แชร์

บทที่ 4

ตระกูลหลี่?

ทุกคนในตระกูลกู้ต่างก็สงสัย และไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ชั่วขณะหนึ่ง

ตระกูลหลี่คืออะไร?

“คุณซ่ง ตระกูลหลี่นี่…” คุณท่านกู้โค้งตัวเล็กน้อยแล้วยิ้ม ในตอนนี้เขาเข้าใจคำพูดของลูกหลานตระกูลกู้แล้ว

ตระกูลหลี่ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาราคาแพงมาจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าสถานะ และอำนาจของตระกูลหลี่มีมาก และตระกูลกู้ไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอน

จากนั้นคุณซ่งก็ยิ้มพลางเหลือบมองหลี่โม่ และพูดว่า "ผมมาเพื่อส่งของเท่านั้น และผมก็ไม่รู้อะไรแล้วด้วย"

หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องผู้ป่วยไป

ทุกคนในห้องผู้ป่วยไปเงียบไปครู่หนึ่ง

“ตระกูลหลี่ที่ใจบุญนี่ ทำไมพวกเขาถึงส่งของพวกนี้มา? พวกแกมีใครรู้จักคนตระกูลหลี่บ้าง?” คุณท่านกู้ถาม

ลูกหลานของตระกูลกู้ส่ายหัว

“คุณปู่ครับ ไม่น่าจะใช่หลี่โม่” ตอนนี้กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

หลี่โม่?

ทุกคนหันไปมองหลี่โม่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

ฮ่าฮ่า

จะเป็นไปได้อย่างไร เขาเป็นไอ้เจ้าขยะผู้เลื่องลือที่ทำให้ตระกูลกู้ขายหน้าไปทั้งเมืองฮั่น จะมีอำนาจขนาดนี้ได้อย่างไร?

“ซิ่งเหว่ย อย่าพูดเล่นเลย เราทุกคนรู้ดีว่าหลี่โม่มันเป็นยังไง มันก็เป็นแค่โคลนเน่า ๆ” หวังฟางแม่ยายของเขาพูดอย่างเยาะเย้ย

เธอดูถูกหลี่โม่มาก และเธอก็ไม่เข้าใจว่า ลูกสาวของเธอชอบอะไรในตัวเขาตั้งแต่แรกเจอ

“เอาล่ะ ไปสืบมาว่าตระกูลหลี่มาที่เมืองฮั่นตั้งแต่เมื่อไหร่?” คุณท่านกู้พูด

“กู้หยุนหลาน เธอคงจะไม่ไปหาจับคนรวยข้างนอกหรอกใช่ไหม?”

ลูกสาวของลูกชายคนที่สามตระกูลกู้ กู้ชิงหลินก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

เธอดูถูกลูกพี่ลูกน้องของเธอ เพราะก่อนหน้านี้กู้หยุนหลานเป็นที่โปรดปรานของคนในตระกูลกู้มากกว่าเธอ

เมื่อโตขึ้น กู้หยุนหลานมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองฮั่น และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพธิดาที่สวยที่สุดในเมืองอีกด้วย เธอมีชื่อเสียงในการเป็นเทพธิดาที่หนึ่งของทั้งสี่แห่งเมืองฮั่น

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดนี้จบลงหลังจากที่เธอแต่งงานกับขยะอย่างหลี่โม่

ทันทีที่กู้ชิงหลินพูดแบบนี้ ทุกคนในตระกูลกู้ก็มองไปที่กู้หยุนหลาน และหลี่โม่อย่างเหยียดหยาม

นี่มันอะไรกัน?

สายตาแปลก ๆ แบบนี้ ทำให้กู้หยุนหลานอึดอัดมาก ทันใดนั้นเธอก็พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา “กู้ชิงหลิน อย่ามาพูดไร้สาระ ฉันไม่รู้จักตระกูลหลี่!”

