Share

บทที่ 2

เพียงเพราะเขาทำอะไรไม่สำเร็จ เพียงเพราะเขาเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์

เมื่อได้ยินเสียงที่อ่อนแอและน่าเป็นห่วงของลูกสาว หลี่โม่ก็บีบมือของเขา และพูดว่า "ผมจะหาเงินเอง"

เมื่อกู้หยุนหลานได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างและหัวใจของเธอก็เริ่มสั่นเล็กน้อย เธอมองไปที่แผ่นหลังของหลี่โม่

เขาดูเหมือนว่ายังคงมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่

หลี่โม่หันกลับมามองกู้หยุนหลานอย่างจริงจังและเช็ดน้ำตาของเธอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากโรงพยาบาลไปท่ามกลางเสียงตำหนิของทุกคน

“คุณปู่ ดูสิ ไอ้หลี่โม่มันอวดดีเกินไปแล้ว!”

“ใช่ คุณปู่ ไอ้ไร้ประโยชน์นั่น มันไม่เชื่อฟังคุณปู่เลย!”

ณ ตอนนี้ คนของตระกูลกู้ต่างก็โกรธเป็นเป็นฟืนเป็นไฟ

คุณท่านกู้แค่ส่ายหัวและไม่ได้พูดอะไร

หลี่โม่จะระดมเงินมากขนาดนี้มาได้อย่างไร?

หึหึ

กู้หยุนหลานมองตามแผ่นหลังของหลี่โม่ที่เดินจากไป เธอรู้สึกหมดหนทางอย่างมาก

แม้ว่าเธอจะเป็นหลานสาวของตระกูลกู้ แต่อำนาจทางการเงินทั้งหมดอยู่ในมือแม่ของเธอ และครั้งนี้ก็เป็นคำสั่งจากคุณตาของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่เธอก็เอามันออกมาใช้ไม่ได้

หน้าประตูธนาคาร หลี่โม่และหวังชวนยืนอยู่ด้วยกัน หวังชวนร่างสูงและผอมบางกำลังบรรจุเงินสองล้านที่เขาถอนออกมาลงในถุงผ้า แล้วมอบให้หลี่โม่โดยพูดว่า "เอาไปใช้ก่อน ไม่ต้องรีบคืนให้ฉัน”

หลี่โม่รับถุงผ้ามา น้ำตาของเขาไหลพราก และพูดอย่างซาบซึ้งว่า “พี่ชวน ผมจะคืนเงินให้พี่โดยเร็วที่สุด!”

“นี่ นายพูดอะไรเนี่ย เราสองคนไม่ใช่คนอื่นคนไกล!”

หวังชวนตบไหล่หลี่โม่พร้อมยิ้ม

“หวังชวน ถ้าคุณกล้าให้เขายืมเงิน เราก็ไม่ต้องแต่งงานกัน!”

ทันใดนั้น เสียงใส ๆ ก็ดังขึ้น ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยเดินถือกระเป๋าเข้ามาด้วยความโกรธ

เพียะ!

เมื่อเธอมาถึงก็ตบหน้าหลี่โม่ และชี้ไปที่หน้าด่าเขา "หลี่โม่ แกมันไร้ยางอายจริง ๆ แกยืมเงินหวังชวนของฉันไปกี่ครั้งแล้ว! แกไม่ละอายใจเลย ฉันละอายแทนแกจริง ๆ !"

“ชิวหยา คุณจะทำอะไร!” หวังชวนกังวล และรีบดึงจ้าวชิวหยาที่กำลังโกรธจัดไว้

ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของหวังชวน ใบหน้าของเธอแดง รูปร่างดี เธอมีบุคลิกที่เย่อหยิ่ง และใฝ่สูง

“ฉันจะทำอะไรเหรอ? หวังชวน ฉันเตือนคุณแล้วนะ ถ้าคุณกล้าให้เขายืมเงินก้อนนี้ เราก็ไม่ต้องแต่งงานกัน!”

จ้าวชิวหยาสะบัดมือของหวังชวนออก เธอเชิดหน้าขึ้นสูง และยืนกอดอก

แน่นอนว่ามีคนมากมายที่เดินผ่านตรงประตู

หวังชวนอธิบายอย่างหมดหวัง "ชิวหยา ซีซีต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพราะเธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แล้วเขาก็ต้องรีบใช้เงิน..."

