ตอนที่ 27 พาเข้าบ้านรถยนต์คันที่มัทนานั่งมา ถูกเลี้ยวเข้าไปจอดที่บ้านสองชั้นหลังใหญ่สไตล์ยุโรป ทางเข้าบ้านเป็นคอนกรีตลาดยาวไปจนถึงตัวบ้านด้านหน้าบ้านมีสนามหญ้าและสวนดอกไม้ขนาดกำลังดี พื้นที่โดยรอบกว้างขวางสะอาด ด้านข้างตัวบ้านมีต้นไม้ใหญ่ปลูกพอให้ร่มรื่น“ที่นี่บ้านพี่อิทเหรอคะ” รถจอดสนิทที่โรงจอดรถด้านข้างตัวบ้าน“ครับ...ป่ะเข้าไปด้านในกัน” พี่อิทพาฉันเดินเข้าไปด้านในตัวบ้าน ด้านนอกที่ว่าสวยแล้ว ด้านในจัดตกแต่งสวยไม่แพ้กับด้านนอกเลย ดูสะอาดตากว้างขวางเป็นระเบียบ“มากันแล้วเหรอลูก” น้ำเสียงดีใจของคุณแม่เอ่ยขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นยืนจากโซฟาหนังอย่างดีตัวที่ท่านนั่งอยู่ คุณพ่อก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเช่นกัน ท่านกำลังอ่านหนังสือท่าทางสบายใจ เงยหน้ามองมาที่ฉันกับพี่อิท“มาย...นี่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่เอง ส่วนนี่น้องมาย...ลูกสะใภ้คุณพ่อกับคุณแม่ครับ” แนะนำแบบนี้ฉันก็เขินแย่น่ะสิ...พี่อิทนะพี่อิท!“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทั้งสองท่านตามมารยาทด้วยรอยยิ้มเขินๆ ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมาก เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยเข้าบ้านผู้ชายมาก่อน ครั้งนี้คือครั้งแรก ตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบไปหมด“สวัสดีลูก...มาๆนั่งลงก่อน” คุ
ตอนที่ 28 คืนวิวาห์ Nc+ วันเวลาผันผ่านไป วันนี้เป็นวันเข้าประตูวิวาห์ของทั้งสอง อิทธิพลและมัทนา งานแต่งถูกจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว ภายในงานเชิญแขกญาติผู้ใหญ่และคนสนิทเท่านั้นพิธีช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี งานเลี้ยงช่วงเย็นเต็มไปด้วยเพื่อนของเจ้าสาว ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งเพื่อนหญิงและเพื่อนชาย“เจ้าสาว...เข้าห้องหอก่อนลูก เจ้าบ่าวรอนานแล้ว” ชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงยาวยังคงนั่งอยู่ที่กลุ่มเพื่อนที่มาร่วมแสดงความยินดีไม่ยอมลุก“ค่าแม่...” ขานรับครั้งที่สาม แต่ก็ยังไม่ยอมลุก ส่วนเจ้าบ่าวเขาก็ยังคงสวมชุดสูทสีเดียวกับเจ้าสาว นั่งรออยู่ในห้องหอเรียบร้อยนานแล้ว ชะเง้อคอยาวเมื่อไหร่เจ้าสาวของเขาจะลุกมาสักที"อิทไปตามน้องป่ะ..." คุณแม่ของเจ้าสาวเอ่ยบอกให้เจ้าบ่าวออกไปตามเจ้าสาวเพื่อทำพิธีส่งตัวเข้าหอ"ครับ" เจ้าบ่าวเดินออกไปตามเจ้าสาวของเขา เขาเดินเข้าไปทางด้านหลังของเธอ จับใบหูของเธอแล้วออกแรงดึงเล็กน้อย จนเธอต้องหันหลังไปมอง"เรียกหลายครั้งแล้วนะ" บ่นเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงก้มใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงไปหอมแก้มเธอโชว์เพื่อนๆของเธอ จนเสียงกรี๊ดกร๊าดดังลั่นบริเวณนั้น แต่เขาก็ยังไม