เธอพูดไปแบบนั้น แต่อีกด้านหนึ่งเธอก็เหลือบมองไปที่หลี่โม่

หรือจะเป็นเขา?

ถ้าเป็นเขาจริง ทำไมเขาต้องทนทุกข์มาตลอดสี่ปี?

“พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” คุณท่านกู้ขัดจังหวะการสนทนาของทุกคน สายตาของเขาจ้องมองไปที่หลี่โม่ และพูดเอาจริงเอาจัง “สัญญาเรื่องหย่า จะเซ็นหรือไม่เซ็น?”

"ไม่เซ็น"

หลี่โม่ปฏิเสธทันที "ผมยืมเงินมาแล้ว และไขกระดูกที่ใช้รักษาซีซีก็จะใช้ของผมได้"

ฮ่าฮ่า

คถุท่านกู้หัวเราะเยาะ เขาก็กล่าวอย่างไม่พอใจว่า "ยืมเงินมาแล้วจะทำไม? ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนี้เป็นเพื่อนของฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาตให้รักษา เขาก็จะไม่รักษา!"

เจ้าคนไร้ค่านี่จะใช้ไขกระดูกที่ต่ำต้อยของมันมารักษาหลานสาวของเขาอย่างนั้นหรือ?

ไม่มีทาง!

เมื่อได้ยินแบบนี้ ใจของหลี่โม่ก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม และพูดว่า "คุณท่าน ซีซีเป็นลูกสาวของผม ทำไมท่านถึงไม่ใช้ของผมล่ะ"

“ทำไมน่ะเหรอ? เพราะแกมันไร้ค่าไง แล้วแกก็ทำให้ตระกูลกู้ของเราขายขี้หน้า!”

แม่ยายหวังฟางยืนกอดอกพร้อมดุด่าอย่างประชดประชัน

ถ้าไม่ใช่เพราะเขา สถานะของเธอในตระกูลกู้ก็คงจะไม่แย่ลงแบบนี้

“ฮ่าฮ่า นั่นสิ หลี่โม่ แกคิดว่าแกเป็นใครกัน แกมันก็เป็นแค่สุนัข แล้วยังกล้าคิดจะให้ซีซีใช้ไขกระดูกของแกอีก ถ้าแกมีปัญญาก็ไปบอกผู้อำนวยการให้อนุมัติสิ!”

กู้ซิ่งเหว่ยเยาะเย้ยอย่างไม่ละอายใจ “ถ้าผู้อำนวยการอนุมัติให้ใช้ไขกระดูกของแก พวกเราตระกูลกู้ก็จะไม่คัดค้าน ใช่ไหมครับคุณปู่?”

คุณท่านกู้พยักหน้าพูดว่า “ใช่ ตราบใดที่ผู้อำนวยการอนุมัติให้ใช้ไขกระดูกของแก ฉัน กู้หงไท่ ก็จะไม่โต้แย้งอะไร”

จะเป็นไปได้เหรอ?

กู้หงไท่จัดการไว้ล่วงหน้าแล้ว

ผู้อำนวยการหลิวซินหมินยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของเขา

หลี่โม่ต้องการให้ซีซีใช้ไขกระดูกของเขา มันยากยิ่งกว่าขึ้นไปแตะท้องฟ้า!

กู้หยุนหลานมองดูสิ่งนี้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอจ้องหลี่โม่อย่างขุ่นเคือง และเดินไปตบเขา พร้อมกับด่าว่า "หลี่โม่ ทำไมคุณถึงไร้ค่าแบบนี้!"

หลังจากนั้นเธอก็ร้องไห้ด้วยความโกรธ เธอหันหลังวิ่งปิดหน้าปิดตาออกไป

หลี่โม่ที่โดนตบ แก้มของเขาก็กลายเป็นรอยแดง เขามองกู้หยุนหลานที่วิ่งออกไป และเขาก็วิ่งตามเธอออกไป

แต่ในเวลานี้ มีแพทย์สองคนในชุดขาวเดินเข้ามาที่ประตูห้องผู้ป่วย

“โอ้ ผู้อำนวยการหลิว คุณมาที่นี่ทำไม มาหาหลานสาวของผมเหรอ?”

