เห็นได้ชัดว่าหวังฮั่นเชาเป็นคนของเฉียวเย่ แต่ทำไมคนที่ออกมาสุดท้ายอย่างหวังฮั่นเชาถึงเต็มไปด้วยบาดแผล หรือว่าหลี่โม่มีความลับที่ซ่อนไม่ให้เธอรู้? หลี่โม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง และยิ้มเบา ๆ ว่า “ผมก็ไม่รู้ หลังจากเข้าไป เฉียวเย่ก็มีข้อขัดแย้งกับหวังฮั่นเชาดูเหมือนว่ามีบางอย่างไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ผมแค่ยืนดูไปเรื่อย ๆ ผมก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตูคืออะไร ทำไมล่ะ คุณคงไม่คิดหรอกนะว่าเฉียวเย่ผู้นั้นรู้จักผมแล้วช่วยผมออกแรง”เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม่ ความสงสัยของกู้หยุนหลานก็หายไป “ก็ได้ แต่เรื่องนี้ต้องลำบากแน่ ๆ หวังเมิ่งเหยาเป็นนักลงทุนในบริษัทของเรา กู้ซิ่งเหว่ยต้องพูดจาไร้สาระต่อหน้าคุณปู่แน่” กู้หยุนหลานดูเคร่งขรึม หลี่โม่ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร ก็แค่เปลี่ยนนักลงทุนรายอื่น นอกจากนี้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นความผิดของหวังเมิ่งเหยา ไม่ต้องกังลเกินไป" “ทำไมถึงไม่กังวลล่ะ ล่วงเกินนักลงทุน แล้วฉันก็เพิ่งเข้ารับตำแหน่งรองประธาน ถ้าคุณปู่จะลงโทษ เขาอาจจะถอดตำแหน่งรองประธานของฉัน จากนั้นกู้ซิ่งเหว่ยก็สามารถกลับมาเป็นคนร้ายได้อีกครั้ง” กู้หยุนหลานดูเป็นกังวลมาก หลี่โม
จากนั้นทั้งผู้นำตระกูลหวัง และลูก ๆ ของเขาก็ออกจากบ้านเหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนในเมืองฮั่นต่างพากันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันทีเนื่องจากตระกูลหวังนั้นถือได้ว่า เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับสองในเมืองฮั่น และสถานะของพวกเขาในเมืองฮั่นนั้นเมื่อเทียบกับตระกูลกู้แล้วก็ถือว่าสูงกว่าไม่น้อยเลยในบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรม ประเด็นของกู้หยุนหลานและสามีของเธอที่ได้ตบหวังฮั่นเชา และหวังเมิ่งเหยาแรง ถูกเผยแพร่ไปทั่วเมืองฮั่นราวกับไฟลามทุ่ง ทุกคนต่างตะลึง เมื่อได้ดูวิดีโอนั่นจากกลุ่มไลน์ พวกเขาทุกคนต่างพูดไม่ออก“โอ้โห! หลี่โม่นี่ช่างป่าเถื่อนจริง ๆ ไม่เหมือนคนกระจอกเลย แม้แต่เสือสาวอย่างหวังเมิ่งเหยายังถูกเขาตบเลย”“ฮ่าฮ่า มันก็เป็นแค่คนไม่เอาถ่าน จะไปทำอะไรได้ นี่ไม่ใช่ว่าตระกูลหวังกำลังจะไปที่บริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมเพื่อขอคำอธิบายเรื่องนี่หรอกเหรอ”“ใช่ คราวนี้กู้หยุนหลานแย่แน่ เพราะเธอมีสามีที่ไร้สมองแบบนี้ไง”ทุกคนพูดคุยกันในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ นานา ด้วยคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยาม และเย้ยหยันเกือบทุกคนเชื่อว่า คราวนี้ผู้นำตระกูลหวังพาลูกชายและลูกสาวไปที่ประตูเพื่อขอคำอธิบายส่วนทางนี
