ภาพสะท้อนในกระจกเงาแสดงให้เห็นถึงผู้หญิงร่างผอมเพรียวทว่ามีหน้าอกหน้าใจใหญ่คัพซี เอวคอดและสะโพกผาย หล่อนกำลังหยิบลิปสติกสีใหม่ขึ้นมาปาดริมฝีปาก ปลายนิ้วไล้เกลี่ยไปตามขอบปากให้ฟุ้งตามสมัยนิยม
“สีสวยว่ะแก” ใครสักคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยชม หล่อนคนนั้นยักคิ้ว ยื่นมันไปให้
“ลองไหม?”
“ไม่ละ ฉันทาสีแดงไม่เคยรอดสักที” เจ้าของลิปสติกยักไหล่แล้วเก็บมันลงกระเป๋าแบรนด์Cคอลเลกชันใหม่ หญิงสาวสำรวจใบหน้าและทรงผมของตนเองอีกครั้ง ก่อนเดินออกจากห้องน้ำ ตลอดทางมีสายตานับสิบคอยมองตลอด ด้วยความที่หล่อนเป็นผู้หญิงสวยและยังเป็นถึงดาวคณะอีกด้วย ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักและต้องการตีสนิทด้วย แต่ความหยิ่งยโสของคนสวยก็เลื่องชื่อไม่น้อย
‘ดลญา หรือ เดียร์’ หลานสาวอดีตผู้นำการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฐานะทางสังคมและการเงินเข้าขั้นเศรษฐี แบรนด์เนมทั้งตัว ขับซูเปอร์คาร์คันละสี่สิบล้านมาเรียนทุกวัน และคบค้าสมาคมเฉพาะเพื่อนระดับเดียวกันเท่านั้น ดลญาเดินพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนในกลุ่มไปจนถึงหน้าอาคารเรียน
“ขอโทษครับ” เสียงทุ้มเรียกความสนใจ หล่อนปรายตามองเล็กน้อย
“เอ่อ…พี่ชื่อแม๊กนะ อยู่บริหาร”
“ค่ะ” ใบหน้าของหญิงสาวยังเรียบเฉย มองผู้ชายร่างอวบตรงหน้าไร้ความรู้สึก เขาสวมแว่นและดูเจียมเนื้อเจียมตัว อาจเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ได้ดึงดูดสายตาใคร ๆ จึงทำให้เขามีท่าทางขวยเขิน ดลญาชินชากับสถานการณ์นี้ของบรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง หรือจะเป็นพวกผู้หญิงก็ด้วย รายนี้ก็คงเหมือนกัน ไม่ขอเบอร์ก็ขอช่องทางการติดต่ออะไรสักอย่าง ซึ่งหล่อน…
“ไม่ให้ค่ะ” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเอ่ยสิ่งที่ต้องการ สาวเจ้าก็โพล่งสิ่งที่อยู่ในใจขึ้นมาก่อน ผู้ชายคนนั้นหน้าเสีย ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีจากเหนียมอายเป็นบึ้งตึง ชายหนุ่มหายใจแรงขึ้นสาวเท้าเข้าหาร่างเพรียวจนเพื่อน ๆ ร้องลั่น
“นี่ไม่รู้ตัวหรือไงว่ากำลังตกกระป๋อง ยังคอเชิด หยิ่งอยู่ได้”
“พูดอะไร?” ประโยคนั้นเรียกให้หญิงสาวมีอารมณ์คุกรุ่นในอก ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เขาทำกิริยามารยาททรามกว่านั้นคือการถ่มน้ำลายลงพื้นที่ใกล้กับรองเท้าส้นสูงของดลญา ทุกคนในกลุ่มแตกฮือ กรีดร้องอย่างรังเกียจ
