๗
นอกคำสั่ง
หลังเลิกงานหญิงสาวขออนุญาตเจ้าชีวิตมาหาน้าสาวที่ดูแลมาตลอดระยะเวลาหลายปี เขาให้คนขับรถไปส่งถึงบ้าน อีกทั้งเพื่อจับตาดูไม่ให้บุณณดาคลาดสายตาจนคนมีแผนในใจเริ่มอึดอัด ที่จริงวันนี้นัดบิดาเอาไว้ที่บ้านนางนลินี
พาหนะจอดยังหน้าบ้านสองชั้นขนาดเล็ก หล่อนขอบคุณพี่พริกซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนท่าทางใจดี เป็นคนขับรถบ้านแทนไทมาเกือบสิบปีแล้วรู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดี เธอเดินลงจากรถปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งรอข้างนอกแล้วค่อยเดินเข้าไปภายในบ้าน
น้าแพงนั่งทำงานที่เดิมเมื่อเห็นหลานสาวก็เข้ามากอดพร้อมถามไถ่ด้วยความคิดถึง ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมากนักแต่เห็นแววตากังวลของหญิงสาวก็พอจะเดาได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญไม่สามารถบอกให้ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมดได้ในเวลาจำกัด
“พ่อล่ะคะน้าแพง” หลังถามจบประตูห้องน้ำก็เปิด ซึ่งคนที่ออกมาคือบัลลพนั่นเอง ชายร่างใหญ่เห็นบุตรสาวก็ตรงเข้ามาสำรวจตามร่างกายพลางถามเสียงตระหนก
“ข้าวเป็นยังไงบ้าง ไอ้แทนมันทำอะไรข้าวไหม” เมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่ได้มีรอยช้ำตามร่างกายก็พอเบาใจว่าฝ่ายนั้นคงไม่ได้ซ้อมหรือทำร้ายร่างกายอย่างที่นึกกลัว มันก็พอมีมนุษยธรรมอยู่บ้าง ทว่าดวงหน้าหวานกลับผินไปมองนลินีซึ่งยังไม่รู้เรื่องราว
และตอนนี้คงปิดไม่ได้เสียแล้ว อย่างไรก็ต้องการคนมาช่วยเหลือในเรื่องดูแลพ่อ เธอไม่ไว้ใจแทนไทสักเท่าไหร่ว่าจะไม่ส่งคนมาทำร้ายท่าน อีกอย่างต้องการรู้เรื่องทั้งหมดในอดีตที่ทำให้เจ้าของบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่แค้นมากถึงเพียงนี้
“วันนี้เราคงต้องคุยกันยาวค่ะพ่อ” พูดจบก็จับจูงท่านไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้นลินีฟังจะได้ไม่ต้องนั่งทำหน้าสงสัย
และเมื่อรับทราบเรื่องทั้งหมดก็อดตกใจไม่ได้ที่ผู้ชายท่าทางใจดี กิริยาอ่อนโยนจะทำทุกอย่างเพื่อต้องการแก้แค้น
ถึงขนาดใช้เวลาสี่ปีเข้ามาทำความรู้จักจนสนิทสนมเป็นที่ไว้ใจก่อนจะเอามีดที่ซ่อนไว้ข้างหลังกระหน่ำแทงเจ็บเจียนตาย
บุณณดาก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าหล่อนจะตกเป็นเหยื่อ ทั้งยังไม่มีหนทางจะปีนขึ้นจากหลุมที่เขาขุดได้เลยในเมื่อหัวใจมันมอบให้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นไปเสียแล้ว ถึงจะไม่มีค่าในสายตาของเขาทว่าเธอจะทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเอง
“แล้วข้าวจะทำยังไงต่อไป” น้าแพงถอนหายใจพลางหันมาถามหลานสาว
“ข้าวจะทำให้คุณแทนหลงรักข้าวค่ะ” ผู้ใหญ่ทั้งสองอุทานด้วยความตกใจกับความคิดนั้น มันเป็นไปได้ยากที่ราชสีห์จะหันมาสนใจหนูตัวเล็กซึ่งไม่มีอะไรคู่ควรเลยสักอย่าง อีกทั้งพ่อของหล่อนยังเป็นศัตรูคู่อาฆาตอีก
“มันยากนะข้าว ไอ้แทนมันใจหินรักใครไม่เป็นหรอก” ขนาดคนที่มันบอกรักนักรักหนาอย่างปานใจยังทิ้งขว้างจนหล่อนรู้สึกน้อยใจอยู่บ่อยครั้ง
และบัลลพก็ใช้ช่วงเวลาที่เธออ่อนแอเข้าไปทำให้หญิงสาวที่ตนหมายตาไขว้เขว สุดท้ายจัดการรวบหัวรวบหางทั้งยังเสกเด็กเข้าท้องจนอีกฝ่ายต้องออกจากการเรียนระดับมหาวิทยาลัยกลางคัน ทั้งสูญเสียชายที่รักไปตลอดกาล
“ต้องลองดูสักตั้งค่ะ แต่ตอนนี้พ่อช่วยบอกข้าวได้ไหมว่าเรื่องในอดีตมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมคุณแทนถึงได้แค้นจนต้องวางแผนซับซ้อนแบบนี้ด้วย” ทุกความสนใจหันไปมองบัลลพเป็นตาเดียวทำเอาคนก่อเรื่องลอบกลืนน้ำลาย
เริ่มย้อนอดีตตั้งแต่ตนเองยังเป็นหนุ่มบ้านรวยมีสาวส่งสายตาหวานให้ตลอด กระทั่งวันที่แทนไทเข้ามาเรียนชั้นมัธยมปลายที่เดียวกันความสนใจก็พุ่งไปยังอีกฝ่ายซึ่งฐานะเทียบเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ แสร้งเข้าไปสร้างความเป็นเพื่อนกระทั่งเข้าสู่มหาวิทยาลัย
เขาหมายตาสาวบัญชีคนหนึ่งที่สวยหยาดเยิ้มแต่เจ้าหล่อนกลับชอบแทนไทจนทั้งสองได้คบกัน
ปานตา ปานดวงใจ...
