“นะคะพี่เท็น…” อีกครั้งที่สาวนิเทศใช้ทักษะการแสดงที่ร่ำเรียนมา
“เฮ้อ…” เดือนสิบพ่นลมหายใจหนัก ๆ
“อืม ก็ได้” ลงท้ายก็ยอม คงเพราะน้ำเสียงและท่าทางอ้อน ๆ นั้นกระมังถึงพาเอาใจสั่นไหว
“จริงนะคะ” ดวงตากลมโตทอประกาย ซ่อนความดีใจไม่มิด
“แต่บอกไว้เลยนะว่า คนอย่างฉันไม่มีทางเชื่อผู้หญิงรวย ๆ อย่างเธอหรอก” ดูเหมือนเดือนสิบต้องเตือนตัวเองว่าอย่าหลงกลสายตาและท่าทางราวลูกแมวน้อยของอีกฝ่ายด้วยการทำเสียงห้วน ๆ ซึ่งมันอาจใช้ไม่ได้ผลสักเท่าไร
“แหม…แล้วนักศึกษาที่มหา’ลัยนี้ใครไม่รวยบ้างคะ พี่เท็นก็รวย” ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแต่คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเดือนสิบนั้นต้องสอบเข้าถึงจะได้ศึกษา มีเงินแล้วได้เรียนคงใช้ไม่ได้สำหรับที่นี่ ส่วนดลญาเองเลือกเรียนเพราะหวังคอนเนกชันที่มากขึ้นและไม่ต้องการกดดันตัวเองขณะสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่การเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ใครพูดกัน อาจารย์แต่ละท่านไม่มีปล่อยเกรดหรือออกข้อสอบง่าย ๆ แต่ละเทอมที่ผ่านไปทำให้ดลญาเหนื่อยกับการเรียนการสอบใช่เล่น
ร่างสูงยืนมองข้อความแชตของดลญา หล่อนส่งรูปอรุณสวัสดิ์ยามเช้าเป็นชุดนอนสายเดี่ยวเนื้อผ้าบางเฉียบ คงเพราะอกใหญ่ ๆ ของเจ้าหล่อนกระมังเสื้อมันถึงได้ตัวเล็กกระจ้อย กางเกงสั้นกุดจนเห็นแก้มก้น ใจแทบวายขณะไล่สายตาไปตามเอวคอดและปลีน่องเล็ก นับตั้งแต่วันที่รับข้อเสนอของอีกฝ่ายเดือนสิบก็รู้สึกว่ามือถือของตนไม่ได้มีเพียงธนินคนเดียวอีกแล้วที่คอยส่งข้อความมาหา ยามนี้มีดลญาเพิ่มมาอีกคน ซึ่งเจ้าหล่อนขยันส่งทุกช่วงเวลา เช้า เที่ยง เย็น ค่ำ ดึก อันที่จริงเดือนสิบค่อนข้างรำคาญในช่วงสามสี่วันแรก ทว่ามีวันหนึ่งที่มือถือเงียบไร้เสียง ‘ติ๊ง ๆ’ อย่างเคย เธอกลับร้อนใจ หยิบมือถือดูบ่อยครั้งกว่าวิสัยที่เป็นปกติ ทว่าไม่ได้ทักไปสอบถามเพราะไม่อยากให้หล่อนคิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป คืนนั้นเดือนสิบรอข้อความจากดลญาจนล่วงเลยเข้าวันใหม่ ดลญาถึงส่งข้อความมา นั่นแหละเดือนสิบถึงได้นอนหลับได้
อาทิตย์ที่ห้าของการฝึกงาน เดือนสิบเข้ากับพี่ ๆ ที่โรงงานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะไม่ค่อยพูดก็เถอะ ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว งานหนักเบาไม่เกี่ยงและทำได้ดีตามคำสั่งของรุ่นพี่จึงทำให้ทุกคนชื่นชอบเดือนสิบเป็นอย่างมาก ร่างสูงกระชับเป้ขึ้นไหล่กระพุ่มมือไหว้เอ่ยลารุ่นพี่ที่ทำงาน
“เท็นอย่าเพิ่งไป” พี่นัดเอ่ยรั้งคนตัวสูงไว้ ชายหนุ่มส่งยิ้มเดินเข้ามาตบไหล่
“รีบกลับไหม?” เดือนสิบอึกอักเล็กน้อยแต่ก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบกลับไป
