แชร์

ตอนที่ 18 พบเจอหน้ากันครั้งแรก

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-15 02:39:46

ลู่ชิงเห็นพ่อบ้านชิมอาหารด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงหันไปหาพี่ชายอย่างลู่เสียนเพื่อขอให้พี่ชายมาช่วยห่อข้าว นางจะคุยเรื่องราคาอาหาร และต้องการให้ทางพ่อบ้านส่งคนมารับอาหารที่นี่แทน หากจะให้นำอาหารไปส่งที่เมืองหย่งจินคงจะขาดคนทำงานเป็นแน่

“ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ อาหารที่ท่านสั่งข้าคิดราคาแตกต่างกันสักหน่อย อย่างข้าวผัดหมูและผัดกะเพรา ข้าจะทำใส่หม้อใบใหญ่อย่างที่ท่านเห็น ราคาจะอยู่ที่หม้อละห้าสิบตำลึงเงิน ส่วนหมูทอดไก่ทอดจะใช้วัตถุดิบอย่างละยี่สิบจิน รวมสามอย่างก็หกสิบจินคิดราคาสิบห้าตำลึงเงิน รวมทั้งหมดคือหนึ่งร้อยสี่สิบห้าตำลึงเงิน ท่านพ่อบ้านคิดว่าราคานี้เป็นอย่างไรเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ได้เอากำไรมากมาย เพราะราคาที่บอกไปมันเป็นกำไรล้วน ๆ ต่างหาก

“อืม ราคาที่เจ้าพูดมาก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป แค่เนื้อก็ราคาสูงกว่าอย่างอื่นอยู่แล้ว ข้าตกลงสั่งอาหารกับเจ้าในราคาที่เจ้าเสนอมา” พ่อบ้านคำนวณแล้วถือว่าราคาถูกกว่า ไปสั่งอาหารที่เหลาอาหารในเมืองเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของรสชาติอาหาร ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นเช้าวันงานรบกวนท่านพ่อบ้าน ให้คนมารับอาหารที่แผงขายของนี้ ทางเราจะมีของแถมเป็นน้ำสมุนไพรบำรุงร่างกายให้ด้วยอีกห้าไหเจ้าค่ะ” มีของแถมให้นิดหน่อยจะได้เป็นลูกค้าต่อไปนาน ๆ

“ได้ ๆ ข้าจะจัดการเตรียมคนมารับอาหารด้วยตนเอง เจ้าเขียนสัญญาและรับเงินมัดจำไปก่อนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งข้าจะฝากมาพร้อมคนที่มารับอาหารอีกครั้ง” เพื่อป้องกันความผิดพลาดย่อมต้องมีหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานเอาไว้

“ได้เจ้าค่ะ ต้องขอบคุณท่านพ่อบ้านอีกครั้ง ที่ไว้ใจให้ร้านของข้าได้ทำอาหารต้อนรับแขกในงานเลี้ยง พิธีปักปิ่นของบุตรสาวท่านเจ้าเมืองในครั้งนี้นะเจ้าคะ”

“ไม่ต้องขอบคุณ อาหารของเจ้าอร่อยใครได้ชิมก็ต้องติดใจทั้งนั้น เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อนละนะ ไว้มีโอกาสข้าจะมาชิมอาหารฝีมือเจ้าอีกก็แล้วกัน” เขาต้องรีบเอาอาหารอร่อยเหล่านี้ไปให้นายท่านได้ลิ้มลองโดยเร็ว

“ทานให้อร่อยนะเจ้าคะ เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ” ลู่ชิงยืนโค้งขอบคุณตามหลังพ่อบ้านไปอีกที

เป็นอีกวันที่ครอบครัวของลู่ชิงมีความสุข ยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว อาหารใหม่ก็ขายดีแล้วยังได้รับการสั่งอาหาร จากจวนเจ้าเมืองหย่งจินอีก สรุปวันนี้ขายอาหารได้เงินมากที่สุดตั้งแต่เปิดร้านมาเชียวนะ

และในคืนวันเดียวกันเมื่อถึงยามจื่อ เซียวหนิงหลงกับผู้ติดตาม ก็เตรียมตัวออกไปสืบเรื่องพ่อค้าเร่ตัวปลอมเหล่านั้น ที่แอบเช่าบ้านอยู่ทางทิศตะวันตกของตำบลหย่งฝู

ทั้งสามคนใช้วิชาตัวเบา กระโดดขึ้นไปแอบฟังอยู่ด้านบนหลังคาบ้าน เพื่อฟังแผนการของสายลับแคว้นตงหนาน

“วันนี้พวกเจ้าแยกกันออกไปสำรวจพื้นที่ ของตำบลหย่งฝูแล้วเป็นอย่างไร มีเส้นทางไหนที่จะสามารถ พาคนของแคว้นเราเข้ามาโดยที่พวกแคว้นฉู่ไม่รู้ได้บ้าง” เหยียนซุ่นหัวหน้าสายลับกลุ่มนี้ ถามลูกน้องใต้บังคับบัญชาของตน

“เรียนหัวหน้า พวกเราไปสำรวจกันมาครบทุกทางแล้วขอรับ มีอยู่ที่หนึ่งเงียบสงบไม่ค่อยมีคนขึ้นไปบนเขาลึก ที่นั่นคือภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านอันผิงขอรับ ชาวบ้านที่นั่นจะเข้าไปถึงแค่ป่าชั้นกลางเท่านั้น

