Home / รักโบราณ / ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย / ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

Share

ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

last update Last Updated: 2025-01-15 02:45:28

เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกัน

เขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมาก

อาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคน

ได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน

“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน

“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเอ่ยถามเพราะถูกเรียกมาห่างจากรถม้าพอสมควร

“หรือว่ามีใครแอบสะกดตามพวกเรามาหรือขอรับซื่อจื่อ” ชุนชานเองก็แปลกใจเช่นกันถึงกับมองไปรอบ ๆ อย่างสงสัย

“ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาตรงนี้ เพราะสิ่งที่จะให้รับรู้พวกเจ้าต้องเก็บเป็นความลับ เป็นตายอย่างไรก็ห้ามบอกใครเด็ดขาด พวกเจ้าทำได้หรือไม่” เขารู้ว่าสองคนนี้ไม่มีวันทรยศแต่ย้ำเอาไว้หน่อยก็ดี

“พวกเรารับปากว่าจะเก็บเป็นความลับ จะไม่พูดออกมาหากไม่มีคำสั่งจากซื่อจื่อขอรับ” พวกเขาได้รับการดูแลสั่งสอนมาอย่างดี ในจวนชินอ๋องไม่มีทางที่จะทรยศหักหลังเจ้านายเด็ดขาด

“ดีมาก พวกเจ้าดื่มน้ำสมุนไพรนี้เข้าไป จากนั้นนั่งลงทำสมาธิรวบรวมลมปราณ แล้วจะได้รู้ว่าทำไมข้าถึงบอกให้เก็บเป็นความลับ” เซียวหนิงหลงยื่นถุงน้ำสมุนไพรไปตรงหน้าทั้งสองคน

ตันเจียงรับมาดื่มก่อนแล้วตามด้วยชุนชาน พอทั้งสองได้ดื่มน้ำสมุนไพร ก็สัมผัสความแปรปรวนของลมปราณได้ จึงหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจระคนสงสัย เกี่ยวกับน้ำสมุนไพรนี้ แต่พวกเขาต้องทำตามที่เจ้านายบอกเสียก่อน เพื่อให้พลังยุทธ์ได้บรรลุขั้นเสียที

“พวกเจ้าอย่าเพิ่งถามอะไร รีบนั่งลงรวบรวมลมปราณให้นิ่งก่อนเถิด” เซียวหนิงหลงคิดว่าเมื่อกลับไปถึงเมืองหลวง จะแบ่งน้ำสมุนไพรให้เจียวมิ่งและองครักษ์อีกสองสามคน ก่อนจะส่งพวกเขาไปอยู่ข้างกายชิงเอ๋อร์ เพื่อปกป้องดูแลนางแทนเขาไปพลาง ๆ ก่อน

“ซื่อจื่อขอรับ!! นี่มันคือน้ำวิเศษอันใดกัน ข้ารู้สึกว่าลมปราณหนาแน่นขึ้นและร่างกายก็โล่งเบาสบาย อาการล้าก่อนหน้านี้ก็หายไปด้วยขอรับ” ตันเจียงตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเขาพยายามฝึกฝนวรยุทธ์ เพื่อบรรลุขั้นที่เขาติดขัดอยู่มาเป็นปี แต่กลับบรรลุขั้นได้เพราะน้ำสมุนไพร

“ข้าเองก็เช่นกันขอรับซื่อจื่อ น้ำสมุนไพรนั่นมาจากไหนหรือขอรับ ถ้าหน่วยองครักษ์ของเราได้ดื่ม ทุกคนคงจะแข็งแกร่งขึ้นมากเป็นแน่” แม้ว่าหน่วยองครักษ์ของชินอ๋องจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่หากบรรลุขั้นวรยุทธ์เพิ่มขึ้น ย่อมทำงานได้สำเร็จอย่างง่ายดายแน่นอน

“เอาไว้กลับไปถึงเมืองหลวงแล้ว ข้าจะบอกให้พวกเจ้าฟังพร้อมกับเสด็จพ่อ ในเมื่อมันมีประโยชน์มากมายเช่นนี้ ต้องหารือเพื่อวางแผนให้รัดกุม เพื่อปกป้องเจ้าของน้ำสมุนไพร ตอนนี้พวกเรารีบออกเดินทางกันต่อเถิด” เขายังไม่ต้องการพูดที่มาของน้ำสมุนไพรในตอนนี้ ค่อยบอกทีเดียวตอนได้พบเสด็จพ่อจะเป็นการดีกว่า

“ขอรับ/ขอรับ”

จวนชินอ๋องเซียวหนิงเฉิง ณ เมืองหลวงแคว้นฉู่

เซียวชินอ๋องเป็นพระอนุชาร่วมอุทรกับองค์ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ทั้งยังรั้งตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของแคว้น ควบคุมกำลังทหารมากถึงสามแสนนาย ด้วยความเก่งกาจด้านการต่อสู้ ราษฎรแคว้นฉู่จึงตั้งสมญานามให้ว่า ‘เทพสงครามไร้พ่าย’