กู้หยุนหลานเลิกคิ้วขึ้น และมองไปที่หลี่โม่ด้วยสีหน้ากังวล "ทำยังไงดีหลี่โม่ ครั้งนี้เราเจอหายนะครั้งใหญ่แน่"ในใจของเธอเป็นกังวลมาก กู้ซิ่งเหว่ยจะต้องพูดใส่ร้ายเธอ และเป่าหูคุณปู่แน่ ไม่อย่างนั้นคุณปู่คงจะไม่โกรธมากขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้น หวังฉางเห้อผู้นำของตระกูลหวัง ยังขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องครอบครัวแบบเอาเป็นเอาตาย และครั้งนี้เธอกับหลี่โม่จัดการหวังเมิ่งเหยา ซึ่งตามนิสัยของหวังฉางเห้อ เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องนี้อย่างแน่นอนหลี่โม่มองดูท่าทีที่กังวลใจของกู้หยุนหลาน และเขายิ้มออกมาเล็กน้อย "ไม่เป็นไร ไปก็ไปสิ บางทีเมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาอาจจะมาหาเราเพื่อขอโทษก็ได้"ตึกตักเมื่อได้ยินแบบนี้ หัวใจของกู้หยุนหลานก็สั่นระรัว เธอขมวดคิ้วพลางมองดูใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหลี่โม่ และมองเขาด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว และพูดว่า "ในเวลาแบบนี้ คุณยังจะเล่นตลกอีกนะ!"หลังจากนั้น เธอก็หยิบกระเป๋า และพูดคุยกับซีซีสองสามคำ แล้วเธอก็เดินหันหลังเดินออกไปเมื่อเห็นหลี่โม่เดินตามมา กู้หยุนหลานก็หันไปทันที และพูดอย่างเย็นชาว่า "คุณอยู่ที่นี่กับซีซีเถอะ ฉันจะไปเอง"หลี่โม่ตัวสั่น และเขาก็เข้าใจความหมายเบื้องหล
ทันใดนั้น ทุกคนในห้องประชุมก็เริ่มพูดคุยกัน และทุกคนในห้องต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกัน นั่นก็คือเห็นด้วยกับคุณท่านกู้เมื่อกู้ซิ่งเหว่ยเห็นฉากนี้ ในใจของเขาก็มีความสุขมาก สถานการณ์ตอนนี้ถูกตัดสินแล้ว!ในเวลาเดียวกัน กู้หยุนหลานและหลี่โม่ก็มาถึงประตูของบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมในขณะที่กู้หยุนหลานรีบเร่งฝีเท้า แต่หลี่โม่ที่เดินอยู่ข้างหลังก็ก้าวเดินอย่างช้า ๆ โดยไม่ตื่นตระหนกเลยแต่ก่อนที่กู้หยุนหลานจะได้เข้าไปในบริษัท เธอก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามคนขวางทางไว้โดยไม่มีเหตุผล“รองประธานกู้ ผมขอโทษด้วย คุณไม่ได้เป็นสมาชิกของบริษัทอีกต่อไปแล้ว เมื่อกี้การประชุมของท่านประธานได้มีการตัดสินใจถอดคุณออกจากตำแหน่งรองประธาน คุณถูกไล่ออกแล้ว” การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างเย็นชานี่มันอันตรายจริง ๆ และตอนนี้บริษัทก็อยู่ในภาวะตื่นตระหนกถ้าตระกูลหวังมาจริง ๆ พวกเขาคงจะซวยมากแน่เมื่อกู้หยุนหลานได้ยินแบบนี้ สีหน้าหน้าของเธอดูไม่เชื่อ และตะโกนว่า "คุณปู่ทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ? ฉันไม่เชื่อ ฉันจะเข้าไป!"พูดจบ เธอก็รีบวิ่งเข้าไปแต่การ์ดก็ผลักเธอออก และตะโกนว่า "ถ้าคุณบุกเข้ามาอีก พวกเราจะไม่เกรงใ