หากเราจะพาทหารเข้ามาทางนี้แล้วละก็ แค่ท่านหัวหน้าส่งจดหมายไปถึงเสนาบดีกรมโยธา เพียงเท่านี้พวกเราก็สามารถเข้ามาในแคว้นฉู่ โดยที่ทางการของที่นี่ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอนขอรับ” จวนอวิ๋นรายงานการสำรวจพื้นที่ของตำบลหย่งฝู เพื่อพาทหารเข้ามายึดเอาเมืองชายแดนแห่งนี้ของแคว้นฉู่

“เป็นอย่างที่จวนอวิ๋นพูดมาขอรับหัวหน้า เส้นทางนี้เหมาะสมเป็นอย่างมาก ที่จะใช้เป็นทางเดินทัพของแคว้นเรา เพราะหมู่บ้านอันผิงมีชาวบ้านอยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยหลังคาเรือนด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นเรื่องง่ายแค่พวกเราสังหารชาวบ้านพวกนั้นให้หมดก็สิ้นเรื่อง คราวนี้ทหารของแคว้นตงหนานจะได้เข้ามายึดเมืองชายแดนแห่งนี้แล้วค่อยบุกไปยึดเมืองต่อ ๆ ไปขอรับ”

เหลียนเฉิงพูดสำทับ กับการรายงานของจวนอวิ๋นอีกที จากที่เขาสังเกตคนในหมู่บ้านอันผิงไม่มีใครที่มีวรยุทธ์ หากชาวบ้านคิดสู้สุดท้ายก็ถูกทหารฝ่ายของพวกตนสังหารอย่างง่ายดายอยู่ดี

“ดีมาก คราวนี้แคว้นตงหนานจะมีอาณาเขตขยายเพิ่มขึ้นอีก พวกเจ้ารีบส่งจดหมายแจ้งไปยังท่านแม่ทัพ หากพวกเขาพร้อมก็ออกเดินทางได้เลย เมื่อท่านแม่ทัพตอบจดหมายกลับมา พวกเราจะไปรอรับที่ด้านหลังภูเขาหลังหมู่บ้านอันผิงทันที ช่วงนี้พวกเจ้าก็พักผ่อนกันตามสบายได้” เหยียนซุ่นสั่งการลูกน้องทั้งสองเสร็จ ก็เอ่ยอนุญาตให้พวกเขาพักผ่อนได้ ช่วงที่รอกองทัพของแคว้นตงหนาน

สามคนด้านบนหลังคาได้ฟังแผนการทุกอย่างแล้ว ก็แยกกันไปจัดการทันที เซียวหนิงหลงให้ชุนชานไปจัดการคนที่ออกไปส่งจดหมาย ส่วนตัวเขาและตันเจียงจะลงไปจัดการ จับตัวสองคนที่เหลือในบ้านเอง

“ซื่อจื่อขอรับชื่อหมู่บ้านที่พวกมันพูดถึง ดูเหมือนว่าจะเป็นหมู่บ้านที่คุณหนูลู่ชิงอาศัยอยู่นะขอรับ” ตันเจียงเอ่ยกับนายน้อย ที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับพร้อมฆ่าคนได้ตลอดเวลา

“พวกมันไม่มีทางทำสำเร็จและนางจะปลอดภัย พวกเราลงไปจัดการจับตัวพวกมัน เพื่อพาตัวกลับไปให้เสด็จพ่อสอบสวน” ทันทีที่เซียวหนิงหลงพูดจบก็กระโดดลงไปพร้อมกับตันเจียง ยืนประจันหน้ากับสายลับแคว้นตงหนานอย่างรวดเร็ว

“พวกเจ้าเป็นใคร! บุกเข้ามาเช่นนี้ต้องการสิ่งใดกัน” เหยียนซุ่นยังแสร้งวางท่าเป็นพ่อค้าเร่ ที่ไม่รู้ว่าสองคนที่เผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ ต้องการมาปล้นหรือต้องการอย่างอื่นจากพวกตนกันแน่

“อย่าเสแสร้งอีกเลย ข้ารู้หมดแล้วว่าพวกเจ้าเป็นสายลับของแคว้นตงหนาน เข้ามาเพื่อหาเส้นทางนำทหาร มาบุกยึดเมืองชายแดนแห่งนี้” ตันเจียงชี้ดาบไปที่เหยียนซุ่น

“ฮ่า ๆ ๆ พวกเจ้ารู้แล้วจะทำอันใดได้เล่า อีกไม่นานกองทัพอันยิ่งใหญ่จากแคว้นตงหนานของพวกข้า ก็จะมายึดที่นี่แล้วคนของข้าออกไปส่งจดหมายถึงท่านแม่ทัพ ก่อนที่พวกเจ้าจะเข้ามา มันสายไปแล้วเจ้าพวกโง่ ฮ่า ๆ ๆ” เหยียนซุ่นและจวนอวิ๋นต่างพาหัวเราะ เพราะคิดว่าเซียวหนิงหลงมาช้าไปเสียแล้ว

“เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่า คนของเจ้าจะส่งจดหมายนั่นได้สำเร็จ คิดว่าข้ามากันเพียงแค่สองคนเช่นนั้นรึ เป็นข้าหรือเจ้ากันแน่ที่โง่ ลองทบทวนให้ดี ๆ เสียหน่อยจะเป็นไร” เซียวหนิงหลงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ชวนให้คนได้ยินขนลุกแปลก ๆ

