กู้หยุนหลานสูดหายใจ แล้วกลืนความน้อยใจทั้งหมดลงในท้อง และตอบกลับว่า “ประธานหวังพูดถูก ฉันจะไปบริษัทหรงคังเดี๋ยวนี้ และคิดแผนโครงการโดยเร็วที่สุด” พูดจบกู้หยุนหลานก็หันกลับมาหยิบกระเป๋า และกำลังจะจากไป อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าหวังเมิ่งเหยาไม่ปล่อยให้กู้หยุนหลานไปแบบนี้ เธอตรงเข้าไปดึงกระเป๋าในมือของกู้หยุนหลานและทิ้งลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นก็ผลักกู้หยุนหลานอย่างไม่แยแส ด่าว่า “กู้หยุนหลาน ฉันเตือนเธอไว้ อย่ามาแสแสร้งทำเป็นน่าสงสารและน้อยเนื้อต่ำใจต่อหน้าฉัน ผู้หญิงแอ๊บใสแบบเธอ ฉันเจอมาเยอะแล้ว! ถ้าเธอรู้จักกาลเทศะหล่ะก็ลาออกจากตำแหน่งรองประธานเองเลย แล้วสละตำแหน่งของเธอให้กู้ซิ่งเหว่ย ไม่อย่างนั้น ฉันทำให้เธอตายได้!” กู้หยุนหลานเหลือบมองสิ่งที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยน้ำตา และในที่สุดก็ไม่สามารถทนความน้อยเนื้อต่ำใจได้ ตอบกลับว่า “ประธานหวัง ฉันไม่เคยผิดใจกับคุณ ทำไมคุณถึงพุ่งเป้ามาที่ฉันแบบนี้?!" หวังเมิ่งเหยาตอบกลับอย่างเยาะเย้ยว่า “พุ่งเป้าที่เธอ? กู้หยุนหลาน เธอมองตัวเองสูงเกินไป เธอเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ ฉันเจอมานับไม่ถ้วนแล้ว ตอนกลางวันแกล้งทำเป็นผู้หญิงบริสุท
เดือดแล้ว! มังกรมีเกร็ดย้อน ใครกล้าแตะต้องตาย! หลี่โม่รีบพุ่งไปข้างหน้า คว้ามือของหวังเมิ่งเหยาที่กำลังจะตบอีกฝ่าย แล้วผลักเธอออกไป! เขามองไปที่กู้หยุนหลานที่กำลังสั่นสะท้านไปทั้งตัว รอยฝ่ามือสีแดงสดบนใบหน้าเธอทำให้ตาทั้งคู่ของเขาลุกเป็นไฟ! เจตนาฆ่าที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ปะทุออกมาจากหลี่โม่อย่างสมบูรณ์ในเวลานี้! “หยุนหลาน ผมขอโทษ ผมมาช้าไป” หลี่โม่พูดเบา ๆ แล้วดึงเสื้อหนังกันลมจากบนโซฟามาคลุมร่างที่อ่อนแอของกู้หยุนหลาน เมื่อกู้หยุนหลานเห็นหลี่โม่มาถึง น้ำตาในดวงตาเธอก็ไหลไม่หยุด เขาปรากฏตัวแล้ว คือหลี่โม่ที่ปรากฏตัวในช่วงเวลาที่เธอรู้สึกท้อแท้ หมดหนทาง และสิ้นหวังที่สุด เธอร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง โผเข้าอ้อมกอดของหลี่โม่ “หลี่โม่...พาฉันกลับบ้าน พาฉันกลับบ้านที...” เสียงร้องอันเจ็บปวดนี้ทำให้หัวใจของหลี่โม่แหลกสลายเป็นชิ้นๆ กู้หยุนหลานร้องไห้ ทำให้โลกทั้งใบของหลี่โม่จะแตกสลาย! ในโลกใบนี้ไม่มีใครรังแกกู้หยุนหลานได้! ไม่มี! ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าภูมิหลังของเธอจะเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะเป็นราชาแห่งสวรรค์ หลี่โม่ก็จะลงมือถึงตาย ลงมือถึงตายด้วยตัวเขาเอง! หลี่โม่สูดหายใจ
