“เออน่า…มึงก็น่าจะให้โอกาสน้องเขาหน่อย ตอนน้องจิ๊บกูก็นึกว่าจะคบกันยาว ๆ ที่ไหนได้ ตดยังไม่ทันจะหายเหม็นก็เลิกกันซะละ มึงเลิกปิดตัวปิดใจได้แล้ว หรือว่ามึงยังคิดถึงเรื่องพี่กัญอยู่วะ?” ชื่อนั้นเดือนสิบไม่ได้ยินมานานหลายปี พอได้ยินอีกครั้งข้างในอกเริ่มบีบรัด สีหน้าเปลี่ยนไปจนธนินที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดไม่คิดก็ได้แต่ก่นด่าตนเองในใจ เขาน่าจะรู้ดีว่ารุ่นพี่คนนั้นสร้างบาดแผลร้ายแรงไว้ในใจเพื่อนสนิทแค่ไหน
“กู…ขอโทษว่ะ” คนที่มีอดีตทำเพียงไหวไหล่ หยิบบุหรี่แล้วคล้องไหล่ธนินเดินไปพื้นที่สูบบุหรี่
ควันเทา ๆ กับใจหม่น ๆ คงเข้ากันดีหากมีฝนตกลงมา ทว่ายามนี้แดดเปรี้ยงจนต้องหยีตามองฟ้า เดือนสิบทอดถอนใจ พ่นควันออกปากเฉกเช่นเดียวกับธนิน
“ผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ต่างจากคนอื่น” ถึงหัวใจไม่ได้มีกำแพงหนาหลายชั้นจนยากจะเข้าไป ทว่ามันก็ไม่ได้เปิดรับทุกคนที่ผ่านเข้ามา เนื่องจากความชอกช้ำในรักครั้งเก่ายังคงฝังรากลึกอยู่ในใจยากจะลืมเลือน แผลเก่าที่ไม่มีวันหาย มันทำให้เดือนสิบกลายเป็นคนมองความรักเป็นสิ่งเลวร้ายนับแต่นั้นมา
ดลญาไม่ต่างอะไรจากกัญญารัตน์เลยแม้แต่น้อย หล่อนสวย รวยและเย่อหยิ่ง เป็นดาวคณะเฉกเช่นเดียวกัน ดูก็รู้ว่าที่เข้าหาคงมีสิ่งที่ต้องการจะได้จากเธอ เพียงแต่เดือนสิบไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร หากจะให้ถามออกไปตรง ๆ ดลญาก็คงไม่ตอบและอาจเฉไฉบอกชอบหลอก ๆ ให้ได้ยินอีก
เวลาเกือบสี่ทุ่มเห็นจะได้หลังเดือนสิบกินข้าว เล่นเกมและอาบน้ำเรียบร้อย ร่างสูงล้มตัวลงนอนเอกเขนกเช็กข่าวสารจากมือถือ มีเสียงแจ้งเตือนจากเพื่อนในโปรแกรมแชตเด้งขึ้นมา พอกดเข้าไปอ่านก็ถึงกับขมวดคิ้ว จากที่อารมณ์ดีก็คุกรุ่นขึ้น
DEAR : พี่เท็นนอนหรือยังคะ?
