ตอนที่ 5 แผนสูง
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น มัทนาคิดว่าเป็นเพื่อนของเธอที่ย้อนกลับมา เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้
“ไอ้มด ไหนบอกว่า...พี่อิท!” มัทนาเปิดประตูเห็นว่าไม่ใช่เพื่อนของเธอ เธอจึงทำท่าจะปิดประตูลง แต่ถูกมือใหญ่ผลักเอาไว้ไม่ยอมให้เธอปิดลงได้ง่ายๆ
“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งปิด” เขาใช้แรงแค่เพียงนิดเดียว แต่เธอใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมี ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาได้
“ปล่อยค่ะ เราไม่รู้จักกัน” เธอร้องบอกเขาเสียงดังอีกครั้ง นึกโมโหตัวเองทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิด
“เรารู้จักกันแล้ว” เขาเถียงกลับมา แล้วรีบแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ด้านในห้องของเธอจนได้สำเร็จ
“ออกไปนะคะ!” การกระทำของเขาทำให้เธอกลัว กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอเข้า อยู่กันในห้องสองต่อสองแบบนี้ด้วย มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย สถานการณ์แบบนี้อันตรายจริงๆ
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเราตอนนี้หรอกน่า” คำพูดของเขามันไม่น่าไว้ใจ เพราะฟังดูดีๆคิดแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์
“ขอร้อง ออกไปก่อนเถอะนะคะ”
“ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวไง ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ”
“ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่ามั้ยคะ” มัทนาเริ่มหาทางออกให้ตัวเอง
“ก็ดีนะ กินข้าวหรือยัง” เขาถามท่าทางสบาย ส่วนมัทนาถอยหลังยืนห่างที่สุดเท่าที่จะห่างได้ อิทธิพลเห็นแล้วนึกขัดใจอยู่มาก ตกลงเธอเป็นคนขี้กลัวหรือว่ารังเกียจเขากันแน่
“กินแล้วค่ะ”
“งั้นพี่พาไปกินขนม”
“...........” ในใจของมัทนาเธอไม่อยากไปด้วยเลยสักนิด เธอยังคงยืนนิ่งทำท่าคิดว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี
“ออกมาสิ หรือจะเปลี่ยนใจอยู่ในห้องน้องต่อก็ได้นะ พี่ไม่ติด” มัทนาก็เลยจำใจเดินตามออกไป โดยที่เธอไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าสะพายติดบ่าไปด้วย
“รอพี่แป๊บนึง” เขารีบเข้าห้องของตัวเองไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับมือถือ จากนั้นก็รีบกลับออกมา
“ไม่ไปได้มั้ยคะ คุยกันแค่หน้าห้องตรงนี้ก็พอ” เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหน ซึ่งเธอก็ต้องอ่านหนังสือต่อด้วย
“ไปเถอะน่า...อยู่กับพี่ปลอดภัยแน่นอน” เฉพาะวันนี้!
“..........” ในที่สุดเธอก็ยอมเดินตามเขาไป เธอปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่ง ครั้นจะหนีก็คงไม่รอดเพราะห้องอยู่ติดกัน
“ขึ้นรถสิ”
“คือ...” เธอยืนนิ่งไม่ยอมเปิดประตู ไม่อยากไปด้วยเลย สำหรับเธอเขาคือคนแปลกหน้า ไว้ใจไม่ได้!
“เข้าไปเถอะน่า...” เขาเดินอ้อมมาฝั่งที่เธอยืนอยู่แล้วเปิดประตูผลักเธอเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นจึงปิดประตูลงทันที แล้วจึงเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเหมือนเดิม เขาเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่ง เห็นเธอยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยก็เลยหวังดีเอื้อมมือไปหยิบเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะคาดให้เธอ แต่!
