แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2021-07-29 18:00:01
หลี่โม่ทำอะไรไม่ถูกจึงก้มลงมองตัวเอง และยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ขอโทษ ผมมีนัดกับใครบางคน"

เมื่อหวังถิงถิงได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเธอดูไม่เป็นธรรมชาติมาก เธอกรีดร้องด้วยความรังเกียจและดูถูกว่า "นี่ คนจนอย่างนาย นายจะมีนัดกับใครในคลับส่วนตัวรอยัลคอร์ทได้? นายอย่ามาล้อเล่นกับฉัน! ไป ๆ อย่าขวางทางเกะกะคนจะทำธุรกิจ!"

หลังจากพูดจบ เธอก็จ้องไปที่หลี่โม่อย่างเย็นชา และความเย้ยหยันจากดวงตาของเธอก็แสดงความไม่พอใจออกมา

หลี่โม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และยังคงพูดอย่างสุภาพว่า "ผมมีนัดจริง ๆ ผมรีบมาก ขอตัวนะครับ"

หลังจากนั้นหลี่โม่ก็ก้าวขึ้นไป และเดินไปที่ห้องโถงใหญ่

ทันใดนั้น หวังถิงถิงก็รีบคว้าเสื้อของหลี่โม่ และด่าเขา "นายนี่มันไม่ปกติใช่ไหม ที่นี่คือคลับอิมพีเรียลคอร์ทแต่ละคนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนร่ำรวย และมีเงินอย่างต่ำหลายร้อยล้าน! นายเป็นใคร คิดว่านายจะมีนัดอะไรกับคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้?"

เธอโกรธจริง ๆ !

ไอ้พวกขยะประเภทไหนกันที่กล้าบุกรุกรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับ!

มันมาหาที่ตายชัด ๆ บ้าจริง!

ในที่สุด สายตาของหลี่โม่ก็เย็นชา ขณะที่เขากำลังจะอธิบายบางอย่างก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่ง

“"เกิดอะไรขึ้น เอะอะโวยวายอะไรเสียงดัง ถ้าแขกเห็นเข้า มันจะเป็นยังไง!”

ชายในวัยสามสิบเดินเข้ามา เขาสวมสูทลายสก๊อตสีดำเป็นชุดที่มีการสั่งตัดอย่างดี และติดป้ายผู้จัดการไว้ที่หน้าอกเป็นเงาวาว สวมแว่นกรอบทองดูราวกับเป็นคนชนชั้นสูง

“ผู้จัดการฟาง คุณมาพอดีเลยค่ะ ไอ้เกรียนน่าสมเพชคนนี้ มันจะบุกรุกเข้าไปในคลับของเรา!”

หวังถิงถิงกระทืบเท้าฉุนเฉียวในทันที ด้วยการกระทืบนี้ ยอดเขา และแท่นที่อยู่ข้างหน้าเธอก็สั่นสะท้าน ทำเอาคนอื่นตกใจ

ผู้จัดการขมวดคิ้ว ดันกรอบแว่น และมองหลี่โม่ที่แต่งตัวธรรมดาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ขอโทษนะ แต่ที่นี่เป็นคลับส่วนตัว มีไว้สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกเท่านั้น ฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อน รีบออกไปจากที่นี่ซะเถอะ"

ผู้จัดการฟางค่อนข้างเป็นคนดี และไม่ได้เป็นคนพูดมาก

แต่สิ่งสำคัญคือเขาไม่ชอบหลี่โม่เลย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพูดอะไรมากนัก

เมื่อเห็นหลี่โม่ยังคงยืนอยู่ หวังถิงถิงก็ชี้ไปที่หน้าด่าเขาทันที “ทำไมนายยังไม่ออกไปอีก ต้องให้ฉันเรียการ์ดมาลากนายออกไปใช่ไหม?”

ในที่สุด สีหน้าของหลี่โม่ก็อึมครึมลง

เขาแค่มาหาใครบางคน แล้วทำไมเขาถึงต้องโดนไล่เตพิดแบบนี้?

หรือเพียงเพราะเขาถูกตราหน้าว่าเป็นคนจน เพียงเพราะเขาสวมชุดธรรมดาอย่างนั้นหรือ?

“ผมจะขอพูดอีกครั้ง ผมมาที่นี่เพื่อตามหาใครบางคน” หลี่โม่พูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด

ผู้จัดการฟางที่กำลังจะหันหลังกลับหันมามองเขาด้วยความสงสัย และถามว่า "นายมาหาใคร?"

“เฉียนฝู” หลี่โม่พูด

"ฮ่าฮ่า!"

ทันใดนั้น ผู้จัดการก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และถามอย่างเยาะเย้ยว่า “นายมาหาท่านประธานเฉียนของเรา?”

ประธานเฉียน ชายชราผู้อยู่เบื้องหลังของรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับ

หลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยมาที่นี่เลย แต่วันนี้เขามาที่นี่เป็นครั้งแรก!

ได้ยินมาว่า เขากำลังรอแขกผู้มีเกียรติอยู่

มันอาจจะเป็นเด็กเหลือขอที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาหรือเปล่า?