เดือนสิบอ่านแต่ไม่ตอบ มิหนำซ้ำปลายนิ้วยังเลื่อนไปหาปุ่มบล็อกอีกด้วย แต่คงเป็นโชคดีของดลญาเพราะมีสายเรียกเข้ามาพอดี ปลายสายคือธนิน
[ไอ้เ-หี้ยเท็น มึงได้ที่ฝึกงานแล้วใช่ปะ?] แล้วทั้งสองก็พูดคุยเรื่องการฝึกงานที่กำลังจะเกิดขึ้นไปหลายนาที โดยเดือนสิบได้อีเมลตอบกลับยอมรับการฝึกงานจากบริษัทฯ ที่เลือกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กำลังจะยื่นเรื่องพรีเซนต์กับอาจารย์ที่ปรึกษา หากผ่านหญิงสาวจะเริ่มฝึกงานทันที
[แล้วไมมึงไม่เลือกบริษัทพ่อวะ?] กิจการครอบครัวของเดือนสิบเกี่ยวกับโรงงานแฟบเหล็ก (ประกอบเชื่อมโลหะโดยการแปรรูปโลหะเป็นรูปทรงต่างๆ ) อยู่ในจังหวัดระยองที่รับออกแบบงานวิศวกรรม และผลิตอุปกรณ์และเครื่องจักร OEM ให้กับบริษัททั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการติดตั้งและงานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร
“ขืนคนในโรงงานรู้ว่ากูเป็นลูกพ่อ ไม่ได้ทำการทำงานกันพอดี คงได้แต่นั่งกระดิกนิ้วตีนรอคนประเคนน้ำข้าวทั้งวัน” ธนินหัวเราะเข้าใจเพื่อนดี เพราะเขาเองก็เป็นลูกหลานเจ้าของร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเหมือนกัน ตอนทำงานพาร์ตไทม์แล้วมีคนรู้นามสกุล จากนั้นธนินก็โดนปฏิบัติราวกับราชา จะจับไม้ถูพื้นหรือนำจานไปเก็บก็มีคนวิ่งแจ้นแซงหน้าแล้วอาสาทำแทนหมด แบบนั้นมันน่าเบื่อจะตาย
เดือนสิบคุยกับธนินจนลืมดลญาไปเลย พอวางสายก็เพิ่งเห็นการแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชตที่เด้งรัวจนเครื่องสั่น มือเรียวเลื่อนอ่านข้อความที่ยาวเป็นหางว่าว เหมือนหญิงสาวรายงานว่าวันนี้ตนเองทำอะไรบ้าง ไปที่ไหนและคิดจะทำอะไรในวันพรุ่งนี้ เดือนสิบถอนหายใจหมายจะจัดการแชตของหล่อนให้พ้นสายตา ทว่า…
‘ติ๊ง!’ ข้อความแชตล่าสุดที่ไม่ได้เป็นตัวอักษรเด้งขึ้นมา มันทำให้ใจของเดือนสิบวูบไหวไม่น้อย มันคือรูปถ่ายที่ร่างเพรียวสวมชุดนอนแนบเนื้อ ชิ้นบนเป็นสายเดี่ยวเอวลอยผ้าซาตินกับกางเกงขาสั้นมีลายกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก ผิวขาวทรวงสล้างเรียกเลือดในกายให้ร้อนวูบ แม้จะบอกว่าไม่สนใจ หากแต่ทรวงเต้าคู่ใหญ่ลอยชัดอยู่ตรงหน้านั้นเรียกสายตาให้หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นได้นานหลายวินาที เดือนสิบสะบัดหน้าพยายามไม่สนใจ ด้วยรู้ว่าหล่อนจงใจยั่วยวน
DEAR : ชุดนี้น่ารักไหมคะพี่เท็น เดียร์เพิ่งใส่ครั้งแรก
ดลญาส่งข้อความมาอีกครั้งพร้อมกับแนบรูปที่เห็นช่วงสะดือต่ำลงไป เดือนสิบชักเริ่มหายใจติดขัด แม้จะไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ทว่าสาววิศวะฯ นั้นมักจบอารมณ์ร้อนเร่าในกายด้วยวันไนต์สแตนด์กับสาวสักคน ช่วงนี้เป็นฤดูของการหาสถานที่ฝึกงาน เดือนสิบยุ่งมากจึงละเว้นเรื่องเซ็กซ์ไปสักพัก พอได้เห็นรูปที่ดลญาตั้งใจส่งมายั่วใจชักเต้นแรง ความรู้สึกที่ขาดหายไปนานเริ่มปะทุ