“งั้นดีเลย วันนี้มีสังสรรค์กันเล็กน้อย อยากให้เท็นไปด้วย ถือว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับสำหรับการฝึกงานคราวนี้แล้วกัน”
“เอ่อ…” ถึงจะเริ่มเข้ากับพี่ ๆ ในที่ฝึกงานได้แล้ว แต่เดือนสิบไม่นิยมสังสรรค์กับคนแปลกหน้า เธอกลัวว่าหากดื่มกินจนเมามายจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้ ถึงจะเป็นคนคอแข็งทว่าระวังไว้ก็ดีกว่าประมาท
“ไปเถอะ พวกพี่เลี้ยงเอง นี่กำลังเก็บของกันอยู่ ไม่นาน ๆ” เรื่องค่าใช้จ่ายคนมีฐานะอย่างสาววิศวะฯ ไม่ได้กังวลเลยสักนิด หญิงสาวยังไม่ตอบ มองกลับไปแล้วเห็นทุกคนยืนลุ้นคำตอบอยู่
“ก็ได้ค่ะ แต่เท็นคงอยู่ดึกมากไม่ได้” จึงตอบตกลงอย่างเสียมิได้
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” พี่นัดตบไหล่อีกครั้ง และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ดลญาส่งข้อความแชตมาหา
DEAR : เลิกงานแล้วใช่ไหมคะ วันนี้พี่เท็นไปกินข้าวเย็นกับเดียร์นะคะ
10/10 : มีนัดกับพี่ที่โรงงาน
บทสนทนาในหน้าโปรแกรมแชตจบลงแค่นั้นเพราะเดือนสิบถูกรุ่นพี่ในโรงงานคล้องคอเดินไปยังลานจอดรถก่อนพากันขับรถไปยังผับกึ่งร้านอาหาร เดือนสิบจิบเบียร์ที่พี่นัดยื่นมาให้โดยฝั่งตรงข้ามเป็นรุ่นพี่สาวที่ต้องติดต่องานกันอยู่บ่อยครั้ง
“เท็นอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ” พี่แจงบอกด้วยรอยยิ้ม แม้ด้านในผับจะมีเพียงแสงสลัวจากไฟดิสโก้ แต่ทุกคนก็เห็นว่าหล่อนใบหน้าแดงและมีอาการขวยเขินรุ่นน้องตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด คนรอบโต๊ะส่งสายตาล้อเลียนด้วยรู้ว่าแจงแอบชอบเดือนสิบจึงชวนหล่อนมาร่วมสังสรรค์ด้วย
“พี่แจงสั่งเลยค่ะ เท็นกินได้ทุกอย่าง” บอกออกไปด้วยความสุภาพ จากนั้นทุกคนต่างดื่มกินพูดคุยสนุกสนานท่ามกลางเสียงเพลงที่เริ่มเปลี่ยนจากคลอเบา ๆ เป็นดังกระหึ่ม หลายคนลุกจากเก้าอี้ไปวาดลวดลายออกสเต็ปเต้น เดือนสิบมองขำขันพลางจิบเบียร์ไปเรื่อย ๆ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ พี่แจงจากที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ขยับเข้ามาใกล้ จนบัดนี้หล่อนอยู่ด้านข้าง บทสนทนาเต็มไปด้วยเรื่องเรียนและการฝึกงาน คนเปิดประเด็นคงไม่พ้นแจง เดือนสิบตอบคำถามและเอ่ยเสริมบ้างตามประสาคนพูดน้อย เวลาล่วงเลยมาเกือบสี่ทุ่มกว่า ทุกคนเริ่มหน้าแดงด้วยฤทธิ์ของมึนเมาที่ดื่มกิน แจงเองก็ดูจะกล้ามากขึ้น เพราะหล่อนเริ่มเกาะแกะเดือนสิบ ส่งสายตาหวานเชื่อมไม่ปิดบังความรู้สึก เดือนสิบขยับกายอึดอัดก่อนขอตัวลุกขึ้นไปสูบบุหรี่ แจงเดินตาม แต่หล่อนสะดุดขาตนเองจนเดือนสิบต้องคว้าเอวไว้แล้วพากันมานั่งพักบริเวณพื้นที่สูบบุหรี่
ควันสีเทาลอยไปตามอากาศ แจงนั่งไขว่ห้างเท้าคางมองเดือนสิบตาเยิ้ม อาจเพราะพิษสุราทำให้ความกล้าเพิ่มดีกรีจากปกติ หล่อนเป็นคนเงียบ ๆ ดูเรียบร้อย มาบัดนี้กลายเป็นแม่เสือสาวจ้องตะครุบเหยื่อ