คุณท่านกู้เห็นคนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาก็รีบยื่นมือออกมาทันที และอุทานด้วยความเคารพ

บอกว่าเป็นเพื่อน แต่จริง ๆ แล้วกู้หงไท่ก็ยังคงให้ความเคารพแก่หลิวซินหมิน

เป็นเพราะหลิวซินหมินมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเมือง

นักธุรกิจรายใหญ่ และบุคคลที่ร่ำรวยมากมายในเมืองต่างก็รับการรักษาจากแพทย์ในโรงพยาบาลของหลิวซินหมิน และยังมีความสัมพันธ์กับหลิวซินหมินอีกด้วย

นี่เป็นธุรกิจเพื่อสังคม

นอกจากนี้ หลิวซินหมินยังมีชื่อเสียงที่ดีด้านการแพทย์ในประเทศจีน เขาเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมีตำแหน่งกิตติมศักดิ์ของผู้อำนวยการที่อายุน้อย

ผู้คนในเมืองถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์นั้นให้ความเคารพนับถือแก่หลิวซินหมิน

ต่อหน้าบุคคลดังกล่าว กู้หงไท่ทั้งให้ความเคารพ และประจบสอพลอ

หลิวซินหมินอายุประมาณห้าสิบถึงหกสิบปี โดยมีป้ายชื่อผู้อำนวยการห้อยอยู่ที่หน้าอก เขากำลังมองดูสถานการณ์ในห้องผู้ป่วย และดูเหมือนจะกำลังมองหาใครสักคนอยู่ จากนั้นเขาก็ยิ้มให้คุณท่านกู้ และพูดว่า "ด้วยความยินดีครับคุณกู้ ผมมาที่นี่เพื่อจะบอกบางอย่างกับคุณ”

“ผู้อำนวยการหลิว หากคุณมีอะไรจะแจ้ง ฝากนางพยาบาลมาแจ้งให้ผมทราบก็ได้ครับ คุณไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองเลย” คุณท่านกู้กล่าวอย่างชื่นชม

หลิวซินหมินยิ้ม แต่สายตาของเขาจ้องไปที่หลี่โม่ และก้าวไปข้างหน้า เขาปล่อยมือของกู้หงไท่ แล้วพูดกับหลี่โม่ด้วยความเคารพ "คุณหลี่ใช่ไหมครับ สวัสดีครับผมชื่อหลิวซินหมิน เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้"

หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมา

หลี่โม่ นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

ห้านาทีที่แล้ว เขาได้รับโทรศัพท์ในห้องทำงานของผู้อำนวยการ

นั่นคือเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังของโรงพยาบาล!

มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น คุณชายผู้มีเกียรติอยู่ในโรงพยาบาลนี้ และหลิวซินหมินจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา และต้องไม่ขัดคำสั่งทั้งหมดของคุณชายผู้นี้!

และคุณชายผู้นี้ก็คือลูกเขยของตระกูลกู้ หลี่โม่!

หากเขาสามารถทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังโทรมาเพื่อบอกว่าเขาเป็นใคร นั้นแสดงให้เห็นว่าหลี่โม่ ไม่ได้เป็นอย่างที่คนในเมืองพูดอย่างแน่นอน เขาไม่ได้ไร้ค่า

ฉากนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลกู้ที่อยู่ในห้องผู้ป่วยตกตะลึง!

โดยเฉพาะคุณท่านกู้ เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หลิวซินหมินพูดสุภาพกับคนไร้ค่านั้นจริง ๆ และเขายังยื่นมือทั้งสองข้างไปหามันด้วย!

“ผู้อำนวยการหลิว คุณกำลังทำอะไร? ทำไมคุณถึงทำตัวสุภาพกับไอ้คนไร้ค่านี่?”