หวังถิงถิงที่อยู่ด้านข้างล้อเลียนเขา และพูดว่า “ผู้จัดการฟาง เจ้าคนทึ่มนี่ เดี๋ยวฉันเรียกคนมาโยนเขาออกไปทิ้งเองค่ะ”

ผู้จัดการฟางไม่ได้ต้องการจะทำแบบนี้ แต่เขาก็พยักหน้า และพูดว่า “จัดการให้เรียบร้อย อย่าสร้างความไม่พอใจ และความเข้าใจผิดให้กับแขกของเรา”

ฮ่าฮ่า

ประธานเฉียนจะรู้จักคนจนแบบนี้ได้อย่างไร?

“ได้ค่ะผู้จัดการฟาง ฉันเข้าใจแล้ว”

หวังถิงถิงที่มีร่างกายผอมเพรียวเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

จากนั้นเธอก็หันไปจ้องหลี่โม่อย่างฉุนเฉียว และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปที่แผนกรักษาความปลอดภัย "ขอคนสองคนมาที่หน้าประตู มีคนมาสร้างเรื่อง"

ไม่มีคนรักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูของคลับอิมพีเรียลคอร์ทเพราะไม่มีใครกล้ามา

สร้างความเดือดร้อนที่นี่

ผู้ที่เข้าออกล้วนเป็นบุคคลสำคัญของเมืองฮั่น และที่อื่น ๆ ดังนั้นทุกคนจึงสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างง่าย

ใครมันจะโง่ถึงขั้นกล้ามาสร้างความเดือดร้อนในคลับ?

หลังจากวางสายโทรศัพท์หวังถิงถิงก็ยืนกอดอก เธอใช้หางตามองไปที่หลี่โม่ และพูดอย่างเย้ยหยัน "คนโง่ นายเสร็จแน่!"

หลี่โม่เองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาอย่างเงียบ ๆ แล้วกดเบอร์โทรศัพท์ของเหล่าเฉียน และพูดอย่างเย็นชาว่า “ผมอยู่ที่หน้าประตู มีคนมาขวางทางไว้ คุณมีเวลาเพียงแค่สามนาทีเท่านั้น”

เมื่อเห็นหลี่โม่แกล้งทำเป็นโทรศัพท์ หวังถิงถิงก็ยิ้มพลางส่ายหัวพร้อมกับสั่นหัวเราะ และพูดอย่างดูถูก "ตายจริง! นี่นายคงไม่ได้โทรหาประธานเฉียนของเราหรอกใช่ไหม? บ้าจริง ๆ นายอย่ามาแกล้งทำแบบนี้เลย"

หลี่โม่ไม่ได้ตอบโต้ แต่เขากลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบพร้อมเอามือไขว้หลัง

ทำให้หวังถิงถิงยิ่งโกรธ!

นี่มันอะไรกัน เขากล้าดียังไงถึงไม่สนใจฉัน!

บ้าจริง!

ในขณะเดียวกัน เฉียนฝูชายชราผู้อยู่เบื้องหลังของรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับกับเลขาของเขา รีบวิ่งไปที่ประตูหน้าอย่างกระวนกระวาย เขาเห็นนายน้อยจากระยะไกล ซึ่งกำลังถูกขวางกั้น และโดนด่าอยู่ที่หน้าประตู!

ทันใดนั้น เฉียนฝูก็โกรธถึงขีดสุด!

นั่นคือนายน้อย ราชามังกรของแดนมังกรในอนาคต!

“หยุด!” เฉียนฝูตะโกน

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังไล่หลี่โม่ออกไปก็ได้ยินเสียงดุด่าอย่างโกรธจัด และเมื่อพวกเขาไปมองก็เห็นประธานเฉียนที่กำลังโมโหวิ่งเข้ามา!

ประธานเฉียน!

ชายชราผู้อยู่เบื้องหลังของรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับ!

ยืนตรง!

ทำความเคารพ!

“ท่านประธานเฉียน!” การ์ดหลายคนทำความเคารพ

แต่เฉียนฝูไม่ได้มองพวกเขาเลย เขารีบเดินตรงไปหาหลี่โม่ซึ่งกำลังจัดเสื้อผ้าด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้น

“นายน้อย คุณมาแล้ว เข้ามาข้างในเถอะครับ”

เฉียนฝูยืนห่างจากหลี่โม่หนึ่งเมตรด้วยความเคารพ ก้มหน้า และให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

ฉากนี้ทำให้หวังถิงถิงตกตะลึง!

นาย… นายน้อย?

นี่มันคืออะไร?

นี่มัน ไม่ใช่คนทึ่มน่าสมเพชเหรอ?

“ท่าน… ท่านประธานเฉียน ท่านจำคนผิดหรือเปล่า เขาเป็นแค่คนทึ่มน่าสมเพชที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อน”

หวังถิงถิงประหลาดใจ เธอหันไปมองหลี่โม่ และตะโกนว่า "ไอ้ขยะ! เห็นประธานเฉียนของเราแล้วยังไม่ทำความเคารพอีก นายสองคน รีบโยนเขาออกไปเร็ว!"

หวังถิงถิงกังวลมาก เพราะถ้าหากประธานเฉียนไม่มีความสุข ผลที่ตามมาคือหายนะ!

“สามหาว!”

ทันใดนั้น เฉียนฝูก็จ้องไปที่หวังถิงถิง และพูดอย่างโมโห "เธอจะโยนใครออกไป? เขาเป็นนายน้อย เจ้าของที่แท้จริงของคลับอิมพีเรียลคอร์ท เธอกล้าดียังไง!"