“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร!! อย่าคิดทำอันใดกับคนของข้าเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ” เหยียนซุ่นไม่คิดว่าเขาจะถูกพวกแคว้นฉู่ตลบหลังได้ ทั้งที่ลูกน้องของเขาทั้งสามคน ก็ปลอมตัวได้แนบเนียนแล้วแท้ ๆ

“ก็หมายความว่าตอนนี้ คนที่เจ้าให้ออกไปส่งจดหมาย ถูกคนของเราตามไปจับตัวเอาไว้แล้วน่ะสิ ฉลาดขึ้นมาบ้างหรือยังเล่า” ตันเจียงพูดอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า

“ตันเจียงอย่าได้พูดให้เสียเวลา รีบจับตัวพวกมันยังมีงานรออยู่อีกมากอย่าได้ชักช้า” เซียวหนิงหลงพูดจบก็พุ่งเข้าไปหาเหยียนซุ่นทันที

การต่อสู้ในครั้งนี้พวกเขาต่างชิงไหวชิงพริบ ผู้ใดเกิดเพลี่ยงพล้ำก่อนผู้นั้นย่อมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และนั่นต้องไม่ใช่เซียวหนิงหลงผู้มีวรยุทธ์เป็นเลิศ เหยียนซุ่นไม่สามารถเข้าใกล้เซียวหนิงหลงได้เลย กลับกลายเป็นเขาที่ได้รับบาดแผลทุกครั้ง สู้ไปได้อีกไม่กี่กระบวนท่า ปลายดาบของเซียวหนิงหลงก็พาดอยู่บนคอของเหยียนซุ่น ด้านตันเจียงนั้นเขาจับลูกน้องของอีกฝ่ายได้ ตั้งแต่ยี่สิบกระบวนท่าแล้วยังไม่ทันเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ

เซียวหนิงหลงกับตันเจียงเอาตัวสายลับทั้งสองคน กลับไปสมทบกับชุนชานที่คาดว่าจะไปรออยู่ที่บ้านเช่าแล้ว “พรุ่งนี้เช้าข้ากับตันเจียงจะออกไปหารถม้าที่ตลาด จะได้รีบพาพวกมันกลับเมืองหลวง ชุนชานเจ้าเฝ้าเอาไว้ให้ดี ค้นเอาอาวุธหรือของมีคมออกมาให้หมด อย่าให้พวกมันหนีไปได้เด็ดขาด ให้พวกมันดื่มน้ำชั่วยามละหนึ่งถ้วยชาก็พอ” เซียวหนิงหลงแค่อ้างเรื่องอาสาออกไปหารถม้าด้วยตัวเอง

แต่ที่จริงเขาอยากไปเจอแม่ค้าตัวน้อยสักครั้ง ก่อนจะเดินทางกลับเมืองหลวงเท่านั้นเอง โดยที่ในหัวของเซียวหนิงหลงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เมื่อได้เจอหน้าลู่ชิงแล้วเขาต้องพูดทักทายกับนางเช่นไร

“ขอรับซื่อจื่อ” ชุนชานรับคำแต่เขายังไม่เข้าใจ ที่ซื่อจื่ออาสาไปหารถม้า พอหันไปหาสหายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ก็ได้รับการส่ายหน้าเป็นคำตอบ

วันนี้เป็นวันแรกที่นายช่างหาน พาคนงานเข้ามาปรับปรุงร้าน หลังจากที่ขายของหมดแล้ว ลู่ชิงจึงขออนุญาตบิดาเดินไปดูเสียหน่อย เพราะไม่ได้อยู่ไกลมากนัก แม้จะยังมีผู้คนเดินอยู่มากมาย แต่ใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป

“คุณชายท่านนี้ช่วยหลีกทางด้วยเจ้าค่ะ ข้ามีธุระต้องรีบไปทำ”

ลู่ชิงเดินมายังไม่ถึงหนึ่งจิบชา ก็มีคนมายืนขวางหน้านางเสียอย่างนั้น ดูท่าทางจะเป็นคุณชายเสเพลเอาแต่ใจด้วยสิ

“น้องสาวจะรีบไปที่ใดเล่า ให้พี่ชายไปเป็นเพื่อนดีหรือไม่ หรือว่าจะไปเล่นสนุกด้วยกันก่อนดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ชิวไท่เป็นบุตรชายของพ่อค้าร้านขายธัญพืชในตำบลหย่งฝู มีนิสัยเกเรมักจะให้บ่าวไพร่จับตัวบุตรสาวชาวบ้าน ไปบำเรอตนเองและใช้เงินปิดปาก แถมข่มขู่จะฆ่าทิ้งหากไปแจ้งทางการ

“ข้าไม่มีเวลาว่างไปทำเรื่องไร้สาระพวกนั้น กรุณาหลีกทางข้าขอเตือนท่านด้วยความหวังดี” คิดว่านางจะกลัวหรือไรก็แค่พวกอันธพาล ในมือของนางตอนนี้ มีมีดด้ามเล็กปลายแหลมรอเสียบคนอยู่ แต่ลู่ชิงคงไม่ต้องลงมือเองแล้วล่ะ เพราะเสียงทุ้มมีเสน่ห์ดังมาจากด้านหลังของนางแล้ว