คุณท่านกู้ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

กู้ซิ่งเหว่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เห็นด้วย และพูดว่า “ใช่ครับ ผู้อำนวยการหลิว หลี่โม่เป็นเพียงลูกเขยตระกูลกู้ของเรา เขาไม่ได้มีอำนาจอะไร คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวสุภาพกับเขาหรอกครับ”

“ใช่ค่ะ ผู้อำนวยการหลิว ลูกเขยของฉันเป็นแค่เด็กยากจน ทำไมคุณถึงใจดีกับเขาขนาดนั้นล่ะคะ?”

หวังฟางเยาะเย้ย และชี้ไปที่หลี่โม่ทันทีพร้อมกับด่าว่า "หลี่โม่ แกมัวแต่ทำอะไรอยู่ เห็นผู้อำนวยการหลิวแล้วยังไม่รีบทำความเคารพอีก ทำไมต้องทำให้ฉันขายหน้าตลอดเลย จะรอให้ใครมาจับมือคนต่ำต้อยอย่างแกก่อนหรือไง?”

แต่ว่า

ทันใดนั้น ใบหน้าของหลิวซินหมินก็เริ่มอึมครึม เขาก็ตะโกนว่า "กล้าดียังไง! กล้าพูดกับคุณหลี่แบบนี้ได้ยังไง? ต่ำต้อยอะไรกัน พวกคุณรู้ไหมว่าคุณหลี่เป็น..."

แค่ก ๆ !

ทันใดนั้น หลี่โม่ก็กระแอมไอขึ้นมาขัดจังหวะคำพูดของหลิวซินหมิน เขายื่นมือออกมา และคว้ามือของหลิวซินหมินไว้ เขาแสดงรอยยิ้มบนใบหน้า และพูดอย่างถ่อมตัว "ผู้อำนวยการหลิว สวัสดีครับ ลูกสาวของผมอาการเป็นอย่างไรบ้าง?"

หลิวซินหมินสะดุ้ง เขาหันหน้าไปมอง และเห็นสายตาของหลี่โม่ที่กำลังสื่ออะไรบางอย่าง และพูดว่า “คุณหลี่ ไม่ต้องกังวลครับ อาการป่วยลูกสาวของคุณ โรงพยาบาลของเราจะรักษาให้สุดความสามารถ”

ดูเหมือนว่าคุณหลี่จะไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของเขาต่อหน้าคนเหล่านี้

เพียะ!

ทันใดนั้น หวังฟางก็ตบมือของหลี่โม่ที่กำลังจับมือของหลิวซินหมินอยู่ และต่อว่าเขา "แกจะทำอะไร แกกล้าจับมือผู้อำนวยการหลิวได้อย่างไร ไม่เจียมตัว!"

หลิวซินหมินโกรธมาก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง และจ้องไปที่หวังฟาง หญิงวัยกลางคนที่ไม่มีเหตุผล!

เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายน้อยหลี่จับมือกับเขา!

ผู้หญิงโง่คนนี้ เธอคงยังไม่รู้ตัวตนของคุณหลี่สินะ!

หึหึ

เมื่อเห็นหลิวซินหมินโกรธ หวังฟางคิดว่าเขาโกรธหลี่โม่ จึงพูดอย่างรวดเร็วว่า "ผู้อำนวยการหลิว อย่าโกรธเลยนะคะ เขาเป็นแค่คนต่ำต้อย ไม่จำเป็นต้องลดตัวไปรู้จักกับเขาเลยค่ะ"

หลิวซินหมินแค่นเสียง และหันหน้าไปพูดกับคุณท่านกู้ว่า "คุณกู้ ครั้งนี้ผมจะมาบอกคุณว่า ถ้าหากคุณมีญาติสนิท เราควรใช้ไขกระดูกของญาติสนิทเพื่อจับคู่กับไขกระดูกของกู้ซีซี"

ทันทีที่ได้ยินพูดคำเหล่านี้ คุณท่านกู้และคนในตระกูลต่างก็อยู่ไม่สุข

“ผู้อำนวยการหลิว นี่… ไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีหรอก ใช้ไขกระดูกที่ผมซื้อมาจับคู่แทนจะดีกว่าไหมครับ?” คุณท่านกู้พูดอย่างกังวล

ใช้ไขกระดูกของญาติสนิท นั่นคงไม่ใช่การใช้ไขกระดูกไร้ค่าของหลี่โม่หรอกเหรอ?!