“มหา’ลัยเราควรคัดคนให้มากกว่านี้ปะวะ แม่ง!” หนึ่งในกลุ่มเอ่ยอย่างหัวเสีย มองตามร่างชายคนนั้นไปจนลับสายตา ดลญายังรู้สึกคุกรุ่นในใจ
“มันบอกว่าฉันตกกระป๋อง” ใคร ๆ ต่างรู้ว่าดลญาเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด หล่อนทั้งสวยจนได้เป็นดาวคณะ การเรียนเข้าขั้นเก่งกาจไม่พลาดเอสักวิชาตั้งแต่ปีการศึกษาที่หนึ่ง แต่ยามนี้ดลญาอยู่ปีสามแล้ว นั่นจึงมีรุ่นน้องผู้หญิงหลายคนขึ้นมาเทียบรัศมีได้เป็นจำนวนมาก ทว่า…ผู้หญิงพวกนั้นมาวัดรอยเท้าได้ไม่นานก็อันตรธานไป ดลญายังคงเป็นดาวคณะอยู่ตลอดจนกระทั่งการเข้ามาเรียนของ ‘เบญจา’ หรือที่ใคร ๆ เรียก ‘น้องจิ๊บ’ รุ่นน้องปีหนึ่งคณะเดียวกันกับหล่อน
“นั่นน้องจิ๊บนี่หว่า…แม่ง มีผู้ชายเดินตามต้อย ๆ เลยโว้ย” เพื่อนคนเดิมชี้ไปทางเดินอีกฟาก
“คนนี้หรือเปล่าที่จะมาทำแกตกกระป๋อง”
“เหอะ! ไม่มีทาง คนแบบนั้นเอาอะไรมาเทียบฉันได้” มันก็จริงอย่างที่ดลญาว่า เบญจาอาจจะเทียบฐานะทางสังคมและการเงินกับดลญาไม่ได้ แต่เด็กเบญจานั่นก็มีความสดและกลิ่นหวานหอมที่ชวนให้ภมรและภุมรีทั่วมหาวิทยาลัยอยากดอมดม เบญจาเปรียบเสมือนสินค้าใหม่บนเชลฟ์ที่ดึงดูดสายตาลูกค้า ส่วนดลญาถึงจะเป็นสินค้าขายดีทว่าไร้ความน่าสนใจไปเสียแล้ว
“ฉันรู้มาว่ายัยน้องจิ๊บนั่นเคยเป็นแฟนพี่เท็นคณะวิศวะฯ ด้วยนะ” ดลญาเลิกคิ้วหันมองเพื่อน
“ใครนะ?”
“ก็พี่เท็นไง อดีตดาวคณะวิศวะฯ คนตัวสูง เท่ ๆ หน้านิ่ง ๆ น่ะ ที่ไม่เคยให้เกียร์ใครและไม่เคยให้สถานะแฟนกับใครด้วย” ดลญาร้องครางในลำคอ รุ่นพี่ผู้หญิงปีสี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ เท่าที่รู้คือฝ่ายนั้นเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษาแล้ว ทั้งยามนี้ยังอยู่ชมรมกีฬาด้วย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ” หล่อนยังไม่เข้าใจเจตนาที่เพื่อนจะสื่อ
“ก็แหม…ถ้าเรตติงแกยังดีอยู่ก็ไปเกี่ยวพี่เท็นมาเป็นแฟนแล้วเอาเกียร์มาคล้องคอสิ”
“ไร้สาระ”
“ไร้สาระอะไรยัยเดียร์ ถ้ายัยน้องจิ๊บเคยเป็นแฟนคนที่จีบยากที่สุด ก็แปลว่ามันมีดีกว่าแกน่ะสิ ดูดิ…ผู้ชายแม่งตามเป็นขบวน ส่วนแก…” เพื่อนสาวเอนกายกอดอกปรายตามองดลญาศีรษะจดปลายเท้า
“มีใครเดินตามที่ไหนกัน” มันก็จริงอย่างที่เพื่อนว่ามา ยามนี้ดลญากลายเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจแล้ว ที่เห็นว่ามีคนยังมาก้อร่อก้อติกก็เพิ่งจะมีรายแรกในสัปดาห์ แล้วหล่อนดันไล่ตะเพิดทำหยิ่งใส่เขาอีก ดลญามองเพื่อนในกลุ่มเห็นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนสาวคนนั้น
“แล้วฉันจะเจอพี่เท็นได้ยังไง?”