“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะพานางไปทำอันใดนะ? ข้าฟังไม่ค่อยชัดเจ้าลองพูดให้ฟังอีกครั้งสิ” เซียวหนิงหลงไปหาลู่ชิงที่ร้านแต่ไม่เจอ จึงเดินตามหาและเห็นว่านาง กำลังถูกบุรุษขวางทางเอาไว้ จึงรีบเข้าไปยืนบังลู่ชิงอย่างรวดเร็ว

“เจ้ายุ่งอะไรด้วยจะไปไหนก็ไป! หมูจะหามอย่าเอาคานเข้ามาสอด”

“อ้อ แล้วถ้าข้าอยากจะเอาคานเข้าไปสอดเรื่องของเจ้าเล่า เจ้าจะทำอะไรข้าเช่นนั้นงั้นรึ” เซียวหนิงหลงเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเล็กน้อย

ตันเจียงรู้ว่าซื่อจื่อเริ่มจะอารมณ์ไม่ดีแล้ว จึงเอ่ยเตือนชิวไท่ไปอีกครั้ง “นี่น้องชาย ข้าขอเตือนเจ้าด้วยความหวังดี รีบกลับบ้านไปเสียเถิดนะ ก่อนที่เจ้าจะไม่ได้กลับไปแบบมีลมหายใจ”

“ชิงเอ๋อร์มายืนอยู่ด้านหลังของพี่เดี๋ยวนี้!” เซียวหนิงหลงไม่อยากให้ลู่ชิงเห็นภาพที่ไม่น่ามองสักเท่าไหร่ จึงเรียกให้มายืนอยู่ด้านหลังตนเอง

“ห๊ะ!! ท่านเรียกข้าหรือเจ้าคะ อ่ะ อ่ะ อ้อ ไปก็ได้เจ้าค่ะ” ลู่ชิงยังไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปแต่โดยดี เพราะรู้สึกว่าน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นเหมือนเตือนว่าอย่าดื้อเด็ดขาด

“พวกเจ้าคิดจะขวางทางข้างั้นรึ อยากจะลองดีเช่นนั้นข้าจะตามใจเจ้าก็แล้วกัน” ชิวไท่ยังไม่ทันสั่งการลูกน้องก็มีเสียงร้องออกมาทันที

“ฉัวะ!!! อ๊ากกกกก เจ้า ๆ ๆ ทำอะไรลงไป อ๊ากกก เจ็บข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว”

“ข้าทำอะไรงั้นหรือ ก็แค่ช่วยเจ้าไม่ให้ขยายเผ่าพันธุ์ ที่มีนิสัยต่ำช้าออกมาอีกอย่างไรเล่า พวกเจ้าพาเขากลับไปได้แล้ว คิดให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกมา หากข้ารู้รับรองว่าพวกเจ้าจะไม่มีโอกาสได้พูดอีกต่อไป” ทำตัวเช่นนี้กับสตรีเจ้าก็กลายเป็นขันทีไปตลอดชีวิตเสียเถอะ

“ขะ ขะ ขอรับ ๆ ๆ พวกเราไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยขอรับ” พวกบ่าวรีบพาเจ้านายกลับจวนและตามหมอมารักษาแทบไม่ทัน

“ขอบคุณพี่ชายที่ช่วยเหลือเจ้าค่ะ เอ๊ะ พี่ชายท่านนี้ดูหน้าคุ้น ๆ เหมือนจะเคยเจอกันมาก่อนนะเจ้าคะ” ลู่ชิงเอ่ยขอบคุณทั้งสองคนแต่เอะใจเพราะคุ้นหน้าตันเจียงเสียก่อน

“เมื่อวานข้าเพิ่งไปเหมาอาหารที่ร้านของคุณหนูอย่างไรเล่าขอรับ”

“อ้อ ข้าจำได้แล้วเจ้าค่ะ แล้วพี่ชายสุดหล่อท่านนี้เล่าเจ้าคะคือใครงั้นหรือ” เขาอุตส่าห์ช่วยก็เอ่ยชมเสียหน่อย แต่เขาหล่อมากจริง ๆ นะเหมือนพระเอกที่เล่นซีรี่ย์จีนโบราณเลย

“นี่ก็คือคุณชายของข้าเองขอรับมีชื่อว่าคุณชายเซียว” ตันเจียงรีบแนะนำชื่อของซื่อจื่อให้นางได้รู้ทันที

“ข้าชื่อลู่ชิงเจ้าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักและขอบคุณพี่ชายเซียวอีกครั้ง ที่ช่วยเหลือให้รอดพ้นจากอันธพาลเมื่อครู่นี้เจ้าค่ะ” ผู้มีพระคุณหน้าตาหล่อเหลาเสียด้วยสิ ว้าวุ่นแล้วมั้ยล่ะลู่ชิงเอ๋ย ชาติที่แล้วยังไม่ทันมีคนรักก็มาด่วนตายเสียก่อน ชาตินี้มาเกิดใหม่หากมีบุญวาสนา ก็ขอมีคนรักหน้าตาหล่อเหลา รักเดียวใจเดียวเป็นของตนเองสักคนเถิดนะเจ้าคะท่านเทพ

