ตอนที่ 7 ของฝากแทนใจ
@มหาวิทยาลัย
“ไอ้มด...มึงรู้มั้ยว่าพี่ข้างห้องกูเขาหายไปไหน”
“ใคร...พี่อิทน่ะเหรอ”
“อือ”
“เขาไม่ใช่พี่ชายกู บ้านก็ไม่ได้อยู่ติดกัน กูจะไปรู้ได้ยังไง” มดตอบแบบขอไปที แต่ก็แอบอมยิ้มเมื่อคิดว่าเพื่อนของเธอน่าจะมีใจให้พี่เขาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อยแหละน่า
“ตั้งแต่วันที่พี่เขาเอาคีย์การ์ดมาคืนให้ กูไม่เจอหน้าพี่เขาเลย เหมือนไม่ได้อยู่ที่ห้องด้วย”
“ทำไม...มึงคิดถึงเขาหรือไง” มดถามทีเล่นทีจริง
“บ้า...กูแค่สงสัย”
“กูโทรไปถามให้เอามั้ยล่ะ กูจะบอกเขาว่า...เพื่อนฝากมาถาม” มดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน ในแบบขี้เล่นตามนิสัยของเธอ
“อย่านะ! มึงไม่รู้ก็ช่างเถอะ ไม่อยู่ก็ดีกูรู้สึกปลอดภัยขึ้นตั้งเยอะ”
“เขาไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า...ถ้ามึงไม่ยอมซะอย่าง” จากที่มดรู้จักกับพี่อิทมา เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้น
“กูไม่ไว้ใจ”
“ระวังใจตัวเองให้ดีแล้วกัน อยู่ห้องใกล้กันซะด้วย”
“เออๆ เลิกพูดถึงเขาเถอะ ไปเรียนดีกว่าถึงเวลาแล้ว” เป็นจังหวะที่น้ำกับฟ้าเดินเข้ามาสมทบด้วยพอดี ทั้งสี่คนเดินเข้าห้องเรียนพร้อมกัน
ช่วงเย็น มัทนาชวนน้ำเพื่อนของเธออีกคนมานอนที่ห้องด้วย ซึ่งปกติเพื่อนๆก็มักจะแวะมานอนด้วยแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ไอ้แว่น...มึงจะไปไหน” น้ำถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังเดินไปที่เคาน์เตอร์ของทางคอนโด
“คีย์การ์ดกูเสียใบนึงว่าจะไปแจ้งขอเปลี่ยนใหม่”
“เอาไว้วันหลังเถอะ กูอยากขึ้นห้องแล้ว” น้ำชวน เนื่องจากนั่งเรียนมาทั้งวัน ทั้งเมื่อยทั้งล้า น้ำอยากขึ้นไปอาบน้ำเปิดแอร์เย็นๆนอน
“อือๆก็ได้ ว่าจะมาแจ้งตั้งหลายวันแล้วลืมทุกทีเลย” มัทนาบ่นตัวเองแต่ก็ยอมเดินกลับขึ้นห้องไปกับเพื่อน เธอมักจะเอาคีย์การ์ดติดกระเป๋าไปด้วยสองกันเสมอ
“ห้องนี้เหรอ ห้องพี่อิทที่มึงกับไอ้มดพูดถึง” น้ำถามถึงผู้ชายที่เพื่อนพูดถึงอยู่บ่อยๆ ห้อง 922
“อือ”
“กูอยากเห็นหน้าเขาว่ะ”
“เขาไม่อยู่” ทั้งสองสาวเดินเข้ามาด้านในห้องของตัวเองแต่ยังคงพูดถึงชายหนุ่มข้างห้องอยู่อย่างนั้น
“นั่นแน่! รู้ด้วยว่าเขาไม่อยู่ แอบใส่ใจนะเนี่ย” ปกติมัทนาไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย เพื่อนๆของมัทนาทุกคนจะรู้ดี
“กูเปล่า เขามันอันตราย กูก็ต้องระวังตัวเป็นธรรมดา”
“เขาทำอะไรมึง”
“ก็เอาแว่นกับคีย์การ์ดกูไปไง” ที่จริงมีมากกว่านี้ แต่มันน่าอายเกินกว่าที่เธอจะเล่าให้เพื่อนฟัง
“มีอย่างอื่นอีกมั้ย” เขากอดและหอมแก้มของเธอ นึกถึงเรื่องนี้ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
“ไม่มี๊!” มัทนาปฏิเสธเสียงสูง
“แล้วทำไมมึงต้องเสียงสูงด้วย” น้ำถามแต่ไม่ได้มองหน้าเพื่อน กำลังเตรียมตัวจะอาบน้ำ เลยไม่ได้เห็นว่าตอนนี้มัทนาหน้าแดงขนาดไหน