“ปล่อยให้เด็กนั่นเป็นไปตามยถากรรมเถอะ! ยังไงเขาก็ต้องเสียเงินเปล่า เพราะลูกสาวของเขาจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ คุณจะช่วยอะไรเขาได้?” จ้าวชิวหยาพูดอย่างแทงใจดำ

มือของหลี่โม่บีบถุงผ้าแน่ จากนั้นก็คลายออก แล้วเขาก็ยัดถุงผ้ากลับเข้าไปในมือของหวังชวน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ชวน ไม่เป็นไร ผมจะรอดื่มไวน์ในแต่งงานของพี่ทีหลังนะ”

หลังจากพูดจบ หลี่โม่ก็รีบหันหลังเดินออกไป

ข้างหลังเขา หวังชวนตะโกนเรียกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังคงทะเลาะกับจ้าวชิวหยาต่อไป

ขณะที่เดินไปตามถนน หลี่โม่รู้สึกเศร้าใจ เขาคิดว่าควรจะทำอย่างไรดี?

ขณะนั้นเอง กู้หยุนหลานโทรมาบอกให้เขากลับไปที่โรงพยาบาล

หลังจากคิดเรื่องนี้มาสักพัก หลี่โม่ก็กลับไปที่โรงพยาบาล และพบกับกู้หยุนหลานที่หน้าประตูด้วยท่าทางประหม่า และตื่นตระหนก

เธอรีบวิ่งไป และยื่นบัตรเอทีเอ็มให้หลี่โม่ แล้วพูดว่า "ในนี้มีมากกว่าสองล้าน ฉันแอบไปฝากเงินมา คุณก็บอกว่าคุณยืมมันมานะ"

หลี่โม่หยิบบัตรมา และมองดูความงามละเอียดอ่อนบนใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเขา หัวใจของเขาก็อบอุ่นขึ้นมาทันที

เธอยังคงใจดี และอ่อนโยนเสมอ

สี่ปี ที่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานตลอดสี่ปี

“หยุนหลาน ผม...”

หลี่โม่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาไม่เคยรู้สึกว่าเขาล้มเหลวขนาดนี้เลย

ตั้งแต่กู้หยุนหลานแต่งงานกับเขา เธอก็สูญเสียศักดิ์ศรีของลูกสาวตระกูลกู้ไป และกลายเป็นเป้าหมายให้คนอื่นเยาะเย้ย

กู้หยุนหลานสูดหายใจ และพูดอย่างรู้สึกผิด "ฉันแค่ไม่อยากให้ซีซีสูญเสียพ่อของเธอไป"

ริมฝีปากของหลี่โม่สั่นเล็กน้อย และพูดว่า "ขอบคุณนะ ผมจะไม่ทำให้คุณและซีซีผิดหวัง"

“หึหึ คุณปู่พูดถูก เพราะปู่รู้ว่าเธอจะแอบเอาเงินไปให้ไอ้คนไร้ประโยชน์นี่!”

ทันใดนั้น กู้ซิ่งเหว่ยก็โผล่ออกมาจากด้านข้างด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา และนัยน์ตาเยาะเย้ย

โดนจับได้แล้ว สองคนนี้แย่แน่!

หลี่โม่ขมวดคิ้วมองไปที่กู้ซิ่งเหว่ยที่เดินออกไปอย่างมาดมั่น จากนั้นเขาก็มองไปที่กู้หยุนหลานที่กำลังร้อนใจ และพูดเบา ๆ ว่า "ไม่ต้องห่วง ผมจะรับผิดชอบเอง"

ภายในห้องผู้ป่วย คุณท่านกู้วิจารณ์กู้หยุนหลานอย่างหนัก บัตรนั้นถูกหวังฟางแม่ยายของเขายึดไป และเธอก็ดุด่าว่า "แกมันไร้ประโยชน์! ไม่มีเงินแล้วยังคิดจะมาขอเงินลูกสาวของฉันอีก น่ารังเกียจจริง ๆ !”

เมื่อกู้หยุนหลานต้องการที่จะพูดอะไรบ้าง แต่หวังฟางก็จ้องมองเธออยู่

สมาชิกในตระกูลกู้ก็ยังคงด่า และวิพากษ์วิจารณ์หลี่โม่อย่างหนัก

ทันใดนั้น!

เสียงตะโกนอันแผ่วเบาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง!

“พ่อคะ! อย่าว่าพ่อนะ...” ซีซีตัวน้อยกำลังร้องไห้อยู่บนเตียงผู้ป่วย ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่ใสบริสุทธิ์

พ่อ......