แต่เธอรู้ว่าหลี่โม่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ภายใต้เสื้อของเขาก็มีกล้ามหน้าท้องที่แข็งแรง และมีรอยแผลเป็นมากมายบนร่างกายของเขากู้หยุนหลานเคยถามหลี่โม่ แต่เขาก็เอาแต่ยิ้ม และอธิบายว่าเขาเคยทำงานในไซต์ก่อสร้างมาก่อน ส่วนรอยแผลเป็นบนร่างกายของเขา ทั้งหมดเป็นร่องรอยที่เขาได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กกู้หยุนหลานรีบตะโกนว่า "หลี่โม่ พอแล้ว อย่าสร้างปัญหาอีก"หลี่โม่ก็ระงับความโกรธของเขาไว้ และถอยกลับไปยืนข้างกู้หยุนหลานอย่างเงียบ ๆขณะนี้ผู้ช่วยวิ่งเข้าไปในห้องประชุม และพูดกับคุณท่านกู้ว่า "ท่านประธานครับ กู้หยุนหลานกับหลี่โม่อยู่ที่ชั้นล่าง แต่..."“แต่อะไร?” กู้ซิ่งเหว่ยถาม“แต่หลี่โม่ก็จัดการกับการ์ดทั้งสามคนหมดเลยครับ เขาช่างอวดดีจริง ๆ” ผู้ช่วยพูดอย่างยุยงเพราะเขาเป็นคนของกู้ซิ่งเหว่ยเมื่อกู้ซิ่งเหว่ยได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ทุบประชุมด้วยความโกรธ และพูดอย่างโกรธเคืองว่า "คุณปู่ครับ ดูหลี่โม่นี่สิครับ ตอนนี้เขาจองหองแค่ไหน เขาไม่ได้ให้ความเคารพคุณปู่ ไม่เห็นบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมอยู่ในสายตาเลย เขาคงคิดว่า สุดท้ายเราก็ต้องยอมก้มหัวให้กับกู้หยุนหลาน และทำอะไรเขาไม
หวังฉางเห้อนำลูกสาวลูกชายวิ่งไปที่ประตูทันทีกู้ซิ่งเหว่ยที่กำลังโต้เถียงกับกู้หยุนหลานก็เลิกคิ้วขึ้น ทันทีที่เห็นคนที่วิ่งเข้ามา ความโกรธบนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่สุภาพในทันที และเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทาย "คุณลุงหวัง มาแล้วเหรอครับ"หลังจากทักทายเสร็จ กู้ซิ่งเหว่ยก็เหลือบไปที่กู้หยุนหลาน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันหวังฉางเห้อมาแล้ว หลังจากนี้กู้หยุนหลานกับหลี่โม่จบเห่แน่!กู้ซิ่งเหว่ยเหยียดมือออกอย่างกระตือรือร้นเพื่อที่จะจับมือทักทายกับหวังฉางเห้อ หวังฉางเห้อหัวหน้าตระกูลหวัง ซึ่งถือเป็นตระกูลที่ร่ำรวยระดับสองในเมืองฮั่น เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลกู้ สถานะของพวกเขานั้นสูงกว่าหลายเท่านอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ลงทุนของบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรม ดังนั้นกู้ซิ่งเหว่ยจึงต้องระมัดระวังมากแต่ในวินาทีต่อมา กู้ซิ่งเหว่ยก็ต้องตกตะลึงเพราะหวังฉางเห้อเมินเขา และเดินตรงผ่านเขาไป หวังฉางเห้อรีบวิ่งไปหาหลี่โม่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และยื่นมือออกมา แล้วพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนมาก ๆ ว่า "คุณชายหลี่ครับ ผมขอโทษครับ ผมมาที่นี่เพื่อชดใช้ความผิดของผมด้วยตัวเองครับ"ฉากนี้ทำให้ทั้งกู้ซ
