“เออน่า…มึงก็น่าจะให้โอกาสน้องเขาหน่อย ตอนน้องจิ๊บกูก็นึกว่าจะคบกันยาว ๆ ที่ไหนได้ ตดยังไม่ทันจะหายเหม็นก็เลิกกันซะละ มึงเลิกปิดตัวปิดใจได้แล้ว หรือว่ามึงยังคิดถึงเรื่องพี่กัญอยู่วะ?” ชื่อนั้นเดือนสิบไม่ได้ยินมานานหลายปี พอได้ยินอีกครั้งข้างในอกเริ่มบีบรัด สีหน้าเปลี่ยนไปจนธนินที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดไม่คิดก็ได้แต่ก่นด่าตนเองในใจ เขาน่าจะรู้ดีว่ารุ่นพี่คนนั้นสร้างบาดแผลร้ายแรงไว้ในใจเพื่อนสนิทแค่ไหน
“กู…ขอโทษว่ะ” คนที่มีอดีตทำเพียงไหวไหล่ หยิบบุหรี่แล้วคล้องไหล่ธนินเดินไปพื้นที่สูบบุหรี่
ควันเทา ๆ กับใจหม่น ๆ คงเข้ากันดีหากมีฝนตกลงมา ทว่ายามนี้แดดเปรี้ยงจนต้องหยีตามองฟ้า เดือนสิบทอดถอนใจ พ่นควันออกปากเฉกเช่นเดียวกับธนิน
“ผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ต่างจากคนอื่น” ถึงหัวใจไม่ได้มีกำแพงหนาหลายชั้นจนยากจะเข้าไป ทว่ามันก็ไม่ได้เปิดรับทุกคนที่ผ่านเข้ามา เนื่องจากความชอกช้ำในรักครั้งเก่ายังคงฝังรากลึกอยู่ในใจยากจะลืมเลือน แผลเก่าที่ไม่มีวันหาย มันทำให้เดือนสิบกลายเป็นคนมองความรักเป็นสิ่งเลวร้ายนับแต่นั้นมา
ดลญาไม่ต่างอะไรจากกัญญารัตน์เลยแม้แต่น้อย หล่อนสวย รวยและเย่อหยิ่ง เป็นดาวคณะเฉกเช่นเดียวกัน ดูก็รู้ว่าที่เข้าหาคงมีสิ่งที่ต้องการจะได้จากเธอ เพียงแต่เดือนสิบไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร หากจะให้ถามออกไปตรง ๆ ดลญาก็คงไม่ตอบและอาจเฉไฉบอกชอบหลอก ๆ ให้ได้ยินอีก
เวลาเกือบสี่ทุ่มเห็นจะได้หลังเดือนสิบกินข้าว เล่นเกมและอาบน้ำเรียบร้อย ร่างสูงล้มตัวลงนอนเอกเขนกเช็กข่าวสารจากมือถือ มีเสียงแจ้งเตือนจากเพื่อนในโปรแกรมแชตเด้งขึ้นมา พอกดเข้าไปอ่านก็ถึงกับขมวดคิ้ว จากที่อารมณ์ดีก็คุกรุ่นขึ้น
DEAR : พี่เท็นนอนหรือยังคะ?