เซียวหนิงหลงที่ได้ยินเสียงไพเราะของลู่ชิงใกล้ ๆ เขาถึงกับเกิดอาการหัวใจเต้นแรงขึ้นมาฉับพลัน จนเกรงว่าคนที่ฝึกวรยุทธ์คงจะได้ยินหากอยู่บริเวณนี้ เขาเผลอมองหน้าของลู่ชิง จนเกิดความเงียบขึ้นเสียอย่างนั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 1 เกิดใหม่อีกครั้ง

    บนที่นอนเก่า ๆ มีร่างของเด็กสาวอายุสิบสองหนาวที่นอนป่วยติดต่อกันมาห้าวันแล้วกำลังขยับตัว ร่างผอมบางแทบจะปลิวหากถูกลมแรง ๆ พัดมา จนลืมตาขึ้นมาได้ก็รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด เมื่อปรับสายตาได้จึงมองสำรวจรอบ ๆ ก็แปลกใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เข็มขาวจำได้ว่าเธอถูกรถชนอย่างแรง และตายไปแล้วแต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังใส่ชุดเหมือนคนจีนโบราณเมื่อนั่งทบทวนเรื่องราวอยู่จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างแรงและมีความทรงจำของร่างนี้ มันกำลังหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอจนต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่เกือบหนึ่งเค่อ อาการปวดหัวเหล่านั้นจึงเริ่มดีขึ้น เธอเรียบเรียงความทรงจำของร่างนี้ ก็พบว่าร่างที่เธอเข้ามาอยู่นั้นมีชื่อว่าสวีลู่ชิงอายุสิบสองหนาว ท่านพ่อของนางถูกท่านปู่แท้ ๆ ไล่ออกจากตระกูล เพราะมีคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายว่า ท่านพ่อทำบัญชีปลอมเพื่อโกงเงินร้านค้าผ้าเมื่อมีหลักฐานชี้ชัดก็ไม่อาจก้ตัวอะไรได้ ท่านพ่อจึงพาทุกคนเดินทางมาบ้านเดิมของท่านย่าที่หมู่บ้านอันผิง ยามออกจากจวนพวกเขาไม่อาจหยิบของมีค่าติดตัวมาได้ โชคดีที่ท่านแม่แอบนำตั๋วเงิน มาเย็บไว้ในเสื้อผ้าของลู่ชิงจึงพอมีเงินจ่ายค่าเดินทาง จากพ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 2 ได้มิติมาแบบไม่คาดฝัน

    ลู่ชิงนอนหลับสนิทอยู่สักพัก แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงใครบางคน ที่พยายามเรียกตนเองให้ตื่น ทั้งที่กำลังนอนหลับสบาย จากอาการป่วยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงมานาน เมื่อทนการรบเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ลืมตาตื่นมองไปรอบ ๆ ที่ยามนี้ไม่ใช่เตียงนอนเก่า ๆ อีกแล้ว แต่เป็นสถานที่หนึ่งกับชายชราผมขาว ที่ยืนถือไม้เท้าลักษณะแปลก ๆ มองมาที่ลู่ชิงอย่างเหนื่อยใจ“นางหนู ๆ ๆ ตื่นได้แล้วกระมัง จะนอนกินบ้านกินเมืองหรืออย่างไร โลกโน้นทำเจ้าอดหลับอดนอน พอข้ามมายังโลกนี้ก็ยังต้องมาเหนื่อยอีกงั้นรึ” ชายแก่ผมขาวในมือยังถือไม้เท้า พยายามปลุกร่างบางที่ยังนอนหลับอยู่“อืม ขอนอนต่ออีกสักหน่อยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นางไม่ได้อยู่บนเตียงนอนในบ้านของตนเอง“ถ้าเจ้ายังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียทีละก็ ข้าจะไม่ให้ของดีกับเจ้านะนางหนู” ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้ที่จะปลุกนาง“พรึ่บ!! หือ! ที่นี่คือที่ไหน ไม่ใช่ห้องนอนในบ้านนี่ แล้วเมื่อกี้เสียงใครปลุกข้าให้ตื่นกันล่ะ” ข้ารู้สึกแปลกใจที่มีคนมาปลุก และพูดว่าจะให้ของดีอีกพอหันไปด้านหลัง ก็เจอกับชายแก่ผมขาวที่ดูใจดีคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ“ท่านตาเป็นใครหรือเจ้าคะ แล้วที่นี่คือที่ไหน หรือว่าข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 3 สำรวจมิติ

    เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 4 พักผ่อนหารือเรื่องอาชีพ

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร เช้านี้ลู่ชิงอาสาเป็นคนปรุงอาหารเอง โดยนางจะทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนได้ทาน ขณะที่กำลังเตรียมของอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนางฟางซินตื่นมาก็เห็นบุตรสาว กำลังเตรียมวัตถุดิบทำมื้อเช้าอยู่ เมื่อนางได้พูดคุยกับสามี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชิงเอ๋อร์ คงเป็นลิขิตของสวรรค์นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จะให้ขับไล่นางออกไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์เองแต่เป็นท่านเทพที่พานางมา เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือแทนชิงเอ๋อร์ของนางต่างหาก ฟางซินจึงคิดว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไปต่อจากนี้ก็แล้วกัน“ทำไมถึงได้ตื่นมาแต่เช้าเช่นนี้เล่า นี่กำลังเตรียมทำมื้อเช้าอยู่หรือ มีอะไรให้ช่วยไหม”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกันมื้อเช้านี้จะลงมือปรุงเอง ท่านแม่คอยเป็นผู้ช่วยให้ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 5 ชิมอาหารก่อนทำขาย