หา!

เขาเหรอ? คนทึ่มน่าสมเพชนี่คือเจ้าของที่แท้จริงของรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับเหรอ?

ล้อเล่นหรือเปล่า!

ดวงตาของหวังถิงถิงเบิกกว้าง เธอไม่เชื่อ ไม่เชื่ออย่างมาก เธอะถามว่า “ท่านประธานเฉียน ท่านล้อเล่นหรือเปล่าคะ?”

หึ

เฉียนฝูพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และไม่ได้พูดอีก การแสดงออกของเขาทำให้เห็นความจริงทุกอย่างแล้ว

หวังถิงถิงสั่นเทาไปทั่วทั้งตัวและหน้า เธอมองไปที่หลี่โม่อย่างเหลือเชื่อ

เขาพูดเรื่องจริงที่เขาบอกว่ามาพบประธานเฉียน!

หลังจากนั้นหวังถิงถิงก็ก้มลงขอโทษทันที "หลี่… ประธานหลี่ ดิฉันขออภัยค่ะ ดิฉันขอโทษ ดิฉัน..."

และตอนนี้ผู้จัดการฟางคนเดิมก็เดินกลับมา เขาไม่ได้สังเกตเห็นเฉียนฝู เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ยังคงอยู่ที่นี่ เขาก็หงุดหงิดทันที และตะโกนว่า “ทำไมนายถึงยังอยู่ที่นี่อีก ออกไปซะสิ!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาที่เย็นชาอยู่ข้างหลังเขาคู่หนึ่ง มันจ้องมาที่เขาอย่างโหดเหี้ยมลับหลัง

หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ อย่างหมดหนทาง

"หุบปาก!"

ใจของเฉียนฝูเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ไม้เท้าทองคำสีดำในมือของเขากระแทกลงบนพื้นอย่างหนัก

“ท่าน…ท่านประธานเฉียน ท่านมาทำอะไรที่นี่ครับ?”

ในขณะนี้ ผู้จัดการฟางให้ความสนใจกับเฉียนฝูที่อยู่ข้างหลังเขาเท่านั้น และเขาก็ประจบประแจงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

แต่เฉียนฟูก็เมินเฉยใส่เขา จากนั้นก็มองไปที่หลี่โม่ด้วยความเคารพ และถามว่า "นายน้อย คุณจะให้ทำอย่างไรดีครับ?"

น้อย… นายน้อย?

เมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้จัดการฟางก็ผงะไปครู่หนึ่ง และหันหน้าไปมองหลี่โม่ที่กำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยท่าทีนิ่งสงบ

ทันใดนั้น เขาก็รู้ว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ!

นี่คือแขกผู้มีเกียรติของประธานเฉียนที่จะมาในคืนนี้อย่างนั้นหรือ? !

หลี่โม่เม้มปาก และพูดว่า “ไล่ออก”

“มานี่ โยนมันสองคนออกไป!” เฉียนฝูพูดอย่างโกรธเคือง

ฟึ่บ!

ผู้จัดการฟางรีบวิ่งเข้าไปคุกเข่าขอร้องต่อหน้าหลี่โม่ "นายน้อย ผมทำให้คุณไม่พอใจ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมผิดไปแล้วครับ!"

เขาไม่ใช่คนโง่ เขาจึงรู้ว่าสถานการณ์มันเป็นอย่างไร

ประธานเฉียน ชายที่ยิ่งใหญ่ และลึกลับ แต่กลับถ่อมตัวก้มหัวให้ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขา

นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นได้ว่าตัวตนของอีกฝ่ายจะต้องเป็นคนที่เขาคาดไม่ถึง!

หวังถิงถิงตัวสั่นไปทั้งตัว เธอพูดด้วยท่าทีประจบประแจง “นายน้อย ดิฉันผิดไปแล้ว ดิฉันจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ ครั้งนี้ได้โปรดยกโทษให้ดิฉันด้วยนะคะ”

ถึงอย่างไรก็ตาม หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ และเหลือบมองไปที่เฉียนฝู เขาชี้ไปที่การ์ดหลายคนด้านหลัง และสั่งว่า "โยนพวกมันออกไป! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมืองฮั่นจะไม่มีที่ให้พวกมันอีก!"

“นายน้อย นายน้อย! ยกโทษให้พวกเราด้วย เราผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะครับ...”

ท่ามกลางเสียงอ้อนวอนของผู้จัดการฟางและหวังถิงถิง จากนั้นหลี่โม่และเฉียนฝูก็ได้มาถึงห้องระดับเพรซิเด้นท์ที่หรูหราที่สุด

สิบนาทีต่อมา หลี่โม่ก็เดินออกมาจากรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับพร้อมเงินในมือที่อยูู่ในถุงพลาสติก

เมื่อหลี่โม่กลับมาที่ห้องผู้ป่วย มีกลุ่มคนรออยู่ พวกเขาทุกคนมองอย่างเย้ยหยัน

“โอ้ หลี่โม่ นายไปยืมเงินมาเหรอ?” ใบหน้าของกู้ซิ่งเหว่ยแสดงท่าทางเยาะเย้ย

เขาเป็นนายน้อยของครอบครัวลูกชายคนโตในตระกูลกู้ และเขาก็ไม่ถูกกับกู้หยุนหลานลูกสาวของลูกชายคนรองมาตั้งแต่เด็ก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกสาวของลูกชายคนรองของตระกูลได้แต่งงานกับคนไร้ค่า ซึ่งนำความอับอายขายขี้หน้ามาสู่ตระกูลกู้!