เซียวชินอ๋องนำทัพทหารออกรบ ไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับแคว้นศัตรู เมื่อครั้งพระองค์อายุยี่สิบเอ็ดปี สามารถนำกำลังไปปราบปราม พวกเผ่านอกด่านทิศประจิมได้สำเร็จ จึงได้ทูลขอสมรสพระราชทาน กับคุณหนูไป๋เลี่ยงเฟิ่งบุตรสาวท่านราชครูไป๋ และไม่ขอรับพระชายารองหรืออนุภรรยาเข้าจวน

ขุนนางบางคนไม่เชื่อว่าท่านอ๋องจะไม่รับอนุ พวกเขาพยายามส่งบุตรหลานเข้าจวนอ๋อง แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือบุตรหลานของพวกเขา ต่างได้รับสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ ออกเรือนไปกับทหารชั้นปลายแถวบ้าง หรือไม่ก็บุตรหลานของพ่อค้าบ้าง

จนเรื่องนี้เงียบหายไปนานหลายปี ไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้นอีก เซียวชินอ๋องมีบุตรธิดาสองคน คือซื่อจื่อเซียวหนิงหลงและท่านหญิงเซียวเยว่เล่อ แม้จะมีบุตรแล้วแต่ความคลั่งรักของเซียวชินอ๋อง ที่มีต่อพระชายายังคงเสมอต้นเสมอปลาย มาตลอดจนถึงปัจจุบัน

ยามนี้เซียวชินอ๋องกำลังนั่งหยอกล้อพระชายาคนงาม อยู่ในศาลากลางสวนดอกไม้ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก หากคนภายนอกได้เห็นคงจะอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้โดยเฉพาะคนที่ยังไม่มีคู่เช่นเจียวมิ่ง ที่เดินมาถึงบริเวณสวนดอกไม้ได้สักพัก เห็นภาพตรงหน้าก็ไม่อยากจะเข้าไปขัดความสำราญของเจ้านาย แต่ยังไงก็ต้องเข้าไปรายงานเรื่องสำคัญ ที่ตันเจียงได้ส่งจดหมายมาถึงเขาเมื่อเช้านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะอิจฉาตาร้อนเพียงใดก็ต้องอดทน

“ถวายบังคมท่านอ๋อง พระชายาพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอบังอาจขัดความสำราญสักประเดี๋ยวเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เจียวมิ่งยืนทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจเดินเข้ามาในศาลานี้ได้

“หือ เจ้ามีเรื่องอันใดต้องการรายงานเปิ่นหวางงั้นหรือเจียวมิ่ง” ท่านอ๋องหันมาถามเจียวมิ่ง ที่เข้ามาด้วยท่าทางลำบากใจเล็กน้อย

“กระหม่อมมีข่าวมารายงาน เนื่องจากเมื่อเช้าได้รับจดหมายจากตันเจียงพ่ะย่ะค่ะ ในจดหมายแจ้งว่าตอนนี้ซื่อจื่อ ได้จับตัวสายลับแคว้นตงหนานได้แล้ว และกำลังนำตัวเดินทางกลับมาเมืองหลวง เพื่อให้ท่านอ๋องทำการไต่สวนพ่ะย่ะค่ะ” เจียวมิ่งไม่รอช้ารีบรายงานเรื่องในจดหมายให้ท่านอ๋องได้ทราบอย่างรวดเร็ว

“แสดงว่าข่าวที่ได้รับมาเป็นความจริงสินะ คนในแคว้นที่ให้ความช่วยเหลือพวกมัน คงจะตำแหน่งใหญ่โตไม่น้อย ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่” เขาเองก็พอคาดการณ์เอาไว้บางส่วน และสั่งให้รองแม่ทัพเย่จัดเตรียมกำลังทหารให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา

“เอ่อ ยังมีอีกเรื่องที่ต้องรายงานให้ท่านอ๋อง และพระชายาได้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ” เรื่องนี้ต้องขยายเพราะทุกคนรู้ดีว่าซื่อจื่อเป็นคนเช่นไร

“มีเรื่องอันใดเพิ่มเติมจากหลงเอ๋อร์หรือเจียวมิ่ง เจ้ารีบพูดมาเถิดอย่าได้ชักช้าอยู่เลย” พระชายาไป๋พอได้ยินว่ามีเรื่องเกี่ยวกับบุตรชายก็อยากรู้ขึ้นมาบ้าง

“พ่ะย่ะค่ะ ตันเจียงเล่ามาในจดหมายว่า ซื่อจื่อถูกตาต้องใจคุณหนูผู้หนึ่งที่ตำบลหย่งฝู เพียงแต่ว่าอายุของนางกำลังย่างเข้าสิบสามหนาวเท่านั้น ที่สำคัญซื่อจื่อมีคำสั่งให้กระหม่อม เตรียมตัวเดินทางไปยังตำบลหย่งฝู หลังจากที่ซื่อจือกลับมาถึงเมืองหลวงเพื่อไปดูแลคุณหนูผู้นั้นพ่ะย่ะค่ะ” นี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเขาเช่นกัน เพราะซื่อจื่อไม่เคยชายตามองสตรีคนไหนเลย

“หลงเอ๋อร์น่ะหรือถูกตาต้องใจสตรี! และยังเป็นเด็กสาวที่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่นเสียด้วย บุตรชายหน้านิ่งของเปิ่นหวางเฟย ตกหลุมรักสตรีเหมือนคนอื่นแล้วหรือนี่” พระชายาไป๋เองยังไม่อยากเชื่อว่า บุตรชายของตนจะหัวใจเต้นแรงกับสตรีใดได้