จบแล้ว จบแห่แล้ว! เกรงว่าพี่หยุนหลานจะอยู่ในบริษัทต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แม้แต่หลี่โม่เองก็จบแห่แน่! แต่ว่า วินาทีถัดมา เสียงหัวเราะเยาะเย้ยที่มุมปากของหลี่โม่ก็ดังขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าช้า ๆ เดินถึงด้านหน้าหวังเมิ่งเหยา แล้วจับผมหยักศกยาวของเธอ และดึงเธอขึ้นจากพื้น ตามมาด้วย เพี๊ยะ! เสียงตบหน้ารุนแรงได้กระทบบนใบหน้าของหวังเมิ่งเหยา ใบหน้าเย่อหยิ่งของหวังเมิ่งเหยาหันไปอีกด้าน แก้มของเธอปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนไฟ! ในเวลานี้หวังเมิ่งเหยาเบิกตากว้าง และจ้องไปยังชายที่อยู่ข้างหน้าเธออย่างไม่เชื่อ หลังจากการตอบสนองกลับมา เธอก็โวยวายอย่างบ้าคลั่งว่า “หลี่โม่ ไอ้สารเลว แกกล้าดียังไงมาตีฉัน แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?! " “เหอะ ๆ ฉันหลี่โม่ไม่จำเป็นต้องรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเวลาตีคน” เพี๊ยะ! หลี่โม่เข้าไปตบหน้าอีกครั้งอย่างแรง เพี๊ยะ! เพี๊ยะ เพี๊ยะ! เขาตบหวังเมิ่งเหยาล้มลงไปกองกับพื้นทุกครั้งที่ตบ จากนั้นดึงขึ้นมา และตบอีกครั้ง! หวังเมิ่งเหยาถูกตบจนมึน แล้วยังต้องการโต้กลับ ดังนั้นจึงถูกหลี่โม่ใช้เท้าเตะออกไปอีกครั้ง แล้วเตะเธออย่างดุเดือด จนเธอกลิ้งลงกับพื้น! ตอนนี้ใบหน้าขอ
อวดดี! หลี่โม่เขาเป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลกู้ เขามีคุณสมบัติอะไรถึงจะพูดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ได้ มันน่าหัวเราะ! ใบหน้าหวังเมิ่งเหยาเต็มไปด้วยความรังเกียจ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้หลี่โม่ต้องชดใช้ และยิ่งกว่านั้นคือต้องขับไล่กู้หยุนหลานออกจากบริษัทนี้! บริษัทนี้ต้องเป็นของพี่ซิ่งเหว่ยเท่านั้น หวังเมิ่งเหยาไม่ยอมให้ผู้หญิงต่ำต้อยเช่นนี้รับแย่งตำแหน่งรองประธานของกู้ซิ่งเหว่ย ในขณะนี้เฉียนเสี่ยวเหวินยืนอยู่ข้างกู้หยุนหลาน เธอมองไปที่แววตาของหลี่โม่ที่สะท้อนเต็มไปด้วยเสน่ห์! เท่เกินไปแล้ว! คำพูดและการกระทำของหลี่โม่เมื่อกี้นั้นได้ระเบิดพลังออร่าของแฟนหนุ่มออกมา! ตอนแรกคิดว่าเขาเป็นคนอ่อนแอที่ไม่รู้อะไรเลย คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อพี่หยุนหลานแล้วเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้! อย่างไรก็ตามหลี่โม่นั้นก็ไร้สมองเกินไปแล้ว เขาถึงกับกล้าที่จะตบหวังเมิ่งเหยา นั่นคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลหวังในกรุงโซลเชียวนะ และพี่ชายของเธอคือหวังฮั่นเชาที่มีชื่อเสียงในกรุงโซล! ซึ่งเป็นคนที่พัวพันกับเฉียวเย่ และเฉียวเย่ก็ชื่นชมเขาไม่น้อย เฉียวเย่คือใครเหรอ? ก็คือเฉียวเจิ้งหลงแห่งกรุง