“จะทำอะไรคะ!” ยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปได้ถึงไหน คนขี้กลัวก็รีบพูดขึ้นมาซะก่อน
“อย่าคิดมากสิ” เขารีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เธอ เสื้อชุดนักศึกษารัดรูปที่เธอสวมใส่อยู่มันช่างบางเหลือเกิน มองเข้าไปก็รู้เลยว่าเธอใส่บราสีอะไร ทำได้แค่เพียงคิดในใจเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรออกมา กลัวว่าไก่จะตื่นซะก่อน
สำหรับมัทนาจังหวะที่เขาเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดให้ เธอหายใจแทบไม่ออก เพราะใบหน้าของเขาขยับเข้ามาเกือบชิดติดกับใบหน้าของเธอ ความใกล้ชิดกันเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่เป่าลดเธอด้วย
ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายสองต่อสองในสถานการณ์แบบนี้ และดูเหมือนว่าหัวใจของเธอมันกำลังเต้นแรง ที่น่าจะเกิดขึ้นเพราะความตื่นเต้น
จากนั้นอิทธิพลก็ค่อยๆเคลื่อนรถออกไปจากลานจอดรถของทางคอนโด
“พี่จะพาหนูไปไหนคะ” มัทนาเริ่มถาม ความขี้กลัวของเธอ ทำให้เธอไม่ไว้ใจเขาง่ายๆ
“พี่อิทจะพามายไปไหนคะ...พูดใหม่ซิ” คนอารมณ์ดีกำลังทำหน้าที่ขับรถ อยากให้เธอเรียกเขาว่าพี่อิท แล้วก็แทนตัวเองด้วยชื่อเล่น
“...........”
“ถ้าไม่ยอมพูด พี่จะพาเราเข้าโรงแรม” เขาแกล้งขู่เธอเล่น ตามนิสัยของเขา ซึ่งคนขี้กลัวอย่างเธอมีหรือจะไม่พูด
“พี่อิทจะพามายไปไหนคะ” เธอยอมพูด ซึ่งปกติเวลาเธอพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนเธอก็มักจะแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นอยู่แล้ว
“ว่าจะพาไปเดินห้างใกล้ๆ อยากกินอะไร”
“มายไม่หิว”
“แต่พี่หิว ไปนั่งกินเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” ที่บอกว่าหิว เขาไม่ได้หิวข้าวหรอกแต่น่าจะหิวอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของกิน ก่อนกลับมาถึงห้องพักเขาแวะทานข้าวมาแล้ว แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นมันก็แค่ข้ออ้าง สงสัยต่อจากนี้ไปเขาคงต้องรอกินข้าวเย็นพร้อมเธอซะแล้ว
อิทธิพลเลี้ยวรถเข้าไปจอดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทั้งสองลงจากรถแล้วเดินตามกันเข้าไปในห้าง
อีกคนใส่ชุดทำงานเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงสแล็คสีดำเนื้อผ้าอย่างดี เดินเคียงคู่มากับผู้หญิงตัวเล็กสวมชุดนักศึกษารัดรูปอวดหุ่นสวย
ทั้งสองเดินตามกันเข้ามาในร้านปิ้งย่างร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้า เขาคิดเอาเองว่าเด็กๆอย่างเธอน่าจะชอบกินอะไรแบบนี้ อีกอย่างในร้านก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายแล้วแต่จะกิน จะเป็นเครื่องดื่ม ไอติม ขนมหวาน หรือแม้แต่ผลไม้ก็มี
“สองที่ครับ”
“เชิญลูกค้าทางด้านนี้เลยค่ะ” ผู้คนในร้านมีไม่มาก แต่เขากลับเอื้อมมือมาจับมือของเธอเอาไว้หลวมๆ แล้วพาเดินไปด้วยกันคล้ายกับกลัวว่าเธอจะหลง ครั้นจะสลัดมือออกก็ไม่กล้า เธอก็เลยปล่อยให้เขาจูงไป ทั้งสองเดินมาหยุดนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งภายในร้าน แล้วเริ่มตักอาหารมาปิ้ง มัทนาเองพอเห็นของอร่อยตรงหน้าน้ำย่อยก็เริ่มทำงาน เธอลงมือย่างและกินกับเขาท่าทางเอร็ดอร่อย
“ไหนบอกไม่หิวไง”
“ไหนๆก็มาแล้ว จะให้มายนั่งดูพี่นั่งกินคนเดียวเหรอคะ” ก็จริงของเธอ ตักเข้าปากไปได้แค่ไม่เท่าไหร่ ทั้งสองก็อิ่ม จากนั้นจึงพากันเดินออกจากร้านแล้วไปชอปปิงกันต่อ
“อยากได้อะไรมั้ย พี่ซื้อให้”
“ไม่ค่ะ” มัทนารีบปฏิเสธทันที
“อยากให้จริงๆ ไม่ต้องกลัวพี่หรอกน่า ยังไงพี่ก็หวังในตัวเราอยู่แล้ว” คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาทำให้มัทนาหน้าบูดขึ้นมาทันที
“.............” คำพูดของเขาที่คิดว่ามันตลก แต่คนฟังกลับมีสีหน้าไม่นึกตลกด้วยเลยสักนิด
“ดูทำหน้าเข้า กระเป๋ามั้ย ชอบใบไหน” เขาถามอีกครั้ง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงรีบควงแขนเขาเข้าร้านไปแล้ว แต่นี่อะไรทำไมจีบยากจัง
“ไม่เอาค่ะ” ถ้าเธอรับของจากเขาก็เท่ากับว่าเธอมีใจ เธอก็เลยเลือกที่จะเดินหนีแต่อิทธิพลก็เดินตามแล้วคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทัน
“ไม่พอใจอะไร” เขาแค่พยายามทำในสิ่งที่คิดว่าผู้หญิงน่าจะชอบ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาจะทำให้เธออึดอัด
“อย่าคิดนะคะ ว่าเงินของพี่จะซื้อมายได้” คำพูดของมัทนาทำให้อิทธิพลถึงกลับหน้าเสีย เขายอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าเงินของเขาสามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่น่าจะยกเว้นเธอ น่าสนใจ!