“ไม่ยาก เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เสียงลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นดังไปทั่วพื้นที่ มีผู้หญิงร่างสูงกำลังเลี้ยงลูกบอลไปยังฝั่งตรงข้ามโดยมีผู้เล่นอีกฝ่ายคอยสกัดกั้นไม่ให้ร่างสูงส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม ทว่าคนที่ชำนาญกลับหลบเลี่ยงและสามารถชูตบอลลงแป้นคว้าสองคะแนนให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างง่ายดาย เรียกเสียงโห่ร้องดีใจจากผู้ชมบนอัฒจันทร์ได้มากมาย ผู้หญิงร่างสูงยังคงทำคะแนนให้กับทีมได้อีกหลายแต้มติดกันจนจบเกมการแข่งขัน ทีมที่ชนะก็คือทีมของหญิงสาวนั่นเอง ร่างสูงโปร่งเดินมาทิ้งกายลงข้างสนาม คว้าขวดน้ำขึ้นมาดื่มจนหมด การแข่งขันไม่ได้จริงจังอะไรและเป็นการเล่นแบบผสมชายหญิงด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกลับไม่ออมแรงให้ชายชาตรีสักนิด กระทบไหล่ กระแทกตัวใส่จนล้มหน้าคว่ำไปหมด “เฮ้ย! ไอ้เท็น” เพื่อนร่วมทีมตบไหล่ “กูจะชวนมึงไปอเล็กซ์หน่อย” อเล็กซ์คือชื่อสถานบันเทิงอันเลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักของนักศึกษาเกือบทุกคน “ห้ามปฏิเสธ คราวที่แล้วมึงก็ไม่ไปทีละนะ” “อยากอ่านหนังสือ” เจ้าตัวบอกง่าย ๆ พลางปรายตามองกลุ่มหญิงสาวที่กำลังโบกมือให้ตนเองอยู่บนอัฒจันทร์ ‘เท็น หรือ เดือนสิบ’
บทที่ 2 ยาก ๆ สิเร้าใจ รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสถานบันเทิง พนักงานดูแลความปลอดภัยต่างกรูเข้ามาใกล้ด้วยเหตุจากสภาพรถยนต์และคนขับดูไม่ใช่ลูกค้ามีระดับอย่างที่เคยเข้าใช้บริการ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดขาวสวมทับด้วยเชิ้ตสีดำแขนยาว กางเกงยีนและรองเท้ากีฬาสภาพเขรอะไปด้วยฝุ่นกำลังเลิกคิ้วมองเหล่าชายฉกรรจ์สองสามคนตรงหน้า “น้องมาผิดที่หรือเปล่า?” หนึ่งในนั้นถามขึ้น มองอีกฝ่ายศีรษะจดปลายเท้า “ทำไม?” น้ำเสียงติดห้วนทำให้คนถามขมวดคิ้ว เจ้าของรถกระบะสะบัดปลายเสื้อเชิ้ตไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงไปยังทางเข้า แต่กลับถูกพนักงานกลุ่มนั้นตามมารั้งแขนไว้ “เฮ้ย!” นั่นคือเสียงของเดือนสิบ หญิงสาวมองมือคล้ำของอีกฝ่าย สีหน้าแสดงความไม่พอใจชัดเจน “จะออกไปดี ๆ หรือ…” “ทำอะไรวะ?” ใครสักคนร้องทักเสียงดัง กลุ่มชายฉกรรจ์ถอยห่างเพราะนั่นคือปวินเจ้าของร้าน “น้องผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกค้าของเราครับคุณวิน” หัวคิ้วปวินขมวดปม “นี่น้องกูเอง บ้านมันรวยกว่ากูอีก แต่ชอบทำตัวยาจก” ปวินหัว