ผู้หญิงที่ยังติดตรึงในความทรงจำไม่มีวันลืม หล่อนเป็นดั่งรักแรกและรักเดียวของเขา ถึงช่วงที่ผ่านมาจะมีคนอื่นแต่ก็เป็นเพียงคู่นอนเท่านั้น ไม่เหมือนแม่ของลูกสาวเพียงคนเดียวที่ถึงแม้จะจากลากโลกนี้ไปแล้วก็ไม่เคยลบเลือนจากใจดวงนี้ได้เลย
และจะไม่มีทางบอกลูกเด็ดขาดว่าตนเองเป็นคนข่มขืนปานตาจนอีกฝ่ายท้อง บุณณดาไม่ได้เกิดจากความรักแต่มันคือความเห็นแก่ตัวของเขาเอง
“แม่ของลูกกับไอ้แทนเคยคบกัน แต่มันก็ไปมีคนอื่นจนปานต้องช้ำใจ พ่อเข้าไปปลอบแล้วเราก็เผลอไผลจนปานตั้งท้อง” คนเล่าเอาแต่ก้มมองมือตนเองพยายามหลบสายตาจากหญิงต่างวัยที่จ้องเป็นตาเดียว
นักศึกษาสาวนิ่งฟังไม่โต้แย้งเพราะเรื่องในอดีตหล่อนไม่อาจเอาตนเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ได้ ต้องรับรู้จากปากของผู้ที่อยู่ในตอนนั้น
“แล้วพี่สาวของคุณแทนล่ะคะ” จำเรื่องพี่สาวของแทนไทได้ตอนชายหนุ่มมาเอาเรื่องบิดาตนเองไม่ลืม อยากรู้แต่ไม่กล้าถามคนตัวสูงกลัวว่าอีกฝ่ายจะเอาอารมณ์มาลงที่หล่อน
พี่สาวของแทนไทคือทิชากร อุดมศิลป์ หญิงท่าทางเรียบร้อยและแอบหลงรักเขาจนวันที่ได้อยู่เพียงลำพังสองคน บัลลพก็สนองความใคร่ของตนเองกับหล่อนจนอีกฝ่ายตั้งท้อง มาเรียกร้องให้รับผิดชอบแต่เพราะกำลังจะแต่งงานกับปานตาจึงได้ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
“พ่อขับรถชนพี่สาวเขา” ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นแต่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกไปได้ ตกใจที่บิดาตนเองทำกับครอบครัวของแทนไท ไม่น่าเล่าอีกฝ่ายถึงได้แค้นมากขนาดนี้
“แต่พ่อไม่ได้ตั้งใจ ผู้หญิงคนนั้นกระโดดลงมาบนถนนเอง จริงๆ นะข้าว พ่อไม่ได้ตั้งใจ” เข้าไปจับมือบุตรสาวพลางบีบแน่นหวังให้เชื่อในสิ่งที่ตนพูดแต่มันก็ยากเหลือเกินจนค่อยผ่อนลมหายใจถามเรื่องที่ยังข้องใจ
“ลูกในท้องของเธอล่ะคะ ใครเป็นพ่อของเด็ก” ถ้าพี่สาวแทนไทไม่แท้งป่านนี้เด็กคนนั้นก็คงอายุเท่าเธอ คิดก็อดสงสารไม่ได้
“พ่อเอง” เสียงถอนหายใจยาวเหยียดดังขึ้นจากหญิงทั้งสองคน ไม่แปลกเลยที่หนุ่มนักธุรกิจจะโกรธมากขนาดนี้ในเมื่อบัลลพทำลายทั้งความรักและครอบครัวของเขา
มือเล็กยกขึ้นกุมขมับหนทางที่จะทำให้บิดาและคนรักมาปรองดองกันดูเหมือนจะห่างไกลออกไปมากกว่าเดิม คำว่าศัตรูเริ่มมาจากจุดที่เรียกว่าทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจจึงยากที่ความสัมพันธ์จะกลับมาแน่นแฟ้นเหมือนดังเก่า
บัลลพหลบสายตาของลูกสาวด้วยไม่ต้องการเอ่ยอะไรมากกว่านี้ ถึงไม่ได้เป็นพ่อที่ดีแต่ก็ไม่อยากเป็นคนร้ายในสายตาบุณณดา รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกทั้งแค้นใจว่าแทนไทที่เคยอยู่ต่ำกว่าตนกลับผงาดมีทุกอย่างด้วยตัวเอง
ที่น่าเจ็บใจมากกว่านั้นคือมันเอาลูกสาวของเขาไปอยู่ด้วย และดูเหมือนเธอจะแอบรักชายคราวพ่อเสียแล้ว มองใบหน้าหวานอย่างขบคิดก่อนถามเสียงเครียด
“ข้าวชอบไอ้แทนหรือเปล่า” ในเมื่อตนเองบอกทุกอย่างแต่ไม่ค่อยตรงตามความจริงให้ลูกสาวทราบแล้วถึงได้ถามขึ้นบ้าง
ดวงตากลมโตเสหลบสายตาค้นคว้า นลินีมองสองพ่อลูกที่ไว้เชิงกันก็เงียบเสียงไม่กล้าเอ่ยทั้งที่อยู่ใกล้ชิดใบข้าวและรับรู้มาตลอดว่าหลานคนนี้ชอบแทนไทมากแค่ไหน มันไม่ใช่ความหลงเพียงชั่วครั้งชั่วคราวแต่กลับรักจนไม่เผื่อใจด้วยซ้ำ
“ข้าวรักคุณแทนค่ะ” บอกชัดเจนถึงความรู้สึกของตนเองทำเอาบัลลพเผยอปากค้าง ถึงจะเดาได้บ้างแต่เมื่อได้ฟังความจริงจากหล่อนก็รู้สึกเจ็บใจที่ปล่อยปะละเลยจนบุตรสาวไปตกหลุมราชสีห์จอมเจ้าเล่ห์
“แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ ข้าวจะทำให้เขารักข้าว หลงข้าวเหมือนที่ข้าวรู้สึกกับเขา” ท่าทางมั่นใจของคนรุ่นลูกสร้างความกังวลแก่ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยอาบน้ำร้อนมาก่อนจึงรู้ดีว่าเป็นการยากที่แทนไทจะหันมารักตอบ ในเมื่อข่าววงสังคมพูดกันว่าชายหนุ่มกำลังคบหากับลูกสาวนายธนาคาร
แต่ไม่กล้าพูดตัดกำลังใจเพราะดูเหมือนบุณณดาจะตั้งความหวังเอาไว้สูงมาก พูดคุยกันอีกสักพักหล่อนก็กลับไปบ้านทรัพย์พูนทวี แล้วลงครัวจัดอาหารเพื่อสุขภาพให้เจ้าของบ้าน ต้องสร้างความประทับใจเพื่อให้เขาหลงใหล
มันไม่ยากเกินไปสำหรับเธอหรอกใบข้าว...
ปลอบใจตนเองอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มกำลังรับประทานอาหารอยู่กับครอบครัวผกายฤทธิ์ซึ่งพูดคุยเรื่องธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อเขาเดินมาหน้าบ้านเพราะกำลังจะกลับธัญพิชชาก็เดินมาส่งถึงรถพร้อมจุมพิตที่แก้มสากเป็นการบอกราตรีสวัสดิ์
“ได้ข่าวว่าเลี้ยงเด็กไว้เหรอคะ” ถามตามข่าวลือที่ได้ยินซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าไม่ปิดบัง
“ใช่ คุณมีปัญหาหรือเปล่า” ใบหน้าสวยส่ายไปมาพลางอมยิ้มเล็กน้อยค่อยเข้าไปกอดแขนชายหนุ่มที่ยังไม่มีสถานะให้กันชัดเจน
ก็แค่คู่นอนที่เรียกหาได้ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่างเสียแล้ว
“ไม่ค่ะ ถ้าคุณแค่เล่นๆ หยาดก็ไม่ว่าอะไร” เพราะถึงอย่างไรอนาคตอันใกล้ตำแหน่งคุณผู้หญิงของบริษัทในเครือ The area group ก็ต้องเป็นหล่อนอยู่ดี
ถึงจะทำเป็นเหมือนไม่สนใจแต่ใครจะรู้ว่าเธอนั้นชอบเขามากแค่ไหน รู้ว่าแทนไทไม่ชอบผู้หญิงที่แสดงความเป็นเจ้าของถึงยื่นสถานะคู่นอนให้กับเขา ทำเป็นไม่สนใจและเว้นระยะห่างพอประมาณ เพียงเท่านี้ก็ได้อยู่ในจุดที่เหนือกว่าคนอื่นแล้ว
อีกทั้งบิดายังสนับสนุนบุตรสาวเต็มที่ จะไม่มีใครมาขวางทางหล่อนได้และแทนไทก็ต้องเลือกผู้หญิงที่คู่ควรกับเขามากที่สุดอย่างเธอ
“แล้วเจอกันวันงานแฟชั่นโชว์นะคะ” ร่างสูงพยักหน้าก่อนเข้าไปภายในรถแล้วขับออกไปจากบ้านหลังโตโดยมีสายตาหวานมองตามกระทั่งพาหนะหายลับไป รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มริมฝีปากค่อยเดินเข้าบ้านพร้อมเปิดรูปของผู้หญิงที่เป็นเด็กเลี้ยง
นี่มันผู้ช่วยเลขาแทนไทไม่ใช่เหรอ...
หล่อนหุบยิ้มทันทีพร้อมจ้องรูปนั้นด้วยดวงตามาดร้าย คิดจะมาแย่งผู้ชายคนเดียวกับเธอต้องเจอสั่งสอนเสียหน่อยว่าอยู่คนละชั้น และเป็นได้อย่างมากก็แค่นางบำเรอ
บุณณดากลับไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อปรึกษาอาจารย์เกี่ยวกับหัวข้อธีสิส ค่อนข้างเครียดเพราะเรื่องที่ทำต้องค้นคว้าข้อมูลเยอะแต่มันช่างหายากเสียเหลือเกิน ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงถึงได้เรื่องพร้อมทั้งขอบคุณอาจารย์ยกใหญ่ก่อนจะกลับบ้านที่ตนเองอาศัยมาได้ระยะหนึ่ง
แต่ระหว่างทางก็พบเพื่อนต่างคณะที่หล่อนเคยไปช่วยงานละครเวทีหลายครั้ง “ตายแล้วใบข้าว เจอตัวพอดีเลย” กระวีกระวาดเข้ามาหาพร้อมส่งเสียงร้องด้วยความยินดีจนร่างบางตกใจไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมด้วยการล็อคแขนจากชายใจสาวร่างถึกทั้งสองคน
“แกต้องช่วยฉัน” ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ถูกขอร้องน้ำเสียงจริงจังจนคนตรงกลางหันซ้ายทีหันขวาทีเริ่มกังวลอนาคตของตนเองเสียแล้ว
“ช่วยอะไร ขนาดฉันยังจะเอาตัวเองไม่รอด” แค่เรื่องธีสิสจบของตนเองยังนั่งกุมขมับเสียหลายวันแล้วจะมีหน้าไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร
“แกช่วยได้ เถอะนะเพื่อน ถ้าไม่ใช่แกก็หาใครไม่เหมาะอีกแล้ว ได้โปรด...นะแม่นางฟ้าคนงาม” อวยจนบุณณดาต้องถอนหายใจเสียงดังพลางตอบรับอย่างเสียไม่ได้ นำมาซึ่งความดีใจแก่สาวประเภทสองจนส่งเสียงดังก้องบริเวณ
และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนแก่หล่อนจนต้องนอนหลับด้วยใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาไปหลายวัน
ประธานบริษัทในเครือ The area group เดินเข้ามาภายในคลับดังย่านสีลมของเพื่อนสนิท วันนี้พวกเขานัดรวมตัวกันเพื่อผ่อนคลายจากการทำงานอันแสนเคร่งเครียด ใครว่าเป็นผู้บริหารแล้วจะสบายกลับยิ่งหนักเหมือนแบกปัญหาไว้บนบ่าตลอดเวลา ทั้งยังต้องรับผิดชอบชีวิตของพนักงานเกือบพันเอาไว้ กดดันเกี่ยวกับผลกำไร คิดตลอดเวลาจะทำอย่างไรไม่ให้ขาดทุน
มันค่อนข้างดูดพลังงานไปมากพอสมควรจนต้องมาคลายเครียดเสียหน่อย แต่ดูเหมือนหนุ่มใหญ่จะสนใจแต่โทรศัพท์เพราะเด็กที่บ้านบอกว่าบุณณดายังไม่กลับทั้งที่ควรออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
สัปดาห์นี้หล่อนขอลางานเพราะต้องเร่งทำธีสิสกลัวไม่เสร็จตามกำหนด และเขาก็ใจดีอนุญาตโดยไม่ได้ถามมากกว่านั้น นิสัยของใบข้าวไม่ใช่คนโกหก อีกอย่างคือหล่อนโกหกไม่เก่งมักจะถูกจับได้เสมอ แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะหลอก ดูจากที่ช่วงกลางคืนหลังเสร็จกิจกรรมเข้าจังหวะบางครั้งร่างบางก็ไปนั่งพิมพ์งานจนเขาเริ่มสงสารถึงได้เว้นจากการแตะเนื้อต้องตัวหล่อน
“ไม่น่าเชื่อว่าผู้บริหารใหญ่จะมาได้” คนที่นั่งอยู่โซนวีไอพีเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนซึ่งมาใหม่พลางพยักหน้าทักทาย
พวกเขารู้จักกันหลังจากไปเรียนบริหารที่ต่างประเทศ ด้วยความที่อายุใกล้เคียงกันทำให้คุยง่ายขึ้นจนกลับมาเมืองไทยก็ติดต่อเรื่อยมา หากว่างมักจะนัดสังสรรค์หรือไปตีกอล์ฟเสมอ แต่ดูเหมือนแทนไทจะไม่ค่อยได้ร่วมกลุ่มสักเท่าไหร่ พอเห็นมาวันนี้ถึงค่อนข้างผิดคาด
“ให้มันได้พักบ้างเถอะ ฉันเห็นทำงานทุกวันจนไม่ได้หยุด” ณัทเอ่ยขึ้น เขาเป็นเจ้าของกิจการนำเข้าอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของประเทศ รับช่วงต่อจากที่บ้านซึ่งความจริงไม่ค่อยชอบงานด้านนี้เท่าไหร่นัก
“นั่นสิ ถึงเงินมันจะสำคัญแต่อายุเท่าเราสุขภาพก็สำคัญเหมือนกันนะเพื่อน ผ่อนคลายบ้าง” เตือนด้วยความหวังดี
“หาสาวสักคนมาเป็นแม่ของลูกก็ดี ในกลุ่มเราเหลือนายคนเดียวที่ไม่มีแฟน” เป็นเรื่องจริงที่แทนไทไม่ได้เปิดตัวว่ากำลังคบหากับใคร แต่ดูจากข่าวเม้าแล้วคงไม่พ้นลูกสาวเจ้าสัวใหญ่ที่ครอบครัวแสนร่ำรวย อาจจะไม่มีการรันตีแต่ภาพและความสนิทสนมก็ฟ้องทุกอย่าง
“ฉันไม่รีบ” ค่อยเป็นค่อยไปนั่นคือนิยามของชายหนุ่มจนคนที่เหลือต่างโห่ร้องด้วยความขัดใจ เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมแอลกอฮอล์ที่มาเสิร์ฟไม่ขาด บางคนเรียกสาวสวยมาบริการถึงที่ โดยเฉพาะแทนไทที่เพื่อนจัดให้พิเศษถูกสาวหน้าตาดีขนาบทั้งสองข้าง
เขาไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน การมาพักผ่อนแล้วมีหญิงสาวคอยบีบนวดและรินเหล้าให้ก็สะดวกสบายดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ทำไมจึงเอาแต่คิดถึงผู้หญิงอีกคนอยู่ได้ หน้าของใบข้าวลอยวนเวียนจนต้องยกโทรศัพท์ขึ้นถามแม่บ้านว่าหล่อนกลับมาหรือยัง
และคำตอบก็ไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไหร่
ใบข้าวยังไม่ถึงบ้าน..
