ตอนที่ 29 ตอนพิเศษ @มัทนาฉันอุ้มลูกสาววัยสามเดือนกอดเอาไว้ในอ้อมอกแม่ ลูกสาวของฉันกับพี่อิท แกชื่อน้องโมนา กำลังดูดนมจากเต้า สายตาของแกกำลังมองหน้าแม่ตาแป๋ว “ใครชื่อน้องโมนาเอ่ย...” ฉันคุยกับลูกไปด้วยในขณะที่กำลังให้นมแกไปด้วย“หนูใช่มั้ยลูก...” แก้มใสๆกับขนตายาวเป็นแพ ทำให้ฉันชอบกดจมูกหอมแก้มนิ่มๆของแกไม่รู้จักเบื่อ หอมได้ทั้งวัน มีความสุขที่สุดใบหน้าของโมนาได้พ่อกับแม่มาอย่างละครึ่ง แต่พี่อิทชอบไปคุยกับคนอื่นว่าลูกสาวของเขาเหมือนเขามากตามประสาคนเห่อลูก“น้องโมนาลูกสาวแม่มายกับพ่ออิทกินเก่งจังเลย” ปากเล็กๆดูดเอาๆน่ารักน่าชัง“เมื่อไหร่พ่ออิทจะกลับมาหาน้องโมนาสักทีน้า...” ในขณะที่ฉันกำลังให้นมลูกไปด้วย ฉันก็มักจะชอบพูดคุยกับแกแบบนี้เป็นประจำดวงตาใสๆมองมาที่ฉันตาแป๋ว น้องโมนาห่วงเล่นมากๆ คุยด้วยนิดๆหน่อยๆแกก็ปล่อยนมแม่แล้วยิ้มหวานให้ฉัน แต่แกก็หันกลับไปดูดต่อ สงสัยคงจะยังไม่อิ่มตอนนี้ฉันกับพี่อิทย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านคุณแม่ของพี่อิทเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากท่านอาสาเลี้ยงน้องโมนาให้ ตอนแรกฉันกับพี่อิทก็คิดว่าคลอดแล้วจะเอาลูกมาทิ้งไว้ให้คุณแม่เลี้ยงให้ ตามที่เคยคุยกันไว้ แต่พอคลอดน้อง
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ3ปีผ่านไปโมนาวัยสามขวบกว่าๆ นั่งเฝ้าน้องชายวัยห้าเดือนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปลไฟฟ้าลายการ์ตูนสีฟ้าอ่อน“คุณย่าขา น้องมันเดย์นอนเปลสวยจังเลยค่ะ” เปลใหม่เพิ่งลองซื้อมาใช้ แถมลายตัวการ์ตูนยังสวยสะดุดตาคนพี่เอามากๆ“เมื่อก่อนโมนาก็นอนเปลสวยแบบนี้แหละลูก” คุณย่าตอบหลานสาวตัวเล็กที่นั่งเฝ้าน้องหรือเฝ้าเปลก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้าแล้ว“เปลของโมนาสีอะไรคะคุณย่า”“โมนาเป็นผู้หญิง สีชมพูลูก”“แล้วเปลของโมนาไปไหนแล้วคะ”“โมนาตัวหนักนอนพังไปแล้ว...” เป็นเสียงของคุณพ่ออิทที่เดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่มาย ช่วยคุณย่าตอบคำถามของเด็กขี้สงสัย“คุณพ่อขา...โมนาอยากนอนเปลสวยๆเหมือนที่น้องมันเดย์นอนค่ะ”“โมนาตัวยาว นอนไม่ได้แล้วลูก”“ไม่มีของเด็กโตเหรอคะ”“โมนาจะนอนตอนไหน พ่อไม่เคยเห็นโมนานอนกลางวันมานานมากแล้วนะ”“เอาไว้นอนตอนกลางคืนไงคะ” ด้วยความอยากได้บ้าง นอนกลางคืนก็ได้ ส่วนกลางวันบังคับเท่าไหร่โมนาก็ไม่ยอมนอน พอตกเย็นมา หลับเร็วทุกวัน“อ้าว...ถ้าโมนานอนในเปล แล้วพ่อจะนอนกอดใครล่ะทีนี้”“อื้อ...ถ้างั้นโมนาไม่เอาแล้วก็ได้ค่ะ โมนานอนกอดคุณพ่อกับคุณแม่ดีกว่า” เสียงโมนาวัยสามขวบพูดจ๋อยๆไม่ไ
