และรูปของหนูน้อยก็ดังชั่วข้ามคืนจนมีคนขอให้มาถ่ายแบบ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่อนุญาต จนตอนหลังคนเพิ่งมารู้ว่าเป็นทายาทคนโตของ The area group มีทรัพย์สินกว่าหมื่นล้านก็สร้างความแตกตื่นกันยกใหญ่ “น้องคิม พี่ให้” พี่สาวเรียนมหาวิทยาลัยมานั่งอ่านหนังสือในร้านพร้อมยื่นลูกอมรสโปรดให้เด็กน้อย เธอค่อนข้างคุ้นเคยเพราะมาร้านนี้บ่อย “พี่ดาดา ขอบคุงคับ” ไหว้อย่างสวยงามแล้วทำตาโตรอให้อีกฝ่ายแกะลูกอม เมื่อร่างบางจัดการปอกเปลือกออกก็ยิ้มตาหยีด้วยความดีใจ “น่ารักจังเลยนะเรา” ยอมให้หญิงสาวกอดโดยไม่เกี่ยงงอน ค่อยผละออกเมื่อได้ยินเสียงมารดาเรียก ตอนนี้คนค่อนข้างเยอะจึงกังวลว่าบุตรชายจะเดินตามพี่ๆ ออกไปข้างนอก แต่เห็นใบหน้ากลมยิ้มแป้นแล้นให้จึงเบาใจแล้วบอกลูกเข้าไปนอนหลังร้าน คิมหันต์พยักหน้าไม่กล้าตอบเพราะกำลังอมลูกอมเอาไว้ ทำ
ตอนพิเศษวันวาเลนไทน์ ในวันที่ดอกกุหลาบขึ้นราคา ร้านค้ามีโปรโมชั่นสำหรับคู่รัก และเสื้อคู่ขายดิบขายดีทว่าชายหนุ่มผู้เป็นถึงเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่กลับต้องนั่งทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ได้กลับบ้านหาคนรัก ใบหน้าคมเคร่งขรึมจนเลขาไม่กล้าทำเสียงดัง เขามองนาฬิกาบ่อยภาวนาให้เลิกประชุมโดยเร็วแต่เหมือนทุกอย่างจะยืดเยื้อเพราะโครงการที่กรรมการบริหารคนอื่นเสนอขึ้น มือหนากำเข้าหากันแน่นแล้วพูดเสียงเฉียบขาด “พรุ่งนี้ไว้พูดกันใหม่ครับ วันนี้ผมขอปิดประชุม” สามทุ่มสิบห้านาทีห้องประชุมถูกเปิดออก แต่ละแผนกเดินออกมาด้วยใบหน้าโล่งใจ ตอนแรกก็คิดว่าจะนานกว่านี้ดีที่ท่านประธานยอมให้กลับบ้าน “ทำไมวันนี้คุณแทนให้เลิกเร็วครับ ปกติห้าทุ่มไม่ใช่เหรอ” ธีปถามรุ่นพี่ซึ่งทำงานมานานกว่า และนนทัชก็กระซิบบอกพลางอมยิ้ม “จะรีบไปฉลองกับเมียไง วันวาเลนไทน์ทั้งทีใครจะมาเหงาเหมือนเราสองคน จริงไหมไอ้น้อง” กอดคอถามแล้วยักคิ้วแต่คนถูกถามกลับส่ายหน้าค่อยปลดมือของนนทัชออก “ผมมีนัดกับแฟนเหมือนกันครับ ต้องขอโทษด้วยที่พี่คงต้องเหงาคนเดียว” เลขามากฝีมือหน้าเหวอทันทีเมื่