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลี่โม่ในขณะนี้ กู้ซิ่งเหว่ยก้าวออกมาทันที ชี้ไปที่หลี่โม่ และพูดว่า “พี่เชา คนนี้ไง” หวังฮั่นเชาหันหน้าไปมอง สายตาทั้งคู่มองอย่างเย็นชาที่ชายธรรมดาที่อยู่ข้างหน้าเขา “เป็นแกเองที่ตบน้องสาวฉัน เยี่ยม คุกเข่าขอโทษน้องสาวฉันเดี๋ยวนี้!” หวังฮั่นเชาพูดด้วยท่าทีดุดัน กล้าลงมือกับน้องสาวเขา รนหาที่ตาย! อย่างไรก็ตาม สีหน้าหลี่โม่นั้นเงียบสงบ และพูดว่า "คุณไม่ถามผมเหรอว่าทำไมผมถึงตบน้องสาวคุณ?" “ทำไมฉันต้องถามด้วย ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่าแกตบน้องสาวฉัน แกต้องขอโทษน้องสาวฉัน!” หวังฮั่นเชาตระโกนด้วยความโกรธ ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยความดุดัน กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะอย่างเย็นชาที่มุมปากของเขา หลี่โม่คนนี้เป็นคนงี่เง่าจริง ๆ เขายังต้องการเหตุผล? หวังเมิ่งเหยากอดอก และมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาแล้วตะโกนว่า “พี่ชาย เลิกพูดไร้สาระกับเขา ลงมือให้เขาตาย และแก้แค้นแทนน้อง!” กู้หยุนหลานรู้สึกกังวลในตอนนี้ และอยากออกมาอธิบาย แต่หลี่โม่ขัดเธอไว้ เขามองไปที่หวังฮั่นเชาด้วยสายตาที่แผดเผา และพูดว่า “น้องสาวของคุณจงใจสร้างปัญหาให้ภรรยาของผม คนที่เริ่มลงมือก่อน ท
เฉียว...เฉียวเย่?! ในเวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึง! เฉียวเย่มาแล้ว! พวกเขาทั้งหมดหลีกทางโดยอัตโนมัติ และเฉียวเจิ้งหลงก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนของเขา หวางฮั่นเฉาก็ตกตะลึงในขณะนั้น เขาหันไปที่มองบุคคลนั้น เป็นเฉียวเย่จริง ๆ เขารีบเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มชื่นบาน แล้วโค้งคำนับด้วยความเคารพ และพูดว่า "เฉียวเย่ ท่านมาที่นี่ได้ไง?" เพี๊ยะ! กลับกลายเป็นว่าเฉียวเจิ้งหลงเข้าไปตบหน้าหวังฮั่นเชา และจ้องมองเขาด้วยความโกรธ ตะโกนว่า "แกกำลังทำอะไร!" ตบนี้ทำให้หวังฮั่นเชามึนไป ซี๊ด ซี๊ด! ทุกคนต่างก็สูดหายใจเข้า เฉียวเย่ก็คือเฉียวเย่ แรงกดดัน และการลงมือที่โหดเหี้ยมนี้ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านในใจ นี่คือหนึ่งในสี่ราชามาเฟียในกรุงโซล เฉียวเย่ เฉียวเจิ้งหลง ออร่านี้ไม่ถูกปกปิดจริง ๆ อย่างไรก็ตามหวังฮั่นเชาไม่กล้าบ่น และตอบด้วยความเคารพว่า “เฉียวเย่ คนผู้นี้รังแกน้องสาวผม ผมพาคนมาสั่งสอนเขาสักหน่อย” หวังฮั่นเชาไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวเย่ถึงมาที่นี่ ยิ่งกว่านั้นคือเข้ามาตบตัวเขา หรือว่าตัวเขาได้ทำอะไรขัดใจเฉียวเย่เข้า? ก็ไม่น่าเป็นไปได้นี่ “สั่งสอน? แกหวังฮั่นเชามีชื่อเสียงมากในตอนนี้กล้าท