“ในที่สุดบุตรชายของเปิ่นหวาง ก็มีความรู้สึกกับเขาบ้างแล้วสินะ ทำตัวเป็นนักบวชมาตั้งนาน แต่มาตกม้าตายเพราะเด็กสาวคนหนึ่ง ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ท่านอ๋องยังกลัวว่าบุตรชาย จะไม่ยอมหาลูกสะใภ้ให้เสียแล้ว

“ตันเจียงได้บอกอีกหรือไม่ว่านางชื่อแซ่อันใด ครอบครัวของนางมีกี่คนเป็นคนดีหรือไม่ เจ้ารีบบอกมาเร็วเข้าเจียวมิ่ง” พระชายาตื่นเต้นจนถามออกมาเป็นการใหญ่

“น้องหญิงใจเย็น ๆ เราปล่อยให้เจียวมิ่งค่อย ๆ เล่าให้ฟังดีไหม” ท่านอ๋องเห็นท่าทางของพระชายาแล้ว ก็ต้องรีบเข้าไปห้ามนางเอาไว้ก่อน เล่นถามออกมาเป็นชุดเช่นนี้ เจียวมิ่งไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี

“ทูลพระชายา ครอบครัวของคุณหนูผู้นี้มีกันอยู่ห้าคนพ่ะย่ะค่ะ หัวหน้าครอบครัวชื่อว่าสวีลู่เวิน ภรรยาเฟยฟางซิน ส่วนบุตรชายคนโตสวีลู่จื้อ บุตรชายคนรองสวีลู่เสียน และบุตรสาวคนเล็กสวีลู่ชิงพ่ะย่ะค่ะ

เดิมทีบิดาของคุณหนูลู่ชิงเป็นบุตรชายคนรองของนายท่านอู๋ เจ้าของกิจการผ้าไหมรายใหญ่ของเมืองหลวง ด้วยความฉลาดด้านการค้าทำให้คุณชายใหญ่อิจฉา จึงสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้าย จนถูกนายท่านอู๋ตัดชื่อพวกเขาออกจากผังตระกูล และขับไล่ออกจากจวน ครอบครัวนี้จึงเดินทางกลับบ้านเดิมของมารดาคุณชายลู่เวิน ที่อยู่ในตำบลหย่งฝู จากนั้นได้ทำการเปลี่ยนไปใช้แซ่สวีจนถึงตอนนี้พ่ะย่ะค่ะ” เจียวมิ่งหยุดหายใจครู่หนึ่ง

“แล้วซื่อจื่อของพวกเจ้า ไปพบเจอเด็กสาวได้อย่างไรเล่า” ท่านอ๋องถามอย่างสนใจ

“ตันเจียงบอกมาว่า เช้าวันที่ไปถึงตำบลหย่งฝู ซื่อจื่อนั่งพักในร้านน้ำชา อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแผงขายของในตลาด ซึ่งคุณหนูลู่ชิงและครอบครัว ได้เปิดแผงขายอาหารอยู่ตรงนั้นพอดี ซื่อจื่อได้เห็นรอยยิ้มของคุณหนูก็เอาแต่จ้องมองตาไม่กระพริบ และยังให้ตันเจียงไปเหมาซื้ออาหาร ที่แผงของนางมาทานเองเพียงเล็กน้อย ส่วนที่เหลือซื่อจื่อได้แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ที่มาต่อแถวรอซื้ออาหารทุกคนพ่ะย่ะค่ะ” แค่เห็นรอยยิ้มก็จ่ายเงินเหมาอาหารไปหลายตำลึงแล้ว เจ้านายของข้า ร้อยวันพันปีแม้แต่จะชายตาแลสตรี ก็ยังไม่เคยเห็นแล้วยามนี้คืออะไร

“น่าสนใจจริง ๆ เปิ่นหวางเฟยชักอยากจะเห็นตัวจริงของนางเสียแล้วสิ คนที่ทำให้บุตรชายหน้านิ่งเคร่งขรึมคนนี้ ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นได้ เสด็จพี่เห็นด้วยหรือไม่เพคะ” พระชายาไป๋อยากจะเจอลู่ชิงจริง ๆ รอหลงเอ๋อร์กลับมา คงต้องซักถามเรื่องราวกันเสียหน่อยแล้ว

“ยังมีเรื่องที่ซื่อจื่อจะให้กระหม่อม เดินทางไปดูแลคุณหนูลู่ชิง เพราะว่าคุณหนูใกล้จะเปิดร้านขายอาหารเป็นของตัวเองแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงร้านค้าพ่ะย่ะค่ะ” เขาอยากจะไปเร็ว ๆ แล้ว เพราะพวกตันเจียงกับชุนชานบอกว่า คุณหนูลู่ชิงทำอาหารอร่อยมาก

“เจ้าก็ทำตามที่อาหลงสั่งเตรียมตัวไว้ให้พร้อม หลังจากอาหลงกลับมาถึงเมืองหลวงสองสามวัน เจ้าค่อยออกเดินทางไปที่นั่นก็แล้วกัน” ถึงกับส่งองครักษ์ไปดูแลส่วนตัว แสดงว่าว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาอย่างไรก็ต้องเป็นเด็กสาวคนนี้สินะ