เรื่อง...คลั่งรักยัยแว่นข้างห้องคำโปรยความสัมพันธ์(รัก)ระหว่างเขากับเธอ เกิดสะดุด เมื่อเขามีตัวจริงที่ไม่ใช่เธอแนะนำตัวละครอิทธิพล (คุณอิท) อายุ 28 ปี สถาปนิกหนุ่มชื่อดังเขาหล่อ สายเปย์ ขี้แกล้ง อารมณ์ดี ถึงเขาจะเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็จริงใจมัทนา (มาย) อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 เธอสวย ขี้กลัว หัวใจที่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน ต้องจำยอมต่อความดีที่เขามีให้@@@@@@นิยายเรื่องนี้ : โรมานซ์ ฟีลกู๊ด เหมือนเดิมนะคะตอนที่ 1 พบเจออิทธิพล สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง เพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว มีบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง รับออกแบบตกแต่งทั่วไป ตั้งแต่งานเล็กไปจนถึงงานขนาดกลาง ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้“ไปคิดมาใหม่ ผมว่าแบบที่คุณทำมามันยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ผมคิดว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ” มาตรฐานเรื่องงานสำหรับเขาแล้วค่อนข้างสูง งานทุกชิ้นต้องออกมาดีที่สุด รายละเอียดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆก็แทบไม่มีให้เห็น ลูกน้องที่นี่อาจจะทำงานลำบากหน่อย แต่เงินดีมาก“ครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาแบบมาเสนอใหม่ครับ”“อือ...ได้เวลาเลิกงานแล้ว แยกย้ายกลับไปพักผ่อนกันเถอะ”“ครับ/ค่ะ” อิทธิพลเดินออกจากบริษัทฝ่ารถติดบนท้องถนน กว่าจะมาถ
ตอนที่ 2 คู่หมั้นเช้าวันรุ่งขึ้นเช้านี้มัทนาตื่นสายเธอจึงรีบสุดตัว รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง กึ่งเดินกึ่งวิ่งท่าทางรีบร้อน เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าลิฟต์ซึ่งตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากกำลังยืนรอเข้าลิฟต์ตัวเดียวกัน หนึ่งในนั้นมีผู้ชายคนเดิมเมื่อวานยืนอยู่ด้วย วันนี้เขายังคงแต่งตัวดีเหมือนเดิม มัทนาแอบมองเขาด้วยหางตานิดหน่อย แล้วถอยหลังสองก้าว ไม่อยากอยู่ใกล้รอไม่นานประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก ทุกคนที่ยืนรออยู่เดินเข้าไปด้านในลิฟต์ มัทนาพยายามยืนก้มหน้านิ่ง เนื่องจากเธอเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว ด้านในก็ค่อนข้างแออัดผู้คนเบียดเสียด ลิฟต์ตัวที่เธอขึ้นมาก็ยังต้องจอดรับชั้นระหว่างทางผ่านอีกด้วย“ขอไปด้วยคนนะคะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องขอ คนด้านในจึงช่วยขยับให้ จังหวะนี้ทำให้เธอโดนเบียดจนเซไปทางด้านหลัง เผลอไปพิงอยู่กับหน้าอกของผู้ชายคนหนึ่งเข้า แต่ที่มากกว่านั้นคือฝ่ามือของเขาดันมาประคองอยู่ที่เอวของเธอซะอย่างนั้น'เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจ!'“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” หันไปมองหน้าเขา แล้วรีบก้มหน้าหลบตาทันที เพราะเขาคือผู้ชายคนเมื่อวาน เธอกำลังจะขยับออกห่างแต่ด้วยความแออัดเธอจึงทำได้แค่ยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิมความส
ตอนที่ 3 สงสัยก็ต้องถามหลายวันต่อมาช่วงเย็นของวันนี้ ทั้งสองก็ได้ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกันอีกครั้ง แต่คนในลิฟต์หมดตั้งแต่ชั้นสามแล้ว เหลืออีกหกชั้น ถึงมันจะใช้เวลาแค่สักครู่เดียว แต่สำหรับคนขี้กลัวอย่างมัทนา เธอรู้สึกนานมากเธอยืนก้มหน้าหันหลังให้เขา มือกำสายกระเป๋าที่เธอกำลังสะพายเอาไว้แน่น ท่าทางแปลกๆ จนอิทธิพลอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่า...สงสัยเธอคงจะปวดท้องเข้าห้องน้ำ...ทนเอาหน่อยแล้วกัน!เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก มัทนาก็รีบก้าวขาออกไป ขาเรียวสวยก้าวฉับๆด้วยความรวดเร็ว นั่นจึงทำให้อิทธิพลแอบนึกสงสาร...สงสัยจะอั้นมานานแล้วส่วนเขาก็เดินตามไปปกติ เขาใช้คีย์การ์ดเปิดประตู แล้วจึงเดินเข้าไปด้านในห้องเขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากเอาไว้หลังห้อง บังเอิญเห็นคนที่รีบร้อนเดินเหมือนคนปวดท้องเมื่อสักครู่ ยืนบิดขี้เกียจท่าทางสบายใจอยู่หลังห้อง ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นมันไม่มีพนังกั้นสามารถมองเห็นกันได้สบายอิทธิพลยืนมองเธออยู่อย่างนั้นอย่างนึกแปลกใจ...เธอไม่ได้ปวดท้อง! แต่แล้วก็เป็นจังหวะที่มัทนาบิดขี้เกียจเสร็จหันมาเจอเขาพอดี สายตาผสานกัน อิทธิพลมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตารู้สึกสงสัย...ที่เดินเร็วๆขนาดนั้นอย่า
ตอนที่ 4 ดักรอหน้าห้องประตูหน้าห้องที่เปิดค้างเอาไว้ ทำให้อิทธิพลได้ยินเสียงคนคุยกัน เขาจึงเดินออกมาดู เห็นยัยแว่นข้างห้องเดินกลับเข้ามาพร้อมกับน้องสาวของเพื่อนสนิทที่มองแค่ใบหูเขาก็จำมันได้มดเป็นผู้หญิงอวบขั้นสุดท้าย ย้อนแย้งกับชื่อเล็กๆของเธออย่างสิ้นเชิง เพราะเหตุนี้เวลาที่อิทธิพลเจอกับมดจึงมีการแหย่และแซวกันอยู่บ่อยๆ แต่ก็ในฐานะพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น“พี่อิท!” มดไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักที่นี่ อย่าบอกนะว่า...พี่อิทคือไอ้โรคจิตที่ไอ้แว่นเล่าให้ฟัง“ไอ้มด มึงรู้จักพี่เขาด้วยเหรอ” มัทนาสะกิดเพื่อน พร้อมกับกระซิบกระซาบถาม“อือ...พี่อิทเป็นเพื่อนพี่กูเอง อย่าบอกนะว่าพี่อิทคือผู้ชายข้างห้อง คนที่เอาแว่นมึงไป” มัทนาพยักหน้าให้เพื่อน มดหันไปมองใบหน้าพี่อิทอีกครั้ง เห็นแว่นตาของเพื่อนเสียบอยู่ที่คอเสื้อของเขา...คนนิสัยไม่ดี!“พี่อิทแกล้งเพื่อนหนูทำไม” มดรีบต่อว่าอิทธิพลทันที มดรู้จักอิทธิพลมานานทำให้เธอรู้ว่าเขานั้นขี้แกล้งขนาดไหน“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท มองไปที่หญิงสาวทั้งสองคน ที่กำลังยืนอยู่คู่กันแล้วก็อดที่จะนึกขำขึ้นมาไม่ได้“ขำอะไร...พี่อิท! เ