ตอนพิเศษปีใหม่ที่แรงร้อนรีสอร์ทที่ชายหนุ่มมาสร้างไว้อยู่อำเภอท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดน่านได้มีผู้เข้าพักเป็นจำนวนมากทั้งที่มีจำนวนบ้านเพียงสิบหลังเท่านั้น อาจเป็นเพราะการโปรโมทจากคนเข้าพักเอง หรือละครที่มาถ่ายทำช่วยสร้างเม็ดเงินให้แก่นักธุรกิจครั้งนี้เขาพาภรรยากับเจ้าตัวน้อยมาพักผ่อนแบบส่วนตัว จัดการให้พี่เลี้ยงพาบุตรชายเข้านอนอีกห้องตั้งแต่หัววันทำให้ตอนนี้เหลือเพียงสองสามีภรรยานั่งดื่มไวน์อยู่ตรงระเบียงที่มองเห็นภูเขาทับซ้อนและผืนท้องฟ้ากว้างใหญ่อันมีดาวส่องประกายระยิบระยับเต็มไปหมด“ไวน์รสชาติดีนะคะ” ทำตามวิธีซึ่งเขาเคยสอนเอาไว้ก่อนเอ่ยชม“คอแข็งขึ้นหรือเปล่า ไปแอบดื่มที่ไหนแล้วไม่บอกฉัน หือ” เห็นดื่มหมดไปเกือบขวดก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเมาเหมือนเมื่อก่อน เธอยกยิ้มมุมปากแล้วไหวไหล่เล็กน้อย“ก็ต้องฝึกไว้บ้างสิคะ เวลาเข้าสังคมจะได้ไม่อายใคร” ช่วงนี้เริ่มเข้าสังคมไปงานสังสรรค์มากขึ้น ก็ได้อรวรานั่นแหละที่คอยบอกคอยสอนและไปเป็นเพื่อนตลอด จนสนิทกับคุณหญิงคุณนายบางคนที่เข้ามาทำความรู้จักหวังร่วมค้าขายกับ The area group“ดีแล้ว” เขาหั่นเนื้อวัวเกรดเอแล้วละเลียดกินช้าๆ บรรยากาศในฤดูหนาวปีนี้ค
ตอนพิเศษหนูอรและเพื่อนชายของเธอชื่อเปมทัต หลังเหตุการณ์จากไปของบุณณดาทุกคนต่างตกอยู่ในความเศร้าเสียใจยกเว้นก็แต่ชายคนหนึ่งซึ่งขึ้นเหนือมาเพื่อสร้างรีสอร์ทในที่ดินที่พ่อได้มอบให้ เขาทุ่มเททำงานหนักจนไม่มีใครสงสัยว่าร่างสูงแอบซ่อนใครอีกคนเอาไว้ ใครบางคนซึ่งควรจะตายไปในกองเพลิง... “เป็นไงบ้าง อยู่ได้ใช่ไหม” ช่วงแรกก็สร้างบ้านพักหลังเล็กไว้ให้หญิงสาวขณะที่รอบ้านหลังใหญ่สร้างเสร็จ ใบหน้าหวานพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้คนที่ช่วยเหลือมาตลอดจนไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี กระทั่งสินใจอย่างเด็ดขาด ถึงได้บอกเรื่องสำคัญ “ฉันไม่รู้จะตอบแทนนายยังไง เลยจะบอกเรื่องที่สำคัญมากๆ กับนายแทน” บุณณดา..หญิงสาวที่ทุกคนคิดว่าลาจากโลกไปแล้วกลับยืนอยู่บนแผ่นดินทางภาคเหนือ หล่อนจ้องเพื่อนสนิทที่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “เรื่องสำคัญเหรอ เรื่องอะไร” เธอเม้มปากแน่นแล้วขอโทษหญิงสาวอีกคนในใจ ‘ขอโทษนะหนูอรที่ผิดสัญญา แต่ฉันทำเพื่อเธอจริงๆ’ สูดลมหายใจเข้าปอดพลางจ้องชายหนุ่มตรงหน้าแล้วตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญ “หนูอรท้อง...” พูดเ