“มีอีกเรื่องที่เกี่ยวกับท่านหญิงเยว่เล่อพ่ะย่ะค่ะ ซื่อจื่อสั่งให้เพิ่มองครักษ์ติดตามท่านหญิง เพราะเมื่อสองเดือนก่อนตระกูลอู๋ เพิ่งจะส่งแม่สื่อมาทาบทามท่านหญิง แต่ถูกท่านอ๋องปฏิเสธไป ซื่อจื่อเกรงว่าคนตระกูลอู๋จะใช้วิธีสกปรกกับท่านหญิง เพื่อให้ได้เกี่ยวดองกับท่านอ๋อง จากนั้นกิจการของตระกูลอู๋ คงจะกลับมาค้าขายได้เช่นเดิมพ่ะย่ะค่ะ” เกือบลืมเรื่องนี้ไปเสีย แล้วมัวแต่พูดถึงเรื่องคุณหนูลู่ชิง และเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ว่านางทำอาหารได้อร่อยมากนั่นอีก

“คนพวกนี้หวังจะพึ่งอำนาจของเปิ่นหวาง ไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองกันสินะ เจ้าจัดการตามคำสั่งของอาหลงอย่างเคร่งครัด ส่วนเรื่องตระกูลอู๋ค่อยให้อาหลง ไปจัดการด้วยตัวเองก็แล้วกัน” บุตรชายของตนคงอยากจะเอาคืนให้นางในดวงใจด้วยตนเองมากกว่า

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ” เจียวมิ่งรับคำแล้วก็รีบออกจากศาลาไปทันที เพราะเหม็นความรักของเจ้านายจนทนไม่ไหวแล้ว

ตระกูลอู๋ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย แต่ไม่รู้ตัวว่าตระกูลของตนกำลังมีมือมืด ย่างกลายเข้ามาหยิบยื่นความลำบากให้กับตระกูล ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้แล้ว

Related chapters

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 1 เกิดใหม่อีกครั้ง

    บนที่นอนเก่า ๆ มีร่างของเด็กสาวอายุสิบสองหนาวที่นอนป่วยติดต่อกันมาห้าวันแล้วกำลังขยับตัว ร่างผอมบางแทบจะปลิวหากถูกลมแรง ๆ พัดมา จนลืมตาขึ้นมาได้ก็รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด เมื่อปรับสายตาได้จึงมองสำรวจรอบ ๆ ก็แปลกใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เข็มขาวจำได้ว่าเธอถูกรถชนอย่างแรง และตายไปแล้วแต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังใส่ชุดเหมือนคนจีนโบราณเมื่อนั่งทบทวนเรื่องราวอยู่จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างแรงและมีความทรงจำของร่างนี้ มันกำลังหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอจนต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่เกือบหนึ่งเค่อ อาการปวดหัวเหล่านั้นจึงเริ่มดีขึ้น เธอเรียบเรียงความทรงจำของร่างนี้ ก็พบว่าร่างที่เธอเข้ามาอยู่นั้นมีชื่อว่าสวีลู่ชิงอายุสิบสองหนาว ท่านพ่อของนางถูกท่านปู่แท้ ๆ ไล่ออกจากตระกูล เพราะมีคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายว่า ท่านพ่อทำบัญชีปลอมเพื่อโกงเงินร้านค้าผ้าเมื่อมีหลักฐานชี้ชัดก็ไม่อาจก้ตัวอะไรได้ ท่านพ่อจึงพาทุกคนเดินทางมาบ้านเดิมของท่านย่าที่หมู่บ้านอันผิง ยามออกจากจวนพวกเขาไม่อาจหยิบของมีค่าติดตัวมาได้ โชคดีที่ท่านแม่แอบนำตั๋วเงิน มาเย็บไว้ในเสื้อผ้าของลู่ชิงจึงพอมีเงินจ่ายค่าเดินทาง จากพ่

    Last Updated : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 2 ได้มิติมาแบบไม่คาดฝัน

    ลู่ชิงนอนหลับสนิทอยู่สักพัก แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงใครบางคน ที่พยายามเรียกตนเองให้ตื่น ทั้งที่กำลังนอนหลับสบาย จากอาการป่วยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงมานาน เมื่อทนการรบเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ลืมตาตื่นมองไปรอบ ๆ ที่ยามนี้ไม่ใช่เตียงนอนเก่า ๆ อีกแล้ว แต่เป็นสถานที่หนึ่งกับชายชราผมขาว ที่ยืนถือไม้เท้าลักษณะแปลก ๆ มองมาที่ลู่ชิงอย่างเหนื่อยใจ“นางหนู ๆ ๆ ตื่นได้แล้วกระมัง จะนอนกินบ้านกินเมืองหรืออย่างไร โลกโน้นทำเจ้าอดหลับอดนอน พอข้ามมายังโลกนี้ก็ยังต้องมาเหนื่อยอีกงั้นรึ” ชายแก่ผมขาวในมือยังถือไม้เท้า พยายามปลุกร่างบางที่ยังนอนหลับอยู่“อืม ขอนอนต่ออีกสักหน่อยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นางไม่ได้อยู่บนเตียงนอนในบ้านของตนเอง“ถ้าเจ้ายังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียทีละก็ ข้าจะไม่ให้ของดีกับเจ้านะนางหนู” ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้ที่จะปลุกนาง“พรึ่บ!! หือ! ที่นี่คือที่ไหน ไม่ใช่ห้องนอนในบ้านนี่ แล้วเมื่อกี้เสียงใครปลุกข้าให้ตื่นกันล่ะ” ข้ารู้สึกแปลกใจที่มีคนมาปลุก และพูดว่าจะให้ของดีอีกพอหันไปด้านหลัง ก็เจอกับชายแก่ผมขาวที่ดูใจดีคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ“ท่านตาเป็นใครหรือเจ้าคะ แล้วที่นี่คือที่ไหน หรือว่าข้า