“มึงจะถามอะไรนักหนาเนี่ย ไปๆอาบน้ำ” จากนั้นทั้งสองก็ผลัดกันอาบน้ำแล้วมานั่งๆนอนๆอ่านหนังสืออยู่ด้วยกันบนเตียง
ช่วงเย็นของวันต่อมา อิทธิพลกลับมาถึงคอนโดก่อนหน้าที่มัทนาจะกลับมาถึง เขายืนดักรอเธออยู่ที่หน้าห้อง
“พี่อิท...” มัทนาชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นใบหน้าของพี่อิทมองมาที่เธอ คล้ายกับกำลังดักรอเธออยู่ เขาหายหน้าไปเกือบอาทิตย์
“คิดถึงพี่บ้างหรือเปล่า” คำถามแรกของเขา ทำให้เธอทำตัวไม่ถูก เขายืนกอดอกพิงประตูท่าทางสบายๆในแบบของเขา
“ทำไมมายจะต้องคิดถึงพี่ด้วย” มัทนายังคงปั้นหน้าเฉย ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
“เข้ามานี่สิ...” อยู่ๆเขาก็คว้าข้อมือของเธอแล้วออกแรงจูง หวังจะให้เธอเข้ามาในห้องกับเขา
“พี่อิทปล่อยนะคะ มายไม่เข้าห้องพี่” เธอรั้งแขนของตัวเองเอาไว้ ไม่ยอมเดินตามเขาเข้าไปง่ายๆ อยู่ๆจะมาชวนเธอเข้าห้องง่ายๆอย่างนี้ได้ยังไง เธอไม่กล้าเดินเข้าไปหรอก
“ไม่มีอะไรหรอกน่า พี่มีของมาฝาก” เขาพูดด้วยท่าทางเป็นกันเอง น้ำเสียงปกติ ไม่ได้มีสายตาขี้แกล้งเหมือนแต่ก่อน
“...........” มัทนาสองจิตสองใจ อีกใจก็อยากรู้ว่าเขาหายไปไหนมา อีกใจก็กลัวที่จะต้องเข้าไปอยู่ในห้องกับเขาสองต่อสอง
“เลิกกลัวพี่ได้แล้ว สัญญาว่าจะไม่แกล้งมายแบบวันนั้นอีก” หลายวันที่เขาหายไป ไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่คิดถึงเธอ แอบรู้สึกผิดเล็กๆที่วันนั้นทำให้เธอร้องไห้
พอดีมีงานด่วนเข้ามา ต้องเดินทางไปดูหน้างานที่ต่างจังหวัดกะทันหัน เขาเลยไม่ได้บอกเธอเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่รู้ว่าเธอจะคิดถึงเขา เหมือนที่เขาคิดถึงเธอบ้างหรือเปล่า
“แน่นะคะ”
“แน่ครับ ถ้ายังไม่เชื่อใจพี่จะเปิดประตูทิ้งไว้ก็ได้นะ” เขาใช้เวลาเดินทางกลับมาหลายชั่วโมงยังไม่ได้พัก รู้สึกเหนื่อยมากเลย มัทนาเดินตามเขาเข้ามาด้านในห้อง เธอเลือกที่จะเปิดประตูค้างเอาไว้ตามที่เขาบอก
“นั่งลงก่อนสิ” มัทนานั่งลงที่โซฟาตามคำเชิญ อิทธิพลเดินไปหยิบของฝากที่เขาตั้งใจซื้อมาให้ ราคาหลักร้อย เพราะคิดว่าถ้าเขาซื้อของแพงให้ เธออาจจะไม่รับก็ได้ เขาก็เลยเลือกเป็นสร้อยข้อมือน่ารักๆ แต่มีความหมายมาฝาก
“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าพี่หายไปไหนมา”
“ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย” เธอยังคงปากแข็ง เขาอมยิ้มให้กับความปากแข็งของเธอ ถึงเขาจะไม่ได้ติดต่อกับเธอช่วงที่ผ่านมา แต่เพื่อนของเธอที่รับเงินเขาไปวันนั้นก็รายงานตลอด
“พี่ไปทำงานที่ต่างจังหวัดมา พอดีหน้างานมีปัญหา พี่ก็เลยต้องเดินทางไปดูด้วยตัวเอง งานค่อนข้างซีเรียส พี่เลยไม่ได้โทรหาเพราะคิดว่ามายคงไม่อยากคุยกับพี่” พูดไปก็แอบมองใบหน้าของเธอไปด้วย หวังว่าเธอจะสนใจกันบ้าง ไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอแค่กำลังใจก็พอ