“เฮ้ย ผู้หญิงคนนั้นแจ่มว่ะ” มองไปบนเวทีซึ่งขณะนี้มีโพลแดนซ์คือการเต้นบนเสาที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายค่อนข้างมาก อีกทั้งท่าทางและแววตาต้องสื่อออกมาให้ดูยั่วยวนแต่คงความแกร่งเอาไว้ซึ่งค่อนข้างยาก
ทุกความสนใจพุ่งไปตรงเวทีทำให้แทนไทที่อยู่ในอารมณ์โมโหต้องมองตามก่อนจะพบว่าคนที่กำลังวาดลวดลายสุดเซ็กซี่ช่างแสนคุ้นตาเหลือเกิน อาจเพราะไฟค่อนข้างมืดหรือใบหน้าหล่อนมีผ้าปิดตั้งแต่จมูกลงมาทำให้ไม่รู้ว่าสวยมากเพียงใด
แต่ก็ต้องยอมรับว่าหุ่นดีพอสมควรเมื่อสวมเสื้อสายเดี่ยวรัดรูปสีขาวกับกระโปรงพลิ้วสีเข้าชุดและรองเท้าส้นสูงจนทำให้หล่อนดูปราดเปรียวสะกดทุกสายตา
“เสียดายไอ้ปาณไม่ได้มา เห็นว่าต้องบินไปคุยงานที่เยอรมัน” เพื่อนคุยอะไรกันเขาไม่รับรู้เพราะสายตาถูกหญิงสาวบนเวทีสะกดเสียแล้ว
เหมือนหลงใหลและติดอยู่ในโลกที่หล่อนสร้างเพื่อดึงเขาเข้าไปอยู่ในนั้นจนเพื่อนที่เห็นต่างชวนกันมองผู้บริหารใหญ่ ยักคิ้วลิ่วตาให้กันเหมือนคิดแผนเด็ดได้ เมื่อเพลงจบพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นเดินลงจากเวทีดวงตาคมก็ยังมองหล่อนจนลับสายตา
ทำไมคุ้นเคยเหมือนเคยเจอขนาดนี้...
“ชอบเหรอ” ณัทเอ่ยถามเพื่อนที่ยังตกอยู่ในภวังค์ทำเอาชายหนุ่มหันมามอง
“อะไร”
“ก็ผู้หญิงที่เต้นรูดเสาไง นายชอบเธอใช่ไหม” แทนไทหยิบแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อยไม่ปฏิเสธคำถามนั้น
“ก็เซ็กซี่ดี” ผู้หญิงส่วนมากที่ชายหนุ่มชอบมักจะเป็นคนที่เจนจัดในเรื่องบนเตียง หรือไม่ก็เซ็กซี่มีแววตาเหมือนนักล่าเพราะการที่เขาสามารถสยบพยศของพวกเธอได้นั้นมันแสนจะน่าภาคภูมิใจ
ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งรู้ว่าหญิงสาวอินโนเซ้นก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน รู้สึกภูมิใจมากแค่ไหนที่ได้เป็นครูสอนหล่อนให้รู้จักความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง และศิษย์ก็เรียนรู้ได้เร็วจนคิดจะล้างครูเสียแล้วเพราะขึ้นขย่มจนเขาคลั่งเจียนตาย
บุณณดาไม่ธรรมดาจริงๆ
“สวัสดีค่ะ ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” สองสาวที่เคยขนาบข้างแทนไทลุกหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยคนมาใหม่ซึ่งเสียงคุ้นเหลือเกิน กระทั่งร่างสูงหันไปมองใบหน้าหวานที่มีผ้าปกปิดเช่นเดิมทว่าดวงตากลมโตซึ่งเบิกกว้างขึ้น
เขาจำได้ในทันทีว่าเธอเป็นใคร
“คุณแทน” ครางเสียงแผ่วเมื่อเห็นหน้าคนที่เรียกหล่อนมา และมือหนาก็คว้าที่ข้อมือเล็กพลางดึงให้นั่งลงข้างกันจนเพื่อนที่กำลังมองด้วยความสนใจต่างส่งเสียงแซว
“เบาหน่อยครับเพื่อน น้องเขาช้ำหมดแล้ว” โห่แซวทั้งที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ดวงหน้าสวยซีดเผือดมากเพียงใด
“ทำไมมาอยู่ที่นี่” กระซิบให้ได้ยินเพียงสองคนทำเอาหญิงสาวลอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก
อันที่จริงตอนนี้กำลังช่วยเพื่อนคณะนิเทศศาสตร์ทำโปรเจคจบนั่นคือสร้างเรื่องสั้นตามติดชีวิตสาวโพลแดนซ์ แต่เพราะไม่มีใครยอมให้ตามติดชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นสร้างหนังสั้นโดยมีนางเอกทำอาชีพนี้ ถ่ายครบหมดทุกฉากแล้วเหลือเพียงฉากเริ่มที่หล่อนต้องมาเต้นพร้อมทั้งเดินเข้าไปรับแขกโดยปิดบังใบหน้าเอาไว้
แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแขกเหล่านั้นจะกลายเป็นหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังของประเทศ ที่สำคัญคือแทนไทก็อยู่ด้วย!
ไหนบอกว่าต้องทำงานกลับดึก แล้วโผล่มาที่คลับแห่งนี้ได้อย่างไร หล่อนอดน้อยใจเขาไม่ได้ที่อีกฝ่ายยังหาเศษหาเลยกับคนอื่น
เขาไม่ได้มีเพียงแค่หล่อน..
