ตอนที่ 3 สงสัยก็ต้องถาม
หลายวันต่อมา
ช่วงเย็นของวันนี้ ทั้งสองก็ได้ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกันอีกครั้ง แต่คนในลิฟต์หมดตั้งแต่ชั้นสามแล้ว เหลืออีกหกชั้น ถึงมันจะใช้เวลาแค่สักครู่เดียว แต่สำหรับคนขี้กลัวอย่างมัทนา เธอรู้สึกนานมาก
เธอยืนก้มหน้าหันหลังให้เขา มือกำสายกระเป๋าที่เธอกำลังสะพายเอาไว้แน่น ท่าทางแปลกๆ จนอิทธิพลอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่า...สงสัยเธอคงจะปวดท้องเข้าห้องน้ำ...ทนเอาหน่อยแล้วกัน!
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก มัทนาก็รีบก้าวขาออกไป ขาเรียวสวยก้าวฉับๆด้วยความรวดเร็ว นั่นจึงทำให้อิทธิพลแอบนึกสงสาร...สงสัยจะอั้นมานานแล้ว
ส่วนเขาก็เดินตามไปปกติ เขาใช้คีย์การ์ดเปิดประตู แล้วจึงเดินเข้าไปด้านในห้องเขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากเอาไว้หลังห้อง บังเอิญเห็นคนที่รีบร้อนเดินเหมือนคนปวดท้องเมื่อสักครู่ ยืนบิดขี้เกียจท่าทางสบายใจอยู่หลังห้อง ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นมันไม่มีพนังกั้นสามารถมองเห็นกันได้สบาย
อิทธิพลยืนมองเธออยู่อย่างนั้นอย่างนึกแปลกใจ...เธอไม่ได้ปวดท้อง! แต่แล้วก็เป็นจังหวะที่มัทนาบิดขี้เกียจเสร็จหันมาเจอเขาพอดี สายตาผสานกัน อิทธิพลมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตารู้สึกสงสัย...ที่เดินเร็วๆขนาดนั้นอย่าบอกนะว่า...รังเกียจเขา!
ส่วนมัทนาหันมาสบตากับเขาได้แค่แว๊บเดียว เธอก็รีบหมุนตัวกลับเข้าห้องไปทันที ต่อให้เธอปวดฉี่ เข้าห้องน้ำแล้ว ยังไงก็ไม่เร็วขนาดนี้หรอก ยัยแว่นนั่นต้องกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างกับเขาอยู่แน่ๆ...อิทธิพลคิดในใจ
เขาจึงเลือกที่จะเดินไปเปิดประตูด้านหน้าห้องอ้าค้างเอาไว้ แล้วยืนรอเธออยู่อย่างนั้นเพราะเขาเคยสังเกตเห็นว่าเวลาเธอกลับมาที่ห้องเอากระเป๋ากับหนังสือเรียนเข้าไปเก็บแล้ว เธอจะลงไปหาอะไรกินที่ด้านล่างอีกครั้ง และแล้วก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้จริงๆด้วย
เสียงเปิดประตูห้องข้างๆดังขึ้น ในขณะที่มัทนากำลังเดินออกมาด้วยท่าทางสบายใจ ในแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว และไม่ทันได้ระวังตัว อยู่ๆก็มีมือปริศนายื่นเข้ามาคว้าข้อมือของเธอแล้วออกแรงดึง
“ว๊าย!!” เขาใช้เวลาแค่แว๊บเดียว เธอก็มายืนอยู่ในห้องของเขาแล้ว
“ปั้ง!” เสียงประตูปิดลง พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่ยกขึ้นปิดปากเล็กๆของเธอเอาไว้
“อื้อ...” เธอพยายามส่งเสียงร้องแต่ฝ่ามือของเขาที่ปิดปากของเธอเอาไว้แน่น ทำให้เธอส่งเสียงออกมาไม่ได้
“มีเรื่องจะคุยด้วย จะปล่อยมือออกให้ แต่ต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่โวยวาย” มัทนาพยักหน้างึกงักรับทราบ อิทธิพลจึงยอมปล่อยมือออกให้