หลี่โม่เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา เขาโยนถุงพลาสติกในมือลงบนโต๊ะกาแฟ แล้วพูดกับชายชรากู้ว่า "นี่เงินสองล้าน ส่วนอาการป่วยของลูกสาวผม ผมจะรักษาเอง"

ทันใดนั้น หวังฟางก็ตบหน้าหลี่โม่ และดุด่า “ไอ้ขยะ แกกล้าดียังไงมาพูดกับคุณท่านแบบนี้?”

การตบครั้งนี้ทำให้หลี่โม่ตกตะลึง เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

กู้หยุนหลานก็รีบก้าวไปจับแม่ของเธอ และพูดว่า "แม่คะ แม่จะทำอะไร?"

“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน หลบไป! ฉันบอกให้แกหย่ากับมัน แต่แกก็ไม่ฟัง ดังนั้นแกไม่มีสิทธิ์มาพูด!”

หวังฟางดุ และจ้องไปที่กู้หยุนหลาน

“หลี่โม่ แกไปขโมยเงินมาจากที่ไหน?” หวังฟางถามอย่างเยาะเย้ยเย็นชา

หลี่โม่เป็นคนแบบไหน แม่ยายของเขารู้ดีที่สุด!

หลี่โม่อธิบายว่า "ผมยืมมา"

“ฮ่าฮ่า!”

ทันใดนั้นทุกคนในห้องก็หัวเราะ

“แกเนี่ยนะ? ใครเขาจะให้คนต่ำต้อยอย่างแกยืมเงิน” หวังฟางพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในขณะนี้ ชายชราก็ลุกขึ้นยืน เขามองหลี่โม่ด้วยสายตาที่เย็นชา และพูดว่า "ยืมมาแล้วไง ซีซี เป็นคนในครอบครัวของฉัน ฉันที่จะรักษาเธอเอง ไม่ใช่แก!"

“ผมเป็นพ่อของซีซี!” หลี่โม่กำหมัด และเถียง

เพียะ!

คุณท่านกู้ตบ และด่าเขา "ไอ้เด็กเมื่อวานซืน! แกกล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอ ใครเป็นคนสอนแก!"

เมื่อทุกคนกำลังด่า และวิพากษ์วิจารณ์หลี่โม่ ก็มีชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีมีราคาเดินเข้ามาจากนอกประตู เขาดูเป็นสุภาพบุรุษ และสุภาพมาก เขาดูเหมือนคนใหญ่คนโต

“สวัสดีครับ คุณคือคุณท่านกู้ใช่ไหมครับ?” ชายวัยกลางคนถามด้วยรอยยิ้ม และในขณะเดียว เขากันก็ยื่นมือออกมา

คุณท่านกู้เองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แค่เห็นชายคนนั้นคุณท่านกู้ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา จากนั้นชายชราก็จับมืออย่างสุภาพ และพูดว่า "ใช่ ผมเอง ขอถามหน่อยท่านเป็นใครกัน?"

“แซ่ของผมคือซ่ง” ชายวัยกลางคนพูดจบก็ปรบมือ

จากนั้นที่ประตูห้องผู้ป่วยก็มีชายในชุดดำหลายคนเดินเข้ามา และนำเครื่องมือแพทย์ชุดใหม่เข้ามา!

หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สี่คนในชุดขาว และโพกหัวสีเทาเดินตามเข้ามา

"นี่คือเครื่องฟอกเลือดDX"

"และนี่คือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้"

ชายวัยกลางคนพูด จากนั้นก็หยิบกล่องยาออกมาอีกหลายกล่อง และพูดว่า "นี่คือยาANXE เป็นยาเฉพาะสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว"

เมื่อเห็นฉากนี้ต่อหน้าพวกเขา คนของตระกูลกู้ต่างก็มองหน้ากันอย่างตกตะลึง!

"นี่… เครื่องฟอกเลือดDX มีเพียงแค่สามตัวในโลก เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นยอด!"

คนหนึ่งในตระกูลกู้ อุทานออกมาด้วยความตกใจ

"ส่วนยานี่ก็ด้วย ฉันก็เพิ่งตรวจสอบ มันเป็นเฉพาะที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ อัตราการรักษาสูงถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์! ผลิตเพียงแค่หนึ่งร้อยแคปซูลต่อปี! มันแพงมาก ๆ!"

ฮึ่ม!

คนของตระกูลกู้ต่างก็ตกตะลึงอีกครั้ง!

คุณท่านกู้ถามอย่างตื่นเต้นว่า “คุณซ่ง ใครเป็นคนให้ของพวกนี้มาเหรอคับ?”