เดือนสิบอ่านแต่ไม่ตอบ มิหนำซ้ำปลายนิ้วยังเลื่อนไปหาปุ่มบล็อกอีกด้วย แต่คงเป็นโชคดีของดลญาเพราะมีสายเรียกเข้ามาพอดี ปลายสายคือธนิน
[ไอ้เ-หี้ยเท็น มึงได้ที่ฝึกงานแล้วใช่ปะ?] แล้วทั้งสองก็พูดคุยเรื่องการฝึกงานที่กำลังจะเกิดขึ้นไปหลายนาที โดยเดือนสิบได้อีเมลตอบกลับยอมรับการฝึกงานจากบริษัทฯ ที่เลือกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กำลังจะยื่นเรื่องพรีเซนต์กับอาจารย์ที่ปรึกษา หากผ่านหญิงสาวจะเริ่มฝึกงานทันที
[แล้วไมมึงไม่เลือกบริษัทพ่อวะ?] กิจการครอบครัวของเดือนสิบเกี่ยวกับโรงงานแฟบเหล็ก (ประกอบเชื่อมโลหะโดยการแปรรูปโลหะเป็นรูปทรงต่างๆ ) อยู่ในจังหวัดระยองที่รับออกแบบงานวิศวกรรม และผลิตอุปกรณ์และเครื่องจักร OEM ให้กับบริษัททั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการติดตั้งและงานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร
“ขืนคนในโรงงานรู้ว่ากูเป็นลูกพ่อ ไม่ได้ทำการทำงานกันพอดี คงได้แต่นั่งกระดิกนิ้วตีนรอคนประเคนน้ำข้าวทั้งวัน” ธนินหัวเราะเข้าใจเพื่อนดี เพราะเขาเองก็เป็นลูกหลานเจ้าของร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเหมือนกัน ตอนทำงานพาร์ตไทม์แล้วมีคนรู้นามสกุล จากนั้นธนินก็โดนปฏิบัติราวกับราชา จะจับไม้ถูพื้นหรือนำจานไปเก็บก็มีคนวิ่งแจ้นแซงหน้าแล้วอาสาทำแทนหมด แบบนั้นมันน่าเบื่อจะตาย
เดือนสิบคุยกับธนินจนลืมดลญาไปเลย พอวางสายก็เพิ่งเห็นการแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชตที่เด้งรัวจนเครื่องสั่น มือเรียวเลื่อนอ่านข้อความที่ยาวเป็นหางว่าว เหมือนหญิงสาวรายงานว่าวันนี้ตนเองทำอะไรบ้าง ไปที่ไหนและคิดจะทำอะไรในวันพรุ่งนี้ เดือนสิบถอนหายใจหมายจะจัดการแชตของหล่อนให้พ้นสายตา ทว่า…
‘ติ๊ง!’ ข้อความแชตล่าสุดที่ไม่ได้เป็นตัวอักษรเด้งขึ้นมา มันทำให้ใจของเดือนสิบวูบไหวไม่น้อย มันคือรูปถ่ายที่ร่างเพรียวสวมชุดนอนแนบเนื้อ ชิ้นบนเป็นสายเดี่ยวเอวลอยผ้าซาตินกับกางเกงขาสั้นมีลายกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก ผิวขาวทรวงสล้างเรียกเลือดในกายให้ร้อนวูบ แม้จะบอกว่าไม่สนใจ หากแต่ทรวงเต้าคู่ใหญ่ลอยชัดอยู่ตรงหน้านั้นเรียกสายตาให้หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นได้นานหลายวินาที เดือนสิบสะบัดหน้าพยายามไม่สนใจ ด้วยรู้ว่าหล่อนจงใจยั่วยวน
DEAR : ชุดนี้น่ารักไหมคะพี่เท็น เดียร์เพิ่งใส่ครั้งแรก
ดลญาส่งข้อความมาอีกครั้งพร้อมกับแนบรูปที่เห็นช่วงสะดือต่ำลงไป เดือนสิบชักเริ่มหายใจติดขัด แม้จะไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ทว่าสาววิศวะฯ นั้นมักจบอารมณ์ร้อนเร่าในกายด้วยวันไนต์สแตนด์กับสาวสักคน ช่วงนี้เป็นฤดูของการหาสถานที่ฝึกงาน เดือนสิบยุ่งมากจึงละเว้นเรื่องเซ็กซ์ไปสักพัก พอได้เห็นรูปที่ดลญาตั้งใจส่งมายั่วใจชักเต้นแรง ความรู้สึกที่ขาดหายไปนานเริ่มปะทุ