“มารับแขกหารายได้พิเศษมั้งคะ” ประชดกลับเช่นเดียวกันไม่ยอมตกอยู่ในสถานะเบี้ยล่าง และคำตอบนั้นก็ทำให้เขาโมโหถึงกับบีบแขนเล็ก
“เด็กคนนี้บอกว่าอยากหารายได้พิเศษ พวกนายสนใจไหม” หันไปถามเพื่อนทั้งที่ยังจับแขนเล็กเอาไว้แน่น บางคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ส่งเสียงตอบรับรวดเร็วเพราะถูกใจในรูปร่างและความขาวผ่องที่แม้แต่ในความมืดยังส่องสว่างได้ขนาดนี้
“ฉันสนๆ มาบริการพี่หน่อยได้ไหมน้องสาว” แทนไทไม่พูดอะไรกลับผลักร่างบางออกห่างตนเองทันทีพร้อมมองนิ่งราวกับจะท้าทายว่าหล่อนจะกล้าทำอย่างที่พูดว่าต้องการหารายได้พิเศษหรือเปล่า
ทั้งอยากทดสอบใจตัวเองเช่นกันว่าจะสามารถมองหญิงสาวอยู่กับผู้ชายคนอื่นได้หรือไม่ ทำให้ดวงตาคมจ้องเธอไม่ไหวติง
ในขณะที่บุณณดาแทบจะร้องไห้ หล่อนเหลียวมองเพื่อนคาดว่ากำลังตั้งกล้องแอบถ่ายอยู่ภายในร้านทำให้เหมือนกำลังตามติดชีวิตจริงๆ จึงไม่กล้าเล่นนอกบท ร่างบางตัวสั่นยามมือหนาของคนไม่คุ้นเคยโอบเอวตนเองเอาไว้พร้อมฉุดให้มานั่งข้างๆ
“เปิดหน้าให้พี่ดูหน่อยสิ อยากชมความสวย” ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันแน่นพยายามไม่พูดอะไรออกไปเพราะกลัวตนเองจะร้องไห้ที่โดนแทนไทผลักไส
เขาไม่แม้แต่จะเข้ามาช่วยทั้งยังมองด้วยแววตาเรียบนิ่ง ทำให้รู้แล้วว่าเวลาที่ผ่านมาถึงจะปรนนิบัติดีแค่ไหนอีกฝ่ายก็ตั้งให้อยู่ในสถานะนางบำเรอเท่านั้น
เธอคิดเองเออเองเพียงคนเดียวว่าจะทำให้เขารัก เพิ่งมากระจ่างก็วันนี้ว่ามันไม่ได้ผลก็เมื่อเห็นว่าแทนไทไม่สนใจตนทั้งยังยกให้เพื่อนได้ง่ายดาย
หล่อนเป็นคนไม่ใช่สิ่งของ!
“ขอดูด้วยได้ไหม ผิวขาวขนาดนี้ตอนเกิดกินโอโม่เหรอจ๊ะ” อีกคนมาขนาบข้างพลางหยอกล้ออย่างสนุกสนาน จนในที่สุดคนทนไม่ไหวคือแทนไทซึ่งลุกขึ้นเดินดุ่มๆ มาคว้าข้อมือเล็กพลางฉุดให้ลุกขึ้นยืนแล้วลากออกไปไม่ล่ำลาเพื่อนสักคำ
ขณะที่สาวประเภทสองเพื่อนของใบข้าววิ่งกระหืดกระหอบตามหลังก็ไม่ทันเพราะทั้งสองออกจากคลับไปแล้ว
“ข้าวไปไหนวะ แกลองโทรหาหน่อยได้ไหม” เมื่อสักครู่ทางร้านเพิ่งมาบอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายทำเพราะมีนักธุรกิจมาเที่ยวเยอะกลัวว่าจะติดใบหน้าไปด้วยจึงอยากให้มาถ่ายทำวันหลัง ตอนแรกก็ไม่ได้บอกบุณณดาคิดว่าจะเข้าไปไม่นาน
แต่พอออกมาพบว่าเพื่อนไม่อยู่แล้ว พอจะตามก็เห็นเพียงหลังไวๆ เป็นห่วงจนต้องโทรตามกันจ้าละหวั่นกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับอีกฝ่าย
ขณะที่ร่างบางก็ได้แต่เดินตามแรงจูงกระทั่งมาถึงรถยนต์แล้วร่างสูงจับยัดเข้าไปไม่ออมแรงสักนิดทำเอาศีรษะเล็กโขกกับโครงรถจนต้องโอดครวญเสียงดัง ชายหนุ่มไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บมากแค่ไหนกลับอ้อมไปอีกฝั่งแล้วเคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วตามแรงอารมณ์ในตอนนี้
เขาโกรธมากที่เห็นผู้หญิงของตนเองมาอยู่ในสถานเริงรมย์ทั้งที่บอกว่าจะทำธีสิสจบ ดวงหน้าคมเคร่งขรึมทำเอาบรรยากาศรอบห้องโดยสารขมุกขมัว ไม่ต่างกับบุณณดาซึ่งไม่อยากพูดกับชายหนุ่มแม้แต่คำเดียว
เครื่องยนต์ทะยานไปข้างหน้าปาดซ้ายแซงขวาอย่างน่ากลัวแต่คนข้างกายก็ไม่ร้องหรือห้ามสักคำ พวกเขาเมินใส่กันกระทั่งรถมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่และประตูรั้วเปิดออกอัตโนมัติ ขึ้นเนินมาหยุดที่ชั้นสองก่อนคนขับกิตติมศักดิ์จะเปิดประตูและปิดลงเสียงดัง
ใบข้าวลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านแต่ก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ “จะไปไหน” ถามเสียงขรึมด้วยอารมณ์โกรธยังไม่จางหายยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีสลด
“กลับห้องค่ะ” ว่าเสียงเรียบเหมือนไม่ยินดียินร้ายทั้งที่ดวงตาแดงก่ำปริ่มน้ำใกล้จะร้องไห้เต็มที
“ใครอนุญาต” กล่าวเสียงดังจนแม่บ้านที่รอคอยคุณผู้ชายเริ่มพากันกลับที่พักของตนซึ่งอยู่หลังบ้านใหญ่ ค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจนปล่อยให้สองหนุ่มสาวได้ปะทะฝีปากกันตามลำพัง
“ข้าวอนุญาตตัวเอง” จ้องเขาตอบก่อนน้ำตาจะไหลจนต้องรีบปาดมันออก เสียใจที่ชายหนุ่มเห็นตนเป็นเพียงของเล่นไร้ค่าไม่มีราคา ทั้งยังโยนให้คนอื่นหน้าตาเฉยทำเหมือนว่าไม่แคร์กันเลยสักนิด จะไม่ให้เสียใจอย่างไรไหว
“แต่ฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอ อย่าลืมว่าพ่อเธอติดหนี้ฉันอยู่ยี่สิบล้าน เอาเธอมาขัดดอกก็ยังไม่คุ้มทุนเลย” คิดตามประสานักธุรกิจแต่คนฟังสะท้านไปทั้งอกเพราะเขาเอาหล่อนไปตีราคาเป็นค่าเงิน เหมือนซื้อของตามตลาด
เม้มปากแน่นทั้งยังต้องเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่รู้เวล่ำเวลา หัวใจมันบีบรัดไปทั่วอกจนเจ็บไปหมด ร่างกายชาเหมือนถูกน้ำแข็งสาดเข้าโครมใหญ่ขณะที่จ้องดวงตาคมนิ่ง ผิดหวังในตัวผู้ชายคนนี้จนพูดไม่ออก
“คุณมันเลวที่สุด” หายใจเข้าแล้วผรุสวาทใส่ชายหนุ่มหวังให้อารมณ์ที่อัดแน่นได้ผ่อนลงบ้าง และคำพูดนั่นก็เหมือนไปกระตุ้นด้านมืดในจิตใจของร่างสูง
“พ่อเธอต่างหากที่มันเลว!”