หลี่โม่รู้สึกตื่นเต้นกับเสียงที่เรียกคำว่าพ่อครั้งนี้

ตั้งแต่ซีซีเกิดมา ตระกูลกู้ไม่อนุญาตให้เขาติดต่อกับซีซีเลย ตลอดสามปี วันนี้คงเป็นวันที่เขาอยู่กับซีซียาวนานที่สุดในชีวิตของเขา

แม้แต่คำว่าพ่อ ซีซีก็ไม่เคยเเรียก...

นี่เป็นครั้งแรก!

กู้หยุนหลานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินซีซีเรียกหลี่โม่ว่าพ่อ หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น น้ำตาพลันก็ไหลรินออกมา

“มันจบแล้ว! เด็กหญิงตัวน้อย ๆ คนนี้คงถูกล้างสมองจนสับสนแน่ คนไร้ประโยชน์แบบนี้จะเป็นพ่อของเธอได้ยังไง”

มีคนกระซิบอยู่ข้าง ๆ

คุณท่านกู้ก็ทรุดตัวลงหันหลังกลับนั่งลงพร้อมจับมือเล็ก ๆ ของซีซี แล้วพูดว่า “ซีซี หนูลืมสิ่งที่ทวดพูดแล้วเหรอ? เขาไม่ใช่พ่อของหนู!”

ด้วยการตำหนิที่เย็นชาแบบนี้ ซีซีตัวน้อยที่น่ารักก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ดวงตาของเธอกก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา

เธอมองไปที่หลี่โม่ที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนรอบตัวเธอ เธอรวบรวมความกล้า และยื่นมือเล็ก ๆ สีขาวของเธอออกมา แล้วพูดว่า "เขาเป็นพ่อของหนู หนูอยากให้พ่อไปด้วย..."

“เงียบนะ! เขาไม่ใช่พ่อของหนู! มีแค่ทวดที่อยู่กับหนูแค่นี้ก็พอแล้ว”

ใบหน้าของชายชรากู้เย็นชา เขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน และพูดกับหลี่โม่ โดยไม่หันกลับมามองเขาเลย “แกมีเวลาคิดเรื่องนี้แค่สองวัน เรื่องซีซี แกคงรู้นะว่าแกต้องทำอะไร”

ในขณะนี้หลี่โม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เมื่อมองลูกสาวที่อยู่บนเตียง นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่เธอเรียกเขาว่าพ่อ

จะต้องหาทางรักษาให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!

เธอเป็นนางฟ้าตัวน้อย และอนาคตของเขา!

“ไม่ ผมจะหาทางรักษาซีซีเอง! ไขกระดูกก็ใช้ของผม เพราะเธอเป็นลูกสาวของผม!”

ตอนนี้หลี่โม่พูดอย่างจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เพื่อลูกสาวของเขาหลี่โม่เต็มใจทำทุกอย่าง!

เสียงนี้ทำให้ตระกูลกู้ที่อยู่ในห้องผู้ป่วยรู้สึกสั่น

ขณะนั้นเอง พวกเขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันจากหลี่โม่!

ผู้ชายคนนี้......

หลังจากนั้นหลี่โม่ก็หันหลังเดินออกจากโรงพยาบาลไป

กู้หยุนหลานอดไม่ได้ที่จะมองดูร่างที่จากไปของหลี่โม่ด้วยความไม่เชื่อ หัวใจของเธอก็สั่นระรัว ในที่สุดเขาก็มีรับผิดชอบแล้วใช่ไหม?

แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังรู้สึกกังวลใจกับหลี่โม่

เขาเป็นเด็กยากจนที่ไร้ประโยชน์ เขาจะหาทางรักษาลูกสาวของเขาได้อย่างไร?

หน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล เขากดหมายเลขที่เขาไม่เคยโทรหาเลยตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา

สายถูกโทรออกไป

“นายน้อย คุณพิจารณาแล้วใช่ไหมครับ?” เสียงจากปลายสายเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

หลี่โม่ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “เหล่าเฉียน ผมตัดสินใจที่จะสืบทอดแดนมังกร”

ได้เลย ฉันจะเผชิญหน้ากับมัน ฉันคือหลี่โม่ จะเป็นรุ่นที่สองที่รวยที่สุด!

ทรัพย์สินของแดนมังกรกระจายอยู่ทั่วโลก มีทรัพย์สินนับสิบล้านล้าน!