“ไอ้โรคจิต!” เสียงด่าของเธอทำให้เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น แววตาดุจับจ้องไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มที่มีแว่นสายตาสวมใส่อยู่
“บอกว่าอย่าโวยวายไง” ตอนนี้เขาจับหญิงสาวตรงหน้ายืนพิงอยู่ที่พนังห้องใกล้ๆกับประตู ชุดนักศึกษารัดรูปที่เธอยังไม่ได้ถอดออก ทำให้เห็นสัดส่วนของเธอได้อย่างชัดเจน จนเผลอแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ปล่อยหนูออกไปนะ!” สายตามองต่ำ อย่างไม่คิดที่จะปกปิด กระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าอวดเรียวขาขาวเนียน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทำให้เขาใจสั่นได้นะ
"มองอะไร ไอ้บ้า!" ไหนๆเขาก็เป็นโรคจิตในสายตาของเธอไปแล้ว ขอมองอีกนิดๆหน่อยๆจะเป็นอะไรไป
"อ้าว...ใส่สั้นขนาดนี้ ไม่ได้อยากให้คนมองหรอกเหรอ"
"อี๋...ไอ้!..." เธอกำลังจะอ้าปากด่าอีกครั้ง แต่เขาเสียงดังขึ้นมาซะก่อน นั่นจึงทำให้คำด่าคำนั้นถูกกลืนลงคอไป
“หยุดด่าได้แล้ว! แค่อยากจะคุยด้วยเฉยๆ”
“ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้นี่” อิทธิพลดึงแว่นสายตาที่เธอสวมใส่อยู่ออก แล้วเอามาเสียบไว้ที่คอเสื้อของเขาแทน ด้วยท่าทางยียวนกวนๆ...ไม่ยอมออกไปคุยกันข้างนอก แล้วยังจะเอาแว่นสายตาของเธอไปอีก!
“นี่! เอาคืนมานะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มตรงหน้าที่ไม่มีแว่นสายตาปิดบัง ยิ่งทำให้อิทธิพลถึงกลับตะลึงในความสวยของเธอ เขาแอบชื่นชมความสวยของเธอในใจ ใบหน้าขาวเนียน ดวงตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อย
“บอกว่าอย่าโวยวายไง จะคุยกันตรงนี้ดีๆหรือจะไปนอนคุยกันบนเตียง” เขาสะบัดหน้าไปทางเตียงนอนที่อยู่มุมหนึ่งของห้อง คำพูดหยอกเย้าของเขา ยิ่งทำให้มัทนารู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีกร้อยเท่าพันเท่า ริมฝีปากเล็กๆที่กำลังเม้มเข้าหากันแน่น นั่นจึงทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
“คุยเรื่องอะไรคะ เราไม่เคยรู้จักกัน”
“ชื่ออะไร” เขาถามเสียงห้วน
“นะ...หนูชื่อมายค่ะ” น้ำเสียงสั่นๆของเธอตอนนี้บ่งบอกว่าเธอกำลังกลัว
“มาย...เป็นอะไร” เขาหมายถึงเวลาตอนที่เธอเจอหน้าเขา เธอมักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ
“เป็นอะไร...คืออะไรคะ” เธอไม่เข้าใจคำถามของเขา
“มองหน้าพี่สิ” ขนาดตอนนี้ พูดคุยกันธรรมดาเธอก็ยังก้มหน้าพูด อยู่ใกล้กันแค่นี้ สายตาสั้นก็จริงแต่ถึงอย่างไรก็น่าจะมองเห็น แต่เธอกลับหลบสายตาตลอดเวลา
“เวลาเราเจอหน้าพี่ เป็นอะไร” สิ่งที่เธอแสดงออกเวลาเจอหน้าเขาทุกครั้ง มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“นะ...หนูแค่กลัว” เธอตอบเสียงเบา
“กลัว...กลัวพี่ทำไม” เขาจำได้ว่าเขาไม่เคยทำอะไรให้เธอไม่พอใจเลยนะ มีแต่เธอนั่นแหละที่ทำให้เขาไม่พอใจ เจอหน้ากันครั้งแรกเธอก็ด่าเขาว่า...แล้งน้ำใจ!