บทส่งท้าย หลังจากคืนดีกันเป็นที่เรียบร้อยบ้านก็กลับมาสดชื่นขึ้น ไม่มีคนที่เคร่งเครียดกับงานมีเพียงชายหนุ่มผู้หลงภรรยาและลูกชายจนไม่เป็นอันทำงาน หากประชุมอยู่บ้านก็พาลูกชายเข้าไปนั่งตักแล้ววางขนมไว้ให้ แน่นอนแค่มีของกินน้องคิมก็สามารถอยู่ได้เป็นชั่วโมงก่อนที่คนเป็นแม่จะเข้ามารับลูกไปนอน ข่าวลือเรื่องหนุ่มนักบริหารมีลูกเข้าหูนักข่าวและเหล่าคณะกรรมการบริษัทจนเขาต้องประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบ และใช้เวลาในการจัดงานเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นสร้างความตกใจแก่คนในบริษัทและคู่ค้าเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งบุณณดาก็เช่นกัน เธอต้องเป็นแม่งานคอยควบคุมทุกอย่างภายในเวลาอันจำกัด แต่หญิงสาวก็ทำได้ดีจนมีแต่คนออกปากชื่นชม งานแต่งของพ่อค้าปลีกขนาดใหญ่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพราะเจ้าสาวไม่ใช่คนร่ำรวยอย่างที่คิด กลับเป็นเพียงหญิงธรรมดาที่มัดใจหนุ่มใหญ่อยู่หมัด แต่สิ่งที่น่าตกใจคือทุกคนเข้าใจว่าหล่อนตายไปแล้ว จึงถูกแก้ไขใหม่ว่าเธอรอดตายมาได้แต่ความจำเสื่อมจึงอาศัยอยู่ทางภาคเหนือ ถึงไม่น่าเชื่อแต่ก็ไม่มีใครถามอะไรในเมื่อเจ้าตัวสะดวกใจจะตอบแค่นั้น
๑๘เมื่อไหร่จะเข้าใจ หลังจากวันนั้นเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากหล่อน สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงหยอดภรรยาทุกวันแล้วแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย ดีที่มีลูกชายคอยช่วยเหลือเห็นด้วยทุกอย่างจนต้องยกนิ้วโป้งให้พร้อมของแถมคือลูกอมรสโปรด เด็กน้อยชอบคุณลุงมากติดหนึบไม่ไปไหน หากเห็นแทนไทที่ไหนก็จะเห็นน้องคิมหันต์ที่นั่นเหมือนเป็นฝาแฝด ผ่านไปกว่าสองสัปดาห์แต่ดูท่าบุณณดาจะยังไม่ยอมกลับไปด้วย เขาเริ่มคิดหนักเพราะไม่สามารถละทิ้งหน้าที่การงานมาได้นานกว่านี้ เอกสารสำคัญก็ให้ส่งทางอีเมล์แล้วค่อยอนุมัติ แต่ก็ไม่เหมือนไปดูหน้างานเอง อีกทั้งคู่ค้าจากต่างประเทศสนใจจะเข้ามาเปิดร้านในห้างของเขา สงสัยต้องรีบเคลียร์ปัญหาหัวใจให้จบโดยเร็วเพื่อจะได้หันไปมุ่งการทำงานสร้างอาณาจักรตนเอง เขามีโครงการสร้างรีสอร์ทที่น่าน สงสัยกลับไปคงต้องรีบนัดสถาปนิกมาประชุมอย่างจริงจังเสียแล้ว โปรเจคผุดขึ้นไม่หยุดจนต้องบอกตนเองให้พอก่อน แค่นี้ก็ยุ่งไม่มีเวลาพักแล้ว “คุงลุง หยักเล่งน้ำ” เดินเข้ามาหาร่างสูงพลางบอกความต้องการของตนเอง แต่ก็ต้องหน้ามุ่ยเพราะโดนปฏิเสธ “เกราะของลุงลงน
