Share

ตอนที่ 5 แผนสูง

ตอนที่ 5 แผนสูง

“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น มัทนาคิดว่าเป็นเพื่อนของเธอที่ย้อนกลับมา เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้

“ไอ้มด ไหนบอกว่า...พี่อิท!” มัทนาเปิดประตูเห็นว่าไม่ใช่เพื่อนของเธอ เธอจึงทำท่าจะปิดประตูลง แต่ถูกมือใหญ่ผลักเอาไว้ไม่ยอมให้เธอปิดลงได้ง่ายๆ

“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งปิด” เขาใช้แรงแค่เพียงนิดเดียว แต่เธอใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมี ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาได้

“ปล่อยค่ะ เราไม่รู้จักกัน” เธอร้องบอกเขาเสียงดังอีกครั้ง นึกโมโหตัวเองทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิด

“เรารู้จักกันแล้ว” เขาเถียงกลับมา แล้วรีบแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ด้านในห้องของเธอจนได้สำเร็จ

“ออกไปนะคะ!” การกระทำของเขาทำให้เธอกลัว กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอเข้า อยู่กันในห้องสองต่อสองแบบนี้ด้วย มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย สถานการณ์แบบนี้อันตรายจริงๆ

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเราตอนนี้หรอกน่า” คำพูดของเขามันไม่น่าไว้ใจ เพราะฟังดูดีๆคิดแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์

“ขอร้อง ออกไปก่อนเถอะนะคะ”

“ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวไง ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ”

“ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่ามั้ยคะ” มัทนาเริ่มหาทางออกให้ตัวเอง

“ก็ดีนะ กินข้าวหรือยัง” เขาถามท่าทางสบาย ส่วนมัทนาถอยหลังยืนห่างที่สุดเท่าที่จะห่างได้ อิทธิพลเห็นแล้วนึกขัดใจอยู่มาก ตกลงเธอเป็นคนขี้กลัวหรือว่ารังเกียจเขากันแน่

“กินแล้วค่ะ”

“งั้นพี่พาไปกินขนม”

“...........” ในใจของมัทนาเธอไม่อยากไปด้วยเลยสักนิด เธอยังคงยืนนิ่งทำท่าคิดว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี

“ออกมาสิ หรือจะเปลี่ยนใจอยู่ในห้องน้องต่อก็ได้นะ พี่ไม่ติด” มัทนาก็เลยจำใจเดินตามออกไป โดยที่เธอไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าสะพายติดบ่าไปด้วย

“รอพี่แป๊บนึง” เขารีบเข้าห้องของตัวเองไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับมือถือ จากนั้นก็รีบกลับออกมา

“ไม่ไปได้มั้ยคะ คุยกันแค่หน้าห้องตรงนี้ก็พอ” เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหน ซึ่งเธอก็ต้องอ่านหนังสือต่อด้วย

“ไปเถอะน่า...อยู่กับพี่ปลอดภัยแน่นอน” เฉพาะวันนี้!

“..........” ในที่สุดเธอก็ยอมเดินตามเขาไป เธอปฏิเสธคนไม่ค่อยเก่ง ครั้นจะหนีก็คงไม่รอดเพราะห้องอยู่ติดกัน

“ขึ้นรถสิ”

“คือ...” เธอยืนนิ่งไม่ยอมเปิดประตู ไม่อยากไปด้วยเลย สำหรับเธอเขาคือคนแปลกหน้า ไว้ใจไม่ได้!

“เข้าไปเถอะน่า...” เขาเดินอ้อมมาฝั่งที่เธอยืนอยู่แล้วเปิดประตูผลักเธอเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นจึงปิดประตูลงทันที แล้วจึงเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเหมือนเดิม เขาเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่ง เห็นเธอยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยก็เลยหวังดีเอื้อมมือไปหยิบเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะคาดให้เธอ แต่!

“จะทำอะไรคะ!” ยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปได้ถึงไหน คนขี้กลัวก็รีบพูดขึ้นมาซะก่อน

“อย่าคิดมากสิ” เขารีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เธอ เสื้อชุดนักศึกษารัดรูปที่เธอสวมใส่อยู่มันช่างบางเหลือเกิน มองเข้าไปก็รู้เลยว่าเธอใส่บราสีอะไร ทำได้แค่เพียงคิดในใจเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรออกมา กลัวว่าไก่จะตื่นซะก่อน

สำหรับมัทนาจังหวะที่เขาเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดให้ เธอหายใจแทบไม่ออก เพราะใบหน้าของเขาขยับเข้ามาเกือบชิดติดกับใบหน้าของเธอ ความใกล้ชิดกันเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่เป่าลดเธอด้วย

ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายสองต่อสองในสถานการณ์แบบนี้ และดูเหมือนว่าหัวใจของเธอมันกำลังเต้นแรง ที่น่าจะเกิดขึ้นเพราะความตื่นเต้น

จากนั้นอิทธิพลก็ค่อยๆเคลื่อนรถออกไปจากลานจอดรถของทางคอนโด

“พี่จะพาหนูไปไหนคะ” มัทนาเริ่มถาม ความขี้กลัวของเธอ ทำให้เธอไม่ไว้ใจเขาง่ายๆ

“พี่อิทจะพามายไปไหนคะ...พูดใหม่ซิ” คนอารมณ์ดีกำลังทำหน้าที่ขับรถ อยากให้เธอเรียกเขาว่าพี่อิท แล้วก็แทนตัวเองด้วยชื่อเล่น

“...........”