คุณซ่งมองไปที่หลี่โม่ที่กำลังขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างเงียบ ๆ และพูดว่า "ตระกูลหลี่"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 4

    ตระกูลหลี่?ทุกคนในตระกูลกู้ต่างก็สงสัย และไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ชั่วขณะหนึ่งตระกูลหลี่คืออะไร?“คุณซ่ง ตระกูลหลี่นี่…” คุณท่านกู้โค้งตัวเล็กน้อยแล้วยิ้ม ในตอนนี้เขาเข้าใจคำพูดของลูกหลานตระกูลกู้แล้วตระกูลหลี่ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาราคาแพงมาจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าสถานะ และอำนาจของตระกูลหลี่มีมาก และตระกูลกู้ไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอนจากนั้นคุณซ่งก็ยิ้มพลางเหลือบมองหลี่โม่ และพูดว่า "ผมมาเพื่อส่งของเท่านั้น และผมก็ไม่รู้อะไรแล้วด้วย"หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องผู้ป่วยไปทุกคนในห้องผู้ป่วยไปเงียบไปครู่หนึ่ง“ตระกูลหลี่ที่ใจบุญนี่ ทำไมพวกเขาถึงส่งของพวกนี้มา? พวกแกมีใครรู้จักคนตระกูลหลี่บ้าง?” คุณท่านกู้ถามลูกหลานของตระกูลกู้ส่ายหัว“คุณปู่ครับ ไม่น่าจะใช่หลี่โม่” ตอนนี้กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยหลี่โม่?ทุกคนหันไปมองหลี่โม่ที่ยืนอยู่ด้านข้างฮ่าฮ่าจะเป็นไปได้อย่างไร เขาเป็นไอ้เจ้าขยะผู้เลื่องลือที่ทำให้ตระกูลกู้ขายหน้าไปทั้งเมืองฮั่น จะมีอำนาจขนาดนี้ได้อย่างไร?“ซิ่งเหว่ย อย่าพูดเล่นเลย เราทุกคนรู้ดีว่าหลี่โม่มันเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-29
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 5

    หลี่โม่อึ้งไปเล็กน้อย และมองไปที่กู้หยุนหลาน เขาเห็นสายตาของเธอที่จ้องมาที่เขาอย่างแปลก ๆ“ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี่? แล้วเขาเป็นใคร?” กู้หยุนหลานดูค่อนข้างไม่พอใจเธอพูดกับหลี่โม่ไม่ดีเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา เพราะเขาทำให้เธอต้องเดือดร้อน ทั้งจากสายตา และการเยาะเย้ยของคนอื่น หัวใจของเธอได้ตายไปจากหลี่โม่แล้วแต่ตอนนี้หลี่โม่กลับยืนอยู่ข้าง ๆ รถโรลส์-รอยซ์นี่......หลี่โม่เกาหัวอย่างช้า ๆ สายตาของเขามองไปที่เฉียนฝูที่อยู่ด้านข้างเฉียนฝูยิ้มทันที และพูดว่า “น้องชาย ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ ฉันขอตัวก่อน ถ้านายต้องการอะไรในอนาคตก็โทรหาฉันได้เลยนะ”หลังจากนั้นเฉียนฝูก็กลับเข้าไปในรถรถโรลส์-รอยซ์ค่อย ๆ ขับออกไปหลี่โม่ยิ้มและอธิบายว่า "ชายชราเขาไม่รู้ทาง ผมก็เลยบอกทางให้เขา"เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้กู้หยุนหลานก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีกมันยากที่จะเชื่อ เป็นไปได้ไหมว่าสามีของเธอจะเป็นเศรษฐีรุ่นสองผู้ลึกลับ?ทันใดนั้น เสียงแหลมไม่น่าฟังก็ดังขึ้นมา "หยุนหลาน นี่คือสามีไร้ประโยชน์ของเธอใช่ไหม?"เป็นคำพูดที่มาจากผู้หญิงที่แต่งตัวดี และทันสมัย เธอมีผมหยักศกลอนใหญ่ ริมฝีปากสีแดงเพลิง สวมแว่นกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-29
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 6

    คลับอิมพีเรียลคอร์ท ภายในห้องส่วนตัวเอ็มเพอเรอร์หลี่โม่เอามือไขว้หลัง เขายืนอยู่ตรงหน้าต่างสูงจรดเพดาน มองไปยังวิวทิวทัศน์ด้านนอกเห็นแสงไปสลัวยามค่ำคืนด้านหลังเขา เฉียนฝูยืนก้มตัวอยู่ ดูเหมือนกำลังแสดงความเคารพ“นายน้อย อยากให้ผมทำอะไรเหรอครับ?” เฉียนฝูเอ่ยปากถาม“วันที่ 23 เดือนหน้าเป็นวันเกิดของลูกสาวของผม ช่วยจองโรงแรมซีซาร์พาเลซที่หรูที่สุดในเมืองฮั่นให้ผมล่วงหน้าทีนะ ผมจะจัดเตรียมงานเลี้ยงสำหรับแขก 300 โต๊ะ และเชิญพวกเศรษฐีชองเมืองทุกคนมา” นัตย์ตาหลี่โม่สว่างแพรวพราวราวหยดน้ำค้าง‘กู้หยุนหลาน ผม หลี่โม่ สัญญากับคุณแล้ว ผมจะค่อย ๆ ทำมันให้สำเร็จ’‘ครั้งนี้ ฉันจะให้ทุกคนในเมืองฮั่นได้รู้ ซีซีคือลูกสาวของฉัน หลี่โม่’‘และเธอ กู้หยุนหลาน เธอคือ ภรรยาของฉัน’เธอคือภรรยาของนายน้อยแห่งแดนมังกรและในอนาคตเธอจะเป็นราชานีแดนมังกรเฉียนฝูได้ยินดังนั้นก็ตัวสั่นพร้อมพูดว่า “นายน้อย คุณแน่ใจใช่ไหมครับว่าจะทำแบบนี้?”หลี่โม่หันหน้ามามองเฉียนฝูพร้อมขมวดคิ้ว และถามว่า “มีอะไรยากเหรอ?”เฉียนฝูยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “เรื่องแค่นี้ สำหรับตระกูลหลี่แห่งแดนมังกร ไม่มีปัญหาเลยครับ ติดอยู่นิดเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-29
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 7