‘ติ๊ง!’ รูปที่สามยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมันใกล้กับช่วงเชิงกรานของหล่อนมาก ทั้งยังเห็นขอบจีสตริงตัวจ้อยอีกด้วย เดือนสิบคำรามอย่างอดกลั้น
“ยัยตัวแสบ!” ขว้างมือถือไปไกล ต้องพยายามสงบสติอารมณ์ รีบคว้าผ้าขนหนูแล้วกลับไปอาบน้ำอีกครั้ง หวังว่าน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้ใจและกายแสนร้อนรุ่มบรรเทาลงได้บ้าง
ฟากยัยตัวแสบมองมือถือที่ไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่าย แม้จะโมโหนิดหน่อยที่ไม่เป็นดั่งใจหวัง แต่หล่อนก็ถือว่าการหว่านเมล็ดพืชในครั้งนี้หวังผลในอนาคตได้แน่นอน จากที่สืบมาจากหลาย ๆ คน ถึงเดือนสิบไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน ทว่ารุ่นพี่สาวกลับมีกิตติศัพท์มากมายด้านเรื่องบนเตียง ‘ลิ้นหวาน’ ‘นิ้วดุ’ คือสิ่งที่ดลญาพอทราบมาบ้าง ผู้หญิงที่เคยนอนให้เดือนสิบกกก่ายล้วนมีรูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากหล่อนมากนัก ในเมื่อร่างกายนี้เป็นสิ่งที่อาจทำให้เดือนสิบชอบได้ ดลญาขอเสี่ยงดวงดูหน่อย หล่อนควานหาชุดนอนที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุดในตู้ ใส่มันโดยชิ้นบนโนบรา ทว่าชิ้นล่างมีจีสตริง ตั้งใจโพสท่าถ่ายรูปที่ดูยั่วยวนที่สุดส่งให้ฝ่ายนั้น ถึงเดือนสิบไม่ได้ตอบข้อความกลับมา แต่ก็พอเดาได้ว่าการที่รุ่นพี่สาวได้เห็นคงทำให้เนื้อเต้นใจเต้นได้ไม่น้อย
แม้จะต้องเอาตัวเข้าแลก ดลญาก็ไม่สะท้าน หมากเกมนี้หล่อนจะต้องเป็นผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว สิ่งที่หมายมั่นคือเกียร์ของรุ่นพี่วิศวะฯ เพื่อเป็นการการันตีในความนิยมของหล่อนที่สามารถคว้ารุ่นพี่แสนเย็นชาที่ไม่เคยให้ใจใครมาได้ หากได้ตัวมาด้วยถือว่าเป็นของแถมแล้วกัน
บทที่ 5 แรงกระเพื่อมที่แผ่วเบาและคงเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมีหลายคนเห็นเหตุการณ์พอดิบพอดี เช้านี้หัวข้อสนทนาในตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์และนิเทศศาสตร์จึงเป็นเรื่องของเดือนสิบและดลญา มีข่าวลือออกไปหลากหลายประเด็นตามแต่คนจะจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นดาวคณะสวยเด่นอย่างดลญากู่ก้องร้องตะโกนว่ามีใจให้รุ่นพี่วิศวะฯ สาว หรือจะเป็นเดือนสิบปฏิเสธรักไม่แยแสดลญาแม้แต่น้อย และก็มีหลายคนที่ตั้งข้อสงสัยว่าทั้งคู่อาจเป็นแฟนกันแล้ว เพียงแต่ง้องอนกันตามประสาคนรัก ข่าวต่าง ๆ ดังให้ได้ยินแค่เพียงช่วงเช้าก่อนจะซาลงไปเพราะมีเรื่องอื่นน่าสนใจกว่า แต่คงไม่ใช่กับเบญจา หล่อนยืนหน้าเครียดกอดอกมองดลญาไม่วางตา“นังนั่นมีอะไรดีกว่าฉัน?” เบญจาเปรยขึ้นขณะเดินเข้ามายังโรงอาหารของคณะ เพื่อนในกลุ่มไม่ได้ตอบเพียงยักไหล่เล็กน้อยด้วยเข้าใจว่าเบญจาไม่ได้ถามแต่พูดกับตนเอง ถึงเบญจาจะเป็นน้องปีหนึ่งสดใหม่ แต่ความสวยยังห่างชั้นกับดลญาอยู่มาก รายนั้