ตอนที่ 5 แผนสูง“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น มัทนาคิดว่าเป็นเพื่อนของเธอที่ย้อนกลับมา เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้“ไอ้มด ไหนบอกว่า...พี่อิท!” มัทนาเปิดประตูเห็นว่าไม่ใช่เพื่อนของเธอ เธอจึงทำท่าจะปิดประตูลง แต่ถูกมือใหญ่ผลักเอาไว้ไม่ยอมให้เธอปิดลงได้ง่ายๆ“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งปิด” เขาใช้แรงแค่เพียงนิดเดียว แต่เธอใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมี ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาได้“ปล่อยค่ะ เราไม่รู้จักกัน” เธอร้องบอกเขาเสียงดังอีกครั้ง นึกโมโหตัวเองทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิด“เรารู้จักกันแล้ว” เขาเถียงกลับมา แล้วรีบแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ด้านในห้องของเธอจนได้สำเร็จ“ออกไปนะคะ!” การกระทำของเขาทำให้เธอกลัว กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอเข้า อยู่กันในห้องสองต่อสองแบบนี้ด้วย มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย สถานการณ์แบบนี้อันตรายจริงๆ“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเราตอนนี้หรอกน่า” คำพูดของเขามันไม่น่าไว้ใจ เพราะฟังดูดีๆคิดแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์“ขอร้อง ออกไปก่อนเถอะนะคะ”“ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวไง ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ”“ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่ามั้ยคะ” มัทนาเริ่มหาทางออกให้ตัวเอง“ก็ดีนะ กินข้าวหรือยัง” เขาถาม
ตอนที่ 6 เจ้าเล่ห์ที่หนึ่งเมื่อขับรถมาถึงคอนโดและจอดสนิทที่ลานจอดรถ มัทนาปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยได้ เธอกำลังจะเปิดประตูรถลงจากรถ แต่อิทธิพลกลับเอื้อมมือมาจับข้อมือของเธอเอาไว้ ยังไม่ยอมให้เธอลงไปง่ายๆ“พี่อิท...ปล่อยมือมายนะคะ” เผลอเป็นไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ เห็นเธอไม่ว่าอะไร ชักจะเอาใหญ่“ไม่ปล่อย...” เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่แกล้งใช้นิ้วหัวแม่มือลูบเบาๆที่มือของเธอด้วย เด็กอะไรทำไมมือนุ่มจัง“ปล่อยนะคะ!” เธอสะบัดมือออกจากการจับของเขา เขาจึงยอมปล่อยให้ จีบยากจริงๆแฮะ!“เดี๋ยว...พี่แค่จะขอเบอร์” ท่ายากเยอะจริงๆ ทำเอาคนขี้กลัวทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ตกลงไม่รู้ว่าอันไหนแกล้ง อันไหนจริง“ไม่ให้ค่ะ”“ไลน์ก็ได้”“ไม่ให้ค่ะ”“เฟซบุ๊กก็ได้”“ไม่ให้ค่ะ!”“ถ้าไม่ให้ก็อยู่มันในรถนี่แหละ” สายตาของเขาเริ่มสำรวจเรือนร่างสวยๆของเธออย่างไม่คิดที่จะปกปิด นั่นจึงทำให้มัทนายอม...“เอามือถือของพี่มาสิค่ะ” เขาหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอให้ จากนั้นจึงส่งให้เธอ มัทนาให้เบอร์ไป บันทึกชื่อปุ๊บ ไลน์เด้งปั๊บ สีหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้างๆท่าทางพอใจอย่างเห็นได้ชัด“จะปล่อยมายลงไปได้หรือยังคะ” เขา