“คือ...หนู...ขอตัวนะคะ!” มัทนาพอจะเห็นจังหวะ เธอจึงผลักหน้าอกของเขาออกไปเต็มแรง จากนั้นจึงรีบเปิดประตูแล้วรีบวิ่งออกไปทันที ที่จริงเขาจะดึงเธอเอาไว้เขาก็ทำได้แต่เขาไม่อยากทำ เขามองแว่นของเธอที่อยู่ตรงคอเสื้อของเขาแล้วเผลออมยิ้มออกมา
“ยังถามไม่รู้เรื่องเลย” เขาไม่ตาม เพราะยังไงเธอก็ต้องกลับมาเอาแว่นคืน ห้องของเธอก็อยู่นี่ เขาเดินกลับเข้าห้องไปท่าทางสบายใจ โดยเลือกที่จะเปิดประตูห้องทิ้งเอาไว้ พอมีคนเดินผ่านหน้าห้องเขาก็จะสามารถเห็นได้ทันที
ทางด้านมัทนา หลังจากที่เธอวิ่งออกมาโดยไม่มีแว่นสายตา แต่ดีที่ยังมีกระเป๋าสตางค์กับมือถืออยู่ในกระเป๋าสะพาย เธอหยิบมือถือขึ้นมาโทรออกหาเพื่อน แต่ไม่มีใครรับสายของเธอเลย เธอจึงเลือกสั่งข้าวกินก่อน สักครู่เพื่อนของเธอก็โทรย้อนกลับมา
“ไอ้มดช่วยกูด้วย!” หยิบมือถือกดรับสายแล้วรีบกรอกเสียงลงไปในสายเพื่อขอความช่วยเหลือทันที
“มึงเป็นอะไร”
“มึงมาหากูหน่อยได้มั้ย ไอ้โรคจิตคนนั้นมันเอาแว่นกูไป”
“ห๊ะ!! ตกลงเพื่อนข้างห้องที่มึงเล่าให้ฟังเป็นโรคจิตจริงๆเหรอวะ”
“กูมองไกลไม่เห็นเลย ยังไงก็ต้องเอาแว่นคืน”
“เดี๋ยวกูไปหา มึงอยู่ไหน”
“ร้านข้าวข้างล่าง”
“เค” แล้วสายสนทนาก็ถูกตัดไป ผ่านไปเกือบๆครึ่งชั่วโมงได้ มดก็เดินเข้ามาหามัทนาที่ร้านข้าว
“ไอ้มดทางนี้” มดเดินมานั่งลงข้างๆเพื่อน
“ไหนมึงเล่าให้กูฟังซิ เอาแบบละเอียดเลยนะ” มัทนาเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่แสนจะน่ากลัวสำหรับเธอให้เพื่อนฟังอย่างละเอียด
“ไป! กูจะพามึงไปเอาแว่นคืน”
“เดี๋ยว! มึงไม่กลัวเหรอ”
“คนเยอะแยะ กล้องวงจรปิดก็มีมึงจะกลัวอะไรนักหนา อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ทำอะไรมึงนี่...ไป!” มดดึงมือมัทนาพาเดินขึ้นคอนโด ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นเก้า ทั้งสองสาวยังคงสวมชุดนักศึกษาอยู่ พากันเดินไปเรื่อยๆ สายตาของทั้งสองจับจ้องไปที่ประตูหน้าห้อง922
“ไอ้แว่น...เขาน่าจะเปิดห้องรอมึงแน่ๆ”
“ไอ้มดกูกลัว...”
“มึงต้องเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่อง เพราะห้องมึงอยู่ติดกับห้องเขา หรือมึงจะย้ายห้องหนีอีก”
“เสียดายค่ามัดจำ”
“ก็เออไง...ไป!”