‘ติ๊ง!’ รูปที่สามยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมันใกล้กับช่วงเชิงกรานของหล่อนมาก ทั้งยังเห็นขอบจีสตริงตัวจ้อยอีกด้วย เดือนสิบคำรามอย่างอดกลั้น
“ยัยตัวแสบ!” ขว้างมือถือไปไกล ต้องพยายามสงบสติอารมณ์ รีบคว้าผ้าขนหนูแล้วกลับไปอาบน้ำอีกครั้ง หวังว่าน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้ใจและกายแสนร้อนรุ่มบรรเทาลงได้บ้าง
ฟากยัยตัวแสบมองมือถือที่ไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่าย แม้จะโมโหนิดหน่อยที่ไม่เป็นดั่งใจหวัง แต่หล่อนก็ถือว่าการหว่านเมล็ดพืชในครั้งนี้หวังผลในอนาคตได้แน่นอน จากที่สืบมาจากหลาย ๆ คน ถึงเดือนสิบไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน ทว่ารุ่นพี่สาวกลับมีกิตติศัพท์มากมายด้านเรื่องบนเตียง ‘ลิ้นหวาน’ ‘นิ้วดุ’ คือสิ่งที่ดลญาพอทราบมาบ้าง ผู้หญิงที่เคยนอนให้เดือนสิบกกก่ายล้วนมีรูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากหล่อนมากนัก ในเมื่อร่างกายนี้เป็นสิ่งที่อาจทำให้เดือนสิบชอบได้ ดลญาขอเสี่ยงดวงดูหน่อย หล่อนควานหาชุดนอนที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุดในตู้ ใส่มันโดยชิ้นบนโนบรา ทว่าชิ้นล่างมีจีสตริง ตั้งใจโพสท่าถ่ายรูปที่ดูยั่วยวนที่สุดส่งให้ฝ่ายนั้น ถึงเดือนสิบไม่ได้ตอบข้อความกลับมา แต่ก็พอเดาได้ว่าการที่รุ่นพี่สาวได้เห็นคงทำให้เนื้อเต้นใจเต้นได้ไม่น้อย
แม้จะต้องเอาตัวเข้าแลก ดลญาก็ไม่สะท้าน หมากเกมนี้หล่อนจะต้องเป็นผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว สิ่งที่หมายมั่นคือเกียร์ของรุ่นพี่วิศวะฯ เพื่อเป็นการการันตีในความนิยมของหล่อนที่สามารถคว้ารุ่นพี่แสนเย็นชาที่ไม่เคยให้ใจใครมาได้ หากได้ตัวมาด้วยถือว่าเป็นของแถมแล้วกัน
บทที่ 5 แรงกระเพื่อมที่แผ่วเบาและคงเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมีหลายคนเห็นเหตุการณ์พอดิบพอดี เช้านี้หัวข้อสนทนาในตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์และนิเทศศาสตร์จึงเป็นเรื่องของเดือนสิบและดลญา มีข่าวลือออกไปหลากหลายประเด็นตามแต่คนจะจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นดาวคณะสวยเด่นอย่างดลญากู่ก้องร้องตะโกนว่ามีใจให้รุ่นพี่วิศวะฯ สาว หรือจะเป็นเดือนสิบปฏิเสธรักไม่แยแสดลญาแม้แต่น้อย และก็มีหลายคนที่ตั้งข้อสงสัยว่าทั้งคู่อาจเป็นแฟนกันแล้ว เพียงแต่ง้องอนกันตามประสาคนรัก ข่าวต่าง ๆ ดังให้ได้ยินแค่เพียงช่วงเช้าก่อนจะซาลงไปเพราะมีเรื่องอื่นน่าสนใจกว่า แต่คงไม่ใช่กับเบญจา หล่อนยืนหน้าเครียดกอดอกมองดลญาไม่วางตา“นังนั่นมีอะไรดีกว่าฉัน?” เบญจาเปรยขึ้นขณะเดินเข้ามายังโรงอาหารของคณะ เพื่อนในกลุ่มไม่ได้ตอบเพียงยักไหล่เล็กน้อยด้วยเข้าใจว่าเบญจาไม่ได้ถามแต่พูดกับตนเอง ถึงเบญจาจะเป็นน้องปีหนึ่งสดใหม่ แต่ความสวยยังห่างชั้นกับดลญาอยู่มาก รายนั้