    เมื่อมองไปที่ใบหน้าโศกเศร้าของกู้หยุนหลาน หลี่โม่ก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่หลากหลาย เขาพูดออกมาว่า “ใช่แล้ว คนที่เหมาซีซาร์พาเลซก็คือ... “ทันใดนั้นเอง!เสียงตะโกนเริงร่าของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นขัดจังหวะหลี่โม่“หยุนหลาน คุณอยู่ที่นี่เอง ตามหาตั้งนานแหนะ”คนที่เดินเข้ามาหาพวกเขาคือชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีขาวสุภาพและมีสง่าราศี ในมือของเขาหอบดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่มาด้วยฉวีเทียนไห่ นายน้อยของตระกูลฉวี ผู้ซึ่งมีฐานะทางสังคมที่ร่ำรวยหลายสิบล้าน เขาเปิดบริษัทเล็ก ๆ ด้วยตัวเอง เขาถือเป็นคนรุ่นใหม่ในเมืองฮั่นที่เปี่ยมล้นไปด้วยพรสวรรค์ฉวีเทียนไห่คือคนที่กำลังตามจีบกู้หยุนหลาน และแม้ว่ากู้หยุนหลานจะแต่งงานแล้วก็ตาม เขายังเคยมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงพาไปทานอาหารค่ำเป็นครั้งคราวด้วยทว่า ตลอดมากู้หยุนหลานล้วนปฏิเสธเขา“กู้หยุนหลาน ผมให้คุณ เพิ่งซื้อมาเลยนะ”ฉวีเทียนไห่มอบดอกกุหลาบช่อใหญ่ให้แก่กู้หยุนหลาน เธอเช็ดน้ำตาและยิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณนะคะ แต่ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”ขณะที่พูด กู้หยุนหลานเหลือบมองหลี่โม่ นี่ก็สี่ปีมาแล้ว เขาเคยมอบดอกไม้ให้เธอบ้างไหมนะ?ใช่ ถึงจะเป็นแค่ช่อดอกไม้ แต่เขาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 8

    ทันทีที่ฉวีเทียนไห่เข้าประตูมา เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่ดูถูกชายซอมซ่อคนนี้ กล้าเสนอหน้ามาที่สวารอฟสกี้อย่างนั้นเหรอ?คิ้วของหลี่โม่ขมวดเล็กน้อย และเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจฉวีเทียนไห่ฉวีเทียนไห่เห็นหลี่โม่ไม่สนใจ จึงทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขาเดินไปและพูดอย่างเย็นชา “ทำไมล่ะ นายมาดูของหรูหราพวกนี้เหรอ นายคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือไง?”หลี่โม่พูดอย่างเฉยเมย “ก็ร้านเปิดอยู่นี่ แล้วทำไมฉันจะดูไม่ได้?”หึฉวีเทียนไห่หัวเราเยาะและพูดว่า “เพราะนายจนไงล่ะ ที่นี่สวารอฟสกี้นะ สร้อยคอและแหวนเพชรต่าง ๆ ที่มีราคาหลายแสน นายคิดว่านายจะซื้อมันได้เหรอ?”คนแบบนี้มันอะไรกัน ชอบฝืนทำสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้แถมไม่ตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองซะเลยหลี่โม่ยังคงเงียบ ครุ่นคิดว่าเขาแสดงความแน่ให้ฉวีเทียนไห่ได้เห็นสักหน่อยแล้วในเวลาเดียวกันนั้น พนักงานหญิงที่หยิ่งยโสและดูถูกหลี่โม่ก่อนหน้านี้ก็รีบไปรับฉวีเทียนไห่ด้วยรอยยิ้ม และพูดด้วยเสียงต่ำ “คุณชายฉวีคะ คุณมาที่นี่ ต้องการรับอะไรเพิ่มเหรอคะ?”เหมยลี่แสดงการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ ฉวีเทียนไห่เป็นเศรษฐีรุ่นที่สองที่ครอบครองทรัพย์สินมูลค่าหลายร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 9

