แชร์

คุณหนูเดียร์อยากได้เกียร์พี่เดือนสิบ
คุณหนูเดียร์อยากได้เกียร์พี่เดือนสิบ
ผู้แต่ง: ปามาลี

บทที่ 1 ดลญาเดือนสิบ 50%

บทที่ 1 ดลญาเดือนสิบ

ภาพสะท้อนในกระจกเงาแสดงให้เห็นถึงผู้หญิงร่างผอมเพรียวทว่ามีหน้าอกหน้าใจใหญ่คัพซี เอวคอดและสะโพกผาย หล่อนกำลังหยิบลิปสติกสีใหม่ขึ้นมาปาดริมฝีปาก ปลายนิ้วไล้เกลี่ยไปตามขอบปากให้ฟุ้งตามสมัยนิยม 

“สีสวยว่ะแก” ใครสักคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยชม หล่อนคนนั้นยักคิ้ว ยื่นมันไปให้

“ลองไหม?”

“ไม่ละ ฉันทาสีแดงไม่เคยรอดสักที” เจ้าของลิปสติกยักไหล่แล้วเก็บมันลงกระเป๋าแบรนด์Cคอลเลกชันใหม่ หญิงสาวสำรวจใบหน้าและทรงผมของตนเองอีกครั้ง ก่อนเดินออกจากห้องน้ำ ตลอดทางมีสายตานับสิบคอยมองตลอด ด้วยความที่หล่อนเป็นผู้หญิงสวยและยังเป็นถึงดาวคณะอีกด้วย ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักและต้องการตีสนิทด้วย แต่ความหยิ่งยโสของคนสวยก็เลื่องชื่อไม่น้อย 

‘ดลญา หรือ เดียร์’ หลานสาวอดีตผู้นำการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฐานะทางสังคมและการเงินเข้าขั้นเศรษฐี แบรนด์เนมทั้งตัว ขับซูเปอร์คาร์คันละสี่สิบล้านมาเรียนทุกวัน และคบค้าสมาคมเฉพาะเพื่อนระดับเดียวกันเท่านั้น ดลญาเดินพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนในกลุ่มไปจนถึงหน้าอาคารเรียน 

“ขอโทษครับ” เสียงทุ้มเรียกความสนใจ หล่อนปรายตามองเล็กน้อย

“เอ่อ…พี่ชื่อแม๊กนะ อยู่บริหาร” 

“ค่ะ” ใบหน้าของหญิงสาวยังเรียบเฉย มองผู้ชายร่างอวบตรงหน้าไร้ความรู้สึก เขาสวมแว่นและดูเจียมเนื้อเจียมตัว อาจเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ได้ดึงดูดสายตาใคร ๆ จึงทำให้เขามีท่าทางขวยเขิน ดลญาชินชากับสถานการณ์นี้ของบรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง หรือจะเป็นพวกผู้หญิงก็ด้วย รายนี้ก็คงเหมือนกัน ไม่ขอเบอร์ก็ขอช่องทางการติดต่ออะไรสักอย่าง ซึ่งหล่อน…

“ไม่ให้ค่ะ” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเอ่ยสิ่งที่ต้องการ สาวเจ้าก็โพล่งสิ่งที่อยู่ในใจขึ้นมาก่อน ผู้ชายคนนั้นหน้าเสีย ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีจากเหนียมอายเป็นบึ้งตึง ชายหนุ่มหายใจแรงขึ้นสาวเท้าเข้าหาร่างเพรียวจนเพื่อน ๆ ร้องลั่น

“นี่ไม่รู้ตัวหรือไงว่ากำลังตกกระป๋อง ยังคอเชิด หยิ่งอยู่ได้” 

“พูดอะไร?” ประโยคนั้นเรียกให้หญิงสาวมีอารมณ์คุกรุ่นในอก ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เขาทำกิริยามารยาททรามกว่านั้นคือการถ่มน้ำลายลงพื้นที่ใกล้กับรองเท้าส้นสูงของดลญา ทุกคนในกลุ่มแตกฮือ กรีดร้องอย่างรังเกียจ

“มหา’ลัยเราควรคัดคนให้มากกว่านี้ปะวะ แม่ง!” หนึ่งในกลุ่มเอ่ยอย่างหัวเสีย มองตามร่างชายคนนั้นไปจนลับสายตา ดลญายังรู้สึกคุกรุ่นในใจ 