“งานเสร็จเรียบร้อยดีหรือยังคะ” คำถามของหญิงสาวตรงหน้าทำให้คนแอบหวังดีใจขึ้นมาหน่อย
“เรียบร้อยแล้วครับ อ่ะของฝาก พอดีพี่เห็นว่ามันน่ารักดี พี่เลยซื้อติดมือมาฝาก ถึงราคาจะไม่มาก แต่พี่ก็ตั้งใจซื้อมาให้” มันคือสร้อยข้อมือมงคลทำจากหินโบราณ ขนาดเล็กน่ารักเหมาะกับข้อมือขาวๆของเธอมาก
“ขอบคุณนะคะ” สำหรับมัทนาราคาไม่สำคัญเลยสักนิด คุณค่าทางใจสิสำคัญมากกว่า
“พี่ใส่ให้” เขาหยิบมันขึ้นมาวางลงบนข้อมือเรียวสวยของเธอแล้วติดตะขอให้
“ชอบมั้ย”
“ค่ะ”
“พี่หิวข้าว ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วไปหาอะไรกินกัน...อย่าปฏิเสธนะ” เขารีบพูดดักคอเธอไว้ก่อน
“มายอาบน้ำนาน” เธออาบน้ำนานจริงๆ
“หรือจะไปชุดนี้” เขาเสนอ ชุดนักศึกษาก็ไม่เลว เหมือนได้เดินกับเด็กเลย
“รอมายสักครึ่งชั่วโมงได้มั้ยคะ” วันนี้ที่มหาลัยมีกิจกรรมเธอรู้สึกเหนียวตัว อยากอาบน้ำให้ชื่นใจก่อน
“ได้สิ” มัทนาเดินกลับเข้ามาในห้องของตัวเอง เธอใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวนานพอสมควร แต่ก็รีบสุดแล้ว เมื่อเสร็จเรียบร้อยเธอจึงออกจากห้อง เห็นประตูห้องของพี่อิทยังไม่ได้ปิด ยังคงเปิดอ้าค้างเอาไว้ เธอจึงเดินเข้ามาในห้องของเขา เห็นเขานอนหลับอยู่บนโซฟา
“สงสัยจะทำงานเหนื่อย” มัทนาอมยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เธอนั่งลงที่โซฟาอีกตัว นั่งมองใบหน้าของเขาเวลาหลับ ด้วยความรู้สึกชื่นชม ใบหน้าสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเป็นกระจับได้รูป ทรงผมตัดสั้นทันสมัย มองรวมๆแล้ว เขาหน้าตาดีมากเลยเชียวล่ะ
มัทนานั่งรออยู่อย่างนั้น เธอกะว่าจะให้เขานอนพักสักหน่อย ส่วนเธอไม่รู้จะทำอะไรจึงหยิบมือถือขึ้นมาเล่น นึกสนุกจึงถ่ายรูปเขาตอนหลับเก็บเอาไว้ดูเล่น
จนเวลาล่วงเลยไปนานพอสมควร คนที่เพิ่งกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ส่วนอีกคนที่นั่งรอก็ไม่คิดที่จะปลุก เธอนั่งรอจนตัวเองเผลอหลับไปเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไป อิทธิพลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เห็นมัทนานั่งหลับอยู่ใกล้ๆ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เห็นว่าเวลาตอนนี้สองทุ่มกว่าๆแล้ว
“หลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย” ยกมือขึ้นบีบนวดต้นคอตัวเองก่อนที่จะมองไปที่หญิงสาวตรงหน้า เป็นคนขี้กลัวแต่ดันมาเผลอหลับอยู่ในห้องของเขา รอยยิ้มบางๆเผลอคลี่ยิ้มออกมา เขาหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายรูปเธอเก็บไว้
“น่ารักดี...” ถ่ายรูปเธอเก็บไว้ดูเล่นเสร็จแล้วจึงวางมือถือลงบนโต๊ะด้านหน้าโซฟา