“นะคะพี่เท็น…” อีกครั้งที่สาวนิเทศใช้ทักษะการแสดงที่ร่ำเรียนมา“เฮ้อ…” เดือนสิบพ่นลมหายใจหนัก ๆ“อืม ก็ได้” ลงท้ายก็ยอม คงเพราะน้ำเสียงและท่าทางอ้อน ๆ นั้นกระมังถึงพาเอาใจสั่นไหว“จริงนะคะ” ดวงตากลมโตทอประกาย ซ่อนความดีใจไม่มิด“แต่บอกไว้เลยนะว่า คนอย่างฉันไม่มีทางเชื่อผู้หญิงรวย ๆ อย่างเธอหรอก” ดูเหมือนเดือนสิบต้องเตือนตัวเองว่าอย่าหลงกลสายตาและท่าทางราวลูกแมวน้อยของอีกฝ่ายด้วยการทำเสียงห้วน ๆ ซึ่งมันอาจใช้ไม่ได้ผลสักเท่าไร“แหม…แล้วนักศึกษาที่มหา’ลัยนี้ใครไม่รวยบ้างคะ พี่เท็นก็รวย” ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแต่คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเดือนสิบนั้นต้องสอบเข้าถึงจะได้ศึกษา มีเงินแล้วได้เรียนคงใช้ไม่ได้สำหรับที่นี่ ส่วนดลญา
ข่าวฉาวซาลงพร้อมกับแอ็กเคานต์นิรนามได้ลบไปแล้ว เบญจาไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับดลญาและเดือนสิบอีก หล่อนเห็นรุ่นพี่วิศวะสาวมานั่งรอดลญาบ้างเป็นบางครั้ง เผลอสบตากันแต่หล่อนเลือกเชิดหน้าใส่ เดือนสิบเองก็เลือกจะนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเวลาผ่านไปกว่าสองอาทิตย์ วันนี้มีนัดกับธนินหลังเลิกงาน เธอส่งแชตบอกคนน้องซึ่งฝ่ายนั้นตอบกลับเป็นสติกเกอร์ผู้หญิงทำสัญลักษณ์โอเค“ไงมึง ตกลงเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม?” ธนินพูดพร้อมจิบเบียร์ไปด้วย“ยัง”&n
บทที่ 6 ได้แค่ตัวยามนี้ทั้งโต๊ะไม่มีใครเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา นอกจากลอบมองกันเองด้วยสายตาเลิ่กลั่กนับตั้งแต่ร่างเพรียวของดลญาเดินเข้ามาภายในร้านและนั่งลงข้างกายรุ่นน้องร่างสูง เดือนสิบยังทำหน้านิ่งยกแก้วจิบเบียร์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเธอเพิ่งโดนแจงจู่โจมขโมยจูบ“สวัสดีค่ะ” แล้วก็เป็นดลญาที่ต้องเอ่ยเป็นคนแรก เนื่องจากเดือนสิบไม่คิดจะแนะนำหล่อนให้ใครได้รู้จัก หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้นอบน้อม พนักงานรุ่นพี่รับไหว้เงอะงะ“แฟนเท็นเหรอ?” พี่นัดคันปากยุบยิบ อดรนทนไม่ไหวเอ่ยปากถาม“สวยเชียว” คำชมนั้นเรียกให้ดลญายิ้มปากแทบฉีก ถึงแม้คนที่ถูกถามจะยังเงียบปากอยู่ก็เถอะ หล่อนส่งยิ้มหวานเกี่ยวแขนเดือนสิบมากอดไว้ หน้าอกหน้าใจถูไถไปตามแขนยาว ความสนิทชิดเชื้อนั้นทำเอาแจงชักสีหน้า ทุกคนยังคงมองดล