“ทำอะไรของเธอ” เสียงเข้มกดต่ำ หรี่ตามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง ทว่าดลญากลับฉีกยิ้มหวาน ส่งสายตาทอประกาย หล่อนไม่มีทางยอมเสียหน้าเพื่อนในกลุ่มและตกเป็นรองเบญจาเด็ดขาด “พี่เท็นเลี้ยงค็อกเทลเดียร์สักแก้วสิคะ” “เป็นขอทานเหรอ?” เดือนสิบตอบเสียงเรียบ พยายามแกะมือปลาหมึกของหล่อนออก “ว่าอะไรนะคะ?” เมื่อครู่หล่อนฟังไม่ผิดแน่ หล่อนถูกรุ่นพี่สาวด่า!“นอกจากเป็นขอทานแล้วยังหูไม่ดีอีกนะ เหอะ!” “เอ๊ะ!” คราวนี้คุณหนูคนสวยไม่อาจทนยิ้มหวานได้อีกแล้ว หล่อนเป็นผู้ปล่อยแขนเอง ตากลมโตจ้องเขม็งแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด แต่เดือนสิบผู้ที่ไม่สนใจโลกทำเพียงไหวไหล่ไม่ยี่หระต่อสิ่งที่พูดธนินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกมุมปาก มองทั้งสองยิ้ม ๆ เพราะไม่คาดคิดว่าดาวคณะนิเทศศาสตร์จะเป็นฝ่ายเข้าหาเพื่อนสนิทของตนก่อน ทั้งยังโดนตอกหน้าแทบหงายอีก น่าเสียดายที่ยามนี้ไฟทั้งผับถูกดับให้มืดลงกว่าเดิม คนอื่นจึงไม่มีทางรู้เลยว่าเพื่อนสนิทของเขาและแม่สาวทรงโตกำลังทำอะไรกันอยู่ แม้ภาพจะดูเกาะก่ายกัน ทว่าความจริงไม่ใช่อย่างนั้นสักนิด ชายหนุ่มยักไหล่คว้าแก้วเครื่องดื่มของตนแล้วปลีกไปอีกทาง ไม่ใช่
บทที่ 3 ฉันรู้ทันคงเพราะคนร่างสูงที่เอาแต่ยืนกอดอกถอนหายใจกระมังจึงทำให้ดลญารู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำ เพราะถูกคนเมาเข้าใกล้หวังทำมิดีมิร้ายขณะเดินมาเข้าห้องน้ำ“ยืนไหวไหม?” น้ำเสียงราบเรียบถามขึ้น ไม่ได้แสดงถึงความเป็นห่วงใยหรือหงุดหงิด “วะ…ไหวค่ะ” เดือนสิบปล่อยให้ดลญายืนด้วยตนเอง แต่เพียงเสี้ยววินาทีหล่อนก็ทำท่าจะล้มหงายหลัง ผลสุดท้ายคนที่บอกตนเองว่าไม่อยากสนใจก็ต้องคอยดูแลหล่อน “ไปโรงพยาบาลไหม?” ดูเหมือนข้อเท้าอีกฝ่ายจะแพลง “พี่เท็นจะไปส่งเหรอคะ?” ยื่นคำถามหยั่งเชิง เห็นแววตาลังเลของเดือนสิบจึงลอบยิ้ม “หรือจะเรียกแท็กซี่ให้เดียร์ก็ได้ค่ะ แต่ว่า…” ใบหน้าสวยหวานเจื่อนลง คิ้วเรียวขมวด ทั้งน้ำเสียงยังฟังดูคล้ายหล่อนมีความกังวลระคนกลัว “เพิ่งมีข่าวแท็กซี่ข่มขืนและฆ่านักศึกษาไปเมื่อวันก่อน” ข่าวนั้นเดือนสิบเองก็ได้ยิน เนื่องจากเป็นข่าวดังที่คนร้ายยังลอยนวลอยู่ และมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สาววิศวะฯ นิ่งไปชั่วขณะ ชำเลืองมองคนที่ยังนั่งคลึงขาตนเอง ลอบถอนหายใจก่อนเอ่ย“เดี๋ยวพาไป ลุก
