Share

ตอนที่ 4 ดักรอหน้าห้อง

ตอนที่ 4 ดักรอหน้าห้อง

ประตูหน้าห้องที่เปิดค้างเอาไว้ ทำให้อิทธิพลได้ยินเสียงคนคุยกัน เขาจึงเดินออกมาดู เห็นยัยแว่นข้างห้องเดินกลับเข้ามาพร้อมกับน้องสาวของเพื่อนสนิทที่มองแค่ใบหูเขาก็จำมันได้

มดเป็นผู้หญิงอวบขั้นสุดท้าย ย้อนแย้งกับชื่อเล็กๆของเธออย่างสิ้นเชิง เพราะเหตุนี้เวลาที่อิทธิพลเจอกับมดจึงมีการแหย่และแซวกันอยู่บ่อยๆ แต่ก็ในฐานะพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น

“พี่อิท!” มดไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักที่นี่ อย่าบอกนะว่า...พี่อิทคือไอ้โรคจิตที่ไอ้แว่นเล่าให้ฟัง

“ไอ้มด มึงรู้จักพี่เขาด้วยเหรอ” มัทนาสะกิดเพื่อน พร้อมกับกระซิบกระซาบถาม

“อือ...พี่อิทเป็นเพื่อนพี่กูเอง อย่าบอกนะว่าพี่อิทคือผู้ชายข้างห้อง คนที่เอาแว่นมึงไป” มัทนาพยักหน้าให้เพื่อน มดหันไปมองใบหน้าพี่อิทอีกครั้ง เห็นแว่นตาของเพื่อนเสียบอยู่ที่คอเสื้อของเขา...คนนิสัยไม่ดี!

“พี่อิทแกล้งเพื่อนหนูทำไม” มดรีบต่อว่าอิทธิพลทันที มดรู้จักอิทธิพลมานานทำให้เธอรู้ว่าเขานั้นขี้แกล้งขนาดไหน

“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท มองไปที่หญิงสาวทั้งสองคน ที่กำลังยืนอยู่คู่กันแล้วก็อดที่จะนึกขำขึ้นมาไม่ได้

“ขำอะไร...พี่อิท! เอาแว่นของเพื่อนหนูคืนมานะ” ตามประสาคนรู้จักกัน มดรู้ว่าพี่อิทคงขำหุ่นอวบๆของเธอเพราะดูจากสายตาแล้วไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้...ใช่ซี๊! ก็เพื่อนของเธอมันสวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลยนี่

“เอาไปดิ” น้ำเสียงห้วนๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแว่นที่เสียบอยู่ที่คอเสื้อของตัวเอง ทำท่าส่งคืนให้เจ้าของ แต่ไม่วายที่จะยึกยัก

"เอามานะ!" มัทนาโวยวาย แต่แล้วเขาก็ยอมคืนให้ ได้แว่นไปปุ๊บ มัทนาก็สวมปั๊บ

“ทำตัวเป็นโรคจิตจริงๆด้วย” มดบ่น พลางจับมือเพื่อนของเธอเอาไว้

“นี่อย่าบอกนะ ว่ายัยแว่นนี่ไปเล่าให้เราฟังว่าพี่เป็นโรคจิต”

“พี่พักอยู่ที่นี่เหรอ” มดไม่ได้ตอบคำถามที่อิทธิพลถาม แต่เลือกที่จะถามกลับ เพราะเธอเองก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกันว่าพี่อิทที่เธอรู้จักพักอยู่ที่นี่ด้วย

"อือ...ทำไม"

"เปล่า...ถามดูเฉยๆ พี่อิทแกล้งเพื่อนหนูทำไม ชอบเพื่อนหนูเหรอ" มดถามตรงๆ ตามนิสัยแสบๆของเธอ

“ไอ้มด!” มัทนาสะกิดเพื่อนเสียงดัง ถามอะไรของมันเนี่ย!