“ไอ้มด!” เสียงนี้ดังออกมาจากคนที่อยู่ด้านในห้อง...เขารู้จักเพื่อนของเธอ! ทันใดนั้นอิทธิพลก็ก้าวเขาเดินออกมาปรากฏตัว เขายืนกอดอกแผ่นหลังพิงอยู่กับประตูหน้าห้องท่าทางสบายใจ คอเสื้อของเขายังคงมีแว่นสายตาของมัทนาเสียบอยู่
“พี่อิท!” มัทนามองทั้งสองคนสลับกันไปมา...รู้จักกันด้วยเหรอ!
ตอนที่ 4 ดักรอหน้าห้องประตูหน้าห้องที่เปิดค้างเอาไว้ ทำให้อิทธิพลได้ยินเสียงคนคุยกัน เขาจึงเดินออกมาดู เห็นยัยแว่นข้างห้องเดินกลับเข้ามาพร้อมกับน้องสาวของเพื่อนสนิทที่มองแค่ใบหูเขาก็จำมันได้มดเป็นผู้หญิงอวบขั้นสุดท้าย ย้อนแย้งกับชื่อเล็กๆของเธออย่างสิ้นเชิง เพราะเหตุนี้เวลาที่อิทธิพลเจอกับมดจึงมีการแหย่และแซวกันอยู่บ่อยๆ แต่ก็ในฐานะพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น“พี่อิท!” มดไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักที่นี่ อย่าบอกนะว่า...พี่อิทคือไอ้โรคจิตที่ไอ้แว่นเล่าให้ฟัง“ไอ้มด มึงรู้จักพี่เขาด้วยเหรอ” มัทนาสะกิดเพื่อน พร้อมกับกระซิบกระซาบถาม“อือ...พี่อิทเป็นเพื่อนพี่กูเอง อย่าบอกนะว่าพี่อิทคือผู้ชายข้างห้อง คนที่เอาแว่นมึงไป” มัทนาพยักหน้าให้เพื่อน มดหันไปมองใบหน้าพี่อิทอีกครั้ง เห็นแว่นตาของเพื่อนเสียบอยู่ที่คอเสื้อของเขา...คนนิสัยไม่ดี!“พี่อิทแกล้งเพื่อนหนูทำไม” มดรีบต่อว่าอิทธิพลทันที มดรู้จักอิทธิพลมานานทำให้เธอรู้ว่าเขานั้นขี้แกล้งขนาดไหน“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท มองไปที่หญิงสาวทั้งสองคน ที่กำลังยืนอยู่คู่กันแล้วก็อดที่จะนึกขำขึ้นมาไม่ได้“ขำอะไร...พี่อิท! เ
ตอนที่ 5 แผนสูง“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น มัทนาคิดว่าเป็นเพื่อนของเธอที่ย้อนกลับมา เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้“ไอ้มด ไหนบอกว่า...พี่อิท!” มัทนาเปิดประตูเห็นว่าไม่ใช่เพื่อนของเธอ เธอจึงทำท่าจะปิดประตูลง แต่ถูกมือใหญ่ผลักเอาไว้ไม่ยอมให้เธอปิดลงได้ง่ายๆ“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งปิด” เขาใช้แรงแค่เพียงนิดเดียว แต่เธอใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมี ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาได้“ปล่อยค่ะ เราไม่รู้จักกัน” เธอร้องบอกเขาเสียงดังอีกครั้ง นึกโมโหตัวเองทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิด“เรารู้จักกันแล้ว” เขาเถียงกลับมา แล้วรีบแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ด้านในห้องของเธอจนได้สำเร็จ“ออกไปนะคะ!” การกระทำของเขาทำให้เธอกลัว กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอเข้า อยู่กันในห้องสองต่อสองแบบนี้ด้วย มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย สถานการณ์แบบนี้อันตรายจริงๆ“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเราตอนนี้หรอกน่า” คำพูดของเขามันไม่น่าไว้ใจ เพราะฟังดูดีๆคิดแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์“ขอร้อง ออกไปก่อนเถอะนะคะ”“ก็บอกว่าไม่ต้องกลัวไง ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ”“ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่ามั้ยคะ” มัทนาเริ่มหาทางออกให้ตัวเอง“ก็ดีนะ กินข้าวหรือยัง” เขาถาม