หลังจากได้เบอร์โทรและไลน์ของเดือนสิบดลญาจึงรีบส่งไปอวดเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ทั้งยังแนบรูปยามรุ่นพี่สาวขับรถและรอหล่อนขณะพบแพทย์อีกด้วย เรียกเสียงฮือฮาในกลุ่มได้เป็นอย่างมาก DEAR : ฉันบอกพวกแกแล้วว่าอย่าเอาฉันไปเทียบกับนังจิ๊บ คนละชั้นกันย่ะ!” JEEJEE : ย่ะ แม่คนเก่ง ฉันจะรอดูว่าแกจะได้เกียร์พี่เท็นตอนไหน อีกสักปีหรือสองปีน้า? หรือจะไม่ได้เลย คริคริ นั่นถือเป็นประโยคสบประมาทสำหรับดลญาผู้ไม่ชอบเป็นฝ่ายแพ้ หล่อนเชิดหน้ากดแป้นพิมพ์รัวDEAR : อย่ามาดูถูกกันนะ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้าภายในสามเดือนฉันไม่ได้เกียร์พี่เท็นมาคล้องคอ ฉันจะให้เงินสดโอนเข้าบัญชีพวกแกคนละห้าหมื่นไปเลย สิ้นประโยคนั้นในแชตกลุ่มก็เงียบลงก่อนที่จะมีสติกเกอร์หลากหลายรูปแบบแสดงขึ้นที่หน้าจอ ดูเหมือนเพื่อนในกลุ่มจะชอบข้อเสนอที่ดลญายื่นให้ DEAR : แต่ถ้าฉันได้เกียร์พี่เท็นมาภายในสามเดือน พวกแกต้องรวมเงินให้ฉันหนึ่งแสน ตกลงไหม?ALL : DEAL! ดลญาทิ้งกายลงยังเตียงนุ่มทันทีหลังจากทำข้อตกลงกับเพื่อนในกลุ่มเสร็จสรรพ ตากลมสวยมองภาพของเดือนสิบที่แอบถ่ายไว้ หญิงสาวแสดงสีหน้าร้ายกาจอย่างไม่ปิดบัง ดาวคณะคนสวยมีแผนการในหัวอยู่แล้ว จริง ๆ เด
บทที่ 4 เดียร์จะจีบพี่เท็นคงไม่ใช่แค่เจ้าของชื่อที่ยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน แม้แต่ธนินและนักศึกษาที่เดินอยู่รอบ ๆ ก็มีอาการไม่ต่างกัน ก่อนพวกนั้นจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปแล้วเดินซุบซิบหนีไปทันที ธนินยืนมองตาปริบ ๆ หันมองเดือนสิบทีดลญาที ไม่คาดคิดว่าตนเองจะต้องมาเป็นสักขีพยานแห่งรักของเพื่อนสนิท“พูดบ้าอะไรของเธอ?” ร่างสูงโปร่งปรี่เข้าใส่ดลญา ดีที่ธนินขวางไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นหล่อนคงถูกเดือนสิบบีบคอเป็นแน่“เป็นแฟนกับเดียร์นะคะพี่เท็น”“นี่เธอ! หยุดเลยนะ” ไอ้ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนเจียมตัว ทำหน้าทำตาให้เธอสงสาร นั่นมันคือการแสดงทั้งนั้น จะว่าเดือนสิบดูออกก็ไม่เชิง เพียงแต่เธอแค่รู้ทันพวกคุณหนูบ้านรวยแสนเอาแต่ใจ ในอดีตเดือนสิบเคยเป็นน้องปีหนึ่งที่ไม่คิดจะสุงสิงยุ่งเกี่ยวกับใคร ทว่ากลับมีรุ่นพี่คนสวยมาหยอดมาอ้อนและมาใกล้ชิดสนิทสนมจนเธอตกหลุมพรางและเริ่มก่อความสัมพันธ์ แต่ในเวลาไม่นานเดือนสิบก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว รุ่นพี่คนนั้นไม่ได้คิดจริงจังและจริงใจอะไรต่อเธอเลย หล่อนก็แค่พนันกับเพื่อนว่าหากได้คนที่เงียบที่สุดในรุ่นมาเป็นแฟนจะได้มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เรื่องราวในครั้งนั้นมีเพียงธนินเพื่อนสน