แววตาของหล่อนที่จ้องมองกันอย่างกล่าวโทษจนต้องโยนความผิดทุกอย่างไปให้บัลลพ ถ้ามันไม่ทำเรื่องไว้ในอดีตเขาก็ไม่ตามแก้แค้นแบบนี้หรอก
หากจะหาคนผิดก็ต้องเป็นพ่อของเธอ ไม่ใช่เขา!
“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้คุณไม่เหมือนคุณแทนที่ข้าวเคยรู้จักสักนิด อะไรที่ทำให้คุณเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จิตใจคนเรามันจะต่ำช้าได้ขนาดนี้เลยเหรอ ข้าวเป็นเมียคุณนะทำไมถึงกล้ายกข้าวให้คนอื่น ฮึก คุณ..” พูดไม่ออกเพราะความเสียใจจุกอก และแทนไทก็ไม่รอฟังคำก่นด่าจากหล่อนอีก ชายหนุ่มจูงกึ่งลากร่างบางขึ้นไปบนห้องนอนของตนเอง
เธอพยายามต้านแรงแต่ไม่สามารถทำได้ จนชายหนุ่มปิดประตูเสียงดังแล้วโยนเธอไปไว้บนเตียงซึ่งอยู่กลางห้อง
“วันนี้ลองบริการฉันอีกสิ แล้วจะให้ทิปตามที่ขอ”
“ถ้าข้าวขอหนึ่งล้าน คุณแทนจะให้ได้ไหม” แสยะยิ้มทันทีเมื่อได้ฟังความต้องการของหล่อน
“เธอคงต้องทำทั้งวันทั้งคืน รีดน้ำออกจากตัวฉันจนกว่ามันจะหมดแล้วล่ะ” นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะยืนขึ้นบนเตียงกว้างแล้วถอดเสื้อของตนเองออกทันทีพร้อมทั้งน้ำตาซึ่งไหลรินลงมาต้องปาดมันออกทำให้หน้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเปื้อน
ไม่รู้ว่าผ้าที่คลุมหน้าหล่อนออกตอนไหนอาจจะเป็นช่วงที่กำลังจะขึ้นรถและมือของชายหนุ่มกระชากออกก็เป็นได้ หล่อนอยู่ในอาการตกใจจึงไม่สามารถจดจำรายละเอียดต่างๆ เท่าที่ควร
“ข้าวจะทำค่ะ” ท่อนบนเปลือยเปล่าเมื่อปลดชุดชั้นในออก แสงสว่างไม่ได้ทำให้รู้สึกอับอายอีกต่อไปแล้วเมื่อเหตุการณ์กำลังบีบบังคับให้เธอต้องยอมผู้ชายคนนี้
ทำทุกอย่างให้เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
ไม่รักก็ได้ขอแค่ไม่โยนหล่อนไปให้คนอื่นก็พอ..
แทนไทมองอย่างพึงพอใจก่อนจะกระโจนเข้าไปขย้ำเหยื่อที่ยินยอมพร้อมใจเป็นของเขาโดยไม่ขัดขืน คราแรกเป็นการลงโทษที่หล่อนบังอาจโกหก ครั้งที่สองทำให้หล่อนหลาบจำว่าไม่ควรพูดจาแบบนี้กับเขาอีก และครั้งสุดท้ายใส่แรงไม่ยั้งเพื่อให้บุณณดาไม่กล้าขัดคำสั่งที่เปรียบเสมือนประกาศิตของตน
จำไม่ได้ว่าหลับไปตอนไหน แต่ตื่นขึ้นมาก็เห็นเช็คเงินสดมูลค่าสองหมื่นบาทวางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้ว
แค่นยิ้มสมเพชตัวเอง หล่อนเป็นได้แค่ผู้หญิงบริการสำหรับเขาอย่างเต็มตัวแล้วสินะ
ซุกใบหน้าลงบนหมอนปล่อยให้น้ำตามันไหลรินไม่ยอมเช็ด อยากให้น้ำสีใสชะล้างความเจ็บปวดภายในหัวใจออกไปบ้าง
แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งร้องก็ยิ่งปวดมากกว่าเดิม หัวใจบีบรัดจนหายใจไม่ออก
ความรักมันทรมานแบบนี้เอง แล้วทำไมใครๆ ถึงอยากมีมันล่ะ..