“กลับไปได้แล้ว” ออกปากไล่อีกครั้ง“ยังพูดไม่รู้เรื่องเลย เดียร์จีบพี่เท็นอยู่นะคะ ห้ามไปจูบกับใครทั้งนั้น”“แล้วจะให้ฉันจูบเธอหรือไง”“ใช่ค่ะ” สิ้นเสียงเล็กแหลม คนตัวสูงหันกลับรวดเร็ว คว้าเอวกิ่วเข้ามากอด ก่อนกดจูบริมฝีปากลงตามที่หล่อนเอ่ย ดลญาตั้งตัวไม่ทัน นิ่งงันชั่ววินาที ก่อนหลับตาพริ้มเกาะไหล่กว้างไว้แน่นรับสัมผัสดุดันเร่าร้อนนั้น คงเพราะฤทธิ์เดชของน้ำเมาที่ผสมอยู่ในเลือดถึงทำให้เดือนสิบขาดสติคว้าดลญามาบดจูบ ร่างเพรียวลอยขึ้นขณะที่ปากทั้งสองยังไม่ละห่าง แผ่นหลังเล็กทาบลงยังเตียงนุ่ม เดือนสิบยังคงมัวเมากับรสสัมผัสหวานหอมในโพรงปากหวาน คล้ายว่าริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเคลือบไปด้วยรสเชอร์รี“แม่งเอ๊ย! นมโคตรใหญ่เลย” เดือนสิบสบถมือคลำคลึงทรวงเต้าที่ใหญ่เกินฝ่ามือตนเอง
บทที่ 7 รับของหวานไหมคะวันนี้คือวันหยุด เดือนสิบอัดบุหรี่เข้าปอดไปหลายมวน ตาคมปรายไปยังคนที่ยังนอนสลบไสลอยู่บนเตียง ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่บ่งบอกถึงเพลิงสวาทที่สาดใส่กันไม่ยั้งเมื่อคืนนี้ อาจเพราะเดือนสิบร้างราสังเวียนรักมาสักพักเธอถึงได้อดอยากปากแห้งกระทำต่อดลญาจนหมดแรงข้าวต้ม หรืออาจเพราะในกระแสเลือดมีแอลกอฮอล์เจือจางอยู่ถึงได้เกิดอารมณ์ฟัดหล่อนไม่ยั้ง หรืออาจเป็นข้อสุดท้าย ร่างเพรียวที่มีทรวดทรงองค์เอวชวนเสน่หานั้นพาเธอดำดิ่งยากจะต้านทาน แต่อะไรก็ช่าง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องที่เดือนสิบคาดคิดไว้ด้วยซ้ำ หญิงสาวถอนหายใจหนัก ๆ แม้จะบอกอีกฝ่ายว่าหล่อนได้เพียงตัวของเธอเท่านั้น แต่บางอย่างกลางอกซ้ายกลับบอกว่ามันจะไม่จบแค่เรื่องเมื่อคืนสักพักดลญาตื่นขึ้น หล่อนคว้าเสื้อผ้ามาสวม ไม่ได้อิดออดหรือร้องไห้โวยวาย กลับนิ่งสงบราวมหาสมุทรที่กำลังก่อคลื่นทะเลลูกใหญ่ เดือนสิบเองก็ไม่ได้ปริปากถึงเรื่องเมื่อคืน ทำเพียงนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟสูบบุหรี่ไปพลาง
“นั่นไง ๆ กูว่าแล้ว โซ้ยกันมันชัวร์” คนไม่ค่อยพูดไม่ปริปาก ได้แต่ปล่อยให้เพื่อนเดาทางไปเรื่อย“เลียจนแตกแล้วบอกพี่น้อง ไอ้หน้าส้นตีนเอ๊ย!” ธนินผรุสวาทกลอกตาบน ทั้งยังถีบขาเดือนสิบเบา ๆ หากเป็นเวลาปกติสาววิศวะฯ คงตอกกลับไปบ้าง หากพอมันเป็นความจริงเธอจึงเลือกจะเงียบผินหน้าไปด้านอื่นแทน เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมง เบียร์กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าลอยเคว้งลงถังขยะข้างกาย น้ำเสียงธนินเปลี่ยนไปมากจนเดือนสิบต้องตัดสินใจเรียกบริการรถจากแอปพลิเคชันให้ไปส่งชายหนุ่ม ก่อนตนเองจะเรียกแท็กซี่กลับมายังคอนโดฯ คิ้วเข้มขมวดมุ่นมองคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มมาให้