    เขียนชื่อเหรอ?หลี่โม่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเขียนไปประโยคหนึ่งก็พอว่า จากคนคนหนึ่งที่จะทำให้เธอมีชีวิตที่สุขสบายและจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก”เมื่อได้ยินประโยคนี้ โจวซินอี๋ก็รู้สึกหวั่นไหวเช่นกันเขาช่างดีกับผู้หญิงคนนั้นมาก ถ้าได้เป็นผู้หญิงของเขา คงจะมีความสุขมาก ๆ !หลังจากเอ่ยประโยคนั้น หลี่โม่ก็ปล่อยให้ทุกคนอิจฉาและแสดงความชื่นชมยินดีเหมยลี่คนก่อนรีบไปหาโจวซินอี๋ ทันทีที่หลี่โม่จากไป และกล่าวว่า “ซินอี๋ พาพี่ไปด้วย พี่อยากดูว่าผู้หญิงของคุณชายหลี่เป็นยังไง ถึงกับซื้อสร้อยเส้นนี้ให้เธอ ลองคิดดูสิ เธอน่าจะสวยดั่งนางฟ้านางสวรรค์แน่ ว่าไหม”โจวซินอี๋ยิ้มและพูดว่า “ฉันเองก็อยากให้พี่เหมยลี่ไปกับฉันพอดี”พอพูดจบ ทั้งสองก็ไปด้วยกันบริษัทหยุนเซิงเภสัชกรรมของตระกูลกู้ ตอนนี้พนักงานทุกคนในบริษัทกำลังพูดถึงวิดีโอดังนั้นเนื้อหาของวิดีโอเป็นฉากที่หลี่โม่ถูกพนักงานขายที่ร้านสาขาสวารอฟสกี้ดุด่า หลี่โม่ในวิดีโอดูกระจอกมากทีเดียว“กระจอก! สามีของผู้อำนวยการกู้ไม่เอาไหนเลยจริง ๆ”“น่าขำจริง ๆ คนกระจอกอุตส่าห์ไปดูสร้อยเพชรที่สวารอฟสกี้”“ใช่น่ะสิ อายแทนผู้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 10

    การปรากฏตัวของหลี่โม่ ทำให้ทุกคนในห้องประชุมหน้าบึ้งไม่พอใจ“หลี่โม่ นายเข้ามาได้ยังไง ไม่รู้เหรอว่าที่นี่ที่ไหน ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!” กู้ซิงเหว่ยชี้ไปที่หลี่โม่อย่างโกรธเคืองทันทีนี่เป็นเพียงขยะน่าสมเพช ไม่มีสิทธิ์มาเหยียบบริษัทของตระกูลกู้!ไม่มีสิทธิ์มาเหยียบที่ห้องประชุมนี้ด้วย!“โอ้โห ไอ้ขยะนี่ กล้าเสนอหน้ามาที่นี่ได้ยังไง ไม่ขายหน้าเหรอ?”“ใช่ จะพูดอะไรได้อีก นี่ไม่ใช่การขุดหลุมกลบกู้หยุนหลานหรอกเหรอ? ไม่มีสมองเอาซะเลย”“ฮ่าฮ่า ไอ้แมงดานี่ กล้ามาออกคำสั่งที่นี่เลยเหรอ?”ในห้องประชุม บรรดาญาติของตระกูลกู้และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างพยักหน้าให้หลี่โม่ คำพูดของพวกเขาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม“มาที่นี่ทำไม?” กู้หยุนหลานรู้สึกสับสนในขณะนี้ และเริ่มโกรธมากขึ้นหลี่โม่ไม่ควรมาที่นี่เลยทว่า เขากลับเดินไปหากู้หยุนหลาน ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าเป็นเวลาสี่ปี ที่เขาไม่เคยให้อะไรเธอและไม่เคยช่วยเธอเลย ทุกคนดูถูกเขา แต่กู้หยุนหลานอยู่เคียงข้างเขาเสมอมาแม้ว่าปกติกู้หยุนหลานมักจะโกรธเขา แต่หลี่โม่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรเพราะกู้หยุนหลานเป็นทั้งภรรยา อดีต และอนาค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 11

    นี่คือคำสัญญาของหลี่โม่ที่มีต่อกู้หยุนหลาน คำไหนคำนั้น!มันเป็นความรู้สึกผิด และการชดเชยให้กับกู้หยุนหลานในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาของเขาในช่วงสี่ปีที่ผ่านมานั้น กู้หยุนหลานไม่เคยทอดทิ้งหลี่โม่ เธอมักจะแอบเอาเงินไปให้แม่ของหลี่โม่ เขารู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมดแม้ว่าปกติเธอจะเย็นชา และเอาจริงเอาจังกับหลี่โม่ แต่หลี่โม่ก็รู้สึกว่ามันเป็นความรักที่เธอมีต่อเขาหลี่โม่รอคอยผู้หญิงที่ดีเช่นนี้มาทั้งชีวิต เขาต้องการใช้เวลาที่เหลือในชีวิตเพื่อปกป้องกู้หยุนหลานและลูกสาวของเขาอย่างจริงจัง“คุณไม่ได้โกหกฉันจริง ๆ ใช่ไหม?” ใบหน้าสวยของกู้หยุนหลานแดงเล็กน้อย และเต็มไปด้วยน้ำตา หลายปีที่ผ่านมาเธอถูกดูหมิ่น และถูกตระกูลกู้ทอดทิ้ง กู้หยุนหลานหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะยืนอย่างสง่าผ่าเผยโอบกอดหลี่โม่ต่อหน้าคนอื่น และบอกกับทุกคนว่านี่คือสามีของเธอ พ่อของซีซีหลี่โม่เช็ดเท้าที่ใสราวกับหยกละเอียดอ่อนของกู้หยุนหลานอย่างเงียบ ๆ และพูดว่า “หยุนหลาน ผมสัญญาว่า ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอีก!”พูดจบหลี่โม่ก็หันหลังเดินออกไปกู้หยุนหลานนั่งอยู่ข้างเตียงมองดูหลี่โม่ที่จากไปด้วยดวงตาพร่ามัว “หลี่โม่ อย่าทำให้ฉันผิดหวังในต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30