“มันบอกว่าฉันตกกระป๋อง” ใคร ๆ ต่างรู้ว่าดลญาเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด หล่อนทั้งสวยจนได้เป็นดาวคณะ การเรียนเข้าขั้นเก่งกาจไม่พลาดเอสักวิชาตั้งแต่ปีการศึกษาที่หนึ่ง แต่ยามนี้ดลญาอยู่ปีสามแล้ว นั่นจึงมีรุ่นน้องผู้หญิงหลายคนขึ้นมาเทียบรัศมีได้เป็นจำนวนมาก ทว่า…ผู้หญิงพวกนั้นมาวัดรอยเท้าได้ไม่นานก็อันตรธานไป ดลญายังคงเป็นดาวคณะอยู่ตลอดจนกระทั่งการเข้ามาเรียนของ ‘เบญจา’ หรือที่ใคร ๆ เรียก ‘น้องจิ๊บ’ รุ่นน้องปีหนึ่งคณะเดียวกันกับหล่อน 

“นั่นน้องจิ๊บนี่หว่า…แม่ง มีผู้ชายเดินตามต้อย ๆ เลยโว้ย” เพื่อนคนเดิมชี้ไปทางเดินอีกฟาก

“คนนี้หรือเปล่าที่จะมาทำแกตกกระป๋อง”

“เหอะ! ไม่มีทาง คนแบบนั้นเอาอะไรมาเทียบฉันได้” มันก็จริงอย่างที่ดลญาว่า เบญจาอาจจะเทียบฐานะทางสังคมและการเงินกับดลญาไม่ได้ แต่เด็กเบญจานั่นก็มีความสดและกลิ่นหวานหอมที่ชวนให้ภมรและภุมรีทั่วมหาวิทยาลัยอยากดอมดม เบญจาเปรียบเสมือนสินค้าใหม่บนเชลฟ์ที่ดึงดูดสายตาลูกค้า ส่วนดลญาถึงจะเป็นสินค้าขายดีทว่าไร้ความน่าสนใจไปเสียแล้ว

“ฉันรู้มาว่ายัยน้องจิ๊บนั่นเคยเป็นแฟนพี่เท็นคณะวิศวะฯ ด้วยนะ” ดลญาเลิกคิ้วหันมองเพื่อน

“ใครนะ?” 

“ก็พี่เท็นไง อดีตดาวคณะวิศวะฯ คนตัวสูง เท่ ๆ หน้านิ่ง ๆ น่ะ ที่ไม่เคยให้เกียร์ใครและไม่เคยให้สถานะแฟนกับใครด้วย” ดลญาร้องครางในลำคอ รุ่นพี่ผู้หญิงปีสี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ เท่าที่รู้คือฝ่ายนั้นเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษาแล้ว ทั้งยามนี้ยังอยู่ชมรมกีฬาด้วย

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ” หล่อนยังไม่เข้าใจเจตนาที่เพื่อนจะสื่อ

“ก็แหม…ถ้าเรตติงแกยังดีอยู่ก็ไปเกี่ยวพี่เท็นมาเป็นแฟนแล้วเอาเกียร์มาคล้องคอสิ” 

“ไร้สาระ”

“ไร้สาระอะไรยัยเดียร์ ถ้ายัยน้องจิ๊บเคยเป็นแฟนคนที่จีบยากที่สุด ก็แปลว่ามันมีดีกว่าแกน่ะสิ ดูดิ…ผู้ชายแม่งตามเป็นขบวน ส่วนแก…” เพื่อนสาวเอนกายกอดอกปรายตามองดลญาศีรษะจดปลายเท้า

“มีใครเดินตามที่ไหนกัน” มันก็จริงอย่างที่เพื่อนว่ามา ยามนี้ดลญากลายเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจแล้ว ที่เห็นว่ามีคนยังมาก้อร่อก้อติกก็เพิ่งจะมีรายแรกในสัปดาห์ แล้วหล่อนดันไล่ตะเพิดทำหยิ่งใส่เขาอีก ดลญามองเพื่อนในกลุ่มเห็นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนสาวคนนั้น

“แล้วฉันจะเจอพี่เท็นได้ยังไง?” 

“ไม่ยาก เดี๋ยวฉันจัดการเอง” 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status