ในตอนนั้นกู้หยุนหลานก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวาย น้ำตาไหลออกมา เธอตะโกนโวยวายอยากจะรีบพุ่งเข้าไปแต่ก็โดนขัดขวางไว้ “ฮ่าฮ่า ตบได้ดี! ตบให้มันตาย!” หวังเมิ่งเหยายังคงหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ข้างนอก และตื่นเต้นอย่างมาก เหลือบมองอย่างภูมิใจแล้วพูดว่า “กู้หยุนหลาน เธอได้ยินไหม สามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอกำลังถูกสั่งสอน!” หลายคนก็เริ่มส่ายหัว ตอนนี้หลี่โม่ชายคนนั้นจบสิ้นแล้ว ผิดใจกับหวังฮั่นเชาก็ถือว่าช่างเถอะ แต่ยังผิดใจกับเฉียวเย่อีก นั่นเป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเองชัด ๆ ในห้องสำนักงาน หวังฮั่นเชามึนไปทั้งศรีษะแล้วก็ได้ยินเสียงวิ๊ง ๆ ในหูเขา เขาจับหน้าแล้วมองด้วยสายตาไม่น่าเชื่อ มองไปที่เฉียวเจิ้งหลงที่โกรธจัด และถามอย่างสั่นเทา“เฉียว...เฉียวเย่ ท่านตบผิดคนหรือเปล่า? ผมคือหวังฮั่นเชานะ คนต่ำช้านั้น...คนต่ำช้านั้นไม่เคารพคุณนะ” “หุบปาก!” เฉียวเจิ้งหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ จากนั้นในสายตาของหวังฮั่นเชาที่แทบไม่อาจเชื่อเลยตลอดชีวิตของเขา เฉียวเจิ้งหลงหันตัวกลับแล้วยืนนิ่ง และก้มหน้าแล้วกล่าวด้วยความเคารพ “คุณชายหลี่ ผมต้องขอโทษด้วย เป็นเพราะผมสอนไม่ดี ปล่อยให้ลูกน้องทำร้ายท่าน โปรดท่านลงโ
ตอนนี้สมองของกู้หยุนหลานว่างเปล่า พยักหน้ารับอืม อืม แล้วปล่อยให้หลี่โม่กุมมือออกไป เพียงแต่ว่าหวังเมิ่งเหยาที่อยู่ด้านข้างรีบออกมา และตรงเข้าไปขวางทางหลี่โม่กับกู่หยุนหลาน เธอตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า "แกออกมาได้ยังไง ทำไมแกถึงไม่ได้รับบาดเจ็บ? เมิ่อกี้ใครเป็นคนถูกทุบตี?" เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลี่โม่เดินออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ หลี่โม่หันศีรษะจ้องไปที่หวังเมิ่งเหยาด้วยสายตาที่เย็นชา และเตือนว่า "หลีกไป!" คำพูดง่าย ๆ สองคำทำให้หวังเมิ่งเหยาตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ช่างเป็นแววตาและแรงโกรธที่น่ากลัว! นี่คือสิ่งที่คนไร้ประโยชน์สามารถแสดงได้หรือ? สิ่งนี้ทำให้หวังเมิ่งเหยาทั้งหวาดกลัวและเกลียดชังในใจ เธอตรงเข้าไปตบหน้าหลี่โม่ทันที และตะโกนว่า "แกกล้าดุฉัน? พี่ชายของฉัน และเฉียวเย่ต่างก็อยู่ที่นี่ แกยังกล้าที่จะดุฉัน?" เพี๊ยะ! แต่ตบรอบนี้กลับลอยค้างอยู่กลางอากาศเพราะมันถูกจับไว้อย่างแน่น หลี่โม่ตรงเข้าไปบีบข้อมือของเธอด้วยแรงเพียงเล็กน้อย แต่ทำให้หวังเมิ่งเหยากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “อย่าบังคับให้ฉันลงมือ!” หลี่โมพูดอย่างเย็นชาแล้วสะบัดมือหวังเมิ่งเหยาทิ้ง และกำลังจะจา