“นะคะพี่เท็น…” อีกครั้งที่สาวนิเทศใช้ทักษะการแสดงที่ร่ำเรียนมา“เฮ้อ…” เดือนสิบพ่นลมหายใจหนัก ๆ“อืม ก็ได้” ลงท้ายก็ยอม คงเพราะน้ำเสียงและท่าทางอ้อน ๆ นั้นกระมังถึงพาเอาใจสั่นไหว“จริงนะคะ” ดวงตากลมโตทอประกาย ซ่อนความดีใจไม่มิด“แต่บอกไว้เลยนะว่า คนอย่างฉันไม่มีทางเชื่อผู้หญิงรวย ๆ อย่างเธอหรอก” ดูเหมือนเดือนสิบต้องเตือนตัวเองว่าอย่าหลงกลสายตาและท่าทางราวลูกแมวน้อยของอีกฝ่ายด้วยการทำเสียงห้วน ๆ ซึ่งมันอาจใช้ไม่ได้ผลสักเท่าไร“แหม…แล้วนักศึกษาที่มหา’ลัยนี้ใครไม่รวยบ้างคะ พี่เท็นก็รวย” ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแต่คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเดือนสิบนั้นต้องสอบเข้าถึงจะได้ศึกษา มีเงินแล้วได้เรียนคงใช้ไม่ได้สำหรับที่นี่ ส่วนดลญา
บทที่ 1 ดลญาเดือนสิบภาพสะท้อนในกระจกเงาแสดงให้เห็นถึงผู้หญิงร่างผอมเพรียวทว่ามีหน้าอกหน้าใจใหญ่คัพซี เอวคอดและสะโพกผาย หล่อนกำลังหยิบลิปสติกสีใหม่ขึ้นมาปาดริมฝีปาก ปลายนิ้วไล้เกลี่ยไปตามขอบปากให้ฟุ้งตามสมัยนิยม “สีสวยว่ะแก” ใครสักคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยชม หล่อนคนนั้นยักคิ้ว ยื่นมันไปให้“ลองไหม?”“ไม่ละ ฉันทาสีแดงไม่เคยรอดสักที” เจ้าของลิปสติกยักไหล่แล้วเก็บมันลงกระเป๋าแบรนด์Cคอลเลกชันใหม่ หญิงสาวสำรวจใบหน้าและทรงผมของตนเองอีกครั้ง ก่อนเดินออกจากห้องน้ำ ตลอดทางมีสายตานับสิบคอยมองตลอด ด้วยความที่หล่อนเป็นผู้หญิงสวยและยังเป็นถึงดาวคณะอีกด้วย ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักและต้องการตีสนิทด้วย แต่ความหยิ่งยโสของคนสวยก็เลื่องชื่อไม่น้อย ‘ดลญา หรือ เดียร์’ หลานสาวอดีตผู้นำการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฐานะทางสังคมและการเงินเข้าขั้นเศรษฐี แบรนด์เนมทั้งตัว ขับซูเปอร์คาร์คันละสี่สิบล้านมาเรียนทุกวัน และคบค้าสมาคมเฉพาะเพื่อนระดับเดียวกันเท่านั้น ดลญาเดินพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนในกลุ่มไปจนถึงหน้าอาคารเรียน “ขอโทษครับ” เสียงทุ้มเรียกความสนใจ หล่อนปรายตามองเล็กน้อย“เอ่อ…พี่ชื่อแม๊กนะ อยู่บริหาร” “ค่ะ” ใบหน้าของหญิงส
เสียงลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นดังไปทั่วพื้นที่ มีผู้หญิงร่างสูงกำลังเลี้ยงลูกบอลไปยังฝั่งตรงข้ามโดยมีผู้เล่นอีกฝ่ายคอยสกัดกั้นไม่ให้ร่างสูงส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม ทว่าคนที่ชำนาญกลับหลบเลี่ยงและสามารถชูตบอลลงแป้นคว้าสองคะแนนให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างง่ายดาย เรียกเสียงโห่ร้องดีใจจากผู้ชมบนอัฒจันทร์ได้มากมาย