เขาเดินไปปิดประตูห้อง หยิบรีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศภายในห้อง หวังจะให้เธอนอนได้สบายขึ้น แล้วเดินกลับมาหาเธออีกครั้ง เขาอุ้มเธอไปนอนลงบนเตียง วางเธอลงอย่างเบามือ โดยไม่ลืมที่จะถอดแว่นสายตาออกให้ด้วย ส่วนเขาย้ายตัวเองมานอนหลับอยู่ที่โซฟาตัวยาวเหมือนเดิม
ตอนที่ 8 เข้าห้องผิดเช้าวันรุ่งขึ้น อิทธิพลตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอหน้ามัทนาแล้ว ไม่รู้ว่าเธอหนีออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปเคาะประตูเรียกที่ห้องก็เงียบไม่เห็นเธอเปิด เขาก็เลยเดาว่าเธอน่าจะออกจากห้องไปแล้วทางด้านมัทนา หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาบนเตียง แล้วเห็นว่าอิทธิพลย้ายตัวเองลงไปนอนอยู่ที่โซฟา ความคิดเมื่อก่อนที่เคยกลัวเขา ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้วแต่กลับมีความรู้สึกดีๆให้แทน“ยิ้มอะไรไอ้แว่น” ในห้องเรียน น้ำสังเกตเห็นเพื่อนนั่งอมยิ้มมองสร้อยข้อมืออยู่ จึงเอ่ยแซวขึ้น“เปล่า...”“สร้อยข้อมืออะไรสวยจัง ไปซื้อมาจากที่ไหนเหรอ” น้ำลองจับๆดู ไม่เคยเห็นเพื่อนใส่มาก่อน ดูสวยเก๋แปลกตาดี“มีคนให้มา”“พี่อิทกลับมาแล้วเหรอ” น้ำถามอย่างรู้ทัน“รู้ได้ยังไงว่าเป็นเขา”“กูเดา พูดแบบนี้แสดงว่าใช่จริงๆด้วย” คนรอบๆตัวของมัทนามีอยู่แค่ไม่กี่คนหรอก ไม่ว่าเป็นใครก็เดาถูกทั้งนั้นนั่นแหละ“พวกมึง...เย็นนี้ไปสังสรรค์กันหน่อยดีมั้ย ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว กูอยากผ่อนคลาย” อยู่ๆฟ้าก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ช่วงนี้เรียนหนักรู้สึกเบื่อจังเลย“ไปมั้ยไอ้แว่น” น้ำ“แล้วแต่ ไปก็ไป” มาย“ไอ้แว่นไปกูไป” มดสรุปทั้งสี่คนคืนนี
ตอนที่ 9 เข้าห้องผิด Nc+“พี่อิท จะทำอะไรมายคะ” เขาพาเธอนอนลงบนเตียงแล้วขึ้นมาอยู่ด้านบนตัวเธอ มองใบหน้าสวยด้วยสายตาอ่อนโยน แต่ยังไม่ได้ทาบทับลงไปโดนตัวของเธอ ห้องสว่างไปด้วยแสงไฟ ทำให้มัทนาเห็นใบหน้าของพี่อิทได้ชัดเจน เนื่องจากใบหน้าของเขาอยู่ตรงหน้าของเธอ ปลายจมูกโด่งของทั้งสองชนกันพอดิบพอดี“พี่อิทอย่านะ” สายตาของหญิงสาวใต้ล่าง บ่งบอกว่าเธอกลัวเขาอย่างชัดเจน อิทธิพลจึงทิ้งตัวนอนลงข้างเธอเพื่อปลอบประโลมเธอก่อน“ไม่ต้องกลัวพี่” น้ำเสียงแผ่วเบากับสายตาอ่อนโยนของเขาสบตากับเธอ พร้อมกับนิ้วมือเขี่ยหยอกเย้าอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไปด้วย“...........” สายตาของเธอยังคงสั่นระริกเมื่อคิดว่าตัวเองไม่น่าจะรอด มัทนาไม่ใช่คนโลกสวย เธอรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอใจสั่นระรัวขึ้นมาอีกแล้ว“ปล่อยตัวตามสบาย ทำใจดีๆ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มายคิด เชื่อพี่นะ” เขาพยายามปลอบประโลมให้เธอใจเย็นลง และให้เธอยอมตกเป็นของเขาแต่โดยดี“...........” นิ้วมือที่กำลังเขี่ยอยู่ที่ริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ทำให้เธอเผลอเผยอปากให้เขาเล็กน้อย อิทธิพลเห็นว่าเธอเริ่มนิ่งเขาจึงค่อยๆโน้มริมฝีปากลงไปจูบที่ริมฝี