๑๗ใจแลกใจ เด็กน้อยเดินขยี้ตาลงมาจากบนบ้านพร้อมกอดผ้าขนหนูสีหม่น ไม่เรียกหาแม่เพราะรู้ว่าท่านคงไปเปิดร้าน ปกติหนูน้อยจะเดินไปหามารดาแต่วันนี้กลับเห็นคุณลุงซูเปอร์ฮีโร่นั่งรออยู่โต๊ะอาหารใต้ถุนบ้าน ดวงตาที่ลืมไม่ขึ้นเบิกกว้างทันทีเมื่อเห็นเฝือกสีขาวขนาดใหญ่ วิ่งทึกทักเข้าไปหาพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “คุงลุงมีเกาะด้วย ผมอยากมีเกาะบ้าง” อ้อนด้วยการพยายามปีนขึ้นไปนั่งบนตักหนา แต่เพราะมีพุงทำให้ขึ้นอย่างทุลักทุเลถ้าไม่ได้คนอายุมากกว่าช่วยก็คงไม่สามารถมานั่งบนนี้ได้ ดวงตาคมมองลูกชายอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะบอกว่ามันไม่ใช่เกราะแต่คุณลุงตกสะพานจนกระดูกแขนหักคุณหมอเลยให้ใส่เฝือกเพื่อสมานแผล อีกสามเดือนถึงจะเอาออกได้ “คุงลุงไม่สบาย คุงลุงเจ๊ะไหม” แตะเฝือกอย่างแผ่วเบาพลางก้มลงไปเป่าให้ “แม่บอกว่าถ้าเจ๊ะให้เป่า ผมเป่าให้แล้วเด๋วลุงกะหาย” คนฟังอมยิ้มแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นพลางก้มลงไปจุมพิตกระหม่อมเล็ก เสียดายช่วงเวลาที่ไม่ได้เห็นพัฒนาการของลูกตั้งแต่แรกเกิด อยากบันทึกความทรงจำนั้นเอาไว้ทว่าไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ ในเมื่ออด
๑๖ดักลอบต้องหมั่นกู้ เจ้าชู้ต้องหมั่นเกี้ยว ไร่ภูเทพเปิดบ้านต้อนรับนักธุรกิจจากเมืองหลวงที่มาเยือนแต่เช้า เจ้าช่อฟ้าตาโตไม่คิดจะได้พบเขาเพราะอีกฝ่ายงานยุ่งมาก ต้องขยี้ตาซ้ำกลัวจะตาฝาก แต่เมื่ออีกฝ่ายยิ้มให้ก็รีบยิ้มกลับทันที ทำไมหนุ่มอายุเข้าเลขสี่ถึงได้หล่อเหลาขนาดนี้ มองด้วยความชื่นชมทั้งใบหน้าและรูปร่างที่อีกฝ่ายดูแลอย่างดี ถ้าแต่งงานก็อยากได้สามีแบบเขานี่แหละ ตรงตามความต้องการทุกอย่างทั้งหน้าตาดี ฐานะร่ำรวย มีสมองอันชาญฉลาดไม่อดตายแน่ หม่อมแม่จะต้องไฟเขียวถ้าจะได้ดองกับตระกูลทรัพย์พูนทวี เจ้าชะครามเห็นท่าทีของพี่สาวก็ได้แต่ถอนหายใจเอ่ยเชิญอีกฝ่ายเข้ามาภายในห้องรับแขก บ้านไม้หลังนี้ถูกสร้างตั้งแต่สมัยปู่ย่าจนตกทอดมายังรุ่นหลาน เมื่อหลายปีก่อนเพิ่งรีโนเวทและต่อเติมในบางส่วนทำให้ดูใหม่เหมือนเพิ่งสร้าง “ขอโทษที่มารบกวนนะครับ แต่ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณคราม” เคยบอกไม่ให้แทนไทเรียกเจ้านำหน้าเพราะคนอายุน้อยกว่าอย่างชะครามไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เขาชอบให้เรียกคุณนำหน้ามากกว่าเจ้าที่ดูสูงเกินเอื้อม เจ้าช่อฟ้าได้ยินอย่างนั้นก็ทำทีเป็นขอต