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไปร้านเครื่องประดับ เพื่อเอากำไลข้อมือหยกที่ไม่ใช่หยกเนื้อดีมากนักหนึ่งวง สร้อยคอเงินพร้อมจี้หยกลายหยดน้ำหนึ่งเส้น และต่างหูไข่มุกหนึ่งคู่ออกมาขาย เถ้าแก่ร้านให้ราคาชิ้นละสามพันตำลึงเงิน ถึงจะไม่สวยมากแต่ขายได้ราคานี้ถือว่าสูงมากแล้วรวมแล้วตอนนี้มีเงินอยู่ทั้งหมด เก้าพันสิบสามตำลึงกับอีกสามร้อยเก้าสิบอีแปะ คงต้องแบ่งเงินไปซ่อมหลังคาบ้านสักหน่อย รอให้ทำการค้าไปสักระยะหนึ่ง ค่อยสร้างบ้านใหม่ที่แข็งแรงกว่านี้ หรือจะซื้อบ้านอยู่ในตำบลก็คงจะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางทุกคนจะได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสักหน่อยยามอู่วันนี้ลู่ชิงคิดว่าจะทำหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด ให้กับทุกคนได้ลองชิมดูก่อนที่จะทำไปขาย ซึ่งลู่ชิงได้นำเนื้อทั้งสามอย่างออกมาจากมิติ และเตรียมหมักก่อนนำไปทอด เริ่มจากทำการหมัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 6 ขายอาหารวันแรก

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้าพอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12

บทล่าสุด

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 18 พบเจอหน้ากันครั้งแรก

    ลู่ชิงเห็นพ่อบ้านชิมอาหารด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงหันไปหาพี่ชายอย่างลู่เสียนเพื่อขอให้พี่ชายมาช่วยห่อข้าว นางจะคุยเรื่องราคาอาหาร และต้องการให้ทางพ่อบ้านส่งคนมารับอาหารที่นี่แทน หากจะให้นำอาหารไปส่งที่เมืองหย่งจินคงจะขาดคนทำงานเป็นแน่“ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ อาหารที่ท่านสั่งข้าคิดราคาแตกต่างกันสักหน่อย อย่างข้าวผัดหมูและผัดกะเพรา ข้าจะทำใส่หม้อใบใหญ่อย่างที่ท่านเห็น ราคาจะอยู่ที่หม้อละห้าสิบตำลึงเงิน ส่วนหมูทอดไก่ทอดจะใช้วัตถุดิบอย่างละยี่สิบจิน รวมสามอย่างก็หกสิบจินคิดราคาสิบห้าตำลึงเงิน รวมทั้งหมดคือหนึ่งร้อยสี่สิบห้าตำลึงเงิน ท่านพ่อบ้านคิดว่าราคานี้เป็นอย่างไรเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ได้เอากำไรมากมาย เพราะราคาที่บอกไปมันเป็นกำไรล้วน ๆ ต่างหาก“อืม ราคาที่เจ้าพูดมาก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป แค่เนื้อก็ราคาสูงกว่าอย่างอื่นอยู่แล้ว ข้าตกลงสั่งอาหารกับเจ้าในราคาที่เจ้าเสนอมา” พ่อบ้านคำนวณแล้วถือว่าราคาถูกกว่า ไปสั่งอาหารที่เหลาอาหารในเมืองเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของรสชาติอาหาร ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นเช้าวันงานรบกวนท่านพ่อบ้าน ให้คนมารับอาหารที่แผงขายของนี้ ทางเราจะมีของแถมเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 17 คำสั่งซื้ออาหารไปจัดงานเลี้ยง

    เซียวหนิงหลงสั่งการเรื่องนี้กับตันเจียง เพื่อจะได้ให้เจียวมิ่งเตรียมตัวให้พร้อม ว่าจะต้องมาทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไรที่ตำบลหย่งฝูแห่งนี้“ขอรับ ข้าน้อยจะส่งจดหมายถึงเจียวมิ่ง ให้เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง” ตันเจียงแอบคิดในใจว่า เขาจะเขียนเรื่องคุณหนูลู่ชิงไปด้วยนิดหน่อย ให้เจียวมิ่งเอาไปเล่าให้ท่านอ๋องกับพระชายาฟัง คงจะตกใจจนคาดไม่ถึงเป็นแน่“พวกเจ้าเตรียมตัวไว้ให้พร้อมคืนนี้เข้ายามจื่อ พวกเราจะเริ่มลงมือเพื่อสะกดรอยตามคนพวกนั้น” เขาจะต้องติดตามและจับเป็นสายลับกลับเมืองหลวงให้ได้ หากชักช้าย่อมไม่เป็นผลดีกับชาวบ้านแถบชายแดน ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง ว่าจะเกิดสงครามขึ้นมายามใดนายช่างหานที่เดินสำรวจ และวัดพื้นที่ทั้งหมดของบ้านตระกูลสวี ก็แจ้งกับลู่เวินว่าต้องใช้เวลาในการสร้างบ้าน และสร้างกำแพงรอบบ้านนั้นประมาณสามเดือน เขาคิดราคารวมทั้งหมดแล้ว เป็นเงินห้าร้อยเจ็ดสิบตำลึงทองเพราะต้องใช้วัสดุอย่างดี และค่าจ้างคนงานที่ต้องจ้างมาเพิ่ม เมื่อตกลงและทำสัญญาเรียบร้อย นายช่างหานก็ได้ลิ้มลองอาหารรสชาติอร่อยที่เขาไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ถึงกับเอ่ยปากชมลู่ชิงไม่หยุด แม้กระทั่งตอนจะกลับยังบอกอีกว่า