“เพื่อนเราผิดปกติ พี่แค่สงสัยก็เลยอยากถามดูว่าเป็นอะไร”

“เพื่อนหนูปกติดี มันแค่เป็นคนขี้กลัวไปหน่อยก็แค่นั้น”

“ว่ายังไงมาย...กลัวพี่ถึงขนาดต้องไปตามเพื่อนมาอยู่ด้วยเลยเหรอ” คุยกับมดนานแล้ว ขอหันไปคุยกับอีกคนบ้าง

“คือหนู...”

“คืออย่างนี้พี่อิท ไอ้แว่นมันเป็นคนขี้กลัวจริงๆนะ พี่อย่าไปถือสามันเลย”

“ขี้กลัว...กลัวอะไร กลัวพี่อย่างนั้นเหรอ กลัวทำไม พี่ไปทำอะไรให้” ยิงคำถามรัวๆพร้อมกับมองหน้าเจ้าตัวไปด้วย นั่นจึงทำให้คนขี้กลัวไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี

“...........”

“พี่อิท...หนูว่าต่างคนต่างอยู่เถอะ ยกเว้นซะแต่ว่า...” มดทำตาเล็กตาน้อย มองไปที่อิทธิพลอย่างจับผิด

“แต่ว่าอะไร!”

“เว้นแต่ว่าพี่ชอบเพื่อนหนู” เบื่อคนรู้ทัน!

“ไร้สาระ!”

“แหม...เพื่อนหนูมันก็ไม่ชอบแก่ๆอย่างพี่หรอก จริงมั้ยไอ้แว่น” มัทนาพยักหน้าเร็วๆให้เพื่อน แต่คำว่าแก่ของมดทำให้สีหน้าของอิทธิพลเริ่มตึงขึ้น เป็นจังหวะที่มัทนาหันไปเห็นพอดี เธอจึงรีบหลบสายตาแล้วก้มหน้าลงทันที

“เมื่อไหร่จะผอม!”

“อ้าว...พูดแบบนี้ก็สวยดิ” มดเองก็ไม่ยอมเช่นกัน!

“มดๆ พอเถอะเข้าห้องกันดีกว่า” มัทนาชวนเพื่อนเข้าห้อง ได้แว่นคืนแล้วเลิกแล้วต่อกันเถอะ แต่ในขณะที่ทั้งสองสาวกำลังเดินจากไป...

“ไอ้มด...พี่ขอคุยด้วยหน่อย”

“ไม่คุย!” มดปฏิเสธ โทษฐานที่ชอบแซวเธอว่าอ้วนทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากัน ซึ่งเธอไม่ได้อ้วนแค่อวบ!

“ว่าจะให้ตังกินขนมสักหน่อย ไม่เอาก็แล้วแต่” พูดถึงเรื่องเงินใครจะไม่เอา

“เอาๆ ไอ้แว่นมึงเข้าไปรอกูในห้องก่อน เดี๋ยวกูขอไปคุยกับพี่เขาแป๊บนึง” มดผลักหลังเพื่อนให้เดินกลับเข้าห้องไปก่อน จากนั้นมดก็เดินตามอิทธิพลเข้าไปคุยธุระกันในห้องสองคน เข้ามาถึงด้านในอิทธิพลก็เริ่มเปิดประเด็นถามทันที

“ยัยนั่นมีแฟนหรือยัง” คำถามแรกทำเอามดหัวเราะขึ้นมาอย่างผู้ชนะ

“แหมๆ...เมื่อกี้ทำเป็นปากแข็ง” น้ำเสียงขบขันของมดเงียบกริบลงทันทีเมื่อเห็นแบงค์พันถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าสตางค์

“ยังไม่มี โสดสนิท ยังไม่เคยมีแฟนด้วย พอใจมั้ยคะ” ตอบคำถามนี้เสร็จ แบงค์พันใบแรกก็ได้มาอยู่ในมือของมดทันที

“พี่ชอบ...” สารภาพตามตรง จะให้จีบด้วยตัวเองสงสัยจะยาก ก็เลยคิดว่าต้องใช้ตัวช่วย

“ถ้าจะให้หนูช่วยเอามาอีกสองพัน” แบมือขอด้วยรอยยิ้ม แบงค์พันสองใบถูกวางลงบนมือของมดทันทีตามที่ขอ

"ห้ามเบี้ยวล่ะ"

“คำไหนคำนั้นค่ะ แต่หนูขอบอกไว้ก่อนเลยนะ เพื่อนหนูคนนี้จีบยากมาก มันไม่เคยมองผู้ชายคนไหนมาก่อน ถ้าพี่ชอบจริงๆต้องอาศัยความหน้าด้านเข้าสู้”

“ยังไง...”