ตอนที่ 6 เจ้าเล่ห์ที่หนึ่งเมื่อขับรถมาถึงคอนโดและจอดสนิทที่ลานจอดรถ มัทนาปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยได้ เธอกำลังจะเปิดประตูรถลงจากรถ แต่อิทธิพลกลับเอื้อมมือมาจับข้อมือของเธอเอาไว้ ยังไม่ยอมให้เธอลงไปง่ายๆ“พี่อิท...ปล่อยมือมายนะคะ” เผลอเป็นไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ เห็นเธอไม่ว่าอะไร ชักจะเอาใหญ่“ไม่ปล่อย...” เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่แกล้งใช้นิ้วหัวแม่มือลูบเบาๆที่มือของเธอด้วย เด็กอะไรทำไมมือนุ่มจัง“ปล่อยนะคะ!” เธอสะบัดมือออกจากการจับของเขา เขาจึงยอมปล่อยให้ จีบยากจริงๆแฮะ!“เดี๋ยว...พี่แค่จะขอเบอร์” ท่ายากเยอะจริงๆ ทำเอาคนขี้กลัวทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ตกลงไม่รู้ว่าอันไหนแกล้ง อันไหนจริง“ไม่ให้ค่ะ”“ไลน์ก็ได้”“ไม่ให้ค่ะ”“เฟซบุ๊กก็ได้”“ไม่ให้ค่ะ!”“ถ้าไม่ให้ก็อยู่มันในรถนี่แหละ” สายตาของเขาเริ่มสำรวจเรือนร่างสวยๆของเธออย่างไม่คิดที่จะปกปิด นั่นจึงทำให้มัทนายอม...“เอามือถือของพี่มาสิค่ะ” เขาหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอให้ จากนั้นจึงส่งให้เธอ มัทนาให้เบอร์ไป บันทึกชื่อปุ๊บ ไลน์เด้งปั๊บ สีหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้างๆท่าทางพอใจอย่างเห็นได้ชัด“จะปล่อยมายลงไปได้หรือยังคะ” เขา
ตอนที่ 7 ของฝากแทนใจ@มหาวิทยาลัย“ไอ้มด...มึงรู้มั้ยว่าพี่ข้างห้องกูเขาหายไปไหน”“ใคร...พี่อิทน่ะเหรอ”“อือ”“เขาไม่ใช่พี่ชายกู บ้านก็ไม่ได้อยู่ติดกัน กูจะไปรู้ได้ยังไง” มดตอบแบบขอไปที แต่ก็แอบอมยิ้มเมื่อคิดว่าเพื่อนของเธอน่าจะมีใจให้พี่เขาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อยแหละน่า“ตั้งแต่วันที่พี่เขาเอาคีย์การ์ดมาคืนให้ กูไม่เจอหน้าพี่เขาเลย เหมือนไม่ได้อยู่ที่ห้องด้วย”“ทำไม...มึงคิดถึงเขาหรือไง” มดถามทีเล่นทีจริง“บ้า...กูแค่สงสัย”“กูโทรไปถามให้เอามั้ยล่ะ กูจะบอกเขาว่า...เพื่อนฝากมาถาม” มดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน ในแบบขี้เล่นตามนิสัยของเธอ“อย่านะ! มึงไม่รู้ก็ช่างเถอะ ไม่อยู่ก็ดีกูรู้สึกปลอดภัยขึ้นตั้งเยอะ”“เขาไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า...ถ้ามึงไม่ยอมซะอย่าง” จากที่มดรู้จักกับพี่อิทมา เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้น“กูไม่ไว้ใจ”“ระวังใจตัวเองให้ดีแล้วกัน อยู่ห้องใกล้กันซะด้วย”“เออๆ เลิกพูดถึงเขาเถอะ ไปเรียนดีกว่าถึงเวลาแล้ว” เป็นจังหวะที่น้ำกับฟ้าเดินเข้ามาสมทบด้วยพอดี ทั้งสี่คนเดินเข้าห้องเรียนพร้อมกันช่วงเย็น มัทนาชวนน้ำเพื่อนของเธออีกคนมานอนที่ห้องด้วย ซึ่งปกติเพื่อนๆก็มักจะแวะมานอนด้วยแบบนี้เ