ตอนที่ 29 ตอนพิเศษ @มัทนาฉันอุ้มลูกสาววัยสามเดือนกอดเอาไว้ในอ้อมอกแม่ ลูกสาวของฉันกับพี่อิท แกชื่อน้องโมนา กำลังดูดนมจากเต้า สายตาของแกกำลังมองหน้าแม่ตาแป๋ว “ใครชื่อน้องโมนาเอ่ย...” ฉันคุยกับลูกไปด้วยในขณะที่กำลังให้นมแกไปด้วย“หนูใช่มั้ยลูก...” แก้มใสๆกับขนตายาวเป็นแพ ทำให้ฉันชอบกดจมูกหอมแก้มนิ่มๆของแกไม่รู้จักเบื่อ หอมได้ทั้งวัน มีความสุขที่สุดใบหน้าของโมนาได้พ่อกับแม่มาอย่างละครึ่ง แต่พี่อิทชอบไปคุยกับคนอื่นว่าลูกสาวของเขาเหมือนเขามากตามประสาคนเห่อลูก“น้องโมนาลูกสาวแม่มายกับพ่ออิทกินเก่งจังเลย” ปากเล็กๆดูดเอาๆน่ารักน่าชัง“เมื่อไหร่พ่ออิทจะกลับมาหาน้องโมนาสักทีน้า...” ในขณะที่ฉันกำลังให้นมลูกไปด้วย ฉันก็มักจะชอบพูดคุยกับแกแบบนี้เป็นประจำดวงตาใสๆมองมาที่ฉันตาแป๋ว น้องโมนาห่วงเล่นมากๆ คุยด้วยนิดๆหน่อยๆแกก็ปล่อยนมแม่แล้วยิ้มหวานให้ฉัน แต่แกก็หันกลับไปดูดต่อ สงสัยคงจะยังไม่อิ่มตอนนี้ฉันกับพี่อิทย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านคุณแม่ของพี่อิทเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากท่านอาสาเลี้ยงน้องโมนาให้ ตอนแรกฉันกับพี่อิทก็คิดว่าคลอดแล้วจะเอาลูกมาทิ้งไว้ให้คุณแม่เลี้ยงให้ ตามที่เคยคุยกันไว้ แต่พอคลอดน้อง
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ3ปีผ่านไปโมนาวัยสามขวบกว่าๆ นั่งเฝ้าน้องชายวัยห้าเดือนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปลไฟฟ้าลายการ์ตูนสีฟ้าอ่อน“คุณย่าขา น้องมันเดย์นอนเปลสวยจังเลยค่ะ” เปลใหม่เพิ่งลองซื้อมาใช้ แถมลายตัวการ์ตูนยังสวยสะดุดตาคนพี่เอามากๆ“เมื่อก่อนโมนาก็นอนเปลสวยแบบนี้แหละลูก” คุณย่าตอบหลานสาวตัวเล็กที่นั่งเฝ้าน้องหรือเฝ้าเปลก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้าแล้ว“เปลของโมนาสีอะไรคะคุณย่า”“โมนาเป็นผู้หญิง สีชมพูลูก”“แล้วเปลของโมนาไปไหนแล้วคะ”“โมนาตัวหนักนอนพังไปแล้ว...” เป็นเสียงของคุณพ่ออิทที่เดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่มาย ช่วยคุณย่าตอบคำถามของเด็กขี้สงสัย“คุณพ่อขา...โมนาอยากนอนเปลสวยๆเหมือนที่น้องมันเดย์นอนค่ะ”“โมนาตัวยาว นอนไม่ได้แล้วลูก”“ไม่มีของเด็กโตเหรอคะ”“โมนาจะนอนตอนไหน พ่อไม่เคยเห็นโมนานอนกลางวันมานานมากแล้วนะ”“เอาไว้นอนตอนกลางคืนไงคะ” ด้วยความอยากได้บ้าง นอนกลางคืนก็ได้ ส่วนกลางวันบังคับเท่าไหร่โมนาก็ไม่ยอมนอน พอตกเย็นมา หลับเร็วทุกวัน“อ้าว...ถ้าโมนานอนในเปล แล้วพ่อจะนอนกอดใครล่ะทีนี้”“อื้อ...ถ้างั้นโมนาไม่เอาแล้วก็ได้ค่ะ โมนานอนกอดคุณพ่อกับคุณแม่ดีกว่า” เสียงโมนาวัยสามขวบพูดจ๋อยๆไม่ไ