    Last Updated : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 3 สำรวจมิติ

    เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่

    Last Updated : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 4 พักผ่อนหารือเรื่องอาชีพ

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร เช้านี้ลู่ชิงอาสาเป็นคนปรุงอาหารเอง โดยนางจะทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนได้ทาน ขณะที่กำลังเตรียมของอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนางฟางซินตื่นมาก็เห็นบุตรสาว กำลังเตรียมวัตถุดิบทำมื้อเช้าอยู่ เมื่อนางได้พูดคุยกับสามี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชิงเอ๋อร์ คงเป็นลิขิตของสวรรค์นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จะให้ขับไล่นางออกไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์เองแต่เป็นท่านเทพที่พานางมา เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือแทนชิงเอ๋อร์ของนางต่างหาก ฟางซินจึงคิดว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไปต่อจากนี้ก็แล้วกัน“ทำไมถึงได้ตื่นมาแต่เช้าเช่นนี้เล่า นี่กำลังเตรียมทำมื้อเช้าอยู่หรือ มีอะไรให้ช่วยไหม”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกันมื้อเช้านี้จะลงมือปรุงเอง ท่านแม่คอยเป็นผู้ช่วยให้ข้า

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 5 ชิมอาหารก่อนทำขาย

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไปร้านเครื่องประดับ เพื่อเอากำไลข้อมือหยกที่ไม่ใช่หยกเนื้อดีมากนักหนึ่งวง สร้อยคอเงินพร้อมจี้หยกลายหยดน้ำหนึ่งเส้น และต่างหูไข่มุกหนึ่งคู่ออกมาขาย เถ้าแก่ร้านให้ราคาชิ้นละสามพันตำลึงเงิน ถึงจะไม่สวยมากแต่ขายได้ราคานี้ถือว่าสูงมากแล้วรวมแล้วตอนนี้มีเงินอยู่ทั้งหมด เก้าพันสิบสามตำลึงกับอีกสามร้อยเก้าสิบอีแปะ คงต้องแบ่งเงินไปซ่อมหลังคาบ้านสักหน่อย รอให้ทำการค้าไปสักระยะหนึ่ง ค่อยสร้างบ้านใหม่ที่แข็งแรงกว่านี้ หรือจะซื้อบ้านอยู่ในตำบลก็คงจะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางทุกคนจะได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสักหน่อยยามอู่วันนี้ลู่ชิงคิดว่าจะทำหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด ให้กับทุกคนได้ลองชิมดูก่อนที่จะทำไปขาย ซึ่งลู่ชิงได้นำเนื้อทั้งสามอย่างออกมาจากมิติ และเตรียมหมักก่อนนำไปทอด เริ่มจากทำการหมัก

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 6 ขายอาหารวันแรก

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้าพอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนา

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 7 ชาบูชาใจฉลองกันหน่อย

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเงินที่ได้จากการขายของวันแรกพร้อมกัน“ท่านพ่อท่านแม่ พวกเรามานับเงินกันเจ้าค่ะว่าจะได้เท่าไหร่” ลู่ชิงอยากรู้ว่ารายได้ของวันนี้เป็นอย่างไร“ได้สิลูก พวกเราช่วยกันนับแยกเป็นกอง ๆ ไว้ จะได้รู้ว่ายอดรวมทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่” ลู่เวินเองก็อยากรู้เช่นกันเพราะท่านพ่อเป็นพ่อค้า เรื่องคำนวณตัวเลขจึงสำคัญพวกเขาสามพี่น้องล้วนได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยมีท่านพ่อเป็นคนสอน ทุกคนจดจ้องอยู่กับการนับเงิน ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว“เอาล่ะ เจ้าใหญ่ลองนับยอดรวมทั้งหมดดูสิว่ามีเท่าไหร่” ลู่เวินให้บุตรชายคนโตอย่างลู่จื้อนับจำนวนเงินทั้งหมดอีกครั้ง“ขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก... ท่านพ่อ!! รายได้ทั้งหมดวันนี้ มีถึงหกตำลึงเงินกับอีกหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าอีแปะขอรับ” ลู่จื้อนับเสร็จก็บอกจำนวนที่นับได้ทันที

    Last Updated : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 8 อาหารทอดขายดีเกินต้าน