ตอนที่ 10 เข้าห้องผิด Nc+สายตาขี้เล่นของเขามองใบหน้าของเธอด้วยรอยยิ้ม เขาหยอกเย้ายอดดอกบัวของเธอด้วยลิ้นอุ่นๆของเขาอีกนิด พรมจูบเต้าสวยด้วยริมฝีปากอุ่นจนเกิดเสียงอีกหน่อยอิทธิพลขยับตัวขึ้น แขนข้างหนึ่งของเขากลายเป็นหมอนให้เธอหนุน ใบหน้าแนบชิดสบตากับเธอ ฝ่ามือใหญ่ข้างที่ยังว่างเคล้นคลึงเต้าสวยไม่ให้เหงา ริมฝีปากอุ่นจูบลงไปที่ริมฝีปากบางของเธอ เขาขบเม้มเบาๆพอให้เธอได้ผ่อนคลายสายตาของเขายังคงจับจ้องมองใบหน้าของเธออยู่อย่างนั้น นิ้วหัวแม่มือวนเวียนหยอกเย้าอยู่ที่ยอดดอกบัวสีหวานอยู่สักครู่ พอเธอเผลอไผลเขาจึงรีบเลื่อนฝ่ามือลงต่ำทันทีมัทนารีบรั้งฝ่ามือข้างนั้นของเขาเอาไว้ ริมฝีปากอุ่นรีบกดจูบลงบนริมฝีปากบางทันที เพื่อเป็นการหลอกล่อให้เธอยอม“อื้อๆ” มัทนาทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา“มายต้องเชื่อใจพี่ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มายคิด” เขาจับมือของเธอข้างที่รั้งแขนของเขาเอาไว้ออก“อื้อๆ...” กระโปรงยีนสั้นถูกเขาถลกขึ้นมากองอยู่เหนือสะโพก แล้วรีบสอดมือเข้าไปในแพนตี้สีหวานของเธอทันที“อื้อๆ ไม่เอาค่ะ อย่านะพี่อิท” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามรั้งข้อมือของเขาเอาไว้ ไม่ให้สอดต่ำลงไป
ตอนที่ 11 ยอมรับ Nc+“พร้อมหรือยัง พี่ไม่ไหวแล้วนะ” เขากระซิบถามเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออึกใหญ่ มัทนาพยักหน้างึกงักใบหน้าเหยเก นั่นจึงทำให้อิทธิพลเริ่มขยับสะโพก...เขาค่อยๆขยับช้าๆ เนื่องจากความคับแน่นของเธอทำให้เขาปวดหนึบและทรมานอยู่ไม่น้อย ความเป็นหญิงของเธอกอดรัดความเป็นชายของเขาเอาไว้แน่น ภายในร่องรักตอดรัดความเป็นชายของเขาถี่ยิบ จนร่างกายของเขาร้อนฉ่า เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านในขณะที่สะโพกสอบยังคงทำหน้าที่อย่างเชื่องช้า ริมฝีปากหยักบรรจงจูบอยู่ที่ริมฝีปากบางอยู่อย่างนั้น เขาขบเม้มเบาๆพอให้เธอหายเหงา“ดีขึ้นมั้ย...” เขาจะไม่ถามว่าหายเจ็บหรือยัง เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายยังรู้สึก แล้วเนื้ออ่อนๆของเธอจะไปเหลืออะไรแต่ความอ่อนโยนของเขาก็สามารถทำให้มัทนาเคลิบเคลิ้มได้ เธอยังคงเจ็บอยู่มาก อาจจะเป็นเพราะขนาดของเขาที่ไม่ธรรมดา ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอด้วย แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่าเริ่มมีความรู้สึกอื่นแทรกเข้ามา มันทำให้เธอมีความสุขและลืมความเจ็บลงไปได้ชั่วขณะอิทธิพลเห็นว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วม ดูได้จากเสียงหวานๆของเธอที่ครางออกมาไม