“เท็นมีแฟนหรือยัง?” แจงใจกล้าถามสิ่งที่ใคร่รู้ น้ำเสียงอ้อแอ้นั้นแสดงถึงอาการเมา
“เท่แบบนี้มีแฟนแล้วแน่เลย” เดือนสิบไม่ได้ตอบ เธอแค่สูบอัดควันเข้าปากแล้วปล่อยมันล่องลอยอีกครั้ง
“พี่มีหวังไหม?” คราวนี้คนที่คิดว่าไม่สนใจต้องละสายตากลับไปมอง
“อายุเราก็ไม่ได้ห่างกันมากนะ พี่ยี่สิบห้าเอง” มีแต่แจงที่พูดความรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว เดือนสิบยังคงเอาแต่เงียบ สูบบุหรี่จนหมดมวน
“เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” ร่างสูงเหยียดกายขึ้น เอียงใบหน้ามองแจงเล็กน้อย
“เท็นยังไม่ตอบพี่เลย” หล่อนยืนขึ้น สืบเท้าเข้าหาก่อนจู่โจมช่วงชิงริมฝีปากเดือนสิบที่ยังคงมีกลิ่นบุหรี่จาง ๆ ติดอยู่ คนร่างสูงชะงักงัน ไม่คาดคิดว่ารุ่นพี่สาวจะกล้าทำเช่นนี้กับตนเอง ยังไม่ทันได้ผลักไสอีกฝ่ายหรือเอ่ยอันใด
“พี่เท็น!” หันขวับไปมองต้นเสียง พบร่างเพรียวที่มีสีหน้าปั้นปึ่งกำลังเดินปรี่เข้ามาใกล้ เดือนสิบลอบยิ้ม รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เห็นดลญา
บทที่ 1 ดลญาเดือนสิบภาพสะท้อนในกระจกเงาแสดงให้เห็นถึงผู้หญิงร่างผอมเพรียวทว่ามีหน้าอกหน้าใจใหญ่คัพซี เอวคอดและสะโพกผาย หล่อนกำลังหยิบลิปสติกสีใหม่ขึ้นมาปาดริมฝีปาก ปลายนิ้วไล้เกลี่ยไปตามขอบปากให้ฟุ้งตามสมัยนิยม “สีสวยว่ะแก” ใครสักคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยชม หล่อนคนนั้นยักคิ้ว ยื่นมันไปให้“ลองไหม?”“ไม่ละ ฉันทาสีแดงไม่เคยรอดสักที” เจ้าของลิปสติกยักไหล่แล้วเก็บมันลงกระเป๋าแบรนด์Cคอลเลกชันใหม่ หญิงสาวสำรวจใบหน้าและทรงผมของตนเองอีกครั้ง ก่อนเดินออกจากห้องน้ำ ตลอดทางมีสายตานับสิบคอยมองตลอด ด้วยความที่หล่อนเป็นผู้หญิงสวยและยังเป็นถึงดาวคณะอีกด้วย ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักและต้องการตีสนิทด้วย แต่ความหยิ่งยโสของคนสวยก็เลื่องชื่อไม่น้อย ‘ดลญา หรือ เดียร์’ หลานสาวอดีตผู้นำการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฐานะทางสังคมและการเงินเข้าขั้นเศรษฐี แบรนด์เนมทั้งตัว ขับซูเปอร์คาร์คันละสี่สิบล้านมาเรียนทุกวัน และคบค้าสมาคมเฉพาะเพื่อนระดับเดียวกันเท่านั้น ดลญาเดินพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนในกลุ่มไปจนถึงหน้าอาคารเรียน “ขอโทษครับ” เสียงทุ้มเรียกความสนใจ หล่อนปรายตามองเล็กน้อย“เอ่อ…พี่ชื่อแม๊กนะ อยู่บริหาร” “ค่ะ” ใบหน้าของหญิงส
เสียงลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นดังไปทั่วพื้นที่ มีผู้หญิงร่างสูงกำลังเลี้ยงลูกบอลไปยังฝั่งตรงข้ามโดยมีผู้เล่นอีกฝ่ายคอยสกัดกั้นไม่ให้ร่างสูงส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม ทว่าคนที่ชำนาญกลับหลบเลี่ยงและสามารถชูตบอลลงแป้นคว้าสองคะแนนให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างง่ายดาย เรียกเสียงโห่ร้องดีใจจากผู้ชมบนอัฒจันทร์ได้มากมาย ผู้หญิงร่างสูงยังคงทำคะแนนให้กับทีมได้อีกหลายแต้มติดกันจนจบเกมการแข่งขัน ทีมที่ชนะก็คือทีมของหญิงสาวนั่นเอง ร่างสูงโปร่งเดินมาทิ้งกายลงข้างสนาม คว้าขวดน้ำขึ้นมาดื่มจนหมด การแข่งขันไม่ได้จริงจังอะไรและเป็นการเล่นแบบผสมชายหญิงด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกลับไม่ออมแรงให้ชายชาตรีสักนิด กระทบไหล่ กระแทกตัวใส่จนล้มหน้าคว่ำไปหมด “เฮ้ย! ไอ้เท็น” เพื่อนร่วมทีมตบไหล่ “กูจะชวนมึงไปอเล็กซ์หน่อย” อเล็กซ์คือชื่อสถานบันเทิงอันเลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักของนักศึกษาเกือบทุกคน “ห้ามปฏิเสธ คราวที่แล้วมึงก็ไม่ไปทีละนะ” “อยากอ่านหนังสือ” เจ้าตัวบอกง่าย ๆ พลางปรายตามองกลุ่มหญิงสาวที่กำลังโบกมือให้ตนเองอยู่บนอัฒจันทร์ ‘เท็น หรือ เดือนสิบ’
บทที่ 2 ยาก ๆ สิเร้าใจ รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสถานบันเทิง พนักงานดูแลความปลอดภัยต่างกรูเข้ามาใกล้ด้วยเหตุจากสภาพรถยนต์และคนขับดูไม่ใช่ลูกค้ามีระดับอย่างที่เคยเข้าใช้บริการ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดขาวสวมทับด้วยเชิ้ตสีดำแขนยาว กางเกงยีนและรองเท้ากีฬาสภาพเขรอะไปด้วยฝุ่นกำลังเลิกคิ้วมองเหล่าชายฉกรรจ์สองสามคนตรงหน้า “น้องมาผิดที่หรือเปล่า?” หนึ่งในนั้นถามขึ้น มองอีกฝ่ายศีรษะจดปลายเท้า “ทำไม?” น้ำเสียงติดห้วนทำให้คนถามขมวดคิ้ว เจ้าของรถกระบะสะบัดปลายเสื้อเชิ้ตไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงไปยังทางเข้า แต่กลับถูกพนักงานกลุ่มนั้นตามมารั้งแขนไว้ “เฮ้ย!” นั่นคือเสียงของเดือนสิบ หญิงสาวมองมือคล้ำของอีกฝ่าย สีหน้าแสดงความไม่พอใจชัดเจน “จะออกไปดี ๆ หรือ…” “ทำอะไรวะ?” ใครสักคนร้องทักเสียงดัง กลุ่มชายฉกรรจ์ถอยห่างเพราะนั่นคือปวินเจ้าของร้าน “น้องผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกค้าของเราครับคุณวิน” หัวคิ้วปวินขมวดปม “นี่น้องกูเอง บ้านมันรวยกว่ากูอีก แต่ชอบทำตัวยาจก” ปวินหัว
“ทำอะไรของเธอ” เสียงเข้มกดต่ำ หรี่ตามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง ทว่าดลญากลับฉีกยิ้มหวาน ส่งสายตาทอประกาย หล่อนไม่มีทางยอมเสียหน้าเพื่อนในกลุ่มและตกเป็นรองเบญจาเด็ดขาด “พี่เท็นเลี้ยงค็อกเทลเดียร์สักแก้วสิคะ” “เป็นขอทานเหรอ?” เดือนสิบตอบเสียงเรียบ พยายามแกะมือปลาหมึกของหล่อนออก “ว่าอะไรนะคะ?” เมื่อครู่หล่อนฟังไม่ผิดแน่ หล่อนถูกรุ่นพี่สาวด่า!