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ3ปีผ่านไปโมนาวัยสามขวบกว่าๆ นั่งเฝ้าน้องชายวัยห้าเดือนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปลไฟฟ้าลายการ์ตูนสีฟ้าอ่อน“คุณย่าขา น้องมันเดย์นอนเปลสวยจังเลยค่ะ” เปลใหม่เพิ่งลองซื้อมาใช้ แถมลายตัวการ์ตูนยังสวยสะดุดตาคนพี่เอามากๆ“เมื่อก่อนโมนาก็นอนเปลสวยแบบนี้แหละลูก” คุณย่าตอบหลานสาวตัวเล็กที่นั่งเฝ้าน้องหรือเฝ้าเปลก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้าแล้ว“เปลของโมนาสีอะไรคะคุณย่า”“โมนาเป็นผู้หญิง สีชมพูลูก”“แล้วเปลของโมนาไปไหนแล้วคะ”“โมนาตัวหนักนอนพังไปแล้ว...” เป็นเสียงของคุณพ่ออิทที่เดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่มาย ช่วยคุณย่าตอบคำถามของเด็กขี้สงสัย“คุณพ่อขา...โมนาอยากนอนเปลสวยๆเหมือนที่น้องมันเดย์นอนค่ะ”“โมนาตัวยาว นอนไม่ได้แล้วลูก”“ไม่มีของเด็กโตเหรอคะ”“โมนาจะนอนตอนไหน พ่อไม่เคยเห็นโมนานอนกลางวันมานานมากแล้วนะ”“เอาไว้นอนตอนกลางคืนไงคะ” ด้วยความอยากได้บ้าง นอนกลางคืนก็ได้ ส่วนกลางวันบังคับเท่าไหร่โมนาก็ไม่ยอมนอน พอตกเย็นมา หลับเร็วทุกวัน“อ้าว...ถ้าโมนานอนในเปล แล้วพ่อจะนอนกอดใครล่ะทีนี้”“อื้อ...ถ้างั้นโมนาไม่เอาแล้วก็ได้ค่ะ โมนานอนกอดคุณพ่อกับคุณแม่ดีกว่า” เสียงโมนาวัยสามขวบพูดจ๋อยๆไม่ไ
ตอนที่ 29 ตอนพิเศษ @มัทนาฉันอุ้มลูกสาววัยสามเดือนกอดเอาไว้ในอ้อมอกแม่ ลูกสาวของฉันกับพี่อิท แกชื่อน้องโมนา กำลังดูดนมจากเต้า สายตาของแกกำลังมองหน้าแม่ตาแป๋ว “ใครชื่อน้องโมนาเอ่ย...” ฉันคุยกับลูกไปด้วยในขณะที่กำลังให้นมแกไปด้วย“หนูใช่มั้ยลูก...” แก้มใสๆกับขนตายาวเป็นแพ ทำให้ฉันชอบกดจมูกหอมแก้มนิ่มๆของแกไม่รู้จักเบื่อ หอมได้ทั้งวัน มีความสุขที่สุดใบหน้าของโมนาได้พ่อกับแม่มาอย่างละครึ่ง แต่พี่อิทชอบไปคุยกับคนอื่นว่าลูกสาวของเขาเหมือนเขามากตามประสาคนเห่อลูก“น้องโมนาลูกสาวแม่มายกับพ่ออิทกินเก่งจังเลย” ปากเล็กๆดูดเอาๆน่ารักน่าชัง“เมื่อไหร่พ่ออิทจะกลับมาหาน้องโมนาสักทีน้า...” ในขณะที่ฉันกำลังให้นมลูกไปด้วย ฉันก็มักจะชอบพูดคุยกับแกแบบนี้เป็นประจำดวงตาใสๆมองมาที่ฉันตาแป๋ว น้องโมนาห่วงเล่นมากๆ คุยด้วยนิดๆหน่อยๆแกก็ปล่อยนมแม่แล้วยิ้มหวานให้ฉัน แต่แกก็หันกลับไปดูดต่อ สงสัยคงจะยังไม่อิ่มตอนนี้ฉันกับพี่อิทย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านคุณแม่ของพี่อิทเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากท่านอาสาเลี้ยงน้องโมนาให้ ตอนแรกฉันกับพี่อิทก็คิดว่าคลอดแล้วจะเอาลูกมาทิ้งไว้ให้คุณแม่เลี้ยงให้ ตามที่เคยคุยกันไว้ แต่พอคลอดน้อง
ตอนที่ 28 คืนวิวาห์ Nc+ วันเวลาผันผ่านไป วันนี้เป็นวันเข้าประตูวิวาห์ของทั้งสอง อิทธิพลและมัทนา งานแต่งถูกจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว ภายในงานเชิญแขกญาติผู้ใหญ่และคนสนิทเท่านั้นพิธีช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี งานเลี้ยงช่วงเย็นเต็มไปด้วยเพื่อนของเจ้าสาว ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งเพื่อนหญิงและเพื่อนชาย“เจ้าสาว...