ไม่ ไม่ได้เด็ดขาด!

ผู้อำนวยการหลิวมองคุณท่านกู้อย่างเย็นชา และพูดว่า “นี่เป็นกฎข้อบังคับของโรงพยาบาลและก็เพื่อประโยชน์ของตัวผู้ป่วยเองด้วย การใช้ไขกระดูกของญาติสนิทโอกาสที่จะไม่เข้ากันนั้นแทบไม่มี!”

ทันใดนั้น ใบหน้าของคุณท่านกู้ก็ดูไม่พอใจขึ้นมาทันที

เขาขมวดคิ้ว และมองไปที่หลี่โม่ เขาสงสัยว่าทำไมผู้อำนวยการหลิวถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน

“ผู้อำนวยการหลิว ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม?” คุณท่านกู้ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

แต่หลิวซินหมินก็ปฏิเสธ และหันหน้าหนี "ไม่จำเป็น เรื่องนี้ผมตัดสินแล้ว ส่วนเรื่องไขกระดูก ก็สามารถใช้ของคุณหลี่ได้เนื่องจากเขาเป็นพ่อของเด็ก พวกคุณไม่ควรทำแบบนี้"

เมื่อกู้ซิ่งเหว่ยเห็นหลิวซินหมินไม่ได้ให้เกียรติปู่ของเขาเลย จู่ ๆ เขาก็กระซิบขึ้นมาว่า "ให้ตายสิ! ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ เราก็เปลี่ยนโรงพยาบาลไปเลยจะได้จบ ๆ"

สักพัก บรรยากาศในห้องผู้ป่วยก็อึมครึมลง

สายตาเย็นชาของหลิวซินหมินก็จ้องไปที่กู้ซิ่งเหว่ย

หัวใจของกู้หงไท่เต้นรัว และเขาก็ชักมือกลับ และเขาก็ดุว่า "ไอ้เด็กบ้า! ใครสั่งใครสอนให้แกหยาบคายใส่ผู้อำนวยการหลิวแบบบนี้!"

หลังจากนั้น เขาก็รีบขอโทษหลิวซินหมิน และพูดว่า “ผู้อำนวยการหลิว ผมขอโทษครับ หลานชายของผมยังเด็ก พูดอะไรไปโดยไม่คิด และหุนหันพลันแล่น ทำให้ผู้อำนวยการหลิวไม่พอใจ ช่วยยกโทษให้เขาด้วยนะครับ”

คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนี่ หากขัดใจหลิวซินหมิน โรงพยาบาลในเมืองที่ไหนจะรับซีซีอีก?

หลิวซินหมินโบกมือ และพ่นลมหายใจออกอย่างไม่แยแส แล้วหันมาพูดกับหลี่โม่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มท่ามกลางสายตาของที่มองด้วยความประหลาดใจ "คุณหลี่ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"

หลี่โม่พยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก

เมื่อหลิวซินหมินเดินจากไป คนในตระกูลกู้ต่างก็จ้องมองหลี่โม่ด้วยสายตาสับสน

“หลี่โม่ แกทำอะไรลงไป ทำไมผู้อำนวยการหลิวถึงช่วยแก!” กู้ซิ่งเหว่ยลูบใบหน้าด้วยความโกรธ

เขาไม่กล้าโกรธแแค้นหลิวซินหมิน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเอาความคับข้องใจมาลงกับหลี่โม่

แต่หลี่โม่กลับพูดว่า "กู้ซิ่งเหว่ย ไม่มีประโยชน์ที่นายจะมาโต้แย้งกับฉัน นี่คือสิ่งที่ผู้อำนวยการต้องการ ถ้านายมีปัญหาก็ไปคุยกับผู้อำนวยการแล้วกัน"

“แก!” กู้ซิ่งเหว่ยเริ่มกังวล

คุณท่านกู้พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และพูดว่า “พอแล้ว!”