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 16 ประวัติของนางที่เขาได้รู้

    ลู่เวินที่พานายช่างหานมาถึงบ้านก็ไม่รอช้า พวกเขาเดินไปดูพื้นที่รอบ ๆ บ้าน เพื่อทำการวัดขนาดความกว้างความยาวของที่ดินทั้งหมด ลู่ชิงยังบอกให้นายช่างหานทำกำแพงบ้านสูงหนึ่งจั้งเสียก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านโดยบ้านที่ลู่ชิงจะให้สร้างตามแบบ เป็นบ้านสองชั้นต้องใช้ก้อนอิฐในการสร้างเท่านั้น ชั้นบนมีสี่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นล่างหนึ่งห้องนอนมีห้องน้ำเช่นกัน และมันเป็นห้องของลู่ชิงเอง ส่วนห้องน้ำอีกห้องเอาไว้สำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านนายช่างหานก็รับปากจะทำอย่างเต็มที่ และที่สำคัญเขาอยากเห็นบ้านหลังนี้ หลังจากสร้างเสร็จตามแบบที่ได้รับมาเร็ว ๆ เสียเหลือเกินตอนนี้หมดหน้าที่ของลู่ชิงตรงนี้แล้ว นางจึงขอตัวไปเข้าครัวเพื่อเตรียมข้าวมื้อเที่ยงสำหรับทุกคนลู่ชิงเข้ามาในบ้านก็เอ่ยชวนมารดาเข้าครัวด้วยกันทันที “ท่านแม่เจ้าคะ พวกเราเข้าครัวเตรียมทำอาหารมื้อเที่ยง รอท่านพ่อกับนายช่างหานกันเถิดเจ้าค่ะ”“ชิงเอ๋อร์จะให้แม่ทำตรงส่วนไหนบ้าง บอกมาได้เลยลูกแม่จะจำวิธีการทำไว้ เผื่ออยากกินอีกจะได้ลงมือทำเอง” ฟางซินชอบดูวิธีการทำอาหารของบุตรสาวมาก“ได้สิเจ้าคะ เช่นนั้นรบกวนท่านแม่ล้างพวกผักต่าง ๆ ที่ต้องใส่ในอาห

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 15 ได้ช่างปรับปรุงร้านค้า

    ทางครอบครัวลู่ชิงช่วยกันแจกอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็เก็บของขึ้นเกวียนก่อนจะฝากไว้ กับคนที่รับฝากเกวียนใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะพวกเขาจะไปบ้านของนายช่างหาน เพื่อติดต่อให้ไปปรับปรุงร้านค้า รวมถึงสร้างบ้านใหม่ที่หมู่บ้านอันผิงด้วย“น้องชายท่านนี้ไม่ทราบว่า นายช่างหานอยู่หรือไม่ พอดีว่าข้าจะมาติดต่อให้เขาไปปรับปรุงร้านค้าและสร้างบ้านน่ะ” ลู่เวินถามกับคนงาน ที่กำลังเตรียมของอยู่ในลานบ้านของนายช่างหาน“หืม พวกท่านมาติดต่องานหรือขอรับ นายช่างหานอยู่ด้านใน พวกท่านเดินเข้าไปไม่ไกลก็เจอแล้วขอรับ” เขาตอบกลับไปด้วยถ้อยคำที่สุภาพ“ขอบใจมากนะน้องชาย”“ยินดีขอรับ” มีลูกค้ามาก็ต้องต้อนรับดี ๆ หน่อยลู่เวินพาทุกคนเดินเลยลานบ้านเข้ามา ก็ได้เจอนายช่างหานที่กำลังสั่งงานลูกน้องอยู่พอดี จึงเข้าไปทักทายอย่างสุภาพ“พี่ชายท่านนี้ไม่ทราบว่าใช่นายช่างหานหรือไม่ขอรับ ข้ามาติดต่อว่าจ้างไปปรับปรุงร้านค้ากับสร้างบ้านขอรับ” ลู่เวินเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ“อ้อ ข้านายช่างหานเอง เมื่อกี้เจ้าบอกว่าจะมาจ้างงานข้าเช่นนั้นหรือ” นายช่างหานหันมาตอบลู่เวินอย่างเป็นธรรมชาติ“ใช่ขอรับ พวกเราได้ยินหลายคนพูดกันว่า ท่านมีฝีมือในการสร้างบ้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 14 ฉากเปิดตัวพระเอกหรือเปล่านะ?