“..........” มดทำท่าคิดๆ ไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับแบมือรอแบงค์พันอีกใบในกระเป๋าสตางค์ของพี่อิท และแล้วมันก็ลอยออกมาจริงๆซะด้วย สี่พันแล้ว!

“ไอ้แว่นมันเป็นคนขี้กลัว พี่ต้องทำให้มันรู้สึกว่าอยู่กับพี่แล้วปลอดภัย ไม่ใช่เป็นเหมือนโรคจิตแบบนี้” หลอกด่านิดๆหน่อยๆก็เอา! มีหรือเขาจะไม่รู้ แต่ครั้งนี้เขายอมปล่อยผ่านไปก่อน

“โรคจิตตรงไหน ยัยแว่นนั่นคิดไปเอง”

“ไม่รู้แหละ ขออีกพันได้มั้ยคะ พันนี้จะไปช่วยพูดให้มันหายกลัวพี่” พูดเสร็จก็ยักคิ้วให้พี่อิทอย่างขี้เล่น

“แน่นะ” สายตาคมจับจ้องไปที่ยัยมดตัวแสบอย่างไม่ค่อยไว้ใจ

“แน่ค่ะ...” สุดท้ายก็ยอมให้ไปอีกหนึ่งพัน คิดซะว่าเลี้ยงขนมน้อง นานๆจะถูกใจผู้หญิงขึ้นมาสักคน สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องง่าย ก็เลยคิดว่าจะลองจีบดูสักตั้ง

“ขอบคุณค่ะ...ไปนะ” อิทธิพลพยักหน้าให้ มดหยิบเงินห้าพันในมือขึ้นมาจูบท่าทางมีความสุขสุดๆ อยู่ดีๆก็ได้เงินกินขนม! แล้วรีบเก็บเงินใส่กระเป๋าทันที ก่อนที่จะย่องเดินออกจากห้องไป

“ก๊อกๆๆ” เมื่อประตูเปิดออก...

“ไอ้แว่น...” น้ำเสียงดีใจเอ่ยเรียกมัทนาเสียงดัง พร้อมกับกระโดดกอดเพื่อนแน่น

“ดีใจอะไรของมึง ปล่อย...กูหายใจไม่ออก” กอดซะแน่น! มดยอมคลายวงแขนออกให้

“พี่อิทให้ตังกินขนม” น้ำเสียงดีใจสุดๆ ใบหน้าไม่ต้องพูดถึง ยิ้มแป้นไม่ยอมหุบ เนื่องจากไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้

“กี่ร้อย” มัทนาถาม...

“ห้าพันเว้ยมึง มึงอยากกินอะไรเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”

“กูไม่หิว กูกินข้าวแล้ว ว่าแต่ห้าพันนี่ เขาไม่ได้ให้เปล่าใช่มั้ย” มัทนาถาม

“ใช่! รู้มั้ย...อะไรเอ่ยที่มากกว่าห้าพัน” ไอ้ที่ดีใจอยู่นี่ได้ห้าพันก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ดีใจมากกว่า ก็เพราะพี่อิทจะจีบเพื่อนของเธอนั่นเอง

“คำถามอะไรของมึง...กูไม่รู้”

“พี่อิทเขาชอบมึงเว้ย! เป็นไงอึ้งล่ะสิ”

“เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับกู” มัทนายอมรับว่าอึ้งจริงๆ

“จะไม่เกี่ยวกับมึงได้ยังไง เพราะผู้หญิงที่เขาชอบคือมึงเว้ยเพื่อน"