จากนั้นสายตาเขาจ้องไปที่หลี่โม่อย่างไม่พอใจ และพูดว่า: "ในเมื่อผู้อำนวยการหลิวตั้งใจไว้อย่างนั้นฉันจะก็ไม่ห้ามแก แต่อย่าคิดว่าสิ่งที่แกทำจะทำให้ฉันยอมให้ซีซีรู้จักแก!"

ในที่สุด คุณท่านกู้ก็พาคนในตระกูลออกไปจากห้องผู้ป่วย

หลังจากรอคนอื่น ๆ ออกไป หลี่โม่ก็มองไปที่ลูกสาวที่ขี้อายของเขาซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เขายิ้มและเดินเข้าไปลูหัวเล็ก ๆ ของเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า "พ่อจะรักษาลูกให้หายแน่นอน"

ซีซีเป็นเด็กดีมาก เมื่อกี้เธอได้แต่อยู่เงียบ ๆ

ทันใดนั้น เธอก็พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของหลี่โม่ เธอร้องไห้เบา ๆ และร้องเรียกเเขา "คุณพ่อ คุณพ่อคะ ... "

เมื่อได้ยินคำว่าพ่อ หัวใจของหลี่โม่แทบจะแตกสลาย ดวงตาของเขาแดงก่ำ

ไม่นานหลังจากนั้น หลี่โม่ก็ได้รับข้อความสั้น ๆ และเขาก็ออกจากห้องผู้ป่วยไป

ก่อนหน้านี้อุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาได้ถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว

แพทย์ระดับผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น หลิวซินหมินก็เป็นคนพาพวกเขามาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง

หลี่โม่เดินออกมาจากโรงพยาบาลที่อยู่อีกฟากหนึ่งของถนน เขาเห็นเฉียนฝูที่นั่งรอเขาอยู่ในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธ่อมที่มีเสน่ห์มาเป็นเวลานานแล้ว

ขณะที่เขากำลังจะเข้าไปในรถ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยขึ้นจากด้านข้าง “หลี่โม่ คุณมาทำอะไรที่นี่?”

หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว เขาเห็นกู้หยุนหลานที่จ้องมองเขา และเฉียนฝูที่นั่งรอเขาอยู่ในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธ่อมสลับไปมาด้วยความงงงวย

ด้านข้างเธอ ก็มีเพื่อนรักทั้งสองของเธอยืนอยู่ด้วย พวกเธอทั้งคู่ก็ตกใจไม่แพ้กัน

หลี่โม่ตกตะลึง แย่แล้ว เขากำลังจะถูกกู้หยุนหลานจับได้!

ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Somboon Piyobol
เมืองจีนมีกรุงโซลด้วย
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
ครอบครัวนางเอกปัญญาอ่อนบ้าอำนาจเผด็จการแม้แต่ชีวิตของหลานสาวก็เอามาต่อรองไม่หย่าไม่ให้หมอรักษาเด็กพระเอกไหนๆก็ยอมรับตำแหน่งและยอมรับเงินมาก็ใช้อำนาจของตัวเองให้สุดไปเลยอย่าให้ตาและแม่เมียดูถูกและข่มเหงได้อีกจะทำตัวหงอไปถึงไหนกู้ศักดิ์ศรีตัวเองและเมียคืนมาได้แล้วจะบื้อไปอีกทำไม
goodnovel comment avatar
Chadat Kaewthongkham
พระเอกกระจอกว่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status