เข้าห้องหอก่อนลูก เจ้าบ่าวรอนานแล้ว” ชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงยาวยังคงนั่งอยู่ที่กลุ่มเพื่อนที่มาร่วมแสดงความยินดีไม่ยอมลุก“ค่าแม่...” ขานรับครั้งที่สาม แต่ก็ยังไม่ยอมลุก ส่วนเจ้าบ่าวเขาก็ยังคงสวมชุดสูทสีเดียวกับเจ้าสาว นั่งรออยู่ในห้องหอเรียบร้อยนานแล้ว ชะเง้อคอยาวเมื่อไหร่เจ้าสาวของเขาจะลุกมาสักที"อิทไปตามน้องป่ะ..." คุณแม่ของเจ้าสาวเอ่ยบอกให้เจ้าบ่าวออกไปตามเจ้าสาวเพื่อทำพิธีส่งตัวเข้าหอ"ครับ" เจ้าบ่าวเดินออกไปตามเจ้าสาวของเขา เขาเดินเข้าไปทางด้านหลังของเธอ จับใบหูของเธอแล้วออกแรงดึงเล็กน้อย จนเธอต้องหันหลังไปมอง"เรียกหลายครั้งแล้วนะ" บ่นเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงก้มใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงไปหอมแก้มเธอโชว์เพื่อนๆของเธอ จนเสียงกรี๊ดกร๊าดดังลั่นบริเวณนั้น แต่เขาก็ยังไม
ตอนที่ 27 พาเข้าบ้านรถยนต์คันที่มัทนานั่งมา ถูกเลี้ยวเข้าไปจอดที่บ้านสองชั้นหลังใหญ่สไตล์ยุโรป ทางเข้าบ้านเป็นคอนกรีตลาดยาวไปจนถึงตัวบ้านด้านหน้าบ้านมีสนามหญ้าและสวนดอกไม้ขนาดกำลังดี พื้นที่โดยรอบกว้างขวางสะอาด ด้านข้างตัวบ้านมีต้นไม้ใหญ่ปลูกพอให้ร่มรื่น“ที่นี่บ้านพี่อิทเหรอคะ” รถจอดสนิทที่โรงจอดรถด้านข้างตัวบ้าน“ครับ...ป่ะเข้าไปด้านในกัน” พี่อิทพาฉันเดินเข้าไปด้านในตัวบ้าน ด้านนอกที่ว่าสวยแล้ว ด้านในจัดตกแต่งสวยไม่แพ้กับด้านนอกเลย ดูสะอาดตากว้างขวางเป็นระเบียบ“มากันแล้วเหรอลูก” น้ำเสียงดีใจของคุณแม่เอ่ยขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นยืนจากโซฟาหนังอย่างดีตัวที่ท่านนั่งอยู่ คุณพ่อก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเช่นกัน ท่านกำลังอ่านหนังสือท่าทางสบายใจ เงยหน้ามองมาที่ฉันกับพี่อิท“มาย...นี่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่เอง ส่วนนี่น้องมาย...ลูกสะใภ้คุณพ่อกับคุณแม่ครับ” แนะนำแบบนี้ฉันก็เขินแย่น่ะสิ...พี่อิทนะพี่อิท!“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทั้งสองท่านตามมารยาทด้วยรอยยิ้มเขินๆ ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมาก เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยเข้าบ้านผู้ชายมาก่อน ครั้งนี้คือครั้งแรก ตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบไปหมด“สวัสดีลูก...มาๆนั่งลงก่อน” คุ
ตอนที่ 26 เปิดตัว @มหาวิทยาลัย“พี่อิทมารับแล้ว กูไปก่อนนะ” นานแล้วที่อิทธิพลทำหน้าที่เป็นคนขับรถไปรับไปส่งมัทนา ถึงแม้ว่าเขาจะงานเยอะหรือยุ่งมากแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลเธอเหมือนเดิมเสมอ“บ๊ายบาย...ป่ะพวกเราแยกย้าย” ทุกคนแยกย้ายกันกลับ มัทนาเองก็เช่นกัน เธอเดินเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย จากนั้นเขาจึงค่อยๆเคลื่อนรถออกไป“พี่ยังทำงานไม่เสร็จเลย ไปนั่งรอพี่ที่บริษัทก่อนนะ” วันนี้เธอเลิกเรียนเร็วแต่เขาก็ยังคงยืนยันว่าจะขับรถมารับให้ได้ เธอก็เลยตามใจ...