“พี่...ขอโทษ”
“มายจะกลับห้อง”
“กลับก็กลับ” เขาตามใจ แต่คนหน้ามึนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือของเธอ เขายังคงจับเอาไว้ในแบบเหนียวแน่น เขาจับจูงพาเธอเดินไปที่รถเพื่อขับกลับคอนโด
ตอนที่ 6 เจ้าเล่ห์ที่หนึ่งเมื่อขับรถมาถึงคอนโดและจอดสนิทที่ลานจอดรถ มัทนาปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยได้ เธอกำลังจะเปิดประตูรถลงจากรถ แต่อิทธิพลกลับเอื้อมมือมาจับข้อมือของเธอเอาไว้ ยังไม่ยอมให้เธอลงไปง่ายๆ“พี่อิท...ปล่อยมือมายนะคะ” เผลอเป็นไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ เห็นเธอไม่ว่าอะไร ชักจะเอาใหญ่“ไม่ปล่อย...” เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่แกล้งใช้นิ้วหัวแม่มือลูบเบาๆที่มือของเธอด้วย เด็กอะไรทำไมมือนุ่มจัง“ปล่อยนะคะ!” เธอสะบัดมือออกจากการจับของเขา เขาจึงยอมปล่อยให้ จีบยากจริงๆแฮะ!“เดี๋ยว...พี่แค่จะขอเบอร์” ท่ายากเยอะจริงๆ ทำเอาคนขี้กลัวทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ตกลงไม่รู้ว่าอันไหนแกล้ง อันไหนจริง“ไม่ให้ค่ะ”“ไลน์ก็ได้”“ไม่ให้ค่ะ”“เฟซบุ๊กก็ได้”“ไม่ให้ค่ะ!”“ถ้าไม่ให้ก็อยู่มันในรถนี่แหละ” สายตาของเขาเริ่มสำรวจเรือนร่างสวยๆของเธออย่างไม่คิดที่จะปกปิด นั่นจึงทำให้มัทนายอม...“เอามือถือของพี่มาสิค่ะ” เขาหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอให้ จากนั้นจึงส่งให้เธอ มัทนาให้เบอร์ไป บันทึกชื่อปุ๊บ ไลน์เด้งปั๊บ สีหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้างๆท่าทางพอใจอย่างเห็นได้ชัด“จะปล่อยมายลงไปได้หรือยังคะ” เขา
ตอนที่ 7 ของฝากแทนใจ@มหาวิทยาลัย“ไอ้มด...มึงรู้มั้ยว่าพี่ข้างห้องกูเขาหายไปไหน”“ใคร...พี่อิทน่ะเหรอ”“อือ”“เขาไม่ใช่พี่ชายกู บ้านก็ไม่ได้อยู่ติดกัน กูจะไปรู้ได้ยังไง” มดตอบแบบขอไปที แต่ก็แอบอมยิ้มเมื่อคิดว่าเพื่อนของเธอน่าจะมีใจให้พี่เขาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อยแหละน่า“ตั้งแต่วันที่พี่เขาเอาคีย์การ์ดมาคืนให้ กูไม่เจอหน้าพี่เขาเลย เหมือนไม่ได้อยู่ที่ห้องด้วย”“ทำไม...มึงคิดถึงเขาหรือไง” มดถามทีเล่นทีจริง“บ้า...กูแค่สงสัย”“กูโทรไปถามให้เอามั้ยล่ะ กูจะบอกเขาว่า...เพื่อนฝากมาถาม” มดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน ในแบบขี้เล่นตามนิสัยของเธอ“อย่านะ! มึงไม่รู้ก็ช่างเถอะ ไม่อยู่ก็ดีกูรู้สึกปลอดภัยขึ้นตั้งเยอะ”“เขาไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า...ถ้ามึงไม่ยอมซะอย่าง” จากที่มดรู้จักกับพี่อิทมา เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้น“กูไม่ไว้ใจ”“ระวังใจตัวเองให้ดีแล้วกัน อยู่ห้องใกล้กันซะด้วย”“เออๆ เลิกพูดถึงเขาเถอะ ไปเรียนดีกว่าถึงเวลาแล้ว” เป็นจังหวะที่น้ำกับฟ้าเดินเข้ามาสมทบด้วยพอดี ทั้งสี่คนเดินเข้าห้องเรียนพร้อมกันช่วงเย็น มัทนาชวนน้ำเพื่อนของเธออีกคนมานอนที่ห้องด้วย ซึ่งปกติเพื่อนๆก็มักจะแวะมานอนด้วยแบบนี้เ