บทที่ 8 เริ่มหวั่นไหวถึงเดือนสิบไม่ได้แสดงท่าทีมากไปกว่าเก่า แต่ดลญานั้นรับรู้ได้ว่าหล่อนสามารถทำให้รุ่นพี่วิศวะฯ แสนเย็นชาสนใจตนเองมากขึ้น หญิงสาวยืนยิ้มกว้างขณะมองร่างสูงอันโดดเด่นกว่าใครเพื่อนแม้จะรั้งอยู่ปลายแถว ยามนี้เป็นเวลาพักพวกรุ่นพี่และเดือนสิบกำลังออกไปหาอะไรกินเหมือนอย่างเคย ทว่าวันนี้อาจพิเศษหน่อยก็ตรงที่เดือนสิบไม่ต้องเดินตากแดดตากลมฝ่าไอร้อนแล้ว“เฮ้ย! มีคนมาหาน่ะเท็น” พี่นัดสะกิด เดือนสิบแหงนหน้าขึ้น“วันนี้ไม่ได้ไปกินข้าวกับพวกพี่สินะ อยากได้อะไรก็ไลน์บอกแล้วกัน” พี่นัดตบไหล่ส่งสายตาล้อเลียนก่อนทั้งกลุ่มจะปลีกไปอีกทาง ดลญาโค้งให้รุ่นพี่ที่เคยพบหน้าค่าตากันเมื่อไม่กี่วันก่อน“มาทำอะไร?” เสียงเรียบไม่ได้บอกว่าคนพูดรู้สึกเช่นไร เหมือนแค่ถามออกไปตามที่สงสัย
บทจบ ได้ทั้งเกียร์ได้ทั้งเธอดลญายิ้มแห้งเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณนุ่นคือลูกพี่ลูกน้องของธนิน หญิงสาวตีไหล่คนรักเนื่องจากถูกปล่อยให้คิดไปเองอยู่พักใหญ่ ถ้าไม่เกิดเรื่องงอนตุ๊บป่องเมื่อสัปดาห์ก่อนหล่อนก็ยังไม่รู้ว่านุ่นคือใคร แล้วที่เคยสังสรรค์จนกลับบ้านดึกดื่นนั่นก็เพราะธนินขอร้องให้อยู่ต่อ “พี่เท็นก็ไม่บอกเดียร์” “ถ้าบอกก็ไม่รู้สิว่าแฟนหึง” คนพี่ยิ้มกริ่ม เดี๋ยวนี้เดือนสิบชักร้าย เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เจ้าเล่ห์ขึ้น พูดเก่งขึ้น และทำรักมากขึ้น ความต้องการมีไม่สิ้นสุด หล่อนระทดร
“ยังไง บอกฉันมาสิ” หากคนที่บอกจะชดใช้กลับส่ายศีรษะไปมา หล่อนเองก็ไม่รู้เช่นกัน“ระ…หรือพี่เท็น” ก้อนบางอย่างจุกอยู่กลางอกไปจนถึงลำคอ ดลญาพูดต่อไม่ออก แต่พยายามเอื้อนเอ่ยทั้งที่เจ็บไปทั้งใจกับข้อเสนอที่ตนเองได้เอ่ยออกไป“อยากให้เดียร์ไปให้พ้น ๆ” ประโยคนั้นเบาเสียจนต้องเงี่ยหูฟัง ร่างสูงมองมือเล็ก เมื่อมีอาการประหม่าดลญามักจะจิกเล็บลงบนอุ้งมือ“แล้วเธออยากไปให้พ้น ๆ ฉันไหมล่ะ?” คำตอบคือการส่ายหน้ารัว ๆ“งั้นก็อยู่”“คะ?!” ใจดลญาเต้นแรง แหงนหน้ามองคนพี่ที่ส่งสายตาทอประกายมาให้“ฉันเพิ่งรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยลืมยัยตัวแสบเจ้าแผนการจอมหลอกลวงได้เลย” คราวนี้เป็นดวงตากลมโ