ตอนที่ 8 เข้าห้องผิดเช้าวันรุ่งขึ้น อิทธิพลตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอหน้ามัทนาแล้ว ไม่รู้ว่าเธอหนีออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปเคาะประตูเรียกที่ห้องก็เงียบไม่เห็นเธอเปิด เขาก็เลยเดาว่าเธอน่าจะออกจากห้องไปแล้วทางด้านมัทนา หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาบนเตียง แล้วเห็นว่าอิทธิพลย้ายตัวเองลงไปนอนอยู่ที่โซฟา ความคิดเมื่อก่อนที่เคยกลัวเขา ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้วแต่กลับมีความรู้สึกดีๆให้แทน“ยิ้มอะไรไอ้แว่น” ในห้องเรียน น้ำสังเกตเห็นเพื่อนนั่งอมยิ้มมองสร้อยข้อมืออยู่ จึงเอ่ยแซวขึ้น“เปล่า...”“สร้อยข้อมืออะไรสวยจัง ไปซื้อมาจากที่ไหนเหรอ” น้ำลองจับๆดู ไม่เคยเห็นเพื่อนใส่มาก่อน ดูสวยเก๋แปลกตาดี“มีคนให้มา”“พี่อิทกลับมาแล้วเหรอ” น้ำถามอย่างรู้ทัน“รู้ได้ยังไงว่าเป็นเขา”“กูเดา พูดแบบนี้แสดงว่าใช่จริงๆด้วย” คนรอบๆตัวของมัทนามีอยู่แค่ไม่กี่คนหรอก ไม่ว่าเป็นใครก็เดาถูกทั้งนั้นนั่นแหละ“พวกมึง...เย็นนี้ไปสังสรรค์กันหน่อยดีมั้ย ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว กูอยากผ่อนคลาย” อยู่ๆฟ้าก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ช่วงนี้เรียนหนักรู้สึกเบื่อจังเลย“ไปมั้ยไอ้แว่น” น้ำ“แล้วแต่ ไปก็ไป” มาย“ไอ้แว่นไปกูไป” มดสรุปทั้งสี่คนคืนนี
ตอนที่ 9 เข้าห้องผิด Nc+“พี่อิท จะทำอะไรมายคะ” เขาพาเธอนอนลงบนเตียงแล้วขึ้นมาอยู่ด้านบนตัวเธอ มองใบหน้าสวยด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ยังไม่ได้ทาบทับลงไปโดนตัวของเธอ ห้องสว่างไปด้วยแสงไฟ ทำให้มัทนาเห็นใบหน้าของพี่อิทได้ชัดเจน เนื่องจากใบหน้าของเขาอยู่ตรงหน้าของเธอ ปลายจมูกโด่งของทั้งสองชนกันพอดิบพอดี“พี่อิทอย่านะ” สายตาของหญิงสาวใต้ล่าง บ่งบอกว่าเธอกลัวเขาอย่างชัดเจน อิทธิพลจึงทิ้งตัวนอนลงข้างเธอเพื่อปลอบประโลมเธอก่อน“ไม่ต้องกลัวพี่” น้ำเสียงแผ่วเบากับสายตาอ่อนโยนของเขาสบตากับเธอ พร้อมกับนิ้วมือเขี่ยหยอกเย้าอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไปด้วย“...........” สายตาของเธอยังคงสั่นระริกเมื่อคิดว่าตัวเองไม่น่าจะรอด มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย เธอรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอใจสั่นระรัวขึ้นมาอีกแล้ว“ปล่อยตัวตามสบาย ทำใจดีๆ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มายคิด เชื่อพี่นะ” เขาพยายามปลอบประโลมให้เธอใจเย็นลง และให้เธอยอมตกเป็นของเขาแต่โดยดี“...........” นิ้วมือที่กำลังเขี่ยอยู่ที่ริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ทำให้เธอเผลอเผยอปากให้เขาเล็กน้อย อิทธิพลเห็นว่าเธอเริ่มนิ่งเขาจึงค่อยๆโน้มริมฝีปากลงไปจูบที่ริมฝี