ตอนที่ 8 เข้าห้องผิดเช้าวันรุ่งขึ้น อิทธิพลตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอหน้ามัทนาแล้ว ไม่รู้ว่าเธอหนีออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปเคาะประตูเรียกที่ห้องก็เงียบไม่เห็นเธอเปิด เขาก็เลยเดาว่าเธอน่าจะออกจากห้องไปแล้วทางด้านมัทนา หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาบนเตียง แล้วเห็นว่าอิทธิพลย้ายตัวเองลงไปนอนอยู่ที่โซฟา ความคิดเมื่อก่อนที่เคยกลัวเขา ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้วแต่กลับมีความรู้สึกดีๆให้แทน“ยิ้มอะไรไอ้แว่น” ในห้องเรียน น้ำสังเกตเห็นเพื่อนนั่งอมยิ้มมองสร้อยข้อมืออยู่ จึงเอ่ยแซวขึ้น“เปล่า...”“สร้อยข้อมืออะไรสวยจัง ไปซื้อมาจากที่ไหนเหรอ” น้ำลองจับๆดู ไม่เคยเห็นเพื่อนใส่มาก่อน ดูสวยเก๋แปลกตาดี“มีคนให้มา”“พี่อิทกลับมาแล้วเหรอ” น้ำถามอย่างรู้ทัน“รู้ได้ยังไงว่าเป็นเขา”“กูเดา พูดแบบนี้แสดงว่าใช่จริงๆด้วย” คนรอบๆตัวของมัทนามีอยู่แค่ไม่กี่คนหรอก ไม่ว่าเป็นใครก็เดาถูกทั้งนั้นนั่นแหละ“พวกมึง...เย็นนี้ไปสังสรรค์กันหน่อยดีมั้ย ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว กูอยากผ่อนคลาย” อยู่ๆฟ้าก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ช่วงนี้เรียนหนักรู้สึกเบื่อจังเลย“ไปมั้ยไอ้แว่น” น้ำ“แล้วแต่ ไปก็ไป” มาย“ไอ้แว่นไปกูไป” มดสรุปทั้งสี่คนคืนนี
ตอนที่ 9 เข้าห้องผิด Nc+“พี่อิท จะทำอะไรมายคะ” เขาพาเธอนอนลงบนเตียงแล้วขึ้นมาอยู่ด้านบนตัวเธอ มองใบหน้าสวยด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ยังไม่ได้ทาบทับลงไปโดนตัวของเธอ ห้องสว่างไปด้วยแสงไฟ ทำให้มัทนาเห็นใบหน้าของพี่อิทได้ชัดเจน เนื่องจากใบหน้าของเขาอยู่ตรงหน้าของเธอ ปลายจมูกโด่งของทั้งสองชนกันพอดิบพอดี“พี่อิทอย่านะ” สายตาของหญิงสาวใต้ล่าง บ่งบอกว่าเธอกลัวเขาอย่างชัดเจน อิทธิพลจึงทิ้งตัวนอนลงข้างเธอเพื่อปลอบประโลมเธอก่อน“ไม่ต้องกลัวพี่” น้ำเสียงแผ่วเบากับสายตาอ่อนโยนของเขาสบตากับเธอ พร้อมกับนิ้วมือเขี่ยหยอกเย้าอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไปด้วย“...........” สายตาของเธอยังคงสั่นระริกเมื่อคิดว่าตัวเองไม่น่าจะรอด มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย เธอรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอใจสั่นระรัวขึ้นมาอีกแล้ว“ปล่อยตัวตามสบาย ทำใจดีๆ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มายคิด เชื่อพี่นะ” เขาพยายามปลอบประโลมให้เธอใจเย็นลง และให้เธอยอมตกเป็นของเขาแต่โดยดี“...........” นิ้วมือที่กำลังเขี่ยอยู่ที่ริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ทำให้เธอเผลอเผยอปากให้เขาเล็กน้อย อิทธิพลเห็นว่าเธอเริ่มนิ่งเขาจึงค่อยๆโน้มริมฝีปากลงไปจูบที่ริมฝี