แม้แต่ตระกูลมอร์แกน ตระกูลรอธไชลด์ และกลุ่มอื่น ๆ ยังต้องยอมให้แดนมังกร!

“นายน้อย เยี่ยมมากครับ ในที่สุดท่านก็ตัดสินใจได้แล้ว คุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปเอาแฟ้มมรดกไปให้ทันที” เหล่าเฉียนที่อยู่ปลายสายรู้สึกตื้นตัน และชายชราก็ร้องไห้ เพราะในที่สุดแดนมังกรก็รอดแล้ว

“ปล่อยเรื่องนั้นไปก่อน ตอนนี้ผมต้องการเงินด่วนสองล้าน” หลี่โม่พูด

“นายน้อย อย่าว่าแต่สองล้านเลยครับ สองหมื่นล้านก็ได้!”

เหล่าเฉียนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ตื่นเต้นและพูดว่า "เดี๋ยวผมให้คนนำเงินไปให้ครับ"

หลี่โม่ครุ่นคิดเล็กน้อย และพูดว่า "ไม่ ผมไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิด ผมจะไปที่นั่นเอง"

“ได้ครับ ผมจะรอท่านที่คลับอิมพีเรียลคอร์ทในเมืองฮั่น” เหล่าเฉียนพูด

รอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับนั้นอยู่ในเครือธุรกิจของแดนมังกร

หลี่โม่วางสายพลางถอนหายใจ และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ความยากจนเป็นเหมือนบาปแต่ชาติปางก่อน

หากไม่มีเงิน ก็ยากที่จะใช้ชีวิต แม้แต่ลูกสาวของเขาเอง เขายังไม่มีสิทธิ์ได้อยู่ด้วย

หลี่โม่และแม่ของเขาถูกไล่ออกจากแดนมังกรเป็นเวลาสี่ปี พวกเขาต้องกลับไปที่แดนมังกรอย่างนั้นเหรอ?

เขาเป็นหุ่นเชิดที่พวกเขาสร้างขึ้นในช่วงวิกฤตหรือเปล่า?

ในไม่ช้า หลี่โม่ก็ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาถึงรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับ

นี่คือคลับส่วนตัวที่หรูหรา และเจริญรุ่งเรืองที่สุดในฉู่โจวของเมืองฮั่น มาตรฐานสำหรับการเข้าเริ่มต้นด้วยมูลค่าร้อยล้าน!

นอกจากนี้ คุณต้องได้รับการแนะนำโดยสมาชิกภายในก่อนจึงจะสามารถเข้าได้

ดังนั้นต่อให้คุณมีเงินมากมาย คุณก็ไม่สามารถเข้ารอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับได้

ผู้ที่สามารถมาใช้บริการที่นี่ได้ พวกเขาล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ในเมืองฮั่นที่มีทั้งชื่อเสียง หน้าตา และเส้นสาย!

ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องโถง เสียงใส ๆ ก็ดังขึ้นเพื่อหยุดเขา!

“นี่ นายเป็นใคร แล้วใครอนุญาตให้นายเข้ามา รีบออกไปซะ ใส่เสื้อผ้าอย่างกับผ้าขี้ริ้ว แล้วยังกล้าเข้ามาในรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับอีก!”

หญิงสาวสวยในชุดกี่เพ้าสีแดงหยุดหลี่โม่ไว้ เธอก็พูดตำหนิพร้อมมองดูเขาด้วยความรังเกียจ

ผู้หญิงคนนี้ มีรูปร่างสมส่วน เอวคอด สะโพกผาย และรูปร่างของเธอก็สง่างามอยู่ภายใต้ชุดกี่เพ้าที่แหวกทั้งสองข้าง ทำให้ต้นขาสีขาวดั่งงาช้างคู่หนึ่งปรากฏขึ้น มันช่างน่าทึ่งมาก ทำให้ผู้ชายที่เห็นเธอแทบจะกระอักเลือด

“ออกไปเดี๋ยวนี้! ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะเข้ามาได้!”

หวังถิงถิงจ้องไปที่หลี่โม่ด้วยความรังเกียจ เธอเคยเห็นไอ้พวกเกรียนน่าสมเพชมากมายที่ต้องการจะเข้าไปในรอยัลคอร์ท ไพรเวทคลับ

แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มองเธอเลย ที่นี่มันที่ไหนกัน!

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status