บทที่ 19 ในใจมีเพียงเธอไหล่กว้างไหวสั่นแรงขึ้นขณะปิดหน้าร้องไห้หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่ร่างไร้สติของดลญาอยู่หลังประตูบานนั้น เดือนสิบโทรหาบิดาและธนินด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พูดไม่ได้ศัพท์จนบิดาต้องบอกให้ใจเย็นจะรีบไปหาส่วนธนินติดธุระอยู่ต่างจังหวัดแต่จะรีบมาทันทีที่เสร็จงาน ดวงตาคมแดงก่ำน้ำตาไหลพรากมองสิ่งที่อยู่ในมือ ‘สร้อยเกียร์วิศวะ’ ดลญายอมทิ้งชีวิตเพื่อเจ้าสิ่งนี้ทั้ง ๆ ที่มันแสนไร้ค่า เดือนสิบลูบหน้าแรง ๆ เสยผมขึ้น ส่ายศีรษะไปมา ในหัวมันขาวโพลนตอนที่ลากร่างไร้สติขึ้นมาบนฝั่ง ตะโกนเรียกหล่อน ไม่มีเสียงตอบกลับยิ่งทำให้ลนลาน แทบคลั่งเมื่อเห็นว่าในมือหล่อนกำอะไรอยู่ มือเล็กกำมันแน่นไม่ปล่อยจนเธอต้องใช้แรงง้างนิ้วทั้งห้าให้ปล่อยไม่นานคุณดนัยก็ถึงโรงพยาบาล เดือนสิบโผเข้ากอดท่านทันที ร่ำไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเมื่อครั้งที่รู้ความจริงเกี่ยวกับดลญา ช่วงนั้นบุตรสาวท่านเป็นบ้าไปเลย ไม่กินและไม่นอนเอาแต่ร้องไห้ กว่าจะกลับมาเป็นปกติ
เรื่องซุบซิบความสัมพันธ์ของคนในโรงงานมีมากมายนับไม่ถ้วน คบคนนี้ เลิกคนนั้น เป็นชู้ ลักลอบได้เสียกัน ดลญาอยู่นานจนเริ่มชินชากับเรื่องพวกนี้ หล่อนปรับตัวเข้ากับสังคมได้แล้วแม้จะไม่ได้มีเพื่อนสนิทเลยสักคนก็เถอะ การอยู่ลำพังนั้นไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพียงแต่ไม่มีคนไว้คอยพูดคุยปรึกษาก็เท่านั้น ดลญาไม่ใคร่สนใจผู้ใด หล่อนทำงานของตนเองให้เสร็จลุล่วงไปวัน ๆ ทว่าก็ต้องมีเรื่องราวให้ปวดเศียรเวียนเกล้าอีกครั้ง คู่อริเก่าอย่างนวลตาเริ่มเข้ามาหาเรื่องอีกครั้ง เนื่องมาจากแฟนเก่านวลตามาจีบดลญา หล่อนบอกปฏิเสธฝ่ายนั้นไปแล้วแต่ชายหนุ่มยังดื้อด้านตามรังควานไม่เลิก“แรด!” ดลญากลอกตา ก้นหย่อนลงเก้าอี้ทำงานไม่ถึงสามวินาทีก็ถูกด่ากระทบกระเทียบ หล่อนทำเฉยเหมือนไม่ได้ยิน หากอีกฝ่ายกลับเดินมาชนไหล่จนเกือบตกเก้าอี้ ดลญาถอนหายใจแรง ๆ ถึงชินกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อิจฉาริษยา แต่หล่อนก็เบื่อ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ไปยุ่งกับใครกลับโดนเกลียดเสียอย่างนั้น&n
บทที่ 18 สถานะที่ไม่ชัดเจนคุณดนัยและเดือนสิบเลือกใช้สวนหย่อมแทนการพูดคุยในห้อง ผู้มากอายุกว่ากระชับกรอบแว่นมองบุตรสาวนิ่ง ๆ เดือนสิบเองเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิดจึงเอาแต่ก้มหน้าประสานมืออยู่กลางลำตัว“กลับมาคบกันเหรอ?” คำถามของผู้เป็นพ่อยิงตรงเข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อม“เปล่าค่ะ” คำตอบของบุตรสาวทำให้คิ้วเข้มต้นฉบับขมวด“ไม่คบแล้วหนูคนนั้นมาอยู่ในห้องแกได้ไง?”“เอ่อ…” เดือนสิบเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ถึงสาเหตุที่ดลญาต้องมาอยู่กับเธอ ท่านนั่งเงียบฟังไม่ปริปากเอ่ยขัดจังหวะจนจบ“เรื่องบนเตียงไม่เกี่ยวกับว่าคบกันหรือไม่คบสินะ”“ไม่