ตอนที่ 12 ยังเด็กอยู่ ช่วงเช้าของวันใหม่ มัทนาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอุ่นๆของอิทธิพล เธอขยับตัวแค่เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้คนที่เธอนอนหนุนแขนของเขาอยู่รู้สึกตัว มัทนาลุกขึ้นมานั่ง“โอ๊ะ!” เขาร้องออกเสียงดัง ทำเอาเธอตกใจ“เป็นอะไรคะ!” ไม่ได้เป็นห่วงแต่ที่ถามเป็นเพราะสงสัย“แขนพี่...นวดให้หน่อย” เขามองไปที่แขนข้างที่เธอหนุนอยู่เมื่อสักครู่ สงสัยจะชาเนื่องจากเธอนอนทับทั้งคืน“สมน้ำหน้า” พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ยอมนวดให้ ทำเอาคนขี้แกล้งนอนอมยิ้มท่าทางมีความสุข“หายหรือยังคะ” ที่จริงเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่เมื่อยนิดหน่อย แต่ที่ร้องเสียงดังเพราะอยากรู้ว่าเธอจะหันมาสนใจเขาบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้นเขาชักแขนข้างนั้นตั้งฉากกับที่นอนยันศีรษะของตัวเองเอาไว้ นอนตะแคงหันหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้ม“หายโกรธพี่หรือยัง”“............” มัทนาไม่ตอบ แต่สีหน้าของเธอดูเจื่อนไป“เคยคิดจะทำเลสิกตามั้ย” เขาเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดี จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ในใจไม่อยากให้เธอใส่แว่นแล้ว“เคยค่ะ แต่อยากทำงานหาเงินเองให้ได้ก่อน” เธอใส่แว่นมาตั้งแต่อายุสิบกว่าๆ ใส่มานานมากจนไม่ได้รู้สึกว่ามันลำบากอะไร ส่วนค่าเลสิกมันค่อนข้างแพ
ตอนที่ 13 ชวนมาอยู่ด้วยกันอิทธิพลให้มัทนาเข้าไปอาบน้ำก่อน ตอนแรกเขาจะขออาบด้วยแต่เธอไม่ยอม เขาก็เลยตามใจ โดยขอเป็นคนไปเลือกเสื้อผ้าที่ห้องข้างๆมาให้เธอเอง แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะหยิบตัวไหนมาให้ใส่ เขาจึงหอบมาเกือบหมด เพื่อเอามาให้เธอเลือก อีกใจก็อยากทยอยข้าวของของเธอมาไว้ที่ห้องของเขาให้หมด!“พี่อิท...ขนเสื้อผ้ามายมาทำไมเยอะแยะคะ” มัทนาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว สายตาของเธอเพ่งมองไปที่เสื้อผ้า ตอนนี้มันวางอยู่บนเตียงกองใหญ่“พี่เลือกไม่ถูก ก็เลยกวาดมาเกือบหมด เอามาให้มายเลือกไง” เขาอ้าง! และดูเหมือนว่ามัทนาจะไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไร“เลือกไม่ถูกเดี๋ยวมายไปเลือกเองก็ได้ ขนมาอย่างนี้เดี๋ยวก็ต้องขนกลับอีก” เธอแค่เกรงใจ“แล้วใครบอกว่าพี่จะให้ขนกลับ”“..........” สายตาระยิบระยับของเขาทำให้มัทนาก้มหน้าลงด้วยความเขิน เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!“ถึงคิวพี่เข้าไปอาบน้ำแล้ว” แต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำไป เขาหยิบเสื้อผ้าทั้งหมดของเธอเก็บเข้าตู้ก่อน จากนั้นจึงเดินเข้าห้องน้ำไป ด้วยใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อย มัทนามัวแต่ก้มหน้าทำตัวไม่ถูก เธอจึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ของเขาเมื่อเวลาผ