บทล่าสุด

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 939

    “คุณชาย อย่ามาขู่ผมเลยครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ล้วนมีเหตุมีผล หากไม่เชื่อก็ถามซินแสที่มาดูฮวงจุ้ยให้ได้เลยครับ คำพูดพวกนี้เขาเป็นคนพูดเองกับปากทั้งนั้น” ผู้จัดการหวังแข็งขืน ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เหวินซิน อย่าหุนหันพลันแล่น ผู้จัดการหวังพูดถูกแล้ว คนที่โชคชะตาบารมีไม่ถึง ไม่มีทางข่มพลังฮวงจุ้ยอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน” คังเหวินซินพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "อาจารย์พูดถูกแล้วครับ แต่ด้วยบารมีของอาจารย์ จะต้องสามารถข่มมันได้อย่างแน่นอน พวกเรามาดูกันดีกว่า ที่นี่ล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี คุณหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เหลือแค่ดูว่าวิลล่าหลังนี้ถูกใจคุณหรือเปล่าก็พอครับ” เมื่อเห็นคังเหวินซินพยายามเอาอกเอาใจหลี่โม่ ผู้จัดการหวังก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตนจะมองผิดไป? ผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าแผงลอยทั้งตัวคนนี้ เป็นคุณชายเศรษฐีที่มาลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตงั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายของตนถึงได้ไปประจบเอาใจเขาขนาดนี้กัน? “คุณชาย ท่านนี้คืออาจารย์ของคุณเหรอครับ?” ผู้จัดการหวังถามอย่างสงสัย “นี่คืออาจารย์ของฉันหลี่โม่ นายสุภาพกับอาจารย์ของฉัน

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 938

    “ไอ้สารเลวคนไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งวิลล่าของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่กินอะไรกันอีก ไปดูด้วยกัน จัดการไอ้พวกสารเลวนั่นซะ” “ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูก พวกเราทุกคนต้องไปดูด้วยกัน บ้านของอาจารย์ต้องดีที่สุดเท่านั้น จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว” ศิษย์พี่เกิ่งและคนอื่น ๆ พากันลุกขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเช่นนี้คังหย่งเฉียนก็เรียกให้พนักงานคิดเงินทันที แล้วจึงพาพวกของศิษย์พี่เกิ่งมุ่งตรงไปยังสวนหนานชุ่ย ... รถเมอร์เซเดสเบนซ์ขับเข้าไปในสวนหนานชุ่ย และขับตรงไปตามทางขึ้นยอดเขา ใกล้กับยอดเขาของเขาหนานชุ่ยนั้นมีที่ราบอยู่บริเวณหนึ่ง ที่ราบนี้ถูกนำมาใช้สร้างวิลล่า พร้อมทั้งปลูกต้นไม้พืชพรรณเขียวชอุ่มรอบ ๆ วิลล่าอีกด้วย ด้านหน้าวิลล่ายังมีลำธารที่ไหลมาจากยอดเขา ทำให้ฮวงจุ้ยของวิลล่านี้ยอดเยี่ยมมากไร้ที่ติ หน้าน้ำหลังเขา ตำแหน่งปากมังกรจัดวางฮวงจุ้ยอย่างดี ทำให้วิลล่าบนยอดเขาหลังนี้เลิศล้ำไม่มีใครเทียม รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดสนิทหน้าประตูวิลล่ายอดเขา ผู้จัดการหวังและพนักงานขายสาวสองคนยืนรอที่ประตูวิลล่าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถเบนซ์จอดนิ่ง ผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วยเปิดประตูรถ

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 937

    ผู้จัดการหวังหยิบบุหรี่ออกมาคาบที่มุมปาก เตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ คำขอของคังเหวินซินทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด การจะดูบ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกใจขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องราคาต้นทุนหรือเปล่า ถ้าคังหย่งเฉียนเข้ามาครอบครองวิลล่าหลังนี้ เขาก็คงไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว พอนึกถึงคังหย่งเฉียนขึ้นมาผู้จัดการหวังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ขึ้นมา เจ้านั่นเป็นปีศาจเจ้าสำราญแห่งตระกูลคัง วัน ๆ เอาแต่เกียจคร้าน กินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นยังคบค้ากับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลคังก็ยังถูกคังหย่งเฉียนยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองตีบ แทบทุกคนในตระกูลคังล้วนทำเป็นไม่สนใจคังหย่งเฉียน ตราบใดที่คังหย่งเฉียนไม่ได้ก่อปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจว่า คังหย่งเฉียนจะทำอะไร ถ้าหากยกวิลล่าให้เพื่อนของคังเหวินซินจริง ๆ คังหย่งเฉียนคงจะพาคนมาสับเขาเป็นชิ้น ๆ ถึงที่แน่ หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน ผู้จัดการหวังก็ขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ รู้สึกว่ายังไงก็ควรแจ้งให้คังหย่งเฉียนรู้สักหน่อย ส่วนคังหย่งเฉียนจะต่อสู้กับคังเหวินซินอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา

DMCA.com Protection Status