วันหยุดสุดสัปดาห์เดือนสิบมีนัดกับธนินเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องทำ“มึงว่าอะไรนะ?! ตอนนี้น้องเดียร์อยู่คอนโดฯ มึงเหรอ?” สีหน้าและท่าทาของธนินดูตกใจกับสารใหม่ที่เพิ่งได้รู้ ชายหนุ่มหรี่ตามองเพื่อนที่ยังคงหน้านิ่งจิบเบียร์และหยิบถั่วเข้าปาก“น้องเดียร์ก็แปลก เป็นคุณหนูดี ๆ ไม่ชอบ อยากตกระกำลำบากมาเป็นสาวโรงงาน กูล่ะงงจริง” ธนินเกาหัวแกรก ๆ เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเพื่อนสนิท 
บทที่ 17 ไม่ชอบแต่ได้ชิดใกล้ ตาคมเลื่อนไปมองมุมล่างของแล็ปท็อปอยู่เสมอ สั่นขารอว่าเมื่อไรจะถึงเวลาเลิกงาน อาการนั้นทำให้เพื่อน ๆ ต่างมองเดือนสิบยิ้ม ๆ ด้วยรู้ถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวในไลน์ผลิต พอได้เวลาเลิกงานเดือนสิบก็ลุกพรวดปิดเครื่อง คว้ากระเป๋าพาดไหล่ บอกลาเพื่อนร่วมงานทันที หลังสแกนออกงานเรียบร้อย เดือนสิบแทบวิ่งไปยังลานจอดรถ สตาร์ตรถออกไปรอใครบางคนหน้าโรงงานทันที ร่างสูงชะเง้อจนคอยาว พอเห็นดลญาเดินถือกระเป๋าใกล้เข้ามาจึงขับรถตามหล่อน ‘ปี๊น!’ บีบแตรเรียกหล่อนเบา ๆ ดลญาสะดุ้งหันไปมอง
เดือนสิบอุ้มดลญามาจนถึงห้องพยาบาล ระยะไม่ไกลมากจึงไม่เหนื่อย หล่อนได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อย ตรวจดูอาการข้อเท้ายังพอเดินได้แต่อาจจะต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง เดือนสิบถอนหายใจหลายสิบครั้ง ยังอารมณ์เสียไม่หาย ไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ดลญาถูกรุมทำร้าย“เสร็จแล้วค่ะ ทำเรื่องขอลาหัวหน้าได้เลยนะคะ” เสียงของพยาบาลประจำโรงงานเอ่ยกับดลญา“ไม่เป็นไรค่ะ เดียร์จะไปทำงานต่อค่ะ”“จะไม่เป็นไรได้ไง ดูสภาพตัวเองหน่อย” เป็นเดือนสิบที่เดือดร้อนจนทนไม่ไหว พยาบาลมองทั้งสองเลิ่กลั่กก่อนปลีกตัวให้ทั้งคู่ได้คุยกัน“เดียร์ไม่อยากถูกไล่ออก” โทษสถานหนักของพนักงานที่ทะเลาะวิวาทคือไล่ออก“เธอมีเรื่องอะไรกับพวกนั้น” ดลญาเองก็ไม่รู้ หล่อนส่ายศีรษะช้
บทที่ 16 ห่วงแบบแอบ ๆ ดลญาลาป่วยครบกำหนดตามใบรับรองแพทย์แล้ว อาการเท้าแพลงยังมีอยู่บ้างแต่เดินคล่องขึ้นกว่าวันแรก หล่อนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องโดยเดือนสิบยืนสูบบุหรี่จิบกาแฟตรงระเบียง ร่างสูงสูดอากาศยามเช้าเข้าปอด รู้สึกสดชื่นจนเผลอผิวปากอย่างอารมณ์ดี สองวันที่ผ่านมาได้หลับเต็มตาไม่ตื่นขึ้นกลางดึกอย่างเคย เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับใบหน้าสวยหวานที่ไร้ซึ่งเครื่องสำอาง บุหรี่หมดมวนพอดี เดือนสิบทิ้งมันลงถังขยะ ขมวดคิ้วมองร่างเพรียวเล็กน้อย สาเหตุที่หลับสบายคงไม่ใช่เพราะหล่อนหรอกกระมัง “แต่งหน้าบ้างเถอะ ซีดอย่างกับศพ” วาจาร้าย ๆ รับอรุณ ดลญาทำปากยื่นบ่นอุบอิบ หยิบลิปสติกขึ้นมาเติม เ