ในขณะนี้กู้หยุนหลานยังคงตกตะลึง เธอส่ายหัวอย่างรวดเร็ว และพูดว่า "ประธานหวัง คุณสุภาพเกินไปแล้วค่ะ"หลังจากนั้น หวังฉางเห้อทำท่าทางเหมือนจะขอร้อง และกล่าวว่า “เชิญทางนี้ครับรองประธานกู้ ผมจะช่วยคุณจัดการอธิบายเรื่องนี้เอง”ฮึดฮัด!กู้ซิ่งเหว่ยที่อยู่ด้านหน้าโกรธจัดหวังฉางเห้อกำลังช่วยกู้หยุนหลานให้ได้รับความเป็นธรรมอย่างนั้นเหรอ?ให้ตายเถอะแบบนี้มันหมายความว่าอะไร?“คุณลุงครับ นี่คือกู้หยุนหลาน คนที่ตบเมิ่งเหยานะครับ ทำไมคุณลุงต้องช่วยจัดการแทนเธอด้วย?” กู้ซิ่งเหว่ยอดที่จะถามไม่ได้"หุบปาก!"สายตาที่เย็นชาของหวังฉางเห้อจ้องไปที่กู้ซิ่งเหว่ย และตะโกนด้วยเสียงต่ำ ๆ ว่า "เรื่องนี้เป็นความผิดของเมิ่งเหยา คนทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ทำไม พวกนายอยากให้ตระกูลหวังของฉันตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของคนทั้งเมืองฮั่น และกลายเป็นครอบครัวที่ไร้เหตุผลในเมืองฮั่นเหรอไง?”“ผม… ผมไม่กล้าครับ คุณลุงพูดจริงจังเกินไปแล้ว” เหงื่อที่หน้าผากของกู้ซิ่งเหว่ยเริ่มตกหวังฉางเห้อคนนี้ ในหัวสมองของเขากำลังโมโหมากลูกสาวของเขาเองถูกตบ แต่เขากลับต้องให้คำอธิบายแทนผู้กระทำหลังจากนั้น กู้ซิ่งเหว่ยก็พาหวังฉางเห
ขอคำอธิบายให้กับกู้หยุนหลาน?คุณท่านกู้ตกตะลึง เขาไม่รู้เลยว่าหวังฉางเห้อกำลังพูดถึงอะไร“ประธานหวัง คุณหมายความว่ายังไง?” คุณท่านกู้ถามด้วยความงุนงงหวังฉางเห้อพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา และพูดว่า “คุณเป็นคนถอดตำแหน่งรองประธานของกู้หยุนหลาน และไล่เธอออกจากบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมใช่ไหม?”“นี่เป็นเพราะหยุนหลานรังแกเมิ่งเหยา ผมเป็นคนรักษาความยุติธรรมแม้เธอจะเป็นคนในครอบครัว ประธานหวัง คุณไม่ต้องกังวลเลยครับ ถ้าคุณคิดว่า การลงโทษครั้งนี้ยังไม่เพียงพอ บอกผมมาได้เลย ผมจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองตระกูล และเพื่อไม่ให้กระทบต่อการลงทุนด้วยครับ"คุณท่านกู้ยิ้ม สีหน้าของเขานั้นช่างดูไร้ยางอาย และไม่มีความละอายแก่ใจเลยแต่ว่าสีหน้าของหวังฉางเห้อแย่ลง และเขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ผมหมายถึง ต้องการให้คืนตำแหน่งของกู้หยุนหลานในฐานะรองประธาน ส่วนเรื่องความร่วมมือในการลงทุนระหว่างตระกูลหวังของผมกับบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรม จากนี้ไปจะต้องให้รองประธานกู้เป็นคนดูแล"ซี้ดด!ทุกคนในห้องประชุมสูดหายใจเข้า!นี่ แบบนี้มันหมายความว่าอะไร?หวังฉางเห้อบ้าไปแล้วเหรอ?ลูก