ตอนที่ 10 เข้าห้องผิด Nc+สายตาขี้เล่นของเขามองใบหน้าของเธอด้วยรอยยิ้ม เขาหยอกเย้ายอดดอกบัวของเธอด้วยลิ้นอุ่นๆของเขาอีกนิด พรมจูบเต้าสวยด้วยริมฝีปากอุ่นจนเกิดเสียงอีกหน่อยอิทธิพลขยับตัวขึ้น แขนข้างหนึ่งของเขากลายเป็นหมอนให้เธอหนุน ใบหน้าแนบชิดสบตากับเธอ ฝ่ามือใหญ่ข้างที่ยังว่างเคล้นคลึงเต้าสวยไม่ให้เหงา ริมฝีปากอุ่นจูบลงไปที่ริมฝีปากบางของเธอ เขาขบเม้มเบาๆพอให้เธอได้ผ่อนคลายสายตาของเขายังคงจับจ้องมองใบหน้าของเธออยู่อย่างนั้น นิ้วหัวแม่มือวนเวียนหยอกเย้าอยู่ที่ยอดดอกบัวสีหวานอยู่สักครู่ พอเธอเผลอไผลเขาจึงรีบเลื่อนฝ่ามือลงต่ำทันทีมัทนารีบรั้งฝ่ามือข้างนั้นของเขาเอาไว้ ริมฝีปากอุ่นรีบกดจูบลงบนริมฝีปากบางทันที เพื่อเป็นการหลอกล่อให้เธอยอม“อื้อๆ” มัทนาทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา“มายต้องเชื่อใจพี่ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มายคิด” เขาจับมือของเธอข้างที่รั้งแขนของเขาเอาไว้ออก“อื้อๆ...” กระโปรงยีนสั้นถูกเขาถลกขึ้นมากองอยู่เหนือสะโพก แล้วรีบสอดมือเข้าไปในแพนตี้สีหวานของเธอทันที“อื้อๆ ไม่เอาค่ะ อย่านะพี่อิท” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามรั้งข้อมือของเขาเอาไว้ ไม่ให้สอดต่ำลงไป
ตอนที่ 11 ยอมรับ Nc+“พร้อมหรือยัง พี่ไม่ไหวแล้วนะ” เขากระซิบถามเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออึกใหญ่ มัทนาพยักหน้างึกงักใบหน้าเหยเก นั่นจึงทำให้อิทธิพลเริ่มขยับสะโพก...เขาค่อยๆขยับช้าๆ เนื่องจากความคับแน่นของเธอทำให้เขาปวดหนึบและทรมานอยู่ไม่น้อย ความเป็นหญิงของเธอกอดรัดความเป็นชายของเขาเอาไว้แน่น ภายในร่องรักตอดรัดความเป็นชายของเขาถี่ยิบ จนร่างกายของเขาร้อนฉ่า เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านในขณะที่สะโพกสอบยังคงทำหน้าที่อย่างเชื่องช้า ริมฝีปากหยักบรรจงจูบอยู่ที่ริมฝีปากบางอยู่อย่างนั้น เขาขบเม้มเบาๆพอให้เธอหายเหงา“ดีขึ้นมั้ย...” เขาจะไม่ถามว่าหายเจ็บหรือยัง เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายยังรู้สึก แล้วเนื้ออ่อนๆของเธอจะไปเหลืออะไรแต่ความอ่อนโยนของเขาก็สามารถทำให้มัทนาเคลิบเคลิ้มได้ เธอยังคงเจ็บอยู่มาก อาจจะเป็นเพราะขนาดของเขาที่ไม่ธรรมดา ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอด้วย แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่าเริ่มมีความรู้สึกอื่นแทรกเข้ามา มันทำให้เธอมีความสุขและลืมความเจ็บลงไปได้ชั่วขณะอิทธิพลเห็นว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วม ดูได้จากเสียงหวานๆของเธอที่ครางออกมาไม