ผู้หญิงร่างสูงยังคงทำคะแนนให้กับทีมได้อีกหลายแต้มติดกันจนจบเกมการแข่งขัน ทีมที่ชนะก็คือทีมของหญิงสาวนั่นเอง ร่างสูงโปร่งเดินมาทิ้งกายลงข้างสนาม คว้าขวดน้ำขึ้นมาดื่มจนหมด การแข่งขันไม่ได้จริงจังอะไรและเป็นการเล่นแบบผสมชายหญิงด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกลับไม่ออมแรงให้ชายชาตรีสักนิด กระทบไหล่ กระแทกตัวใส่จนล้มหน้าคว่ำไปหมด “เฮ้ย! ไอ้เท็น” เพื่อนร่วมทีมตบไหล่ “กูจะชวนมึงไปอเล็กซ์หน่อย” อเล็กซ์คือชื่อสถานบันเทิงอันเลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักของนักศึกษาเกือบทุกคน “ห้ามปฏิเสธ คราวที่แล้วมึงก็ไม่ไปทีละนะ” “อยากอ่านหนังสือ” เจ้าตัวบอกง่าย ๆ พลางปรายตามองกลุ่มหญิงสาวที่กำลังโบกมือให้ตนเองอยู่บนอัฒจันทร์ ‘เท็น หรือ เดือนสิบ’
บทที่ 2 ยาก ๆ สิเร้าใจ รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสถานบันเทิง พนักงานดูแลความปลอดภัยต่างกรูเข้ามาใกล้ด้วยเหตุจากสภาพรถยนต์และคนขับดูไม่ใช่ลูกค้ามีระดับอย่างที่เคยเข้าใช้บริการ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดขาวสวมทับด้วยเชิ้ตสีดำแขนยาว กางเกงยีนและรองเท้ากีฬาสภาพเขรอะไปด้วยฝุ่นกำลังเลิกคิ้วมองเหล่าชายฉกรรจ์สองสามคนตรงหน้า “น้องมาผิดที่หรือเปล่า?” หนึ่งในนั้นถามขึ้น มองอีกฝ่ายศีรษะจดปลายเท้า “ทำไม?” น้ำเสียงติดห้วนทำให้คนถามขมวดคิ้ว เจ้าของรถกระบะสะบัดปลายเสื้อเชิ้ตไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงไปยังทางเข้า แต่กลับถูกพนักงานกลุ่มนั้นตามมารั้งแขนไว้ “เฮ้ย!” นั่นคือเสียงของเดือนสิบ หญิงสาวมองมือคล้ำของอีกฝ่าย สีหน้าแสดงความไม่พอใจชัดเจน “จะออกไปดี ๆ หรือ…” “ทำอะไรวะ?” ใครสักคนร้องทักเสียงดัง กลุ่มชายฉกรรจ์ถอยห่างเพราะนั่นคือปวินเจ้าของร้าน “น้องผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกค้าของเราครับคุณวิน” หัวคิ้วปวินขมวดปม “นี่น้องกูเอง บ้านมันรวยกว่ากูอีก แต่ชอบทำตัวยาจก” ปวินหัว
“ทำอะไรของเธอ” เสียงเข้มกดต่ำ หรี่ตามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง ทว่าดลญากลับฉีกยิ้มหวาน ส่งสายตาทอประกาย หล่อนไม่มีทางยอมเสียหน้าเพื่อนในกลุ่มและตกเป็นรองเบญจาเด็ดขาด “พี่เท็นเลี้ยงค็อกเทลเดียร์สักแก้วสิคะ” “เป็นขอทานเหรอ?” เดือนสิบตอบเสียงเรียบ พยายามแกะมือปลาหมึกของหล่อนออก “ว่าอะไรนะคะ?” เมื่อครู่หล่อนฟังไม่ผิดแน่ หล่อนถูกรุ่นพี่สาวด่า!“นอกจากเป็นขอทานแล้วยังหูไม่ดีอีกนะ เหอะ!” “เอ๊ะ!” คราวนี้คุณหนูคนสวยไม่อาจทนยิ้มหวานได้อีกแล้ว หล่อนเป็นผู้ปล่อยแขนเอง ตากลมโตจ้องเขม็งแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด แต่เดือนสิบผู้ที่ไม่สนใจโลกทำเพียงไหวไหล่ไม่ยี่หระต่อสิ่งที่พูดธนินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกมุมปาก มองทั้งสองยิ้ม ๆ เพราะไม่คาดคิดว่าดาวคณะนิเทศศาสตร์จะเป็นฝ่ายเข้าหาเพื่อนสนิทของตนก่อน ทั้งยังโดนตอกหน้าแทบหงายอีก น่าเสียดายที่ยามนี้ไฟทั้งผับถูกดับให้มืดลงกว่าเดิม คนอื่นจึงไม่มีทางรู้เลยว่าเพื่อนสนิทของเขาและแม่สาวทรงโตกำลังทำอะไรกันอยู่ แม้ภาพจะดูเกาะก่ายกัน ทว่าความจริงไม่ใช่อย่างนั้นสักนิด ชายหนุ่มยักไหล่คว้าแก้วเครื่องดื่มของตนแล้วปลีกไปอีกทาง ไม่ใช่