“ถ้าไม่ยอมพูด พี่จะพาเราเข้าโรงแรม” เขาแกล้งขู่เธอเล่น ตามนิสัยของเขา ซึ่งคนขี้กลัวอย่างเธอมีหรือจะไม่พูด

“พี่อิทจะพามายไปไหนคะ” เธอยอมพูด ซึ่งปกติเวลาเธอพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนเธอก็มักจะแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นอยู่แล้ว

“ว่าจะพาไปเดินห้างใกล้ๆ อยากกินอะไร”

“มายไม่หิว”

“แต่พี่หิว ไปนั่งกินเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” ที่บอกว่าหิว เขาไม่ได้หิวข้าวหรอกแต่น่าจะหิวอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของกิน ก่อนกลับมาถึงห้องพักเขาแวะทานข้าวมาแล้ว แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นมันก็แค่ข้ออ้าง สงสัยต่อจากนี้ไปเขาคงต้องรอกินข้าวเย็นพร้อมเธอซะแล้ว

อิทธิพลเลี้ยวรถเข้าไปจอดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทั้งสองลงจากรถแล้วเดินตามกันเข้าไปในห้าง

อีกคนใส่ชุดทำงานเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงสแล็คสีดำเนื้อผ้าอย่างดี เดินเคียงคู่มากับผู้หญิงตัวเล็กสวมชุดนักศึกษารัดรูปอวดหุ่นสวย

ทั้งสองเดินตามกันเข้ามาในร้านปิ้งย่างร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้า เขาคิดเอาเองว่าเด็กๆอย่างเธอน่าจะชอบกินอะไรแบบนี้ อีกอย่างในร้านก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายแล้วแต่จะกิน จะเป็นเครื่องดื่ม ไอติม ขนมหวาน หรือแม้แต่ผลไม้ก็มี

“สองที่ครับ”

“เชิญลูกค้าทางด้านนี้เลยค่ะ” ผู้คนในร้านมีไม่มาก แต่เขากลับเอื้อมมือมาจับมือของเธอเอาไว้หลวมๆ แล้วพาเดินไปด้วยกันคล้ายกับกลัวว่าเธอจะหลง ครั้นจะสลัดมือออกก็ไม่กล้า เธอก็เลยปล่อยให้เขาจูงไป ทั้งสองเดินมาหยุดนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งภายในร้าน แล้วเริ่มตักอาหารมาปิ้ง มัทนาเองพอเห็นของอร่อยตรงหน้าน้ำย่อยก็เริ่มทำงาน เธอลงมือย่างและกินกับเขาท่าทางเอร็ดอร่อย

“ไหนบอกไม่หิวไง”

“ไหนๆก็มาแล้ว จะให้มายนั่งดูพี่นั่งกินคนเดียวเหรอคะ” ก็จริงของเธอ ตักเข้าปากไปได้แค่ไม่เท่าไหร่ ทั้งสองก็อิ่ม จากนั้นจึงพากันเดินออกจากร้านแล้วไปชอปปิงกันต่อ

“อยากได้อะไรมั้ย พี่ซื้อให้”

“ไม่ค่ะ” มัทนารีบปฏิเสธทันที

“อยากให้จริงๆ ไม่ต้องกลัวพี่หรอกน่า ยังไงพี่ก็หวังในตัวเราอยู่แล้ว” คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาทำให้มัทนาหน้าบูดขึ้นมาทันที

“.............” คำพูดของเขาที่คิดว่ามันตลก แต่คนฟังกลับมีสีหน้าไม่นึกตลกด้วยเลยสักนิด

“ดูทำหน้าเข้า กระเป๋ามั้ย ชอบใบไหน” เขาถามอีกครั้ง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงรีบควงแขนเขาเข้าร้านไปแล้ว แต่นี่อะไรทำไมจีบยากจัง

“ไม่เอาค่ะ” ถ้าเธอรับของจากเขาก็เท่ากับว่าเธอมีใจ เธอก็เลยเลือกที่จะเดินหนีแต่อิทธิพลก็เดินตามแล้วคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทัน

“ไม่พอใจอะไร” เขาแค่พยายามทำในสิ่งที่คิดว่าผู้หญิงน่าจะชอบ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาจะทำให้เธออึดอัด

“อย่าคิดนะคะ ว่าเงินของพี่จะซื้อมายได้” คำพูดของมัทนาทำให้อิทธิพลถึงกลับหน้าเสีย เขายอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าเงินของเขาสามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่น่าจะยกเว้นเธอ น่าสนใจ!

“พี่...ขอโทษ”

“มายจะกลับห้อง”

“กลับก็กลับ” เขาตามใจ แต่คนหน้ามึนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือของเธอ เขายังคงจับเอาไว้ในแบบเหนียวแน่น เขาจับจูงพาเธอเดินไปที่รถเพื่อขับกลับคอนโด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status