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้าคุ้น ๆ ที่ยืนรออยู่ก็รีบสั่งทันที“แม่นางน้อย ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้นอย่างละสองห่อ และน่องไก่หนึ่งห่อนะ ข้าจะเอาไปฝากเมียกับลูกที่บ้านด้วย”“ได้เจ้าค่ะข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” ลู่ชิงไม่รอช้ารีบห่อข้าวให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว ท่านแม่ก็ช่วยนางห่อเช่นกัน“แม่หนู ป้าก็เอาทุกอย่างเลยนะขออย่างละสองห่อเหมือนกัน”“เจ้าค่ะ ท่านป้ารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ลูกค้าท่านอื่น ๆ ต่อแถวกันด้วยเจ้าค่ะ รับรองได้กินของอร่อยทุกคนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าคนต่อไป และแจ้งคนอื่นเพื่อความเป็นระเบียบ“นี่ของท่านอาเจ้าค่ะ ทั้งหมดห้าสิบห้าอีแปะ รบกวนท่านอาจ่ายเงินให้ท่านแม่ของข้าได้เลยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงให้มารดาเป็นคนรับเงินจากลูกค้าแทน เพราะนางทั้งพูดทั้งห่อข้าวไปด้วย เกรงว่าจะไม่ได้ตรวจให้ถี่ถ้วนลูกค้ามาเข้าแ

    Last Updated : 2025-01-13

Latest chapter

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 18 พบเจอหน้ากันครั้งแรก

    ลู่ชิงเห็นพ่อบ้านชิมอาหารด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงหันไปหาพี่ชายอย่างลู่เสียนเพื่อขอให้พี่ชายมาช่วยห่อข้าว นางจะคุยเรื่องราคาอาหาร และต้องการให้ทางพ่อบ้านส่งคนมารับอาหารที่นี่แทน หากจะให้นำอาหารไปส่งที่เมืองหย่งจินคงจะขาดคนทำงานเป็นแน่“ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ อาหารที่ท่านสั่งข้าคิดราคาแตกต่างกันสักหน่อย อย่างข้าวผัดหมูและผัดกะเพรา ข้าจะทำใส่หม้อใบใหญ่อย่างที่ท่านเห็น ราคาจะอยู่ที่หม้อละห้าสิบตำลึงเงิน ส่วนหมูทอดไก่ทอดจะใช้วัตถุดิบอย่างละยี่สิบจิน รวมสามอย่างก็หกสิบจินคิดราคาสิบห้าตำลึงเงิน รวมทั้งหมดคือหนึ่งร้อยสี่สิบห้าตำลึงเงิน ท่านพ่อบ้านคิดว่าราคานี้เป็นอย่างไรเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ได้เอากำไรมากมาย เพราะราคาที่บอกไปมันเป็นกำไรล้วน ๆ ต่างหาก“อืม ราคาที่เจ้าพูดมาก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป แค่เนื้อก็ราคาสูงกว่าอย่างอื่นอยู่แล้ว ข้าตกลงสั่งอาหารกับเจ้าในราคาที่เจ้าเสนอมา” พ่อบ้านคำนวณแล้วถือว่าราคาถูกกว่า ไปสั่งอาหารที่เหลาอาหารในเมืองเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของรสชาติอาหาร ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นเช้าวันงานรบกวนท่านพ่อบ้าน ให้คนมารับอาหารที่แผงขายของนี้ ทางเราจะมีของแถมเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 17 คำสั่งซื้ออาหารไปจัดงานเลี้ยง

    เซียวหนิงหลงสั่งการเรื่องนี้กับตันเจียง เพื่อจะได้ให้เจียวมิ่งเตรียมตัวให้พร้อม ว่าจะต้องมาทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไรที่ตำบลหย่งฝูแห่งนี้“ขอรับ ข้าน้อยจะส่งจดหมายถึงเจียวมิ่ง ให้เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง” ตันเจียงแอบคิดในใจว่า เขาจะเขียนเรื่องคุณหนูลู่ชิงไปด้วยนิดหน่อย ให้เจียวมิ่งเอาไปเล่าให้ท่านอ๋องกับพระชายาฟัง คงจะตกใจจนคาดไม่ถึงเป็นแน่“พวกเจ้าเตรียมตัวไว้ให้พร้อมคืนนี้เข้ายามจื่อ พวกเราจะเริ่มลงมือเพื่อสะกดรอยตามคนพวกนั้น” เขาจะต้องติดตามและจับเป็นสายลับกลับเมืองหลวงให้ได้ หากชักช้าย่อมไม่เป็นผลดีกับชาวบ้านแถบชายแดน ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง ว่าจะเกิดสงครามขึ้นมายามใดนายช่างหานที่เดินสำรวจ และวัดพื้นที่ทั้งหมดของบ้านตระกูลสวี ก็แจ้งกับลู่เวินว่าต้องใช้เวลาในการสร้างบ้าน และสร้างกำแพงรอบบ้านนั้นประมาณสามเดือน เขาคิดราคารวมทั้งหมดแล้ว เป็นเงินห้าร้อยเจ็ดสิบตำลึงทองเพราะต้องใช้วัสดุอย่างดี และค่าจ้างคนงานที่ต้องจ้างมาเพิ่ม เมื่อตกลงและทำสัญญาเรียบร้อย นายช่างหานก็ได้ลิ้มลองอาหารรสชาติอร่อยที่เขาไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ถึงกับเอ่ยปากชมลู่ชิงไม่หยุด แม้กระทั่งตอนจะกลับยังบอกอีกว่า