บทที่ 3 ฉันรู้ทันคงเพราะคนร่างสูงที่เอาแต่ยืนกอดอกถอนหายใจกระมังจึงทำให้ดลญารู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำ เพราะถูกคนเมาเข้าใกล้หวังทำมิดีมิร้ายขณะเดินมาเข้าห้องน้ำ“ยืนไหวไหม?” น้ำเสียงราบเรียบถามขึ้น ไม่ได้แสดงถึงความเป็นห่วงใยหรือหงุดหงิด “วะ…ไหวค่ะ” เดือนสิบปล่อยให้ดลญายืนด้วยตนเอง แต่เพียงเสี้ยววินาทีหล่อนก็ทำท่าจะล้มหงายหลัง ผลสุดท้ายคนที่บอกตนเองว่าไม่อยากสนใจก็ต้องคอยดูแลหล่อน “ไปโรงพยาบาลไหม?” ดูเหมือนข้อเท้าอีกฝ่ายจะแพลง “พี่เท็นจะไปส่งเหรอคะ?” ยื่นคำถามหยั่งเชิง เห็นแววตาลังเลของเดือนสิบจึงลอบยิ้ม “หรือจะเรียกแท็กซี่ให้เดียร์ก็ได้ค่ะ แต่ว่า…” ใบหน้าสวยหวานเจื่อนลง คิ้วเรียวขมวด ทั้งน้ำเสียงยังฟังดูคล้ายหล่อนมีความกังวลระคนกลัว “เพิ่งมีข่าวแท็กซี่ข่มขืนและฆ่านักศึกษาไปเมื่อวันก่อน” ข่าวนั้นเดือนสิบเองก็ได้ยิน เนื่องจากเป็นข่าวดังที่คนร้ายยังลอยนวลอยู่ และมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สาววิศวะฯ นิ่งไปชั่วขณะ ชำเลืองมองคนที่ยังนั่งคลึงขาตนเอง ลอบถอนหายใจก่อนเอ่ย“เดี๋ยวพาไป ลุก
หลังจากได้เบอร์โทรและไลน์ของเดือนสิบดลญาจึงรีบส่งไปอวดเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ทั้งยังแนบรูปยามรุ่นพี่สาวขับรถและรอหล่อนขณะพบแพทย์อีกด้วย เรียกเสียงฮือฮาในกลุ่มได้เป็นอย่างมาก DEAR : ฉันบอกพวกแกแล้วว่าอย่าเอาฉันไปเทียบกับนังจิ๊บ คนละชั้นกันย่ะ!” JEEJEE : ย่ะ แม่คนเก่ง ฉันจะรอดูว่าแกจะได้เกียร์พี่เท็นตอนไหน อีกสักปีหรือสองปีน้า? หรือจะไม่ได้เลย คริคริ นั่นถือเป็นประโยคสบประมาทสำหรับดลญาผู้ไม่ชอบเป็นฝ่ายแพ้ หล่อนเชิดหน้ากดแป้นพิมพ์รัวDEAR : อย่ามาดูถูกกันนะ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้าภายในสามเดือนฉันไม่ได้เกียร์พี่เท็นมาคล้องคอ ฉันจะให้เงินสดโอนเข้าบัญชีพวกแกคนละห้าหมื่นไปเลย สิ้นประโยคนั้นในแชตกลุ่มก็เงียบลงก่อนที่จะมีสติกเกอร์หลากหลายรูปแบบแสดงขึ้นที่หน้าจอ ดูเหมือนเพื่อนในกลุ่มจะชอบข้อเสนอที่ดลญายื่นให้ DEAR : แต่ถ้าฉันได้เกียร์พี่เท็นมาภายในสามเดือน พวกแกต้องรวมเงินให้ฉันหนึ่งแสน ตกลงไหม?ALL : DEAL! ดลญาทิ้งกายลงยังเตียงนุ่มทันทีหลังจากทำข้อตกลงกับเพื่อนในกลุ่มเสร็จสรรพ ตากลมสวยมองภาพของเดือนสิบที่แอบถ่ายไว้ หญิงสาวแสดงสีหน้าร้ายกาจอย่างไม่ปิดบัง ดาวคณะคนสวยมีแผนการในหัวอยู่แล้ว จริง ๆ เด