“นอกจากเป็นขอทานแล้วยังหูไม่ดีอีกนะ เหอะ!” “เอ๊ะ!” คราวนี้คุณหนูคนสวยไม่อาจทนยิ้มหวานได้อีกแล้ว หล่อนเป็นผู้ปล่อยแขนเอง ตากลมโตจ้องเขม็งแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด แต่เดือนสิบผู้ที่ไม่สนใจโลกทำเพียงไหวไหล่ไม่ยี่หระต่อสิ่งที่พูดธนินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกมุมปาก มองทั้งสองยิ้ม ๆ เพราะไม่คาดคิดว่าดาวคณะนิเทศศาสตร์จะเป็นฝ่ายเข้าหาเพื่อนสนิทของตนก่อน ทั้งยังโดนตอกหน้าแทบหงายอีก น่าเสียดายที่ยามนี้ไฟทั้งผับถูกดับให้มืดลงกว่าเดิม คนอื่นจึงไม่มีทางรู้เลยว่าเพื่อนสนิทของเขาและแม่สาวทรงโตกำลังทำอะไรกันอยู่ แม้ภาพจะดูเกาะก่ายกัน ทว่าความจริงไม่ใช่อย่างนั้นสักนิด ชายหนุ่มยักไหล่คว้าแก้วเครื่องดื่มของตนแล้วปลีกไปอีกทาง ไม่ใช่
บทที่ 3 ฉันรู้ทันคงเพราะคนร่างสูงที่เอาแต่ยืนกอดอกถอนหายใจกระมังจึงทำให้ดลญารู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำ เพราะถูกคนเมาเข้าใกล้หวังทำมิดีมิร้ายขณะเดินมาเข้าห้องน้ำ“ยืนไหวไหม?” น้ำเสียงราบเรียบถามขึ้น ไม่ได้แสดงถึงความเป็นห่วงใยหรือหงุดหงิด “วะ…ไหวค่ะ” เดือนสิบปล่อยให้ดลญายืนด้วยตนเอง แต่เพียงเสี้ยววินาทีหล่อนก็ทำท่าจะล้มหงายหลัง ผลสุดท้ายคนที่บอกตนเองว่าไม่อยากสนใจก็ต้องคอยดูแลหล่อน “ไปโรงพยาบาลไหม?” ดูเหมือนข้อเท้าอีกฝ่ายจะแพลง “พี่เท็นจะไปส่งเหรอคะ?” ยื่นคำถามหยั่งเชิง เห็นแววตาลังเลของเดือนสิบจึงลอบยิ้ม “หรือจะเรียกแท็กซี่ให้เดียร์ก็ได้ค่ะ แต่ว่า…” ใบหน้าสวยหวานเจื่อนลง คิ้วเรียวขมวด ทั้งน้ำเสียงยังฟังดูคล้ายหล่อนมีความกังวลระคนกลัว “เพิ่งมีข่าวแท็กซี่ข่มขืนและฆ่านักศึกษาไปเมื่อวันก่อน” ข่าวนั้นเดือนสิบเองก็ได้ยิน เนื่องจากเป็นข่าวดังที่คนร้ายยังลอยนวลอยู่ และมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สาววิศวะฯ นิ่งไปชั่วขณะ ชำเลืองมองคนที่ยังนั่งคลึงขาตนเอง ลอบถอนหายใจก่อนเอ่ย“เดี๋ยวพาไป ลุก
หลังจากได้เบอร์โทรและไลน์ของเดือนสิบดลญาจึงรีบส่งไปอวดเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ทั้งยังแนบรูปยามรุ่นพี่สาวขับรถและรอหล่อนขณะพบแพทย์อีกด้วย เรียกเสียงฮือฮาในกลุ่มได้เป็นอย่างมาก DEAR : ฉันบอกพวกแกแล้วว่าอย่าเอาฉันไปเทียบกับนังจิ๊บ คนละชั้นกันย่ะ!” JEEJEE : ย่ะ แม่คนเก่ง ฉันจะรอดูว่าแกจะได้เกียร์พี่เท็นตอนไหน อีกสักปีหรือสองปีน้า? หรือจะไม่ได้เลย คริคริ นั่นถือเป็นประโยคสบประมาทสำหรับดลญาผู้ไม่ชอบเป็นฝ่ายแพ้ หล่อนเชิดหน้ากดแป้นพิมพ์รัวDEAR : อย่ามาดูถูกกันนะ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้าภายในสามเดือนฉันไม่ได้เกียร์พี่เท็นมาคล้องคอ ฉันจะให้เงินสดโอนเข้าบัญชีพวกแกคนละห้าหมื่นไปเลย สิ้นประโยคนั้นในแชตกลุ่มก็เงียบลงก่อนที่จะมีสติกเกอร์หลากหลายรูปแบบแสดงขึ้นที่หน้าจอ ดูเหมือนเพื่อนในกลุ่มจะชอบข้อเสนอที่ดลญายื่นให้ DEAR : แต่ถ้าฉันได้เกียร์พี่เท็นมาภายในสามเดือน พวกแกต้องรวมเงินให้ฉันหนึ่งแสน ตกลงไหม?ALL : DEAL! ดลญาทิ้งกายลงยังเตียงนุ่มทันทีหลังจากทำข้อตกลงกับเพื่อนในกลุ่มเสร็จสรรพ ตากลมสวยมองภาพของเดือนสิบที่แอบถ่ายไว้ หญิงสาวแสดงสีหน้าร้ายกาจอย่างไม่ปิดบัง ดาวคณะคนสวยมีแผนการในหัวอยู่แล้ว จริง ๆ เด