๘คนที่คู่ควร หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอรวรามักจะหลบหน้าเพื่อนเสมอและดูเหมือนเปมทัตก็ไม่ได้มาตามหรือตื้อจะคุยเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาคงไม่รู้เพราะเมาจนเห็นหล่อนเป็นบุณณดา นึกถึงก็ยิ่งเจ็บจนต้องสะบัดศีรษะไล่ความกังวลนั้นออกไป ช่วงนี้ต้องทำธีสิสจบจึงพยายามพุ่งความสนใจไปยังงานของตนเอง ช่วงเที่ยงก็ห่ออาหารมากินด้วยทำให้คลุกอยู่แต่แผนกของตนไม่ยอมออกไปหาร่างสูงที่แวะเวียนมาถามไถ่แต่กลับได้เพียงคำปฏิเสธ และคนใจร้อนก็ไม่ได้โวยวายแค่พยักหน้าเข้าใจ จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นใบข้าวเขาจะตื้อหรือเปล่า สับสนกับความคิดของตนเองที่ดูเหมือนจะปล่อยวางแต่ก็ยังคิดเพียงเรื่องของชายที่ตนหมายปอง “หนูอรไม่กลับเหรอ” ถึงเวลาเลิกงานก็ยังนั่งแช่ที่เดิมทั้งที่ไม่มีอะไรให้ทำ หล่อนสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วรีบเก็บข้าวของตามรุ่นพี่ออกไปรอลิฟต์ ไม่รู้ว่าสวรรค์ต้องการกลั่นแกล้งหรือเปล่าทำให้เมื่อประตูเปิดออกก็เห็นคนที่ตนกำลังหลบหน้ายืนอยู่ในนั้น ขาเรียวก้าวถอยหลังจะไม่เข้าไปแต่พอดีสบตากับชายหนุ่มก่อน ถ้าวิ่งหนีตอนนี้คงได้โดนตามไล่
๙หมากในเกมถึงจะพยายามข่มตาให้หลับก็ไม่อาจทำดังใจปรารถนาได้เพราะมัวแต่พะวงถึงใครอีกคนซึ่งยังไม่กลับบ้านสักที ร่างบางผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดม่านดูประตูรั้วกลับเงียบสนิทเหมือนเดิม เม้มปากแน่นเมื่อคิดว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กับธัญพิชชาถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งที่เตียงกว้างหยิบโทรศัพท์มาเปิดเพลงคลอเสียงเบากล่อมให้ง่วง สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มแล้วหลับตาเหมือนที่ทำมาเกือบค่อนคืน ดวงตาที่แดงช้ำเริ่มกลับมาเป็นปกติหลังจากประคบเย็นอยู่นานมองนาฬิกาดิจิตอลซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงพบว่าเป็นเวลาตีสอง ดวงตาปริ่มน้ำเจียนจะไหลแต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ กล่อมตัวเองให้หลับกระทั่งเริ่มเคลิ้มก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาภายในบ้านรีบสะดุ้งผุดลุกนั่งอย่างรวดเร็วริมฝีปากยิ้มโดยอัตโนมัติทั้งที่ไม่เข้าใจตนเองเช่นเดียวกัน เขาทำกับเธอถึงขนาดนี้ยังหลงรักเหมือนผู้หญิงหน้าโง่จมปลักกับผู้ชายเพียงคนเดียวอีกเหรอเมื่อรู้เวลากลับถึงบ้านของแทนไทก็โล่งอกเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสบายอุรา พยายามไม่คิดว่าทำไมเขาถึงกลับบ้านเอาป่านนี้เพราะรู้เหตุผลอยู่แล้วว่าคงสนุกสนานกับคนที่คู่ควรอย่างลูกสาวเจ้าสัวธนาคารชื่อดังเธอมันก็เป็นได้แค่ตั
๑๐ความแตก ก่อนงานวันเกิดหม่อมหลวงพินทุอรหลานสาวสุดที่รักอย่างธัญพิชชาก็เกณฑ์คนให้มาช่วยงานซึ่งจัดอยู่โรงแรมในเครือ The area hotel ห้องแกรนด์บอลรูมเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่จุคนได้เกือบพันถูกจับจองเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดังเนรมิตให้เหมือนเอาสวนมาไว้ในห้อง มีฉากดอกไม้ น้ำตกจนต้องจ้างนักจัดสวนมาโดยเฉพาะ ร่างบางกำลังยุ่งในการตรวจงานจึงไม่ทันสังเกตเห็นคนที่เข้ามาใหม่ซึ่งมีท่าทางเก้กังไม่รู้ว่าตนเองต้องทำอะไร บุณณดาไม่อยากมาแต่ไม่อาจคัดคำสั่งของเจ้านายได้ ตื่นเช้ามารับประทานอาหารพร้อมกับที่เขาบอกให้ไปช่วยธัญพิชชาจัดงานวันเกิดหม่อมหลวงที่หล่อนไม่รู้จัก ถึงอยากขัดแต่สิ่งที่ทำได้คือการตอบรับแล้วขับรถยนต์ของชายหนุ่มมายังบริเวณงาน ทุกอย่างแปลกตาไปหมด กระทั่งแม่งานอย่างดีไซเนอร์สาวหันมาพบหล่อนจึงเดินยิ้มเข้าทักทาย “อ้าวมาแล้วเหรอ พอดีเลยกำลังอยากได้คนช่วยงาน” อีกฝ่ายจับมือถือแขนอย่างสนิทสนมพร้อมยิ้มรับด้วยไมตรีจิตจนเธอรู้สึกผิดที่คิดเข้ามาแทรกกลางระหว่างหญิงสาวกับแทนไท แต่ก็ไม่อาจหันหลังกลับได้เพราะเดินมาไกลเกินจะย้อน
๑๑ความแตก บุณณดาตื่นก่อนถึงจะนอนทีหลังจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำชำระกายค่อยเลือกชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขายาวมาสวมทับ มัดผมหางม้าอย่างลวกๆ ค่อยเติมหน้าพอให้มีสีสันไม่จืดชืดจนเกินไปเพื่อมัดใจเจ้าของบ้าน เธอยังไม่ยอมแพ้เรื่องแผนที่จะทำให้เขารัก ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนก็ถือว่าเธอยังมีสิทธิ์ คิดปลุกปลอบใจตนเองแล้วเดินออกจากห้องพยายามเมินเงินค่าตัวราคาห้าพันซึ่งเขาเพิ่มให้เพราะถูกใจในลีลาที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ ของหล่อน หันไปมองชายหนุ่มที่นอนหลับบนเตียงของตนเองคงเพราะเหนื่อยจากงานถึงไม่กลับไปนอนห้องประจำ อมยิ้มเล็กน้อยเพราะปกติถึงจะอยู่ด้วยกันดึกแค่ไหนร่างสูงก็มักจะกลับไปนอนห้องปล่อยให้เธอกอดตัวเองร้องไห้เพียงลำพัง มันเป็นสัญญาณที่ดีระหว่างความสัมพันธ์ของเราหรือเปล่านะ... คิดแล้วก็ยิ้มมากกว่าเดิมแล้วออกไปข้างนอกเพื่อช่วยเหล่าแม่บ้านเตรียมอาหาร แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นโต๊ะเต็มไปด้วยมื้อเช้าจนรีบเดินลงไปเพื่อสอบถามว่าเหตุใดถึงตั้งโต๊ะเช้ากว่าปกติ ทว่าเมื่อเห็นแม่ครัวจำเป็นคำถามที่เกิดขึ้นก็