“กูไม่ได้ชอบเขา”

“ถ้ามึงไม่รีบคว้าโอกาสนี้ไว้ กูบอกเลยว่ามึงพลาดมาก” รับเงินพี่เขามาแล้ว ยังไงก็ต้องทำงานหน่อย อีกอย่างมดรู้จักพี่อิทมานาน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน จัดว่าเป็นผู้ชายโปรไฟล์ดีมากๆ เสียอย่างเดียวปากไม่ค่อยดี ชอบว่าเธออ้วนทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากันเลยก็ว่าได้

“เขาใช้ให้มึงมาพูดเหรอ”

“แหมเพื่อน...ก็ใช่แหละ แต่กูรู้จักเขามานาน ถ้าไม่ดีจริงกูไม่สนับสนุนหรอก ดูสิคุยแป๊บเดียวได้มาห้าพัน สายเปย์สุดๆ เชื่อกู! คนนี้ดี!”

“กูยังเรียนไม่จบเลยนะมึง”

“อีกไม่ถึงปีก็จะจบแล้ว คิดซะว่าศึกษาดูใจกันไปก่อน...นะนะ” ความตั้งใจของเพื่อนในเรื่องนี้ต้องยอมมัน เชื่อแม่สุดๆ

“จะดีเหรอ กูว่าเขาน่ากลัว”

“เขาไม่ได้เป็นโรคจิตอย่างที่มึงเข้าใจ เขาแค่ขี้แกล้ง อาจจะถูกใจมึงด้วยแหละมั้ง ช่วยไม่ได้มึงอยากเกิดมาสวยเองนี่นา”

“เขายังไม่มีแฟนอีกเหรอ อายุป่านนี้แล้ว”

“เมื่อกี้กูเข้าไปในห้องเขา ก็ไม่เห็นมีใครนะ” เพื่อนพี่ ไม่ใช่เพื่อนตัวเอง ในหลายๆเรื่องมดเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

“เขารวยมากเหรอ ให้เงินมึงกินขนมตั้งห้าพัน” หว่านพืชหวังผล! เรื่องนี้ยิ่งทำให้มัทนากลัว เพราะเธอคือตัวแปรสำคัญในเรื่องนี้

“เขาเป็นเจ้าของบริษัทออกแบบ แต่เพิ่งเริ่มเป็นมั้ง กูรู้แค่นี้ เรื่องอื่นกูไม่รู้ นั่นแน่!…มึงสนใจพี่เขาแล้วใช่มั้ย” คำตอบก็คือไม่!

“กูเปล่า...”

“เอาไปคิดก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่ากูบังคับ เอาเป็นว่าเขาไม่ได้เป็นโรคจิต เขาแค่ชอบมึง เรื่องโรคจิตมึงสบายใจได้ กูคงต้องกลับแล้ว มีอะไรก็ไปเคาะประตูเรียกพี่เขาได้ เขาน่าจะเต็มใจให้มึงเรียกทั้งคืนนั่นแหละ”

“ไอ้บ้า...”

“มีอะไรโทรไปได้ กูจะกลับไปใช้เงินพี่อิทสักหน่อย”

“ให้กูลงไปส่งมั้ย”

“ไม่ต้องๆ กูไปเองได้”

“ขับรถดีๆ” มดเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องของมัทนาไป แต่เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของอิทธิพลแทน

“ก๊อกๆๆ”

“นึกว่าใคร” คนด้านในเปิดประตูออกมาเห็นเป็นหน้ามดถึงกลับเซ็ง

“กลับก่อนนะคะ จะไปใช้เงิน” แค่แวะทักทายเฉยๆ แต่บอกเลยว่าท่าทางไม่ธรรมดา

“เชิญ...” แต่ก่อนที่มดจะเดินออกไปจากหน้าห้องของอิทธิพล เธอได้ส่งสายตาไปที่ประตูห้องข้างๆที่เธอเพิ่งเดินออกมา ประมาณว่า...ไปดิ! จากนั้นเธอก็เดินสวยๆออกไปจากตรงนี้ทันที

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status