ไม่คิดว่าเขาจะต้องกลับไปทำงานต่ออีก“อ้าวแล้วทำไมไม่บอกมายล่ะคะ ที่จริงมายกลับเองก็ได้ เสียเวลาพี่ขับรถมารับเปล่าๆ” รู้สึกเกรงใจจังเลย...“พี่จะเอาเมียไปโชว์ ไอ้พนักงานพวกนั้นสักหน่อย มันจะได้รู้ว่าคนไหนตัวจริง คนไหนตัวปลอม” นี่คือประเด็นสำคัญที่เขาต้องการ ปล่อยให้พนักงานพวกนั้นเข้าใจผิดมานานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้แก้ข่าว ว่าจะพาเธอไปเปิดตัวเลยทีเดียว“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว” สำหรับเธอใครจะคิดยังไงก็ช่าง...“พี่อยากพามายไปเปิดตัวด้วย ไปกับพี่นะครับ” เมียของเขาทั้งสวยทั้งหุ่นดี ใครจะไม่อยากอวด ถึงเธอไม่ต้องการเขาก็อยากพา
ตอนที่ 25 แหวนวงนี้เป็นของมาย หลังจากรับประทานอาหารกันอิ่มแล้ว ทุกๆคนจึงขอตัวกลับ ส่วนคนที่ยังไม่อยากกลับก็ต้องกลับเช่นกัน“มาย...พรุ่งนี้ให้พี่มารับกลับนะ” ยังคงร่ำลากันไม่เลิก!...ทุกคนที่กำลังรออยู่มองแรง“ค่ะ” ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอไฟเขียวให้แล้ว มัทนาจึงยอมให้พี่อิทมารับมาส่งเธอได้ เหมือนคู่รักคนอื่นๆที่เขาทำกัน“ถึงแล้วเดี๋ยวพี่ไลน์หา...” ที่จริงยังไม่อยากกลับเลยด้วยซ้ำ อยากจะขอนอนค้างสักคืนแต่ติดอยู่ตรงที่ไม่กล้า!“ห่างๆกันบ้างก็ได้ อีกแค่คืนเดียวคงไม่ถึงกับลงแดงหรอกมั้ง” รุจยืนรออยู่นานสองนาน เริ่มเหม็นความรัก..."พรุ่งนี้ มายจะกลับกี่โมง ไลน์ไปบอกพี่นะ พี่จะได้กะเวลามารับถูก""เย็นๆดีมั้ยคะ ทานข้าวเย็นที่นี่กันก่อน เดี๋ยวมายบอกให้แม่ทำกับข้าวเผื่อพี่ด้วย" พอกันทั้งสองคน...รุจคิดในใจ“ไปๆเรากลับกันเลยดีกว่า ไม่ต้องไปรอมันแล้ว” ท่าจะร่ำลากันอีกยาว...“อย่าเพิ่งไป...เดี๋ยวกูไปส่ง” รุจ รัน และมด พากันเดินไปที่รถ แต่อิทธิพลก็ดันเรียกเอาไว้ซะก่อน ยังไม่ยอมให้กลับ“เดี๋ยวกูให้รันไปส่งก็ได้”“กูบอกให้รอก็รอดิ อีกแป๊บนึงมึงจะตายหรือไง” ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะไปส่ง แต่อิ
ตอนที่ 24 สายตาผู้ใหญ่การอธิบายเรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี ทุกคนลุกเดินออกไปจากตรงบริเวณที่อิทธิพลกับมัทนานั่งกันอยู่ เพื่อปล่อยให้ทั้งสองคนพูดคุยกันตามลำพังรันกับมดเข้าไปช่วยคุณแม่ทำกับข้าวด้านในครัว ส่วนรุจเดินไปคุยอยู่กับคุณพ่อ ซึ่งตอนนี้ท่านกำลังนั่งดูปลาหางนกยูงในอ่างบัวที่ท่านเลี้ยงไว้ดูเล่น“ทีหลังห้ามหนีพี่มาแบบนี้อีกเด็ดขาด รู้มั้ยว่าพี่แทบเป็นบ้า” ตอนยังไม่รู้ว่าเธออยู่ไหนเขากลัวสารพัด กลัวเธอจะเป็นอันตราย แต่พอรู้ว่าอยู่กับมด ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่เสียงร้องไห้ เสียงสะอื้นที่เขาได้ยิน มันทำให้เขาแทบคลั่งหนักกว่าเดิม“...........” มัทนาพยักหน้ารับทราบ“ขอโทษค่ะ” เธอดีใจมากที่รู้ว่าในใจของพี่อิทยังมีเธออยู่เหมือนเดิม“มายมีอะไรสงสัยหรืออยากรู้เกี่ยวกับพี่อีกมั้ย” เธอส่ายหน้าช้าๆให้เป็นคำตอบ แต่ในใจยังคงอยากรู้เรื่องแหวนที่เขาซื้อวันนั้น ตกลงเขาซื้อให้ใครแล้วให้ไปหรือยัง?“ถ้ามายมีเรื่องสงสัย ถามพี่ได้เลยนะ อย่าคิดไปเองเด็ดขาด” เธอพยักหน้าให้เขาอีกครั้ง...ได้รู้ความจริงวันนี้ เธอก็ดีใจมากแล้ว“เรานั่งอยู่ด้วยกันสองต่อสองนานแล้ว พี่เกรงใจคุณพ่อกับคุณแม่ เราออกไปหาพวกเขากันดีกว่า