“เออน่า…มึงก็น่าจะให้โอกาสน้องเขาหน่อย ตอนน้องจิ๊บกูก็นึกว่าจะคบกันยาว ๆ ที่ไหนได้ ตดยังไม่ทันจะหายเหม็นก็เลิกกันซะละ มึงเลิกปิดตัวปิดใจได้แล้ว หรือว่ามึงยังคิดถึงเรื่องพี่กัญอยู่วะ?” ชื่อนั้นเดือนสิบไม่ได้ยินมานานหลายปี พอได้ยินอีกครั้งข้างในอกเริ่มบีบรัด สีหน้าเปลี่ยนไปจนธนินที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดไม่คิดก็ได้แต่ก่นด่าตนเองในใจ เขาน่าจะรู้ดีว่ารุ่นพี่คนนั้นสร้างบาดแผลร้ายแรงไว้ในใจเพื่อนสนิทแค่ไหน“กู…ขอโทษว่ะ” คนที่มีอดีตทำเพียงไหวไหล่ หยิบบุหรี่แล้วคล้องไหล่ธนินเดินไปพื้นที่สูบบุหรี่ควันเทา ๆ กับใจหม่น ๆ คงเข้ากันดีหากมีฝนตกลงมา ทว่ายามนี้แดดเปรี้ยงจนต้องหยีตามองฟ้า เดือนสิบทอดถอนใจ พ่นควันออกปากเฉกเช่นเดียวกับธนิน“ผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ต่างจากคนอื่น” ถึงหัวใจไม่ได้มีกำแพงหนาหลายชั้นจนยากจะเข้าไป ทว่ามันก็ไม่ได้เปิดรับทุกคนที่ผ่านเข้ามา เนื่องจากความชอกช้
บทที่ 5 แรงกระเพื่อมที่แผ่วเบาและคงเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมีหลายคนเห็นเหตุการณ์พอดิบพอดี เช้านี้หัวข้อสนทนาในตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์และนิเทศศาสตร์จึงเป็นเรื่องของเดือนสิบและดลญา มีข่าวลือออกไปหลากหลายประเด็นตามแต่คนจะจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นดาวคณะสวยเด่นอย่างดลญากู่ก้องร้องตะโกนว่ามีใจให้รุ่นพี่วิศวะฯ สาว หรือจะเป็นเดือนสิบปฏิเสธรักไม่แยแสดลญาแม้แต่น้อย และก็มีหลายคนที่ตั้งข้อสงสัยว่าทั้งคู่อาจเป็นแฟนกันแล้ว เพียงแต่ง้องอนกันตามประสาคนรัก ข่าวต่าง ๆ ดังให้ได้ยินแค่เพียงช่วงเช้าก่อนจะซาลงไปเพราะมีเรื่องอื่นน่าสนใจกว่า แต่คงไม่ใช่กับเบญจา หล่อนยืนหน้าเครียดกอดอกมองดลญาไม่วางตา“นังนั่นมีอะไรดีกว่าฉัน?” เบญจาเปรยขึ้นขณะเดินเข้ามายังโรงอาหารของคณะ เพื่อนในกลุ่มไม่ได้ตอบเพียงยักไหล่เล็กน้อยด้วยเข้าใจว่าเบญจาไม่ได้ถามแต่พูดกับตนเอง ถึงเบญจาจะเป็นน้องปีหนึ่งสดใหม่ แต่ความสวยยังห่างชั้นกับดลญาอยู่มาก รายนั้