บทที่ 4 เดียร์จะจีบพี่เท็นคงไม่ใช่แค่เจ้าของชื่อที่ยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน แม้แต่ธนินและนักศึกษาที่เดินอยู่รอบ ๆ ก็มีอาการไม่ต่างกัน ก่อนพวกนั้นจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปแล้วเดินซุบซิบหนีไปทันที ธนินยืนมองตาปริบ ๆ หันมองเดือนสิบทีดลญาที ไม่คาดคิดว่าตนเองจะต้องมาเป็นสักขีพยานแห่งรักของเพื่อนสนิท“พูดบ้าอะไรของเธอ?” ร่างสูงโปร่งปรี่เข้าใส่ดลญา ดีที่ธนินขวางไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นหล่อนคงถูกเดือนสิบบีบคอเป็นแน่“เป็นแฟนกับเดียร์นะคะพี่เท็น”“นี่เธอ! หยุดเลยนะ” ไอ้ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนเจียมตัว ทำหน้าทำตาให้เธอสงสาร นั่นมันคือการแสดงทั้งนั้น จะว่าเดือนสิบดูออกก็ไม่เชิง เพียงแต่เธอแค่รู้ทันพวกคุณหนูบ้านรวยแสนเอาแต่ใจ ในอดีตเดือนสิบเคยเป็นน้องปีหนึ่งที่ไม่คิดจะสุงสิงยุ่งเกี่ยวกับใคร ทว่ากลับมีรุ่นพี่คนสวยมาหยอดมาอ้อนและมาใกล้ชิดสนิทสนมจนเธอตกหลุมพรางและเริ่มก่อความสัมพันธ์ แต่ในเวลาไม่นานเดือนสิบก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว รุ่นพี่คนนั้นไม่ได้คิดจริงจังและจริงใจอะไรต่อเธอเลย หล่อนก็แค่พนันกับเพื่อนว่าหากได้คนที่เงียบที่สุดในรุ่นมาเป็นแฟนจะได้มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เรื่องราวในครั้งนั้นมีเพียงธนินเพื่อนสน
“เออน่า…มึงก็น่าจะให้โอกาสน้องเขาหน่อย ตอนน้องจิ๊บกูก็นึกว่าจะคบกันยาว ๆ ที่ไหนได้ ตดยังไม่ทันจะหายเหม็นก็เลิกกันซะละ มึงเลิกปิดตัวปิดใจได้แล้ว หรือว่ามึงยังคิดถึงเรื่องพี่กัญอยู่วะ?” ชื่อนั้นเดือนสิบไม่ได้ยินมานานหลายปี พอได้ยินอีกครั้งข้างในอกเริ่มบีบรัด สีหน้าเปลี่ยนไปจนธนินที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดไม่คิดก็ได้แต่ก่นด่าตนเองในใจ เขาน่าจะรู้ดีว่ารุ่นพี่คนนั้นสร้างบาดแผลร้ายแรงไว้ในใจเพื่อนสนิทแค่ไหน“กู…ขอโทษว่ะ” คนที่มีอดีตทำเพียงไหวไหล่ หยิบบุหรี่แล้วคล้องไหล่ธนินเดินไปพื้นที่สูบบุหรี่ควันเทา ๆ กับใจหม่น ๆ คงเข้ากันดีหากมีฝนตกลงมา ทว่ายามนี้แดดเปรี้ยงจนต้องหยีตามองฟ้า เดือนสิบทอดถอนใจ พ่นควันออกปากเฉกเช่นเดียวกับธนิน“ผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ต่างจากคนอื่น” ถึงหัวใจไม่ได้มีกำแพงหนาหลายชั้นจนยากจะเข้าไป ทว่ามันก็ไม่ได้เปิดรับทุกคนที่ผ่านเข้ามา เนื่องจากความชอกช้