ตอนที่ 23 ปรับความเข้าใจรุจเดินออกไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้เพื่อนเข้ามา ทันทีที่อิทธิพลเจอหน้าเพื่อน คำถามแรกก็คงหนีไม่พ้นคนที่กำลังตามหาอยู่“มายอยู่ที่นี่มั้ย”“ไม่ได้มา เธอกลับบ้านไปแล้ว” อิทธิพลพยักหน้ารับทราบ“มึงรู้เรื่องทั้งหมดแล้วใช่มั้ย”“คร่าวๆน่ะ”“ไอ้มดล่ะ”“กำลังโทรศัพท์อยู่ด้านใน ป่ะเข้าบ้านก่อน” ทั้งสองหนุ่มพากันเดินเข้าบ้าน ตรงไปหามดที่กำลังโทรศัพท์หามัทนาอยู่“โทรติดมั้ย” รุจเอ่ยถามน้องสาว“ติดแต่ไม่มีคนรับ พี่อิทเรื่องที่หนูด่าพี่เมื่อวานหนูขอโทษ อย่าโกรธหนูเลยนะ” ทีอย่างนี้ทำมาเป็นพูดดี!“เล่ามาให้หมด รู้เรื่องทั้งหมดมาได้ยังไง” ที่เขาไม่คิดจะเล่าเรื่องหมั้นให้มัทนาฟังเพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก มัทนาเป็นคนขี้กลัวและคิดมาก เขาไม่ต้องการให้เธอไม่สบายใจ“คือเมื่อวาน...” มดเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่บริษัทไปจนถึงร้านอาหาร ในแบบคร่าวๆแต่ก็ได้ใจความสมบูรณ์ดี“รันเป็นพี่สาวมาย...โอ้โหโลกกลมจริงๆ” รุจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่รุจเองก็ยังไม่รู้“ก็เพราะแบบนี้แหละ ไอ้แว่นมันก็เลยมั่นใจว่าเรื่องหมั้นเป็นเรื่องจริง ใครจะไปคิดว่ารักสามคนของพวกพี่
ตอนที่ 22 ตามอิทธิพลขับรถกลับมาถึงคอนโดได้ในเวลาที่ไม่นานมากนัก เพราะเวลาช่วงนี้บนท้องถนนรถเริ่มโล่งแล้ว รถไม่ติดเหมือนตอนขาไปเมื่อเข้ามาถึงในห้อง สิ่งแรกที่เขาทำคือชาร์จแบตมือถือ แล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ น้ำเย็นๆที่ไหลออกมาจากฝักบัวไม่สามารถทำให้อาการร้อนใจของเขาเย็นลงได้เลยออกมาจากห้องน้ำ สิ่งแรกที่เขารู้สึกคือ ห้องกว้างแต่กลับรู้สึกอึดอัดใจ สายตากวาดมองไปรอบๆห้อง เมื่อก่อนเคยมีคนอยู่ด้วยกันแต่ตอนนี้ไม่มี รู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างจับใจ เมื่อล้มตัวนอนลงในใจคิดถึง คิดถึงมาก ไม่รู้ว่าดึกป่านนี้แล้ว เธอจะหลับไปหรือยังเสียงสะอื้นที่ได้ยินมันยังคงอยู่ในหัวของเขา แค่เพียงหลับตาลง เสียงสะอื้นของเธอที่เขาได้ยินมันทำให้เขานอนไม่หลับ ไม่ว่าจะข่มตานานแค่ไหนก็ไม่ยอมหลับสักที แต่ดีที่เขายังรู้ว่าเธอปลอดภัย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเป็นบ้าตายแน่ๆเช้าวันรุ่งขึ้นอิทธิพลลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เขาเผลอหลับไป เมื่อรู้สึกตัวจึงรีบลุกขึ้นหยิบมือถือดูเวลา ปรากฏว่าเวลานี้สายมากแล้ว เขารีบสลัดผ้าห่มออกจากตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปบนท้องถนนในวันหยุด รถก็ยังคงติดเหมือนเดิม เขาขับรถมาถึงอพาร์ทเม้นท์ที่มดเ