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 16 ประวัติของนางที่เขาได้รู้

    ลู่เวินที่พานายช่างหานมาถึงบ้านก็ไม่รอช้า พวกเขาเดินไปดูพื้นที่รอบ ๆ บ้าน เพื่อทำการวัดขนาดความกว้างความยาวของที่ดินทั้งหมด ลู่ชิงยังบอกให้นายช่างหานทำกำแพงบ้านสูงหนึ่งจั้งเสียก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านโดยบ้านที่ลู่ชิงจะให้สร้างตามแบบ เป็นบ้านสองชั้นต้องใช้ก้อนอิฐในการสร้างเท่านั้น ชั้นบนมีสี่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นล่างหนึ่งห้องนอนมีห้องน้ำเช่นกัน และมันเป็นห้องของลู่ชิงเอง ส่วนห้องน้ำอีกห้องเอาไว้สำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านนายช่างหานก็รับปากจะทำอย่างเต็มที่ และที่สำคัญเขาอยากเห็นบ้านหลังนี้ หลังจากสร้างเสร็จตามแบบที่ได้รับมาเร็ว ๆ เสียเหลือเกินตอนนี้หมดหน้าที่ของลู่ชิงตรงนี้แล้ว นางจึงขอตัวไปเข้าครัวเพื่อเตรียมข้าวมื้อเที่ยงสำหรับทุกคนลู่ชิงเข้ามาในบ้านก็เอ่ยชวนมารดาเข้าครัวด้วยกันทันที “ท่านแม่เจ้าคะ พวกเราเข้าครัวเตรียมทำอาหารมื้อเที่ยง รอท่านพ่อกับนายช่างหานกันเถิดเจ้าค่ะ”“ชิงเอ๋อร์จะให้แม่ทำตรงส่วนไหนบ้าง บอกมาได้เลยลูกแม่จะจำวิธีการทำไว้ เผื่ออยากกินอีกจะได้ลงมือทำเอง” ฟางซินชอบดูวิธีการทำอาหารของบุตรสาวมาก“ได้สิเจ้าคะ เช่นนั้นรบกวนท่านแม่ล้างพวกผักต่าง ๆ ที่ต้องใส่ในอาห

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 15 ได้ช่างปรับปรุงร้านค้า

    ทางครอบครัวลู่ชิงช่วยกันแจกอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็เก็บของขึ้นเกวียนก่อนจะฝากไว้ กับคนที่รับฝากเกวียนใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะพวกเขาจะไปบ้านของนายช่างหาน เพื่อติดต่อให้ไปปรับปรุงร้านค้า รวมถึงสร้างบ้านใหม่ที่หมู่บ้านอันผิงด้วย“น้องชายท่านนี้ไม่ทราบว่า นายช่างหานอยู่หรือไม่ พอดีว่าข้าจะมาติดต่อให้เขาไปปรับปรุงร้านค้าและสร้างบ้านน่ะ” ลู่เวินถามกับคนงาน ที่กำลังเตรียมของอยู่ในลานบ้านของนายช่างหาน“หืม พวกท่านมาติดต่องานหรือขอรับ นายช่างหานอยู่ด้านใน พวกท่านเดินเข้าไปไม่ไกลก็เจอแล้วขอรับ” เขาตอบกลับไปด้วยถ้อยคำที่สุภาพ“ขอบใจมากนะน้องชาย”“ยินดีขอรับ” มีลูกค้ามาก็ต้องต้อนรับดี ๆ หน่อยลู่เวินพาทุกคนเดินเลยลานบ้านเข้ามา ก็ได้เจอนายช่างหานที่กำลังสั่งงานลูกน้องอยู่พอดี จึงเข้าไปทักทายอย่างสุภาพ“พี่ชายท่านนี้ไม่ทราบว่าใช่นายช่างหานหรือไม่ขอรับ ข้ามาติดต่อว่าจ้างไปปรับปรุงร้านค้ากับสร้างบ้านขอรับ” ลู่เวินเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ“อ้อ ข้านายช่างหานเอง เมื่อกี้เจ้าบอกว่าจะมาจ้างงานข้าเช่นนั้นหรือ” นายช่างหานหันมาตอบลู่เวินอย่างเป็นธรรมชาติ“ใช่ขอรับ พวกเราได้ยินหลายคนพูดกันว่า ท่านมีฝีมือในการสร้างบ้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 14 ฉากเปิดตัวพระเอกหรือเปล่านะ?