    เมื่อการประชุมเรื่องอาชีพเสริมของชาวบ้านอันผิง ผ่านไปได้ด้วยดีสองคนพ่อลูกจึงรีบกลับบ้าน จะได้ทานมื้อเที่ยงและพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปติดต่อนายช่างหาน เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านค้า“ท่านพ่อเจ้าคะวันนี้พักผ่อนให้มากหน่อยชดเชยก่อนหน้านี้ ที่ท่านต้องลำบากทำงานหาเงินตั้งหลายปี” ลู่ชิงสงสารคนในครอบครัวที่ต้องลำบาก ประคับประคองชีวิตมาจนถึงตอนนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆลู่ชิงเอ่ยเช่นนี้เพราะอยากให้ครอบครัว ได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ แม้ตอนนี้จะมีข้าวกินจนอิ่มท้องและมีน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ร่างกายทุกคนยังดูผอมกันอยู่ จึงต้องทานอาหารบำรุงดี ๆ รวมถึงการพักผ่อนเพื่อให้ภายในร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ลู่เวินเข้าใจความห่วงใยนี้ของลู่ชิง และมันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขา พยายามกันอยากมากกับการทำงานเลี้ยงชีพ เมื่อยามนี้พอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การพักฟื้นร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ “พ่อจะทำตามที่ชิงเอ๋อร์แนะนำเป็นอย่างดี รวมถึงท่านแม่และพี่ชายของเจ้าด้วยเช่นกัน”“ดีมากเจ้าค่ะ อิอิ”“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ เรื่องที่ไปหารือกับผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฟางซินกังวลว่าจะมีชาวบ้านที่ไม่เชื่อเรื่องอาชีพ“กา

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 13 ชาวบ้านยินดีแต่มีมนุษย์ป้าด้วยนะ

    ก๊อก ๆ ๆ “มีใครอยู่หรือไม่ ท่านอาหลิ่วขอรับข้าลู่เวินมีเรื่องมาหารือกับท่านขอรับ”ลู่เวินพาบุตรสาวมาถึงบ้านท่านอาหลิ่วอาน ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู“หืม อาเวินเองรึข้าก็นึกว่าผู้ใด เข้ามานั่งด้านในก่อนเถิดค่อยพูดคุยกัน”“ขอบคุณขอรับ”“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้วยหรือ ว่าแต่พวกเจ้ามีเรื่องอะไรถึงมาหาข้าในยามนี้เล่า”“ข้ากับบุตรสาวมีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน ถ้าครอบครัวข้าอยากจะหาอาชีพเสริม มาให้ชาวบ้านทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม ท่านอาหลิ่วคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ” เมื่อเข้ามานั่งด้านในบ้านแล้วลู่เวินก็พูดขึ้นทันที“อาชีพเสริมเช่นนั้นรึ ถ้ามันช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มข้าย่อมสนับสนุน หมู่บ้านของเราใช่ว่าจะมีฐานะร่ำรวย ยามเกิดภัยแล้งภัยหนาวล้วนลำบากทั้งนั้น กว่าทางการจะให้การช่วยเหลือ ผู้คนก็ล้มป่วยหรือตายจากญาติพี่น้องก็มี พวกเจ้าลองอธิบายให้ข้าฟังสักหน่อย หากเป็นงานที่ไม่ยากเกินไป ข้าจะได้เรียกทุกคนมาประชุมหารือร่วมกันทันที”เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ย่อมไม่อยากเห็นลูกบ้านของตนอยู่อย่างยากลำบากเกินไป เมื่อมีลู่ทางหาเงินเขาจะไม่สนับสนุนได้เช่นไร“เรื่องนี้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 12 พี่ชายและสหายของเขา

    ด้านฟางซินและบุตรชายทั้งสอง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่จนเรียบร้อย ทั้งสองคนจึงบอกกับมารดาว่าจะไปพบสหาย เพื่อพูดคุยเรื่องอาชีพเสริมที่น้องสาวคิดขึ้นมา นางอนุญาตให้พวกเขาไปหาสหายได้ ส่วนตนเองนั้นจะอยู่รอสามีกับบุตรสาวอยู่ตรงหน้าบ้านเอง“ท่านแม่ท่านพักผ่อนอยู่ที่บ้าน รอท่านพ่อกับน้องเล็กไปก่อน ข้ากับน้องรองจะไปพบสหายเสียหน่อย เพื่อคุยเรื่องอาชีพเสริมของน้องเล็กขอรับ”“ใช่แล้วท่านแม่ พวกเราสองคนไปไม่นานจะรีบกลับมาขอรับ”“พวกเจ้าไปเถอะแม่อยู่คนเดียวได้ อีกสักพักพ่อกับน้องสาวพวกเจ้าก็คงจะกลับมาแล้วล่ะ”ลู่เวินบังคับเกวียนเข้าประตูบ้าน ภายหลังจากที่บุตรชายออกไปไม่ถึงหนึ่งจิบชา พอฟางซินเห็นสามีกับบุตรสาวกลับมาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่า สามีไปเอาเกวียนมาจากที่ใดเพราะราคาน่าจะหลายตำลึง ทั้งยังเป็นเกวียนวัวที่มีหลังคาอีกด้วย“ท่านพี่นี่ท่านไปเอาเกวียนวัวจากที่ใดมาเจ้าคะ” ฟางซินเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นเขาบังคับเกวียนเล่มใหญ่เข้ามา“อ้อ เกวียนวัวเล่มนี้เป็นของครอบครัวของเรา เพราะต้องใช้มันขนของเพื่อไปพักในตำบลชั่วคราว หลังจากนี้พวกเราจะสร้างบ้านหลังใหม่แทนหลังเดิม” ลู่เวินอธิบายให้ภรรยาข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status