ตอนที่ 10 เข้าห้องผิด Nc+สายตาขี้เล่นของเขามองใบหน้าของเธอด้วยรอยยิ้ม เขาหยอกเย้ายอดดอกบัวของเธอด้วยลิ้นอุ่นๆของเขาอีกนิด พรมจูบเต้าสวยด้วยริมฝีปากอุ่นจนเกิดเสียงอีกหน่อยอิทธิพลขยับตัวขึ้น แขนข้างหนึ่งของเขากลายเป็นหมอนให้เธอหนุน ใบหน้าแนบชิดสบตากับเธอ ฝ่ามือใหญ่ข้างที่ยังว่างเคล้นคลึงเต้าสวยไม่ให้เหงา ริมฝีปากอุ่นจูบลงไปที่ริมฝีปากบางของเธอ เขาขบเม้มเบาๆพอให้เธอได้ผ่อนคลายสายตาของเขายังคงจับจ้องมองใบหน้าของเธออยู่อย่างนั้น นิ้วหัวแม่มือวนเวียนหยอกเย้าอยู่ที่ยอดดอกบัวสีหวานอยู่สักครู่ พอเธอเผลอไผลเขาจึงรีบเลื่อนฝ่ามือลงต่ำทันทีมัทนารีบรั้งฝ่ามือข้างนั้นของเขาเอาไว้ ริมฝีปากอุ่นรีบกดจูบลงบนริมฝีปากบางทันที เพื่อเป็นการหลอกล่อให้เธอยอม“อื้อๆ” มัทนาทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา“มายต้องเชื่อใจพี่ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มายคิด” เขาจับมือของเธอข้างที่รั้งแขนของเขาเอาไว้ออก“อื้อๆ...” กระโปรงยีนสั้นถูกเขาถลกขึ้นมากองอยู่เหนือสะโพก แล้วรีบสอดมือเข้าไปในแพนตี้สีหวานของเธอทันที“อื้อๆ ไม่เอาค่ะ อย่านะพี่อิท” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามรั้งข้อมือของเขาเอาไว้ ไม่ให้สอดต่ำลงไป
ตอนที่ 11 ยอมรับ Nc+“พร้อมหรือยัง พี่ไม่ไหวแล้วนะ” เขากระซิบถามเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออึกใหญ่ มัทนาพยักหน้างึกงักใบหน้าเหยเก นั่นจึงทำให้อิทธิพลเริ่มขยับสะโพก...เขาค่อยๆขยับช้าๆ เนื่องจากความคับแน่นของเธอทำให้เขาปวดหนึบและทรมานอยู่ไม่น้อย ความเป็นหญิงของเธอกอดรัดความเป็นชายของเขาเอาไว้แน่น ภายในร่องรักตอดรัดความเป็นชายของเขาถี่ยิบ จนร่างกายของเขาร้อนฉ่า เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านในขณะที่สะโพกสอบยังคงทำหน้าที่อย่างเชื่องช้า ริมฝีปากหยักบรรจงจูบอยู่ที่ริมฝีปากบางอยู่อย่างนั้น เขาขบเม้มเบาๆพอให้เธอหายเหงา“ดีขึ้นมั้ย...” เขาจะไม่ถามว่าหายเจ็บหรือยัง เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายยังรู้สึก แล้วเนื้ออ่อนๆของเธอจะไปเหลืออะไรแต่ความอ่อนโยนของเขาก็สามารถทำให้มัทนาเคลิบเคลิ้มได้ เธอยังคงเจ็บอยู่มาก อาจจะเป็นเพราะขนาดของเขาที่ไม่ธรรมดา ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอด้วย แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่าเริ่มมีความรู้สึกอื่นแทรกเข้ามา มันทำให้เธอมีความสุขและลืมความเจ็บลงไปได้ชั่วขณะอิทธิพลเห็นว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วม ดูได้จากเสียงหวานๆของเธอที่ครางออกมาไม