    เมื่อการประชุมเรื่องอาชีพเสริมของชาวบ้านอันผิง ผ่านไปได้ด้วยดีสองคนพ่อลูกจึงรีบกลับบ้าน จะได้ทานมื้อเที่ยงและพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปติดต่อนายช่างหาน เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านค้า“ท่านพ่อเจ้าคะวันนี้พักผ่อนให้มากหน่อยชดเชยก่อนหน้านี้ ที่ท่านต้องลำบากทำงานหาเงินตั้งหลายปี” ลู่ชิงสงสารคนในครอบครัวที่ต้องลำบาก ประคับประคองชีวิตมาจนถึงตอนนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆลู่ชิงเอ่ยเช่นนี้เพราะอยากให้ครอบครัว ได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ แม้ตอนนี้จะมีข้าวกินจนอิ่มท้องและมีน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ร่างกายทุกคนยังดูผอมกันอยู่ จึงต้องทานอาหารบำรุงดี ๆ รวมถึงการพักผ่อนเพื่อให้ภายในร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ลู่เวินเข้าใจความห่วงใยนี้ของลู่ชิง และมันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขา พยายามกันอยากมากกับการทำงานเลี้ยงชีพ เมื่อยามนี้พอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การพักฟื้นร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ “พ่อจะทำตามที่ชิงเอ๋อร์แนะนำเป็นอย่างดี รวมถึงท่านแม่และพี่ชายของเจ้าด้วยเช่นกัน”“ดีมากเจ้าค่ะ อิอิ”“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ เรื่องที่ไปหารือกับผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฟางซินกังวลว่าจะมีชาวบ้านที่ไม่เชื่อเรื่องอาชีพ“กา

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 13 ชาวบ้านยินดีแต่มีมนุษย์ป้าด้วยนะ

    ก๊อก ๆ ๆ “มีใครอยู่หรือไม่ ท่านอาหลิ่วขอรับข้าลู่เวินมีเรื่องมาหารือกับท่านขอรับ”ลู่เวินพาบุตรสาวมาถึงบ้านท่านอาหลิ่วอาน ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู“หืม อาเวินเองรึข้าก็นึกว่าผู้ใด เข้ามานั่งด้านในก่อนเถิดค่อยพูดคุยกัน”“ขอบคุณขอรับ”“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้วยหรือ ว่าแต่พวกเจ้ามีเรื่องอะไรถึงมาหาข้าในยามนี้เล่า”“ข้ากับบุตรสาวมีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน ถ้าครอบครัวข้าอยากจะหาอาชีพเสริม มาให้ชาวบ้านทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม ท่านอาหลิ่วคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ” เมื่อเข้ามานั่งด้านในบ้านแล้วลู่เวินก็พูดขึ้นทันที“อาชีพเสริมเช่นนั้นรึ ถ้ามันช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มข้าย่อมสนับสนุน หมู่บ้านของเราใช่ว่าจะมีฐานะร่ำรวย ยามเกิดภัยแล้งภัยหนาวล้วนลำบากทั้งนั้น กว่าทางการจะให้การช่วยเหลือ ผู้คนก็ล้มป่วยหรือตายจากญาติพี่น้องก็มี พวกเจ้าลองอธิบายให้ข้าฟังสักหน่อย หากเป็นงานที่ไม่ยากเกินไป ข้าจะได้เรียกทุกคนมาประชุมหารือร่วมกันทันที”เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ย่อมไม่อยากเห็นลูกบ้านของตนอยู่อย่างยากลำบากเกินไป เมื่อมีลู่ทางหาเงินเขาจะไม่สนับสนุนได้เช่นไร“เรื่องนี้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 12 พี่ชายและสหายของเขา

    ด้านฟางซินและบุตรชายทั้งสอง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่จนเรียบร้อย ทั้งสองคนจึงบอกกับมารดาว่าจะไปพบสหาย เพื่อพูดคุยเรื่องอาชีพเสริมที่น้องสาวคิดขึ้นมา นางอนุญาตให้พวกเขาไปหาสหายได้ ส่วนตนเองนั้นจะอยู่รอสามีกับบุตรสาวอยู่ตรงหน้าบ้านเอง“ท่านแม่ท่านพักผ่อนอยู่ที่บ้าน รอท่านพ่อกับน้องเล็กไปก่อน ข้ากับน้องรองจะไปพบสหายเสียหน่อย เพื่อคุยเรื่องอาชีพเสริมของน้องเล็กขอรับ”“ใช่แล้วท่านแม่ พวกเราสองคนไปไม่นานจะรีบกลับมาขอรับ”“พวกเจ้าไปเถอะแม่อยู่คนเดียวได้ อีกสักพักพ่อกับน้องสาวพวกเจ้าก็คงจะกลับมาแล้วล่ะ”ลู่เวินบังคับเกวียนเข้าประตูบ้าน ภายหลังจากที่บุตรชายออกไปไม่ถึงหนึ่งจิบชา พอฟางซินเห็นสามีกับบุตรสาวกลับมาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่า สามีไปเอาเกวียนมาจากที่ใดเพราะราคาน่าจะหลายตำลึง ทั้งยังเป็นเกวียนวัวที่มีหลังคาอีกด้วย“ท่านพี่นี่ท่านไปเอาเกวียนวัวจากที่ใดมาเจ้าคะ” ฟางซินเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นเขาบังคับเกวียนเล่มใหญ่เข้ามา“อ้อ เกวียนวัวเล่มนี้เป็นของครอบครัวของเรา เพราะต้องใช้มันขนของเพื่อไปพักในตำบลชั่วคราว หลังจากนี้พวกเราจะสร้างบ้านหลังใหม่แทนหลังเดิม” ลู่เวินอธิบายให้ภรรยาข

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status