เรื่อง...คลั่งรักยัยแว่นข้างห้องคำโปรยความสัมพันธ์(รัก)ระหว่างเขากับเธอ เกิดสะดุด เมื่อเขามีตัวจริงที่ไม่ใช่เธอแนะนำตัวละครอิทธิพล (คุณอิท) อายุ 28 ปี สถาปนิกหนุ่มชื่อดังเขาหล่อ สายเปย์ ขี้แกล้ง อารมณ์ดี ถึงเขาจะเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็จริงใจมัทนา (มาย) อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 เธอสวย ขี้กลัว หัวใจที่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน ต้องจำยอมต่อความดีที่เขามีให้@@@@@@นิยายเรื่องนี้ : โรมานซ์ ฟีลกู๊ด เหมือนเดิมนะคะตอนที่ 1 พบเจออิทธิพล สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง เพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว มีบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง รับออกแบบตกแต่งทั่วไป ตั้งแต่งานเล็กไปจนถึงงานขนาดกลาง ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้“ไปคิดมาใหม่ ผมว่าแบบที่คุณทำมามันยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ผมคิดว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ” มาตรฐานเรื่องงานสำหรับเขาแล้วค่อนข้างสูง งานทุกชิ้นต้องออกมาดีที่สุด รายละเอียดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆก็แทบไม่มีให้เห็น ลูกน้องที่นี่อาจจะทำงานลำบากหน่อย แต่เงินดีมาก“ครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาแบบมาเสนอใหม่ครับ”“อือ...ได้เวลาเลิกงานแล้ว แยกย้ายกลับไปพักผ่อนกันเถอะ”“ครับ/ค่ะ” อิทธิพลเดินออกจากบริษัทฝ่ารถติดบนท้องถนน กว่าจะมาถ
ตอนที่ 2 คู่หมั้นเช้าวันรุ่งขึ้นเช้านี้มัทนาตื่นสายเธอจึงรีบสุดตัว รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง กึ่งเดินกึ่งวิ่งท่าทางรีบร้อน เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าลิฟต์ซึ่งตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากกำลังยืนรอเข้าลิฟต์ตัวเดียวกัน หนึ่งในนั้นมีผู้ชายคนเดิมเมื่อวานยืนอยู่ด้วย วันนี้เขายังคงแต่งตัวดีเหมือนเดิม มัทนาแอบมองเขาด้วยหางตานิดหน่อย แล้วถอยหลังสองก้าว ไม่อยากอยู่ใกล้รอไม่นานประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก ทุกคนที่ยืนรออยู่เดินเข้าไปด้านในลิฟต์ มัทนาพยายามยืนก้มหน้านิ่ง เนื่องจากเธอเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว ด้านในก็ค่อนข้างแออัดผู้คนเบียดเสียด ลิฟต์ตัวที่เธอขึ้นมาก็ยังต้องจอดรับชั้นระหว่างทางผ่านอีกด้วย“ขอไปด้วยคนนะคะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องขอ คนด้านในจึงช่วยขยับให้ จังหวะนี้ทำให้เธอโดนเบียดจนเซไปทางด้านหลัง เผลอไปพิงอยู่กับหน้าอกของผู้ชายคนหนึ่งเข้า แต่ที่มากกว่านั้นคือฝ่ามือของเขาดันมาประคองอยู่ที่เอวของเธอซะอย่างนั้น'เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจ!'“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” หันไปมองหน้าเขา แล้วรีบก้มหน้าหลบตาทันที เพราะเขาคือผู้ชายคนเมื่อวาน เธอกำลังจะขยับออกห่างแต่ด้วยความแออัดเธอจึงทำได้แค่ยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิมความส
ตอนที่ 3 สงสัยก็ต้องถามหลายวันต่อมาช่วงเย็นของวันนี้ ทั้งสองก็ได้ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกันอีกครั้ง แต่คนในลิฟต์หมดตั้งแต่ชั้นสามแล้ว เหลืออีกหกชั้น ถึงมันจะใช้เวลาแค่สักครู่เดียว แต่สำหรับคนขี้กลัวอย่างมัทนา เธอรู้สึกนานมากเธอยืนก้มหน้าหันหลังให้เขา มือกำสายกระเป๋าที่เธอกำลังสะพายเอาไว้แน่น ท่าทางแปลกๆ จนอิทธิพลอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่า...สงสัยเธอคงจะปวดท้องเข้าห้องน้ำ...ทนเอาหน่อยแล้วกัน!เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก มัทนาก็รีบก้าวขาออกไป ขาเรียวสวยก้าวฉับๆด้วยความรวดเร็ว นั่นจึงทำให้อิทธิพลแอบนึกสงสาร...สงสัยจะอั้นมานานแล้วส่วนเขาก็เดินตามไปปกติ เขาใช้คีย์การ์ดเปิดประตู แล้วจึงเดินเข้าไปด้านในห้องเขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากเอาไว้หลังห้อง บังเอิญเห็นคนที่รีบร้อนเดินเหมือนคนปวดท้องเมื่อสักครู่ ยืนบิดขี้เกียจท่าทางสบายใจอยู่หลังห้อง ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นมันไม่มีพนังกั้นสามารถมองเห็นกันได้สบายอิทธิพลยืนมองเธออยู่อย่างนั้นอย่างนึกแปลกใจ...เธอไม่ได้ปวดท้อง! แต่แล้วก็เป็นจังหวะที่มัทนาบิดขี้เกียจเสร็จหันมาเจอเขาพอดี สายตาผสานกัน อิทธิพลมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตารู้สึกสงสัย...ที่เดินเร็วๆขนาดนั้นอย่า
ตอนที่ 4 ดักรอหน้าห้องประตูหน้าห้องที่เปิดค้างเอาไว้ ทำให้อิทธิพลได้ยินเสียงคนคุยกัน เขาจึงเดินออกมาดู เห็นยัยแว่นข้างห้องเดินกลับเข้ามาพร้อมกับน้องสาวของเพื่อนสนิทที่มองแค่ใบหูเขาก็จำมันได้มดเป็นผู้หญิงอวบขั้นสุดท้าย ย้อนแย้งกับชื่อเล็กๆของเธออย่างสิ้นเชิง เพราะเหตุนี้เวลาที่อิทธิพลเจอกับมดจึงมีการแหย่และแซวกันอยู่บ่อยๆ แต่ก็ในฐานะพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น“พี่อิท!” มดไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักที่นี่ อย่าบอกนะว่า...พี่อิทคือไอ้โรคจิตที่ไอ้แว่นเล่าให้ฟัง“ไอ้มด มึงรู้จักพี่เขาด้วยเหรอ” มัทนาสะกิดเพื่อน พร้อมกับกระซิบกระซาบถาม“อือ...พี่อิทเป็นเพื่อนพี่กูเอง อย่าบอกนะว่าพี่อิทคือผู้ชายข้างห้อง คนที่เอาแว่นมึงไป” มัทนาพยักหน้าให้เพื่อน มดหันไปมองใบหน้าพี่อิทอีกครั้ง เห็นแว่นตาของเพื่อนเสียบอยู่ที่คอเสื้อของเขา...คนนิสัยไม่ดี!“พี่อิทแกล้งเพื่อนหนูทำไม” มดรีบต่อว่าอิทธิพลทันที มดรู้จักอิทธิพลมานานทำให้เธอรู้ว่าเขานั้นขี้แกล้งขนาดไหน“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท มองไปที่หญิงสาวทั้งสองคน ที่กำลังยืนอยู่คู่กันแล้วก็อดที่จะนึกขำขึ้นมาไม่ได้“ขำอะไร...พี่อิท! เ