ตอนที่ 12 ยังเด็กอยู่ ช่วงเช้าของวันใหม่ มัทนาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอุ่นๆของอิทธิพล เธอขยับตัวแค่เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้คนที่เธอนอนหนุนแขนของเขาอยู่รู้สึกตัว มัทนาลุกขึ้นมานั่ง“โอ๊ะ!” เขาร้องออกเสียงดัง ทำเอาเธอตกใจ“เป็นอะไรคะ!” ไม่ได้เป็นห่วงแต่ที่ถามเป็นเพราะสงสัย“แขนพี่...นวดให้หน่อย” เขามองไปที่แขนข้างที่เธอหนุนอยู่เมื่อสักครู่ สงสัยจะชาเนื่องจากเธอนอนทับทั้งคืน“สมน้ำหน้า” พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ยอมนวดให้ ทำเอาคนขี้แกล้งนอนอมยิ้มท่าทางมีความสุข“หายหรือยังคะ” ที่จริงเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่เมื่อยนิดหน่อย แต่ที่ร้องเสียงดังเพราะอยากรู้ว่าเธอจะหันมาสนใจเขาบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้นเขาชักแขนข้างนั้นตั้งฉากกับที่นอนยันศีรษะของตัวเองเอาไว้ นอนตะแคงหันหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้ม“หายโกรธพี่หรือยัง”“............” มัทนาไม่ตอบ แต่สีหน้าของเธอดูเจื่อนไป“เคยคิดจะทำเลสิกตามั้ย” เขาเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดี จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ในใจไม่อยากให้เธอใส่แว่นแล้ว“เคยค่ะ แต่อยากทำงานหาเงินเองให้ได้ก่อน” เธอใส่แว่นมาตั้งแต่อายุสิบกว่าๆ ใส่มานานมากจนไม่ได้รู้สึกว่ามันลำบากอะไร ส่วนค่าเลสิกมันค่อนข้างแพ
ตอนที่ 13 ชวนมาอยู่ด้วยกันอิทธิพลให้มัทนาเข้าไปอาบน้ำก่อน ตอนแรกเขาจะขออาบด้วยแต่เธอไม่ยอม เขาก็เลยตามใจ โดยขอเป็นคนไปเลือกเสื้อผ้าที่ห้องข้างๆมาให้เธอเอง แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะหยิบตัวไหนมาให้ใส่ เขาจึงหอบมาเกือบหมด เพื่อเอามาให้เธอเลือก อีกใจก็อยากทยอยข้าวของของเธอมาไว้ที่ห้องของเขาให้หมด!“พี่อิท...ขนเสื้อผ้ามายมาทำไมเยอะแยะคะ” มัทนาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว สายตาของเธอเพ่งมองไปที่เสื้อผ้า ตอนนี้มันวางอยู่บนเตียงกองใหญ่“พี่เลือกไม่ถูก ก็เลยกวาดมาเกือบหมด เอามาให้มายเลือกไง” เขาอ้าง! และดูเหมือนว่ามัทนาจะไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไร“เลือกไม่ถูกเดี๋ยวมายไปเลือกเองก็ได้ ขนมาอย่างนี้เดี๋ยวก็ต้องขนกลับอีก” เธอแค่เกรงใจ“แล้วใครบอกว่าพี่จะให้ขนกลับ”“..........” สายตาระยิบระยับของเขาทำให้มัทนาก้มหน้าลงด้วยความเขิน เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!“ถึงคิวพี่เข้าไปอาบน้ำแล้ว” แต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำไป เขาหยิบเสื้อผ้าทั้งหมดของเธอเก็บเข้าตู้ก่อน จากนั้นจึงเดินเข้าห้องน้ำไป ด้วยใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อย มัทนามัวแต่ก้มหน้าทำตัวไม่ถูก เธอจึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ของเขาเมื่อเวลาผ