๑๒เธอจากไปตลอดกาล บุณณดาไปโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์เพียงลำพังเพราะพ่อของเด็กไม่ว่าง มีคนขับรถรออยู่ข้างนอก ทำให้เป็นการดีที่จะนัดใครสักคนมาพูดคุยและปรึกษาปัญหาชีวิต ซึ่งคนคนนั้นคือเพื่อนสนิทที่อยู่ไทยเพียงคนเดียวของหล่อน ...เปมทัต เมื่อทำธุระเรียบร้อยจึงโทรหาอีกฝ่ายโดยนัดพบกันยังแผนกเด็ก หลบเลี่ยงสายตาของผู้คนใช้เด็กที่วิ่งไปมาและส่งเสียงดังเป็นกันชน รอสักพักก็เห็นลูกชายเจ้าของโรงแรมที่เดี๋ยวนี้ใส่สูทผูกเนกไทจนกลายเป็นผู้บริหารไปเสียแล้ว อดชื่นชมไม่ได้จนอยากให้อรวราเห็นเหมือนกับหล่อนว่าเพื่อนคนนี้เปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอได้รับรูปจากคนที่อยู่โอ๊คแลนด์ว่าคลอดลูกสาวออกมาแล้ว โดยบิดามารดาไม่รู้เพราะคุณน้าช่วยปิดเอาไว้ แต่ก็คิดว่าจะปิดได้อีกนานแค่ไหน เดี๋ยวเรื่องก็แดงขึ้นจนเข้าหูชายหนุ่มเหมือนเดิม ร่างสูงนั่งลงข้างหล่อนพลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ เสร็จจากประชุมก็วิ่งมาทันทีกลัวว่าเพื่อนจะรอนานและอีกอย่างคือเขามีงานอื่นต้องไปทำหลังจากพูดคุยกับบุณณดาเสร็จ “มีอะไรหรือเปล่าเรียกเราออกมาคุยที่นี่ คนของข้าวไม่ว่าหรื
๑๓เหนือตะวันสถานที่ซึ่งชายหนุ่มไม่อยากมาแต่จำต้องเหยียบเข้าภายในวัดที่มีรูปใบหน้าของหญิงสาวที่เขากกกอดอยู่ทุกคืนตั้งเอาไว้ หลบวูบเมื่อสบเข้ากับภาพของหล่อน ไม่อยากเชื่อว่าบุณณดาได้จากเขาไปตลอดกาล ทิ้งเอาไว้เพียงร่องรอยที่ทำให้คนอยู่เจ็บปวดทุกครั้งยามได้มองเสื้อผ้าของเธอ สมุดโน้ต เครื่องใช้ในห้อง ภาพยามที่ร่างบางเดินวนเวียนอยู่ในบ้าน องค์ประกอบทุกอย่างของเธอทำให้แทนไทจมปลักอยู่ในอดีต กระทั่งรับรู้ว่าต้องลุกเพื่อมาบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายขายาวก้าวไปยังบริเวณเมรุ มีเพื่อนร่วมคณะหลายคนเข้ามาไว้อาลัยในการจากไปอย่างกะทันหัน คนเป็นพ่อร้องไห้จนตาบวมก่อนที่จะหันมาเห็นแขกไม่ได้รับเชิญ บัลลพตรงเข้าไปหาหนุ่มนักบริหารอย่างรวดเร็วพลางชี้หน้าด่าเพราะไม่กล้าทำร้ายร่างกาย“มึงมาทำไมไอ้ฆาตกร มึงฆ่าลูกสาวกู” ยังไม่หยุดกล่าวหาทั้งที่รู้ว่าความจริงมันเป็นอุบัติเหตุและใบข้าวก็โชคร้ายที่เข้าไปอยู่ในรถคันนั้นพอดีไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหญิงสาวเป็นที่รักของคนรอบข้างด้วยความมีน้ำใจทั้งยังหน้าตาสะสวย อาจารย์มหาวิทยาลัยมาร่วมแสดงความอาลัยค่อนข้างเยอะเนื่องจากเธอคือศิษย์รักใบหน้าคมไม่ได้แสดงอาการใดออกมานอกจา
๑๔วันที่ฉันพบเธอ เจ้าของบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่กลับมาโหมงานหนักอีกครั้ง ห้างสรรพสินค้า The victory เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยทำให้ตอนนี้ต้องลุยงานใหญ่อย่าง Grand paradise ห้างใหญ่ใจกลางกรุงที่ระดมวิศวกรจำนวนมากเพื่อเสกให้ห้างแห่งนี้เสร็จตามกำหนดการณ์ และวิศวกรที่ได้รับเลือกให้ทำโครงการใหญ่คือวิจิตร จำกัด(มหาชน) ซึ่งกองทัพลงมาดูแลด้วยตัวเองพร้อมน้องชายอย่างนักรบเป็นหัวหน้าทีมวิศวกร พวกเขาต้องหามรุ่งหามค่ำประชุมดึกดื่นจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไหนจะต้องคุยเกี่ยวกับร้านค้าในแต่ละชั้นของห้างสรรพสินค้า มีลานน้ำพุใหญ่กลางห้างเนรมิตให้เหมือนสวน คัดสรรต้นไม้ทำให้เป็นหนึ่งเดียวกับอาคารเหมือนที่บ้านของตนเอง แทนไทเปิดรับเลขาอีกคนเพราะเพียงแค่นนทัชอาจจะหนักกับอีกฝ่ายมากเกินไป สิ่งที่ชายหนุ่มย้ำนักหนาคือต้องการเลขาผู้ชายเนื่องจากสะดวกในการเดินทาง อีกอย่างจะได้ไม่ตกเป็นข้อครหาของคนอื่นที่จ้องมองและพร้อมนำเรื่องซึ่งไม่สนใจว่าเป็นความจริงหรือไม่ไปพูดต่อ “ขอบคุณทุกคนมากครับ” เสร็จงานที่เวลาหกทุ่มทำให้ผู้ช่วยต่างแยกย้ายกลับบ้าน นนทัชลุกขึ้นเก็บเอ
๑๕เริ่มต้นใหม่เหมือนโดนตีหัวซ้ำหลายรอบจนมึนงง แต่เหนือสิ่งอื่นใดความรู้สึกที่เด่นชัดคือดีใจ เหมือนกับว่าได้รับโอกาสอีกครั้งเพื่อให้ได้แก้ตัวจากเรื่องเลวร้ายที่ตนเองกระทำต่อหญิงสาว ดวงตาคมจ้องสองแม่ลูกไม่วางแล้วค่อยยกยิ้มขึ้นแต้มริมฝีปากมือหนาถือโทรศัพท์เอาไว้เพื่อรับฟังเรื่องราวทุกอย่างจากผู้ร่วมแผนการ และเป็นคนคอยช่วยเหลือบุณณดากระทั่งหาที่พักให้หล่อนกับลูก ไม่ใช่ในฐานะคนแอบรัก แต่ทำเพราะใบข้าวคือเพื่อนสนิทจึงไม่อยากเห็นอีกฝ่ายตกระกำลำบาก‘ผมเป็นคนบอกข้าวให้เอารถไปติดแก๊สถึงจะมีข้ออ้างให้รถไหม้ทั้งคันได้อย่างรวดเร็ว’ อันที่จริงก็สงสัยว่ารถยนต์ของตนทุกคันไม่ได้ติดแก๊ส แล้วทำไมคันที่หล่อนขับถึงถังแก๊สแต่นนทัชมาบอกว่าหญิงสาวเอาไปทำเองเนื่องจากอยากประหยัดเงินค่าน้ำมันจึงไม่สงสัยและหาคำตอบเกี่ยวกับการตายที่มีช่องโหว่ ปล่อยให้มันผ่านไปและจมอยู่กับความรู้สึกผิด‘ทิ้งของทุกอย่างไว้บนนั้นและก่อนที่รถจะระเบิดก็ต้องรีบออกมาจากเบาะหลังเพื่อให้ไม่มีคนเห็น แผนการต่างๆ มันค่อนข้างเสี่ยงแต่ข้าวก็ยอม คุณรู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร’ ยกยิ้มทันทีเมื่อได้ฟังคำถาม ไม่ต้องคาดเดาเลยสักนิดเพราะทุกอย่างมันชัดเจ