ตอนที่ 14 ไม่มีอะไรจะให้ Nc+หลังจากวันที่มัทนาไปทำเลสิกตามา สายตาของเธอก็ไม่ต้องสวมใส่แว่นอีกต่อไป วันแรกที่เธอไปเรียน เพื่อนๆของเธอต่างสงสัยกันใหญ่ มัทนาจึงเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนๆของเธอทั้งสามคนฟังมัทนายอมรับว่าตอนนี้เธอกับพี่อิทอยู่ในช่วงคบหาดูใจกัน ทุกคนที่ได้ฟังรู้สึกยินดีกับเพื่อนด้วย แต่ทุกคนก็ยังคงยืนยันว่ายังไงก็จะเรียกเธอว่าไอ้แว่นเหมือนเดิม...สองวันต่อมา…ภายในห้องกว้างมัทนานั่งอ่านหนังสือเรียน ส่วนอิทธิพลเขานั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานข้างๆเตียง ที่มัทนานั่งอ่านหนังสืออยู่สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่จอโน๊ตบุ๊คตรงหน้า ตอนนี้บนเตียงนอนภายในห้องนี้ มีหมอนหนุนสองใบแล้ว ไม่ได้ไปซื้อมาใหม่แต่อย่างใด แต่ไปเอาใบที่อยู่ในห้องข้างๆมา“พี่อิทคะ วันพรุ่งนี้มายไม่มีเรียน...” เธอเห็นว่าเขากำลังนั่งทำงานท่าทางเคร่งเครียด กว่าจะกล้าพูดออกมาได้ใช้เวลาอยู่พักใหญ่“ครับ” สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่กับงานตรงหน้า แต่ก็เอ่ยรับปากเป็นการรับทราบ“คือมาย...ว่าจะขอกลับบ้านไปหาแม่ค่ะ อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้กลับ แม่โทรมาเมื่อวานบอกว่า ทำกับข้าวไว้รอ แต่มายไม่ได้ไป” มัทนาเป็นลูกสาวคนเล็ก เธอมีพี่ชา
ตอนที่ 15 ไปส่งเมียกลับบ้านเช้าวันรุ่งขึ้น รถเก๋งสีดำเงาวับคันใหญ่ แล่นเข้ามาจอดสนิทที่หน้าบ้านของมัทนา บ้านของเธออยู่ในหมู่บ้าน เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นขนาดกำลังดี ตามแบบฉบับบ้านในกรุงเทพฯทั่วๆไป มักเน้นเนื้อที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นส่วนใหญ่“วันนี้มายกลับบ้านแล้ว เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ต้องกลับได้มั้ย” มือเรียวสวยของเธอถูกเขาจับเอาไว้ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูรถลงไป“ทำไมคะ” เธอหันมาถาม...“พักนี้พี่ทำงานเหนื่อยมากเลย อยากไปพักผ่อนสักหน่อย มายไปกับพี่นะ” อิทธิพลอยากหาเวลาพาเธอไปเที่ยวพักผ่อนตามประสาคู่รัก เขาเห็นว่าเธอยังเด็กอยู่คิดว่าเธอน่าจะชอบเที่ยว“ไปไหนค่ะ” แววตาของเธอดูเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้พูดถึงเรื่องเที่ยว อิทธิพลแอบอมยิ้มในใจเมื่อรู้สึกว่าเขาเดาใจเธอออกทุกทางเลย“พี่อยากไปทะเล มายอยากไปมั้ย” เธอพยักหน้าอมยิ้มบางๆส่งมาให้“ถ้างั้น เสาร์อาทิตย์นี้เราไปทะเลกัน” อิทธิพลก็แค่อยากหาเรื่องให้เธออยู่ด้วย ไหนๆวันนี้เธอก็กลับมาหาแม่แล้ว อีกสองวันถึงวันหยุด เขาอยากให้เธออยู่กับเขา“ชวนเพื่อนไปด้วยได้มั้ยคะ” เมื่อเธอนึกสนุกตามประสาเด็กๆ“ไม่ได้!” น้ำเสียงของเขาค่อนข้างเข้มฟังดูจริงจัง